“ไม่”“ท่านต้องพบอะไรเข้าแล้วแน่นอน” ฉินเหยี่ยนเย่ว์กล่าวด้วยน้ำเสียงแน่วแน่ตงฟางหลีมีนิสัยสุขุม หากไม่ใช่เขาได้รับข่าวอะไรมา คงไม่พูดถ้อยคำเช่นนี้ออกมาเขาไม่มีทางลองหยั่งเชิงขึ้นง่าย ๆ“พลั้งปากพูดเท่านั้น” ตงฟางหลีกล่าวเสียงเบา “เจ้าคิดไปถึงที่ใด?”“ล้วนเป็นแกะเหมือนกัน ท่าทีของเจ้ากลับไม่เหมือน
งูมีพิษร้ายแรง หากกัดโดนเฮยตั้น เฮยตั้นก็ลำบากแล้ว“เมี้ยว!เฮยตั้ยคำรามเสียงต่ำ ก่อนจะใช้กรงเล็บน้อย ๆ ตะปบส่วนหัวของงูเพลิงแดงอย่างแรง ปากก็กัดเข้าที่หางของงู แล้วสะบัดอย่างแรง จนงูเพลิงแดงถูกสะบัดจนหมดสติไปอีกครั้งตัวของมันแตกต่างจากตัวอวบอ้วนของเฮยตั้น ความเร็วของมันก็รวดเร็วมาก ตั้งแต่ต้นจนจบ
“หออวิ๋นเซียวที่ใช้เก็บตำราอยู่ไม่ไกลจากตำหนักซีอวิ๋นเท่าใด หลังจากทานอาหารเสร็จ ข้าจะพาเจ้าไปดูแล้วกัน” ตงฟางหลีกังวลเล็กน้อยปีนั้น งูเพลิงแดงมาโผล่ในตำหนักของเสด็จแม่ เสด็จแม่ก็พบเจอกับเรื่องยากลำบากบัดนี้ งูตัวนี้ได้มาโผล่ที่ใต้เตียงของฉินเหยี่ยนเย่ว์เขามีลางสังหรณ์เลวร้ายบางอย่าง“ไม่ต้องกังว
“แต่ว่า...” เฟยอิ่งลำบากใจเล็กน้อย“ถอยกลับไปเสีย”“อย่าทำเช่นนี้สิเพคะ” ฉินเหยี่ยนเย่ว์กล่าวอย่างไม่พอใจ “กว่าเฟยอิ่งจะเข้าวังมาได้ไม่ง่ายเลย เขาจะต้องมีเรื่องเร่งด่วนถึงได้มาหาท่าน ท่านไปจัดการธุระก่อนเถิดเพคะ”ตงฟางหลีสีหน้าไม่เต็มใจยิ่งไม่ง่ายเลยกว่าที่จะรอจนถึงวันครบรอบวันแต่งงานได้ ระหว่างทาง
“เจ้าวางใจเถอะ ข้าไม่ใช้ความรุนแรงกับเจ้าหรอก” มู่เหยี่ยแค่นฮึเสียงเย็นชา “ข้าตัดสินใจแล้ว ข้าจะเรียนวิธีใช้พิษ ฉินเหยี่ยนเย่ว์ จะต้องมีสักวัน เจ้าจะต้องตายอย่างเจ็บปวดภายใต้พิษของข้า”“อ้อ?” ฉินเหยี่ยนเย่ว์บีบเข็มพิษแน่น“ท่านกำลังเรียนวิธีวางยาพิษหรือ?”คนเลวไม่ว่าอย่างไรก็เลวอยู่ดี?“ไม่ได้หรืออย
ตำราที่นี่มีเยอะมาก และมีน้ำหนักหนักมากด้วยแรงของนางย่อมสามารถเขย่าชั้นตำราได้ ขอเพียงเขย่าชั้นตำรา ให้ตำราถล่มลงมา จะต้องทับฉินเหยี่ยนเย่ว์ที่ผอมบางและอ่อนแรงจนตายได้แน่นอน“ข้าแนะนำท่านยั้งมือเสียดีกว่า” เสียงของฉินเหยี่ยนเย่ว์ดังขึ้นแผ่วเบา“ท่านไร้เหตุผลมากเพียงใดข้าเคยเห็นมาแล้ว ท่านเกลียดข้าม
บนข้อมือที่เดิมทีขาว สะอาด เรียบเนียนมาก ฉับพลันนั้นได้ปรากฎรอยมือสีเลือดรอยหนึ่งขึ้นตำแหน่งนั้น เป็นจุดที่ฉินเหยี่ยนเย่ว์เคยจับพอดีรอยมือสีเลือดนั้นกำลังขยายตัวกว้าง ภายในระยะเวลาสั้น ๆ ได้กลายเป็นสีแดงไปเป็นแถบ“ฉินเหยี่ยนเย่ว์ เจ้า!” ครั้นมู่เหยี่ยเห็นรอยมือสีเลือดขยายกว้างไปไม่หยุด ก็โกรธจนตื่
ฉินเหยี่ยนเย่ว์มองท่าทางของมู่เหยี่ยแล้วไม่คล้ายกับกำลังพูดโกหกทว่า ข้อมูลในตำราเหล่านี้ไม่มีจริง ๆในหออวิ๋นเซียวรวบรวมตำราแทบจะทั่วทั้งใต้หล้าไว้ เป็นไปไม่ได้ที่จะหาไม่เจอแม้แต่เงาหากงูเพลิงแดงไม่ได้อยู่ในบันทึกที่เกี่ยวกับงูพิษ แล้วจะอยู่ที่ใด?นางค้นหาบริเวณโดยรอบอีกครั้งตำราที่เกี่ยวข้อกับงู
หลังจากลู่จิ้นป้อนยาที่มีชื่อว่ามังกรพ่นมุกนี้ให้นาง ก็ได้ทำลายสมดุลนี้ลงครั้นพิษของปลาทรายแดงครีบทองกลายพันธ์ถูกกดลง พิษของยาอีกหนึ่งชนิดก็จะเพิ่มขึ้นอย่างฉับพลันยาพิษบางชนิดมีพิษมากกว่าพิษจากปลาทรายแดงครีบทอง จึงเท่ากับต้องพิษเป็นครั้งที่สองหลังจากสมดุลถูกทำลาย ซูเตี่ยนฉิงย่อมไม่มีชีวิตที่ดีแล้
“เจ้าตาบอดหรือ? มองไม่ออกว่านี่คือตัวหนอนหรือย่างไร? ก็คือตัวหนอนที่กลายเป็นแมลงวันได้อย่างไรเล่า รักษาให้ดี ๆ เถิด” ลู่จิ้นเอ่ยเสียงเย็นซูจิ้นยืนยันคำตอบอยู่ในใจ สีหน้าแปรเปลี่ยนเป็นไม่น่ามองทันทีคนคนหนึ่งที่ยังมีชีวิตอยู่ หลังจากดื่มยาเข้าไปแล้ว เหตุใดถึงอาเจียนเอาของน่ารังเกียจพรรค์นี้ออกมาได้?
หากมีสุรารสเลิศก็ดียิ่งขึ้นไปอีกฉินเหยี่ยนเย่ว์เองก็คิดจะจากไปโดยไม่สนใจสิ่งใดทว่า...นางเหลือบตามองซูเตี่ยนฉิงที่นอนอยู่บนเตียงปราดหนึ่งจากไปทั้งอย่างนี้ ดูเหมือนว่าจะไม่สมเหตุสมผลเท่าใดนักจำต้องตอบแทนอะไรบางอย่างกลับไปบ้างถึงจะได้ไม่มาเสียเที่ยว“ศิษย์พี่รอสักครู่นะเจ้าคะ” ฉินเหยี่ยนเย่ว์พูด “
“ผู้ใดให้เจ้าไม่ตั้งใจเรียน ให้เจ้าทำยาคุณภาพต่ำออกมามั่วซั่ว หลายปีนี้เจ้ามัวทำอะไร? สิ่งที่เรียนนั้น เรียนไปที่ตัวสุนัขหมดแล้วหรืออย่างไร?” ลูจิ้นตะคอก“กล้าให้ศิษย์น้องหญิงได้รับความทรมานเช่นนั้น ข้าจะตีเด็กสารเลวอย่างเจ้าให้ตาย”ลู่ซิวถึงได้เข้าใจเป็นท่านบรรพบุรุษรังเกียจยาน้ำคุณภาพต่ำที่เขาทำข
ลู่จิ้นกลับไม่สนใจโดยสิ้นเชิงหัวคิ้วของเขาขมวดเข้าหากันแน่นก่อนหน้านี้เขาคิดจะปิดประตูข่มขู่ฉินเหยี่ยนเย่ว์ให้รักษาฉิงเอ๋อร์ แม้ว่าจะเป็นการไม่เคารพต่อพวกเขาสองคนแต่ก็ไม่มีผู้ใดรู้เห็น ขอเพียงยืนกรานไม่ยอมรับ ก็ไม่มีผู้ใดทำอะไรได้ครั้นลู่จิ้นมาถึง สถานการณ์ก็เปลี่ยนไปแล้วต่อให้เขามีความกล้ายิ่งใ
ซูจื่ออายุยังน้อย ทนต่อการถูกฟาดได้ครั้นปล่อยให้ลู่จิ้นทุบตีระบายอารมณ์ได้ครู่ใหญ่ ก็เจ็บจนต้องแยกเขี้ยวยิงฟัน หากยืนนิ่งไม่ส่งเสียงใด ๆ ออกมาแม้แต่คำเดียวลู่จิ้นที่ทุบตีจนเหนื่อยแล้วถึงได้ฝืนหยุดตี“ลูกชายของข้า” ฮูหยินซูเห็นท่าทีจมูกช้ำเขียวใบหน้าปูดบวมของซูจื่อ หยาดน้ำตาก็ไหลลงมาเป็นสาย ร้องไห้
นี่สิถึงจะเป็นอาวุธวิเศษในการแสร้งป่วยที่ถูกต้อง“ขอบคุณศิษย์พี่เจ้าค่ะ” ฉินเหยี่ยนเย่ว์รีบกลืนยาเม็ดลงไปทันที“ไม่ต้องเกรงใจ เรื่องของศิษย์น้องหญิงก็คือเรื่องของข้า” รอจนกระทั่งนางกินยา ลู่จิ้นก็จับชีพจรให้นางอีกครั้งเทียบกับชีพจรยุ่งเหยิงเมื่อครู่แล้ว ชีพจรในยามนี้มั่นคงกว่ามาก ศิษย์น้องหญิงก็รู้
“หลีกไป หลีกไปให้พ้น ใครกล้ามาขัดขวางข้า!”เสียงนั้นดังกึกก้องเป็นอย่างยิ่ง ทรงพลังและดุดันก่อนจะตามมาด้วยเสียงล้มลงกับพื้นของคนหลายคน แล้วประตูใหญ่ก็ถูกคนถีบออกอย่างแรงจากนั้น ชายชราผมขาวเคราขาวคนหนึ่งบุกเข้ามาด้วยความกรุ่นโกรธคนที่เข้ามาคือลู่จิ้นบรรพบุรุษของสกุลลู่ที่ด้านหลังของลูจิ้น ยังมีลู
คนทั่วไปเมื่อรับเงินทองผู้อื่นไปแล้วต้องปัดเป่าความกังวลของผู้นั้นมีเพียงนาง ที่รับเงินไปแล้วยังหน้าไม่อายอย่างเปิดเผยเช่นนี้“นายท่าน ท่านเชื่อข้านะเจ้าคะ นางจงใจปล่อยให้ฉิงเอ๋อร์ตายโดยที่ไม่ช่วย” ฮูหยินซูนึกถึงคำเตือนของคนผู้นั้นขึ้นมาได้ ก็ขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน “ใต้หล้านี้มีเพียงนางที่ช่วยชีวิตฉิงเอ