ตงฟางหลีไม่พอใจเล็กน้อย เขาจับมือนาง ก่อนจะเอ่ยด้วยเสียงเย้ายวนทุ้มต่ำ “อาบน้ำก่อนแล้วค่อยว่ากัน”“ไม่ได้เพคะ พูดตอนนี้เลย”“แต่ข้าเหนื่อยแล้ว อยากอาบน้ำให้รู้สึกกระปรี้กระเปร่า”“ตงฟางหลี ท่านกำลังหาเรื่องอยู่ใช่หรือไม่?” ฉินเหยี่ยนเย่ว์ชักมือกลับด้วยใบหน้าทะมึนทึนนางไม่ควรปากเสียเลย!“หยุดวุ่นวาย
“คราวนี้ เสด็จพ่อสงสัยอยู่ในใจว่าเสด็จแม่ถูกใส่ร้าย เขาคิดไม่ตก เมื่ออยู่ในภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก จึงไปเข้าพบพระพันปี หลังจากที่พระพันปีได้ทราบเหตุและผลของเหตุการณ์แล้ว จึงยกไม้เท้าขึ้นทุบตีเสด็จพ่อ”“นางตำหนิเสด็จพ่อที่ไม่แยกแยะถูกผิด ตำหนิว่าตาบอดหูหนวก และบอกว่าวิชาสาปแช่งนั้นที่ใช้ทำให้บ้านเมื
ฉินเหยี่ยนเย่ว์รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติอยู่ตลอดผู้หญิงที่ใส่ร้ายเสด็จแม่ริษยาในความงามและความโชคดีของเสด็จแม่ การที่ทำสิ่งเหล่านี้ออกมาได้ย่อมเป็นเรื่องปกติตั้งแต่เริ่มคดีจนถึงการเปิดโปงความจริง ห่วงโซ่เชิงตรรกะนั่นสมเหตุสมผลแล้วทว่า ถ้าคิดทบทวนไปข้างหน้าอีกสักหน่อย กลับไม่สมเหตุสมผลมีความรู้ส
“...” ฉินเหยี่ยนเย่ว์มุมปากกระตุกถึงสองครั้งมองจากบางมุมแล้ว ตงฟางหลีบุรุษผู้นี้ช่างเหมือนกับฮ่องเต้เสียจริงหน้าเนื้อใจเสือเหมือนกัน“แล้วท่านเล่า ระหว่างท่านกับไท่เฟยฉางเกิดเรื่องอะไรขึ้นหรือเพคะ?” นางลอบจดจำคดีของพระสนมอวิ๋นไว้ในใจ ก่อนหันหน้าไปถามเขา ยังไม่ทันสิ้นเสียง กลิ่นอายสังหารอันน่าหวาด
“แม่มดเฒ่าทรมานท่านเช่นนี้ นางได้รับบทลงโทษบ้างหรือไม่?” ฉินเหยี่ยนเย่ว์ไม่สบอารมณ์“เลิกคิดวุ่นวายเรื่องนี้ได้แล้ว มันผ่านไปแล้ว...” ตงฟางหลียื่นถ้วยชาให้นาง “มา ระงับโทสะสักหน่อย”“ไม่ได้ ท่านต้องบอกหม่อมฉัน” ฉินเหยี่ยนเย่ว์จับมือเขา พลางกัดฟันกรอด “หม่อมฉันก็เป็นคนเช่นนี้ มีแค้นต้องชำระ มิอาจกลั้
“พระชายางดงามเหมือนกับภาพวาดเลย” ตงฟางหลีพูดยิ้ม ๆ“เอ๋ ท่านกินยาผิดหรือเพคะ? จู่ ๆ ถึงได้พูดถ้อยคำแปลกประหลาดเช่นนี้” ฉินเหยี่ยนเย่ว์ไร้คำใดจะเอ่ย “พี่เจ็ดหม่อมฉันพบว่าท่านมักจะพ่นถ้อยคำหวานซึ้งออกมาโดยที่มิมีสัญญาณบอกกล่าวล่วงหน้า”ตงฟางหลียิ้มกว้าง“เจ้าไม่ชอบหรือ?”ฉินเหยี่ยนเย่ว์ครุ่นคิดชั่วอึด
หนาว!น้ำเย็นจัดที่ไหลเข้าจมูกและลำคอนั้น ทำเอาไม่สามารถหายใจได้ในทันทีฉินเหยี่ยนเย่ว์พลันรู้สึกได้ว่า ศีรษะของนางกำลังถูกใครบางคนกดเอาไว้ทำให้มิอาจลุกออกมาจากน้ำเย็นได้ในระหว่างที่นางกำลังดิ้นทุรนทุรายอยู่นั้น ฉินเหยี่ยนเย่ว์พลางเห็นใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มชั่วร้ายผ่านคลื่นน้ำที่กระจายไปมาได้ใน
“เฮ้อ พูดถึงโจโฉโจโฉก็มาหา” ฉินเหยี่ยนเย่ว์เอ่ยขึ้นมาด้วยสีหน้าที่เย็นชาท่านอ๋องสามในความทรงจำของเจ้าของเดิมนั้น เป็นบุรุษเจ้าชู้โดยแท้ฉินเหยี่ยนเย่ว์จึงลุกขึ้นมาสวมใส่เสื้อผ้า พร้อมทั้งเป่าผมให้แห้งอย่างลวก ๆเดิมทีร่างกายนี้ยังอ่อนแอมากนัก แม้ว่าจักจะอาบน้ำต้มยาเพื่อขับไล่ความหนาวเย็นออกไปแล้วก
“พระชายางดงามเหมือนกับภาพวาดเลย” ตงฟางหลีพูดยิ้ม ๆ“เอ๋ ท่านกินยาผิดหรือเพคะ? จู่ ๆ ถึงได้พูดถ้อยคำแปลกประหลาดเช่นนี้” ฉินเหยี่ยนเย่ว์ไร้คำใดจะเอ่ย “พี่เจ็ดหม่อมฉันพบว่าท่านมักจะพ่นถ้อยคำหวานซึ้งออกมาโดยที่มิมีสัญญาณบอกกล่าวล่วงหน้า”ตงฟางหลียิ้มกว้าง“เจ้าไม่ชอบหรือ?”ฉินเหยี่ยนเย่ว์ครุ่นคิดชั่วอึด
“แม่มดเฒ่าทรมานท่านเช่นนี้ นางได้รับบทลงโทษบ้างหรือไม่?” ฉินเหยี่ยนเย่ว์ไม่สบอารมณ์“เลิกคิดวุ่นวายเรื่องนี้ได้แล้ว มันผ่านไปแล้ว...” ตงฟางหลียื่นถ้วยชาให้นาง “มา ระงับโทสะสักหน่อย”“ไม่ได้ ท่านต้องบอกหม่อมฉัน” ฉินเหยี่ยนเย่ว์จับมือเขา พลางกัดฟันกรอด “หม่อมฉันก็เป็นคนเช่นนี้ มีแค้นต้องชำระ มิอาจกลั้
“...” ฉินเหยี่ยนเย่ว์มุมปากกระตุกถึงสองครั้งมองจากบางมุมแล้ว ตงฟางหลีบุรุษผู้นี้ช่างเหมือนกับฮ่องเต้เสียจริงหน้าเนื้อใจเสือเหมือนกัน“แล้วท่านเล่า ระหว่างท่านกับไท่เฟยฉางเกิดเรื่องอะไรขึ้นหรือเพคะ?” นางลอบจดจำคดีของพระสนมอวิ๋นไว้ในใจ ก่อนหันหน้าไปถามเขา ยังไม่ทันสิ้นเสียง กลิ่นอายสังหารอันน่าหวาด
ฉินเหยี่ยนเย่ว์รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติอยู่ตลอดผู้หญิงที่ใส่ร้ายเสด็จแม่ริษยาในความงามและความโชคดีของเสด็จแม่ การที่ทำสิ่งเหล่านี้ออกมาได้ย่อมเป็นเรื่องปกติตั้งแต่เริ่มคดีจนถึงการเปิดโปงความจริง ห่วงโซ่เชิงตรรกะนั่นสมเหตุสมผลแล้วทว่า ถ้าคิดทบทวนไปข้างหน้าอีกสักหน่อย กลับไม่สมเหตุสมผลมีความรู้ส
“คราวนี้ เสด็จพ่อสงสัยอยู่ในใจว่าเสด็จแม่ถูกใส่ร้าย เขาคิดไม่ตก เมื่ออยู่ในภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก จึงไปเข้าพบพระพันปี หลังจากที่พระพันปีได้ทราบเหตุและผลของเหตุการณ์แล้ว จึงยกไม้เท้าขึ้นทุบตีเสด็จพ่อ”“นางตำหนิเสด็จพ่อที่ไม่แยกแยะถูกผิด ตำหนิว่าตาบอดหูหนวก และบอกว่าวิชาสาปแช่งนั้นที่ใช้ทำให้บ้านเมื
ตงฟางหลีไม่พอใจเล็กน้อย เขาจับมือนาง ก่อนจะเอ่ยด้วยเสียงเย้ายวนทุ้มต่ำ “อาบน้ำก่อนแล้วค่อยว่ากัน”“ไม่ได้เพคะ พูดตอนนี้เลย”“แต่ข้าเหนื่อยแล้ว อยากอาบน้ำให้รู้สึกกระปรี้กระเปร่า”“ตงฟางหลี ท่านกำลังหาเรื่องอยู่ใช่หรือไม่?” ฉินเหยี่ยนเย่ว์ชักมือกลับด้วยใบหน้าทะมึนทึนนางไม่ควรปากเสียเลย!“หยุดวุ่นวาย
“ท่านว่าอะไรนะ?” นางเพิกเฉยต่อความเจ็บ และกระชับเสียง “หัวใจของเสด็จพ่อ?”หลังจากเอาหัวใจออกมาแล้ว คนผู้นั้นจะต้องตายอย่างแน่นอนตุ๊กตาตัวนั้นจะมีหัวใจของเสด็จพ่อได้อย่างไร?“ข้ายังพูดไม่จบ” ตงฟางหลีพูดต่อ “มันเป็นหินรูปหัวใจที่เสด็จพ่อแกะสลักให้เสด็จแม่เอง หินนั้นทำจากโมราสีแดง แดงดั่งหัวใจ ดังนั้น
ฉินเหยี่ยนเย่ว์ได้ยินแล้วโกรธมากรูปแบบการจัดฉากใส่ร้ายนี้ทั้งเชยและน้ำเน่าเกินไปตราบใดที่ดวงตาไม่มืดบอด หูไม่หนวก อย่างไรก็ต้องแยกสิ่งที่ปิดบังซ่อนเร้นได้อย่างแน่นอน“จากนั้นล่ะ?” นางถามตงฟางหลีขมวดหัวคิ้วเข้าหากันคำพูดมุ่งร้ายทำให้คนเจ็บปวดถึงหกเดือนหนาวแม้นเสด็จแม่จะไม่ได้ทำอะไรเลย ทว่าหากมีค
เหตุการณ์นั้นเกี่ยวพันถึงสมาชิกราชวงศ์และบุคคลที่มียศถาบรรดาศักดิ์นับไม่ถ้วน มีผู้เสียชีวิตหลายหมื่นคน นับเป็นเรื่องที่น่าสังเวชใจทีเดียวหุ่นคุณไสยกู่ที่เลื่องชื่อที่สุดคือการแทงเข้าที่หุ่นคุณไสย คือการเขียนวันเกิดและดวงชะตาไว้บนหุ่นคุณไสยที่ทำขึ้นมา แล้วแทงเข็มเข้าไป สิ่งนี้เป็นที่แพร่หลายในวงกว้า