เมื่อเขาต้องการกระทำต่อ ก็กลัวว่าเจ้าเจ็ดและภรรยายังคงแอบฟังอยู่ จึงไม่วางใจ และออกไปดูห้องไม่ใหญ่ ซ่อนคนไม่ได้มองไปรอบ ๆ อยู่ครู่หนึ่ง ทว่าไม่มีใครอยู่เขายังคงไม่วางใจ จึงออกคำสั่งให้องครักษ์จื่ออวี๋เฝ้าอยู่ด้านนอกแม้แต่น้ำหยดเดียวก็ห้ามผ่านเข้ามา จากนั้นจึงวางใจและกลับไปหาพระสนมอวิ๋น“อวิ๋นเอ๋อ
ฮ่องเต้ได้ยินเช่นนั้นแล้วดีใจยกใหญ่พระสนมอวิ๋นให้อภัยเขาแล้ว!กลอุบายของเจ้าเจ็ดได้ผลมาก แต่ก็ค่อนข้างลำบากทีเดียว และต้องพยายามรักษาความลับไว้ให้ดีด้วยเขายกอาภรณ์แล้วลุกขึ้นยืน ครั้นเห็นท่าทางเขินอายของพระสนมอวิ๋นที่นอนตะแคงข้างอยู่ ในใจรู้สึกคันคะเยอ“อวิ๋นเอ๋อร์ ขาของข้าชาเสียแล้ว”“...” พระสนม
ฉินเหยี่ยนเย่ว์วางถ้วยชาไว้บนผนังแล้วแนบหูฟังอยู่พักหนึ่งได้ยินบทสนทนาข้างในไม่ชัดเจนนัก จึงฟังได้ไม่ปะติดปะต่อได้ยินว่าคุกเขาบนกาน้ำชาอย่างคลุมเครือ ขอให้อภัย และการดุของพระสนมอวิ๋น เป็นต้น...ยิ่งฟังมากเท่าใด นางยิ่งเลิกคิ้วสูงเท่านั้น“ตอนนี้หม่อมฉันยังรู้สึกว่าเสด็จพ่อจริงจังเกินไป และไม่เข้าใ
“เสด็จพ่อโปรดปรานเสด็จแม่มาก แล้วเหตุใดเขาถึงเย็นชาใส่เสด็จแม่มาได้ตั้งหลายปี?” ฉินเหยี่ยนเย่ว์จับคาง “เดิมทีพวกเขาควรจะเป็นฮ่องเต้และฮองเฮาที่ไร้ผู้ใดเทียม และเขียนเรื่องราวดี ๆ ถึงจะถูกต้องสิ ตำแหน่งของฮองเฮากลับถูกครอบครองโดยฮองเฮาซูที่คิดว่าตนถูกต้องอยู่ตลอดเวลา”ครั้นตงฟางหลีเห็นนางพูดเหลวไหลอี
เหตุการณ์นั้นเกี่ยวพันถึงสมาชิกราชวงศ์และบุคคลที่มียศถาบรรดาศักดิ์นับไม่ถ้วน มีผู้เสียชีวิตหลายหมื่นคน นับเป็นเรื่องที่น่าสังเวชใจทีเดียวหุ่นคุณไสยกู่ที่เลื่องชื่อที่สุดคือการแทงเข้าที่หุ่นคุณไสย คือการเขียนวันเกิดและดวงชะตาไว้บนหุ่นคุณไสยที่ทำขึ้นมา แล้วแทงเข็มเข้าไป สิ่งนี้เป็นที่แพร่หลายในวงกว้า
ฉินเหยี่ยนเย่ว์ได้ยินแล้วโกรธมากรูปแบบการจัดฉากใส่ร้ายนี้ทั้งเชยและน้ำเน่าเกินไปตราบใดที่ดวงตาไม่มืดบอด หูไม่หนวก อย่างไรก็ต้องแยกสิ่งที่ปิดบังซ่อนเร้นได้อย่างแน่นอน“จากนั้นล่ะ?” นางถามตงฟางหลีขมวดหัวคิ้วเข้าหากันคำพูดมุ่งร้ายทำให้คนเจ็บปวดถึงหกเดือนหนาวแม้นเสด็จแม่จะไม่ได้ทำอะไรเลย ทว่าหากมีค
“ท่านว่าอะไรนะ?” นางเพิกเฉยต่อความเจ็บ และกระชับเสียง “หัวใจของเสด็จพ่อ?”หลังจากเอาหัวใจออกมาแล้ว คนผู้นั้นจะต้องตายอย่างแน่นอนตุ๊กตาตัวนั้นจะมีหัวใจของเสด็จพ่อได้อย่างไร?“ข้ายังพูดไม่จบ” ตงฟางหลีพูดต่อ “มันเป็นหินรูปหัวใจที่เสด็จพ่อแกะสลักให้เสด็จแม่เอง หินนั้นทำจากโมราสีแดง แดงดั่งหัวใจ ดังนั้น
ตงฟางหลีไม่พอใจเล็กน้อย เขาจับมือนาง ก่อนจะเอ่ยด้วยเสียงเย้ายวนทุ้มต่ำ “อาบน้ำก่อนแล้วค่อยว่ากัน”“ไม่ได้เพคะ พูดตอนนี้เลย”“แต่ข้าเหนื่อยแล้ว อยากอาบน้ำให้รู้สึกกระปรี้กระเปร่า”“ตงฟางหลี ท่านกำลังหาเรื่องอยู่ใช่หรือไม่?” ฉินเหยี่ยนเย่ว์ชักมือกลับด้วยใบหน้าทะมึนทึนนางไม่ควรปากเสียเลย!“หยุดวุ่นวาย
“เป็นไปได้หรือไม่ว่า คนที่ใช้วิธีการโหดร้ายเช่นนี้ทำร้ายเจ้าคือฉินเสวี่ยเย่ว์?” ตงฟางหลีถามคนที่เกลียดยัยหนูเข้ากระดูกไม่ได้มีมากมาย และฉินเสวี่ยเย่ว์ก็ถือว่าเป็นหนึ่งในนั้นจุดหนึ่งที่สำคัญที่สุด คือฉินเสวี่ยเย่ว์มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับหมิ่นจูที่ผิดแผกคนนั้นและในการสืบสวนของเขา หมิ่นจูเองก็มีควา
“เป็นผู้ใด?” ตงฟางหลีถามฉินเหยี่ยนเย่ว์ถอนหายใจลึก ๆ มือกำแขนเสื้อแน่นบนจดหมายที่นกกางเขนเงาส่งมา เป็นเรื่องที่นางไหว้วานให้พระชายาอ๋องเฉียนสืบสวนจริง ๆบนจดหมายไม่ได้มีเพียงข้อมูลที่เกี่ยวกับงูเพลิงแดงเท่านั้น พอเหมาะพอเจาะกับที่ยังมีข่าวของงูสวรรค์สีดำสนิทอีกด้วย!งูสวรรค์สีดำสนิทและงูเพลิงแดงสี
“พิษร้ายแรง?” ตงฟางหลีขมวดคิ้ว “เมื่อครู่ท่านมิใช่บอกว่าไม่รู้เรื่องพิษหรืออย่างไร?”“ข้าคร้านจะบอกเจ้าเท่านั้นเอง” ลู่จิ้นกลอกตาใส่ตงฟางหลี“ศิษย์น้องหญิง เจ้าอย่ากังวลเลย สิ่งนั้นถูกข้าจับไว้ได้แล้ว อยู่ตรงนี้” เขาโบกขวดกระเบื้องในมือไปมา“เหตุใดงูสวรรค์ถึงได้ปรากฏตัวที่นี่?” ฉินเหยี่ยนเย่ว์สับสน
มือของฉินเหยี่ยนเย่ว์ตกลงบนหัวของเฮยตั้นพลางถอนหายใจลึก“หม่อมฉันไม่เป็นไรเพคะ พวกท่านไม่ต้องกังวล”“จะไม่เป็นไรได้อย่างไร? เมื่อครู่ข้าตกใจแทบตาย” ตงฟางหลียังคงหวาดผวาอยู่ในใจ“หม่อมฉันไม่เป็นไรจริง ๆ ” ฉินเหยี่ยนเย่ว์ยกมือขึ้น สัมผัสแก้มซีดขาวของตงฟางหลีท่าทีของชายผู้นี้ผิดปกติแม้ว่าใบหน้าของเขา
ความโกรธของตงฟางหลียิ่งมากขึ้นเขาระงับอารมณ์หุนหันพลันแล่นที่จะทุบหัวของลู่จิ้นสักหมัด ถามด้วยเสียงทุ้มลึก “เหยียนเย่ว์ อาการเป็นอย่างไรบ้าง?"“ยังไหว”“ยังไหว หมายความว่าอย่างไร?” ตงฟางหลียังคงหวาดกลัวกับเหตุการณ์น่าหวาดผวาเมื่อครู่นั้น ครั้นได้ยินคำตอบส่งเดชของลู่จิ้น จึงอดไม่ได้ที่จะขึ้นเสียง“ค
หลังจากที่เฮยตั้นปล่อยของสิ่งนั้นออก ของสิ่งนั้นก็หนีออกไปด้วยการยืดและหดตัว“เหมียว” เฮยตั้นเห็นว่ามันจะหลบหนี จึงกระโจนไปตะครุบใส่ และกัดส่วนหัวของมันอย่างรุนแรงฉีกทึ้งอย่างแรง และของสิ่งนั้นก็แยกออกเป็นสองท่อนหลังถูกแยกออกเป็นสองท่อนแล้ว ยังคงเคลื่อนไหวอยู่เฮยตั้นชะงักไปชั่วขณะ อุ้งเท้าทั้งสอง
น้ำเสียงนั้นราวกับกำลังบอกว่า...ไว้หน้าแล้วไม่รู้จักรับ!หลังจากนั้น กรงเล็บก็ตวัดมาทางเขาหลังจากอุ้งเท้าของมันเคลื่อนออก เจ้าสิ่งมีชีวิตที่คล้ายกับเส้นผมตัวนั้นก็คิดจะหลบหนี“เมี้ยว!” เฮยตั้นไม่สนใจสั่งสอนตงฟางหลีทาสผู้โง่เขลาคนนี้อีกมันกระโจนเข้าไปอย่างดุดัน และตบของสิ่งนั้นอย่างรุนแรง ก่อนจะใช้
เงาดำสายหนึ่งกระโดดเข้ามาจากทางประตูร่างกายอวบอ้วนที่แข็งแรงประหนึ่งบินเข้ามา มาถึงตรงหน้าฉินเหยี่ยนเย่ว์ในพริบตา“เมี้ยว”เฮยตั้นกระโดดขึ้นบนศีรษะของนางอย่างรวดเร็วและรุนแรง ร่างกายปิดดวงตาของฉินเหยี่ยนเย่ว์ ขาหลังเกือบจะปิดแก้มของนางกรงเล็บหน้าขยุ้มผมนางเมื่อการมองเห็นของฉินเหยี่ยนเย่ว์ถูกบดบัง
อาการปวดศีรษะจนยากจะทนรับไหวถาโถมเข้ามาไม่หยุดราวกับมีเข็มจำนวนนับไม่ถ้วนทิ่มแทงที่ศีรษะ เป็นความรู้สึกอันน่าหวาดกลัวที่ไม่เคยประสบมาก่อนเวลาผ่านไปเพียงชั่วพริบตา เหงื่อเม็ดโตก็ไหลพรากอาภรณ์เปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อเช่นกันนางทนรับความเจ็บปวดเช่นนั้นไม่ไหว น้ำตาจึงไหลลงมาอย่างยากจะต้านทานร้องไห้สะอึ