“กองรักษาระเบียบถูกเผาจนมอดไหม้ไปหมดแล้ว” ตงฟางหลีพูด “ทั้งภายในและภายนอก ถูกเผาเสียจนไม่มีเหลือ กองรักษาระเบียบสร้างขึ้นมาตั้งแต่ก่อตั้งแคว้น จึงมีความสำคัญมาก ต้องรีบสร้างขึ้นใหม่โดยเร็ว”“เช่นนั้นแล้วเกี่ยวอันใดกับท่านด้วยล่ะ?” ฉินเหยี่ยนเย่ว์พูดตงฟางหลีถอนหายใจ “ที่จริง ตอนที่เจ้ากำลังนอนหลับ เ
ตงฟางหลีมองฉินเหยี่ยนเย่ว์ที่กำลังโกรธขึ้งด้วยนิสัยของนาง จะต้องทำเรื่องอย่างการทวงหนี้จากทางเสด็จพ่อออกมาได้อย่างแน่นอนเขาดึงนางเข้ามาในอ้อมแขน วางคางลงบนไหล่ของนาง “เด็กโง่ ผู้ใดบอกเจ้ากันว่าอ๋องทุกคนต้องมีที่ดินกันเล่า?”“แล้วมิใช่หรือ?” ในความทรงจำของฉินเหยี่ยนเย่ว์ พอถึงช่วงวัยหนึ่งอ๋องทุกคนก
ปรากฎการณ์ทุกอย่างแสดงออกมาให้เห็นถึง คำตอบหนึ่งที่โดดเด่นออกมา“ท่านหมายความว่า...” ฉินเหยี่ยนเย่ว์ปริปากพูดด้วยความยากลำบากอยู่บ้าง “ฮ่องเต้คิดจะให้ท่านขึ้นเป็นองค์รัชทายาทหรือ?”ตงฟางหลีถอนหายใจ “ใช่ หรืออาจจะไม่ใช่”“ท่านพูดเช่นนี้มิไร้สาระไปหรือ?”“ข้าคาดเดาความคิดของเสด็จพ่อไม่ได้” ตงฟางหลีพู
เปลวเพลิงเผาไหม้กองรักษาระเบียบอยู่ถึงหนึ่งวันหนึ่งคืนถึงมอดดับลงกลุ่มควันลอยคลุ้ง หมอกควันสีเทาลอยปกคลุมไปทั่วทั้งวังหลวง จนกระทั่งเย็นวันที่ห้าก็ได้มีหิมะตกลงมา ท้องฟ้าถึงได้แจ่มใสขึ้นมาอีกครั้งข่าวคราวที่เกี่ยวข้องกับกองรักษาการเกิดเพลิงไหม้ทั้งหมดได้ถูกปิดเอาไว้เพียงประกาศกับภายนอกว่า ป้าหวนน
ที่ด้านข้างประตูสองด้านยังมีแมวหลีฮวาหนึ่งตัว และแมวซือจึที่ดูคล้ายกับเหมาเหมาอีกหนึ่งตัวแมวสามตัวล้วนถูกเลี้ยงดูมาอย่างอ้วนท้วนสมบูรณ์พวกมันบ้างก็นอนตะแคงบ้างก็เกาแผ่นไม้ แต่ละตัวดูน่ารักไร้เดียงสาที่มุมยังมีลูกแมวอีกหลายตัวกำลังจับจ้องพวกนางอย่างตั้งอกตั้งใจ“แมวมากมายเพียงนี้เชียวหรือ?” ฉินเหย
“ให้ตาย!” ฉินเหยี่ยนเย่ว์ตกใจจนตัวสั่น“โฮก...”กลิ่นคาวเลือดที่รุนแรงสายหนึ่งก็ได้ลอยเข้ามา ฉินเหยี่ยนเย่ว์ถอยหลังไปหลายก้าวติด ๆ กัน จนเกือบจะทรุดตัวนั่งลงกับพื้น“พระชายาระวังเพคะ” ชื่อเจี้ยนคาดไม่ถึงว่าเสือจะอยู่เหนือตาข่ายเหล็กดำ ก็รีบไปขวางหน้าฉินเหยี่ยนเย่ว์ทันที “ท่านไม่เป็นอะไรใช่หรือไม่?”
นี่แปลกกว่าเรื่องเล่าเสียอีก“ไม่ใช่เรื่องเล่า ล้วนเป็นเรื่องที่ข้าประสบมาด้วยตัวเองทั้งนั้น นี่ยังไม่ใช่เรื่องที่แปลกประหลาดที่สุดหรอก หลังจากที่ถูกขายไปหลายบ้าน และหลังจากเรื่องที่ข้าได้รับการปกป้องจากสัตว์ถูกลือออกไป ก็ไม่มีครอบครัวใดยอมซื้อตัวข้าอีก คนที่ลักพาตัวข้ายังถูกสุนัขกัด ถูกวัวชนอยู่บ่อ
ฉินเหยี่ยนเย่ว์ไม่รู้ว่าควรตอบอย่างไรดีผู้ที่โชคดีมาตั้งแต่กำเนิดย่อมมีอยู่แล้ว เมื่อก่อนนางยังเคยเห็นรายงานหนึ่งเกี่ยวกับผู้ที่มีโชคมากมาก่อนนางไม่ค่อยเข้าใจความหมายในถ้อยคำนี้ของพระสนมเหยาเท่าใดนัก“พระชายาอ๋องเจ็ด ช่วยข้ารินชาเถอะ” พระสนมเหยาไอออกมาเบา ๆ “เจ้าอยากรู้อะไร ข้าจะ--- บอกเจ้าทั้งหมด
“เป็นไปได้หรือไม่ว่า คนที่ใช้วิธีการโหดร้ายเช่นนี้ทำร้ายเจ้าคือฉินเสวี่ยเย่ว์?” ตงฟางหลีถามคนที่เกลียดยัยหนูเข้ากระดูกไม่ได้มีมากมาย และฉินเสวี่ยเย่ว์ก็ถือว่าเป็นหนึ่งในนั้นจุดหนึ่งที่สำคัญที่สุด คือฉินเสวี่ยเย่ว์มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับหมิ่นจูที่ผิดแผกคนนั้นและในการสืบสวนของเขา หมิ่นจูเองก็มีควา
“เป็นผู้ใด?” ตงฟางหลีถามฉินเหยี่ยนเย่ว์ถอนหายใจลึก ๆ มือกำแขนเสื้อแน่นบนจดหมายที่นกกางเขนเงาส่งมา เป็นเรื่องที่นางไหว้วานให้พระชายาอ๋องเฉียนสืบสวนจริง ๆบนจดหมายไม่ได้มีเพียงข้อมูลที่เกี่ยวกับงูเพลิงแดงเท่านั้น พอเหมาะพอเจาะกับที่ยังมีข่าวของงูสวรรค์สีดำสนิทอีกด้วย!งูสวรรค์สีดำสนิทและงูเพลิงแดงสี
“พิษร้ายแรง?” ตงฟางหลีขมวดคิ้ว “เมื่อครู่ท่านมิใช่บอกว่าไม่รู้เรื่องพิษหรืออย่างไร?”“ข้าคร้านจะบอกเจ้าเท่านั้นเอง” ลู่จิ้นกลอกตาใส่ตงฟางหลี“ศิษย์น้องหญิง เจ้าอย่ากังวลเลย สิ่งนั้นถูกข้าจับไว้ได้แล้ว อยู่ตรงนี้” เขาโบกขวดกระเบื้องในมือไปมา“เหตุใดงูสวรรค์ถึงได้ปรากฏตัวที่นี่?” ฉินเหยี่ยนเย่ว์สับสน
มือของฉินเหยี่ยนเย่ว์ตกลงบนหัวของเฮยตั้นพลางถอนหายใจลึก“หม่อมฉันไม่เป็นไรเพคะ พวกท่านไม่ต้องกังวล”“จะไม่เป็นไรได้อย่างไร? เมื่อครู่ข้าตกใจแทบตาย” ตงฟางหลียังคงหวาดผวาอยู่ในใจ“หม่อมฉันไม่เป็นไรจริง ๆ ” ฉินเหยี่ยนเย่ว์ยกมือขึ้น สัมผัสแก้มซีดขาวของตงฟางหลีท่าทีของชายผู้นี้ผิดปกติแม้ว่าใบหน้าของเขา
ความโกรธของตงฟางหลียิ่งมากขึ้นเขาระงับอารมณ์หุนหันพลันแล่นที่จะทุบหัวของลู่จิ้นสักหมัด ถามด้วยเสียงทุ้มลึก “เหยียนเย่ว์ อาการเป็นอย่างไรบ้าง?"“ยังไหว”“ยังไหว หมายความว่าอย่างไร?” ตงฟางหลียังคงหวาดกลัวกับเหตุการณ์น่าหวาดผวาเมื่อครู่นั้น ครั้นได้ยินคำตอบส่งเดชของลู่จิ้น จึงอดไม่ได้ที่จะขึ้นเสียง“ค
หลังจากที่เฮยตั้นปล่อยของสิ่งนั้นออก ของสิ่งนั้นก็หนีออกไปด้วยการยืดและหดตัว“เหมียว” เฮยตั้นเห็นว่ามันจะหลบหนี จึงกระโจนไปตะครุบใส่ และกัดส่วนหัวของมันอย่างรุนแรงฉีกทึ้งอย่างแรง และของสิ่งนั้นก็แยกออกเป็นสองท่อนหลังถูกแยกออกเป็นสองท่อนแล้ว ยังคงเคลื่อนไหวอยู่เฮยตั้นชะงักไปชั่วขณะ อุ้งเท้าทั้งสอง
น้ำเสียงนั้นราวกับกำลังบอกว่า...ไว้หน้าแล้วไม่รู้จักรับ!หลังจากนั้น กรงเล็บก็ตวัดมาทางเขาหลังจากอุ้งเท้าของมันเคลื่อนออก เจ้าสิ่งมีชีวิตที่คล้ายกับเส้นผมตัวนั้นก็คิดจะหลบหนี“เมี้ยว!” เฮยตั้นไม่สนใจสั่งสอนตงฟางหลีทาสผู้โง่เขลาคนนี้อีกมันกระโจนเข้าไปอย่างดุดัน และตบของสิ่งนั้นอย่างรุนแรง ก่อนจะใช้
เงาดำสายหนึ่งกระโดดเข้ามาจากทางประตูร่างกายอวบอ้วนที่แข็งแรงประหนึ่งบินเข้ามา มาถึงตรงหน้าฉินเหยี่ยนเย่ว์ในพริบตา“เมี้ยว”เฮยตั้นกระโดดขึ้นบนศีรษะของนางอย่างรวดเร็วและรุนแรง ร่างกายปิดดวงตาของฉินเหยี่ยนเย่ว์ ขาหลังเกือบจะปิดแก้มของนางกรงเล็บหน้าขยุ้มผมนางเมื่อการมองเห็นของฉินเหยี่ยนเย่ว์ถูกบดบัง
อาการปวดศีรษะจนยากจะทนรับไหวถาโถมเข้ามาไม่หยุดราวกับมีเข็มจำนวนนับไม่ถ้วนทิ่มแทงที่ศีรษะ เป็นความรู้สึกอันน่าหวาดกลัวที่ไม่เคยประสบมาก่อนเวลาผ่านไปเพียงชั่วพริบตา เหงื่อเม็ดโตก็ไหลพรากอาภรณ์เปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อเช่นกันนางทนรับความเจ็บปวดเช่นนั้นไม่ไหว น้ำตาจึงไหลลงมาอย่างยากจะต้านทานร้องไห้สะอึ