ก่อนที่จะมาที่หอเยี่ยนจื่อ นางรู้สึกได้ว่าแหวนอยู่ใกล้ ๆ นี้เนื่องจากไม่ค่อยคุ้นเคยกับพื้นที่ในเมืองเหวินจิงเท่าใดนัก ในใจจึงเกิดความสงสัย คิดว่าไม่ว่าอย่างไรก็จะลองดูเพื่อยืนยันตำแหน่งที่แน่นอนเมื่อมาถึงหอเยี่ยนจื่อ เห็นแหวนในมือของอ๋องสามตั้งแต่แวบแรกก็รู้แล้วว่าเป็นของปลอมแหวนจริงไม่ได้อยู่ที่
ภายในบริเวณโดยรอบ มืดมิดไร้แสงสว่าง“เสี่ยวจีจวิน เจ้ายังวู่วามเหมือนเช่นเคยเลย ข้าเองก็คันไม้คันมือมานานแล้วเช่นกัน” แม้ว่าไป๋หลินยวนจะกำลังยิ้มอยู่ ทว่ากลิ่นอายบนร่างกายก็เริ่มเปลี่ยนไปการต่อสู้ อยู่ในความตึงเครียดที่เมื่อสัมผัสเพียงเล็กน้อยก็สามารถระเบิดออกได้ทันที“หยุด” ฉินเหยี่ยนเย่ว์รู้สึกปว
ฉินเหยี่ยนเย่ว์ไร้คำจะพูดยิ่งนักจีอู๋เยียนมีนิสัยเย็นชา เหี้ยมโหดพูดน้อย และไม่ค่อยวู่วาม ใบหน้าก็มีการแสดงออกน้อยครั้งเช่นกัน เป็นคนหน้าตายที่ไร้อารมณ์ใด ๆ อย่างไรก็ตาม มีเพียงอยู่ต่อหน้าไป๋หลินยวนเท่านั้น ที่เขาไม่เพียงแค่วู่วาม ยังพูดมากขึ้นอีกด้วยคนวิปริตสองคนนี้เป็นคล้ายกับละครงิ้วที่ทั้งรั
คาวเลือดอันน่าพรั่นพรึงนั้น โรคกลัวเลือดก็กำเริบขึ้นอย่างรุนแรงอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนนางสั่นสะท้านไปทั้งตัว หัวสมองขาวโพลน จนมิอาจคิดไตร่ตรอง มิอาจร้องขอความช่วยเหลือ และมิอาจร้องเรียกได้ม้าที่ได้รับความตกใจวิ่งควบไปเบื้องหน้าราวกับคลั่งไปแล้วยังดีที่นางออกจากตลาดมาแล้ว พื้นที่ตรงนั้นเป็นเขตพื้
ชื่อเจี้ยนหน้าขาวซีดลงทันควัน ก่อนจะฝืนยิ้มพลางเอ่ยว่า “องค์ชายสิบ ท่านกำลังพูดอันใดอยู่หรือเพคะ?”“เจ้ากำลังโกหก ข้าได้ยินเสียงหัวใจของเจ้าเต้นเร็วมาก มีแค่ตอนที่กำลังโกหกเท่านั้นหัวใจถึงจะเต้นเร็วเช่นนี้” เขาเอียงศีรษะ “พี่สะใภ้เจ็ดไม่ได้ไปที่จวนสกุลฉินใช่หรือไม่?”ร่างเงาของตงฟางหลีหยุดชะงัก ก่อน
ตงฟางอิงไม่เข้าใจ “ข้าพูดกับมัน มันย่อมตอบกลับอยู่แล้ว นี่มิใช่เรื่องปกติหรือ? เหมาเหมามิได้หูหนวกสักหน่อย”ชื่อเจี้ยนไม่รู้ว่าจะอธิบายความรู้สึกนั้นอย่างไรดี “ท่านฟังไม่เข้าใจจริงหรือเพคะ?”“ข้าจะหลอกเจ้าไปทำไม?”“เช่นนั้นท่านรู้ว่าเหมาเหมาปวดท้องได้อย่างไร?”“เดา” ตงฟางหลีเพยิดหน้า “ข้ารู้สึกว่ามั
ในใต้หล้านี้ ผู้ที่ใช้ยาน่ากลัวชนิดนั้น มีเพียงองค์กรเดียวนั่นคือ อีกาดำเมื่อนึกถึงทุกการกระทำของอีกาดำที่เคยทำในจวนสกุลฉิน นึกถึงอันตรายในยามนั้น ความแค้นใหม่และความเกลียดชังเก่าก็ซ้อนทับกัน“ตู้เหิง” ร่างกายตงฟางหลีแผ่กลิ่นอายน่าหวาดกลัวออกมา ดวงตาสองข้างแดงก่ำ กลิ่นอายสังหารพวยพุ่ง“ถ่ายทอดคำสั่
ตงฟางหลีพูดน้ำเสียงหนักแน่น “ถ่ายทอดคำสั่งข้าลงไป ให้เคลื่อนไหวคำสั่งจื่อจิน”“ท่านอ๋อง!” ตู้เหิงสีหน้าเปลี่ยนไปเป็นอย่างมาก “คิดไตร่ตรองอีกครั้งด้วยพ่ะย่ะค่ะ” ที่เขาเพิ่งพูดเมื่อสักครู่นี้ ท่านอ๋องไม่ได้ฟังแม้แต่น้อยเลยหรืออย่างไร?“ข้าเดาออกแล้วว่าฉินเหยี่ยนเย่ว์อยู่ที่ไหน” ตงฟางหลีพูด “คำสั่งที่
อย่างไรก็ตาม หลังจากออกจากหอแดงแห่งนี้แล้ว การที่หมิ่นจูจะเป็นหรือตาย หาได้เกี่ยวกับเขาไม่“กระหม่อมเข้าใจแล้วพ่ะย่ะค่ะ นายท่านเพียงแค่เล่นสนุกเท่านั้น” คนสนิทพยักหน้า “ฮูหยินหมิ่นอายุมาก รูปร่างหน้าตาไม่งดงาม ไม่เหมาะสมกับนายท่านจริง ๆ พ่ะย่ะค่ะ”“ไม่” องค์ชายหกหรี่ตา “ข้ามิได้เล่นสนุก”ยามที่อยูด้
ยังไม่ทันพูดคำว่า “สาม” ออกมา หลิงอวิ๋นจวินก็สะบัดนางออกอย่างแรงเขายกมือขึ้น ฝ่ามือหนึ่งตวัดลงบนใบหน้าหมิ่นจู “นังแพศยา เจ้ากล้าข่มขู่ข้ารึ!”“ข่มขู่? ข้าก็แค่ออกคำสั่งกับเจ้า หลิงอวิ๋นจวิน ข้า หมิ่นจู แทบจะทนรอสับเจ้าเป็นพันชิ้นหมื่นชิ้นไม่ไหว” หมิ่นจูถูกฝ่ามือนี้ตบอย่างแรงจนมีเลือดไหลนางใช้แขนเส
“ขอบคุณองค์ชายหกเพคะ” ในน้ำเสียงหมิ่นจูนั้นระคนเสียงสะอึกสะอื้นอยู่เล็กน้อย“คนโง่ ขอบคุณอันใดกัน” แววตาองค์ชายหกฉายถึงความตามใจ ความอบอุ่นนั้นคล้ายกับใบชาที่ก้นถ้วย เข้มข้นอย่างยากจะหาใดเปรียบได้ “เจ้าต้องดีขึ้นในเร็ววันสิถึงจะถูก”“หม่อมฉันคิดว่าองค์ชายหกรังเกียจร่างกายที่ป่วยมานานของหม่อมฉันแล้วเ
หมิ่นจูกลัวว่าเสียงดังจะไปรบกวนองค์ชายหกเข้า จึงพยายามกดเสียงลงอย่างสุดความสามารถนางล้วงยาออกมาจากในแขนเสื้อด้วยสองมือที่สั่นเทาเม็ดยากลิ้งไปบนพื้น นางหมอบคลานลง ใช้มืออันพ่ายผอมคว้าไปข้างหน้า ในระหว่างนั้นก็สะกดอาการไออย่างรุนแรงไว้ไม่อยู่ ต้องเปลืองแรงไปมากโขถึงคว้ายาเม็ดไว้ได้ยาเม็ดได้ระงับอาก
เมื่อเรื่องเกิดขึ้นแล้ว แน่นอนว่าพี่สามต้องรับผิดชอบแม้ว่าพี่สามจะโง่เขลา ไม่รู้เกี่ยวกับเรื่องนี้เลยสักนิด ทั้งยังรู้สึกภาคภูมิใจในตัวเอง ทว่า นี่มิได้หมายความว่าทุกคนจะมองหมากในกระดานไม่ออกหากพี่สามหวนกลับมาครุ่นคิดให้ถ่องแท้ขึ้นสักนิด หรือเสด็จพ่อตรวจสอบใหม่อีกครั้ง เขาที่ซุกซ่อนอยู่เบื้องหลัง
“จูเอ๋อร์ คิดถึงข้าบ้างไหม?”พร้อมกับเสียงกระทบกันของม่านลูกปัด มีคนเปิดม่านครู่ต่อมา บุรุษผู้มีดวงตาสีดอกท้อก็ย่างกรายเข้ามา“องค์ชายหก ท่านมาแล้ว” หมิ่นจูสูดดมกลิ่นที่คุ้นเคย แล้วหมุนกายไป เรียวคิ้วของนางเต็มไปด้วยความประหลาดใจ“วันนี้ไม่ได้พบจูเอ๋อร์ จูเอ๋อร์งดงามขึ้นอีกแล้ว”“จู้เอ๋อร์ชราและโรย
นี่ก็แสดงให้เห็นว่า ฉินเหยี่ยนเย่ว์ไม่ได้รับบทลงโทษร้ายแรงใดเลย“เรื่องนี้แปลกจริง ๆ ” หมิ่นจูพูดขึ้นนางเก่งเรื่องการให้เหตุและผล มีความรู้ด้านโหราศาสตร์ และอภิปรัชญาเป็นอย่างดีทักษะคุณไสยประเภทพิษกู่ก็พอรู้เล็กน้อยว่าตามเหตุผลแล้ว หลังจากที่นำชื่อ วันเกิด และดวงชะตาของฉินเหยี่ยนเย่ว์ไปทำพิธีกรร
ผ่านไปหลายวัน และปีใหม่ก็เข้ามาทุกทีถนน ตรอกซอกซอย โรงน้ำชา และร้านอาหารในเมืองเหวินจิงกำลังกระจายข่าวเกี่ยวกับสามเหตุการณ์สำคัญที่เกิดขึ้นในเมืองเหวินจิงเมื่อเร็ว ๆ นี้เหตุการณ์สำคัญแรก คือฉินเหยี่ยนเย่ว์ที่ทั้งโง่เขลาและชั่วร้ายแห่งสกุลฉินถูกลดขั้นจากพระชายาเอกไปเป็นอนุชายาข่าวนี้เป็นที่เล่าปาก
“ยาลูกกลอนนั้นมีผลทำให้คนตายกลับมามีชีวิตอีกครั้ง หม่อมฉันอยากจะผลิตเพิ่ม และเก็บไว้ใช้ในภายหลัง” ฉินเหยี่ยนเย่ว์กล่าวสิ่งนั้นยังใช้ได้ดีกว่าเครื่องมือกู้ชีพเสียอีก —— แม้ว่ามันจะฟังดูไร้สาระก็ตาม“นี่…” ตงฟางหลีขมวดคิ้ว “ยัยหนู หากเจ้าอยากจะทำยาลูกกลอนแบบนั้น จำไว้ว่าต้องลอบทำ หากมีการแพร่กระจายออ