กลางดึกค่อนคืน ภายในเรือนหลังเล็กกลับยังคงจุดไฟสว่างไสวไว้อยู่เช่นเคยครั้นหมิ่นจูเดินเข้ามา ก็ถูกบุรุษผู้มีนัยน์ตาดอกท้ออุ้มนางขึ้น“องค์ชายหก” หมิ่นจูกระมิดกระเมี้ยน สีหน้าแดงซ่าน “เลิกวุ่นวายได้แล้วเพคะ”องค์ชายหกสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนโน้มกายมาที่ข้าง ๆ หูของนาง “กลิ่นของจูเอ๋อร์หอมเหลือเกิน”ค
หญิงสาวตกใจจนตัวสั่นด้วยความหวาดกลัว รีบทำความเคารพ แล้วรีบจากไปผ่านไปได้ไม่นาน ก็มีคนมาเคาะประตู“ท่านอ๋องสาม ของว่างของท่านมาแล้วพ่ะย่ะค่ะ” ด้านนอกประตู มีเสียงของเสี่ยวเอ้อร์ดังขึ้น“ข้าไม่ต้องการของว่าง ไสหัวออกไป” ท่านอ๋องสามตะคอกเสียงดังเสี่ยวเอ้อร์เพิกเฉยราวกับไม่ได้ยิน เปิดประตูเข้ามาเหมือ
ท่านอ๋องสามมองดวงตาที่เป็นประกาย และท่าทีคันไม้คันมือของเขา ก็วางจอกสุราลงเบา ๆ “ไม่ผิด แหวนวงนั้นปรากฏขึ้นอีกครั้งแล้ว” “เป็นไปไม่ได้ หากสมบัติล้ำค่าเช่นนั้นปรากฏขึ้นมา ข้าจะต้องรู้อย่างแน่นอน แล้วเหตุใดแม้แต่ข่าวลือเพียงเล็กน้อยก็ยังไม่ได้ยินเลยเล่า?” เสี่ยวเอ้อร์เอ่ย “ปรากฏขึ้นที่ใด?”ยามที่เขาถ
“พูดเหลวไหลอันใด” ฉินเหยี่ยนเย่ว์อับจนหนทาง “หม่อมฉันเป็นหมอ ตั้งครรภ์หรือไม่ได้ตั้งครรภ์หม่อมฉันต้องรู้แน่นอน หม่อมฉันน่าจะกินของเสียมาเพคะ”“ของที่เจ้ากินข้าก็กินเหมือนกัน” ตงฟางหลีเอ่ยอย่างเป็นกังวล “ข้ามิเป็นอะไร แล้วเจ้าอาเจียนได้อย่างไร?”ฉินเหยี่ยนเย่ว์ก็สงสัยมากเช่นกันนับตั้งแต่คืนที่พระพั
ตงฟางหลีส่ายหน้า “เรื่องที่ยังไม่มีหลักฐาน ยังพูดได้ยาก”ครั้นฉินเหยี่ยนเย่ว์นึกถึงแผนการร้ายก็ปวดหัวจนทนไม่ไหว นางวางสมุดบัญชีไว้ด้วยกัน จนเกิดเป็นพื้นที่ว่างแห่งหนึ่ง แล้วเขียนแบบลวก ๆ “หม่อมฉันรู้สึกว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับพี่ใหญ่ ตั๋วเงินปลอมมาโผล่ขึ้นที่จวนสกุลฉิน หมิ่นอวี้น่าจะหนีความผิดไป
เดิมทีตงฟางหลีตั้งหน้าตั้งตารอการมาถึงของเขา ครั้นได้ยินคำพูดเหลวไหลของเขา ใบหน้าก็ดำทะมึนเจ้าลูกลิงของเขาย่อมมีเขาเป็นผู้สอน มีส่วนของตาเฒ่าลู่จิ้นเสียที่ใดกัน?ลู่จิ้นให้คนจอดรถม้า ก่อนจะตะโกนเรียกให้คนรับใช้สองคนยกของลงมาด้านในไม่ได้มีเพียงของบำรุงเท่านั้น ยังมีอาภรณ์ รวมถึงของเล่นเด็กด้วยอืม
ลู่จิ้นครุ่นคิดอย่างไรก็ไม่เข้าใจยามที่เขาตรวจชีพจรให้ศิษย์น้องหญิง นอกเสียจากไอเย็นเข้าแทรกในร่างกายแล้ว ก็ไม่มีโรคอื่นอีก“อาจจะได้รับความเย็น หรือว่ากระเพาะมีปัญหาก็ได้ ไม่มีอะไรร้ายแรงหรอกเพคะ” ฉินเหยี่ยนเย่ว์เอ่ย “ศิษย์พี่มาพอดี วันนี้อากาศมืดครึ้ม ไม่แน่ว่าหิมะอาจจะตกลงมาก็ได้ วันนี้จึงเหมาะท
ทั้งสองคนหาได้ตอบกลับไม่นางมองจีอู๋เยียนที่มีสมาธิจดจ่ออยู่กับการเล่นหมาก ก็ไร้คำจะเอ่ยอยู่บ้างในบางมุมท่านจอมมารว่าง่ายไม่สู้เด็กนักเรียน ความชอบพิเศษ นิสัยแปลกประหลาด และดำเนินการในด้านแปลก ๆ จนทำให้ผู้อื่นหมดคำพูด “พวกเราไม่ต้องสนใจพวกเขาแล้ว กินกันเถอะ” ฉินเหยี่ยนเย่ว์เรียกเหล่าคนรับใช้ให้นำเ
เหนื่อยมาก เหนื่อยจนเกียจคร้านจะขยับนิ้วด้วยซ้ำ ทว่า คุ้มค่ามาก!“ตงฟางหลี หม่อมฉันเหนื่อยนิดหน่อย ไปพักผ่อนก่อนนะเพคะ” หลังจากที่นางรู้สึกโล่งใจแล้ว สายที่ตึงนั้นก็ผ่อนคลายลงนางลุกขึ้นยืนลุกขึ้นได้ไม่นาน คนก็ล้มตัวโยนลงไปอีกครั้ง“ระวังตัวด้วย” ตงฟางหลีกอดนางอย่างรวดเร็ว“ไม่เป็นไรเพคะ” ฉินเหยี่ย
อากาศสงบนิ่ง และเงียบสงัดทุกคนในห้องต่างกลั้นหายใจและตั้งสมาธิลู่จิ้นถือหูฟังแพทย์ ตรวจการเต้นของหัวใจของพระสนมอวิ๋นอย่างถี่ถ้วนจังหวะหัวใจเต้นแทบจะไม่มีเลยสีหน้าของเขาเคร่งขรึม และฟังอย่างอดทนเวลาผ่านไปทีละเล็กน้อย ยังคงไม่มีการเต้นของหัวใจ“เฮ้อ” ลู่จิ้นถอนหายใจและวางหูฟังแพทย์ลง “บางที เป็นข
เริ่มแรกเดิมทีนางก็เคยสงสัยว่ายาลูกกลอนหมดอายุแล้ว ทว่าหลังจากคิดให้ดีว่า ด้วยนิสัยที่ระมัดระวังของปู่แล้ว ย่อมไม่ทำเรื่องเช่นนั้น“ศิษย์พี่ ท่านลองคิดดูดี ๆ เกี่ยวกับยาลูกกลอนนี้ ท่านลืมอะไรไปหรือไม่?”ลู่จิ้นบีบคางพลางครุ่นคิดยาลูกกลอนนี้ เขาเคยเห็นเพียงครั้งเดียวครั้งนั้นก็เป็นผู้ป่วยระยะสุดท้า
“มองผิดแล้วกระมัง” ตงฟางหลีอดไม่ได้ที่จะมองรูปลักษณ์ของพระสนมอวิ๋น ก่อนที่เขาจะหันหลังให้กับเตียง พลางเอ่ยด้วยน้ำเสียงหนักแน่น“หม่อมฉันได้กลิ่นจริง ๆ นะ” ฉินเหยี่ยนเย่ว์พึมพำนางตรวจทั่วทั้งร่างกายของพระสนมอวิ๋นแล้ว และรู้สึกว่ามีบางจุดต่างออกไปทว่าหลังจากตรวจอย่างละเอียดแล้ว กลับไม่พบสิ่งใดที่ต่า
“ตงฟางหลี” ฉินเหยี่ยนเย่ว์สาวเท้าเดินไปหยุดข้างกายเขา พลางจับมือเขาแน่น “หม่อมฉัน...”นางมีคำพูดมากมายที่ต้องการพูด ครั้นเห็นความเศร้าโศกในแววตารวมถึงใบหน้าซีดขาวของเขา สุดท้ายก็ต้องกลืนคำพูดกลับเข้าไปพระสนมอวิ๋นจากไปแล้ว ตงฟางหลีน่าจะโทษนางกระมัง“ขอโทษ” นางสูดจมูก“เจ้าไม่จำเป็นต้องขอโทษ” ตงฟางหล
ความรู้สึกต่าง ๆ นานา พวยพุ่งขึ้นมาในใจ จนทำให้ฮ่องเต้นัยน์ตาแดงก่ำร่างกายของเขา เปี่ยมล้นไปด้วยความเศร้า ความเจ็บปวด และความเสียใจ...แตกต่างไปจากความจริงจังในยามปกติ เขาในยามนี้ อ่อนแอจนดูเปราะบาง“เสด็จพ่อ” ฉินเหยี่ยนเย่ว์เห็นปฏิกิริยาของฮ่องเต้ผิดแปลกไป จึงหมายจะก้าวเข้าไปห้ามปราม“ออกไป”“เสด็
ผ่านไปเพียงไม่นาน ฮ่องเต้ก็อุ้มโถยาโถหนึ่งเดินเข้ามา“หาเจอแล้ว” เขาหยิบยาเม็ดที่บรรจุด้วยขี้ผึ้งออกมาจากโถยาหนึ่งเม็ด หลังจากเปิดขี้ผึ้งหนา ๆ ออกหนึ่งชั้นแล้ว ภายในยังห่อด้วยหีบห่อไว้อีกหนึ่งชั้นหีบห่อชั้นนั้น ก็คือลูกบอลพลาสติกที่อยู่ด้านนอกยาลูกกลอนน้ำผึ้งเม็ดใหญ่ครั้นเปิดลูกบอลพลาสติกออก ด้าน
ฮ่องเต้ยืนอยู่ห่างจากเจ้าสิ่งนั้นไม่ไกลมากเขามองสิ่งประหลาดชิ้นนั้นขยายตัวด้วยความเร็วที่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า หลังจากที่มันเจอกับเปลวไฟ พลันเผาไหม้กลายเป็นเถ้าถ่านในทันทีกลิ่นหอมประหลาดสายหนึ่งฟุ้งกระจายไปทั่วทั้งห้อง“ระบายอากาศเร็วเข้า” ฉินเหยี่ยนเย่ว์ตะโกนร้องหนึ่งคำ ฮ่องเต้รีบเปิดหน้าต
นางกำชับทุกคนให้เปลี่ยนอาภรณ์ให้เรียบร้อยแสงเทียนทั้งหมดกระจุกตัวกันอยู่ในจุด ๆ เดียวเมื่อแสงยังสว่างไม่มากพอ ฮ่องเต้จึงมีรับสั่งให้องครักษ์จื่ออวี๋นำไข่มุกราตรีในคลังเก็บสมบัติมาแสงสว่างของไข่มุกราตรีสะท้อนอยู่ภายในห้องจนดูคล้ายกับตอนกลางวันฉินเหยี่ยนเย่ว์มิสนใจพูดขอบคุณ หลังจากแบ่งงานกันอย่างช