ลู่จิ้นครุ่นคิดอย่างไรก็ไม่เข้าใจยามที่เขาตรวจชีพจรให้ศิษย์น้องหญิง นอกเสียจากไอเย็นเข้าแทรกในร่างกายแล้ว ก็ไม่มีโรคอื่นอีก“อาจจะได้รับความเย็น หรือว่ากระเพาะมีปัญหาก็ได้ ไม่มีอะไรร้ายแรงหรอกเพคะ” ฉินเหยี่ยนเย่ว์เอ่ย “ศิษย์พี่มาพอดี วันนี้อากาศมืดครึ้ม ไม่แน่ว่าหิมะอาจจะตกลงมาก็ได้ วันนี้จึงเหมาะท
ทั้งสองคนหาได้ตอบกลับไม่นางมองจีอู๋เยียนที่มีสมาธิจดจ่ออยู่กับการเล่นหมาก ก็ไร้คำจะเอ่ยอยู่บ้างในบางมุมท่านจอมมารว่าง่ายไม่สู้เด็กนักเรียน ความชอบพิเศษ นิสัยแปลกประหลาด และดำเนินการในด้านแปลก ๆ จนทำให้ผู้อื่นหมดคำพูด “พวกเราไม่ต้องสนใจพวกเขาแล้ว กินกันเถอะ” ฉินเหยี่ยนเย่ว์เรียกเหล่าคนรับใช้ให้นำเ
ลู่จิ้นลูบหนวดเครา “เกาะแห่งนั้นอันตรายนัก แม้จะเป็นจอมโจรก็ไม่มีทางมีชีวิตรอดมาได้ เขาหิวมานานหลายวันขนาดนั้น ทั้งยังกระโดดลงไปในทะเลที่มีจระเข้ออกล่าเหยื่อ คงไม่รอดแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นยุทธภพหรือว่าศาลาว่าการ ล้วนคิดว่าเขาได้ตายไปแล้ว”“ยังมีเบาะแสอื่นอีกหรือไม่?” ตงฟางหลีถาม“มี” ลูจิ้นมองไปรอบ ๆ
“หม่อมฉันไม่เป็นอะไรเพคะ” ฉินเหยี่ยนเย่ว์ตบมือของเขา “แค่ถูกน้ำร้อนที่กระเซ็นออกมาลวกเท่านั้นเอง ไม่นับว่าเป็นอะไร นิ้วก็ไม่ได้รับผลกระทบด้วย ดูสิเพคะ หม่อมฉันยังสวมแหวนได้อยู่”นางหยิบแหวนออกมา ขณะที่คิดจะสวมใส่นิ้วนั้น สีหน้าพลันเปลี่ยนไป“ตงฟางหลี แหวนวงนี้เป็นของปลอมเพคะ”ครั้นประโยคนี้เอ่ยออกมา
ตามที่ท่านปู่บอก การมีอยู่ของแหวนนั้นคล้ายคลึงกับชิป นักวิทยาศาสตร์ชั้นนำหลายสิบคนได้ระบุพิกัดนับไม่ถ้วนไว้ภายใน ประกอบขึ้นเป็นมิติขนาดเล็กที่สมบูรณ์สสารพิเศษบนแหวนสามารถบิดเบือนห้วงมิติได้ และยังเพิ่มฟังก์ชันการแยกแยะเข้าไปอีกด้วยลายนิ้วมือบนสมาร์ทโฟนนั้นยากที่จะแยกออก และแม้นางจะรู้ไม่ค่อยเข้าใจ
จอมโจรยิ่งคิดไม่ถึงว่า เขาขโมยของมาตลอดชีวิต สุดท้ายอาจจะพลาดท่าเพราะสิ่งของที่ขโมยไป“หากพวกเราเหวี่ยงตาข่ายขนาดใหญ่ บางทีอาจจับปลาตัวใหญ่มาก็ได้” นางสวมแหวนปลอมไว้บนนิ้วมือ แล้วมองมันภายใต้แสงไฟ “ของปลอมนี้ทำออกมาได้ดีมาก เหมือนของจริงมากเลยเพคะ หากไม่ใช่ว่าแหวนมีการปฏิบัติงานพิเศษ หม่อมฉันเองก็อา
“เป็นเช่นไร?” ตงฟางหลียิ้มอย่างชั่วร้ายฉินเหยี่ยนเย่ว์โยนทิ้งไปด้านข้าง ชะงักไปครู่หนึ่งก่อนจะพูดให้ความเห็น “ใต้เท้าท่านนี้มีความสามารถด้านวรรณกรรมไม่เลวเลย มีฝีมือในการใช้วาทศิลป์”รอยยิ้มบนมุมริมฝีปากของตงฟางหลีกว้างขึ้น “พูดยืดยาวคือความยุ่งยากของข้าราชการ เรื่องเช่นนี้ข้าขี้เกียจจะจำ”จุดสนใจข
ขณะที่พวกเขากำลังคุยเล่นและหัวเราะกันอยู่ ก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น“ท่านอ๋อง มีคนจากในวังมาพ่ะย่ะค่ะ” ตู้เหิงกล่าวน้ำเสียงทุ้มลึกอยู่นอกประตู“ในวัง?” ฉินเหยี่ยนเย่ว์มองดูสีท้องฟ้า ฟ้ามืดแล้ว และใกล้จะถึงเวลาเฝ้ายามประตูแล้วด้วย ในเวลานี้คนจากในวังมาด้วยเรื่องอันใดกัน?พวกเขาทั้งสองไม่กล้าหย่อนยาน
ฮ่องเต้นั่งลง และป้าฉายกชาเข้ามาเขายกชาขึ้นจิบเป็นชามะลิที่อวิ๋นเอ๋อร์ทำด้วยตัวเองกลิ่นหอมของชาดอกไม้ลอยเข้าจมูก และหลังจากไหลเข้าสู่ลำคอ รสหวานที่ค้างอยู่ในลำคอเป็นเวลานานหลังจากที่เขาลิ้มรสชาอย่างละเอียดลอออยู่นาน ถึงได้เหลือบมองไปที่ฉินเหยี่ยนเย่ว์อย่างเย็นชา “ลงโทษเจ้า?”“ลูกมีความผิด” ฉินเห
แม้ว่าฮ่องเต้จะมีประสบการณ์และความรู้กว้างขวาง ก็ยังคงตะลึงงันกับคำพูดนี้“เรื่องเช่นนี้ เป็นไปได้หรือ?” เขาพึมพำทำให้คนตายฟื้นคืนชีพ แม้แต่เทพเซียนเหนือกาลเวลาก็ไม่สามารถทำให้คนตายกลับมามีชีวิตได้อีกครั้งกระมัง“หม่อมฉันก็คิดว่ามันเป็นไปไม่ได้เช่นกันเพคะ” ฉินเหยี่ยนเย่ว์กล่าว “ทว่า เสด็จแม่ก็ทลายแ
ฮ่องเต้เหลือเชื่อยิ่งนักเขาคว้าข้อมือของนาง แล้วสัมผัสอยู่นาน ชีพจรเต้นช้าเล็กน้อย ทว่ายังเต้นอยู่พระสนมอวิ๋นหลับตาแน่น และใบหน้าแสนเสน่ห์แดงเข้มขึ้นเล็กน้อยเพราะแสงแดดนางเกิดมาก็งดงามมากแล้วท่ามกลางแสงอาทิตย์แผ่ปกคลุม สะท้อนรูปลักษณ์ที่งามหยาดเยิ้ม“อวิ๋นเอ๋อร์?” ฮ่องเต้เกร็งลำคอแน่นยังมีชีวิต
ลู่ซิวไปนอนบนขอบที่นอน ประสานมือไว้ด้านหลังศีรษะต่างหมอนเขาหลับตาลง พลางเอ่ยถามอย่างไม่เป็นทางการ “ท่านอ๋องเคยดีใจกับการตัดสินใจของตัวเองเมื่อกี่เดือนก่อนหรือไม่?”“อะไร?”“หลังจากเหตุการณ์นั้นในเทศกาลไหว้พระจันทร์เกิดขึ้น ทั่วทั้งเมืองอยู่ในความโกลาหล” ลู่ซิวตอบ “ท่านแต่งงานกับนางท่ามกลางด่านหน้าอ
เหนื่อยมาก เหนื่อยจนเกียจคร้านจะขยับนิ้วด้วยซ้ำ ทว่า คุ้มค่ามาก!“ตงฟางหลี หม่อมฉันเหนื่อยนิดหน่อย ไปพักผ่อนก่อนนะเพคะ” หลังจากที่นางรู้สึกโล่งใจแล้ว สายที่ตึงนั้นก็ผ่อนคลายลงนางลุกขึ้นยืนลุกขึ้นได้ไม่นาน คนก็ล้มตัวโยนลงไปอีกครั้ง“ระวังตัวด้วย” ตงฟางหลีกอดนางอย่างรวดเร็ว“ไม่เป็นไรเพคะ” ฉินเหยี่ย
อากาศสงบนิ่ง และเงียบสงัดทุกคนในห้องต่างกลั้นหายใจและตั้งสมาธิลู่จิ้นถือหูฟังแพทย์ ตรวจการเต้นของหัวใจของพระสนมอวิ๋นอย่างถี่ถ้วนจังหวะหัวใจเต้นแทบจะไม่มีเลยสีหน้าของเขาเคร่งขรึม และฟังอย่างอดทนเวลาผ่านไปทีละเล็กน้อย ยังคงไม่มีการเต้นของหัวใจ“เฮ้อ” ลู่จิ้นถอนหายใจและวางหูฟังแพทย์ลง “บางที เป็นข
เริ่มแรกเดิมทีนางก็เคยสงสัยว่ายาลูกกลอนหมดอายุแล้ว ทว่าหลังจากคิดให้ดีว่า ด้วยนิสัยที่ระมัดระวังของปู่แล้ว ย่อมไม่ทำเรื่องเช่นนั้น“ศิษย์พี่ ท่านลองคิดดูดี ๆ เกี่ยวกับยาลูกกลอนนี้ ท่านลืมอะไรไปหรือไม่?”ลู่จิ้นบีบคางพลางครุ่นคิดยาลูกกลอนนี้ เขาเคยเห็นเพียงครั้งเดียวครั้งนั้นก็เป็นผู้ป่วยระยะสุดท้า
“มองผิดแล้วกระมัง” ตงฟางหลีอดไม่ได้ที่จะมองรูปลักษณ์ของพระสนมอวิ๋น ก่อนที่เขาจะหันหลังให้กับเตียง พลางเอ่ยด้วยน้ำเสียงหนักแน่น“หม่อมฉันได้กลิ่นจริง ๆ นะ” ฉินเหยี่ยนเย่ว์พึมพำนางตรวจทั่วทั้งร่างกายของพระสนมอวิ๋นแล้ว และรู้สึกว่ามีบางจุดต่างออกไปทว่าหลังจากตรวจอย่างละเอียดแล้ว กลับไม่พบสิ่งใดที่ต่า
“ตงฟางหลี” ฉินเหยี่ยนเย่ว์สาวเท้าเดินไปหยุดข้างกายเขา พลางจับมือเขาแน่น “หม่อมฉัน...”นางมีคำพูดมากมายที่ต้องการพูด ครั้นเห็นความเศร้าโศกในแววตารวมถึงใบหน้าซีดขาวของเขา สุดท้ายก็ต้องกลืนคำพูดกลับเข้าไปพระสนมอวิ๋นจากไปแล้ว ตงฟางหลีน่าจะโทษนางกระมัง“ขอโทษ” นางสูดจมูก“เจ้าไม่จำเป็นต้องขอโทษ” ตงฟางหล