“หม่อมฉันไม่เป็นอะไรเพคะ” ฉินเหยี่ยนเย่ว์ตบมือของเขา “แค่ถูกน้ำร้อนที่กระเซ็นออกมาลวกเท่านั้นเอง ไม่นับว่าเป็นอะไร นิ้วก็ไม่ได้รับผลกระทบด้วย ดูสิเพคะ หม่อมฉันยังสวมแหวนได้อยู่”นางหยิบแหวนออกมา ขณะที่คิดจะสวมใส่นิ้วนั้น สีหน้าพลันเปลี่ยนไป“ตงฟางหลี แหวนวงนี้เป็นของปลอมเพคะ”ครั้นประโยคนี้เอ่ยออกมา
ตามที่ท่านปู่บอก การมีอยู่ของแหวนนั้นคล้ายคลึงกับชิป นักวิทยาศาสตร์ชั้นนำหลายสิบคนได้ระบุพิกัดนับไม่ถ้วนไว้ภายใน ประกอบขึ้นเป็นมิติขนาดเล็กที่สมบูรณ์สสารพิเศษบนแหวนสามารถบิดเบือนห้วงมิติได้ และยังเพิ่มฟังก์ชันการแยกแยะเข้าไปอีกด้วยลายนิ้วมือบนสมาร์ทโฟนนั้นยากที่จะแยกออก และแม้นางจะรู้ไม่ค่อยเข้าใจ
จอมโจรยิ่งคิดไม่ถึงว่า เขาขโมยของมาตลอดชีวิต สุดท้ายอาจจะพลาดท่าเพราะสิ่งของที่ขโมยไป“หากพวกเราเหวี่ยงตาข่ายขนาดใหญ่ บางทีอาจจับปลาตัวใหญ่มาก็ได้” นางสวมแหวนปลอมไว้บนนิ้วมือ แล้วมองมันภายใต้แสงไฟ “ของปลอมนี้ทำออกมาได้ดีมาก เหมือนของจริงมากเลยเพคะ หากไม่ใช่ว่าแหวนมีการปฏิบัติงานพิเศษ หม่อมฉันเองก็อา
“เป็นเช่นไร?” ตงฟางหลียิ้มอย่างชั่วร้ายฉินเหยี่ยนเย่ว์โยนทิ้งไปด้านข้าง ชะงักไปครู่หนึ่งก่อนจะพูดให้ความเห็น “ใต้เท้าท่านนี้มีความสามารถด้านวรรณกรรมไม่เลวเลย มีฝีมือในการใช้วาทศิลป์”รอยยิ้มบนมุมริมฝีปากของตงฟางหลีกว้างขึ้น “พูดยืดยาวคือความยุ่งยากของข้าราชการ เรื่องเช่นนี้ข้าขี้เกียจจะจำ”จุดสนใจข
ขณะที่พวกเขากำลังคุยเล่นและหัวเราะกันอยู่ ก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น“ท่านอ๋อง มีคนจากในวังมาพ่ะย่ะค่ะ” ตู้เหิงกล่าวน้ำเสียงทุ้มลึกอยู่นอกประตู“ในวัง?” ฉินเหยี่ยนเย่ว์มองดูสีท้องฟ้า ฟ้ามืดแล้ว และใกล้จะถึงเวลาเฝ้ายามประตูแล้วด้วย ในเวลานี้คนจากในวังมาด้วยเรื่องอันใดกัน?พวกเขาทั้งสองไม่กล้าหย่อนยาน
“ปัญหาอยู่ที่ตรงนี้” ตงฟางหลีเอ่ยขึ้น “แหวนของพระพันปีหายไปหลังจากที่เจ้าช่วยรักษาอาการป่วยให้พระนาง ทุกคนที่ใกล้ชิดกับพระพันปีได้ทำการค้นหาแล้วแต่ไม่พบแหวน ตอนนี้เหลือเพียงเจ้า”พระพันปีผู้นั้นเป็นผู้ที่ปกป้องลูกหลานได้อย่างดีเยี่ยมแม้ว่าเหยี่ยนเย่ว์จะช่วยกู้ชีวิตของนางได้ ทว่านางกลับตำหนิเหยี่ยนเ
สายตาของตงฟางหลีมองฉินเหยี่ยนเย่ว์อย่างแผ่วเบา แทบจะเอ่ยด้วยเสียงรอดช่องไรฟันออกมา “เจ้าช่วยไล่ท่านป้าออกไปได้ไหม?”“ท่านโง่หรือ?” ฉินเหยี่ยนเย่ว์แตะคิ้วของเขาพลางหัวเราะเบา ๆ “วางหม่อมฉันลง แล้วท่านไปคนเดียวเถิดเพคะ”ตงฟางหลีอุ้มนางเบา ๆ สักพักก่อนจะไปอาบน้ำฉินเหยี่ยนเย่ว์กำลังนอนหงายอยู่บนผ้าห่มท
“ท่านอ๋องโกรธหรือ?” ตู้จ้งสงสัย “ทำไม?”ตู้เหิงมองตู้จ้งโดยอับจนคำพูด “พี่ ไม่แปลกใจเลยที่ท่านอายุสามสิบแล้วแต่ยังไม่มีภรรยา ท่านตาไร้แววเสียจริง ไม่ว่าท่านอ๋องสามจะดิ้นรนเพื่อเอาตัวรอดแค่ไหนก็หมดหนทางรอดแล้ว ปล่อยไปไม่สนใจก็พอแล้ว ท่านบอกเรื่องนี้กับท่านอ๋องมิใช่ว่าสร้างปัญหาให้เขาหรือ?”“เพราะเหตุ
ความเป็นไปได้มากที่สุด คือพี่ใหญ่ใช้ประโยชน์จากทาสเป่ยลู่คนนั้น ทำเรื่องที่มิอาจเปิดเผยได้เหล่านั้นอยู่ที่นี่หากเป็นเหตุผลเช่นนี้ เบาะแสทุกอย่างล้วนราบรื่นแล้วตงฟางหลีเดินอ้อมห้องอีกหนึ่งรอบใช้มือสัมผัสและเคาะสิ่งของที่น่าสงสัยทั้งหมดเบา ๆ ไปหนึ่งรอบน่าเสียดาย ที่หาร่องรอยของห้องลับไม่เจอ“จางฉู
ตงฟางหลีพยุงตัวกับราวบันได ใบหน้าหล่อเหลานั้นซีดเผือดหากเป็นน้ำพุจริง ๆ ไม่เพียงแต่รสนิยมเลวร้าย มิหนำซ้ำยังส่งกลิ่นเหม็นจนทำให้คนเดือดดาลจางฉู่ส่ายหน้า “มิทราบได้พ่ะย่ะค่ะ แทนที่จะบอกว่าเป็นน้ำพุ มิสู้บอกว่า พวกมันดูเหมือนเสาค้ำยันศาลามากกว่า ที่แห่งนี้เป็นที่ที่เฉียนอ๋องสร้างขึ้นกับมือเพื่ออนุภร
ในแววตาเขาไร้คลื่นลม และน้ำเสียงก็ราบเรียบมากเช่นกันเฟยอิ่งลอบขมวดคิ้วแน่นเขารู้จักจางฉู่มาแต่ไหนแต่ไร จางฉู่มีนิสัยเย็นชา กระทำการสุขุมหนักแน่น ไตร่ตรองพิจารณารอบด้าน มิใช่คนที่มุทะลุบุ่มบ่ามพรรค์นั้นหากแต่พฤตกรรมครานี้ ผิดแปลกไปอย่างแท้จริงแปลกไปจนมิคล้ายกับเป็นจางฉู่ตัวจริงเฟยอิ่งยิ่งคิดก็ยิ
ตงฟางหลีเดิมทีก็มีโรครักความสะอาดอยู่แล้ว ทนรับกลิ่นแปลกประหลาดเช่นนี้ไม่ได้ที่สุดยามที่กลิ่นเหม็นเน่าสายนั้นถาโถมเข้ามา เขาถึงกับอดถอยหลังไปหลายก้าวไม่ได้ ภายในกระเพาะประหนึ่งพลิกแม่น้ำล้มมหาสมุทรก็มิปานเขารีบล้วงหาผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาปิดจมูก สะกดความรู้สึกขยะแขยงลงไปเฟยอิ่งเองก็ถูกความรู้สึกน่ารัง
“เหตุผลที่คุณหนูเซียวหย่ากับพี่ใหญ่ เป็นเพราะว่าพี่ใหญ่สังหารลูกของพวกเขาเองกับมือ” ตงฟางหลีพูดต่อไป “ที่นางมิสามารถตั้งครรภ์มาโดยตลอด ก็เป็นการขัดขวางของพี่ใหญ่เช่นกัน”“พี่ใหญ่คิดว่าการตายของทาสเป่ยลู่เกี่ยวข้องกับคุณหนูเซียว จึงเอาโทสะมาระบายใส่คุณหนูเซียว คุณหนูเซียวที่ลุ่มหลงในความรักอย่างลึกซึ
บนใบหน้าเย็นชาและแน่วแน่นั้น เผยให้เห็นถึงสีหน้าไม่น่าดูเป็นอย่างยิ่งร่างกายสูงใหญ่ของเขาถอยหลังไปอย่างไร้ร่องรอย น้ำเสียงนั้นทั้งลำบากใจทั้งเจ็บปวด “หวั่นเอ๋อร์...ไม่สิ พระชายาเฉียนจากไปแล้ว และคงไม่มีวันกลับมาอีกแล้วพ่ะย่ะค่ะ”“เรือนบุปผาหาได้มีผู้ใดอยู่ไม่ เชิญท่านอ๋องเจ็ดกลับไปเถิด”ยามที่จางฉู
ยิ่งเวลาผ่านไปนานเท่าใด เวลาที่เหยี่ยนเย่ว์จะได้รับความทรมานก็จะยิ่งนานมากขึ้นเท่านั้นยามที่ความคิดนี้ผุดขึ้นมา หน้าผากตงฟางหลีถึงกับเต้นตุบ ๆ โดยไม่รู้ตัวไม่รู้ว่าเป็นความรู้สึกไปเองหรือไม่เขามักจะรู้สึกว่า แม้ว่ายัยหนูของเขาจะพลั้งเผลอถูกคนลักพาตัวไปทว่า มิใช่สตรีที่จะปล่อยให้ผู้อื่นเข่นฆ่าได้
ขณะเดียวกันภายในหอฉยงฮวาใบหน้าตงฟางหลีดำทะมึนนิ้วของเขาเคาะที่โต๊ะเบา ๆหลังจากคาดเดาได้ว่าเหยี่ยนเย่ว์อาจถูกเฉียนอ๋องลักพาตัวไปเขากลัวว่าหากเข้าไปหาตรง ๆ จะเป็นการแหวกหญ้าให้งูตื่นกลัวว่าหลังจากพี่ใหญ่ที่มีนิสัยวิปริตเช่นนั้นถูกกระตุ้นเข้า จะทำอันตรายต่อเหยี่ยนเย่ว์ดังนั้น จึงมาที่หอฉยงฮวาก่อ
ท่ามกลางการนองเลือดพร่าเลือน เขาตกตะลึงและเผยสีหน้าเหลือเชื่อ “เจ้ารู้ได้เยี่ยงไร?”“ดูเหมือนข้าจะเดาถูก” ฉินเหยี่ยนเย่ว์เย้ยหยันเดิมทีนางไม่แน่ใจนัก และอยากหลอกลวงเขาคิดไม่ถึงว่าการหลอกลวงจะประสบผลสำเร็จในครั้งเดียวการกระทำโหดเหี้ยมเกิดขึ้นที่ก้นทะเลสาบ ช่างเข้ากับนิสัยวิปริตนี้จริง ๆ“เจ้ารู้ได