ฉินเหยี่ยนเย่ว์มองกลุ่มคนที่หน้าประตูสวนฝูหรง พลันถอนหายใจยาวออกมาเฮือกหนึ่งในฐานะที่เป็นสตรีเหมือนกัน นางไม่คิดจะใช้วิธีเช่นนี้มาทำให้ฉินปี้เย่ว์ต้องทำลายตัวเองจริง ๆ ทว่า เรื่องก็ได้เกิดขึ้นแล้ว จะแก้ไขได้หรือไม่นั้น ทั้งหมดต้องอาศัยฮูหยินรองและตัวฉินปี้เย่ว์เองนางเดินทะลุผ่านกลุ่มคนไปด้วยสีหน้
“ฉินเหยี่ยนเย่ว์ ข้าจะสู้สุดชีวิตกับเจ้า” ฮูหยินรองที่เสียสติไปแล้วนั้น ส่งเสียงกรีดร้องอย่างบ้าคลั่ง “เจ้าโหดเหี้ยมเกินไปแล้ว เจ้าทำลายใบหน้าของปี้เอ๋อร์ยังไม่พอ เจ้ายังทำลายชีวิตของนางจนหมดสิ้นอีก”นางฉีกทึ้งมาทางฉินเหยี่ยนเย่ว์เฝ่ยชุ่ยเห็นสถานการณ์ไม่ดี จึงรีบเข้ามาขวางหน้าฉินเหยี่ยนเย่ว์นางมีเ
ฮูหยินรองมิอยากจะเชื่อเฝ่ยชุ่ยที่นอบน้อมคนนั้น เฝ่ยชุ่ยที่ปล่อยให้ใครก็ได้กลั่นแกล้งรังแกคนนั้น เปลี่ยนไปเป็นโหดร้ายถึงเพียงนี้ได้อย่างไร?กลิ่นอายบนตัวเฝ่ยชุ่ยน่าพรั่นพรึงอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน“เฝ่ยชุ่ย เจ้ามันนังชั่นต่ำ...” นางก่นด่าด้วยความเคยชินเพี๊ยะ!เฝ่ยชุ่ยตวัดหนึ่งฝ่ามือไป “ฮูหยินรอง ท่า
“ถุย ถุย” ฮูหยินรองบังคับให้ตนเองสงบจิตใจเอาไว้ “เจ้าเป็นอันใด? ถึงได้กล้าพูดจาเช่นนี้กับข้า ข้าบอกว่าไม่รู้จักก็ไม่รู้จักสิ”“ใครก็ได้ พวกเจ้าเป็นคนตายไปหมดแล้วหรืออย่างไร? รีบมาเร็ว แล่หนังคนชั้นต่ำคนนี้และฉินเหยี่ยนเย่ว์นังคนป่านั่นเป็นหมื่น ๆ ชิ้นเสีย” เฝ่ยชุ่ยได้ยินนางกล่าววาจาสกปรก ก็หมายจะเข
“เหยี่ยนเย่ว์” ฉินอี้ใบหน้าเย็นชา “เจ้าพูดความจริงกับข้ามา เรื่องนี้เจ้าเป็นคนลงมือทำใช่หรือไม่?”ฉินเหยี่ยนเย่ว์มองเขาพลางยิ้มคล้ายไม่ยิ้มออกมา “ใต้เท้าฉินคิดว่าอย่างไรหรือ?”“ฉินเหยี่ยนเย่ว์ เป็นเพราะเจ้า ปี้เอ๋อร์ถึงได้กลายเป็นเช่นนี้ ล้วนเป็นเจ้าที่ทำขึ้นมาด้วยตัวคนเดียว เจ้ามันเป็นหญิงอสรพิษ ป
ฉินอี้ถูกท่าทีของนางกระตุ้นจนสีหน้าคล้ำเขียวเขาไม่ค่อยเข้าใจนัก บุตรคนโตที่ว่านอนสอนง่ายมาโดยตลอด เหตุใดถึงกลายเป็นคนที่มีหนามแหลมรอบกายไปแล้ว?“นายท่าน จะต้องเป็นนางแน่นอน” ฮูหยินรองเห็นว่าฉินเหยี่ยนเย่ว์ขัดแย้งกับฉินอี้แล้ว ก็ไม่ปล่อยให้โอกาสใด ๆ ทิ้งไป “หากนางมิใช่คนทำ นางก็จะยอมรับอย่างตรงไปตรง
“ข้าไม่มีน้องสาว” ฉินเหยี่ยนเย่ว์ขัดจังหวะเขา “ใต้เท้าฉิน ท่านโปรดแยกแยะให้ชัดเจนด้วย ลูกของท่านกับหมิ่นอวี้มิเกี่ยวข้องกับข้า ท่านแม่ของข้าจากไปเร็ว จึงยังมิทันคลอดน้องสาวให้ข้า”“เจ้า!” ฉินอี้โมโหจนสีหน้าคล้ำเขียว “เหยี่ยนเย่ว์ เจ้าบอกข้ามา เหตุใดเจ้าต้องทำเยี่ยงนี้ด้วย? เพียงเพราะสวนลั่วเสียถูกทำ
ฉินอี้ได้ยินฉินเหยี่ยนเย่ว์เรียกตนเองว่าเด็กกำพร้า ร่างกายพลันสั่นไม่หยุด ก่อนจะเอ่ยตะคอกด้วยความโกรธเคือง “เหยี่ยนเย่ว์ นี่เจ้าตัดสินใจที่จะตัดความสัมพันธ์กับข้าหรือ?”ประกายในแววตาฉินเหยี่ยนเย่ว์เย็นยะเยือกดั่งดวงดาวที่อยู่ห่างไกลออกไปมิใช่นางคิดจะสะบั้นความสัมพันธ์ หากเป็นเพราะ นางและฉินอี้เดิมก
เหนื่อยมาก เหนื่อยจนเกียจคร้านจะขยับนิ้วด้วยซ้ำ ทว่า คุ้มค่ามาก!“ตงฟางหลี หม่อมฉันเหนื่อยนิดหน่อย ไปพักผ่อนก่อนนะเพคะ” หลังจากที่นางรู้สึกโล่งใจแล้ว สายที่ตึงนั้นก็ผ่อนคลายลงนางลุกขึ้นยืนลุกขึ้นได้ไม่นาน คนก็ล้มตัวโยนลงไปอีกครั้ง“ระวังตัวด้วย” ตงฟางหลีกอดนางอย่างรวดเร็ว“ไม่เป็นไรเพคะ” ฉินเหยี่ย
อากาศสงบนิ่ง และเงียบสงัดทุกคนในห้องต่างกลั้นหายใจและตั้งสมาธิลู่จิ้นถือหูฟังแพทย์ ตรวจการเต้นของหัวใจของพระสนมอวิ๋นอย่างถี่ถ้วนจังหวะหัวใจเต้นแทบจะไม่มีเลยสีหน้าของเขาเคร่งขรึม และฟังอย่างอดทนเวลาผ่านไปทีละเล็กน้อย ยังคงไม่มีการเต้นของหัวใจ“เฮ้อ” ลู่จิ้นถอนหายใจและวางหูฟังแพทย์ลง “บางที เป็นข
เริ่มแรกเดิมทีนางก็เคยสงสัยว่ายาลูกกลอนหมดอายุแล้ว ทว่าหลังจากคิดให้ดีว่า ด้วยนิสัยที่ระมัดระวังของปู่แล้ว ย่อมไม่ทำเรื่องเช่นนั้น“ศิษย์พี่ ท่านลองคิดดูดี ๆ เกี่ยวกับยาลูกกลอนนี้ ท่านลืมอะไรไปหรือไม่?”ลู่จิ้นบีบคางพลางครุ่นคิดยาลูกกลอนนี้ เขาเคยเห็นเพียงครั้งเดียวครั้งนั้นก็เป็นผู้ป่วยระยะสุดท้า
“มองผิดแล้วกระมัง” ตงฟางหลีอดไม่ได้ที่จะมองรูปลักษณ์ของพระสนมอวิ๋น ก่อนที่เขาจะหันหลังให้กับเตียง พลางเอ่ยด้วยน้ำเสียงหนักแน่น“หม่อมฉันได้กลิ่นจริง ๆ นะ” ฉินเหยี่ยนเย่ว์พึมพำนางตรวจทั่วทั้งร่างกายของพระสนมอวิ๋นแล้ว และรู้สึกว่ามีบางจุดต่างออกไปทว่าหลังจากตรวจอย่างละเอียดแล้ว กลับไม่พบสิ่งใดที่ต่า
“ตงฟางหลี” ฉินเหยี่ยนเย่ว์สาวเท้าเดินไปหยุดข้างกายเขา พลางจับมือเขาแน่น “หม่อมฉัน...”นางมีคำพูดมากมายที่ต้องการพูด ครั้นเห็นความเศร้าโศกในแววตารวมถึงใบหน้าซีดขาวของเขา สุดท้ายก็ต้องกลืนคำพูดกลับเข้าไปพระสนมอวิ๋นจากไปแล้ว ตงฟางหลีน่าจะโทษนางกระมัง“ขอโทษ” นางสูดจมูก“เจ้าไม่จำเป็นต้องขอโทษ” ตงฟางหล
ความรู้สึกต่าง ๆ นานา พวยพุ่งขึ้นมาในใจ จนทำให้ฮ่องเต้นัยน์ตาแดงก่ำร่างกายของเขา เปี่ยมล้นไปด้วยความเศร้า ความเจ็บปวด และความเสียใจ...แตกต่างไปจากความจริงจังในยามปกติ เขาในยามนี้ อ่อนแอจนดูเปราะบาง“เสด็จพ่อ” ฉินเหยี่ยนเย่ว์เห็นปฏิกิริยาของฮ่องเต้ผิดแปลกไป จึงหมายจะก้าวเข้าไปห้ามปราม“ออกไป”“เสด็
ผ่านไปเพียงไม่นาน ฮ่องเต้ก็อุ้มโถยาโถหนึ่งเดินเข้ามา“หาเจอแล้ว” เขาหยิบยาเม็ดที่บรรจุด้วยขี้ผึ้งออกมาจากโถยาหนึ่งเม็ด หลังจากเปิดขี้ผึ้งหนา ๆ ออกหนึ่งชั้นแล้ว ภายในยังห่อด้วยหีบห่อไว้อีกหนึ่งชั้นหีบห่อชั้นนั้น ก็คือลูกบอลพลาสติกที่อยู่ด้านนอกยาลูกกลอนน้ำผึ้งเม็ดใหญ่ครั้นเปิดลูกบอลพลาสติกออก ด้าน
ฮ่องเต้ยืนอยู่ห่างจากเจ้าสิ่งนั้นไม่ไกลมากเขามองสิ่งประหลาดชิ้นนั้นขยายตัวด้วยความเร็วที่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า หลังจากที่มันเจอกับเปลวไฟ พลันเผาไหม้กลายเป็นเถ้าถ่านในทันทีกลิ่นหอมประหลาดสายหนึ่งฟุ้งกระจายไปทั่วทั้งห้อง“ระบายอากาศเร็วเข้า” ฉินเหยี่ยนเย่ว์ตะโกนร้องหนึ่งคำ ฮ่องเต้รีบเปิดหน้าต
นางกำชับทุกคนให้เปลี่ยนอาภรณ์ให้เรียบร้อยแสงเทียนทั้งหมดกระจุกตัวกันอยู่ในจุด ๆ เดียวเมื่อแสงยังสว่างไม่มากพอ ฮ่องเต้จึงมีรับสั่งให้องครักษ์จื่ออวี๋นำไข่มุกราตรีในคลังเก็บสมบัติมาแสงสว่างของไข่มุกราตรีสะท้อนอยู่ภายในห้องจนดูคล้ายกับตอนกลางวันฉินเหยี่ยนเย่ว์มิสนใจพูดขอบคุณ หลังจากแบ่งงานกันอย่างช