ฉินอี้มองลูกสาวคนนี้ไม่ออกเลยเด็กคนนี้ต่างไปจากเมื่อก่อนอย่างสิ้นเชิงโดยเฉพาะความเย็นชาในดวงตาของนาง แม้จะเป็นเขา ก็ยังรู้สึกว่ามันน่ากลัวฉินปี้เย่ว์ถูกตบสามครั้งในเวลาอันสั้น โดยเฉพาะครั้งที่สาม สมองของนางถูกตบอย่างแรงจนมึนงง ไม่สามารถตอบสนองได้เป็นเวลานานสมองสับสน ใบหน้าทั้งเจ็บทั้งคัน นางเกาใ
คำพูดร่ายยาวเหยียดของฉินเหยี่ยนเย่ว์หยุดคำพูดทั้งหมดของฉินอี้ ชั่วขณะหนึ่ง กลับไม่รู้จะพูดอะไรออกมาดี“ฉินเหยี่ยนเย่ว์ ข้าจะสู้กับท่าน นังคนแพศยา คนโง่เง่า” ความเจ็บปวดบนใบหน้าของฉินปี้เย่ว์แปรเปลี่ยนเป็นอาการคัน เล็บข่วนเกาแก้ม บนมือเต็มไปด้วยเลือด เกรงว่าใบหน้าของนางจะถูกทำลายไปแล้วเมื่อนางคิดว่า
“เจ้า!” ฮูหยินรองทั้งโมโหทั้งร้อนใจ อยากจะฉีกทึ้งฉินเหยี่ยนเย่ว์เป็นชิ้น ๆ แต่กลัวว่าฉินปี้เย่ว์จะเสียโฉมเข้าจริง ๆ จึงไม่สนใจที่จะฉีกทึ้งฉินเหยี่ยนเย่ว์แล้วรีบพาฉินปี้เย่ว์กลับเรือนไปหลังจากผู้คนที่เกะกะขวางทางจากไปแล้ว จึงเหลือเพียงฉินอี้และฉินเหยี่ยนเย่ว์เท่านั้นสีหน้าที่เผยออกมาของฉินอี้ค่อนข้
ในที่สุดนางก็โยนตะบันไฟลงบนน้ำมันสนน้ำมันสนถูกจุดไฟขึ้น ในไม่ช้าลานเรือนก็กลายเป็นทะเลเพลิง ลิ้นเปลวไฟทะยานขึ้นสูง เปลวไฟที่ค่อย ๆ รุกคืบราวมังกรแหวกว่ายน้ำและลัดเลาะไปทั่วลานเรือน กระทั่งกลืนกินทุกอย่างในลานเรือนนี้ไฟลุกลามกลายเป็นดอกไม้ไฟบานสะพรั่ง เผาผลาญความเละเทะ เผาไหม้เต็มกำลัง แผดเผาความเศ
ฉินเหยี่ยนเย่ว์ฟังเสียงขลุ่ยอันแสนเศร้านี้พลางกอดอกกลิ่นอายเศร้าสร้อยที่กำจายออกมาจากตัวของฉินอี้ มิใช่ของปลอม เขารักท่านแม่และเรือนนี้อย่างสุดซึ้งทว่า สิ่งเหล่านี้จะมีประโยชน์อะไรอีก?คนตายไปแล้ว เรือนถูกทำลายไปแล้ว ไม่ว่าจะโศกเศร้าแค่ไหนก็เป็นเพียงความประทับใจในตนเองที่ได้หลอกตัวเองและผู้อื่นเท่
ฉินเหยี่ยนเย่ว์มุ่นคิ้วแม้ว่านางจะไม่เห็นด้วยกับการกระทำของฉินอี้ แต่ไม่คิดว่าเขาจะโกหกหมิ่นอวี้ให้กำเนิดบุตรติดต่อกัน ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าสงสัยมากจริง ๆ“ท่านมิรู้สึกถึงความแตกต่างเลยหรือ?” ฉินเหยี่ยนเย่ว์ถามฉินอี้ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง “ก็มีบ้างน่ะ แต่...”“ความแตกต่างคืออะไร?” ฉินเหยี่ยนเย่ว์ถา
ฉินเหยี่ยนเย่ว์หยัดกายลุกขึ้นยืน ปัดเศษฝุ่นที่เกาะติดอยู่ตามร่างกายนางล้วงหาอะไรบางอย่างจากในแขนเสื้อ ก่อนจะหาขวดยาขวดเล็กเจอ“ให้ท่าน” นางเอ่ย“สิ่งนี้คืออะไร?”“ยาถอนพิษ หากท่านรู้สึกว่าจิตใจถูกควบคุมหรือตอนที่รู้สึกไม่ชอบมาพากล ก็ให้หยิบขึ้นมากินหนึ่งเม็ด บางที อาจจะมีเรื่องสนุกเกิดขึ้นก็ได้เจ้า
“พวกเราไปสวนจิ่นซิ่วกัน” นางก้าวเท้าเดินไปข้างหน้าโดยไม่หันหลังกลับเฝ่ยชุ่ยยืนถอนหายใจอยู่เป็นนาน ก่อนจะตามไปอย่างรีบร้อน......ขณะเดียวกัน ในเรือนพักของฮูหยินรองหมอกำลังทำความสะอาดบาดแผลบนใบหน้าของฉินปี้เย่ว์“ฮูหยิน ใบหน้าของคุณหนูมิอาจลดบวมได้ น่าจะโดนพิษมา” เขากล่าว“โดนพิษ?” ฮูหยินรองขมวดคิ้
นางกำชับทุกคนให้เปลี่ยนอาภรณ์ให้เรียบร้อยแสงเทียนทั้งหมดกระจุกตัวกันอยู่ในจุด ๆ เดียวเมื่อแสงยังสว่างไม่มากพอ ฮ่องเต้จึงมีรับสั่งให้องครักษ์จื่ออวี๋นำไข่มุกราตรีในคลังเก็บสมบัติมาแสงสว่างของไข่มุกราตรีสะท้อนอยู่ภายในห้องจนดูคล้ายกับตอนกลางวันฉินเหยี่ยนเย่ว์มิสนใจพูดขอบคุณ หลังจากแบ่งงานกันอย่างช
ฉินเหยี่ยนเย่ว์รู้สึกลำบากใจยิ่งนักในสายตานาง เทียบกับชีวิตแล้ว ความเป็นส่วนตัวเท่านี้ไม่นับว่าเป็นอันใดด้วยซ้ำ“ป้าฉา บางครั้งเจ้ามิอาจเข้าใจได้ ทว่าข้ายังจะต้องบอกกับเจ้าว่า ในระหว่างขั้นตอนการผ่าตัด ต่อให้สวมอาภรณ์ก็จำเป็นต้องตัดทิ้ง โดยเฉพาะสถานการณ์ในยามนี้นั้นยากลำบากยิ่งนัก”การผ่าตัดเปิดช่อ
นางจับข้อมือของพระสนมอวิ๋น หากแต่ยังไร้ชีพจร หัวใจก็แทบหยุดเต้น “เสด็จแม่ ขอประทานอภัยเพคะ” ฉินเหยี่ยนเย่ว์รู้สึกผิดอย่างยิ่งยวดนางรู้มาตั้งแต่เนิ่น ๆ แล้วว่าพระสนมอวิ๋นสุขภาพไม่ดี ควรจะเตรียมการให้รอบด้านถึงจะถูกนางมั่นใจในตัวเองมากเกินไป มิได้คำนึงว่ากระเพาะอาหารจะยังมีแมลงพิษกู่ด้วยเช่นกัน จึง
ฮ่องเต้ทรงกุมมือของพระสนมอวิ๋นแน่น“เรื่องเช่นนั้น สามารถทำได้หรือ?” เขามองพระสนมอวิ๋นที่อ่อนแรง ก่อนตรัสถามด้วยเสียงเบาทำเอาฉินเหยี่ยนเย่ว์ถอนหายใจยาวเหยียดตามหลักแล้วทำไม่ได้พระสนมอวิ๋นมีความดันโลหิตต่ำ ชีพจรแทบจะไม่มี ไม่เหมาะจะฉีดยาชา และไม่เหมาะจะทำการผ่าตัดเช่นกันโดยเฉพาะอย่างยิ่ง เงื่อนไข
หากมิใช่เพราะนางยังสามารถสัมผัสได้ถึงชีพจรที่เต้นอย่างอ่อนแรง ก็แทบจะคิดว่าพระสนมอวิ๋นตายไปแล้วต้องเกิดปัญหาขึ้นที่ไหนสักที่!ฉินเหยี่ยนเย่ว์กำมือแน่น สมองหมุนวนอย่างรวดเร็วก่อนที่จะกำจัดกู่นั้น นางได้ตรวจร่างกายของพระสนมอวิ๋นแล้ว นอกเสียจากถูกพิษกู่กัดกร่อนจนทำให้รู้สึกเจ็บปวดร่างกาย แล้ว ก็มีเพี
ฉินเหยี่ยนเย่ว์ถึงกับสะดุ้งตกใจจะเป็นไปได้อย่างไร?พระสนมอวิ๋นจะไม่หายใจได้อย่างไร!หลังจากขับแมลงพิษกู่ออกมา แม้ชีพจรของพระสนมอวิ๋นจะอ่อนแรง หากแต่ไม่มีอันตรายถึงชีวิตอันตรายถึงแก่ชีวิตที่แท้จริงคือขั้นตอนต่อไปต่างหากนางสาวเท้าเข้าไปหยุดที่ข้างกายพระสนมอวิ๋นอย่างรวดเร็ว นิ้วก็สัมผัสชีพจรของพระสน
“จับได้แล้วหรือเพคะ?” ป้าฉาไม่อยากจะเชื่อ“อืม” ฉินเหยี่ยนเย่ว์สูดลมหยใจเข้าลึกจับได้แล้ว!ในลัทธิเต๋า มีคำพูดที่ว่าโคจรรอบเสี่ยวโจวเทียนและโคจรรอบต้าโจวเทียนสิ่งที่เรียกว่าโคจรรอบต้าโจวเทียนก็คือการโคจรพลังชี่ไหลไปรอบ ๆ ร่างกายหนึ่งรอบใหญ่โคจรรอบเสี่ยวโจวเทียน คือพลังชี่ออกจากจุดตันเถียนล่าง ผ่า
อุณหภูมิของยากำลังพอดีพระสนมอวิ๋นถอดอาภรณ์ออกอย่างช้า ๆ การถอดอาภรณ์ต่อหน้าลูกสะใภ้ ทำเอานางรู้สึกเขินอายเอามาก ๆ จึงใช้มือบังเอาไว้ ก่อนจะเดินเข้าไปด้วยความขัดเขิน“เสด็จแม่ นี่เป็นชามสุดท้ายแล้วเพคะ” ฉินเหยี่ยนเย่ว์ยกยาที่ทั้งดำทั้งขมชามหนึ่งเข้ามา พลางพูดกล่อม “สามวันนี้ แมลงกู่พิษมีร่องรอยกา
บางที ใช้ปรสิตมาอธิบายจะดูสมเหตุสมผลกว่าเมื่อเวลาผ่านไปนานวันเข้า แมลงพิษกู่ก็จะเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ จนทำให้การเต้นของหัวใจได้รับผลกระทบ และส่งผลกระทบต่อการไหลเวียนโลหิต และอวัยวะภายในส่วนท้องจะได้รับผลกระทบเป็นที่แรก และจะค่อย ๆ กระจายไปทั่วร่างกาย ภายใต้ผลกระทบของการอักเสบและเลือดไหลเวียนไม่สะดวก