สิ่งที่ซ่อนอยู่ในแจกันเล็กคือห่อผงสีขาวไร้สีไร้กลิ่นฉินเหยี่ยนเย่ว์รับมาดมกลิ่นแล้วขมวดคิ้ว “ยานี้มีชื่อว่าชุนหรง”นางเคยเห็นในตำราที่เรือนนวลคุณสมบัติเด่นที่สุดของยาตัวนี้คือ เมื่อส่องกับแสงจะสะท้อนประกายสีชมพู สว่างราวกับดอกท้อ ราวกับฤดูใบไม้ผลิที่มาถึง จึงขนานนามว่าชุนหรง“ยาพิษนี้มีผลกระทบอย่า
เฟิ่งเฉิงตระหนักได้ในทันทีเขาพยักหน้า มองฉินเหยี่ยนเย่ว์ด้วยสายตาที่มีความเคารพมากขึ้น “พูดถึงเรื่องนี้แล้ว ชื่อของเหยี่ยนเย่ว์ยังเป็นนักพรตเต๋าเทียนหลิงที่ตั้งให้ นักพรตเต๋าเทียนหลิงเองก็มีความเมตตาอย่างยิ่งยวดต่อสกุลเฟิ่ง หากได้รับการสอนสั่งจากนักพรตเต๋าเทียนหลิง เช่นนั้นเหลียนเอ๋อร์จะต้องไม่เป็น
ต้าหวงเป็นที่รู้จักในนามยาแม่ทัพ มีฤทธิ์ขับถ่ายดีเยี่ยมหลีเอ๋อร์หมดสติมาสิบวันแล้ว ซ้ำยังท้องว่างด้วย หากใช้ยาแรงเช่นต้าหวงอีก อาจก่อให้เกิดอันตรายร้ายแรงได้“ท่านน้า เชื่อข้าสิ” ฉินเหยี่ยนเย่ว์กล่าวต่อ “ต้าหวงมีฤทธิ์เย็น ช่วยถอนพิษร้อนได้ มีฤทธิ์ขับถ่ายที่ดี สามารถส่งเสริมการล้างพิษของญาติผู้พี่ได
“คนโง่” ฉินเหยี่ยนเย่ว์โน้มตัวเข้าไปอยู่ในอ้อมแขนของเขา ขยับตัวหาตำแหน่งที่สบายฮูหยินรองมิใช่จีอู๋เยียน จะไม่มีเรื่องน่ากลัวขนาดนี้เกิดขึ้นอีกพอนึกถึงจีอู๋เยียน แววตาของนางก็เป็นประกายวาววับ “หม่อมฉันพาเฟ่ยชุ่ยกับจีอู๋เยียนกลับไปเป็นเช่นไรเพคะ?”ถึงอย่างไรก็ตาม เขาปลอมตัวเป็นสาวใช้ในจวนอยู่แล้ว แล
ไม่น่าแปลกใจเลยที่เขาช่ำชอง และมีลูกเล่นมากมายขนาดนี้!ครั้นฉินเหยี่ยนเย่ว์คิดว่าตงฟางหลีเคยเกลือกกลิ้งไปมาท่ามกลางหมู่บุปผานับพัน คิดว่าเขาอาจเคยมีสตรีมากหน้าหลายตา หัวใจของนางก็อึดอัด จึงผลักเขาออกไปอย่างแรงและหันหลังให้เขา“เหยี่ยนเย่ว์?” พอตงฟางหลีสะกิดไหล่นาง ฉินเหยี่ยนเย่ว์ก็ปัดมือเขาออกไป“ท่
“หม่อมฉันได้ยินพวกเขาพูดกันว่าพระสนมขั้นเช่อทั้งสองที่เพิ่งถูกรับเข้าวังหลังหลังจากฤดูใบไม้ร่วงกำลังตั้งท้องในเวลาเดียวกัน” ฉินเหยี่ยนเย่ว์เอ่ยขึ้นอย่างหดหู่ตงฟางหลีส่งเสียงรับคำอย่างเรียบง่าย“ในเรือนหลังของพี่สาม นอกจากเย่ว์ลู่และฉินเสวี่ยเย่ว์แล้ว ยังมีสตรีมากกว่าสิบคน และยังมีบุตรตรีแล้วสองคน”
เขาปฏิเสธที่จะให้เด็กสาวสองคนขึ้นรถม้า เพียงให้พวกนางเดินตามหลังไป และยังให้คนบังคับรถม้าเร่งความเร็วเป็นครั้งคราวอีกด้วยฉินเหยี่ยนเย่ว์มองพวกเด็กสาวที่วิ่งจนหายใจแทบไม่ทัน นางก็ทนไม่ไหวขึ้นมา “รถม้ากว้างขวางมาก ให้พวกนางขึ้นมาก็ได้กระมัง”“พวกนางมีแรงที่จะก่อเรื่องวิวาทกันบนถนน แต่ไม่มีแรงพอที่จะเ
บังเอิญในขณะเดียวกันนั้นลู่ซิวก็มาถึงด้วยความรีบร้อน“ลู่เหมียนเหมียน เจ้ากำลังทำอันใด? ถึงได้กระทำตัวไร้มารยาทไม่เหมาะสมต่อหน้าท่านอ๋องเยี่ยงนี้?” เขามองสถานการณ์ตึงเครียดภายในลาน สีหน้าดำคล้ำยิ่ง “ยังไม่รีบหยุดอีก” ลู่เหมียนเหมียนเบ้ปาก ลอบบ่นพึมพำกับตนเอง “เรื่องนี้จะโทษข้าทั้งหมดไม่ได้ เป็นนาง
นางกำชับทุกคนให้เปลี่ยนอาภรณ์ให้เรียบร้อยแสงเทียนทั้งหมดกระจุกตัวกันอยู่ในจุด ๆ เดียวเมื่อแสงยังสว่างไม่มากพอ ฮ่องเต้จึงมีรับสั่งให้องครักษ์จื่ออวี๋นำไข่มุกราตรีในคลังเก็บสมบัติมาแสงสว่างของไข่มุกราตรีสะท้อนอยู่ภายในห้องจนดูคล้ายกับตอนกลางวันฉินเหยี่ยนเย่ว์มิสนใจพูดขอบคุณ หลังจากแบ่งงานกันอย่างช
ฉินเหยี่ยนเย่ว์รู้สึกลำบากใจยิ่งนักในสายตานาง เทียบกับชีวิตแล้ว ความเป็นส่วนตัวเท่านี้ไม่นับว่าเป็นอันใดด้วยซ้ำ“ป้าฉา บางครั้งเจ้ามิอาจเข้าใจได้ ทว่าข้ายังจะต้องบอกกับเจ้าว่า ในระหว่างขั้นตอนการผ่าตัด ต่อให้สวมอาภรณ์ก็จำเป็นต้องตัดทิ้ง โดยเฉพาะสถานการณ์ในยามนี้นั้นยากลำบากยิ่งนัก”การผ่าตัดเปิดช่อ
นางจับข้อมือของพระสนมอวิ๋น หากแต่ยังไร้ชีพจร หัวใจก็แทบหยุดเต้น “เสด็จแม่ ขอประทานอภัยเพคะ” ฉินเหยี่ยนเย่ว์รู้สึกผิดอย่างยิ่งยวดนางรู้มาตั้งแต่เนิ่น ๆ แล้วว่าพระสนมอวิ๋นสุขภาพไม่ดี ควรจะเตรียมการให้รอบด้านถึงจะถูกนางมั่นใจในตัวเองมากเกินไป มิได้คำนึงว่ากระเพาะอาหารจะยังมีแมลงพิษกู่ด้วยเช่นกัน จึง
ฮ่องเต้ทรงกุมมือของพระสนมอวิ๋นแน่น“เรื่องเช่นนั้น สามารถทำได้หรือ?” เขามองพระสนมอวิ๋นที่อ่อนแรง ก่อนตรัสถามด้วยเสียงเบาทำเอาฉินเหยี่ยนเย่ว์ถอนหายใจยาวเหยียดตามหลักแล้วทำไม่ได้พระสนมอวิ๋นมีความดันโลหิตต่ำ ชีพจรแทบจะไม่มี ไม่เหมาะจะฉีดยาชา และไม่เหมาะจะทำการผ่าตัดเช่นกันโดยเฉพาะอย่างยิ่ง เงื่อนไข
หากมิใช่เพราะนางยังสามารถสัมผัสได้ถึงชีพจรที่เต้นอย่างอ่อนแรง ก็แทบจะคิดว่าพระสนมอวิ๋นตายไปแล้วต้องเกิดปัญหาขึ้นที่ไหนสักที่!ฉินเหยี่ยนเย่ว์กำมือแน่น สมองหมุนวนอย่างรวดเร็วก่อนที่จะกำจัดกู่นั้น นางได้ตรวจร่างกายของพระสนมอวิ๋นแล้ว นอกเสียจากถูกพิษกู่กัดกร่อนจนทำให้รู้สึกเจ็บปวดร่างกาย แล้ว ก็มีเพี
ฉินเหยี่ยนเย่ว์ถึงกับสะดุ้งตกใจจะเป็นไปได้อย่างไร?พระสนมอวิ๋นจะไม่หายใจได้อย่างไร!หลังจากขับแมลงพิษกู่ออกมา แม้ชีพจรของพระสนมอวิ๋นจะอ่อนแรง หากแต่ไม่มีอันตรายถึงชีวิตอันตรายถึงแก่ชีวิตที่แท้จริงคือขั้นตอนต่อไปต่างหากนางสาวเท้าเข้าไปหยุดที่ข้างกายพระสนมอวิ๋นอย่างรวดเร็ว นิ้วก็สัมผัสชีพจรของพระสน
“จับได้แล้วหรือเพคะ?” ป้าฉาไม่อยากจะเชื่อ“อืม” ฉินเหยี่ยนเย่ว์สูดลมหยใจเข้าลึกจับได้แล้ว!ในลัทธิเต๋า มีคำพูดที่ว่าโคจรรอบเสี่ยวโจวเทียนและโคจรรอบต้าโจวเทียนสิ่งที่เรียกว่าโคจรรอบต้าโจวเทียนก็คือการโคจรพลังชี่ไหลไปรอบ ๆ ร่างกายหนึ่งรอบใหญ่โคจรรอบเสี่ยวโจวเทียน คือพลังชี่ออกจากจุดตันเถียนล่าง ผ่า
อุณหภูมิของยากำลังพอดีพระสนมอวิ๋นถอดอาภรณ์ออกอย่างช้า ๆ การถอดอาภรณ์ต่อหน้าลูกสะใภ้ ทำเอานางรู้สึกเขินอายเอามาก ๆ จึงใช้มือบังเอาไว้ ก่อนจะเดินเข้าไปด้วยความขัดเขิน“เสด็จแม่ นี่เป็นชามสุดท้ายแล้วเพคะ” ฉินเหยี่ยนเย่ว์ยกยาที่ทั้งดำทั้งขมชามหนึ่งเข้ามา พลางพูดกล่อม “สามวันนี้ แมลงกู่พิษมีร่องรอยกา
บางที ใช้ปรสิตมาอธิบายจะดูสมเหตุสมผลกว่าเมื่อเวลาผ่านไปนานวันเข้า แมลงพิษกู่ก็จะเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ จนทำให้การเต้นของหัวใจได้รับผลกระทบ และส่งผลกระทบต่อการไหลเวียนโลหิต และอวัยวะภายในส่วนท้องจะได้รับผลกระทบเป็นที่แรก และจะค่อย ๆ กระจายไปทั่วร่างกาย ภายใต้ผลกระทบของการอักเสบและเลือดไหลเวียนไม่สะดวก