“ท่านเจ้าเมืองมิจำเป็นต้องลำบากใจ ข้าเพียงเสนอข้อรียกร้องของข้าเท่านั้น” ฉินเหยี่ยนเย่ว์กล่าว “บนกระดาษร้องเรียนยังมีข้อที่สามอยู่ นั่นก็คือ ความผิดฐานหลอกลวงเบื้องสูง”“ข่าวลือเรื่องหนึ่งที่ฮูหยินเหลยอันโหวสร้างขึ้น ได้เข้าถึงพระกรรณของเสด็จพ่อเรียบร้อยแล้ว เมื่อเสด็จพ่อได้ยินข่าวลือพวกนั้น นี่ก็แส
ท่านเจ้าเมืองขมวดคิ้วพี่สาวของอู๋เส่าชิงเดิมนั้นเป็นภรรยาคนแรกของเหลยอันโหว ต่อมาก็ได้เสียชีวิตโดยไม่ทราบสาเหตุลง เรื่องนั้นวุ่นวายจนเกิดความโกลาหล เหลยอันโหวก็ได้รับโทษเช่นกันสิ่งที่น่าเสียดายคือ ไร้หลักฐานมาพิสูจน์ว่าการตายของคุณหนูอู๋เกี่ยวข้องกับฮูหยินเหลยอันโหว สุดท้ายจึงทำได้เพียงใช้โทษลุ่มห
ไม้เท้ามังกรเบื้องบนสามารถฟาดฮ่องเต้ เบื้องล่างสามารถฟาดขโมยได้ มีอำนาจยิ่งใหญ่ทีเดียวท่านผู้เฒ่านี่ชัดเจนมากว่ามาเพื่อก่อเรื่อง!“ใต้เท้าลู่จิ้น” ท่านเจ้าเมืองลุกขึ้นทำความเคารพ “ท่านผู้เฒ่ามาได้อย่างไรหรือขอรับ?”“เด็กน้อย เจ้ามิต้องคาราวะข้า ควรทำอย่างไรก็ทำเช่นนั้น ในศาลนี้เจ้าใหญ่ที่สุด” ลู่จิ
“พอได้แล้ว” ท่านเจ้าเมืองเคาะไม้เรียกสติหนึ่งครั้ง “อยู่ในศาล มีที่ให้ปีศาลกล้าส่งเสียงดังได้ที่ไหน?”“ใต้เท้า ผู้น้อยตายตาไม่หลับ เสียชีวิตอย่างไม่ยุติธรรมจนไม่อาจไปเกิดใหม่ได้” ร่างเงาอาภรณ์ขาวเจือเสียงสะอื้น “ขอใต้เท้าทวงความยุติธรรมเพื่อผู้น้อย ให้ผู้น้อยได้ไปเกิดใหม่เป็นคนในเร็ววันด้วยเจ้าค่ะ”
หากลำดับความอาวุโสแล้วท่านผู้เฒ่าค่อนข้างสูง ทั้งยังเป็นลูกพี่ลูกน้องกับพระพันปี ชั่วขณะหนึ่ง จึงไม่มีคนกล้าบุ่มบ่ามไม่ดูตาม้าตาเรือท่านเจ้าเมืองลำบากใจทั้งสองฝ่ายบรรยากาศในศาลพลันชะงักงันในขณะเดียวกันนั้นเองภายในห้องของหออวี้เซียนที่อยู่ไม่ไกลจากศาลาว่าการ บุรุษวัยกลางคนคนหนึ่งผุดขึ้นยืนด้วยใบห
“ฮูหยินเหลยอันโหว” ฉินเหยี่ยนเย่ว์เอ่ยขึ้น “ข้าถามเจ้าอีกสักครั้ง เจ้ายังคิดว่าทั้งหมดนี้เป็นความผิดคนอื่นอยู่หรือไม่?”ฮูหยินเหลยอันโหวยังคงเบิกตาจ้องนางอย่างเหี้ยมโหดเช่นเคย “ข้าไม่เสียใจ ถือสิทธิ์อันใดท่านช่วยเหลือฮูหยินขุยอันโหวแม่ลูกได้กลับช่วยลูกข้าไม่ได้เล่า ท่านไม่ช่วยก็คือคนผิด แม้ข้าตายก็จ
ฉินเหยี่ยนเย่ว์หัวเราะเบา ๆ การรับมือคนไร้เหตุผลง่ายดายนัก เพียงแค่จะต้องไร้เหตุผลยิ่งกว่านางก็จักรับมือได้แล้ว“ท่านพี่รอง ท่านเลิกล้อข้าได้แล้วเพคะ หากเป็นไปได้ หม่อมฉันไม่คิดจะยั่วยุคนเช่นนี้หรอก” ฉินเหยี่ยนเย่ว์กล่าวพลางถอนหายใจ“เวลาไม่เช้าแล้ว รอให้เสด็จพ่อมาถึง ก็ให้เสี่ยวเอ้อร์ยกอาหารขึ้นมา
ไป๋โค้วรู้สึกถึงโทสะจากท่านอ๋องของตนเอง พลันรีบวิ่งไปด้านหลังอู๋ฉิ่งเหยียน สองมือจับบ่าของเขา ก่อนผลักเขาออกมาข้างหน้า “ท่านอ๋อง มิเกี่ยวข้องกับหม่อมฉันนะ คนที่แย่งพระชายาจากท่านเป็นเจ้าหนุ่มคนนี้”อู๋ฉิ่งเหยียนถูกไป๋โค้วโอบไหล่เช่นนี้ ใบหน้าแดงแล้วแดงอีก ทำตัวไม่ถูก“เจ้าขี้ขลาดอันใด?” ไป๋โค้วเห็นห
“เป็นไปได้หรือไม่ว่า คนที่ใช้วิธีการโหดร้ายเช่นนี้ทำร้ายเจ้าคือฉินเสวี่ยเย่ว์?” ตงฟางหลีถามคนที่เกลียดยัยหนูเข้ากระดูกไม่ได้มีมากมาย และฉินเสวี่ยเย่ว์ก็ถือว่าเป็นหนึ่งในนั้นจุดหนึ่งที่สำคัญที่สุด คือฉินเสวี่ยเย่ว์มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับหมิ่นจูที่ผิดแผกคนนั้นและในการสืบสวนของเขา หมิ่นจูเองก็มีควา
“เป็นผู้ใด?” ตงฟางหลีถามฉินเหยี่ยนเย่ว์ถอนหายใจลึก ๆ มือกำแขนเสื้อแน่นบนจดหมายที่นกกางเขนเงาส่งมา เป็นเรื่องที่นางไหว้วานให้พระชายาอ๋องเฉียนสืบสวนจริง ๆบนจดหมายไม่ได้มีเพียงข้อมูลที่เกี่ยวกับงูเพลิงแดงเท่านั้น พอเหมาะพอเจาะกับที่ยังมีข่าวของงูสวรรค์สีดำสนิทอีกด้วย!งูสวรรค์สีดำสนิทและงูเพลิงแดงสี
“พิษร้ายแรง?” ตงฟางหลีขมวดคิ้ว “เมื่อครู่ท่านมิใช่บอกว่าไม่รู้เรื่องพิษหรืออย่างไร?”“ข้าคร้านจะบอกเจ้าเท่านั้นเอง” ลู่จิ้นกลอกตาใส่ตงฟางหลี“ศิษย์น้องหญิง เจ้าอย่ากังวลเลย สิ่งนั้นถูกข้าจับไว้ได้แล้ว อยู่ตรงนี้” เขาโบกขวดกระเบื้องในมือไปมา“เหตุใดงูสวรรค์ถึงได้ปรากฏตัวที่นี่?” ฉินเหยี่ยนเย่ว์สับสน
มือของฉินเหยี่ยนเย่ว์ตกลงบนหัวของเฮยตั้นพลางถอนหายใจลึก“หม่อมฉันไม่เป็นไรเพคะ พวกท่านไม่ต้องกังวล”“จะไม่เป็นไรได้อย่างไร? เมื่อครู่ข้าตกใจแทบตาย” ตงฟางหลียังคงหวาดผวาอยู่ในใจ“หม่อมฉันไม่เป็นไรจริง ๆ ” ฉินเหยี่ยนเย่ว์ยกมือขึ้น สัมผัสแก้มซีดขาวของตงฟางหลีท่าทีของชายผู้นี้ผิดปกติแม้ว่าใบหน้าของเขา
ความโกรธของตงฟางหลียิ่งมากขึ้นเขาระงับอารมณ์หุนหันพลันแล่นที่จะทุบหัวของลู่จิ้นสักหมัด ถามด้วยเสียงทุ้มลึก “เหยียนเย่ว์ อาการเป็นอย่างไรบ้าง?"“ยังไหว”“ยังไหว หมายความว่าอย่างไร?” ตงฟางหลียังคงหวาดกลัวกับเหตุการณ์น่าหวาดผวาเมื่อครู่นั้น ครั้นได้ยินคำตอบส่งเดชของลู่จิ้น จึงอดไม่ได้ที่จะขึ้นเสียง“ค
หลังจากที่เฮยตั้นปล่อยของสิ่งนั้นออก ของสิ่งนั้นก็หนีออกไปด้วยการยืดและหดตัว“เหมียว” เฮยตั้นเห็นว่ามันจะหลบหนี จึงกระโจนไปตะครุบใส่ และกัดส่วนหัวของมันอย่างรุนแรงฉีกทึ้งอย่างแรง และของสิ่งนั้นก็แยกออกเป็นสองท่อนหลังถูกแยกออกเป็นสองท่อนแล้ว ยังคงเคลื่อนไหวอยู่เฮยตั้นชะงักไปชั่วขณะ อุ้งเท้าทั้งสอง
น้ำเสียงนั้นราวกับกำลังบอกว่า...ไว้หน้าแล้วไม่รู้จักรับ!หลังจากนั้น กรงเล็บก็ตวัดมาทางเขาหลังจากอุ้งเท้าของมันเคลื่อนออก เจ้าสิ่งมีชีวิตที่คล้ายกับเส้นผมตัวนั้นก็คิดจะหลบหนี“เมี้ยว!” เฮยตั้นไม่สนใจสั่งสอนตงฟางหลีทาสผู้โง่เขลาคนนี้อีกมันกระโจนเข้าไปอย่างดุดัน และตบของสิ่งนั้นอย่างรุนแรง ก่อนจะใช้
เงาดำสายหนึ่งกระโดดเข้ามาจากทางประตูร่างกายอวบอ้วนที่แข็งแรงประหนึ่งบินเข้ามา มาถึงตรงหน้าฉินเหยี่ยนเย่ว์ในพริบตา“เมี้ยว”เฮยตั้นกระโดดขึ้นบนศีรษะของนางอย่างรวดเร็วและรุนแรง ร่างกายปิดดวงตาของฉินเหยี่ยนเย่ว์ ขาหลังเกือบจะปิดแก้มของนางกรงเล็บหน้าขยุ้มผมนางเมื่อการมองเห็นของฉินเหยี่ยนเย่ว์ถูกบดบัง
อาการปวดศีรษะจนยากจะทนรับไหวถาโถมเข้ามาไม่หยุดราวกับมีเข็มจำนวนนับไม่ถ้วนทิ่มแทงที่ศีรษะ เป็นความรู้สึกอันน่าหวาดกลัวที่ไม่เคยประสบมาก่อนเวลาผ่านไปเพียงชั่วพริบตา เหงื่อเม็ดโตก็ไหลพรากอาภรณ์เปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อเช่นกันนางทนรับความเจ็บปวดเช่นนั้นไม่ไหว น้ำตาจึงไหลลงมาอย่างยากจะต้านทานร้องไห้สะอึ