ฉินเหยี่ยนเย่ว์หันหน้าไปสบตากับเขาดวงตาของตงฟางหลีชัดเจนและจริงใจเป็นครั้งแรกที่นางได้ยินเสียงหัวใจของเขา เสียงในใจบอกนางว่าทุกคำพูดของเขานั้นล้วนจริงใจ“คำถามสุดท้าย ท่านชอบหม่อมฉันไหม?” ฉินเหยี่ยนเย่ว์เอาหน้าผากไปแตะกับหน้าผากของเขา ปลายจมูกแตะปลายจมูก ในน้ำเสียงมีเสียงขึ้นจมูกเล็ก ๆ อยู่ “ท่านต
ดวงตาของเขาตกไปที่หลังม่านของเตียง คำพูดของเขาติดอยู่ในลำคอ“พวก…พวกท่าน”เขาตกใจมากจนสมองขาวโพลนท่านอ๋องผู้เย็นชามาโดยตลอดกำลังโอบล้อมพระชายาด้วยท่าทางพิลึกพิลั่นพระชายาหน้าแดงก่ำ เสื้อผ้าของนางก็ไม่เป็นระเบียบเรียบร้อยเขาไม่มีทางมองผิดพลาดแน่นอน สองคนนี้กำลังให้กำเนิดผู้สืบทอดน้อย!“จู่ ๆ กระหม
“นางมาทำอะไรที่นี่” ฉินเหยี่ยนเย่ว์ขมวดคิ้วฮูหยินรองสกุลฉินคือมารดาผู้ให้กำเนิดฉินเสวี่ยเย่ว์ และภรรยาคนที่สองของท่านพ่อยังไม่ทันที่นางจะไปขอสินเดิมคืน ผู้หญิงคนนั้นก็กล้ามาหาถึงประตูบ้าน“ก็ให้นางรอที่ห้องโถงจิ่นซื่อไป อย่าให้บ่าวรับใช้ยกชาไปให้ แล้วก็เพิกเฉยต่อนางเสีย” ฉินเหยี่ยนเย่ว์กล่าว “ปล่อ
“เฟ่ยชุ่ย ร่างกายของเจ้ารู้สึกดีขึ้นบ้างหรือยัง?”ขอบตาของเฟ่ยชุ่ยเป็นสีแดง “ขอบคุณพระชายา บ่าวดีขึ้นมากแล้วเพคะ พระชายาเล่าเพคะ? บาดเจ็บตรงไหนหรือไม่?”“ข้าสบายดี” ฉินเหยี่ยนเย่ว์มองประเมินนางเฟ่ยชุ่ยฟื้นตัวจากอาการป่วยหนัก ใบหน้าซีดเซียว หลังจากเรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ ก็ยิ่งหน้าซีดมากขึ้น
“แน่นอนว่าเป็นเรื่องโกหก” ฉินเหยี่ยนเย่ว์ซับน้ำตาที่ไม่มีอยู่จริง ยิ้มเยาะในใจ แต่บนใบหน้ากลับมีสีหน้าบึ้งตึง “ลูกจะกล้าทำเรื่องเช่นนั้นได้อย่างไรกัน”สิ่งที่เกิดขึ้นในตำหนักเป่าลู่วันนี้ ฮ่องเต้มีรับสั่งห้ามเผยแพร่ออกไปพวกพระสนมเจิ้นไม่มีทางพูดไร้สาระ และฮูหยินรองได้ยินเพียงไม่กี่คำจากคนที่เกี่ยวข
จากนั้นฉินเหยี่ยนเย่ว์จึงเห็นได้อย่างชัดเจน ว่ามีรอยประทับฝ่ามืออันโอหังสองรอยบนใบหน้าของเฟ่ยชุ่ย“สาวใช้ข้างกายฮูหยินรองตบเจ้าหรือ?”เฟ่ยชุ่ยพยักหน้าและสูดจมูก “พระนาง บ่าวไม่เป็นไรเพคะ”“เป็นสิ” ฉินเหยี่ยนเย่ว์แอบเสียใจทีหลังนางอยากจะแกล้งทำเป็นอ่อนแอให้คู่ต่อสู้ตายใจ แล้วถือโอกาสคว้าชัยในท้ายที่
ระยะห่างระหว่างจวนอ๋องเจ็ดและจวนอ๋องสามนั้นอยู่ไม่ไกลเท่าใดนักฮูหยินรองไล่สาวใช้ทั้งสองลงจากรถม้า และบอกให้คนขับรถม้า ขับช้า ๆ ไปยังจวนอ๋องสามนางดึงม่านรถแน่น แล้วปิดม่านผ้าโปร่งก่อนจะหยิบห่อผ้าออกมาอย่างระมัดระวังสมบัติล้ำค่าอยู่ตรงหน้านาง นางวางมันลงไม่ได้ถูสมบัติล้ำค่าแต่ละชิ้นบนแก้มหลายครั้ง
นางกำชายเสื้อผ้าแน่นการที่ยุ่งอยู่กับหน้าที่ราชการเป็นเพียงข้ออ้างเท่านั้น ช่วงนี้ท่านอ๋องสามเย็นชาต่อนางมากฮูหยินรองทอดถอนหายใจอยู่นาน “เสด็จแม่ขององค์ชายใหญ่มาจากเป่ยลู่ และองค์ชายรองก็พิการ ไม่ว่าจะเป็นคุณวุฒิอาวุโสหรือความแข็งแกร่ง ท่านอ๋องสามล้วนเป็นตัวเลือกที่สมบูรณ์แบบสำหรับรัชทายาท เสวี่ยเ
ป้าหวนฝืนร่างกายตนถอยหลังไปสองสามก้าว และกระอักเลือดออกมาสองสามคำ“พวกท่าน!” หลังจากที่จิตใจของป้าหวนสับสนวุ่นวาย จึงเต็มไปด้วยช่องโหว่ นางถูกตงฟางหลีโจมตี และชีพจรหัวใจก็ได้รับผลกระทบเลือดลมชี่สูบฉีดพุ่งสูงขึ้น ชีพจรหัวใจถูกจำกัด และลมหายใจผิดปกติเมื่อรู้ว่านางไม่สามารถเอาชนะพวกเขาได้ จึงยัดยาคลั
“นี่” จีอู๋เยียนเก็บกระบี่เข้าฝัก แล้วพูดขึ้นเสียงเย็น “กองทัพที่ไม่เป็นโล้เป็นพายเก็บกวาดหมดแล้ว คนผู้นี้จะจัดการเช่นไร?”เขาชี้ไปที่ป้าหวนซึ่งดูใบหน้าซีดเซียวป้าหวนตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกะทันหันนี้มากจนพูดไม่ออกนางมองลูกน้องของนางที่ล้มลงอยู่บนพื้น ดวงตาเบิกโพล่งปรมาจารย์ชั้นยอดหลายสิบคน ใ
“หากบุรุษผู้นี้มิใช่เฟิ่งหลี ข้าจะสับเขาเป็นชิ้น ๆ แน่นอน” ตงฟางหลีพูดแล้วหยิบขวดยาออกมาป้อนให้แก่เฟิ่งหลีฉินเหยี่ยนเย่ว์พูดไม่ออกแม้ว่าองครักษ์จื่ออวี๋จะไม่ใช่เฟิ่งหลี แต่เป็นคนอื่น นางก็ยังคงทำอย่างนั้นในสถานการณ์เช่นนั้นประเด็นความหึงหวงก็แปลกพิลึกเช่นเคย“ท่านป้อนอะไรให้ท่านพี่?” นางถาม“ยาถอ
ไม่รอให้ฉินเหยี่ยนเย่ว์ตอบกลับ ตงฟางหลีก็เตะเขาออกไป“ตงฟางหลี ท่านทำอะไรน่ะ?” ฉินเหยี่ยนเย่ว์ตกใจเฟิ่งหลีใกล้จะตายอยู่แล้ว ถูกตงฟางหลีกระทำอย่างโหดเหี้ยมเช่นนี้ ไหนเลยจะรับไหว?นางรีบคว้าเฟิ่งหลีเอาไว้ และวางมือที่สั่นเทาบนข้อมือของเขาเกราะเม่นอ่อนของเฟิ่งหลีที่มอบให้นาง ช่วยป้องกันการโจมตีส่วนให
“เหยี่ยนเย่ว์!”ในตอนที่ฉินเหยี่ยนเย่ว์คิดว่าตนกำลังจะตาย สุ้มเสียงที่เป็นกังวลก็ดังขึ้น“เหยี่ยนเย่ว์ เจ้าเป็นไรหรือไม่?”“ยัยหนู เจ้าห้ามเป็นอะไรเด็ดขาดนะ”เสียงหนึ่ง ตอนแรกฟังดูเหมือนมาจากมิติอันไกลโพ้น ยากที่จะได้ยินชัดเจนแต่แล้วเสียงนั้นดังขึ้นเรื่อย ๆ อย่างช้า ๆผ่านชั้นสีเลือด ขจัดความกลัว ข
หลังจากที่ป้าหวนออกคำสั่ง ทุกคนต่างรวมตัวกันรอบฉินเหยี่ยนเย่ว์และเฟิ่งหลีกระบี่ยาวหอบลมปะทะมา ทั้งหมดโจมตีลงมาที่พวกเขาฉินเหยี่ยนเย่ว์ไม่เคยพบเจอเรื่องเช่นนี้มาก่อนครั้งก่อนที่ถูกคนของอีกาดำโจมตี อีกาดำตัวนั้นไม่ได้เห็นนางอยู่ในสายตาเลย และการเคลื่อนไหวของฝ่ามือช่างเชื่องช้ายิ่งนัก นางหลบหนีได้ภา
ฉินเหยี่ยนเย่ว์รู้สึกว่าเถาวัลย์โลหิตถูกคนตัดออกไป ร่างกายเบาขึ้นดูเหมือนมีคนตบใบหน้านางอย่างแรงคนผู้นั้นยังคงพูดอะไรบางอย่างร้อนใจด้วยเสียงที่ห่างไกลฟื้นคืนกลับมาทีละน้อย และสมองที่ค้างเติ่งว่างเปล่าก็เริ่มต้นใหม่เช่นกัน“สาวน้อย ตื่นได้แล้ว”ฉินเหยี่ยนเย่ว์มองไปยังแหล่งที่มาของเสียงด้านหน้า ใบ
องครักษ์จื่ออวี๋ในยามนี้ตกอยู่ภายใต้การโจมตีจากทั้งสองด้านแล้วหลังจากที่เขาได้รับบาดเจ็บ สีหน้าย่ำแย่อย่างรวดเร็วบนกระบี่มีพิษ!ภายใต้ผลกระทบของพิษ สติขององครักษ์จื่ออวี๋พร่ามัวเล็กน้อย ก่อนที่เขาจะรีบผนึกจุดฝังเข็มที่สำคัญหลายจุดจุดฝังเข็มถูกผนึกกะทันหัน และเมื่อเลือดลมพุ่งทะยานขึ้น เขาจึงกระอัก
นอกจากกำแพงที่มิอาจเข้าใกล้ได้แล้ว อีกสามทิศที่เหลือล้วนถูกยึดครองทั้งหมดภายใต้วงล้อมที่โอบล้อมหลายชั้น ฉินเหยี่ยนเย่ว์และองครักษ์จื่ออวี๋เหลือเรี่ยวแรงเพียงเล็กน้อยฝั่งตรงข้ามมีคนจำนวนมาก ส่วนพวกเขามีกันเพียงสองคน การต่อสู้แบบเวียนเทียนสามารถทำให้พวกเขาเหนื่อยล้าจนหมดแรงได้เช่นกัน“รีบสู้รีบจบเถิ