เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเร็วมาก จนไม่มีใครได้เห็นว่าที่จริงแล้วมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่เมื่อขันทีทั้งสองมีปฏิกิริยาตอบกลับ พวกเขาถึงได้พบว่ามือที่ถือเชือกสีขาวถูกตัดออกไปแล้วของหนักที่ตกลงบนพื้น มันก็คือมือของพวกเขานั่นเองหลังจากนั้นไม่กี่อึดใจ เลือดก็พุ่งกระฉูดออกมา ขันทีทั้งสองส่งเสียงกรีดร้องสะเทือนส
“ถุย” นางกำนัลคนนั้นกัดฟัน ไม่รู้ว่าเอาเรี่ยวแรงมาจากที่ใด ดึงปิ่นปักผมออกจากศีรษะ หมายจะแทงคอของฉินเหยี่ยนเย่ว์อย่างแรงฉินเหยี่ยนเย่ว์ตกใจมากปิ่นปักผมนี้แหลมคมมาก เมื่อถูกแทงจะต้องตายอย่างไร้ข้อกังขาเมื่อครู่นางเพียงแค่อยากจะทำให้นางกำนัลตกใจเท่านั้น คิดไม่ถึงว่าจะเกือบถูกฆ่าตายในใจของฉินเหยี่ย
ใบหน้าของนางกำนัลอาวุโสมืดลง เมื่อเห็นฉินเหยี่ยนเย่ว์ตวัดฝ่ามือลงมา หัวเราะเสียงเย็น และคว้าแขนของนางอย่างแรง มันทรงพลังมาก ราวกับว่าจะบดขยี้นาง ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงที่น่ากลัว “พระชายาอ๋องเจ็ดอย่ารังแกคนอื่นสิเพคะ บ่าวมิทราบได้จริง ๆ ว่าสาวใช้ของท่านอยู่ที่ใด...”คำพูดของนางยังไม่จบ จู่ ๆ ฉินเหยี่ย
นางกำนัลอาวุโสไร้วิธีต่อต้าน มองดูใบหน้าของตัวเองที่บวมจนกลายเป็นหัวหมูอย่างทำอะไรไม่ถูก “ท่าน ท่านกล้าทำเช่นนี้กับข้า” นางเผยโฉมหน้าที่แท้จริงอีกครั้ง และจ้องฉินเหยี่ยนเย่ว์เขม็ง “องค์หญิงจะต้องฉีกท่านเป็นชิ้น ๆ แน่นอน”ฉินเหยี่ยนเย่ว์เตะขาไปเตะนั้น กระแทกตันเถียนล่างของนางเข้าอย่างจังนางกำนัลอา
องค์หญิงมู่เหยี่ยเดินออกมา มองดูลานที่สกปรก และนางกำนัลกับขันทีที่นอนเกลื่อนกลาดอยู่บนพื้น ก็ระเบิดความโกรธออกมา “ปี้เถา เกิดเรื่องอันใดขึ้น?"“องค์หญิง เป็นนางเพคะ” นางกำนัลอาวุโสชี้ไปที่ฉินเหยี่ยนเย่ว์พร้อมเสียงเศร้าระคนโกรธ “เป็นนางที่นำม้าบ้าตัวนั้นมา ทุบตีคนของพวกเรา ทำให้ลานเรือนสกปรก และยังวา
“ข้าอยากจะตบเจ้า แม้ว่าข้าจะตบเจ้าจนตาย ก็ไม่มีใครกล้าสนใจ” องค์หญิงมู่เหยี่ยกล่าวพร้อมยกมือขึ้น “ข้าจะตบเจ้าให้ตาย พี่เจ็ดก็จะสามารถแต่งงานให้พี่ซูมาเป็นพระชายาได้แล้ว”ฉินเหยี่ยนเย่ว์เคยเห็นนางทำร้ายม้าด้วยฝ่ามือเดียว ถ้าโดนตบจริง ๆ นางคงไม่มีโอกาสตอบโต้ด้วยซ้ำตงฟางหลีพูดถูก เมื่อเผชิญกับความแข็ง
ฝ่ามือขององค์หญิงมู่เหยี่ยนั้นรุนแรงและทรงพลัง โดยมีคลื่นสังหารอย่างแข็งแกร่งฝ่ามือนี้รุนแรงมากเสียจนหากกระทบเข้าที่ร่างกาย อัตราการเสียชีวิตจะเต็มร้อยส่วนท่ามกลางความเร็วปานสายฟ้าแลบ ฉินเหยี่ยนเย่ว์พบโอกาสเหมาะสม ทันใดนั้นของเหลวในขวดกระเบื้องเคลือบในมือก็หกออกมาขวดกระเบื้องเคลือบมีปากที่กว้าง ด
“พี่ซู ข้าอยากอาบน้ำ ข้ารู้สึกอึดอัดมาก” องค์หญิงมู่เหยี่ยตัวสั่นเทาจากความหนาวเย็น ดวงตาแดงก่ำ “มันสกปรกเหลือเกิน น่าสะอิดสะเอียนเหลือเกิน”“องค์หญิงไม่ต้องร้อนใจ” ซูเตี่ยนฉิงสวมเสื้อผ้าให้นาง เช็ดแก้มให้นางด้วยผ้าเปียก “มาจัดการเรื่องตรงหน้ากันก่อน แล้วข้าจะพาท่านไปอาบน้ำที่ทะเลสาบชุ่ย”องค์หญิงมู
นอกจากกำแพงที่มิอาจเข้าใกล้ได้แล้ว อีกสามทิศที่เหลือล้วนถูกยึดครองทั้งหมดภายใต้วงล้อมที่โอบล้อมหลายชั้น ฉินเหยี่ยนเย่ว์และองครักษ์จื่ออวี๋เหลือเรี่ยวแรงเพียงเล็กน้อยฝั่งตรงข้ามมีคนจำนวนมาก ส่วนพวกเขามีกันเพียงสองคน การต่อสู้แบบเวียนเทียนสามารถทำให้พวกเขาเหนื่อยล้าจนหมดแรงได้เช่นกัน“รีบสู้รีบจบเถิ
องครักษ์จื่ออวี๋หยุดชะงักไปชั่วขณะศัตรูมีจำนวนมากกว่าอย่างเห็นได้ชัด สถานการณ์อยู่ในขั้นวิกฤต เขาเพียงคนเดียวรับมือกับคนจำนวนมากเพียงนี้ อาจทำให้มิอาจดูแลไปพร้อม ๆ กันได้“สวมสิ่งนี้ไว้” เขาถอดเกราะเม่นอ่อนของตนเองออก“นี่คือ...” ฉินเหยี่ยนเย่ว์ตกตะลึงเกราะเม่นอ่อนที่ดาบแทงไม่เข้า เป็นสิ่งของในตำน
องครักษ์จื่ออวี๋มีวรยุทธ์ที่สูงส่ง มีความเป็นไปได้ที่จะหลบหนีออกไปได้“มิอาจให้พวกเขาหลบหนีออกไปได้” ป้าหวนกำหมัดแน่นอย่างดุดัน “ตามไป จะต้องสงหารพวกเขาในกองรักษาระเบียบนี้ให้ได้”“หากพวกเขาออกจากกองรักษาระเบียบไปได้แล้ว พวกเราทั้งหมดก็ต้องตาย”สีหน้าของเหล่านางกำนัลพลันกลายเป็นเหี้ยมโหดขึ้นมามีนาง
“ไม่ได้” ใบหน้าเล็ก ๆ ของตงฟางอิงซีดขาว “พวกนางล้วนมีวรยุทธ์กันทั้งนั้น ท่านไม่เป็นวรยุทธ์ สู้พวกนางไม่ได้หรอก”นางกำนัลเหล่านี้ไม่รู้ว่ามีที่มาอย่างไร แต่ละคนล้วนมีฝีมือสูงส่งทั้งนั้นด้วยวรยุทธ์ของเขาในตอนนี้ อย่างมากที่สุดก็คืออาศัยวิชาตัวเบาที่ซุยเยียนสอนหลบหนีไป คิดจะเอาชนะพวกเขาได้นั้นเป็นไปไม
ป้าหวนจับจ้องกระดาษแผ่นนั้นสักพัก ใบหน้าเคร่งขรึมนั้นเปี่ยมล้นด้วยรังสีอาฆาตเสียงของนางแทบจะเค้นลอดไรฟันออกมา “ฝ่าบาทให้ท่านมารับตัวพระสนมเหยาหรือ?”“ถูกต้อง” ฉินเหยี่ยนเย่ว์พูด “คดีของพระพันปีเป่าเปิดเผยความจริงทั้งหมดแล้ว พระสนมเหยาเป็นผู้ถูกข้อครหา เสด็จพ่อจึงมีพระราชโองการให้ข้ากับองค์ชายสิบมาร
“องครักษ์จื่ออวี๋” ฉินเหยี่ยนเย่ว์ขานเรียกคำหนึ่ง“พ่ะย่ะค่ะ”องครักษ์จื่ออวี๋สองนายปรากฎตัวขึ้นแทบจะในเวลาเดียวกัน“พวกเจ้าใครก็ได้ช่วยข้าถีบกำแพงนี่ให้เปิดออกหน่อย” ฉินเหยี่ยนเย่ว์พูดกำชับ“พ่ะย่ะค่ะ” องครักษ์จื่วอวี๋ไม่ลังเลแม้แต่น้อยหนึ่งในนั้นก้าวขึ้นมาข้างหน้า กำหมัดแน่น รวบรวมพลังเงียบ ๆต่อ
ครั้นมองจากมุมของพวกเขา ข้างในยังคงว่างเปล่าไร้ผู้คน“ไม่มีกับดัก และไม่มีคนด้วย” ตงฟางอิงห่อไหล่ลง “แต่ข้าได้ยินเสียงจริง ๆ นะ” ใบหน้าเล็ก ๆ ของเขาซีดเผือดลงอีกครั้ง “พี่สะใภ้เจ็ด คงมิได้มีผีจริง ๆ กระมัง?”“ผีมิทำเรื่องไร้สาระพรรค์นี้หรอก” ฉินเหยี่ยนเย่ว์ก้าวเข้าไปข้างในกลิ่นเลือดภายในห้องรุนแรง
สีหน้าของฉินเหยี่ยนเย่ว์ก็ดูไม่ดีเช่นกันกองรักษาระเบียบเป็นหน่วยตรวจสอบของวังหลวง หัวหน้าหน่วยตรวจสอบใช้บทลงโทษอะไรมาลงโทษลูกน้อง มิอาจใช้บทลงโทษกับผู้กระทำความผิดโดยไร้เหตุผลได้กองรักษาระเบียบแห่งนี้ผิดปกติจจริง ๆเห็นได้ชัดว่าแม่นมสองคนที่หน้าประตูก็ปิดบังเรื่องบางอย่างจากพวกเขา ท่าทีอึกอัก สีหน
นางยื่นกระดาษขาวไปตรงหน้าพวกนาง “หรือว่า พวกเจ้าคิดจะขัดพระราชโองการ?”เหล่าแม่นมมีเหงื่อเย็นผุดขึ้นมาที่หน้าผากเล็กน้อยพวกนางขัดขวางไว้ไม่ได้ ทำได้เพียงเปิดประตูให้ “พระชายาอ๋องเจ็ด องค์ชายสิบ เชิญเข้าไปได้เพคะ”ครั้นฉินเหยี่ยนพับกระดาษเก็บไว้ในแขนเสื้อเรียบร้อยแล้ว ก็พาเจ้าสิบเดินเข้าไปข้างในแม่