“ได้สิ” น้ำเสียงของฉินเหยี่ยนเย่ว์ราบเรียบ นางเดินไปหาซูเตี่ยนฉิงทีละก้าว “ข้าสามารถให้ยาถอนพิษแก่เจ้าได้ แต่กลับกันแล้ว เจ้าก็ต้องชดใช้”ซูเตี่ยนฉิงขมวดคิ้ว “ท่านต้องการทำอะไรกันแน่?”“ฮ่าฮ่า” ฉินเหยี่ยนเย่ว์หยิบเข็มยาชาที่ถูกปัดร่วงขึ้นมา “เจ้าเดาสิ”ซูเตี่ยนฉิงถอยหลังไปสองก้าวทันทีที่นางเคลื่อนไ
เนื่องจากนางหอบหายใจถี่ อุณหภูมิร่างกายจึงสูงขึ้น จากนั้นตุ่มสีแดงก็แพร่กระจายอย่างรวดเร็วซูเตี่ยนฉิงรับรู้ได้ว่าใบหน้าเต็มไปด้วยตุ่มสีแดง และในที่สุดก็ทรุดตัวลงไปใบหน้าคือชีวิตของนางสิ่งที่นางทนไม่ได้ที่สุดในชีวิตก็คือการที่มีคนมาลงมือกับใบหน้าของนางซูเตี่ยนฉิงโกรธมากจนตัวสั่นไปหมด ตะโกนว่าต้อง
ฉินเหยี่ยนเย่ว์กางมือแล้วพูดขึ้น “หม่อมฉันไม่ได้ทำอะไรทั้งนั้น นี่ ว่ากันว่าหมีเก่งกาจมักจะตายเพราะหญิงงาม คนโบราณไม่เคยหลอกหม่อมฉันเลย”คิ้วงามของตงฟางหลีขมวดเข้าหากัน “เอายาถอนพิษให้ข้า”“ยาถอนพิษ?” ฉินเหยี่ยนเย่ว์หัวเราะเยาะ “เหลวไหลน่า”“ตงฟางหลี หม่อมฉันขอกล่าวตามตรงแล้วกัน เป็นแม่นางฉิงเอ๋อร์ข
ซูเตี่ยนฉิงตกใจจนนิ่งค้างไปตงฟางหลีก็ชะงักไปเช่นเดียวกันทั้งสองราวกับคาดไม่ถึง ว่าฉินเหยี่ยนเย่ว์จะกล้าทำเรื่องเช่นนี้ออกมาตู้เหิงยืนมองดูซูเตี่ยนฉิงถูกราดน้ำไปทั้งตัวอยู่อีกฝั่ง เกือบจะปรบมือและร้องตะโกนว่าดีสายตาของทุกคนรวมอยู่ที่ตัวฉินเหยี่ยนเย่ว์ แต่ละคนแสดงสีหน้าที่แตกต่างกัน“มองข้าทำไม?”
ตู้เหิงเริ่มจะกลืนไม่เข้าคายไม่ออกอีกครั้งครานี้ ตงฟางหลีกลับไม่กล่าวอันใดอีกเขามองท้องฟ้าที่มืดมิดไปแล้ว กล่าวด้วยน้ำเสียงกลายเป็นอบอุ่น “ฉิงเอ๋อร์ เจ้าตัวเปียกไปหมดแล้ว เปลี่ยนอาภรณ์สักหน่อยเถิด ตุ่มแดงตามร่างกายของเจ้าก็ลดลงไปแล้ว มิต้องกังวลไป”“หม่อมฉันมิต้องเปลี่ยนอาภรณ์หรอกเพคะ” ซูเตี่ยนฉิง
เหงื่อเย็นไหลซึมจากหน้าผากซูเตี่ยนฉิงบรรยากาศตึงเครียด ไม่มีผู้ใดเอ่ยวาจาออกมา มีเพียงลมหนาวพัดมาเท่านั้น“พอได้แล้ว” ตงฟางหลีเหนื่อยล้าเล็กน้อย เขากระแอมหนึ่งคำ “จะถูกหรือผิด ข้าจะเป็นคนตรวจสอบให้แน่ชัดเอง”เขาเหลือบมองฉินเหยี่ยนเย่ว์อย่างตักเตือน “เจ้า กลับเรือนโยวหลันเสีย ไม่มีคำสั่งของข้าก็ห้าม
“ตู้เหิง พานางกลับเรือนโยวหลัน” ตงฟางหลีหลุบตาลง “ข้าไม่อยากเจอนาง”“ท่านไม่อยากเจอข้า ได้” ฉินเหยี่ยนเย่ว์ไม่พอใจเล็กน้อย “บังเอิญพอดี ข้าก็ไม่อยากเจอท่านเช่นกัน”“ตงฟางหลี ก่อนหน้านี้ข้าคิดว่าท่านเป็นคนฉลาดมาตลอด ตอนนี้เพิ่งมารู้ ว่าก่อนหน้านี้ข้าตาบอดไปจริง ๆ ท่านก็คือคนชั่วช้าที่ใจบอดตาบอดสมองมี
นางคุกเข่าลงหนึ่งข้าง แล้วประสานมือ “ท่านอ๋อง”“พาพระชายากลับเรือนโยวหลัน” ตงฟางหลีกล่าว “หากพระชายาไม่ให้ความร่วมมือ อนุญาตให้ใช้ทุกวิถีทางได้”“ไม่จำเป็น” ฉินเหยี่ยนเย่ว์เห็นรูปลักษณ์ของเจ้าหางน้อยที่ติดตามนางได้ชัดเจนเป็นครั้งแรกแตกต่างจากไป๋โค้ว เป็นแม่นางที่สุขุมและคมในฝัก“ข้ากลับเองได้” นาง