ลู่ซิวมองดูผ้าในมือของนางด้วยสีหน้าซับซ้อนเมื่อครู่ นางเช็ดเหงื่อให้เขา...อืม เป็นครั้งแรกในชีวิตที่มีสตรีใช้ผ้าเช็ดเหงื่อให้เขา ความรู้สึกนั้นค่อนข้างลึกซึ้งลุ่มลึก“เจ้าหล่อเฝือกเป็นกระมัง?” ฉินเหยี่ยนเย่ว์กล่าว“เป็น” ลู่ซิวนำปูนมายึดไว้กับข้อมือของตงฟางหลีจบการเย็บเส้นเอ็นและการยึดด้วยเฝือกซึ
“ใต้เท้าลู่ ท่านอ๋องเป็นอย่างไรบ้าง” ตู้เหิงถาม“ท่านอ๋องหลับไปแล้ว” ลู่ซิวห่ออุปกรณ์อย่างดีและวางลงอย่างระมัดระวัง “เข้าเฝือกไว้และพักฟื้นเพียงพอ หลังจากผ่านไปหนึ่งเดือนก็เอาเฝือกออกและฝึกการฟื้นฟู ก็จะสามารถกลับมาเป็นปกติได้”ตู้เหิงตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง “พระชายาไม่ได้พูดเรื่องไร้สาระหรือ?”ลู่ซิวห
เมื่อสองนายบ่าวกลับไปถึงเรือนโยวหลานด้วยย่างก้าวหนึ่งลึกหนึ่งตื้น ก็ใกล้ต้นยามซื่อแล้วฉินเหยี่ยนเย่ว์เหนื่อยมากจนแม้แต่จะอาบน้ำก็ยังขี้เกียจอาบ เมื่อกลับถึงห้องก็บิดขี้เกียจแล้วล้มตัวนอนลงบนเตียงในห้องจุดกำยานหอมกลิ่นหอมอ่อน ๆ ไว้ภายใต้ฤทธิ์ของกำยานที่ทำให้หลับสบาย นางยิ่งรู้สึกเหนื่อยมากขึ้นเรื่
เป็นครั้งแรกที่ฉินเหยี่ยนเย่ว์เห็นกระบวนการทั้งหมดของการปรากฏตัวของยาอย่างกระจ่างชัดครั้งนี้ยิ่งรู้สึกประหลาดใจและยิ่งตกใจมากกว่าครั้งที่แล้วเพราะแหวนตอบกลับคำสั่งของนางแล้วแหวนฟังรู้เรื่อง!มันฉลาดมาก!ฉินเหยี่ยนเย่ว์มองกล่องยาในมืออย่างตื่นเต้นทว่าหลังจากเห็นลายมือที่อยู่ด้านบนอย่างชัดเจน มุมป
เฟ่ยชุ่ยเลียนแบบน้ำเสียงของฉินเหยี่ยนเย่ว์และพูดขึ้นอย่างน่ากลัวไป๋โค้วตัวสั่นเทิ้ม ครั้นนึกถึงความน่าสะพรึงกลัวของการถูกหญิงอสรพิษครอบงำเมื่อครู่ และหยุดเดินอย่างเงียบ ๆหญิงอสรพิษเป็นคนอารมณ์ไม่แน่นอน จึงสามารถทำเรื่องเช่นนี้ได้จริง ๆ“ไม่ใช่ว่าข้ากลัวนางนะ แต่ข้ากลัวว่าเจ้าเด็กตู้เหิงจะเดือดร้อน
สีหน้าของตู้เหิงซับซ้อนมากท่านอ๋องเกลียดสตรียามเข้าใกล้เขาที่สุด ก่อนวันนี้ ห้องนี้ก็ยังไม่เคยมีสตรีคนใดย่างกรายเข้ามาเลยทว่าในค่ำคืนนี้ ฉินเหยี่ยนเย่ว์ไม่เพียงแต่บุกเข้ามาในห้องเท่านั้น ยังถอดเสื้อผ้าของท่านอ๋องออก และสัมผัสพื้นที่ส่วนใหญ่บนร่างกายของท่านอ๋องอีกด้วยเรื่องนี้หากถูกท่านอ๋องรู้เข้า
“ตำแหน่งที่โดนลูกธนูยิง”ตู้เหิงลังเลเล็กน้อย “ตรง ตรงขาพ่ะย่ะค่ะ นั่นเป็นบาดแผลเมื่อหนึ่งเดือนก่อน ไม่น่าเกี่ยวกับอาการป่วยครั้งนี้หรอกกระมังพ่ะย่ะค่ะ?”“ข้าดูบาดแผลก่อนแล้วค่อยคุยกัน” ฉินเหยี่ยนเยว่ห์กล่าว ขณะกำลังจะปลดกางเกงของตงฟางหลี“ท่านทำอะไรพ่ะย่ะค่ะ?” ตู้เหิงตกใจ พลางรีบขัดขวางนาง“ข้าจะดู
“ตู้เหิง” ฉินเหยี่ยนเย่ว์มองไปยังตู้เหิงด้วยรอยยิ้มคล้ายไม่ยิ้ม “ก่อนหน้านี้เจ้าเกลียดข้า คิดว่าเป็นข้าที่บีบบังคับให้ท่านอ๋องของพวกเจ้าตัดเส้นเอ็นข้อมือใช่หรือไม่?”ตู้เหิงเยาะหยัน นางยังมีหน้ามากล่าวอีกหรือ?“ข้าคิดว่าพวกเจ้าควรจะขอบคุณข้า” นางกล่าวเสียงอ่อน “แม้ว่าตงฟางหลีจะได้รับบาดเจ็บ แต่ ข้อม
ความโกรธของตงฟางหลียิ่งมากขึ้นเขาระงับอารมณ์หุนหันพลันแล่นที่จะทุบหัวของลู่จิ้นสักหมัด ถามด้วยเสียงทุ้มลึก “เหยียนเย่ว์ อาการเป็นอย่างไรบ้าง?"“ยังไหว”“ยังไหว หมายความว่าอย่างไร?” ตงฟางหลียังคงหวาดกลัวกับเหตุการณ์น่าหวาดผวาเมื่อครู่นั้น ครั้นได้ยินคำตอบส่งเดชของลู่จิ้น จึงอดไม่ได้ที่จะขึ้นเสียง“ค
หลังจากที่เฮยตั้นปล่อยของสิ่งนั้นออก ของสิ่งนั้นก็หนีออกไปด้วยการยืดและหดตัว“เหมียว” เฮยตั้นเห็นว่ามันจะหลบหนี จึงกระโจนไปตะครุบใส่ และกัดส่วนหัวของมันอย่างรุนแรงฉีกทึ้งอย่างแรง และของสิ่งนั้นก็แยกออกเป็นสองท่อนหลังถูกแยกออกเป็นสองท่อนแล้ว ยังคงเคลื่อนไหวอยู่เฮยตั้นชะงักไปชั่วขณะ อุ้งเท้าทั้งสอง
น้ำเสียงนั้นราวกับกำลังบอกว่า...ไว้หน้าแล้วไม่รู้จักรับ!หลังจากนั้น กรงเล็บก็ตวัดมาทางเขาหลังจากอุ้งเท้าของมันเคลื่อนออก เจ้าสิ่งมีชีวิตที่คล้ายกับเส้นผมตัวนั้นก็คิดจะหลบหนี“เมี้ยว!” เฮยตั้นไม่สนใจสั่งสอนตงฟางหลีทาสผู้โง่เขลาคนนี้อีกมันกระโจนเข้าไปอย่างดุดัน และตบของสิ่งนั้นอย่างรุนแรง ก่อนจะใช้
เงาดำสายหนึ่งกระโดดเข้ามาจากทางประตูร่างกายอวบอ้วนที่แข็งแรงประหนึ่งบินเข้ามา มาถึงตรงหน้าฉินเหยี่ยนเย่ว์ในพริบตา“เมี้ยว”เฮยตั้นกระโดดขึ้นบนศีรษะของนางอย่างรวดเร็วและรุนแรง ร่างกายปิดดวงตาของฉินเหยี่ยนเย่ว์ ขาหลังเกือบจะปิดแก้มของนางกรงเล็บหน้าขยุ้มผมนางเมื่อการมองเห็นของฉินเหยี่ยนเย่ว์ถูกบดบัง
อาการปวดศีรษะจนยากจะทนรับไหวถาโถมเข้ามาไม่หยุดราวกับมีเข็มจำนวนนับไม่ถ้วนทิ่มแทงที่ศีรษะ เป็นความรู้สึกอันน่าหวาดกลัวที่ไม่เคยประสบมาก่อนเวลาผ่านไปเพียงชั่วพริบตา เหงื่อเม็ดโตก็ไหลพรากอาภรณ์เปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อเช่นกันนางทนรับความเจ็บปวดเช่นนั้นไม่ไหว น้ำตาจึงไหลลงมาอย่างยากจะต้านทานร้องไห้สะอึ
“พี่เจ็ด หม่อมฉันคิดว่ามิอาจปล่อยให้เป็นเช่นนี้ได้เพคะ” ฉินเหยี่ยนเย่ว์เพียงแค่คิดว่าคนดีอย่างเช่นพี่รองจะต้องแต่งกับซูเตี่ยนฉิงที่เป็นดอกบัวขาวเช่นนั้น ในใจก็รู้สึกอึดอัดจนว้าวุ่น“ซูเตี่ยนฉิงมิใช่ว่าคบชู้กับพี่หกหรอกหรือ? นางเคยคบกับพี่หก เกรงว่าคงจะขึ้นเตียงกันไปแล้ว มาแต่งกับพี่รองอีกนับเป็นเรื่
“มิใช่เช่นนั้น ยกตัวอย่างแล้วกัน หากอยู่ในท้องพระโรงใหญ่ในตำหนักไท่อี๋ แล้วเสด็จพ่อทรงประทับอยู่บนบัลลังก์มังกร สวมอาภรณ์ลายมังกรสี่เล็บของฮ่องเต้ พระองค์ในตอนนั้นคือผู้มีอำนาจสูงสุดของราชวงศ์ตงลู่ ลู่จิ้นจักต้องคารวะตามกฎระเบียบ และรักษามารยาทระหว่างฮ่องเต้และขุนนางตามกฎระเบียบด้วย” ตงฟางหลีพูดอธิบ
“...” หน้าผากของฉินเหยี่ยนเย่ว์ทะมึนเป็นแถบเพื่อถ้อยคำที่ดูเพ้อฝันเช่นนี้ เขายังอุตส่าห์หึงหวงได้“ศิษย์พี่บอกว่าจะแนะนำให้กับหม่อมฉัน หม่อมฉันก็ต้อบรีบไปแต่งกับคนนั้นเลยหรือ? ท่านใช้สมองคิดสักหน่อยว่าเรื่องเช่นนี้เป็นไปได้ด้วยหรือ? อีกอย่าง ท่านขึ้นชื่อว่าถูกเลือกเป็นหนุ่มรูปงามอันดับหนึ่งแห่งเมือ
“เจ้ามีความเห็นหรือไม่” ตงฟางหลีมุ่นคิ้ว“อืม หลังจากท่านน้าท่านน้าสะใภ้ตายไป ท่านตาก็เป็นคนเก็บรักษากล่องเล็กใบนั้น และท่านตาก็มีอาการสติฟั่นเฟือนเช่นกัน หลังจากที่กล่องใบเล็กถูกพระสนมอวิ๋นถือเอาไป อาการสติฟั่นเฟือนของท่านตาก็ดีขึ้นมาก คำตอบมิใช่ว่าชัดเจนมากหรอกหรือเพคะ?” ฉินเหยี่ยนเย่ว์กล่าว“เจ้า