“อีกทั้ง โรคที่รักษาไม่หายจะมีได้อย่างไร? ขอแค่ใช้ยาถูก ใช้วิธีที่ถูกต้อง ใช้ยาให้ถูกกับอาการ ไม่มีอุปสรรคอะไรที่ผ่านไม่ได้เจ้าค่ะ อีกอย่างทักษะการแพทย์ของพระชายาเก่งกาจเช่นนี้ ท่านต้องมั่นใจในตัวเองสิ ถ้าหากแม้แต่ท่านก็คิดเช่นนั้น ก็เท่ากับคุณหนูรองป่วยระยะสุดท้าย ต้องตายอย่างไร้ข้อกังขาหรือ?” อวิ๋นอิงกล่าวคำพูดของนางเตือนสติฉู่เชียนหลีกะทันหันใช่แล้ว!น้องสาวโชคร้ายมามากแล้ว เอาแต่ร้องไห้กับโทษตัวเอง ไม่ได้ช่วยอะไรเลย ต้องหาทางเยียวยา จึงจะเป็นวิธีที่ถูกต้องแม้น้องสาวเป็นโรคหัวใจโดยกำเนิด ขอแค่กินยาระยะยาว และดูแลสุขภาพให้ดี ตราบใดที่ไม่ถูกกระตุ้นอารมณ์อย่างรุนแรง โดยทั่วไปจะไม่ส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวันขอแค่ระวังให้มากๆ นางยังสามารถเป็นเหมือนคนทั่วไปเอาแต่เสียใจ จนลืมเรื่องสำคัญไปเลยฉู่เชียนหลีนั่งตัวตรงขึ้นเล็กน้อย รีบเช็ดน้ำตาทั้งสองข้างออก วางน้องสาวที่กว่าจะนอนหลับลงในอ้อมแขนเยว่เอ๋อร์“เยว่เอ๋อร์ เจ้าอุ้มนางไปนอนก่อน ระวังหน่อยนะ พยายามวางนางให้เบาที่สุด อย่าทำให้นางตกใจ”“เจ้าค่ะ”เยว่เอ๋อร์อุ้มอย่างระมัดระวัง ไปวางลงอย่างเบามือที่สุดเท่าที่จะทำได้“อวิ๋นอิง
หากเปลี่ยนเป็นเมื่อก่อน เมื่อฉู่เชียนหลีได้ยินคำพูดนี้ ก็คงตกใจจนสะดุ้ง แต่ตอนนี้นางเคยชินกับความคิดที่ผิดเพี้ยนของเฟิงเจิ้งหลีแล้วไม่มีเรื่องอะไรที่เฟิงเจิ้งหลีทำไม่ลง“เจ้ายังฝันอยู่กระมัง? แม้เจ้าได้ให้กำเนิดพระนัดดาองค์โต ฝ่าบาทกลับไม่แต่งตั้งเจ้าเป็นรัชทายาท แสดงว่าเขาไม่ชอบเจ้า ประกอบกับเฟิงเย่เสวียนกำลังกลับเมืองหลวงแล้ว เจ้าคิดว่ามีลูกชายแล้วทุกอย่างก็จบหรือ?”ฉู่เชียนหลียิ้มอย่างเย็นชาช่วงที่เฟิงเย่เสวียนออกรบ เรื่องสกปรกที่เขาทำลับหลังเหล่านั้น เฟิงเย่เสวียนจะไม่รู้หรือ?ด้วยนิสัยของเฟิงเย่เสวียน ระหว่างพวกเขาสองคน ไม่ตายไม่เลิก“เฟิงเจิ้งหลี นี่เป็นเรื่องที่เจ้าก่อขึ้น นอกจากตาย ไม่มีวิธีอื่นที่จะหยุดเรื่องนี้ ไม่ว่าระหว่างพวกเจ้าจะจบลงอย่างไร ชนะก็ดี แพ้ก็ดี หัวใจของข้าล้วนอยู่กับจวนอ๋องเฉิน”“ใครก็ได้ ส่งแขก”หมุนกายกลับอย่างเย็นชา ปิดประตู ตัดขาดการมองเห็นปัง…มีลมเย็นพัดเข้าไปปะทะหน้าเฟิงเจิ้งหลีเย็นเล็กน้อยเฟิงเจิ้งหลีหลุบตา ลูบปลายจมูกที่เย็นเฉียบเบาๆไม่ว่าเป็นหรือตาย หัวใจของนางก็จะไม่เปลี่ยน?นางช่างไร้ความรู้สึกกับเขาจริงๆ หรือกล่าวอีกนัยก็คือไม่
นางอยากป้อน กลับถูกต่อต้านรุนแรงยิ่งขึ้น กลับกับมันทำให้รู้สึกเด็กอยู่ในอ้อมแขนของนาง เหมือนกำลังมีเข็มทิ่มแทงเขาเมื่อหมอมอเห็น จึงรีบกล่าว“พระชายา ท่านเพิ่งดูแลเด็กครั้งแรก ยังไม่มีประสบการณ์ อาจเพราะนายน้อยรู้สึกอึดอัด จึงร้องไห้หนักเช่นนี้ หรือไม่ให้บ่าวอุ้มไปให้แม่นมป้อนก่อน ท่านเรียนรู้อีกสักหน่อย พรุ่งนี้ค่อยป้อนนายน้อย”ฉู่เจียวเจียวเอาเด็กคนนี้ไม่อยู่จริงๆ ได้แต่ส่งให้หมอมอ“ก็ดี”“รอเขากินอิ่ม นอนหลับแล้ว ค่อยอุ้มมาให้ข้า”“เจ้าค่ะ” หมอมออุ้มเด็กถอยออกไปแล้วภายในห้อง เหลือเพียงสองคนทันทีบรรยากาศเงียบสงัดหลายวินาทีหลังจากผ่านไปเจ็ดแปดวินาที ฉู่เจียวเจียวจึงจะรู้ตัวว่าตนยังเปลือยหน้าอกอยู่ อีกทั้งภายใต้การจ้องมองของเฟิงเจิ้งหลี หน้าแดงเหมือนกุ้งที่ถูกต้มจนสุก รีบดึงเสื้อลงแต่เสื้อผ้าเป็นของก่อนคลอด สองวันนี้เริ่มมีน้ำนม บวมมาก และใหญ่กว่าเดิม จึงค่อนข้างคับดึงอยู่สองสามทีไม่เหมือนปิด กลับเหมือนการยั่วยวนมากกว่าฝ่ามือใหญ่ข้างหนึ่งยื่นเข้ามา“ข้าเอง”มือซ้ายของเฟิงเจิ้งหลีกดไหล่นาง มือขวาจับมุมหนึ่งของเสื้อ ยกขึ้นเล็กน้อย ขยายพื้นที่ แล้วดึงลงมา สวมได้อย่าง
หลังจากเฟิงเจิ้งหลีไป ฉู่เจียวเจียวเรียกสาวใช้ข้างกายตัวเองมา นางถามคำถามแปลกๆ“ลูกสาวทั้งสองของฉู่เชียนหลี มีอะไรผิดปกติหรือไม่?”สาวใช้ตะลึงเล็กน้อย ไม่ค่อยเข้าใจความหมายของคำถามนี้นางคิดแล้วคิดอีกกล่าวตอบอย่างครุ่นคิด“พระชายา ข้าได้ยินมาว่า ลูกสาวทั้งสองคนของพระชายาอ๋องเฉิน คนหนึ่งเลี้ยงง่าย คนหนึ่งชอบร้องไห้ เหมือนว่าเพราะโภชนาการไม่สมดุล มีเด็กคนหนึ่งผอมและตัวเล็กมาก ดูไม่แข็งแรง อีกทั้งยัง…”“พอแล้ว ออกไปเถอะ!”จู่ๆ น้ำเสียงของฉู่เจียวเจียวก็เย็นชาและเฉียบคม ไม่ได้ฟังต่อ หมุนกายก็นอนตะแคงหัวใจสาวใช้สั่นเล็กน้อยหลังพระชายาคลอดลูก เหมือนนิสัยจะเปลี่ยนไป เดี๋ยวอารมณ์ดี เดี๋ยวอารมณ์ร้าย ยากจะคาดเดานิสัยนางไม่กล้าพูดมาก รีบเดินจากไปทันทีวันรุ่งขึ้นเมื่อคืน ฉู่เชียนหลีแทบไม่ได้นอนเลย ดูแลน้องสาวที่ป่วยเป็นโรคหัวใจโดยกำเนิดอย่างไม่กลัวเหน็ดเหนื่อย ยาที่อวิ๋นอิงซื้อกลับมา นางผสมและทดลองทีละอย่างด้วยตัวเองอวิ๋นอิงเห็นแล้วปวดใจ เพิ่งคลอดลูก ไม่พักฟื้น แถมยังทำงานหนักฉู่เชียนหลีไม่สามารถพักฟื้นได้อย่างสบายใจเมื่อลูกร้องไห้ นางก็กังวล จะหลับลงได้อย่างไร?ในเตียงโยก
“นายน้อย!”สาวใช้ตกใจจนสะดุ้ง หัวใจเต้นแรงจนแทบพุ่งพรวดขึ้นมาที่คอ พลันกระโจนออกไปอย่างมือว่องตาไว ใช้สองมือรับเด็กเอาไว้เกือบตกพื้น…หัวใจที่เต้นแรงของสาวใช้สงบลงเล็กน้อย แล้วหันไปมองทางพระชายา สายตาอันดำมืดนั่น ราวกับเปลี่ยนไปเป็นคนละคน ทำให้นางรู้สึกกลัวอย่างไร้เหตุผล“พระชายา…”ตั้งแต่พระชายาคลอดลูก ก็ต่างไปจากเมื่อก่อนโดยสิ้นเชิงแม้แต่นางเห็นแล้ว ก็รู้สึกกลัวเล็กน้อยฉู่เจียวเจียวขมวดคิ้วแน่น รู้สึกหงุดหงิดอย่างน่าประหลาด“อุแว้!”เด็กร้องไห้ไม่หยุด น้ำตาร่วงเป็นเม็ดๆ ใบหน้าน้อยๆ ที่ร้องไห้จนแดง ใครเห็นแล้วก็อยากทะนุถนอมยิ่งร้องไห้ นางยิ่งหงุดหงิดบ้าจริง!ร้องไห้อะไรนักหนา? น่ารำคาญ! กว่าฝ่าบาทจะตอบตกลงแต่งตั้งอ๋องหลีเป็นรัชทายาท ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย นางกำลังอารมณ์ดี ตั้งใจจะรีบกลับจวนโดยเร็ว เพื่อบอกข่าวดีกับเฟิงเจิ้งหลี แต่เด็กคนนี้ร้องไห้หนักมาก ทำลายอารมณ์ของนางรู้สึกรำคาญเป็นพิเศษ“อุ้มลงไป กล่อมเขา อย่าให้ข้าได้ยินเขาร้องไห้อีก!” ฉู่เจียวเจียวหันศีรษะไปด้านข้างอย่างหงุดหงิด“พระชายา แต่นายน้อยเป็นเลือดเนื้อของท่านน่ะเจ้าคะ…”“ข้าสั่งให้เจ้าลงไป เจ้าไม่เ
เมื่อเสียงตะโกนดังขึ้น บนถนนกำลังคึกคัก ชาวบ้านที่อยู่โดยรอบต่างหันมามองเห็นเพียง ฉู่เชียนหลีอุ้มทารกอ้วนๆ ที่อยู่ในผ้าห่อไว้ ส่วนฉู่เจียวเจียวรีบกระโดดลงมาจากรถม้า ไม่มีเวลาสนใจร่างกายที่ยังอ่อนเพลียหลังคลอด นางเดินเข้าไปอย่างโซซัดโซเซ“เอาลูกชายของข้าคืนมา!”นางยื่นมือสองข้างไปแย่งเด็กกลับคืนมา และตำหนิฉู่เชียนหลีด้วยความโกรธ“เจ้าไม่สามารถให้กำเนิดพระนัดดาองค์โต นั่นคือเจตนาสวรรค์ ต่อให้เจ้าริษยาข้า ก็ไม่ควรทำเรื่องที่ต่ำช้าเช่นนี้!”เมื่อทุกคนได้ยิน ก็เบิกตากว้างด้วยความตกใจพระชายาอ๋องเฉินแย่งลูกชาย?!สวรรค์!“ได้ยินมาว่าพระชายาอ๋องเฉินคลอดฝาแฝด ล้วนเป็นผู้หญิง ตอนที่นางตั้งครรภ์ พวกเราเห็นท้องของนางทั้งโตทั้งกลม ต่างก็คิดว่าเป็นลูกชายเสียอีก”“ข้าได้ยินมาว่า แม้แต่ฝ่าบาทก็มั่นใจว่าในท้องของนางคือพระนัดดาองค์โต ยังไม่ทันได้คลอด ก็ประทานชื่อก่อนแล้ว”“ตอนนี้นางให้กำเนิดลูกสาวสองคน น่าจะผิดหวังและกดดันมากกระมัง?”“คนคนหนึ่งเมื่ออยู่ภายใต้ความกดดัน สามารถทำเรื่องที่แหกกฎได้ นางแย่งลูกชายที่พระชายาอ๋องหลีตั้งครรภ์สิบเดือน และคลอดออกมาด้วยความยากลำบากได้อย่างไร…”“ใช่!”ม
“เจ้ากล้าวางยาพิษพระนัดดาองค์โต!”เสียงตะคอกของฉู่เจียวเจียวดังมาก ทำให้ชาวบ้านโดยรอบได้ยินกันทุกคน และยิ่งทำให้ชาวบ้านตกใจมากพิษ!เพราะความริษยา พระชายาอ๋องเฉินจึงวางยาพิษกับเด็กทารกที่เพิ่งคลอดได้สามวัน!สวรรค์!ทันใดนั้น สายตาของทุกคนที่มองฉู่เชียนหลีกลายเป็นแปลกประหลาด…เยว่เอ๋อร์โกรธแล้ว “พระชายาอ๋องหลี ท่านพูดเหลวไหลอะไร! พระชายาแค่อุ้มเขาครู่เดียว ยังไม่ถึงห้าอึดใจก็ถูกท่านแย่งกลับไปแล้ว จะมีพิษได้อย่างไร! นี่ท่านเป็นโรคหลงผิดหรือ?”“อุแว้…”เสียงที่ร้องไห้ไม่หยุดของเด็ก ก็เหมือนกับเป็นหลักฐานที่หนักแน่น โต้กลับคำพูดของเยว่เอ๋อร์คำพูดของเยว่เอ๋อร์ดูไม่มีน้ำหนักทันทีชาวบ้านทุกคนไม่เชื่อ เสียงวิพากษ์วิจารณ์ราวกับระลอกคลื่น“เมื่อครู่ข้าเห็นกับตา ตอนแรกพระนัดดาองค์โตไม่ได้ร้องไห้ หลังจากที่กลับถึงอ้อมแขนของแม่ ก็ร้องไห้ไม่หยุด นี่ไม่ได้แสดงให้เห็นว่ามีปัญหาหรอกหรือ?”“ใช่ พระนัดดาองค์โตต่อต้านเช่นนี้ แค่ดูก็รู้ว่าไม่สบาย”“หรือว่าถูกพิษจริงๆ?”“ถ้าหากนางฆ่าพระนัดดาองค์โตตาย ลูกสาวฝาแฝดที่นางคลอด ก็จะกลายเป็นที่โปรดปรานที่สุดในราชวงศ์แล้วไม่ใช่หรือ?”“ใช่…”เสียงก
มัวแต่ห่วงยืนกรานว่าเป็นฝีมือฉู่เชียนหลี จนลืมเรื่องนี้ไปเสียสนิท…ก็จริง หลังจากคลอดลูก สมรรถภาพด้านต่างๆ ของร่างกายลดลง แม้แต่ความจำก็ไม่ดีเป็นครั้งคราวอย่างที่เรียกว่าคลอดลูกหนึ่งครั้ง โง่ไปอีกสามปีจริงๆ ฉู่เชียนหลีเดินออกมาหนึ่งก้าว ยื่นมือแล้วกล่าว“ส่งเด็กมาให้ข้า”ฉู่เจียวเจียวกอดลูกแน่น ถอยหลังหนึ่งก้าวโดยไม่รู้ตัว“เหตุใดต้องให้เจ้าตรวจ? ข้าเชื่อใจเจ้าได้หรือ? เจ้าเป็นทักษะการแพทย์ จื่อเยี่ยมีปัญหาหรือไม่ มันก็ขึ้นอยู่กับปากของเจ้าไม่ใช่หรือ?”ในความเป็นจริง ร้อนตัวเล็กน้อยเฟิงเจิ้งจื่อเยี่ยถูกพิษหรือไม่ ในใจนางรู้ดีที่สุดถ้าหากถูกเปิดโปงต่อหน้าทุกคน นางจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน และยังจะถูกชาวบ้านวิพากษ์วิจารณ์ฉู่เชียนหลีกล่าวอย่างเย็นชา“ต่อหน้าชาวบ้านมากมายเช่นนี้ ภายใต้การจ้องมองของทุกคน ถ้าหากข้าคิดจะทำอะไร สามารถหลบพ้นสายตาของทุกคนหรือ?”แม้นางโง่เพียงใด ก็ไม่ทำเรื่องที่โง่เขลาเช่นนี้เดินเข้าไปอีกครั้ง จับมุมหนึ่งของผ้าห่อทารก“ส่งเด็กให้ข้า บนร่างกายเขามีพิษหรือไม่ ข้าพิสูจน์ก็รู้เอง”ฉู่เจียวเจียวยิ่งกอดลูกแน่นแล้ว “เจตนาเจ้าไม่ดี ข้าไม่มีทางส่งจื่อเยี่ยให
เหล่าทหารตื่นตัวขึ้นมาทันที ทุกคนพากันหันไปมอง ก็เห็นร่างเงาสีดำวิ่งผ่าน สีหน้าเปลี่ยนฉับพลัน“แย่แล้ว!”“มีคนลอบโจมตี!”เสียงตะโกนทำให้ทุกคนตื่นตัว และคนหกเจ็ดสิบคนที่อยู่ใกล้ที่สุดก็รีบวิ่งมา พบฉู่เชียนหลีและคนอื่นแล้ว“จับพวกเขา!”ชักอาวุธออกมาโดยไม่พูดพร่ำทำเพลง ลงมือโดยตรงฉู่เชียนหลีเห็นท่าไม่ดี ทำได้เพียงถือกระบี่ต่อสู้กับพวกเขา“เผด็จศึกโดยเร็ว อย่ายืดเยื้อ เน้นช่วยคนเป็นหลัก!”ยิ่งสู้นาน ก็จะยิ่งดึงดูดคนมามากขึ้นฉวยโอกาสตอนที่การเคลื่อนไหวของที่นี่ยังไม่กระจายออกไป รีบจัดการโดยเร็ว ช่วยอ๋องเฉินออกมา และรีบถอนกำลัง นี่จึงจะเป็นกลยุทธ์ที่ดีที่สุด“เจ้าค่ะ!”หานอิ๋งชักกระบี่ พาเหล่าองครักษ์ลับพุ่งออกไป เริ่มสู้กับเหล่าทหาร“ลงมือ!”จวินอี้หลินตวาดเบาๆ เขาดึงน้องสาวมาไว้ในอ้อมแขน ใช้มือข้างหนึ่งถือกระบี่ ต่อสู้กับทหารเหล่านั้นจนโกลาหลไปหมดทันใดนั้น ประกายดาบ เงากระบี่ เสียงตะโกน การต่อสู้เป็นไปอย่างดุเดือดปัง!เคร้ง!“อ่า!”“พู่!”“ฉึก!”ในการต่อสู้ที่ดุเดือด มีคนล้มลง มีคนได้รับบาดเจ็บ มีคนกระอักเลือด ชั้นวาง ท่อนไม้ กาน้ำ ของต่างๆ ล้มเกลื่อนพื้นวุ่นวายไป
หลังจากฉู่เชียนหลีรวบรวมคนในเวลาที่สั้นที่สุดเท่าที่จะทำได้ ขณะเตรียมตัวออกเดินทาง ได้พบกับองค์ชายรองแคว้นหนานยวนหลังจากรู้จุดประสงค์การมาของเขา นางขมวดคิ้วแน่นองค์ชายรองเข้าร่วม นางย่อมยินดี แต่สายตาของนางมองไปที่จวินลั่วยวนโดยตรง กล่าวอย่างตรงไปตรงมา“นาง ไปไม่ได้”นิ้วชี้ชี้ไปทางจวินลั่วยวนโดยตรง“!”จวินลั่วยวนกระทืบเท้าทันที “เพราะอะไร!”แม้แต่เสด็จพี่รองก็ตอบตกลงแล้ว นางไปได้ไม่ได้ เกี่ยวอะไรกับฉู่เชียนหลี?“อ๋องเฉินถูกจับ พวกเราเป็นพันธมิตรกัน ข้าช่วยออกแรงอีกส่วนมันจะเป็นอะไร? เจ้าคิดว่าอาศัยแค่เจ้าคนเดียว สามารถช่วยอ๋องเฉินได้หรือ?”“การมีคนเพิ่มขึ้นหนึ่งคน ก็เท่ากับมีกำลังเพิ่มขึ้นหนึ่งส่วน จิตใจเจ้าคับแคบมาก ช่วยเปิดใจหน่อยได้หรือไม่?”เมื่อหานอิ๋งได้ยินคำพูดนี้ ก็จะพุ่งเข้าไปด้วยความหงุดหงิดทันทีพระชายาของพวกเขา ถึงคราวที่คนนอกจะมาสั่งสอนตั้งแต่เมื่อไร?คนที่ท่านอ๋องยังไม่ยอมตำหนิเลย จะปล่อยให้ขยะอย่างนางมารังแกได้อย่างไร?“หานอิ๋ง”ฉู่เชียนหลีห้ามนาง มีปัญหาน้อยลงดีกว่ามีปัญหาเพิ่ม อย่าทะเลาะกัน“พระชายา…”“ช่างเถอะ”จวินอี้หลินจับมือของจวินลั่วยวนแล้วก
เนื่องจากอ๋องเฉินถูกจับ บรรยากาศในทำเนียบจึงตึงเครียดมาก ทุกคนตั้งสติ ฟังคำสั่งของพระชายา ยืนเฝ้าประจำจุดของตัวเองอย่างเข้มงวดฉู่เชียนหลีออกคำสั่งปิดข่าว ห้ามแพร่งพรายเด็ดขาด เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดความตื่นตระหนกที่ไม่จำเป็นนอกทำเนียบอีกด้านของถนนจวินลั่วยวนนั่งอยู่บนบันได ระหว่างเข่าที่ชนกัน มีลูกอมที่เพิ่งซื้อมาวางอยู่หลายถุงนางกัดไม้เสียบเล็กๆ ไว้ พลางเลียลูกอม ดวงตาที่สวยงามคู่นั้น มองเห็นที่ทหารที่วิ่งไปวิ่งมาด้วยสีหน้าร้อนใจ จากประตูใหญ่ของทำเนียบที่เปิดกว้าง เหมือนกับว่าเกิดเรื่องใหญ่อะไรขึ้นนางหรี่ตาเลียมุมปาก“หวานจัง”ซวงซวงกล่าวเสียงเบา “องค์หญิง ขนมนี่หวานเกินไป ท่านกินน้อยหน่อย ระวังฟันผุนะเจ้าคะ”“ซวงซวง ขนมนี่ไม่หวาน ความหมายของข้าคือ ข้ามีความสุข”จวินลั่วยวนลุกขึ้นยืน โยนถุงลูกอมให้ซวงซวง อมไว้ในปากหนึ่งชิ้น เดินกระโดดโลดเต้นอย่างมีความสุขซวงซวงสงสัยมีความสุข?มีความสุขอะไร?ก็แค่กินขนม ก็มีความสุขเช่นนี้แล้ว? หรือเป็นเพราะองค์ชายรองมา องค์หญิงมีความสุขมาก?ศาลาพักม้าจวินลั่วยวนเพิ่งกลับมา เห็นผู้ชายคนหนึ่งที่ท่าทางเหมือนรองแม่ทัพ กำลังรายง
ฉู่เชียนหลีเป็นคนประเภทชอบลงมือทำ พูดแล้วก็ทำเลยบ่ายวันนั้น อวิ๋นอิงก็ไปซื้อเรียนสำหรับเด็กมาแล้ว ในหนังสือมีภาพว่า และตัวอักษรขนาดใหญ่ เหมาะกับเด็กอายุสามสี่ขวบที่เพิ่งหัดอ่านฉู่เชียนหลีถือหนังสือ สอนเด็กทั้งสองอย่างอดทน“แมลงปอ”“เว่ยซี จื่อเยี่ย ดู อันนี้เรียกว่าแมลงปอ มีปีกยาวๆ หนึ่งคู่ และยังมีตาที่โต”“นี่คือผีเสื้อ มา อ่านตามแม่ ฮวาหูเตี๋ย”เว่ยซีมองนมจนน้ำลายไหล ดูน่าสงสารมากจื่อเยี่ยอ้าปากส่งเสียงอีอาๆ แต่พูดไม่ชัด ไม่สามารถออกเสียงที่ถูกต้อง หัดพูดจนแก้มสีชมพูจะกลายเป็นสีแดงแล้ว“ฮวา…ฝู…ฝู…ฝูเตี๋ย…”“ไม่ถูก ฮวาหูเตี๋ย”“ฮวา…ฝู…เตีย…เตียเตี่ย!”พลันจื่อเยี่ยตาเป็นประกาย จู่ๆ ก็โบกมือน้อยเหมือนผีเสื้อกระพือปีก ปากก็ตะโกนอย่างสนุกสนาน“เตียเตี่ย!”ความหมายของเขาเหมือนกำลังบอกว่า เตียเตี่ย[1]เป็นผีเสื้อ “...”อวิ๋นอิงอุ้มเจี๋ยวเจี๋ยวยืนดูที่ข้างๆ รู้สึกเพียงภาพนี้โหดร้ายและไร้มนุษยธรรมมาก จู่ๆ ก็สงสารเว่ยซีกับจื่อเยี่ยอย่างอธิบายไม่ถูกเด็กบ้านอื่นเริ่มเรียนตอนอายุห้าขวบแต่ของพระชายา หนึ่งขวบก็เริ่มเรียนแล้วนางก้มหน้า มองใบหน้าเล็กของลูกสาว กล่าวเสียงเบา
สองวันต่อจากนั้น ค่อนข้างสงบเพียงแต่สงครามกำลังจะปะทุขึ้นแล้ว เมื่อครึ่งเดือนก่อน อ๋องเฉินยึดเมืองเจียหนานได้ในคราวเดียว เพื่อโต้ตอบ ฮ่องเต้หลีเลือกที่จะร่วมมือกับแคว้นซีอวี้ ได้รับม้าศึก อาวุธ และยอดทหารที่หนึ่งคนสามารถสู้สิบคน เตรียมพร้อมลงสนามรบทุกเมื่อ สงครามดุเดือดขึ้นเรื่อยๆ“กลับมาอย่างปลอดภัยนะ”ฉู่เชียนหลีผูกสายรัดเอวของเสื้อเกราะอ่อน สวมเสื้อเพ้าชั้นนอก และจัดแจงให้เฟิงเย่เสวียน ก่อนออกเดินทาง โอบเอวของเขาไม่ยอมปล่อยเป็นเวลานานเฟิงเย่เสวียนลูบศีรษะน้อยๆ ของนาง“อยู่บ้านดูแลเว่ยซีกับจื่อเยี่ยให้ดี อย่างมากข้าไปสองวันก็กลับ”“ระวังตัวด้วย”“อืม”จูบกลางหว่างคิ้วของนาง ถือกระบี่เดินจากไปฉู่เชียนหลีไปส่งถึงประตูใหญ่ กระทั่งมองไม่เห็นแผ่นหลังของเขา จึงจะกลับจวนร่างกายของอวิ๋นอิงฟื้นตัวได้ดี สีหน้าก็ดูดีขึ้นมาก มีกู่แพทย์คอยบำรุงรักษา สุขภาพของนางค่อยๆ ดีขึ้น และไม่กระอักเลือดแล้ว“พระชายา งานเลี้ยงอายุครบหนึ่งปีของเว่ยซีกับจื่อเยี่ย จะเชิญใครบ้างเจ้าค่ะ?” อวิ๋นอิงกำลังวางแผนพริบตาเดียว ยังเหลืออีกเจ็ดวัน เจ้าเด็กน้อยทั้งสองก็จะอายุหนึ่งปีแล้วเวลาผ่านไปเร็วมาก
เมื่อได้ยินเช่นนี้ สีหน้าจวินลั่วยวนเปลี่ยนฉับพลัน กลิ่นอายรอบกายขรึมลง มีความตื่นตระหนกสายหนึ่งแลบผ่านแววตาอย่างรวดเร็วพริบตาเดียวไม่นานก็สงบลง บนใบหน้าเต็มไปด้วยความโกรธ“ท่านหมายความว่าอย่างไร?”“นี่ท่านพูดอะไรของท่าน!”นางสะบัดมือของจวินชิงอวี่หลุด ลุกขึ้นยืน ทั่วร่างเต็มไปด้วยความโกรธที่ถูกปรักปรำ“ข้าเป็นน้องสาวแท้ๆ ของท่าน ท่านกลับคิดว่าข้าทำเรื่องที่ไร้มโนธรรมเช่นนี้? เสด็จพี่สาม ก่อนที่ท่านจะพูด เคยถามใจตัวเองดูหรือไม่!”นางคำรามออกมาอย่างแค้นเคืองต่อความไม่เป็นธรรม ดวงตาก็กลายเป็นสีแดงไปแล้วจวินชิงอวี่รักนางมาก ตั้งแต่เล็กจนโต ไม่เคยตำหนินางแม้แต่คำเดียวแต่…“ยวนเอ๋อร์ เดิมทีคนที่วางยา เป็นคนตัดฟืนของทำเนียบเจียงหนาน รับคำสั่งจากฮองเฮาตงหลิง วางยาพิษทำร้ายพี่น้องฝาแฝด ถูกพระชายาอ๋องเฉินจับได้”“แต่เมื่อวานเจ้าส่งคนไปทำเนียบ คนตัดฟืนคนนี้ก็มาอยู่ที่ศาลาพักม้าแล้ว”“กลางคืน เสด็จแม่ก็ถูกพิษแล้ว”นำทั้งหมดนี้มาเชื่อมโยงกัน จะไม่ให้เขาสงสัยได้อย่างไร?จวินลั่วยวนเบิกตากว้าง“ข้าเป็นห่วงความร่วมมือของแคว้นหนานยวนกับอ๋องเฉิน ส่งคนไปลองถามดู ท่านกลับคิดว่าข้าติดสิ
ความจริงเป็นไปตามที่ฉู่เชียนหลีคาดการณ์หลังจากจวินชิงอวี่ตามจวินลั่วยวนทัน ปลอบใจนางอยู่นาน เขารับประกันและใช้คำพูดดีๆ สารพัด จึงจะสามารถทำให้น้องสาวหายโกรธกลับถึงศาลาพักมา ก็พลบค่ำแล้วฮองเฮาหนานยวนฟื้นแล้ว“เสด็จแม่ ท่านฟื้นแล้ว!”“เสด็จแม่ ท่านรู้สึกไม่สบายตรงไหนหรือไม่? เจ็บคอหรือไม่?”จวินชิงอวี่ถามอย่างประหม่า จวินลั่วยวนรินน้ำอุ่นมาหนึ่งแก้ว ทั้งสองเฝ้าอยู่ที่หน้าเตียง มองมารดาด้วยความห่วงใยฮองเฮาหนานยวนรู้สึกเจ็บแบบแสบร้อนในลำคอ แค่ขยับเล็กน้อยก็เจ็บแสบมาก แม้กลืนน้ำก็เจ็บจนหน้าซีดนางเม้มปาก ไม่พูดสักคำจวินชิงอวี่จับมือของนาง กล่าวอย่างปวดใจ“เสด็จแม่ ท่านไม่ต้องกังวล พวกเราใช้ยาที่ดีที่สุดแล้ว ต้องดีขึ้นแน่นอน ทักษะการแพทย์ของพระชายาอ๋องเฉินเลิศล้ำ มีนางอยู่ ท่านจะต้องหายดีแน่นอน”จวินลั่วยวนพยักหน้า“ใช่แล้ว เสด็จแม่ ท่านก็อย่าเสียใจไปเลย อีกสามถึงห้าปีก็หายแล้ว”“...”คำพูดนี้ ฟังดูก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรแต่หากตั้งใจฟัง สำหรับฮองเฮาหนานยวนที่ชอบร้องเพลง ไม่ใช่จงใจพูดเสียดสีหรอกหรือ?ฮองเฮาหนานยวนถือแก้วน้ำ พิงอยู่ตรงหัวเตียง ค่อยๆ หลุบตา พูดไม่ออก และไม่อยา
จวินลั่วยวนตื่นตระหนกแล้วนางคิดไม่ถึงว่าตัวเองจะตกหลุมพรางของฉู่เชียนหลี ตอนนี้ไม่สามารถทำให้นางตาย และยังทำให้เสด็จพี่สามสงสัย ไม่เพียงไม่ได้อะไรเลย แถมยังเสียอีกต่างหาก“เสด็จ เสด็จพี่สาม…”จบแล้ว!นางจะสูญเสียความรักของเสด็จพี่สามไม่ได้!จะปล่อยให้นางแพศยาฉู่เชียนหลีทำสำเร็จไม่ได้เด็ดขาด!สมองของจวินลั่วยวนแล่นอย่างรวดเร็ว ในเวลาสั้นๆ สองวินาที คิดแผนรับมือได้แล้ว เบ้าตาแดงก่ำโดยตรง มีน้ำตาไหลออกมาจากดวงตาที่กลมโต นางกล่าว“เสด็จพี่สาม ดีจังที่ท่านไม่เป็นอะไร!”“ข้าได้ยินซวงซวงบอกว่าท่านกับพระชายาอ๋องเฉินออกมาด้วยกัน และยังมาสถานที่ลับเช่นนี้อีก ข้าคิดว่าพวกท่านทำ…เรื่องอะไรที่ให้คนอื่นรู้ไม่ได้เสียอีก”“ข้าเป็นห่วงท่านจึงตามมา เสด็จพี่สาม ท่านไม่โทษข้ากระมัง?”น้ำตาแห่งความกังวลและไร้เดียงสาไหลออกมาจากหางตาของนางจวินชิงอวี่ชะงักเล็กน้อย“เป็นห่วง?”“ใช่แล้ว ท่านเป็นพี่ชายของข้า พระชายาอ๋องเฉินก็เป็นผู้หญิงที่มีสามีแล้ว พวกท่านสองคนอยู่ในห้องเดียวกัน และยังอยู่ด้วยกันนานเช่นนี้ จะไม่ให้คิดมากได้อย่างไร?”ทุกคำพูดของจวินลั่วยวนฟังดูมีเหตุผลมาก“ข้าคิดว่าพวกท่านกำลัง…
หลังจากหัวเราะอย่างเย้ยหยัน นางไม่พูดอะไรอีก โคจรกำลังภายใน ประสานฝ่ามือกับจวินชิงอวี่จวินชิงอวี่รู้สึกเพียงมีกำลังภายในที่เย็นเฉียบสายหนึ่งไหลเข้าสู่ร่างกาย ความเย็นและความร้อนประสานกัน ปรับสมดุลให้กันและกัน เขารีบหลับตา โคจรเคล็ดวิชาเหมันต์ภายในห้อง เข้าสู่ความเงียบ…นอกประตูองครักษ์ลับเฝ้าไว้นอกประตูใหญ่ รถม้าคันหนึ่งค่อยๆ แล่นเข้ามาหยุดอยู่ที่ตรงข้ามกับบ้าน มือเล็กๆ ที่ขาวนวลข้างหนึ่งเลิกม่านขึ้น แล้วกระโดดลงมา“ที่นี่หรือ?”จวินลั่วยวนยืนอย่างมั่นคง เงยหน้ามองไปเป็นสถานที่ที่เงียบสงบซวงซวงกล่าวเสียงเบา “เจ้าค่ะองค์หญิง องค์ชายสามกับพระชายาอ๋องเฉินเข้าไปข้างในสามเค่อแล้ว”จวินลั่วยวนหรี่ตา“แม้แต่โรคร้อนก็สามารถรักษา ฉู่เชียนหลีคนนี้พอจะมีความสามารถอยู่บ้าง”ทักษะการแพทย์ดี มีประโยชน์อะไร?สุดท้ายก็ต้องตายอยู่ดีไม่ใช่หรือ?เมื่อวานตอนอยู่หอน้ำชา ได้ยินบทสนทนาของพวกเขาสองคน เมื่อไรที่เริ่มรักษา ห้ามถูกขัดจังหวะเด็ดขาด จะส่งผลให้กำลังภายในย้อนกลับ ทั้งสองจะกระอักเลือดจนตายขอแค่นางบุกเข้าไป ก็สามารถเอาชีวิตของฉู่เชียนหลีเพียงแต่…น่าเสียดายน่าเสียดายที่เสด็จ