“อีกทั้ง โรคที่รักษาไม่หายจะมีได้อย่างไร? ขอแค่ใช้ยาถูก ใช้วิธีที่ถูกต้อง ใช้ยาให้ถูกกับอาการ ไม่มีอุปสรรคอะไรที่ผ่านไม่ได้เจ้าค่ะ อีกอย่างทักษะการแพทย์ของพระชายาเก่งกาจเช่นนี้ ท่านต้องมั่นใจในตัวเองสิ ถ้าหากแม้แต่ท่านก็คิดเช่นนั้น ก็เท่ากับคุณหนูรองป่วยระยะสุดท้าย ต้องตายอย่างไร้ข้อกังขาหรือ?” อวิ๋นอิงกล่าวคำพูดของนางเตือนสติฉู่เชียนหลีกะทันหันใช่แล้ว!น้องสาวโชคร้ายมามากแล้ว เอาแต่ร้องไห้กับโทษตัวเอง ไม่ได้ช่วยอะไรเลย ต้องหาทางเยียวยา จึงจะเป็นวิธีที่ถูกต้องแม้น้องสาวเป็นโรคหัวใจโดยกำเนิด ขอแค่กินยาระยะยาว และดูแลสุขภาพให้ดี ตราบใดที่ไม่ถูกกระตุ้นอารมณ์อย่างรุนแรง โดยทั่วไปจะไม่ส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวันขอแค่ระวังให้มากๆ นางยังสามารถเป็นเหมือนคนทั่วไปเอาแต่เสียใจ จนลืมเรื่องสำคัญไปเลยฉู่เชียนหลีนั่งตัวตรงขึ้นเล็กน้อย รีบเช็ดน้ำตาทั้งสองข้างออก วางน้องสาวที่กว่าจะนอนหลับลงในอ้อมแขนเยว่เอ๋อร์“เยว่เอ๋อร์ เจ้าอุ้มนางไปนอนก่อน ระวังหน่อยนะ พยายามวางนางให้เบาที่สุด อย่าทำให้นางตกใจ”“เจ้าค่ะ”เยว่เอ๋อร์อุ้มอย่างระมัดระวัง ไปวางลงอย่างเบามือที่สุดเท่าที่จะทำได้“อวิ๋นอิง
หากเปลี่ยนเป็นเมื่อก่อน เมื่อฉู่เชียนหลีได้ยินคำพูดนี้ ก็คงตกใจจนสะดุ้ง แต่ตอนนี้นางเคยชินกับความคิดที่ผิดเพี้ยนของเฟิงเจิ้งหลีแล้วไม่มีเรื่องอะไรที่เฟิงเจิ้งหลีทำไม่ลง“เจ้ายังฝันอยู่กระมัง? แม้เจ้าได้ให้กำเนิดพระนัดดาองค์โต ฝ่าบาทกลับไม่แต่งตั้งเจ้าเป็นรัชทายาท แสดงว่าเขาไม่ชอบเจ้า ประกอบกับเฟิงเย่เสวียนกำลังกลับเมืองหลวงแล้ว เจ้าคิดว่ามีลูกชายแล้วทุกอย่างก็จบหรือ?”ฉู่เชียนหลียิ้มอย่างเย็นชาช่วงที่เฟิงเย่เสวียนออกรบ เรื่องสกปรกที่เขาทำลับหลังเหล่านั้น เฟิงเย่เสวียนจะไม่รู้หรือ?ด้วยนิสัยของเฟิงเย่เสวียน ระหว่างพวกเขาสองคน ไม่ตายไม่เลิก“เฟิงเจิ้งหลี นี่เป็นเรื่องที่เจ้าก่อขึ้น นอกจากตาย ไม่มีวิธีอื่นที่จะหยุดเรื่องนี้ ไม่ว่าระหว่างพวกเจ้าจะจบลงอย่างไร ชนะก็ดี แพ้ก็ดี หัวใจของข้าล้วนอยู่กับจวนอ๋องเฉิน”“ใครก็ได้ ส่งแขก”หมุนกายกลับอย่างเย็นชา ปิดประตู ตัดขาดการมองเห็นปัง…มีลมเย็นพัดเข้าไปปะทะหน้าเฟิงเจิ้งหลีเย็นเล็กน้อยเฟิงเจิ้งหลีหลุบตา ลูบปลายจมูกที่เย็นเฉียบเบาๆไม่ว่าเป็นหรือตาย หัวใจของนางก็จะไม่เปลี่ยน?นางช่างไร้ความรู้สึกกับเขาจริงๆ หรือกล่าวอีกนัยก็คือไม่
นางอยากป้อน กลับถูกต่อต้านรุนแรงยิ่งขึ้น กลับกับมันทำให้รู้สึกเด็กอยู่ในอ้อมแขนของนาง เหมือนกำลังมีเข็มทิ่มแทงเขาเมื่อหมอมอเห็น จึงรีบกล่าว“พระชายา ท่านเพิ่งดูแลเด็กครั้งแรก ยังไม่มีประสบการณ์ อาจเพราะนายน้อยรู้สึกอึดอัด จึงร้องไห้หนักเช่นนี้ หรือไม่ให้บ่าวอุ้มไปให้แม่นมป้อนก่อน ท่านเรียนรู้อีกสักหน่อย พรุ่งนี้ค่อยป้อนนายน้อย”ฉู่เจียวเจียวเอาเด็กคนนี้ไม่อยู่จริงๆ ได้แต่ส่งให้หมอมอ“ก็ดี”“รอเขากินอิ่ม นอนหลับแล้ว ค่อยอุ้มมาให้ข้า”“เจ้าค่ะ” หมอมออุ้มเด็กถอยออกไปแล้วภายในห้อง เหลือเพียงสองคนทันทีบรรยากาศเงียบสงัดหลายวินาทีหลังจากผ่านไปเจ็ดแปดวินาที ฉู่เจียวเจียวจึงจะรู้ตัวว่าตนยังเปลือยหน้าอกอยู่ อีกทั้งภายใต้การจ้องมองของเฟิงเจิ้งหลี หน้าแดงเหมือนกุ้งที่ถูกต้มจนสุก รีบดึงเสื้อลงแต่เสื้อผ้าเป็นของก่อนคลอด สองวันนี้เริ่มมีน้ำนม บวมมาก และใหญ่กว่าเดิม จึงค่อนข้างคับดึงอยู่สองสามทีไม่เหมือนปิด กลับเหมือนการยั่วยวนมากกว่าฝ่ามือใหญ่ข้างหนึ่งยื่นเข้ามา“ข้าเอง”มือซ้ายของเฟิงเจิ้งหลีกดไหล่นาง มือขวาจับมุมหนึ่งของเสื้อ ยกขึ้นเล็กน้อย ขยายพื้นที่ แล้วดึงลงมา สวมได้อย่าง
หลังจากเฟิงเจิ้งหลีไป ฉู่เจียวเจียวเรียกสาวใช้ข้างกายตัวเองมา นางถามคำถามแปลกๆ“ลูกสาวทั้งสองของฉู่เชียนหลี มีอะไรผิดปกติหรือไม่?”สาวใช้ตะลึงเล็กน้อย ไม่ค่อยเข้าใจความหมายของคำถามนี้นางคิดแล้วคิดอีกกล่าวตอบอย่างครุ่นคิด“พระชายา ข้าได้ยินมาว่า ลูกสาวทั้งสองคนของพระชายาอ๋องเฉิน คนหนึ่งเลี้ยงง่าย คนหนึ่งชอบร้องไห้ เหมือนว่าเพราะโภชนาการไม่สมดุล มีเด็กคนหนึ่งผอมและตัวเล็กมาก ดูไม่แข็งแรง อีกทั้งยัง…”“พอแล้ว ออกไปเถอะ!”จู่ๆ น้ำเสียงของฉู่เจียวเจียวก็เย็นชาและเฉียบคม ไม่ได้ฟังต่อ หมุนกายก็นอนตะแคงหัวใจสาวใช้สั่นเล็กน้อยหลังพระชายาคลอดลูก เหมือนนิสัยจะเปลี่ยนไป เดี๋ยวอารมณ์ดี เดี๋ยวอารมณ์ร้าย ยากจะคาดเดานิสัยนางไม่กล้าพูดมาก รีบเดินจากไปทันทีวันรุ่งขึ้นเมื่อคืน ฉู่เชียนหลีแทบไม่ได้นอนเลย ดูแลน้องสาวที่ป่วยเป็นโรคหัวใจโดยกำเนิดอย่างไม่กลัวเหน็ดเหนื่อย ยาที่อวิ๋นอิงซื้อกลับมา นางผสมและทดลองทีละอย่างด้วยตัวเองอวิ๋นอิงเห็นแล้วปวดใจ เพิ่งคลอดลูก ไม่พักฟื้น แถมยังทำงานหนักฉู่เชียนหลีไม่สามารถพักฟื้นได้อย่างสบายใจเมื่อลูกร้องไห้ นางก็กังวล จะหลับลงได้อย่างไร?ในเตียงโยก
“นายน้อย!”สาวใช้ตกใจจนสะดุ้ง หัวใจเต้นแรงจนแทบพุ่งพรวดขึ้นมาที่คอ พลันกระโจนออกไปอย่างมือว่องตาไว ใช้สองมือรับเด็กเอาไว้เกือบตกพื้น…หัวใจที่เต้นแรงของสาวใช้สงบลงเล็กน้อย แล้วหันไปมองทางพระชายา สายตาอันดำมืดนั่น ราวกับเปลี่ยนไปเป็นคนละคน ทำให้นางรู้สึกกลัวอย่างไร้เหตุผล“พระชายา…”ตั้งแต่พระชายาคลอดลูก ก็ต่างไปจากเมื่อก่อนโดยสิ้นเชิงแม้แต่นางเห็นแล้ว ก็รู้สึกกลัวเล็กน้อยฉู่เจียวเจียวขมวดคิ้วแน่น รู้สึกหงุดหงิดอย่างน่าประหลาด“อุแว้!”เด็กร้องไห้ไม่หยุด น้ำตาร่วงเป็นเม็ดๆ ใบหน้าน้อยๆ ที่ร้องไห้จนแดง ใครเห็นแล้วก็อยากทะนุถนอมยิ่งร้องไห้ นางยิ่งหงุดหงิดบ้าจริง!ร้องไห้อะไรนักหนา? น่ารำคาญ! กว่าฝ่าบาทจะตอบตกลงแต่งตั้งอ๋องหลีเป็นรัชทายาท ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย นางกำลังอารมณ์ดี ตั้งใจจะรีบกลับจวนโดยเร็ว เพื่อบอกข่าวดีกับเฟิงเจิ้งหลี แต่เด็กคนนี้ร้องไห้หนักมาก ทำลายอารมณ์ของนางรู้สึกรำคาญเป็นพิเศษ“อุ้มลงไป กล่อมเขา อย่าให้ข้าได้ยินเขาร้องไห้อีก!” ฉู่เจียวเจียวหันศีรษะไปด้านข้างอย่างหงุดหงิด“พระชายา แต่นายน้อยเป็นเลือดเนื้อของท่านน่ะเจ้าคะ…”“ข้าสั่งให้เจ้าลงไป เจ้าไม่เ
ณ จวนอ๋องเฉิน แคว้นตงหลิง “สารเลว!” “โอ๊ย!”เสียงตวาดแผดขึ้น ร่างผอมบางร่างหนึ่งถูกถีบจนกระเด็นเข้าชนกับเสาที่ผนัง ก่อนกระแทกกับพื้นอย่างแรง ปิ่นเงินร่วงลง เส้นผมสีดำกระจายลงบนพื้นเจ็บ...เจ็บจัง...เธอเพิ่งเสร็จสิ้นการผ่าตัดใหญ่ที่นานถึงสามสิบแปดชั่วโมงโดยไม่หยุดพัก พอออกมาจากห้องผ่าตัดก็หมดสติล้มลงกับพื้น แต่ทำไมตัวเธอถึงได้เจ็บขนาดนี้นะ?จากนั้น ความทรงจำที่ไม่คุ้นเคยกลุ่มหนึ่งก็เบียดเข้ามาในหัวสมองและฉายให้เห็นอย่างรวดเร็ว ฉู่เชียนหลี คุณหนูสี่ผู้ไม่เป็นที่ชื่นชอบของจวนอัครมหาเสนาบดีฉู่ ใบหน้าอัปลักษณ์ไร้ซึ่งความงาม นางแต่งเข้าจวนเฉินอ๋องเมื่อสามเดือนก่อน ไม่เคยได้รับความชื่นและต้องอยู่ลำพังในห้องว่างเปล่าเรื่อยมาวันนี้อ๋องเฉินรับอนุภรรยา นางถูกเรียกให้มาปรนนิบัติอนุภรรยา แต่เพราะพลั้งเผลอปัดน้ำชาหกไปลวกถูกอีกฝ่าย จึงถูกอ๋องเฉินถีบจนตายในคราวเดียว!เป็นผู้ชายที่โหดจริงๆ!แต่ในเมื่อมาแล้ว ก็ทำใจอยู่อย่างสงบเสียฉู่เชียนหลีรับเรื่องราวต่างๆ เข้ามาในหัวอย่างรวดเร็ว ฝืนทนความเจ็บปวด เงยหน้าขึ้นมาห้องหอที่ประดับตกแต่งด้วยสีแดงแห่งงานมงคล ชายหญิงในชุดแต่งงานคู่หนึ่งอย
เซียวจือฮว่าตกตะลึง “เฉิน…”มิใช่ว่าเขารังเกียจฉู่เชียนหลีเป็นที่สุด ซ้ำยังบอกว่าจะยกตำแหน่งชายาเอกให้นางหรอกหรือ? เห็นอยู่ว่าหนังสือหย่าเขียนจวนจะเสร็จอยู่แล้ว แต่จู่ๆ กลับไม่หย่ากับนาง?ฉู่เชียนหลีเองก็รู้สึกแปลกใจ หากเขาไม่หย่ากับนาง แล้วนางจะได้ท่องเที่ยวในยุคโบราณอย่างสบายอุราและเที่ยวเล่นอย่างมีความสุขได้อย่างไร?“ท่านอ๋อง ข้ามีความผิดนี่!” นางโผเข้าไปกอดต้นขาของชายหนุ่ม เอ่ยประหนึ่งใจแทบขาด “สามเดือนก่อน ข้าวางยาท่าน บีบให้ท่านแต่งกับข้า ข้าผิดหลักคุณธรรม”“เมื่อครู่ ก็จงใจปัดน้ำชาร้อนไปลวกถูกน้องเซียวอีก จิตใจคับแคบนัก”“สตรีที่ใจแคบเช่นไส้ไก่ เจ้าเล่ห์เพทุบายเช่นข้า ไม่มีหน้าจะรั้งตำแหน่งชายาอ๋องเฉินจริงๆ ขอท่านอ๋องให้ผู้ล้ำเลิศกว่ามาแทนที่เถิด!”ภายในใจ 'ผู้ชายบ้า รีบหย่าฉันเร็วๆ ฉันมาจากศตวรรษที่ยี่สิบเอ็ด อยู่มานานกว่านายตั้งหลายพันปี ไอ้เด็กรุ่นกระเตาะที่ขนยังขึ้นไม่หมดอย่างนาย มีสิทธิ์อะไรจะแต่งกับฉัน?'รู้แต่แรก สิบปีก่อนฉันก็จะไม่ช่วยชีวิตนาย ให้นายจมน้ำตายไปเลยก็ดี!เฟิงเย่เสวียนปรี่เข้าไปกุมคอเสื้อนาง “เมื่อครู่เจ้ากล่าวสิ่งใด?”คนที่ช่วยชีวิตเขาเมื่อสิบปีก่
ในเรือนหลังเล็กโกโรโกโสสาวใช้เยว่เอ๋อร์กำลังเดินวนเวียนไปมา สองมือกำแน่นอย่างกระวนกระวายใจ และคอยชะเง้อมองข้างนอกตลอดเวลา ยามเห็นร่างที่คุ้นเคยนั้น นางก็พุ่งตัวออกไปทันใด“พระชายา!”นางรีบปรี่เข้าไปกุมมือสองของฉู่เชียนหลี ก่อนตรวจดูทั้งบนล่างซ้ายขวาหน้าหลัง “พระชายา เป็นอย่างไรบ้างเจ้าคะ?” ท่านอ๋องไม่ได้ทำให้ท่านลำบากใช่หรือไม่เจ้าคะ? พระชายารองเซียวนั่นรังแกท่านหรือไม่เจ้าคะ? พวกเขาเรียกท่านไปทำสิ่งใดเจ้าคะ?”ฉู่เชียนหลีกะพริบตาเยว่เอ๋อร์เป็นสาวใช้ที่ปรนนิบัตินางมาสิบปีแล้ว เติบโตมาพร้อมกับนางตั้งแต่เล็ก สนิทกันดังพี่สาวน้องสาวนางส่ายหัวพลางผลักประตูเข้าไปในห้อง เรื่องแรกที่ทำก็คือปรี่เข้าไปที่โต๊ะแต่งหน้า และคว้าเอากระจกทองเหลืองแสนเก่าเขรอะขนาดเท่าฝ่ามืออี๋...น่าเกลียดชะมัด!แม้จะทำใจมาแล้ว แต่เมื่อได้เห็นใบหน้านี้ นางก็ยังต้องตกใจกับตัวเองภาพสะท้อนในกระจกทองเหลืองนั้น ครึ่งหน้าของสตรีหยาบขรุขระ เหมือนถูกเผาด้วยไฟร้อน ผิวหนังยู่ย่น อัปลักษณ์น่าตกใจกลัว เหมือนปีศาจไม่มีผิด ใครพบเห็นเข้า ตกกลางคืนต้องมีอันฝันร้ายเยว่เอ๋อร์กังวลว่าพระชายาจะน้อยเนื้อต่ำใจจึงรีบดึงกระจกท