เวลาเดียวกัน อีกด้านหนึ่งหมาป่าหายไปกะทันหัน คนในร้านตกใจจนขวัญหนีกระเจิง ข่าวนี้ยิ่งถูกส่งไปถึงจวนที่โอ่อ่าแห่งหนึ่ง“เจ้าว่าอะไรนะ?!”บนที่นั่ง องค์รัชทายาทเฟิงเจิ้งอวี้ตบโต๊ะลุกขึ้นยืน มีไฟโทสะแฝงอยู่ในเสียงที่เคร่งขรึมนั่นเป็นหมาป่าศึกสายเลือดบริสุทธิ์ที่เขาใช้ทรัพยากรและกำลังคนจำนวนมากจับมาจากเขาคุนหลุน หลายปีมานี้ เพื่อเลี้ยงสัตว์ร้ายตัวนี้ให้ดี เขาทุ่มเทแรงกายแรงใจและทรัพยากรเยอะมากนี่เป็นสัตว์เลี้ยงของเขา ยิ่งเป็นตัวแทนสัญลักษณ์อำนาจ สถานะ ราชาผู้สยบสรรพสิ่งของเขาคนรับใช้คุกเข่าอยู่บนพื้น ร่างกายสั่นเทา “รัช รัช รัชทายาทโปรดไว้ชีวิต…บ่าว บ่าว…”“รายงาน…”เวลานี้เอง มีทหารคนหนึ่งวิ่งเข้ามาจากนอกประตูอย่างเร่งรีบ“เรียนองค์รัชทายาท เมื่อสองเค่อก่อน ผู้น้อยเหมือนเห็นหมาป่าศึกของท่านคาบผู้หญิงคนหนึ่งออกจากเมือง หน้าตาของผู้หญิงคนนั้นอัปลักษณ์ เหมือนจะเป็น…พระชายาอ๋องเฉินขอรับ”สายตาของเฟิงเจิ้งอวี้ขรึมลงพระชายาอ๋องเฉินเฟิงเย่เสวียน!เขากำลังจะเอ่ยปาก ใต้ที่นั่ง ชายวัยกลางคนสวมชุดผาวสีน้ำตาลคนหนึ่งเอ่ยปากอย่างไม่เร่งไม่รีบ“หมาป่าตัวนั้นมีนิสัยดุร้าย ไม่แน่อาจจะก
ฉู่เชียนหลีจับมือนางอย่างกระตือรือร้น “เหตุใดมือเจ้าจึงเย็นเช่นนี้? เหตุใดอาการไอนี้ยังไม่หายดี? ต้องสวมเสื้อผ้าให้เยอะๆ ดูแลร่างกายให้ดีๆ วันข้างหน้าจึงจะสามารถมีลูกที่แข็งแรงให้ท่านอ๋องนะ”เซียวจือฮว่าได้ยินเช่นนี้ แก้มแดงทันทีนางก้มศีรษะ กล่าวอย่างเขินอายเล็กน้อย“พี่หญิงล้อเล่นแล้ว…”“นี่เป็นเรื่องไม่ช้าก็เร็วอยู่แล้วไม่ใช่หรือ? จวนอ๋องเฉินต้องอาศัยเจ้าแตกกิ่งก้านสาขาแล้ว” ฉู่เชียนหลียิ้มแย้ม ท่าทางที่สนิทสนมนั่น ก็เหมือนกับปฏิบัติต่อน้องสาวแท้ๆ ก็มิปานเซียวจือฮว่าเกิดความสงสัยในใจ จู่ๆ ผู้หญิงอัปลักษณ์คนนี้เอาใจใส่ถึงเพียงนี้ กำลังคิดจะทำอะไรกันแน่?บนใบหน้า แสร้งทำเป็นเขินอาย “พี่หญิงก็ควรพยายามถึงจะถูก อย่างไรเสียพี่หญิงจึงจะเป็นพระชายาที่ท่านอ๋องแต่งภรรยาต่อหน้าสาธารณะ ข้าไม่ควรครอบครองท่านอ๋องไว้คนเดียว…”การพูดเช่นนี้ มันคือการโอ้อวดอย่างไร้รูป :ท่านอ๋องโปรดปรานข้าเพียงคนเดียว เจ้าเข้าจวนสามเดือนกว่าแล้ว ไม่เคยจับกระทั่งมือท่านอ๋อง เจ้ารีบสละตำแหน่งตั้งแต่เนิ่นๆ เถอะ! ——ฉันพยายามผีบ้าอะไร ฉันไม่มีทางทิ้งป่าทั้งผืนเพื่อต้นไม้เอียงแค่ต้นเดียวหรอก!ฉู่เชียนหลียิ้มแ
เขาเป็นคนให้นางไปจัดการหมาป่าตัวนั้น แต่สุดท้ายเขากลับบอกนางว่าหมาป่าตัวนั้นมีประวัติความเป็นมาที่ยิ่งใหญ่ นางล่วงเกินไม่ได้ ผลกรรมทุกอย่างล้วนเกิดจากการกระทำของนางเอง!เขาจงใจ!เขาไม่เคยคิดจะให้สัญญาอะไรกับนางตั้งแต่แรก“อยู่จวนอ๋องอย่างสงบจิตสงบใจ ข้าไม่เอาเปรียบเจ้าแน่นอน เรื่องของรัชทายาท ข้าก็จะช่วยเจ้าจัดการเช่นกัน” เฟิงเย่เสวียนมองนางผู้คนต่างพูดว่าคุณหนูสี่ของจวนอัครมหาเสนาบดีฉู่อัปลักษณ์ไร้ความงาม เป็นที่รังเกียจของผู้คนแต่ใครจะรู้เล่า ภายใต้โฉมหน้าที่อัปลักษณ์นี้ จะซ่อนปัญญา ทักษะการแพทย์ที่เหนือคน มีความกล้ามีกลอุบาย สามารถรุกและถอยเช่นไรเอาไว้ มีด้านใดบ้างที่ไม่ใช่ความสามารถเกินมนุษย์ฉู่เชียนหลีโมโหจนร้องไห้ทันที——อะไรคือช่วยฉันจัดการ? เดิมทีมันก็เป็นปัญหาที่นายไปหามาเอง เกี่ยวอะไรกับฉัน?——วันแต่งเมียน้อย นายเตะฉันตายในทีเดียว ตอนนี้ก็มาวางแผนเล่นงานฉันอีก ‘ฉู่เชียนหลี’ นอกจากตาบอด ควักลูกตาของตัวเอง ถึงจะตกหลุมรักผู้ชายที่ทั้งกากและชอบใช้ความรุนแรงในครอบครัวอย่างนาย! น่าโมโหชะมัด!ฉู่เชียนหลีโมโหจนถอนเท้าจากไป ไม่คิดจะสนใจเขาอีกเฟิงเย่เสวียนมองดูแผ่นหลังท
“ฉู่เชียนหลี!”พลันเฟิงเย่เสวียนแน่นหน้าอก มือที่จับไหล่ของนางเปลี่ยนเป็นช้อนอุ้มขึ้นมา เขาถีบประตูห้องหนังสือ ก้าวเท้ายาวเดินเข้าไป“ใครก็ได้ ไปเอายามา!”วางคนลงบนเก้าอี้นวมเล็ก จับเท้าข้างที่ได้รับบาดเจ็บของนางไว้ ถอดรองเท้าปักลายดอกไม้ ดึงถุงเท้าออก นิ้วเท้าที่เรียบเนียนได้บวมฉึ่งเหมือนกับตุ๊กตาหัวอ้วนสีแดงห้าตัวสาวใช้เดินเข้ามา เห็นภาพนี้แล้วตกใจจนสะดุ้งท่านอ๋องปฏิบัติต่อพระชายา…นางไม่กล้าพูดมาก รีบก้มหน้าลง ระงับความตกใจในใจ ส่งยาเสร็จก็ออกไปแล้วเฟิงเย่เสวียนรีบควักยามาทาที่นิ้วเท้าของนางฉู่เชียนหลีตกใจจนถีบเท้า “เจ้าทำอะไร…”“อย่าขยับ!”เสียงของเขาทุ้มต่ำ ฝ่ามือใหญ่และมีกำลังจับข้อเท้าของนางไว้แน่น ทายาที่อยู่บนปลายนิ้วลงไป และเริ่มลูบเบาๆ ให้กระจายออกซี้ด…เย็นจังร่างกายของฉู่เชียนหลีหดเกร็งโดยไม่รู้ตัว มองผู้ชายที่คุกเข่าข้างหนึ่งตรงหน้าเท้า และทายาให้นางอย่างคาดคิดไม่ถึงเล็กน้อย ในศีรษะเต็มไปด้วยความตะลึงงันเขาบ้าไปแล้ว?เมื่อก่อนเขาตบตีดุด่าว่านาง จอมเผด็จการผู้หล่อเหลาที่ใช้สายตาฆ่านางคนนั้นไปไหนแล้ว?เฟิงเย่เสวียนพลางทายาให้นาง พลางกล่าวตำหนิอย่างเย็
เขายกใบหน้าผิวสีแทนขึ้น น้ำเสียงหนักแน่นทรงพลัง เสียงดังชัดเจน ไม่สามารถรู้สึกถึงเจตนาขอโทษใดๆ ในน้ำเสียงของเขา กลับกันให้ความรู้สึกไม่กลัวเพราะมีคนหนุนหลังเล็กน้อยเฟิงเย่เสวียนวางฉู่เชียนหลีลง กวาดมองเขาอย่างเฉยเมยแวบหนึ่ง “อาการบาดเจ็บเป็นอย่างไรบ้าง?”ด้านข้าง ทหารชั้นผู้น้อยคนหนึ่งตอบอย่างหวาดกลัวเล็กน้อย“นิ้วข้างขวาของรองแม่ทัพเจียงถูกฟัน…ขาดไปสี่นิ้ว เหลือ เหลือแค่นิ้วโป้ง…”ในกองทัพ ความพิการคือข้อห้ามสูงสุด บาดแผลตรงมือยิ่งสำคัญอย่างยิ่งไม่มีนิ้วมือจะถือกระบี่อย่างไร? จะเข้าสนามรบอย่างไร?รองแม่ทัพเจียงนิ้วมือขาด ไม่สามารถฆ่าศัตรูบนสนามรบอีกต่อไป ทั้งชีวิตจบสิ้นแล้ว…“ข้าน้อยไม่มีเจตนาขอรับ” รองแม่ทัพโหวเอ่ยปากอีกครั้ง “ตอนประลองยุทธ์ กระบี่ที่ข้าน้อยฟันออกไปเก็บไม่ทัน นี่ถึงได้พลาดทำร้ายรองแม่ทัพเจียง ข้ารู้สึกเสียใจยิ่งนัก”พูดจบ เขาถอนหายใจอย่างเสียดายฉู่เชียนหลีมองคนคนนี้แวบหนึ่ง ความกล้าหาญแฝงระหว่างคิ้ว เยือกเย็นทั่วร่าง แต่ดวงตาคู่นั้นแคบยาว ดูแล้วให้ความรู้สึกเหมือนเป็นคนจิตใจคับแคบ ชอบคิดเล็กคิดน้อยเวลานี้ หานอิ่งเดินออกมาจากในกระโจม“นายท่าน ห้ามเลือด
หานอิ่งตะลึงงันหนึ่งวินาที พลันพยักหน้าอย่างนอบน้อม “เจ้าค่ะ”“พระชายา เชิญตามข้ามา” นางเดินนำหน้า ฉู่เชียนหลีเดินกะเผลกตามหลังเฟิงเย่เสวียนเห็นแล้ว คิ้วขมวด ก้าวออกไปกอดเอวของนาง ยกขึ้นเบาๆ อุ้มคนเข้าไปในกระโจมข้างนอกหลังจากอ๋องเฉินเข้าไปในกระโจม มีทหารหลายคนล้อมรอบรองแม่ทัพโหว กล่าวอย่างเลื่อมใส“ใต้เท้าโหว วรยุทธ์และความสามารถของท่านอยู่เหนือรองแม่ทัพเจียง ท่านสมควรนั่งตำแหน่งผู้บัญชาการมากกว่า”“วรยุทธ์ของใต้เท้าโหว พวกเราเลื่อมใส…”“ร้ายกาจมาก…”รองแม่ทัพโหวถูกทหารกลุ่มหนึ่งล้อมรอบ ฟังคำพูดประจบสอพลอเหล่านั้น ศีรษะของเขายกขึ้นเล็กน้อย เชิดคาง มีความภาคภูมิปรากฏขึ้นในแววตาหลายส่วนความสามารถของเขาแข็งแกร่งกว่ารองแม่ทัพเจียง เหตุใดท่านอ๋องไม่ให้ความสำคัญเขา?นี่ก็คือผลของการไม่ให้ความสำคัญเขา!เขาใช้ความสามารถพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่ารองแม่ทัพเจียงเป็นคนไร้ประโยชน์ อีกอย่าง ประลองยุทธ์พลาดบาดเจ็บเป็นเรื่องปกติ ต่อให้ท่านอ๋องไม่พอใจ ก็ไม่สามารถลงโทษเขาตำแหน่งผู้บัญชาการ ต้องเป็นของเขาเท่านั้น!ภายในกระโจมกลิ่นคาวเลือดโชยมาเตะจมูก บนเตียงเล็ก มีชายหนุ่มที่อยู่ในช่วงวัยก
ภายในกระโจม ฉู่เชียนหลีเริ่มทำการผ่าตัดอย่างจริงจัง ภายนอกกระโจม ก็เป็นภาพอีกฉากหนึ่งบนเวทีประลอง ร่างเงาสองสายยืนประจันหน้าเข้าหา รองแม่ทัพโหวถือกระบี่ไว้ในมือ ฝั่งตรงข้าม ชายชุดผาวสีหมึกยืนมือไขว้หลัง ชายเสื้อยาวพลิ้วไหวไปตามสายลม กลิ่นอายที่สูงศักดิ์ก่อเกิดตามธรรมชาติใต้เวทีประลอง ทหารจำนวนนับไม่ถ้วนยืนล้อมข้างในสามชั้น ข้างนอกสาม มองดูภาพนี้อย่างประหม่าท่านอ๋องเสนอจะประลองยุทธ์กับรองแม่ทัพโหวความแข็งแกร่งของท่านอ๋องเป็นที่ประจักษ์ของผู้คน รองแม่ทัพโหวไม่ใช่คู่ต่อสู้ของท่านอ๋องเลย ประลองกับท่านอ๋อง ไม่เท่ากับรนหาที่ตายหรอกหรือ?รองแม่ทัพโหวพลางเช็ดคมกระบี่ พลางชำเลืองมองชายฝั่งตรงข้ามอ๋องเฉินอายุน้อยกว่าเขาถึงสิบสามปี กลับกลายเป็น ‘เทพสงครามไร้พ่าย’ ในใจราษฎร แต่คนที่ขายชีวิตเพื่ออ๋องเฉินคือเขาและเหล่าทหารนับไม่ถ้วนคนที่ตายคือทหารคนที่เสียสละคือทหารคนที่บ้านแตกคนสิ้นก็คือทหารเช่นกันอ๋องเฉินนอกจากบัญชาการ เขายังเสียสละอะไรอีก?ในเมื่ออ๋องเฉินจะออกหน้าแทนรองแม่ทัพเจียง เช่นนั้นก็ให้เขามาลองเจอกับเด็กน้อยอายุยี่สิบต้นๆ คนนี้เสียหน่อย“ท่านอ๋อง เชิญ!” เขาเตรียมพร้อม
“ท่านอ๋อง…ท่าน…เอ่อ…อ๊า!”“อุ๊ก…”ต่อจากนั้น รองแม่ทัพโหวโดนซัดจนไม่มีแม้แต่โอกาสจะพูด ยิ่งไม่ต้องพูดถึงตอบโต้แล้ว ถูกโจมตีถอยอย่างต่อเนื่อง แม้ล้มลงพื้นไปแล้ว ก็ยังไม่หยุดเหล่าทหารดูจนตกตะลึง นี่ท่านอ๋องกำลังโกรธ!สุดท้ายรองแม่ทัพโหวล้มลงพื้นอย่างอ่อนระทวย ไม่มีแรงลุกขึ้นอีกแล้ว ร่างกายของเขาเต็มไปด้วยเลือด ลมหายใจรวยริน ดวงตาทั้งคู่ไร้ชีวิตโดยเฉพาะมือขวาของเขามือขวาของเขาถูกเฟิงเย่เสวียนเตะจนหัก กระดูกที่แหลมคมแทงทะลุข้อมือออกมาให้เห็นโดยตรง ดูสยดสยองน่ากลัวเป็นยิ่งนัก…ฉู่เชียนหลีผ่าตัดเสร็จ เดินออกมาจากในกระโจมก็มองเห็นภาพนี้พอดี :สีหน้าของเฟิงเย่เสวียนเย็นชา เยือกเย็นราวกับดอกไม้น้ำค้างแข็งในเดือนสิบสอง ชายเสื้ออันสูงศักดิ์มีเลือดหยด ทำให้อุณหภูมิโดยรอบของเขายิ่งเย็น ช่วยสะท้อนบุคลิกโหดของเขาหลายส่วนรองแม่ทัพโหวหอบหายใจอย่างหนัก แหงนหน้ามองร่างเงาอันสูงศักดิ์สายนั้น ปากแทบไม่สามารถพูดเป็นประโยคที่สมบูรณ์“เจ้า…จง จงใจ…อ๊า!”พลันเฟิงเย่เสวียนกระทืบลงไปอย่างเย็นชา เหยียบอยู่บนมือที่หักของเขา ทำให้เขากรีดร้องราวกับเสียงฆ่าหมูทุกคนขมวดคิ้ว มองดูภาพนี้ ยิ่งไม่กล้ากระท