ฉู่เชียนหลีตะลึงงันทันที หลุบตาลงเล็กน้อย มองไปทางจดหมายที่อยู่บนโต๊ะข้างในจดหมายฉบับนี้ได้เล่าเรื่องราวที่รัชทายาทมีเจตนากบฏ จิ่งอี้เป็นคนส่งเข้าวัง คิดไม่ถึงว่าฮ่องเต้สามารถคาดเดาความสัมพันธ์ของนางกับจิ่งอี้ผ่านจดหมายฉบับนี้สายตาเฉียบคมมาก!นางรีบตอบกลับทันที “ตอนที่หม่อมฉันไปจัดการโรคระบาดในเมืองตงหนิง บังเอิญได้รู้จักกับเถ้าแก่จิ่ง ศึกษายาและช่วยเหลือราษฎรร่วมกับเขา เคยมีมิตรภาพต่อกันหลายวัน”“หลังจากกลับเมืองหลวง เคยไปมาหาสู่กันหนึ่งครั้ง พวกเราเป็นเพื่อนกันเพคะ”“หือ?” ฮ่องเต้มองฉู่เชียนหลีด้วยสีหน้าสงบนิ่ง ทำให้คาดเดาความคิดของเขาในเวลานี้ไม่ออกเมื่อคืน เขาได้รับข้อความสองข้อความข้อความแรกมาจากอ๋องเฉิน อีกข้อความมาจากจิ่งอี้จิ่งอี้เป็นสามัญชน เถ้าแก่ของโรงหมอแห่งหนึ่ง กลับมีใจอุทิศตนช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์โดยไม่เห็นแก่ผลประโยชน์ และยังสามารถคาดเดาการเคลื่อนไหวของรัชทายาท เกรงว่าไม่ใช่คนธรรมดาแต่เขากลับพบว่าจิ่งอี้กับฉู่เชียนหลีมีความเกี่ยวข้องกันหากฉู่เชียนหลียืมมือจิ่งอี้ มีความคิดนอกรีตอะไร…ดวงตาที่ขุ่นมัวของฮ่องเต้ขรึมลงเล็กน้อย “เขาเป็นคนฉลาด กลับไม่ยอมเข้าร
เมื่อราชโองการประกาศออกมา ทั้งเมืองหลวงเหมือนหม้อข้าวต้มเดือดปุดๆ เดือดพล่านราวกับจะระเบิด“รู้หรือยัง? เนื่องจากรัชทายาทฆ่าคนดี ทำให้ฮ่องเต้ผิดหวังมาก ดังนั้นจึงถูกปลด!”“ไม่ใช่ๆ ข้าได้ยินมาว่าเป็นเพราะเขาไม่มีลูกชาย ไม่สามารถสืบทอดทายาทรุ่นหลัง ใครสามารถให้กำเนิดหลานชายองค์โต คนนั้นจะถูกแต่งตั้งเป็นรัชทายาทคนใหม่…”“เหมือนว่าได้กระทำความผิดครั้งใหญ่…”“บลาๆ…”ทุกคนเจ้าพูดหนึ่งคำ ข้าพูดหนึ่งประโยค น้ำลายสาดกระเซ็นไปทั่ว ซุบซิบทะยานขึ้นฟ้าเวลานี้ จวนรัชทายาทถูกเหล่าทหารปิดล้อมไว้อย่างแน่นหนา สามก้าวหนึ่งคน ห้าก้าวหนึ่งหน่วย ไม่อนุญาตให้ผู้ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าใกล้ ชาวบ้านมากมายยืนดูห่างๆ ชะโงกศีรษะอย่างคึกคักชายวัยกลางคนสวมเสื้อเนื้อหยาบคนหนึ่ง แบกเข่งที่ใส่ผักจนเต็มสองเข่งพยายามเข้าไป กลับถูกทหารคนหนึ่งขวางไว้“หยุดอยู่ตรงนั้น! ไม่ว่าใครก็ห้ามเข้าออกจวนรัชทายาท!”ชายวัยกลางคนคนนั้นถูกผลักจนเกือบล้ม จับเข่งที่หนักอึ้งไว้ “โอ๊ย! ใต้เท้า ข้าน้อยส่งผักให้จวนรัชทายาทประจำทุกวัน รับเงินแล้ว ก็ต้องส่งของนะขอรับ!”“หากไม่ส่งผลักเข้าไป ปล่อยให้คนในจวนอดตายก็คงไม่ได้กระมัง…หร
“ไร้ประโยชน์!”“ไอ้พวกลูกสุนัข”“ไอ้พวกสารเลว!”เฟิงเจิ้งอวี้เหวี่ยงกระบี่ด้วยความโกรธแค้น ฟันสิ่งของใกล้ๆ ที่สามารถสัมผัสถึงมั่วซั่ว เสื้อผ้ายุ่งเหยิง ราวกับเป็นคนบ้า“อัครมหาเสนาบดีฝ่ายขวากงล่ะ? กงเจิ้งหงล่ะ! ให้เขามา!”กงเจิ้งหงเป็นมือซ้ายมือขวาของเขาหลายปีมานี้ เรื่องมากมายที่เขาทำ ล้วนวางแผนโดยกงเจิ้งหง“หากข้าเป็นอะไรไป เขาก็อย่าคิดหลุดพ้น!”“รัชทายาท…”เวลานี้เอง นอกประตู ชายวัยกลางคนสวมเสื้อผ้าเนื้อหยาบคนหนึ่งวิ่งเข้ามา กระชากหนวดที่อยู่บนใบหน้าทิ้ง ถอดหมวกผ้าที่สกปรกออกจากศีรษะ กลายเป็นอัครมหาเสนาบดีฝ่ายขวากงเจิ้งหง!เฟิงเจิ้งอวี้เห็นเขา วิ่งเข้าไปราวกับเห็นความหวังเสี้ยวสุดท้าย “ใต้เท้ากง!”เขาจับมือเขา “เร็ว! ฮ่องเต้ประกาศราชโองการปลดรัชทายาทแล้ว ยิ่งกว่านั้นจะกักบริเวณข้าสามปี ข้าจะถูกปลดเช่นนี้ไม่ได้เด็ดขาด รีบคิดหาวิธีเร็ว!”เขาไม่อยากจบสิ้นทั้งเช่นนี้หากยึดสถานะรัชทายาท และกักบริเวณสามปี ปล่อยให้เขามีชีวิตเช่นนี้ ไม่สู้แทงเขาตายในกระบี่เดียวยังดีเสียกว่ากงเจิ้งหงกวาดมองความยุ่งเหยิงข้างนอกแวบหนึ่ง วิ่งเข้าไปในห้องหนังสือ ปิดประตูอย่างระมัดระวัง“รัชทา
จวนอ๋องเฟิง“เป็นอย่างไร?” พระชายาอ๋องเฟิงนั่งอยู่บนเก้าอี้นุ่ม ข้อมือพลิกขึ้น วางอยู่บนโต๊ะ มองไปทางฉู่เชียนหลีที่กำลังตรวจชีพจรให้นางไม่เจอกันหลายวัน สีหน้านางดูดีขึ้นมากฉู่เชียนหลีจับชีพจรสักพัก เหลือบมองท่าทางที่ร้อนใจของพระชายาอ๋องเฟิงแวบหนึ่ง นางค่อยๆ เก็บมือกลับ เอ่ยปากอย่างใจเย็น“ผลข้างเคียงที่เกิดจากการแท้งลูก บำรุงแล้วเจ็ดแปดส่วน”“เช่นนั้นข้าสามารถตั้งครรภ์หรือไม่!” นางรีบกล่าวถามต่อนี่จึงจะเป็นปัญหาที่นางห่วงปัจจุบันรัชทายาทถูกปลด ส่วนอ๋องเฟิงที่เป็นลูกชายคนที่สองมีคุณสมบัติเป็นรัชทายาทที่สุด พระชายาอ๋องเฟิงย่อมอยากตั้งครรภ์และให้กำเนิดลูกในเร็ววันแต่ลูกใช่สิ่งที่อยากมีก็สามารถมีได้เลยหรือ?ฉู่เชียนหลีกล่าวอย่างไม่เร่งไม่รีบ “ร่างกายของท่านยังคงแย่มาก ต้องค่อยๆ บำรุงไปเรื่อยๆ เดิมทีก็เป็นร่างกายที่ตั้งครรภ์ยากอยู่แล้ว ถ้าหากฝืนตั้งครรภ์จนได้ ก็ใช่ว่าจะสามารถรักษาไว้เสมอไป”พระชายาอ๋องเฟิงไม่อยากฟังคำพูดตามสูตรเหล่านี้ หลายปีมานี้ นางฟังจนหูแทบด้านแล้วตบฝ่ามือลงบนโต๊ะ กล่าวด้วยน้ำเสียงแข็งกระด้าง“ไม่ว่าเจ้าต้องการเงินเท่าไร เงินทองไข่มุกอัญมณีหรือของอะไรก
ฉู่เชียนหลีย่อมจำได้อยู่แล้วตอนนั้น ทุกคนก้าวออกมาตำหนินาง คิดว่านางเป็นคนจิตใจอำมหิต วางแผนทำร้ายทายาทราชวงศ์ มีเพียงพระชายาอ๋องติ้งที่พูดแทนนางและก็เพราะเรื่องนี้ นางกับพระชายาอ๋องติ้งจึงได้ผูกมิตรภาพร่วมกันแต่เพราะเหตุใดนางต้องรักษาพระชายาอ๋องเฟิงล่ะ?อาจเป็นเพราะมีศัตรูเพิ่มขึ้นหนึ่งคน ไม่สู้มีสหายเพิ่มขึ้นหนึ่งคน? หรืออาจเป็นเพราะพระชายาอ๋องเฟิงแต่งงานแปดปี อายุใกล้สามสิบปีแล้ว แต่ก็ยังไม่มีลูก ในฐานะที่เป็นผู้หญิง ไม่สามารถเป็นแม่คน มันไม่สมบูรณ์ คงจะประมาณว่าสงสารนาง?ฉู่เชียนหลียิ้มแย้ม “พี่อวี๋ ท่านวางใจเถอะ ข้ารู้ว่าตัวเองกำลังทำอะไร รู้จักแยกแยะ”พระชายาอ๋องติ้งตบหลังมือนาง กล่าวกำชับ“เจ้านี่นะ ไม่เหมือนผู้หญิงคนอื่น ไม่เช่นนั้นก็คงไม่สามารถทำให้เจ้าเจ็ดหลงหัวปักหัวปำ…โอ๊ย ไม่สนใจเจ้าแล้ว เจ้าจะทำอะไรระวังหน่อยก็แล้วกัน นิสัยของพระชายาอ๋องเฟิงโหดเหี้ยมมาก มีแค้นต้องชำระ ไม่ใช่คนดีอะไร”ท่าทางที่กำชับอย่างเอาใจใส่ของนางอ่อนโยนมาก ใจดีมาก ทำให้คนอยากใกล้ชิดนางโดยไม่รู้ตัวบนตัวนางมักจะมีกลิ่นอายเช่นนี้อ่อนโยน สบายๆเพราะตลอดหลายปีมานี้ นางไม่แย่งไม่ชิง ไม่สนใ
กลิ่นหอมสายนี้พิเศษมาก ยิ่งกว่านั้นไม่คุ้นเคย ไม่ใช่กลิ่นจากตัวนางทันใดนั้น นางนึกถึงผู้หญิงเหมียวเจียงที่แต่งตัวต่างถิ่น สามารถเข้าออกห้องหนังสือได้อย่างอิสระคนนั้น…แววตาฉู่เชียนหลีขรึมลงเล็กน้อย ปล่อยเฟิงเย่เสวียน ถอยหลังสองสามก้าว มองใบหน้าของเขาอย่างคาดคะเนเงียบๆ“เป็นอะไร?”เหมือนเขารู้สึกถึงอะไรบางอย่าง เอียงศีรษะ ถามนางอย่างไม่เข้าใจคนยังคงเป็นเฟิงเย่เสวียนคนเดิม แต่ก็รู้สึกเหมือนเป็นคนแปลกหน้าโดยไม่รู้ตัวฉู่เชียนหลีดึงสายตากลับ “ช่วงนี้เจ้ายุ่งมาก อาการบาดเจ็บยังไม่หายดี ระวังการพักผ่อน”นางเดินกลับไปที่ข้างโต๊ะ หยิบชามกับตะเกียบขึ้น ก้มหน้าก้มตากินข้าวอย่างเงียบๆ โดยไม่พูดอะไรสักคำอาหารมื้อนี้ดำเนินไปอย่างเงียบๆระหว่างนั้น เฟิงเย่เสวียนคีบอาหารให้นางไม่หยุด ปลอกต้นหอมซอย แกะก้างปลาเหมือนเมื่อก่อน รู้รสชาติและความชอบของนางเป็นอย่างดีหลังอาหารเฟิงเย่เสวียนยังมีงาน เขาไปทำงานต่อทั้งที่ยังบาดเจ็บ“ข้าเปลี่ยนยาให้เจ้า?” ฉู่เชียนหลีลุกขึ้นเขาหันกลับ “หลายวันนี้เจ้าเป็นห่วงข้า กินไม่อิ่ม นอนไม่หลับ ตอนนี้ไม่เป็นอะไรแล้ว เจ้าพักผ่อนให้เต็มที่ หานอิ๋งเปลี่ยนยาให้ข
พลันสีหน้ากงเจิ้นหงเคร่งขรึมตอนนั้น…ตระกูลเซียว เซียวกุ้ยเฟย…ขุดเรื่องเกือบยี่สิบปีก่อนออกมาพูด ก่อให้เกิดภาพมากมาย ทำให้สีหน้าเขาน่าเกลียดอีกครั้ง“ข้าไม่รู้ว่าท่านกำลังพูดอะไร!”พลันฉู่เชียนหลีหัวเราะ “มันก็จริง ท่าทางที่เป็น ‘ผู้บริสุทธิ์’ ของท่าน ไม่รู้อะไรจริงๆ”“ตอนนั้น ท่านไม่ได้ล่อลวงเซียวกุ้ยเฟย”“ตอนนั้น หลังจากเรื่องถูกเปิดเผย ท่านไม่ได้บ่ายเบี่ยงความรับผิดชอบ และไม่ได้ทำให้เซียวกุ้ยเฟย เซียวกุ้ยเฟยเป็นคนชอบท่าน นางขึ้นเตียงท่านอย่างหน้าไม่อาย ทั้งหมดเป็นความผิดของเซียวกุ้ยเฟย”นางกลับคำพูดอย่างจริตจะก้าน ทำให้สีหน้ากงเจิ้นหงยิ่งอยู่ยิ่งแลดูน่าเกลียด“ตอนนี้ ท่านก็ไม่ผิดเช่นกัน ท่านไม่ได้ออกอุบายให้รัชทายาท ไม่ได้สมคบคิดกับรัชทายาท ทั้งหมดเป็นความคิดของรัชทายาท”นางดัดเสียง กล่าวอย่างมีจริต“ปีที่แล้ว เฟิงเย่เสวียนทำสงคราม ท่านไม่ได้ซื้อตัวรองแม่ทัพของเขา ทำให้เขาบาดเจ็บสาหัส ตอนปราบโจร ท่านไม่ได้สมคบคิดโจร ทำให้เขาตกหน้าผา และไม่ได้ส่งมือสังหารไปแอบลอบสังหารเขา”“เรื่องโรคระบาดของเมืองตงหนิง ก็ไม่ใช่ท่านยุยงรัชทายาท จงใจแพร่เชื้อโรคระบาด”“เรื่องเหล่านี้ไม่ใ
นี่เป็นโรคฉุกเฉินที่เกิดขึ้นเฉียบพลัน หากไม่ได้รับการช่วยเหลือภายในไม่กี่นาที ต้องตายอย่างไร้ข้อกังขาในฐานะที่เป็นหมอ ฉู่เชียนหลีสมควรช่วยชีวิตคนแต่หากนางนำอุปกรณ์การแพทย์ขนาดใหญ่ที่อยู่ในกำไลเฉียนคุนออกมา จะทำให้เกิดข้อสงสัยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ของที่คนโบราณไม่เคยเห็น ยิ่งกว่านั้นยังปรากฏกลางอากาศ หากนางถูกมองว่าเป็น ‘ปีศาจหญิง’ อะไรล่ะอีกอย่าง กงเจิ้นหงเคยทำเรื่องชั่วๆ ไว้มากมายเช่นนั้น บางทีสมองตายฉับพลันอาจเป็นการลงโทษจากสวรรค์ที่มีต่อเขาในเวลาสั่นๆ สองวินาที ฉู่เชียนหลีปล่อยมือแล้วนี่เป็นครั้งแรกที่นางเห็นคนเจ็บไม่ช่วยตั้งแต่เป็นหมอ ในใจกลับไม่มีความรู้สึกผิดใดๆนางลุกขึ้นยืน มองดูกงเจิ้นหงที่กลิ้งไปกลิ้งมา ดิ้นทุรนทุรายอย่างเจ็บปวดบนพื้น เอ่ยปากอย่างเฉยเมย“คงคิดไม่ถึงกระมัง ก่อกรรมทำชั่วมาทั้งชีวิต ยังไม่ทันถูกกฎหมายลงโทษ กลับต้องมาตายเพราะสมองตาย”ไม่มีใครทำร้ายเขานี่ล้วนเป็นกรรมที่เขาสมควรได้รับ“เออ…”กงเจิ้นหงเบิกตากว้าง การแสดงออกบิดเบี้ยวอย่างเจ็บปวด ดวงตาแดงก่ำจนแทบมีเลือดไหล ใบหน้ากลายเป็นสีม่วง ร่างกายชักกระตุกอย่างรุนแรง อีกไม่นานก็จะไม่ไหวแล้วเมื่อ
พลันจวินลั่วยวนแน่นหน้าอก เมื่อเห็นเสด็จแม่ทำหน้าจริงจัง รีบอธิบายทันที“เสด็จแม่ ข้าไม่ได้หมายความเช่นนั้น…ข้า ข้า…”“ข้าทุ่มเทให้เจ้าทั้งกายและใจ ทุกอย่างที่ทำไม่เคยหวังสิ่งตอบแทนเลย”นางรัก ‘ลูกสาว’ คนหนึ่งที่ไม่มีความเกี่ยวข้องกันทางสายเลือดมากเช่นนี้ ลองถามใจตัวเองดู นางรู้สึกว่าตัวเองทำดีที่สุดแล้วเพราะหาลูกสาวแท้ๆ ไม่เจอเพราะรู้สึกผิดดังนั้นจึงยิ่งดีกับจวินลั่วยวนมากๆ หวังเพียงสิ่งที่ตัวเองทำด้วยใจ จะสามารถทำให้สวรรค์ซาบซึ้ง ประทานพรทั้งหมดให้ลูกสาวแท้ๆ หวังว่าลูกสาวแท้ๆ อยู่ในสถานที่ที่นางไม่รู้จัก ก็มีแม่คนหนึ่งที่ดีกับนางเช่นนี้“เสด็จพ่อของเจ้ารักเจ้า พี่ชายทั้งสามของเจ้าตามใจเจ้าทุกอย่าง ทุกคนล้วนเอาเจ้าเป็นที่ตั้ง ทั้งแคว้นหนานยวนขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของเจ้า หรือข้ายังดีกับเจ้าไม่พออีก?”ฮองเฮาหนานยวนกล่าวอย่างปวดใจช่างเถอะพูดมากไปก็ไม่มีประโยชน์เป็นเพราะพวกเขาปกป้องยวนเอ๋อร์ดีเกินไป ส่งผลให้นางอายุสิบเจ็ดปีแล้ว ยังไม่มีความสามารถในการดูแลตัวเอง และไม่เข้าใจสัจธรรมทางโลกอย่างไรก็เป็นลูกที่นางเลี้ยงมากับมือสิบเจ็ดปี โทษลูกสาวไม่ลง ถอนหายใจแล้วกล่าว“กลั
“ความงามของค่าพังหมดแล้ว!”“ข้ากลายเป็นคนอัปลักษณ์แล้ว!”“ข้าจะฆ่าเจ้า! อ๊ะ!”จวินลั่วยวนนั่งอยู่บนพื้น กรีดร้องถีบเท้างอแงเหมือนเด็กคนหนึ่ง มือทั้งสองข้างก็ทั้งโบกทั้งเหวี่ยงท่าทางที่ป่าเถื่อนนั่น ไม่มีใครกล้าเข้าไปใกล้เรื่องราวบานปลายไม่นาน ฮองเฮาหนานยวนมาแล้ว“เสด็จแม่!”เมื่อจวินลั่วยวนเห็นมารดา ก็ปล่อยโฮร้องไห้ทันที “เสด็จแม่ ท่านต้องแก้แค้นให้ยวนเอ๋อร์นะเพคะ พระชายาอ๋องเฉินตีหน้าข้า นางอิจฉาความงามของข้า นางจะทำลายโฉมของข้า!”“ข้ากลายเป็นคนอัปลักษณ์แล้ว ทำอย่างไรดี อ๊ะ! ข้าไม่อยากเป็นคนอัปลักษณ์! ฮือๆ…”นางกล่าวทั้งน้ำตาฮองเฮาหนานยวนยกคางของจวินลั่วยวนขึ้น เมื่อดูอย่างละเอียดบนผิวหนังบริเวณแก้มมีรอยขีดข่วนเล็กๆ และมีเลือดออกเล็กน้อย นอกจากนี้ก็ไม่มีบาดแผลอื่นนางดูจนคิ้วขมวด“ยวนเอ๋อร์!”แผลแค่นี้ ร้องไห้เหมือนจะเป็นจะตาย ทำเอาคนทั้งทำเนียบเจียงหนานวุ่นวายไปหมด ไม่สมกับเป็นองค์หญิงแห่งแคว้นเลยทำให้ผู้คนหัวเราะเยาะจวินลั่วยวนกำลังเสียใจ ไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น เอาแต่ร้องไห้อย่างเดียว“ข้าไม่สวยแล้ว! ใบหน้าของข้าได้รับความเสียหายอย่างรุนแรง เสด็จแม่ ท่านต้องออก
หลังจากกล่าวจบ ในความมืด เสียงลมหายใจของเฟิงเย่เสวียนแรงขึ้นแรงน้อย“ครึ่งปีมานี้ เขาดีกับเขา และดีกับจื่อเยี่ยมาก ไม่เคยทำร้ายพวกเราเลย ตอนข้าเลือกที่จะหักหลังเขา ไม่รู้เพราะเหตุใด ในใจรู้สึกผิดอย่างน่าประหลาด”ฉู่เชียนหลีจับหน้าอก อธิบายความรู้สึกนี้ไม่ถูก“ถ้าหากเจ้าได้รับชัยชนะของจุดจบ ไม่ฆ่าเขาได้หรือไม่? ทำให้เขาพิการก็ได้ กักบริเวณทั้งชีวิตก็ได้ ข้าไม่อยากให้เขาตายเพราะทำดีกับข้า”สายตาเฟิงเย่เสวียนเคร่งขรึม มือที่วางอยู่บนเอวของนางกระชับแน่นขึ้นเล็กน้อยเหมือนกำลังข่มอารมณ์แต่แค่สองวินาที ก็คลายมือออกอย่างเงียบๆ เปล่งเสียงออกมาจากลำคอแค่คำเดียว“อืม”ทั้งคืนไร้คำพูดวันรุ่งขึ้นฉู่เชียนหลีเพิ่งกินข้าวเช้าเสร็จ มีเสียงที่เกรี้ยวกราดดังขึ้นจากนอกประตู“ฉู่เชียนหลี!”จวินลั่วหยวนสีหน้านางดูโกรธมาก เดินปรี่เข้ามา ไฟโทสะทั้งหมดมุ่งเป้ามาที่ฉู่เชียนหลีสาวใช้เสียวอู่เข้าไปขวางทันที“เจ้าออกไปก่อน” ฉู่เชียนหลีเงยหน้ามองผู้มา “มีอะไร?”จวินลั่วหยวนกล่าวด้วยความโกรธ“ข้าเจ็บที่หน้า ยังไม่ทันมาหาเรื่องเจ้า แต่เจ้ากลับกล้าส่งคนออกไปปล่อยข่าวลือที่ข้างนอก ทำลายชื่อเสียงข
จะไม่ขอพบอีก…อวิ๋นอิงกล่าวอย่างเด็ดขาดเด็ดเดี่ยว เฉียบขาดไร้ความรู้สึกใดๆ ในแววตาชีวิตที่เหลือ นางและเจี๋ยวเจี๋ยวพึ่งพากันและกัน ไม่คิดไม่ต้องการสิ่งใดๆ ทั้งสิ้น ถูกหรือผิดล้วนไม่ยุ่งเกี่ยวชีวิตที่เหลือ อยู่เพื่อเจี๋ยวเจี๋ยวเท่านั้นฉู่เชียนหลีอ้าปาก ยังอยากพูดอะไรบางอย่าง แต่อวิ๋นอิงตัดสินใจไปแล้ว พูดมากมีแต่จะยิ่งทำให้นางรู้สึกต่อต้านถอนหายใจเบาๆช่างเถอะ!ส่วนวันข้างหน้าจะเป็นอย่างไร ก็ปล่อยให้มันเป็นไปตามธรรมชาติ เส้นทางของวันข้างหน้ายังอีกยาวไกล ใครจะรู้ว่าพรุ่งนี้กับเรื่องไม่คาดคิด อันไหนจะมาก่อนกัน“เจ้าพักผ่อนเถอะ ข้าช่วยเจ้าอุ้มลูกออกไปก่อน แม่นมก็เตรียมไว้แล้ว เจ้าผอมเกินไป อย่าป้อนนมแม่เอง”น้ำนมหนึ่งหยด ก็คือเลือดหนึ่งหยดฉู่เชียนหลียุ่งเรื่องทางนี้เสร็จ เมื่อกลับถึงห้องก็ดึกแล้วหนึ่งวันที่แสนวุ่นวายสิ้นสุดลง ไม่ง่ายเลยที่จะมีเวลาได้นอนกับเว่ยซีและจื่อเยี่ย ยังไม่ทันนอนลงไป ก็ถูกเฟิงเย่เสวียนที่กลับมาไล่ออกไป เปลี่ยนเป็นเขามานอนกับนางแทนตั้งแต่กลับมา ยังไม่เคยได้นอนกับลูกชายและลูกสาวเพียงลำพังเลยถูกเขาไล่ออกไปทุกครั้งเขากล่าว“นี่เป็นเตียงของข้า”ค
จ้านหู่จากไปพร้อมกับคำด่าทอ เหมือนกับเม่นที่อารมณ์ไม่ดีตัวหนึ่งฉู่เชียนหลีไม่ได้มีเจตนาจะฆ่าเขา คิดเสียว่าเป็นการผูกมิตรแม้จ้านหู่เป็นคนของฮองเฮาซีอวี้ แต่ในใจยังมีความอ่อนโยนอยู่ หวังว่ากันผูกมิตรนี้ของนาง วันข้างหน้าจะสามารถช่วยจิ่งอี้กลับห้องอารมณ์ของอวิ๋นอิงสงบลงมากแล้วฉู่เชียนหลีนั่งอยู่ที่ขอบเตียง “ร่างกายของเจ้ารับปัญหาอะไรไม่ไหวแล้ว ต่อจากนี้สามเดือน เจ้าพักฟื้นเถอะ”พักฟื้นหลังคลอดหนึ่งร้อยวันอวิ๋นอิงไม่สนใจเรื่องนี้ นางกอดลูกที่ได้คืนมาหลังจากสูญเสียไว้แน่น เบ้าตาแดงก่ำ“พระชายา ขอบคุณมาก!”“ขอบคุณที่ท่านช่วยเอาลูกสาวของข้ากลับคืนมา!”ตื้นตันจนน้ำตาไหลฉู่เชียนหลีเช็ดน้ำตาให้นาง “ยายโง่ ระหว่างเจ้ากับข้าต้องใช้คำพูดเช่นนี้ด้วยหรือ? ครึ่งปีที่ข้าไม่อยู่ เจ้าช่วยค่าดูแลเว่ยซีกับลู่ฉิน คนที่ควรพูดขอบคุณคือข้า”“ระหว่างพักฟื้น ห้ามร้องไห้เด็ดขาด และห้ามนั่งนาน ระหว่างทิ้งต้นตอของโรคไว้”“อืม!”อวิ๋นอิงกอดลูกไว้แน่น พยักหน้าแรงๆฉู่เชียนหลีมองเด็กที่นอนหลับสนิทในผ้าห่อทารกตัวน้อยๆ หนังเหี่ยวย่น แก้มแดง ท่าทางคล้ายจิ่งอี้ คิ้วบางเหมือนอวิ๋นอิง และยังมีกลีบริม
ความเจ็บปวดจากการสูญเสีย ความสุขจากการได้คืนมา ความรู้สึกสองแบบที่ต่างกันสุดขั้วนี้ นางไม่อยากรู้สึกอีกถ้าหากต้องทนทุกข์ทรมานเช่นนี้อีกครั้ง นางตายแน่!“พระชายา เด็กคนนี้คือชีวิตของข้า ข้าไม่ยอมให้ใครมาแย่งนางไป! ข้าจะปกป้องนางด้วยชีวิต!”ฉู่เชียนหลีนั่งอยู่ตรงขอบเตียง กล่าวปลอบใจ“ข้ารู้”เด็กทุกคนล้วนเป็นจุดอ่อนของมารดา“ไม่มีใครสามารถแย่งลูกของเจ้าไปได้”“แต่ว่า อวิ๋นอิง เรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับจิ่งอี้ เจ้าเข้าใจเขาผิดแล้ว” นางเงยหน้า ส่งสัญญาณให้ข้างนอกทหารสองคนคุมตัวจ้านหู่เข้ามาจ้านหู่กล่าว“ช่วงเช้าของวันนี้ ข้าเป็นคนแย่งเด็กในโรงหมอเอง”“ข้าคิดว่าเจ้าคลอดลูกชาย กลัวมีปัญหามากมายตามมา ก็เลยเข้าไปแย่งเด็ก ใครจะรู้ว่าเป็นเด็กผู้หญิง ในเมื่อเป็นเด็กผู้หญิง เช่นนั้นก็จะไม่เป็นภัยคุกคามต่อฮองเฮา”ดังนั้นเขาก็เลยคืนเด็กแล้วอวิ๋นอิงรู้จักจ้านหู่ เขาคือคนที่บีบบังคับให้จิ่งอี้ดื่มยาพิษ แต่หลายวันนี้นางต้องผ่านเหตุการณ์มากมาย เดิมทีสภาพจิตใจก็อ่อนแออยู่แล้ว จึงได้สร้างแนวป้องกันขึ้นในใจนางต้องการแค่ลูกสาว!ใครพูดนางก็ไม่อยากฟัง!และไม่เชื่อใครด้วย!กอดลูกสาวแน่น ปก
ปัง!ประตูถูกกระแทกจนเปิดออก ร่างกายจวินลั่วยวนหมุนกลางอากาศหนึ่งรอบ รอยกระเด็นออกไป ล้มหน้าคว่ำลงพื้น รู้สึกมึนงงไปหมดผ่านไปห้าวินาทีเต็มๆ จึงจะตั้งสติได้นาง…โดนตบ?“นี่มันเกิดอะไรขึ้น?”“เหตุใดองค์หญิงหนานยวนลอยออกมาจากห้องท่านอ๋อง…”“ดูเหมือนใครบางคนไม่รู้จักเจียมตัว…”นอกเรือน เมื่อทหารที่เฝ้ายามและคนรับใช้เห็นภาพนี้ เริ่มพากันวิพากษ์วิจารณ์เบาๆ คำพูดบางประโยคลอยเข้าหูของจวินลั่วยวน ทำให้สีหน้าของนางเดี๋ยวซีด เดี๋ยวดำ เดี๋ยวม่วง ดูน่าเกลียดมากเงยหน้าแก้มแสบร้อนใช้มือลูบเบาๆมีเลือด…“หน้าของข้า!”ใบหน้าเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับนาง!จวินลั่วยวนโกรธแล้ว “อ๋องเฉิน! ท่านกล้าทำร้ายข้า หรือท่านไม่อยากให้แคว้นหนานยวนสนับสนุนท่าน? ฮ่องเต้หลีเริ่มใกล้ชิดกับแคว้นซีอวี้แล้ว ถ้าหากท่านไม่ได้รับการสนับสนุนจากแคว้นหนานยวนของเรา ท่านไม่ใช่คู่ต่อสู้ของฮ่องเต้หลี!”มาถึงขั้นนี้แล้ว เขายังไม่รู้ตัวอีกหรือ?เขาไปเอาความมั่นใจมาจากไหน ถึงกล้าทำร้ายนาง?เฟิงเย่เสวียนยืนอยู่บนบันไดขั้นที่สาม ก้มมองนางที่แยกเขี้ยวยิงฟัน หัวเราะอย่างเย็นชา“วันนี้ได้เห็น แคว้นหนานยวนไม่ได้มีค่า
ไม่นาน น้ำอุ่นก็มา ตอนเฟิงเย่เสวียนอาบน้ำ ไม่ชอบให้คนมาปรนนิบัติ หลังจากคนรับใช้เตรียมเสื้อผ้าและยาเสร็จ ก็ถอยออกไปหมดแล้วภายในห้องหลังฉากบังลมไอน้ำร้อนพวยพุ่ง อบอวลกลางอากาศ หลังจากเสียงน้ำดังขึ้น เงาจางๆ ของเฟิงเย่เสวียนสะท้อนลงบนฉากบังลมคลุมเครือ มองเห็นไม่ชัดแต่เงาด้านข้างนั่น เค้าโครงนั่น แม้แต่ตรงตำแหน่งลูกกระเดือกที่นูนขึ้น ก็สะท้อนออกมา ทำให้เห็นแล้วต้องกลืนน้ำลาย จินตนาการไม่รู้จบ เลือดในกายพลุ่งพล่านจวินลั่วยวนมองเห็นอย่างชัดเจนจากช่องว่างของประตูคอแห้ง กลืนน้ำลาย…จริงนะนางชอบผู้ชายคนนี้มาก ชอบอย่างที่ไม่เคยชอบมาก่อนหลายปีมานี้ คนที่ไปสู่ขอถึงวังหลวง ธรณีประตูแทบถูกเหยียบจนพัง นางเคยเห็นผู้ชายมามากมาย ชนชั้นสูง เชื้อพระวงศ์ เศรษฐีรู้จักคนมากมาย กลับมีเพียงตอนที่เจออ๋องเฉิน หัวใจปั่นป่วนนางจำได้ตลอด ตอนที่เจอกันครั้งแรก อ๋องเฉินจับมือของนาง มองฐานะของนางออกในปราดเดียว เขาพูดว่า‘การปรากฏตัวขององค์หญิงช่างพิเศษจริงๆ’หวั่นไหวตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาซ่า…เสียงน้ำหลังฉากบังลม เหมือนเฟิงเย่เสวียนอาบน้ำเสร็จแล้ว แขนข้างหนึ่งที่มีหยดน้ำติดยื่นออกมาหยิบเสื้
“ไม่รู้ว่าเจ้ากำลังหาใคร? ข้าเดินทางมาเจียงหนาน พาคนมาด้วยไม่น้อย ไม่แน่อาจสามารถช่วยอะไรเจ้าได้บ้าง”ฉู่เชียนหลีลังเลเล็กน้อยผู้มาเยือนคือแขก ยังไปรบกวนคนอื่นอีก รู้สึกเกรงใจจริงๆฮองเฮาหนานยวนเหมือนมองความคิดนางออก พลันยิ้มอย่างอ่อนโยน“พระชายาอ๋องเฉิน แคว้นหนานยวนกับอ๋องเฉินมีความสัมพันธ์ทางการร่วมมือ เจ้าไม่ต้องเกรงใจ”“เห็นเจ้าใช้คนมากมายเช่นนี้ แถมยังปิดเมือง คนผู้นี้น่าจะสำคัญมากกระมัง ไม่ต้องลังเลแล้ว ทุกเวลามีค่า อย่าปล่อยให้อีกฝ่ายมีโอกาสหนี”มันก็จริงตามหาคนสำคัญกว่าฉู่เชียนหลีก็ไม่ลังเลอีก กล่าวตรงๆ “เป็นเด็กทารกที่เพิ่งคลอด เป็นลูกสาวของสาวใช้ข้า…”หลังจากฮองเฮาหนานยวนเข้าใจสถานการณ์คร่าวๆ ก็สั่งให้คนของตัวเองไปช่วยอีกแรงทันทีขณะเดียวกัน ก็เหลือบมองพระชายาอ๋องเฉินท่านนี้อีกหลายครั้งนางดีกับคนรับใช้เช่นนี้มาโดยตลอด?เป็นเพียงสาวใช้คนหนึ่ง นางสามารถทำถึงขั้นปิดเมืองเลยมองออกได้ไม่ยากว่านางเป็นคนให้ความสำคัญกับมิตรภาพ ใครก็ตามที่อยู่ในสายตาของนาง ไม่มีการแบ่งแยกชนชั้น คนเช่นนี้ทำให้คนไว้ใจได้ง่าย ทำให้คนอยากเข้าหา อยากทำความรู้จักสมัยนี้ คนที่มีตำแหน่งมีอ