จวนอ๋องเฉินการนอนครั้งนี้ เฟิงเย่เสวียนหลับลึกเป็นพิเศษ และยิ่งสงบอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนในรอบยี่สิบปี มองดูพระอาทิตย์สีส้มยามเย็น กอดภรรยาที่หอมหวานและนุ่มนวลไว้ รู้สึกพึงพอใจกับชีวิต แทบอยากให้ช่วงเวลานี้สามารถคงอยู่ตลอดไปเยว่เอ๋อร์เตรียมอาหารเย็นเสร็จแล้ว กับข้าวแต่ละอย่างวางอยู่บนโต๊ะ ตักข้าว วางตะเกียบเรียบร้อยทั้งสองลุกจากเตียง นั่งลงกินข้าวเคียงข้างกันพ่อบ้านเดินเข้ามา เห็นทั้งสองดีกันแล้ว รู้สึกเพียงแม้แต่อากาศก็ดีขึ้นแล้ว หมอกควันกระจาย เมฆดำหายไป แม้แต่เอวและขาของเขาก็ไม่ปวดแล้ว สามารถมีชีวิตได้อีกยี่สิบปีไม่ต้องพูดถึงว่าปลื้มปีติเพียงใดเขาถือสมุดพับเล่มหนึ่ง เดินเข้ามาอย่างอารมณ์ดี“ท่านอ๋อง พระชายาอ๋องเฉิน นี่เป็นแบบของเครื่องเรือนที่สั่งทำใหม่ ท่านลองดูว่าชอบหรือไม่” ใช้สองมือส่งสมุดพับให้ฉู่เชียนหลีขี้เกียจดู เครื่องเรือนก็คือพวกโต๊ะเก้าอี้ไม่ใช่หรือ แค่สามารถใช้ได้ก็พอแล้วนางตักน้ำแกงสร่างเมาขึ้นมา เบาแล้วป้อนเข้าปากเฟิงเย่เสวียน เขาอมไว้ในปากแล้วกลืนลง หยิบสมุดพับมาดูแวบหนึ่ง“ล้วนใช้วัสดุที่ดีที่สุด”“ขอรับ ขอรับ”พ่อบ้านเห็นท่านอ๋องพยักหน้า เขาเ
ห้องโถงหน้าฉู่เชียนหลีกับเฟิงเย่เสวียนเดินเคียงข้างกันออกมา เซียวจือฮว่าถูกหามเข้ามาแล้ว นางเป็นลม นอนฟุบอยู่บนโต๊ะ สีหน้าซีดขาว ดวงตาปิดสนิท หมดสติไม่รับรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นเป่าอวี้คุกเข่าอยู่ข้างเก้าอี้ น้ำตาเม็ดใหญ่แห่งความเป็นห่วงหลั่งไหลออกมาอย่างต่อเนื่อง“นายหญิง ท่านฟื้นสินายหญิง…หากท่านเป็นอะไรขึ้นมา…”ไหล่นางกระตุก ร้องไห้สะอึกสะอื้น เมื่อเห็นท่านอ๋อง รีบกระโจนเข้าไปคำนับ กล่าวทั้งน้ำตา“ท่านอ๋อง ท่านต้องช่วยนายหญิงนะเจ้าคะ นางไม่ยอมข่มตานอน กินข้าวไม่ได้ ดื่มน้ำไม่ลงสามวันแล้ว ข้าห้ามปรามอย่างไรก็ไม่ฟัง หากเป็นเช่นนี้ต่อไป นางจะตายนะเจ้าคะ!”บนเก้าอี้ เซียวจือฮว่าฟุบอยู่ตรงนั้น ใบหน้าเล็กที่ซีดขาวไร้ร่องรอยของเลือด ระหว่างคิ้วเต็มไปด้วยความเหนื่อยล้า ผอมแห้งจนเบ้าตาลึกบุ๋มท่าทางนั่น ไม่ว่าผู้ชายคนใดแล้วก็ต้องปวดใจเฟิงเย่เสวียนกวาดมองนางแวบหนึ่ง เดินไปที่เก้าอี้หลัก หมุนกายนั่งลง“ไม่กินข้าวมาหาข้า ข้าเป็นหมอหรือ?”เออ…เป่าอวี้ชะงักไปครู่หนึ่งท่านอ๋องที่เย็นชาเช่นนี้เกิดอะไรขึ้น?!หลายปีมานี้ นายหญิงแค่ขมวดคิ้ว ทำหน้าบึ้ง แม้ผมร่วงหนึ่งเส้น ท่านอ๋องก็ปวดใจมาก
นางกับเขาเติบโตมาพร้อมกัน เป็นเพื่อนกันตั้งแต่เด็ก ความผูกพันยาวนานสิบกว่าปีนางเป็นสายเลือดเพียงหนึ่งเดียวของตระกูลเซียว เขาสัญญาว่าจะดูแลนางทั้งชีวิต!เซียวจือฮว่ามองหนังสือหย่าฉบับนั้นอย่างตะลึงงัน รู้สึกเพียงนี่คือฝันร้าย ไม่ใช่ความจริง นางส่ายศีรษะพลางเดินถอยหลังหลายก้าว“ไม่…”เป็นไปไม่ได้นางกำลังฝันนางเชื่อฟังเช่นนั้น อ่อนโยนเช่นนั้น และยังงดงาม รู้จักเอาใจใส่ผู้อื่น อ๋องเฉินจะทิ้งนางเพื่อผู้หญิงอัปลักษณ์คนหนึ่งได้อย่างไร?เป็นไปไม่ได้!ใบหน้าเล็กของนางซีดขาว ส่ายศีรษะไม่หยุด “ไม่…ข้าจะไม่ไปจากท่าน…ท่านป้าไม่อนุญาตให้ท่านทำเช่นนี้แน่นอน!”ท่านป้าที่นางพูดถึงคือ เซียวกุ้ยเฟย หรือก็คือมารดาผู้ให้กำเนิดของอ๋องเฉิน เฟิงเย่เสวียนมองนางอย่างเฉยเมย“หากเสด็จแม่ยังอยู่ มีแต่จะทำเช่นเดียวกับข้า นางไม่มีทางเก็บอสรพิษที่ดุร้ายตัวหนึ่งไว้ข้างกาย”สีหน้าเซียวจือฮว่าซีดขาว ร่างกายสั่นสะท้านอสรพิษ…เขารู้แล้ว…เขาสืบเจอแล้ว…ฉู่เชียนหลียืนอยู่ข้างๆ ไม่ค่อยเข้าใจนักอสรพิษอะไร?เซียวจือฮว่าทำเรื่องอะไรที่นางไม่รู้?“ได้หนังสือหย่าแล้วก็ไปเถอะ ข้าจัดการทุกอย่างไว้ให้เจ้าแล
เรือนหานเฟิงหากพูดว่าท่านอ๋องปลดพระชายารองเซียว ใครคือคนที่ดีใจที่สุด เช่นนั้นก็หนีไม่พ้นเยว่เอ๋อร์แล้วเมื่อพระชายารองเซียวไป พระชายาได้รับความโปรดปรานเพียงคนเดียว หากให้กำเนิดลูกชายอีกหนึ่งคน มารดาพึ่งบารมีลูกชาย ลาภยศเงินทองของทั้งชีวิตก็จะได้รับการประกันนางทำขนมหวานที่ประณีตสองจานอย่างมีความสุข ส่งเข้ามา ยิ้มแย้มตลอดเวลาตั้งแต่เริ่มจนจบฉู่เชียนหลีเห็น พูดกระเซ้าด้วยรอยยิ้ม“เยว่เอ๋อร์ ยิ้มได้มีความสุขมากเช่นนั้น มีผู้ชายที่ชอบแล้ว?”เยว่เอ๋อร์ชะงักทันใดนั้น สมองก็อดไม่ได้ที่จะนึกถึงร่างเงาสีดำที่สูงใหญ่สายหนึ่ง…แก้มทั้งสองข้างแดงทันที เวลาพูดก็เริ่มติดขัด“พระชายา ท่านพูด พูดอะไรของท่าน…ข้ายังเป็นสาวพรหมจรรย์นะ ผู้ชายอะไรของท่าน น่าอายจัง!”วางขนมหวานลง ปิดหน้าวิ่งออกไปฮืม?อาการหนักเช่นนี้แล้ว ยังจะปฏิเสธ?เห็นนางตาบอด?ไม่รู้ว่าเป็นผู้ชายคนใดที่โชคดีเช่นนี้ ถูกเยว่เอ๋อร์ที่เพียบพร้อมมีน้ำใจของบ้านนางชอบฉู่เชียนหลีหยิบขนมหวานขึ้นมาหนึ่งชิ้น กินไปหนึ่งคำ นางขมวดคิ้ว“กลิ่นเหม็นเปรี้ยวความรัก”เฟิงเย่เสวียนได้ยินคำเปรียบเปรยที่เอกลักษณ์แปลกใหม่นี้ เขาหัวเราะด้
แค่เพิ่งนึกถึง แก้มทั้งสองข้างของนางก็เริ่มแดง…“โฮ่ง…”ตรงประตู เจ้าดำน้อยยื่นอุ้งเท้าไปตะกุยประตูกะทันหัน ดวงตาหมาป่าสีเขียวเข้มมองไปทางเยว่เอ๋อร์ อุ้มเท้าขุดประตูครั้งแล้วครั้งเล่า เหมือนกำลังเตือนอะไรนาง เยว่เอ๋อร์เย็บไปหนึ่งเข็ม กำลังดึงด้าย เงยหน้ากล่าว“เจ้าดำน้อย รอก่อน ข้าปักเสร็จก็พาเจ้าไป”เจ้าดำน้อยไม่พอใจทันที “โฮ่งๆๆ!”ตะกุยประตู กระทืบเท้า แสดงความไม่พอใจเยว่เอ๋อร์อยากปักใบไผ่นี้ให้เสร็จมาก จึงกล่าว “หรือไม่วันนี้เจ้าก็ขี้ในเรือนเถอะ ข้าปักเสร็จแล้วค่อยมาตักให้เจ้า”“...”มันเป็นถึงราชาหมาป่า จะขี้ในที่พักของตัวเอง?เช่นนี้ไม่ได้เด็ดขาด!มันจะต้องออกไปขี้ข้างนอกให้ได้!ขนบนตัวหมาป่าเทพแห่งคุนหลุนสั่นทันที กระทืบเท้าอย่างน่าเกรงขาม ส่งเสียงเห่า ‘โฮ่ง’ อย่างน่ายำเกรง เหมือนกำลังสั่งเยว่เอ๋อร์ หากเยว่เอ๋อร์ไม่ฟัง เช่นนั้นมันก็จะเห่าจนได้ออกไป“โฮ่ง!”“โฮ่งๆๆ!”“...”เยว่เอ๋อร์ปวดหัวแล้ว ไม่ลุกขึ้นไม่ได้ “ได้ๆๆ ข้าพาเจ้าออกไปก็สิ้นเรื่อง แต่ว่าตอนนี้ดึกแล้ว พวกเราขี้เสร็จก็กลับ ห้ามวิ่งเล่นนะ”เจ้าดำน้อยพยักหน้าตอบตกลงเยว่เอ๋อร์มองดูกระเป๋าเงินที่ใกล้จ
ยังมีหน้ามาปรากฏตัวต่อหน้านางอีก!ไฟแห่งความโกรธของเซียวจือฮว่าลุกโชน ยกเท้าพุ่งเข้าไป“เจ้าทำให้อ๋องเฉินปลดข้า ข้าจะฆ่าเจ้า!”พลันชายคนนั้นเอี้ยวตัว ก็คว้าข้อมือนาง ลากเข้าไปในตรอกมืดที่อยู่ด้านข้าง เสียงที่ผ่านโลกมาอย่างโชกโชนลดต่ำ“ข้ารู้ว่าเจ้าโกรธมาก แต่ทั้งหมดนี้ไม่ได้เกิดจากข้า เป็นเพราะพระชายาอ๋องเฉินเล่นตุกติก แม้ท่านออกจากจวนอ๋องเฉินแล้ว แต่ทั้งหมดนี้ก็ใช่ว่าจะแก้ไขอะไรไม่ได้”“ตอนนี้พระชายาอ๋องเฉินยังไม่คลอดบุตร ไม่มีลูกชาย ตำแหน่งยังนั่งไม่มั่นคง ท่านยังมีโอกาสกลับจวนอ๋องเฉิน”เซียวจือฮว่ามองเขาด้วยความโกรธอย่างดุร้าย“เจ้าคิดว่าข้าจะหลงกลหรือ?!”ชายคนนั้นหัวเราะเยาะ ไม่ได้รีบร้อนอะไร มือแก่ที่มีรอยย่นยื่นเข้าไปในเสื้อคลุมสีดำ ค่อยๆ หยิบขวดสีดำเล็กๆ ใบหนึ่งออกมาส่งให้นาง“นี่เป็นของขวัญที่ข้าใช้เงินมากถึงห้าพันตำลึงกว่าจะได้มา”เขาหัวเราะได้แปลกประหลาดมาก เน้นคำว่า ‘ของขวัญ’ สองคำ บรรยากาศอึมครึมเซียวจือฮว่าขมวดคิ้ว “ของบ้าบออะไร?”“ยาสิ้นบุตร…”รุ่งเช้าอ๋องหลีมาเยี่ยมเยียนตั้งแต่เช้า ฉู่เชียนหลีไปต้อนรับ“อ๋องหลี”ภายในห้องโถงหน้า เฟิงเจิ้งหลีกำลังรออยู
รอเฟิงเย่เสวียนจัดการธุระในมือเสร็จ เมื่อไปถึงห้องโถงหน้า ทุกอย่างว่างเปล่า พอสอบถาม จึงได้รู้ว่าฉู่เชียนหลีออกไปพร้อมกับอ๋องหลีแล้วออกไปด้วยกัน?ไม่บอกเขา?ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ดีเช่นนี้ตั้งแต่เมื่อไร?เฟิงเย่เสวียนขมวดคิ้ว รู้สึกว่าเรื่องมันไม่ง่ายเช่นไหน เขารีบออกจากจวน ไล่ตามตำแหน่งของทั้งสองเยี่ยมมาก!มองเห็นคนทั้งคู่ในฝูงชนแต่ไกล พลางเดิน พลางหัวเราะ ไม่รู้ว่าคุยอะไรกัน ท่าทางดูมีความสุขมากเขายืนตัวตรง พลันหน้าบึ้ง ก้าวเท้าเดินเข้าไปหา“แค่ก!”หน้ารถเข็นแผงลอยร้านหนึ่ง ฉู่เชียนหลีกับอ๋องหลีหันกลับไปมองพร้อมกันฉู่เชียนหลีประหลาดใจ “เอ๋? ท่านกำลังยุ่งอยู่ไม่ใช่หรือ? ออกมาได้อย่างไร? และยังเจอกันอีก บังเอิญจริงๆ”——ดูสีหน้าที่บูดบึ้งนี่สิ น่าเกลียดเหมือนไปกินขี้มาเลย คงจะไม่ได้มาจับชู้หรอกมั้ง? พระเจ้า ในโลกนี้คงจะไม่มีคนที่โง่ขนาดนี้หรอกมั้ง มีคนแอบคบชู้ที่ไหนมาเดินตลาดกันอย่างเปิดเผยแบบนี้?——เขาอาจจะโง่ขนาดนั้นก็ได้“...”เฟิงเย่เสวียนชะงักเล็กน้อย อารมณ์ที่เพิ่งเดือดพล่านถูกข่มลงไปในพริบตา สติควบคุมความวู่วามก็จริงเขาจะวู่วามไม่ได้แล้วหากทำทุกอย่างตามอำเ
อีกด้านหนึ่งตอนที่เฟิงเย่เสวียนอยู่ต่อหน้าอ๋องหลี ทั้งนิสัยดี ทั้งใจกว้าง และเป็นมิตร ไม่มีอะไรที่ตำหนิได้เลย แต่พอลับหลังก็กลายเป็นอีกคน เขาลากฉู่เชียนหลีไปด้านข้าง“เดินตลาด พวกเจ้าสองคนเดินตลาดอะไร? เขามีพระชายาไม่ใช่หรือ? ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่ถึงคราวของเจ้ากระมัง?”เขาไม่พอใจแล้วเขานับนิ้ว นึกย้อนอย่างละเอียด แต่งงานมานานเช่นนี้แล้ว นางไม่เคยมาเดินตลาดกับเขาแม้แต่ครั้งเดียวนางกลับมอบครั้งแรกให้อ๋องหลี!หน้าบึ้ง โกรธฉู่เชียนหลีรีบหยุดฝีเท้า ลูบศีรษะของเขา พลางรีบปลอบใจ“หรือท่านไม่เห็นฉู่เจียวเจียวไม่ได้รับความโปรดปราน? ตอนอยู่จวนอัครมหาเสนาบดีฉู่ นางกับแม่นางรังแกข้า ยังจงใจปิดบังตัวตนของข้าไม่ยอมบอก และถึงขั้นวางยาพิษทำลายโฉมของข้านานถึงสิบห้าปี”“เปลี่ยนเป็นท่าน ท่านสามารถกล้ำกลืนความโกรธแค้นนี้ได้หรือ?”เฟิงเย่เสวียนขมวดคิ้ว ส่ายศีรษะหากอีกฝ่ายเป็นผู้ชาย ชักกระบี่ฆ่าไปนานแล้ว แต่เขาไม่ฆ่าผู้หญิง“เจ้าอยากทำอย่างไรกับพวกนาง? บอกข้า ข้าส่งไปนางไปขุดเหมืองที่ภาคตะวันตก”คิกๆ!ขุดเหมือง!ภาคตะวันตกอยู่ไกลเช่นนั้น สองแม่ลูกคู่นี้มีกลอุบาย ส่งพวกนางไป ไม่แน่พวกนางอาจจ