แชร์

บทที่ 177

ผู้เขียน: สกุลหยางมีบุตรสาว
“ในเมื่อยากก็ช่างเถอะ”

ฉู่เชียนหลีพูดจบก็ไปแล้ว

เฟิงเย่เสวียน “?”

ข้ายังพูดไม่ทันจบเลย!

นอกเสียจากเจ้าจูบข้าหนึ่งที!

ผู้หญิงคนนี้ไม่ใช่เด็กๆ แล้ว อายุสิบห้าปีแล้ว จะทำตัวเป็นผู้ใหญ่สักนิด หนักแน่นสักหน่อยเหมือนเขาไม่ได้เลยหรือ จะฟังเขาพูดให้จบก่อนไม่ได้เลยหรือ?

เรือนข้าง

“พระชายา…” เยว่เอ๋อร์เดินเข้ามาด้วยรอยยิ้ม ทว่าเมื่อเห็นหมาป่าขาวที่เดินตามหลังฉู่เชียนหลี กลับกลัวจนหดคอเล็กน้อย

อย่างไรก็ตามหมาป่าตัวนี้ใหญ่เกินไป!

สูงหนึ่งเมตรกว่า ขาสี่ข้างล่ำสัน ขนเงา กรงเล็บแหลมคม สายตาเฉียบขาด มีน้ำหนักมากถึงสามร้อยกว่าชั่ง แค่ยืนอยู่ตรงนั้น ขอแค่เป็นมนุษย์ใครก็กลัว

“เยว่เอ๋อร์ เก็บกวาดห้องข้างๆ เสียหน่อย ให้เจ้าดำน้อยอยู่ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เจ้าดำน้อยก็คือส่วนหนึ่งของครอบครัวเราแล้ว”

เยว่เอ๋อร์อ้าปาก

“หา! มัน มัน…หมา…หมา…หมาป่าตัวนี้…”

ฉู่เชียนหลีตบไหล่เยว่เอ๋อร์ “ไม่ต้องกลัว มันเชื่องมาก”

“เจ้าดำน้อย ทักทาย”

เมื่อสิ้นเสียง เจ้าดำน้อยขยับหัวขนาดใหญ่ของมันเข้าไปในอ้อมแขนของเยว่เอ๋อร์ ทำเอาเยว่เอ๋อร์ตกใจจนยืนไม่มั่นคง ล้มก้นจ้ำเบ้าลงกับพื้น

เจ้าดำน้อยขมวดคิ้วที่ไม่มีอยู่จริง

บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 178

    “หนาว?”จิ่งอี้ตะลึงงันก่อน ทันใดนั้นเหมือนนึกถึงอะไรบางอย่าง รีบก้าวไปข้างหน้า จับข้อมือของฉู่เชียนหลี“คุณหนู ล่วงเกินแล้ว”เมื่อสิ้นเสียง ก็ตรวจชีพจรหลังจากนั้นไม่กี่วินาที ก็ได้รับคำตอบ“เป็นเคล็ดวิชาเหมันต์”ฉู่เชียนหลีได้ยินแล้วตะลึงงันเล็กน้อย เคล็ดวิชาเหมันต์…ในสมอง นึกถึงบทสนทนาที่เจ้าสำนักคนเก่าพูดกับนางทันที‘ข้าเหลือเวลาอีกไม่มากแล้ว ตอนนี้ข้าจะถ่ายทอดพลังยุทธ์ทั้งชีวิตและเคล็ดวิชาเหมันต์ให้เจ้า…’ตอนนั้น ร่างกายของนางไม่มีการเปลี่ยนแปลงที่ผิดปกติ จึงไม่ได้เก็บเรื่องนี้มาใส่ใจนางถามอย่างประหลาดใจ “จิ่งอี้ ความหมายของเจ้าคือ…ใน ในร่างกายข้ามีวรยุทธ์เลิศล้ำอยู่?”สวรรค์!เหมือนจอมยุทธหญิงในโทรทัศน์ สามารถปลิดชีพในสามกระบวนท่า หนึ่งสู้สิบ เหยียบหิมะไร้ร่องรอย วรยุทธ์เลิศล้ำเหล่านี้ เป็นสิ่งที่นางไม่กล้าแม้แต่จะคิดจิ่งอี้กล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “เจ้าสำนักคนเก่าอุทิศตนให้กับการฝึกฝนวรยุทธ์ทั้งชีวิต กำลังภายในของเขาบริสุทธิ์และล้ำลึกมาก มากกว่าคนทั่วไปไม่ต่ำกว่าสามเท่า”“ในเมื่อถ่ายทอดให้ท่าน เช่นนั้นก็อยู่ในตันเถียงของท่าน เพียงแต่ท่านยังไม่ได้เรียนรู้วิธีใช้ม

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 179

    ในเวลาเดียวกัน จวนอันโอ่อ่าอีกหลังหนึ่งภายในห้องโถง เสียงตวาดด้วยความโกรธดังขึ้น“นางแพศยา เจ้าจะลวกข้าให้ตายหรือ!”“รัชทายาทโปรดไว้ชีวิต รัชทายาทโปรดไว้ชีวิต!”สาวใช้คนหนึ่งคุกเข่าอยู่บนพื้นด้วยความตื่นตระหนก กลัวจนโขกศีรษะร้องขอชีวิตอย่างต่อเนื่อง ข้างเท้ามีถ้วยชาตกแตกหนึ่งใบ น้ำชาสาดกระจายทั่วพื้น ยังคงมีไอร้อนลอยขึ้น“บ่าวไม่ได้ตั้งใจเจ้าค่ะ องค์รัชทายาท…อ๊า!”พลันถูกถีบจนล้มลงพื้นเฟิงเจิ้งอวี้โกรธมาก เมื่อตอนกลางวันเขาได้รับความขุ่นเคืองที่จวนอ๋องเฉิน กลับจวนก็ถูกสาวใช้ซุ่มซ่ามคนนี้ชนอีก เริ่มเกิดความคิดฆ่าคนแล้วเมื่อหันไปมองที่นั่งข้างๆ อัครมหาเสนาบดีกงนั่งอยู่ตรงนั้น สองมือซุกอยู่ในแขนเสื้อ สีหน้าสงบเรียบเฉย ราวกับพระพุทธรูปองค์หนึ่ง“รัชทายาทใจเย็นๆ”คำพูดที่เชื่องช้า น้ำเสียงที่ผ่อนคลาย ให้ความรู้สึกสงบเยือกเย็นเป็นพิเศษ เมื่อเทียบกับความหงุดหงิดของรัชทายาท เขาแลดูใจเย็นมากเฟิงเจิ้งอวี้สะบัดแขนเสื้ออย่างเย็นชา “ใต้เท้ากงจะให้ข้าใจเย็นได้อย่างไร?”สีหน้าเย็นชามาก น้ำเสียงยิ่งเยือกเย็น “ตอนนี้ อ๋องเฉินมาโอ้อวดบารมีถึงตรงหน้าข้าแล้ว ท่านจะให้ข้าใจเย็นได้อย่างไร?”

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 180

    จิ่งอี้อ้าปาก คำพูดมาถึงปลายลิ้น เสียงคำนับของเยว่เอ๋อร์ดังมาจากนอกประตู“คำนับท่านอ๋อง”เฟิงเย่เสวียนมาแล้วจิ่งอี้กลืนคำพูดที่อยู่ปลายลิ้นกลับเข้าไป ประสานมือคำนับทำท่าบอกลาฉู่เชียนหลี ร่างกายสั่นไหวฉับพลัน กระโดดออกไปจากหน้าต่างพริบตาที่ร่างเงาหายไป เฟิงเย่เสวียนในชุดผาวสีหมึกผลักประตูเข้ามา“เชียนหลี”สายตาของฉู่เชียนหลีละจากหน้าต่างไปที่เฟิงเย่เสวียน มองเห็นใบหน้าที่ยิ้มแย้มของเขา ความรู้สึกแรก :เขาไม่ได้มาดีแน่เป็นอย่างที่คิด…เขาเอ่ยปาก “เยว่เอ๋อร์บอกว่าเจ้าพูดว่าหนาวตลอด ร่างกายของข้าอุ่น ตั้งใจมานอนกับเจ้าโดยเฉพาะ”“?”พูดจาฟังดูดีมาก!เห็นได้ชัดว่าอยากนอนกับนาง!ฉู่เชียนหลีส่ายศีรษะ พลางบีบขาที่ด้านชาทั้งสองข้าง ขยับลงจากเตียงอย่างลำบากเล็กน้อย “ข้าไม่หนาว”“เยว่เอ๋อร์ไม่พูดโกหก เจ้าหนาว” เฟิงเย่เสวียนใช้สายตาที่ ‘ข้ามองออกหมดแล้ว เจ้าไม่ต้องแสร้งทำเป็นเข้มแข็ง’ มองนาง“ข้าไม่หนาวจริงๆ”เฟิงเย่เสวียนเดินเข้ามา “เจ้าหนาว”“ข้าไม่…โอ๊ย!” ขาสองข้างของฉู่เชียนหลีเพิ่งลงจากเตียง ก็ชาจนยืนไม่ไหว ล้มเข้าไปในอ้อมแขนของเฟิงเย่เสวียนเมื่อเงยหน้าขึ้น ก็สบตาเข้ากับด

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 181

    ในที่สุดเจ้าก็พูดความในใจของเจ้าแล้ว!คอยดูว่าข้าจะจัดการเจ้าอย่างไร!เฟิงเย่เสวียนเผยอริมฝีปากบางขึ้นเล็กน้อย เจตนาที่ชั่วร้ายแวบผ่านแล้วหายวับไป จากนั้นจึงแสร้งพยักหน้าอย่างเห็นด้วย“อ๋องหลีทำงานสุขุมรอบคอบ เป็นคนถ่อมตน ขยันมั่นคง นับว่าเป็นตัวเลือกที่ไม่เลว”ฉู่เชียนหลีเลิกคิ้วเอ๋?มีหวังแฮะ“แต่ว่า…” เฟิงเย่เสวียนเปลี่ยนประเด็น “การลาดตระเวนทางใต้เป็นภารกิจที่ได้รับมอบหมายจากฝ่าบาท การเรียกใช้คนก็ต้องผ่านความเห็นชอบของฝ่าบาท หากข้าช่วยอ๋องหลี เกรงว่าเหล่าขุนนางในราชสำนักต้องพยายามปั้นน้ำเป็นตัว หากบานปลายจนเกิดปัญหา…”แววตาฉู่เชียนหลีขรึมลงเล็กน้อยมันก็จริงปัจจุบัน แม้ฮ่องเต้ได้แต่งตั้งรัชทายาทแล้ว แต่ยังอยู่ในวัยที่แข็งแรง ไม่มีวี่แววจะสืบทอดราชบัลลังก์ บรรดาองค์ชายไม่เต็มใจที่จะเป็นแค่ท่านอ๋อง ต่างก็อยากลองพยายามปีนขึ้นที่สูง เหล่าขุนนางในราชสำนักก็แบ่งพรรคแบ่งพวกเช่นกัน ต่างก็สนับสนุนองค์ชายของตนเองหากอ๋องเฉินกับอ๋องหลีใกล้ชิดกันเกินไป เมื่อถูกเผยแพร่ออกไป สามารถทำให้ผู้คนคิดมากได้อย่างง่ายดายนางอันให้โจทย์ยากกับนางจริงๆฉู่เชียนหลีกุมหน้าผาก นางไม่อยากยุ่งเรื่

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 182

    ด้วยเหตุนี้ เฟิงเย่เสวียนทั้งขอโทษ ทั้งยอมรับผิด ง้อฉู่เชียนหลีด้วยความอดทนเป็นเวลาสองเค่อเต็มๆ จึงจะกลับไประหว่างทางกลับ เอาแต่ลูบริมฝีปากบางอย่างเหม่อลอย พยายามหวนนึกถึงแมลงปอแตะผิวน้ำเมื่อครู่เชียนหลีจูบเขาจริงหรือ?จูบโดนจริงหรือ?จริงหรือ?เอี๊ยด…สายตาส่งแผ่นหลังที่เดินจากไปไกลของท่านอ๋อง เยว่เอ๋อร์ปิดประตู จึงจะระเบิดเสียงหัวเราะออกมาอย่างควบคุมไม่อยู่“คิๆ!”ฮ่าๆ ฮ่าๆๆ!ตลกจังเลย!เมื่อครู่พระชายาใช้นิ้วมือแตะริมฝีปากของท่านอ๋อง แสร้งทำเป็นจูบ หลังจากถูกตั้งคำถามยังโกรธอีก ท่าทางที่หลอกง่ายของท่านอ๋องน่าขำจริงๆลักษณะที่สวยงามที่สุดของความรัก บางทีอาจจะเป็นแค่การหยอกล้อ หัวเราะ กำเริบเสิบสาน หรือตามใจกระมังในที่มืดนอกหน้าต่าง มีร่างเงาสีดำสายหนึ่งยืนอยู่ตรงนั้นตั้งแต่เริ่มจนจบคือจิ่งอี้เขาไม่ได้จากไป จ้องมองชายหญิงที่อยู่ในห้องนอนด้วยสายตาลึกซึ้ง ภาพที่อยู่ด้วยกัน ปรองดอง หยอกล้อ ตามใจ ปรนเปรอ…แววตาของเขากลมกลืนเข้ากับยามราตรี เก็บเอาภาพเหล่านั้นเข้าไปอยู่ในส่วนลึกของแววตา กลายเป็นสีดำที่มืดสนิท และยิ่งมองไม่ออกว่าเวลานี้กำลังโกรธหรือดีใจก่อนหน้านี้คุณหนู

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 183

    ขบวนที่เรียบง่ายเป็นพิเศษออกจากเมืองแล้ว คนทั้งกลุ่มออกเดินทางด้วยชุดที่เรียบง่ายไม่รีบร้อน ไม่ได้ดึงดูดความสนใจใดๆลาดตระเวนทางใต้ครั้งนี้ สถานที่ที่เดินทางไปคือเขตทางตอนใต้ของแคว้นตงหลิง เมืองเซียงหนาน กว่างอัน อวิ๋นกุ้ย หนิงโจวและอื่นๆ สถานที่เหล่านี้ล้วนมีสภาพอากาศที่อบอุ่น เหมือนฤดูใบไม้ผลิทุกฤดูกาล และยังเป็นสถานที่เศรษฐกิจเฟื่องฟู ตั้งอยู่บนเส้นทางคมนาคมสายหลักออกนอกเมือง ผู้คนบางตา สงบ รถม้าแล่นอย่างไม่เร่งไม่รีบก๊อกแก๊กๆ…สงบมากนี่เป็นครั้งแรกที่ฉู่เชียนหลีออกจากเมืองหลวง ด้วยความอยากรู้อยากเห็น นางจึงเลิกม่านหน้าต่างขึ้น มองออกไปข้างนอกตลอดทางภูเขางามลำธารใส เสียงนกเจื้อยแจ้วดอกไม้ผลิบาน ในป่ายังมีกระรอกน้อย กระต่ายป่า กระโดดผ่านไปอย่างว่องไวสภาพแวดล้อมของยุคโบราณนั้นดีมาก ไม่ถูกทำลายใดๆ อากาศบริสุทธิ์ สัตว์ป่ามากมาย ความงามของทิวทัศน์เป็นสิ่งที่โลกปัจจุบันไม่มีวันได้เห็นมองดูภูเขาและแม่น้ำนั้น ข้ามไปลูกแล้วลูกเล่า ดวงตาเป็นประกายเหมือนเด็กน้อยที่อยากรู้อยากเห็นหานเฟิงขี่อยู่บนหลังม้า เมื่อมองเห็นภาพนี้ อดไม่ได้ที่จะรู้สึกขบขัน“พระชายา เหตุใดท่านจึงดูภูเขาแล

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 184

    รถม้าจอดลงหน้าโรงเตี๊ยมใจกลางเมืองแห่งหนึ่งหานเฟิงเดินนำหน้า “เถ้าแก่ ขอห้องให้พวกเราสามห้อง”ฉู่เชียนหลีได้ยินแล้วกวาดมองขบวนแวบหนึ่งขบวนนั้นเรียบง่ายมาก มีองครักษ์ลับสี่คน บวกกับนางและเฟิงเย่เสวียน ฟังจากคำพูดของหานเฟิง น่าจะเป็นองครักษ์ลับสองคนต่อหนึ่งห้อง นางกับเฟิงเย่เสวียนหนึ่งห้องนางพูดแทรกทันที “สี่ห้อง”หานเฟิง “?”เฟิงเย่เสวียนมองดูนางด้วยสายตาลึกล้ำฉู่เชียนหลีเบือนหน้าหนี อย่าใช้สายตาเช่นนี้มามองนาง แม้นางเป็นพระชายาอ๋องเฉิน แต่ยังสนิทสนมไม่ถึงขั้นนอนร่วมเตียงใช้หมอนใบเดียวกับเฟิงเย่เสวียนเชียนหลีช่างใจร้ายนัก…เฟิงเย่เสวียนมองไปทางโต๊ะจ่ายเงิน “สามห้อง”ฉู่เชียนหลี “สี่ห้อง”“สามห้อง”“สี่”หลังโต๊ะจ่ายเงิน ในมือเถ้าแก่ถือหนังสือเล็กๆ หนึ่งเล่ม เขามองซ้ายมองขวา บิดซ้ายบิดขวา อดไม่ได้ที่จะพูดแทรก“นายท่านทั้งสองท่านไม่ต้องเถียงกันแล้วขอรับ โรงเตี๊ยมของเราเหลือห้องนอนแค่สามห้อง”เมื่อหานเฟิงได้ยินเช่นนี้ รีบล้วงเงินออกมาจองห้องทันทีเขาหยิบกุญแจไปสองดอก แล้วค่อยมอบกุญแจดอกที่สามให้เฟิงเย่เสวียน จากนั้นก็พาองครักษ์ลับสามคนขึ้นไปชั้นบนอย่างรวดเร็วแล้วเฟิง

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 185

    ชั้นสอง ห้องปีกข้างภายในห้องได้รับการทำความสะอาดอย่างสะอาดสะอ้าน การจัดวางเรียบร้อย และยังแขวนภาพวาดอันประณีตสวยงามกับฉากบังลมปักลายดอกไม้ ทุกอย่างดีไปหมด เพียงแต่…มีเตียงนอนแค่หนึ่งหลังฉู่เชียนหลีกอดห่อสัมภาระของตนเอง มองไปทางเตียงเล็กที่มีขนาดหนึ่งเมตรยี่สิบเซนติเมตร คิ้วขมวดแน่น ไม่รู้จริงๆ ว่าคืนนี้จะนอนอย่างไรอย่างไรก็ตาม…ผู้ชายบางคนพอเข้าประตู ก็ถอดเสื้อผาวชั้นนอกออก แล้วโยนลงบนเตียงอย่างไม่ใส่ใจ พฤติกรรมนี้เทียบเท่ากับ ‘การจองที่’หลังจากครุ่นคิด ก็ตัดสินใจลุกขึ้นยืน“ท่านอ๋อง เตียงนี่มันเล็กเกินไป ข้าจะออกไปเดินเล่นสักรอบ ลองดูว่าโรงเตี๊ยมอื่นยังมีห้องว่างหรือไม่”เฟิงเย่เสวียนนั่งลง “เมื่อครู่เถ้าแก่พูดแล้ว พรุ่งนี้ก็เป็นวันโยนซิ่วฉิวเลือกเจ้าบ่าวของผู้ว่าการแล้ว ชายหนุ่มโดยรอบอำเภอล้วนมา คืนนี้เป็นช่วงเวลาที่ห้องพักแน่นที่สุด”ไม่มีห้องแล้ว นอนกับเขาแต่โดยดีเถอะ…“คืนนี้ เจ้านอนข้างใน ข้านอนข้างนอก สบายใจได้ เวลาข้านอนสงบมาก ตรงไหนที่ไม่ควรขยับ จะไม่ขยับเลย”“?”อะไรคือตรงไหนที่ไม่ควรขยับ?ฉู่เชียนหลีกัดริมฝีปากเบาๆ ในใจต่อต้านอย่างยิ่ง “ท่านอ๋อง…”“ระหว่าง

บทล่าสุด

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 1156

    ฉู่เชียนหลีจากไปห้าที่หก เจียงเป่ยประกาศหนังสือสงครามต่อเจียงหนาน เนื้อหามีอยู่ว่า คืนองค์หญิงเฟิงเจิ้งลู่ฉินภายในสามวัน ไม่คืนยกทัพบุกโจมตีเหตุผลเห็นสมควรอย่างยิ่งขอลูกสาวของตัวเองคืนหลังจากฉู่เชียนหลีรู้ อารมณ์สับสนอย่างบอกไม่ถูก เพราะนางรู้ว่าเฟิงเจิ้งหลีไม่ได้รักเฟิงเจิ้งลู่ฉิน เขาแค่ต้องการใช้ข้ออ้างขอลูกสาวคืน เพื่อบุกโจมตีเจียงหนาน“พระชายา ทำอย่างไรดี?”อวิ๋นอิงถามพื้นห้องถูกปูด้วยพรมหนาๆ เด็กทั้งสามคนวิ่งเล่นบนนั้น สะดุดล้ม ชนกัน กระแทกกัน ถูกพรมปกป้องอย่างดี ไม่ได้รับบาดเจ็บหลายวันที่อยู่ด้วยกัน เด็กทั้งสามคนคุ้นเคยกันแล้ว และเล่นด้วยกันอย่างมีความสุขเจ้าไล่ข้า ข้าไล่เจ้าคลานไป คลานมาเจ้าแย่งขวดนมของข้า ข้าหยิกหน้าของเจ้า พูดอีอาๆ แม้ไม่มีใครฟังเข้าใจฉู่เชียนหลีนั่งอยู่ที่ข้างโต๊ะ มองไปทางลู่ฉินลู่ฉินคลอดก่อนกำหนด รูปร่างผอมและยังมีโรคหัวใจ เหมือนกับตุ๊กตาที่อ่อนแอตัวหนึ่งเฟิงเจิ้งหลีไม่รักนาง ฉู่เจียวเจียวไม่ชอบนาง ถ้าหากนางกลับเจียงเป่ย ยังไม่รู้ว่าต้องเจอกับอะไร…ขณะที่นางกำลังกังวล ลู่ฉินที่กำลังคลานเล่นเหมือนรู้สึกถึงอะไรบางอย่าง คลานไปที่ตรงหน้า

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 1155

    เฟิงเจิ้งหลีมาถึงตำหนักของไท่ซ่างหวงเหมือนไท่ซ่างหวงคาดการณ์ไว้นานแล้ว กำลังนั่งพิงบนหัวเตียงรอเขา สายตาของสองพ่อลูกบรรจบกันกลางอากาศเกิดความเงียบขึ้นชั่วพริบตาผ่านไปครู้หนึ่ง เฟิงเจิ้งหลีเดินเข้าไปอย่างเหนื่อยล้า “เหตุใดไม่ไป?”เขาทิ้งร่างกายที่หนักอึ้งนั่งลงไป ระหว่างคิ้วเต็มไปด้วยความเหนื่อยล้า แม้แต่เสียงพูดก็แหบ โดยรวมแล้วดูโทรมมากราวกับบาดเจ็บสาหัสสำหรับเขานั่น ถูกคนที่ชอบและเชื่อใจที่สุดหักหลังและทิ้ง ก็คือการทำร้าย ทิ้ง…เขาเกลียดคำนี้ที่สุดในชีวิตไท่ซ่างหวงมองดูลูกชายที่คล้ายเขาห้าส่วนตรงหน้า และคล้ายมารดาของเขาห้าส่วน พริบตาเดียว ลูกชายก็โตเช่นนี้แล้ว และเขาก็ขาดความรักมากมายเหลือเกินในดวงตาที่ขุ่นมัว เผยให้เห็นความรู้สึกผิดหลายส่วน“ถ้าหากข้าไปแล้ว เจ้าจะไม่เหลือญาติแม้แต่คนเดียว”“!”ร่างกายเฟิงเจิ้งหลีสั่นสะท้าน แผ่นหลังแข็งฉับพลันญาติ…ตั้งแต่เล็กจนโต นี่เป็นครั้งแรกที่ท่านพ่อใช้คำนี้เรียกความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขา“หลีเอ๋อร์ ข้ารู้ หลายปีมานี้ พ่อติดค้างเจ้าเยอะมาก พ่อให้ความสำคัญกับบ้านเมืองจนมองข้ามเจ้า ในใจพ่อรู้สึกผิดนัก” ไท่ซ่างหวงกล่าวอย่า

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 1154

    คืนแรกที่ออกจากเมืองหลวงฉู่เชียนหลีนอนไม่หลับ…เมืองหลวงอันไกลโพ้นที่อยู่อีกฟากของแม่น้ำอูหลาน วังหลวงจุดเทียนสว่างไสวในยามค่ำคืนที่มืดมิด เหล่านางกำนัลถือโคมไฟ ก้มหน้าเดินผ่านยังเงียบๆ ไม่มีใครกล้าพูดมากตำหนักเจาหยางทุกที่มืดมิด ไร้ผู้คน และไม่มีเทียนแม้แต่เล่มเดียว เหมือนกับถูกความมืดกลืนกิน เงียบราวกับดินแดนไร้ผู้คนแต่ท่ามกลางความมืดนั่น กลับมีเสียงหายใจเย็นๆ สายหนึ่งเบาจนแทบไม่ได้ยิน เฟิงเจิ้งหลีนั่งอยู่บนบันได ร่างกายของเขากลมกลืนกับความมืดจนมองเห็นแทบไม่ชัด ดวงตาคู่นั้นฉายแสงในความมืด ราวกับจมอยู่ในเหวลึกอันไร้ที่สิ้นสุดในอดีตที่นี่เคยมีเสียงหัวเราะของเด็กๆ เคยมีรอยยิ้มของนาง ท่าทางที่อ่อนโยนของนาง และเสียงอันนุ่มนวลที่พูดคุยกับเขา ภาพเหล่านั้นเหมือนเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวานทั้งหมดยังคงอยู่ในสมองของเขา ปรากฏขึ้นตรงหน้าเขาชัดเจนมากตราตรึงมากนางเคยพูด อยู่ข้างกายเขา รู้สึกสบายใจมากนางเคยพูด จื่อเยี่ยชอบเขา นางก็จะดีกับเขานางเคยพูด…คำพูดไพเราะนางเป็นคนพูด เรื่องใจร้ายก็นางเป็นคนทำล้วนเป็นนาง!ฉู่เชียนหลี!โกหกเขาครั้งแล้วครั้งเล่า เขาเชื่อครั้งแล้วครั้

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 1153

    “คุณหนูอย่าคิดมาก แม้องค์หญิงแคว้นหนานยวนท่านนี้น่ารังเกียจไปบ้าง แต่นางทำงานเสร็จ ก็น่าจะกลับแคว้นแล้ว ก็แค่เจอกันชั่วคราว ทำอะไรไม่ได้หรอก” จิ่งอี้กล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึมฉู่เชียนหลีไม่ได้คิดมากอย่างไรก็ตามผู้ชายอย่างเฟิงเย่เสวียนที่อายุยังน้อย รูปร่างหน้าตาโดดเด่น มีฐานะมีอิทธิพล สมบูรณ์แบบไปเสียทุกอย่าง มีผู้หญิงมากมายชอบก็เป็นเรื่องปกติถ้านางจะถือสา คนมากมายเช่นนั้น จะถือสาไหวได้อย่างไร?นางนึกถึงเรื่องของกู่แพทย์ มองจิ่งอี้อย่างจริงจัง เห็นสีหน้าของเขาค่อนข้างซีดเหมือนคนป่วย ก็รู้แล้วว่าเขากำลังใช้ร่างกายตัวเองเลี้ยงกู้แพทย์“เลี้ยงรอดหรือไม่?” นางถามเบาๆมีการบันทึกในตำราโบราณ กู่แพทย์ชนิดนี้อ่อนแอเลี้ยงยาก เผลอไม่ระวังนิดเดียวก็จะตาย สิ่งที่ทำมาก่อนหน้านี้ก็เปล่าประโยชน์จิ่งอี้หลุบตา เสียงเบามาก“เลี้ยงแล้วสามสิบกว่าตัว ในที่สุดก็เลี้ยงรอดสองตัว…”กู่แพทย์สองตัวนี้ ตอนนี้ถูกเขาเก็บไว้ในหน้าอก พกติดตัวไปทุกที่ ต่อให้เป็นเวลานอน ก็จะนำออกมาดูเป็นระยะกลัวว่าพลั้งเผลอนิดเดียว พวกมันก็จะตายฉู่เชียนหลีเหลือบมอง “อวิ๋นอิงรู้หรือไม่?”“นางไม่รู้ขอรับ คุณหนู อย่าพูดถ

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 1152

    เป็นเด็กผู้หญิงอายุประมาณสิบหกสิบเจ็ดปีใบหน้างดงาม การแต่งกายดูขี้เล่นแต่ยังคงสูงศักดิ์ มัดมวยผมและถักเปียหางม้า ซึ่งบ่งบอกว่านางยังไม่แต่งงาน กระโดดออกมาปรากฏตัว ท่าทางที่สดใสร่าเริงนั่น ทำให้ดูเข้าถึงได้ง่ายมากฉู่เชียนหลีเหลือบมอง“เจ้าคือ…”“ข้าชื่อจวินลั่วยวน เป็นองค์หญิงแคว้นหนานยวน”นางแนะนำตัวเอง เสียงนั่นเหมือนนกขมิ้นที่บินออกจากหุบเขา สดใสไพเราะ“อ๋องเฉินกับฮ่องเต้ตงหลิงสู้กัน เสด็จพ่อให้ข้ามาช่วยอ๋องเฉินที่เจียงหนาน ก็เพราะข้าแทรกแซง ฮ่องเต้ตงหลิงจึงให้ความสำคัญกับศึกเมืองเทียนสู่เป็นพิเศษ และลงสนามรบด้วยตัวเอง”ไม่เช่นนั้น ยังไม่สามารถล่อฮ่องเต้ตงหลิงออกมาได้ล่อเสือออกจากถ้ำ พระชายาอ๋องเฉินจึงสามารถกลับมาอย่างปลอดภัยพูดถึงก็ล้วนเป็นผลงานของนางฉู่เชียนหลีเข้าใจแล้วองค์หญิงของแคว้นหนานยวนท่านนี้ ได้ยินมานานแล้วว่าเป็นลูกสาวเพียงคนเดียวของฮ่องเต้หนานยวน เป็นแก้วตาดวงใจที่เหมือนไข่มุกงามบนฝ่ามือ ถูกเอาใจใส่อย่างดีตั้งแต่เด็ก“รบกวนองค์หญิงแล้ว” นางพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม ถือเป็นมารยาทจวินลั่วยวนประหลาดใจเล็กน้อย “?”แค่นี้?ไม่มีแล้ว?พูดแค่สี่คำก็แสดงความขอบค

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 1151

    เด็กน้อยที่ดูกลัวๆ ในตอนแรก เมื่อได้ยินคำพูดนี้ เหมือนกับเจอที่พึ่งพิง เบ้าตาแดงก่ำ มุดเข้าไปในอ้อมแขนของนาง“อุแว้!”ร้องไห้เสียงดังนางกลัวมากแม่ของนางไม่อยู่ นางถูกคนรับใช้โยนไปโยนมา กินไม่อิ่ม นอนไม่หลับ และยังไม่กล้าร้องไห้ เพราะไม่มีใครกล่อมนางอย่างอ่อนโยนและอดทนเหมือนท่านแม่ในที่สุดก็ได้กลิ่นที่คุ้นเคยแล้วไม่สามารถควบคุมความน้อยใจที่กดเอาไว้ได้อีกต่อไป ปล่อยโฮร้องไห้“ฮือๆ…”สองมือจับเสื้อฉู่เชียนหลี มุดเข้าไปในอกของนางก็ร้องไห้อวิ๋นอิงยกมือขวาขึ้น รีบรับรองทันที “พระชายาวางใจได้ ตอนที่ท่านไม่อยู่ พวกเราดูแลลู่ฉินอย่างดี ไม่มีใครรังแกนางแน่นอน นางน่าจะคิดถึงท่านมาก จึงร้องไห้เช่นนี้”“ท่านไม่รู้หรอก แม้ลู่ฉินยังเล็ก แต่นางรู้ว่าใครเป็นใคร นางจะเอาท่านคนเดียว พึ่งพาท่าน คิดถึงท่าน”หัวใจฉู่เชียนหลีละลายตั้งแต่เด็กคนนี้เกิดมา นางเลี้ยงเองกับมือมาโดยตลอด และความเชื่อใจและการพึ่งพาที่เด็กมีต่อนาง ก็คือการตอบแทนที่ดีที่สุด“ไม่ร้องนะ”นางเช็ดน้ำตาเบาๆ “แม่กลับมาแล้ว ต่อไปจะไม่ไปอีกแล้ว”ในเมื่อเฟิงเจิ้งหลีกับฉู่เจียวเจียวไม่เอาเด็กคนนี้ นางเลี้ยงเอง“แม่…”เสียง

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 1150

    ท้ายที่สุดเฟิงเจิ้งหลีก็ไม่ได้ลงมือกองทัพทั้งสองฝ่ายประจันหน้ากันในระยะไกลทั้งเช่นนี้เฟิงเย่เสวียนกอดฉู่เชียนหลีไว้ จับเชือกบังเหียนม้าแน่น ขี่ม้าจากไปเฟิงเจิ้งหลียืนอยู่ที่ข้างแม่น้ำ ร่างกายที่บอบบางถูกลมเย็นพัดจนเสื้อคลุมพลิ้วไหว สีหน้าซีดเผือด แววตาอ่อนล้า มุมปากยังมีคราบเลือด ยืนมองนิ่งๆ ทั้งเช่นนี้…มอง…รอหลังจากขบวนของอ๋องเฉินหายลับตา เขายังคงยืนอยู่ข้างแม่น้ำ เนิ่นนานก็ไม่ขยับสองเท้าหนักเหมือนถูกถ่วงด้วยตะกั่ว สายตามองตรงไปข้างหน้ากลิ่นอายรอบตัวขรึมมาก สีหน้าแยกไม่ออกว่าดีใจหรือโกรธชั่วขณะ ไม่มีใครกล้าเอ่ยปากหรือเข้าไป…เจียงหนาน เมืองน้ำ[1]  อากาศเย็นสบาย สภาพแวดล้อมดีมากขบวนตรงไปที่ทำเนียบ“ท่านอ๋องกลับมาแล้ว!”“พระชายา?!”เมื่อคนที่เข้ามาต้อนรับเห็นฉู่เชียนหลี แต่ละคนเบิกตากว้างด้วยความตกใจก่อน แต่หลังจากนั้นก็ดีใจ“พระชายากลับมาแล้ว!”“พระชายากลับมาแล้ว!”เสียงโห่ร้องด้วยความดีใจดังก้องไปทั่วท้องฟ้า จากหนึ่งเป็นสิบ จากสิบเป็นร้อย ข่าวแพร่กระจายออกไปอย่างรวดเร็วอวิ๋นอิง จิ่งอี้ เฟิ่งหราน คนมากมายรีบมาไม่เจอครึ่งปี มิตรภาพยังคงอยู่“พระชายา ในที่สุ

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 1149

    แสงแห่งรุ่งอรุณยามเช้าริบหรี่เวลาหนึ่งคืนเดียว เร่งเดินทางจากเมืองหลวงไปยังแม่น้ำอูหลาน ในช่วงที่ฟ้าใกล้สว่าง คนทั้งกลุ่มข้ามแม่น้ำเมื่อเดินไปถึงครึ่งทาง จุดที่ไกลออกไป มีขบวนอีกกลุ่มมุ่งหน้ามาอย่างเร่งรีบราวกับกระแสน้ำ สายลมเย็นยามเช้าพัดผ่าน เหมือนกับทัพใหญ่เข้าใกล้ชายแดน บรรยากาศที่กดดันอบอวลกลางอากาศหานเฟิง “นายท่าน อ๋องหลีมาแล้ว…”ขบวนสองกลุ่ม พบกันที่แม่น้ำอูหลานเฟิงเย่เสวียนอยู่บนสะพานเฟิงเจิ้งหลีอยู่บนฝั่งหยาดน้ำฟ้าตก สายน้ำไหลเชี่ยว สาดซัดเข้าฝั่ง หยดน้ำกระเซ็น ในอากาศเต็มไปด้วยความหนาวเย็น สองพี่น้องยืนสบตากันจากระยะที่ห่างกันหลายเมตรอยู่ไกลเกินไป แทบมองไม่เห็นอะไรเลยแต่ก็เหมือนกับว่าพวกเขามองเห็นอีกฝ่ายอย่างชัดเจน ใช้สายตาประลองกันเงียบๆ“ฝ่าบาท” รองแม่ทัพเอ่ยปาก “นี่คือโอกาสดีในการกำจัดอ๋องเฉิน ถือโอกาสตอนที่พวกเขายังอยู่บนสะพาน พวกเราระเบิดสะพาน ให้พวกเขาตกลงไปในน้ำที่ไหลเชี่ยว ไม่ตายก็เหลือแค่ครึ่งชีวิตแน่นอน!”เขาคิดว่า นี่เป็นวิธีที่เหมาะสมมากอ๋องเฉินข้ามสะพานไปครึ่งหนึ่งแล้ว ต่อให้วิ่งไปอีกฝั่งของแม่น้ำ อย่างน้อยก็ต้องใช้เวลาครึ่งก้านธูปเวลาครึ่ง

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 1148

    “เป็นไปได้อย่างไร?”นางกล่าวด้วยความประหลาดใจ “เมื่อห้าวันก่อน ข้าคุยกับเขาแล้ว และจัดการทุกอย่างไว้ให้เขาแล้ว เขาสามารถออกจากวังอย่างราบรื่น นอกเสียจาก…”จู่ๆ นางก็เข้าใจอะไรบางอย่าง เสียงค่อยๆ เบาลงเฟิงเย่เสวียนกล่าวต่อ“เขาไม่อยากไป”ใช่!ไท่ซ่างหวงไม่อยากไปมีความเป็นไปได้เพียงหนึ่งเดียวไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด ยังอาลัยอาวรณ์ หรือเพราะสาเหตุอื่น เขาจึงเลือกที่จะอยู่เมืองหลวงแต่ถ้าหากเขาอยู่เมืองหลวง เฟิงเจิ้งหลีต้องหาเรื่องเขาแน่นอนฉู่เชียนหลีเป็นห่วง หลังจากครุ่นคิด ก็เดินออกไปข้างนอกแล้ว“ไม่ได้ ข้าต้องกลับวังหลวง ทิ้งเขาไว้ในเมืองหลวงเพียงลำพังไม่ได้”“ไม่ทันแล้ว”เฟิงเย่เสวียนจับข้อมือของนาง กล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “การเคลื่อนไหวเมื่อครู่ทำให้ทุกคนรู้ตัวแล้ว เกรงว่าตอนนี้คนสนิทของเฟิงเย่เสวียนกำลังมา เขาก็อยู่ระหว่างทางกลับเช่นกัน เสียเวลาไม่ได้แล้ว”กำลังหลักของเขาอยู่ที่เจียงหนานไม่เหมาะที่จะอยู่เมืองหลวงนาน ครึ่งปีมานี้ วิธีการของเฟิงเจิ้งหลีเหี้ยมโหด กำจัดพวกต่อต้าน รวบอำนาจเข้าด้วยกัน เมืองหลวงเป็นถิ่นของเขา อยู่ในถิ่นของเขา พวกเขาเป็นฝ่ายที่เสียเปรียบ

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status