แชร์

บทที่ 53

ผู้เขียน: อันชิงซิน
ที่พ่อบ้านกล่าวคำนี้ออกมา เต็มไปด้วยเจตนาร้ายอย่างแท้จริง

หญิงสาวผู้หนึ่งออกจากบ้านไปรอบหนึ่ง เมื่อกลับมาก็ถูกประเมินด้วยคำว่า ‘ฝีเท้าซวนเซไร้เรี่ยวแรง?’

แต่ลู่หมิงผู้เป็นบิดา เมื่อได้ยินคำนี้ไม่เพียงไม่ตำหนิพ่อบ้าน แต่เพลิงโทสะที่มีต่อลู่เจาหลิง กลับลุกโชนจนไหม้ไปถึงยอดกระหม่อมแทน

“ให้นังลูกสารเลวนั่นไสหัวมาให้ข้าที่นี่เดี๋ยวนี้!”

ข้ารับใช้หนุ่มที่อยู่ด้านข้าง รีบกล่าวอย่างหัวไวทันทีว่า “ข้าน้อยจะไปเองขอรับ”

นี่ก็คือบุตรชายของพ่อบ้านนามหูต้าลี่

ตอนที่หูต้าลี่วิ่งออกไป ก็เห็นลู่เจาหลิงกำลังจะมุ่งหน้าไปทางหอทิงหน่วนพอดี สาวใช้ทั้งสองคนของนาง คนหนึ่งประคองนาง ส่วนอีกคนกำลังอุ้มกล่องไม้อยู่

จากลักษณะเฉพาะของกล่องไม้นั้น แค่ดูก็รู้ว่าจะต้องใส่แท่งเงินไว้อย่างแน่นอน

หูต้าลี่เบิกตากว้าง ไม่หรอกกระมัง? ที่คุณหนูรองออกไปข้างนอกในครานี้ หรือยังหาเงินแท่งกลับมาได้อีกเป็นกล่องด้วย?

“คุณหนูรอง นายท่านให้ท่านไปที่โถงหน้าขอรับ!” หูต้าลี่วิ่งเข้าไปที่เบื้องหน้าของพวกนางทันที จากนั้นก็ขวางทางของพวกนางไว้

ส่วนสายตาของเขาก็กลอกไปมาขณะมองไปยังกล่องไม้ที่ชิงเป่าอุ้มไว้ไม่หยุด

จะต้องใส่แท่งเงินไ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ท่านอ๋องผู้ทรงบุญญากับพระชายาจอมเวท   บทที่ 54

    จากนั้น นางก็เลี่ยงเศษกระเบื้องเข้าไป“นายท่าน นี่เกิดสิ่งใดขึ้นหรือเจ้าคะ? เหตุใดจึงได้ทะเลาะกันขึ้นมาเล่า?”“นังลูกสารเลว! เมื่อครู่เจ้าว่าอย่างไรนะ?” ลู่หมิงทั้งตกใจทั้งโมโห ชี้นิ้วไปที่ลู่เจาหลิง ไม่กล้าเชื่อหูตนเองแม้แต่น้อย“หากมิใช่เพราะใต้เท้าลู่กินอุจจาระเข้าไป แล้วเหตุใดยามเอ่ยวาจาจึงได้เหม็นคละคุ้งเช่นนี้เล่า?” ลู่เจาหลิงมองเขาอย่างเย็นชา“เจ้า เจ้า! ข้าเป็นพ่อของเจ้า! กลับมาสองสามวันแล้ว เจ้ายังไม่เคยเรียกข้าว่าบิดาเลยสักครั้ง!”“เพราะข้าเกรงว่าท่านจะอายุสั้นน่ะสิ” ลู่เจาหลิงส่งเสียงหึทีหนึ่งคิดอยากจะเป็นบิดาของนาง? เขาก็คู่ควรหรือ?ลู่หมิงถูกไม่กี่ประโยคทำให้โมโหหัวเหวี่ยงขึ้นมา“เจ้าไปที่ใดมา?”เขาสูดลมหายใจเข้าลึก พยายามสะกดเพลิงโทสะลง คิดจะทำให้ตนเองใจเย็นลงเสียหน่อย“เรื่องนี้ไม่จำเป็นต้องให้ท่านมาสนใจ พวกท่านสนใจตัวเองก็พอแล้ว” สายตาของลู่เจาหลิงย้ายไปยังยายจินที่ยืนอยู่ด้านข้างยายแก่คนนี้ ไม่ใช่คนที่ไปรับคนจากชนบทหรือ?เมื่อเผชิญกับสีหน้าตื่นตะลึงของนางอีกครั้ง เพียงครู่เดียวลู่เจาหลิงก็เข้าใจขึ้นมา น่าจะเป็นเพราะลู่ฮูหยินสังเกตเห็นว่ามีบางสิ่งไม่ถูกต้อ

  • ท่านอ๋องผู้ทรงบุญญากับพระชายาจอมเวท   บทที่ 55

    ลู่เจาหลิงรู้สึกว่าพวกเขาช่างน่าขำจริงๆแท้ที่จริงแล้วนางยังไม่รู้ว่า เดิมทิ้งนางไว้ในชนบทนานนับสิบปี และปล่อยให้นางทนรับการทรมานต่างๆ ไปก็พอแล้ว เหตุใดยังต้องรับนางกลับมาอีก?และเมื่อรับนางกลับมาแล้ว ยังมาปฏิบัติต่อนางด้วยท่าทีเช่นนี้อีก ช่างไม่กลัวว่าจะก่อศัตรูขึ้นมาเลยจริงๆลู่เจาหลิงจะรู้ได้อย่างไรว่า พวกลู่หมิงคิดว่าไม่ว่าพวกเขาจะมีท่าทีอย่างไร ลู่เจาหลิงก็เป็นเพียงเด็กสาวตัวน้อยที่อะไรก็ไม่รู้ อะไรก็ทำไม่เป็นคนหนึ่ง ที่ไม่อาจหนีรอดไปจากฝ่ามือของพวกเขาได้เลยก็แค่มดปลวกตัวเล็กๆ ตัวหนึ่งเท่านั้น มีค่าพอให้พวกเขาต้องเสแสร้งเพื่อเอาใจนางที่ใดกัน?เดิมที่ลู่หมิงคิดคือ เมื่อนังเด็กน่าตายนี่เข้ามาในเมืองหลวงแล้ว ก็จะต้องทำตามที่เขาสั่งทุกประการ ประเภทสั่งให้ไปทางตะวันออกก็ไม่กล้าไปทางตะวันตกแบบนั้น ถ้ากล้าต่อต้านขึ้นมาจริงๆ ก็จับนางขังไว้ในห้องเก็บฟืนให้อดสักสองมื้อ ทุกปัญหาก็จะหมดไปแล้วผู้ใดจะรู้ว่าเรื่องราวจะเกิดการพลิกผันเช่นนี้?เริ่มจากตอนแรกที่จิ้นอ๋องเป็นผู้ส่งนางกลับมา จากนั้นก็มีท่านหมอฝู่มาเยือนถึงจวนเพื่อตรวจรักษาให้ด้วยตัวเองอีก แล้วยังยื่นมือเข้ามาแทรกแซงเรื่องที่พั

  • ท่านอ๋องผู้ทรงบุญญากับพระชายาจอมเวท   บทที่ 56

    พวกนางไม่ได้แตะต้องอะไรเลยนี่นาลู่หมิงและคนอื่น ๆ ก็ตกใจเช่นเดียวกัน“ต้าลี่ นี่เจ้ากำลังทำอันใดกัน?”“นายท่าน มือของข้าเจ็บเหลือเกิน อ๊าก ข้าเจ็บจะตายอยู่แล้วขอรับ!” หูต้าลี่ร้องครวญครางไม่หยุด จนเหงื่อเย็น ๆ ไหลออกมาตอนนี้ราวกับว่ามีเข็มนับพันเล่มแทงมาที่แขนของเขา และเข็มแต่ละเล่มก็เจาะไปถึงกระดูกแขนของเขากำลังห้อยลงมา ส่วนแขนอีกข้างเดิมทีก็ไม่กล้าสัมผัสใด ๆ อยู่แล้วพ่อบ้านกำลังมองดูบุตรชายที่อยู่ในสภาพเช่นนี้อย่างตกตะลึง หลังจากดึงสติกลับมาได้ เขาก็รีบพุ่งออกไป แล้วจับที่แขนของหูต้าลี่ คิดจะดึงแขนเสื้อของเขาขึ้นเพื่อดูว่าเกิดอันใดขึ้นกันแน่ผลก็คือ พอเขาจับไปที่มือของหูต้าลี่ หูต้าลี่ก็ร้องครวญครางไม่หยุด และร้องอย่างน่าเวทนามากขึ้นเรื่อย ๆ “ท่านพ่อ ท่านพ่อ! ท่านอย่าจับนะ ข้าเจ็บจะตายอยู่แล้ว…”พ่อบ้านชักมือกลับอย่างรวดเร็ว อยากจะจับแต่ก็ไม่กล้าจับ ร้อนรนอย่างหนัก“นี่มันเกิดอันใดขึ้น? เจ็บปวดแบบใดกัน?”“เจ็บจะตายอยู่แล้ว มือข้าจะใช้การไม่ได้แล้ว!” หูต้าลี่เจ็บเสียจนทรุดตัวลงกับพื้น น้ำมูกน้ำตาไหลออกมา“นายท่าน ฮูหยิน นี่ นี่จะทำอย่างไรดีขอรับ? นายท่านกับฮูหยินได้โป

  • ท่านอ๋องผู้ทรงบุญญากับพระชายาจอมเวท   บทที่ 57

    พ่อบ้านใบหน้าซีดขาว พลางพาบุตรชายออกไปหาหมอลู่หมิงรู้สึกปวดศีรษะขึ้นมาอย่างกะทันหัน เมื่อหันกลับไปเห็นลู่ฮูหยินกับยายจินมีสีหน้าท่าท่างราวกับเห็นผี จึงอดที่จะอารมณ์เสียไม่ได้“ยายจิน หากบาดเจ็บก็ไปอยู่ที่บ้านเสีย!”เห็นนางเป็นแบบนั้น ลู่หมิงรู้สึกว่าอัปมงคลนัก“ท่านพี่” ลู่ฮูหยินจับมือของเขาไว้ในทันที “ยายจินบอกว่า ลู่เจาหลิงเมื่อครู่นั่นไม่เหมือนกับคนที่นางรับมาจากชนบทเลยเจ้าค่ะ!”ลู่หมิงตะลึงงัน “ไม่เหมือนที่ใดกัน?”“นิสัยไม่เหมือนกันเลยสักนิด ยายจิน เจ้าพูดสิ!” ลู่ฮูหยินรีบให้ยายจินพูดให้ชัดเจนโดยไวยายจินจึงเล่าเรื่องที่ลู่เจาหลิงเป็นเช่นไรระหว่างที่ไปรับนางกลับมาก่อนหน้านี้จนหมด นางยืนกรานว่าลู่เจาหลิงที่นางไปรับกลับมา ไม่กล้าขึ้นเสียงกับลู่หมิงอย่างแน่นอนเมื่อลู่หมิงฟังจบ ก็พลันขมวดคิ้ว“ข้าจำได้ว่าตอนที่นางเกิด มีปานเล็ก ๆ สีแดงอ่อนรูปพระจันทร์เสี้ยวอยู่ที่ข้อเท้าข้างขวา”ลู่ฮูหยินลุกขึ้นยืนในฉับพลัน “ข้าจะให้คนไปตรวจดูเจ้าค่ะ”ไปดูข้อเท้าสักหน่อย น่าจะไม่ใช่เรื่องยาก!“อย่าทำให้กลายเป็นเรื่องใหญ่จนเกินไป ในช่วงที่งานไว้ทุกข์ของไท่ซ่างหวงยังไม่เรียบร้อยดี หากก่อเรื

  • ท่านอ๋องผู้ทรงบุญญากับพระชายาจอมเวท   บทที่ 58

    บอกว่าจะไปหยิบของบางอย่าง รอชิงอินออกมาจากจวนจิ้นอ๋อง ก็นั่งรถม้าของจวนจิ้นอ๋องกลับไปอีกครั้งจวนอ๋องยังส่งสาวใช้สองสามคนมาช่วยนำสิ่งของเข้าไปส่งที่หอทิงหน่วนด้วยคนของสกุลลู่ไม่กล้าขวางไว้ลู่เจาหลิงกลับนอนหลับอยู่ตลอด ยังไม่ตื่นขึ้นมาเมื่อลู่เจาอวิ๋นกับพี่น้องคนอื่น ๆ ได้ยินเรื่องนี้ ต่างก็อดรนทนไม่ไหวต้องมาดูก็มองเห็นสาวใช้แต่กายงดงามเดินเรียงรายกันเข้าไป ในมือต่างก็กำลังถือสิ่งของบางอย่างผ้าแพรต่วนมันวาวสีสันสดใสสามพับ กล่องใส่เครื่องประทินโฉมงามวิจิตร เครื่องประดับศีรษะประดับประดาด้วยอัญมณีสองชุด เสื้อคลุมสีขาวบริสุทธิ์อันอ่อนนุ่มหนึ่งตัว เตาแกะสลักอย่างงดงามสองเตา เชิงเทียนหนึ่งคู่ และคันฉ่องสำริดหนึ่งอันถึงแม้สิ่งของเหล่านี้จะเป็นสิ่งของที่สามารถใช้ได้ในชีวิตประจำวัน ไม่ใช่สมบัติล้ำค่าอันใด ทว่าการแกะสลัก วัสดุ และรูปแบบนั้น เพียงแค่มองดูก็รู้แล้วว่าไม่ธรรมดาถึงอย่างไรสกุลลู่ก็ไม่มีทางใช้ของที่วิจิตรงดงามและมีราคาเช่นนี้ได้อยู่แล้วยังมีแพรต่วนพวกนั้นอีก แค่มองดูก็รู้แล้วว่าไม่ใช่ของที่จะหาซื้อได้ตามร้านขายผ้าด้านนอกได้ตามใจสิ่งของเหล่านั้นกำลังผ่านหน้าบรรดาพี่น้

  • ท่านอ๋องผู้ทรงบุญญากับพระชายาจอมเวท   บทที่ 59

    ถ้าหากเรื่องสัญญาหมั้นหมายขององค์ชายรองกับลู่เจาอวิ๋นคือเรื่องจริง มิใช่ว่าในภายภาคหน้าลู่เจาอวิ๋นจะมีองค์ชายรองคอยสนับสนุนหรอกหรือ? เช่นนั้นจะยิ่งอยากรังแกคุณหนูของพวกนางมากขึ้นหรือไม่?ชิงเป่ากลัดกลุ่มอยู่เล็กน้อยแต่ก็ไม่รู้ว่าท่านอ๋องจะปกป้องคุณหนูหรือไม่“สิ่งของพวกนี้สำหรับพี่หญิงรองงั้นหรือ?” ลู่เจาเยว่เดินเข้ามา พลางมองไปที่ชิงอินและชิงเป่า“สำหรับคุณหนูของพวกเราเจ้าค่ะ” ชิงอินกล่าว“จิ้นอ๋องมอบให้กระนั้นหรือ?”“ชิ่งหมัวมัวแห่งจวนท่านอ๋องเป็นคนมอบให้เจ้าค่ะ”ชิงอินทำได้เพียงพูดตามความจริงเท่านั้น ที่สำคัญคือพวกนางไม่สามารถตัดสินใจแทนท่านอ๋องได้ถึงอย่างไรนี่ก็ไม่ใช่ของที่ท่านอ๋องมอบให้จริง ๆ ลู่เจาเยว่กลอกตา พลางเหลือบมองไปที่สิ่งของพวกนั้นอีกครั้ง“พี่หญิงรองเล่า? ไม่ออกมารับของขวัญหรือ?” นางพูดพลางจะเดินเข้าไปเคาะประตูชิงเป่ารีบมาห้ามนางไว้ทันที“คุณหนูของพวกเรายังพักผ่อนอยู่เจ้าค่ะ” ห้ามรบกวน“แต่ว่าชิ่งหมัวมัวส่งของขวัญมามากมายถึงเพียงนี้ นางไม่ลุกออกมารับทั้งไม่มากล่าวคำขอบคุณ หากว่าแพร่งพรายออกไป ผู้อื่นจะว่าเอาได้ว่าบิดามารดาของพวกข้าไม่สั่งสอน!”ลู่เจาเย

  • ท่านอ๋องผู้ทรงบุญญากับพระชายาจอมเวท   บทที่ 60

    ชิงอินขวางอยู่หน้าประตู แล้วยื่นมือมาขวางลู่เจาเยว่ไว้เช่นกันทว่าลู่เจาเยว่เหมือนกับสิงโตตัวน้อยที่กราดเกรี้ยวอย่างไรอย่างนั้น กำปั้นตีเท้าถีบ ทั้งยังอ้าปากมากัดอีกด้วย“ข้าจะให้ท่านแม่เอาพวกเจ้าไปขายที่หอนางโลม!”ลู่เจาอวิ๋นและลู่เจาหัวที่อยู่ด้านข้าง ร้อนรนดั่งมดที่อยู่บนกระทะร้อน ๆ ท่าทางราวกับไม่รู้ว่าจะห้ามปรามอย่างไรดี“ลู่เจาหัว เจ้ารีบตบนางเร็วเข้า!” ลู่เจาเยว่กรีดร้องประกายเย็นชาแวบผ่านในดวงตาของลู่เจาหัว ทันใดนั้นก็มีเสียงโน้มน้าวดังขึ้นมาอย่างร้อนรน “พอแล้ว หยุดตีได้แล้ว พี่หญิงสาม พวกนางคือสาวใช้ที่จวนท่านอ๋องส่งมานะเจ้าคะ เชื่อฟังแค่คำพูดของพี่หญิงรองเท่านั้น…”คำพูดนี้ราวกับน้ำมันที่ราดลงบนกองเพลิงลู่เจาเยว่ที่โกรธเป็นฟืนเป็นไฟยิ่งเพิ่มความริษยามากขึ้น นังบ้านนอกที่มาจากชนบทอย่างลู่เจาหลิง มีสิทธิ์อันใดถึงได้รับความสำคัญจากจิ้นอ๋อง?“จิ้นอ๋องไม่ต้องการพวกนางทั้งสองคน ถึงได้นำมาทิ้งไว้กับนังบ้านนอกอย่างลู่เจาหลิงอย่างไรเล่า! เจ้าตบนางเสีย! มิเช่นนั้นข้าจะไม่ปล่อยเจ้าไว้เช่นกัน!”ลู่เจาเยว่กรีดร้องโวยวายลู่เจาหัวกลืนไม่เข้าคายไม่ออก หากนางตกอยู่ในเหตุการณ์เช่น

  • ท่านอ๋องผู้ทรงบุญญากับพระชายาจอมเวท   บทที่ 61

    พระชายาขององค์ชายรองในอนาคตเมื่อลู่เจาอวิ๋นได้ยินคำพูดนี้ สีหน้าก็เคร่งขรึมลงคนสกุลลู่ต่างก็เชื่อมั่นในสัญญาหมั้นหมายนี้ ทว่าในความเป็นจริง องค์ชายรองไม่ยินยอมให้พวกเขาเปิดเผย เอาแต่บอกว่าโอกาสยังไม่อำนวยตอนนี้นางอายุสิบเจ็ดปีแล้ว ว่ากันตามหลักก็ถึงวัยที่ควรจะออกเรือนได้แล้ว ทว่าตอนนี้กลับต้องมารอโอกาสที่องค์ชายรองกล่าวถึงถึงแม้ในยามที่มีนางปัญหาแล้วไปหาองค์ชายรอง เขาจะเต็มใจช่วยเหลือก็ตาม ทว่านี่มิใช่สิ่งที่นางต้องการ สิ่งที่นางต้องการก็คือการได้เป็นพระชายาขององค์ชายรองอย่างเปิดเผยเมื่อได้ยินลู่เจาหลิงกล่าวเช่นนี้ ก็ราวกับมีมีดกำลังกรีดแทงอยู่ที่หัวใจของนาง“พี่หญิงใหญ่ ไยท่านจึงไม่พูดเล่า?”ลู่เจาเยว่เห็นนางเอาแต่เงียบ ก็อดไม่ได้ที่จะผลักนางลู่เจาหัวรีบพยุงลู่เจาอวิ๋น “พี่หญิงสาม ไยท่านถึงได้ผลักพี่หญิงใหญ่เล่า? พี่หญิงใหญ่เป็นคนอ่อนโยนและใจดี จะต่อสู้กับพี่หญิงรองจริง ๆ ได้อย่างไรกัน พี่หญิงรองลำบากอยู่ที่ชนบทนับสิบปี เพิ่งจะกลับมาได้ไม่นาน พวกเราก็ถือเสียว่ายอมให้นางไปเถิดเจ้าค่ะ”“เจ้ารีบไปให้พ้นเสีย!” ลู่เจาเยว่จ้องนางเขม็ง“ผู้ใดต้องการให้เจ้ามาไกล่เกลี่ยมั่วซั

บทล่าสุด

  • ท่านอ๋องผู้ทรงบุญญากับพระชายาจอมเวท   บทที่ 100

    ลู่เจาอวิ๋นถูกพวกนางเยาะเย้ยจนหน้าแดง เบ้าตาก็เริ่มแดงแล้วฐานะของคนเหล่านี้ล้วนสูงกว่านาง และดูถูกนางมาโดยตลอด ถ้าหากไม่ใช่เพราะนางเอาอกเอาใจท่านหญิงฉางหนิงกับเหอเหลียนซิน พวกนางล้วนไม่พอใจนางทั้งๆ ที่นางงดงามกว่าพวกนาง ความสามารถก็เหนือกว่าพวกนาง ชื่อเสียงก็ดีกว่าพวกนาง พวกนางกลับไม่ยอมดีกับนางล้วนเป็นผู้หญิงขึ้ริษยา!แต่ลู่เจาอวิ๋นก็ตีหน้าเศร้าเก่งต่อหน้าคนนอกนางสูดจมูกดังฟืด การแสดงออกบนใบหน้าทั้งน้อยใจและรู้สึกผิด โค้งคำนับพวกนางทีหนึ่ง“เจาอวิ๋นขออภัยทุกท่าน ณ ที่นี้ เพราะน้องหญิงคนนี้ของข้าเพิ่งกลับจากบ้านนอกจริงๆ ท่านพ่อท่านแม่อยากให้นางได้พบกับคุณหนูทุกท่านด้วยความรักและความตั้งใจ เพื่อที่นางจะได้เรียนรู้เรื่องมารยาทและทางโลกบ้าง ข้าจึงพานางมาด้วย”“แต่ข้าก็กลัวดูแลไม่ทั่วถึง จนปล่อยนางไปล่วงเกินทุกท่าน ดังนั้นจึงพาเจาหัวมาด้วยอีกคน ข้าคิดไม่ถึงว่านิสัยของนางจะเถื่อนเช่นนี้ กลับไปข้าจะรายงานท่านพ่อท่านแม่ ให้ท่านพ่อท่านแม่สั่งสอนให้ดีแน่นอน เจาอวิ๋นขอโทษทุกท่านอีกครั้ง”นางลดตัวเช่นนี้ และยังพูดได้ค่อนข้างจริงใจ ประกอบกับไม่ได้ล่วงเกินพวกนาง ต่อไปยังไม่รู้ว่าเหอเหลี

  • ท่านอ๋องผู้ทรงบุญญากับพระชายาจอมเวท   บทที่ 99

    เหอเหลียนซินเคยเจอสตรีที่ใจกล้าเช่นนี้และยังอวดดีกว่านางเสียเมื่อไร?ในสมองนางเต็มไปด้วยคำพูดเมื่อครู่ของนางนางถูกฮ่องเต้รับแล้วสกุลเหอสูงส่งกว่าราชวงศ์เหอเหลียนซินรู้แล้ว ถ้าหากคำพูดสองประโยคนี้ถูกเผยแพร่ออกไป นางเสียหน้าไม่ว่า พ่อนางต้องลงโทษนางคุกเข่าในศาลบรรพชนแน่!นางโมโหจนร่างกายสั่น พลันเลือดพลุ่งพล่าน ภาพตรงหน้ามืดดับ เป็นลมไปแล้ว“พี่เหอ!”เดิมทีลู่เจาอวิ๋นก็ควงแขนของนางไว้ จึงรีบพยุงนางขึ้นอย่างตื่นตระหนกเด็กรับใช้ทั้งสองของสกุลเหอเพิ่งหายตาลาย ก็มองเห็นคุณหนูของพวกนางเป็นลม จึงรีบเข้าไปพยุงเหอเหลียนซินโดยไม่มีเวลาสนใจลู่เจาหลิงแล้วกู้ฉิงเบิกตากว้าง ฝ่ามือมีเหงื่อเล็กน้อย นางมองไปทางลู่เจาหลิงมีคนตะโกนสิ่งที่นางคิดในใจออกมา…“นางยั่วคุณหนูเหอโมโหจนเป็นลมไปแล้ว!”ลู่เจาหลิงเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นนางถอนใจเบาๆ กล่าวชัดถ้อยชัดคำ “โทษข้าไม่ได้นะ คุณหนูเหอท่านนี้มีไฟในตับ ความชื้นหนัก มีอาการคลุ้มคลั่งเล็กน้อย วู่วามได้ง่าย อีกทั้งวันนี้หน้าผากนางหมองคล้ำ เห็นได้ชัดว่าตอนออกจากบ้านไปติดไออัปมงคลมา เดิมทีวันนี้ก็จะดวงซวยอยู่แล้ว”ปากที่เพิ่งหุบลงของทุกคน อ้ากว้า

  • ท่านอ๋องผู้ทรงบุญญากับพระชายาจอมเวท   บทที่ 98

    เดิมทีพ่อก็เป็นรองเสนาบดีกรมกลาโหม ได้รับความไว้วางใจจากฮ่องเต้ ประกอบกับมีการแต่งงานนี้ เป็นการรวมกันของผู้มีอิทธิพลชัดๆในมุมมองของเหอเหลียนซิน แม้แต่ท่านหญิงฉางหนิงก็ต้องให้เกียรตินางสามส่วน นับประสาอะไรกับกู้ฉิงที่อยู่ตรงหน้า?“คุณหนูเหอ เกิดอะไรขึ้น?” มีคนก้าวออกมาอยากเป็นคนกลาง “เมื่อครู่ท่านหญิงกลับไปเปลี่ยนชุดที่ห้องแล้ว ถ้าหากนางออกมาพบว่าวุ่นวายเช่นนี้…”เมื่อได้ยินอีกฝ่ายยกเอาท่านหญิงฉางหนิงมาพูด ในที่สุดเหอเหลียนซินก็ไม่ได้หาเรื่องกู้ฉิงอีกนางถลึงตาใส่ลู่เจาหัวแวบหนึ่ง ปล่อยนางไปก่อนชั่วคราว อย่างไรเสียคนที่นางรังเกียจที่สุดในตอนนี้คือลู่เจาหลิง!นางเรียกเด็กรับใช้ทั้งสองของตัวเอง “พวกเจ้าไป ให้นางมาคุกเข่าขอโทษข้า!”“เจ้าค่ะ!”เด็กรับใช้ทั้งสองของนางพุ่งพรวดเข้าไปหาลู่เจาหลิงทันทีลู่เจาหัวอุทานอย่างขี้ขลาดทีหนึ่ง และกล่าวเบาๆ ด้วยความเป็นห่วง “พี่หญิงรอง ท่านรีบหนีไป”ลู่เจาอวิ๋นรีบคว้ามือของเหอเหลียนซิน แสร้งห้ามปราม “พี่เหอ ท่านอย่าไปถือสานางเลย…” แต่ก็ไม่เห็นนางไปห้ามเด็กรับใช้สองคนนั้นแม้คนอื่นก็ไม่ชอบพฤติกรรมที่อวดดีของเหอเหลียนซิน แต่พวกนางไม่รู้จักลู่

  • ท่านอ๋องผู้ทรงบุญญากับพระชายาจอมเวท   บทที่ 97

    พวกลู่เจาหลิงไม่ถือว่ามาเร็วตอนนี้ในสวนมีคนไม่น้อยแล้วช่วงนี้เป็นปลายฤดูใบไม้ผลิ ไม่ร้อน เย็นสบาย สวนของจวนท่านหญิงปลูกดอกไม้มากมาย บานสะพรั่งสีสันงดงามแต่ตอนนี้ บนพุ่มดอกไม้ถูกประดับด้วยดอกผ้าไหมที่ผูกจากผ้าขาว  และต้นไม้ที่อยู่ข้างๆ มีผ้าโปร่งสีขาวห้อยอยู่ ลอยไปตามสายลมเบาๆสีขาวเหล่านี้ บดบังความงามของดอกไม้ที่บานสะพรั่งเหล่านี้ นี่น่าจะเป็นเจตนาของท่านหญิงฉางหนิง อย่างไรเสีย ตอนนี้ยังอยู่ในช่วงไว้ทุกข์ตรงพื้นที่โล่งกลางสวน มีโต๊ะยาวหลายตัวแบ่งตั้งเป็นสองฝั่ง บนโต๊ะมีพู่กัน น้ำหมึก และกระดาษวางอยู่ถัดจากต้นกล้วยหลายพุ่ม มีศาลาหนึ่งหลัง บนโต๊ะในศาลามีน้ำชาและผลไม้วางอยู่พื้นที่นี้มีเงาจากภูเขาจำลองและต้นไม้ที่อยู่ข้างหน้าสะท้อนลงมาพอดี แต่ยังพอมีช่องว่างให้แสงแดดเล็ดลอดเข้ามาอยู่บ้าง แสงสว่างเพียงพอ และไม่เย็นเกินไปข้างภูเขาจำลองมีถนนเล็กๆ หนึ่งเส้น เดินไปมีบ่อน้ำเล็กๆ ตอนนี้บนผิวของบ่อน้ำมีใบบัวที่เพิ่งงอกออกมาอยู่บ้าง แต่ยังไม่มีกิ่งก้านของดอกยื่นโผล่พ้นผิวน้ำเหล่าคุณหนูที่มาถึงก่อน จับกลุ่มกันตรงนี้สามตรงนั้นสอง มีคนกำลังชมดอกไม้ มีคนกำลังดื่มชา มีคนกำลังอ่านหนังส

  • ท่านอ๋องผู้ทรงบุญญากับพระชายาจอมเวท   บทที่ 96

    ลู่เจาหลิงไม่ทน หันไปพูดกับลู่เจาอวิ๋นอย่างเย็นชา “ลู่เจาอวิ๋น ถ้าไม่เข้าไปข้าจะไปแล้วนะ”“มาแล้ว” เดิมทีลู่เจาอวิ๋นก็ค่อยสังเกตการเคลื่อนไหวที่ประตูอยู่แล้ว เมื่อเห็นพวกนางสองคนถูกเด็กรับใช้ขวางไว้ นางยิ้มในใจ แต่เมื่อได้ยินว่าลู่เจาหลิงจะไปนางก็รีบมาทันที จะปล่อยให้ลู่เจาหลิงไปได้อย่างไร?“พี่เหอ นี่คือเจาหลิงน้องรองของข้า”นางควงแขนของเหอเหลียนซินไว้ พลางหันไปกล่าวกับลู่เจาหลิง “น้องรอง รีบเรียกพี่เหอเร็ว”เหอเหลียนซินมองไปทางลู่เจาหลิง สายตาเย็นชาเล็กน้อย“ข้าไม่กล้าให้ว่าที่พระชายาจิ้นอ๋องเรียกพี่หรอก”จิ้นอ๋องกลับเมืองหลวง ได้รับพระราชทานสมรส อีกฝ่ายเป็นเด็กบ้านนอกที่ถูกรับกลับมาจากชนบทข่าวนี้ได้แพร่กระจายไปทั่วเมืองหลวงแล้วทุกคนต่างตกใจมาก ไม่มีใครอยากเชื่อ ขณะเดียวกันก็อยากรู้มาก คุณหนูรองกู้เป็นคนอย่างไร โชคอะไรหล่นทับกันแน่ จึงได้รับความสนใจจากจิ้นอ๋องเหอเหลียนซินก็อยากรู้มากเช่นกันและตอนนี้นางได้เจอลู่เจาหลิงแล้ว หน้าตาเหมือนนางจิ้งจอกอย่างที่คิด เอาเป็นว่านางเห็นแล้วก็รังเกียจเลยลู่เจาเหลียงย่อมมองเจตนาร้ายที่เหอเหลียนซินมีต่อตัวเองออกนางก็ตอบกลับไปอย่างเร

  • ท่านอ๋องผู้ทรงบุญญากับพระชายาจอมเวท   บทที่ 95

    ชิวจวี๋ประคองลู่เจาอวิ๋นลงรถม้า ไม่ได้สนใจลู่เจาหัวกับลู่เจาหลิงอีกเลยหลังจากลู่เจาหัวลงรถม้า นางคิดแล้วคิดอีก ยื่นมือไปหาลู่เจาหลิง “พี่หญิงรอง ข้าประคองท่าน”“ไม่ต้อง”ลู่เจาหลิงกลับเลี่ยงผ่านมือของนาง ลงจากรถม้าเองลู่เจาหัวทำท่าเสียใจเล็กน้อย หลุบตาปกปิดสายตา“เจาอวิ๋น”มีเสียงตะโกนดังขึ้นจากข้างหน้า แค่ฟังจากเสียงก็เต็มไปด้วยความมั่นใจลู่เจาอวิ๋นประหลาดใจมาก รีบเดินเข้าไปหา“พี่เหอ!”ลู่เจาหัวเห็นผู้มา สีหน้ากลับเปลี่ยนไป ร่างกายสั่นเล็กน้อย นางลืมไปได้อย่างไร ในโอกาสเช่นนี้ เหอเหลียนซินก็มาเช่นกันลู่เจาหลิงเหลือบมองนางแวบหนึ่ง แต่ไม่ได้พูดอะไรนางมองไปทางผู้มาเห็นรถม้าของอีกฝ่ายก่อน รถม้าคันนั้นดูหรูหรากว่าของสกุลลู่มาก สตรีที่กำลังทักทายลู่เจาอวิ๋นอย่างอย่างสนิทสนม อายุประมาณสิบเจ็ดสิบแปด ใบหน้าทรงไข่ห่าน คางแหลม หน้าตาค่อนข้างงามเพราะอยู่ระหว่างการไว้ทุกข์ การแต่งกายของนางก็เรียบๆ เช่นกัน สีขาวทั้งชุด มีเพียงปิ่นหยกกับดอกไม้ผ้าเล็กๆ ที่ประณีตไม่กี่ชิ้น สง่างามดั่งดอกบัวที่บริสุทธิ์นางพาเด็กรับใช้มาด้วยสองคน เสื้อของเด็กรับใช้เป็นสีขาวมีกิ่งดอกไม้สีน้ำตาลเล

  • ท่านอ๋องผู้ทรงบุญญากับพระชายาจอมเวท   บทที่ 94

    นางข่มความโกรธ “น้องหญิงรองหยุดได้แล้ว นี่เป็นถุงหอมที่ผู้อื่นมอบให้ข้า มันมีค่ามาก เครื่องหอมที่อยู่ข้างในก็หาซื้อตามข้างนอกไม่ได้”เครื่องหอมที่อยู่ข้างใน ท่านหญิงฉางหนิงเป็นคนให้นาง เป็นของขวัญที่ทูตต่างแดนนำมาถวายให้ท่านหญิงและองค์หญิงต่างๆ ในวังลู่เจาอวิ๋นได้เครื่องหอมมาแค่นี้ นางก็ภาคภูมิใจมาก ปกติแทบไม่เอาออกมาใช้ ในโอกาสอย่างวันนี้จึงจะยอมนำออกมาใช้ ลู่เจาหลิงกลับให้นางทิ้ง?“กลิ่นเหม็นมาก”ลู่เจาอวิ๋นอดกลั้นความโกรธ และยังคงฝืนยิ้ม คิดใจปลอบนาง “คนทั่วไปอาจจะไม่ชินกับกลิ่นเช่นนี้จริงๆ แต่นี่เป็นเครื่องบรรณาการจากทูตต่างแดน เป็นเครื่องหอมที่มีราคาแพงและหรูหรามาก น้องหญิงรอง ในเมื่อเจ้ามาถึงเมืองหลวงแล้ว เจ้าต้องพยายามปรับรสนิยมให้สูงขึ้น จะชอบแต่พวกเครื่องหอมคุณภาพต่ำไม่ได้ ไม่เช่นนั้นจะถูกหัวเราะเยาะ”“ไร้สาระ”พลันลู่เจาหลิงยื่นมือออกไป กระชากถุงหอมบนกายนางลงมาฉับพลัน เลิกม่านรถก็โยนมันไปที่ข้างคนขับ“ไว้ตรงนั้นก่อน อีกเดี๋ยวเจ้าจะห้อยค่อยห้อย”นางทนไม่ไหวแน่ ถ้าต้องทนดมอยู่ในรถม้าที่แคบเล็กเช่นนี้ตลอดอีกทั้งเกรงว่าส่วนผสมของเครื่องหอมเหล่านี้ค่อนข้างแปลก มีผงกระดู

  • ท่านอ๋องผู้ทรงบุญญากับพระชายาจอมเวท   บทที่ 93

    ชิงเป่าร้อนใจแล้ว“พวกเราต้องตามคุณหนูไป คุณหนูของพวกเรายังบาดเจ็บอยู่!”ก่อนหน้านี้พวกนางเคยได้ยินท่านหมอฝู่กล่าว คุณหนูได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะ ที่จริงนับว่าอันตรายถึงชีวิต แต่ไม่รู้เพราะเหตุใดนางยังสามารถรอดมาได้ชิงเป่าชิงอินก็เป็นคนฝึกยุทธ์เช่นกัน และเคยเห็นบาดแผลของลู่เจาอิง ย่อมรู้ว่าบาดแผลนั่นสาหัสเพียงใด“ข้าอยากพาเจ้าไปด้วยจริงๆ แต่รถม้าไม่พอนั่งแล้ว” ลู่เจาอวิ๋นก็หมดหนทาง นางกล่าวเหมือนเยาะเย้ยตัวเอง “ไม่ใช่ข้าหาเรื่องพวกเจ้า แต่รถม้าจวนเรามันไม่ใหญ่”ชิงเป่ากล่าวทันที “พวกเราเดินไปก็ได้”พวกนางสามารถใช้วิชาตัวเบา“พวกเจ้ามาจากจวนจิ้นอ๋อง น่าจะรู้จักท่านหญิงฉางหนิง ดังนั้นก็น่าจะรู้ว่าจวนท่านหญิงอยู่ที่ไหน ห่างจากที่นี่ไกลมาก ถ้าหากพวกเจ้าเดิน อย่างน้อยก็ต้องเดินครึ่งชั่วยาม”ลู่เจาอวิ๋นกล่าว “ถึงเวลาพวกเจ้ากับน้องหญิงรองไม่ได้เข้าจวนพร้อมกัน ผู้อื่นก็จะหัวเราะเยาะเช่นกัน”เช่นนั้นไม่เท่ากับทำให้ผู้อื่นรู้ว่า รถม้าของสกุลลู่เล็กมาก แม้แต่สาวใช้ก็ไม่พอเบียดหรือ?ชิงอินใจเย็นกว่า คิดวิธีที่เหมาะสมกว่าออก “พวกเราไปเช่ารถม้าไป”“รอพวกเจ้าหารถม้าได้มันก็ไม่ทันแล้ว แต่ว่าถ

  • ท่านอ๋องผู้ทรงบุญญากับพระชายาจอมเวท   บทที่ 92

    เที่ยวนี้เขาได้เห็นความสามารถของลู่เจาหลิงอีกครั้งชิงอินกอดกล่องในอ้อมแขนไว้ ยังรู้สึกเหมือนนี่ไม่ใช่เรื่องจริงเล็กน้อย ออกจากจวนเที่ยวเดียว คุณหนูก็หาเงินได้อีกห้าพันตำลึงแล้ว ห้าพันตำลึงเลยนะ!สกุลลู่นำเงินออกมาสามร้อยตำลึง ก็ปวดใจเหมือนถูกเฉือนเนื้อ พวกเขาจะคาดคิดได้อย่างไร คุณหนูอาศัยความสามารถของตัวเอง ก็สามารถหาเงินได้ห้าพันตำลึงแล้วนอกจากนี้ยังมีจี้หยกหนึ่งชิ้นกับโสมหนึ่งต้นด้วย แค่ของเหล่านี้ก็มีค่าหลายร้อยตำลึงตกลงสุกุลลู่รู้หรือไม่ว่าคุณหนูเป็นสมบัติลับอย่างไรครั้งนี้ชิงเป่าไม่ได้ตามออกมาด้วย แต่เฝ้าอยู่ที่หอทิงหน่วน นางดูจากเวลา ได้ไปนำอาหารเย็นกลับมาแล้ว ลู่เจาหลิงกลับมาก็ได้กินข้าวเลย“ชิงเป่าคำนวณเวลาได้พอดีเป๊ะ” นางชมไปประโยคหนึ่ง หลังจากนั้นกล่าว “ให้พวกเจ้าคนละห้าตำลึง กลับไปซื้อของที่ตัวเองชอบกิน”ให้เงินพวกนางอีกแล้ว!ชิงเป่าเบิกตากว้าง มองไปทางชิงอินด้วยสายตาตั้งคำถามชิงอินเงียบ แต่เปิดกล่องเหล่านั้นให้นางดู“คุณหนูเก่งจัง…” แม้แต่เสียงตกใจของชิงเป่าก็ลอยเล็กน้อยลู่เจาหลิงยิ้มแล้วยิ้มอีก “พอแล้ว กินข้าวเถอะ”หลังกินข้าว อาบน้ำเสร็จ นางก็กลับมาท

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status