แชร์

บทที่ 99

ผู้เขียน: หลันซานอวี่
หลังจากเซียวจิ่งอี้ฟังต้นสายปลายเหตุของเรื่องราวทั้งหมด ตกใจจนเกือบเหงื่อแตก

โชคดีที่เขาให้เหยากวงอยู่ปกป้องสองแม่ลูกอวิ๋นฝูหลิง ไม่เช่นนั้นไม่กล้าคิดถึงผลที่ตามมา

อวิ๋นฝูหลิงจิบชาตั้งสติครู่หนึ่ง จึงจะกล่าวถาม “ต่อจากนี้ทำอย่างไรดี? พวกเราจะออกจากที่นี่โดยเร็วหรือไม่?”

เซียวจิ่งอี้ส่ายศีรษะ “เจ้าบอกว่าชาวบ้านที่บาดเจ็บต้องพักฟื้นไม่ใช่หรือ? เช่นนั้นก็ถือโอกาสนี้ อยู่ที่หมู่บ้านนี้อีกสักสองสามวัน ส่วนเรื่องอื่นปล่อยให้ข้าจัดการก็พอ”

เมื่ออวิ๋นฝูหลิงได้ยินคำพูดนี้ ก็รู้แล้วว่าเซียวจิ่งอี้พบอะไรบางอย่างที่เหมืองแร่ เกรงว่าต้องใช้เวลาในการจัดการเรื่องนี้พอสมควร

นางไม่ได้ถามอะไรมาก พยักหน้าคล้อยตามทันที

“ข้าเข้าใจแล้ว ข้าจะปลอบคนในหมู่บ้านเอง”

“เรื่องในวันนี้ ข้าแค่บอกว่าคนพวกนั้นเป็นโจร จะปล้นทรัพย์ฆ่าคน”

“ส่วนเรื่องอื่น ไม่จำเป็นต้องบอกพวกเขา ให้พวกเขามีส่วนต้องมาวิตกกังวลไปด้วย”

คนเหล่านี้ของหมู่บ้านหลินซาน เป็นเพียงชาวบ้านตัวเล็กๆ ที่หาเช้ากินค่ำ เรื่องใหญ่อย่างการกบฏชิงบัลลังก์ พวกเขาไม่รู้มันจะดีกว่า

เซียวจิ่งอี้เข้าใจความกังวลของอวิ๋นฝูหลิง จึงพยักหน้ารับ

การกบฏที่เป็นเร
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 100

    ชาวบ้านหลายคนที่บาดเจ็บสาหัสเจียนตาย ก็รอดชีวิตมาได้แล้วโดยเฉพาะหวังเอ้อร์เหอ รอยแผลจากการเย็บตรงท้องเริ่มสมานกันแล้วหลายวันนี้ หวังเอ้อร์เหอราวกับเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอันเลื่องชื่อ มีคนไปมุงดูเขาทุกวันไม่ขาดสายเรื่องหนังท้องเปิด หลังจากใช้เข็มกับด้ายเย็บ คนยังสามารถมีชีวิตรอด เป็นสิ่งที่หาดูได้ยากมากหลังจากดูของหายากเสร็จ ก็อดไม่ได้ที่จะชมแม่นางอวิ๋นว่าฝีมือการแพทย์สูงส่งนายท่านหานกับติงหมิงรุ่ยก็ไปดูด้วยตัวเองเช่นกันถึงขั้นคุยกับหวังเอ้อร์เหอ ขอให้เขาเลิกเสื้อขึ้นเพื่อดูบาดแผลของเขาแวบหนึ่งบาดแผลของหวังเอ้อร์เหอเริ่มตกสะเก็ดแล้ว การสมานของแผลเป็นไปด้วยดีหลังจากได้เห็นกับตา ติงหมิงรุ่ยรู้สึกเลื่อมใสฝีมือการแพทย์ของอวิ๋นฝูหลิงจากใจส่วนนายท่านหาน ราวกับค้นพบสมบัติตะลึงโลกอะไรบางอย่าง ยิ่งอยากชักชวนอวิ๋นฝูหลิงมาอยู่สำนักผิงอันของตัวเองถ้าหากสำนักผิงอันมีหมอเทวดาเช่นนี้หนึ่งท่าน ชื่อเสียงและการค้าของสำนักผิงอัน นับวันยิ่งเจริญรุ่งเรืองแน่นอนเป็นเช่นนี้ผ่านไปเจ็ดแปดวัน ในที่สุดทางอวิ๋นฝูหลิงก็ได้รับการยืนยันจากเซียวจิ่งอี้ จัดการเรื่องทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว พวกเขาสาม

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 101

    ไทเฮาจะปิดเรื่องที่เจียงโจวอ๋องก่อกบฏ ไม่ให้เรื่องนี้ถูกเปิดเผยแน่นอนเมื่อไม่ถูกเปิดเผย ก็จะไม่มีการประกาศราชโองการแจ้งให้ใต้หล้าได้รับรู้สุดท้ายสามารถจำคุกครอบครัวเจียงโจวอ๋อง เกรงว่าเป็นสถานการณ์ที่ดีที่สุดแล้วแต่ว่าเรื่องเหล่านี้ ย่อมมีเสด็จพ่อของเขาไปปวดหัวสิ่งเหล่านี้ล้วนไม่เกี่ยวข้องกับเขาเซียวจิ่งอี้ใครจะรู้ว่าเวลานี้เอง สีหน้าของเทียนเฉวียนเปลี่ยนเป็นซับซ้อนมาก“เรียนนายท่าน ครอบครัวเจียงโจวอ๋องตายหมดแล้วขอรับ!”เมื่อได้ฟัง เซียวจิ่งอี้ก็ตกใจมากเจียงโจวอ๋องเป็นเป็นลูกแท้ๆ ของไทเฮา มีไทเฮาอยู่ เสด็จพ่อไม่มีทางออกคำสั่งประหารเจียงโจวอ๋อง “หลังจากเจียงโจวอ๋องถูกจับ รู้ว่าความแตกแล้ว ภายใต้ความหวาดกลัว จึงไถ่โทษโดยการฆ่าตัวตายขอรับ”“พระชายากับซื่อจื่อก็ดื่มยาพิษฆ่าตัวตาย”หลังจากเกิดเรื่อง จั่วเยี่ยนก็ประหลาดใจมากเช่นกัน และยังตั้งใจตรวจสอบอย่างละเอียดอีกรอบอยากตรวจสอบดูว่ามีคนลอบลงมือใช่หรือไม่แต่สุดท้ายกลับพบว่าครอบครัวเจียงโจวอ๋องล้วนฆ่าตัวตายจริงๆชั่วขณะเซียวจิ่งอี้ไม่รู้ว่าควรพูดอะไรดีจริงๆเจียงโจวอ๋องซ่อนตัวในความมืดมานานหลายปี เขาวางแผนชิงราชบัลลัง

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 102

    เทียนเฉวียนเห็นสองคนนี้ทำท่าเดียวกัน จู่ๆ ก็ค้นพบอย่างน่าประหลาด ที่จริงรูปลักษณ์ของพวกเขาคล้ายกันมาก ดูแล้วเหมือนเป็นพ่อลูกกันก็มิปานความคิดนี้เพิ่งผุดขึ้นในสมองเทียนเฉวียน ก็ถูกเขาสลัดออกอย่างรวดเร็วเขากำลังคิดอะไรอยู่?นายท่านไม่เคยใกล้ชิดผู้หญิง จะมีลูกชายที่โตขนาดนี้ได้อย่างไร?เหตุใดเขาจึงผุดความคิดที่ไร้สาระเช่นนี้?เซียวจิ่งอี้พบว่าอวิ๋นจิงมั่วมัวแต่ไล่ตามลูกเสือน้อย แม้แต่รองเท้าหลุดไปเมื่อไรก็ไม่รู้ เวลานี้สองเท้าเปลือยเปล่าเขาอุ้มอวิ๋นจิงมั่วขึ้นมาพลันก้มหน้าโดยไม่ตั้งใจ จู่ๆ เขาก็พบว่าเท้าซ้ายของอวิ๋นจิงมั่วมีหกนิ้วพริบตานั้นหัวใจเซียวจิ่งอี้สั่นสะท้าน เมื่ออาศัยแสงจันทร์ดูอย่างละเอียด มีหกนิ้วจริงๆ ด้วยเขาจับเขาซ้ายของอวิ๋นจิงมั่ว นับทีละนิ้วหนึ่งรอบ มีหกนิ้วจริงๆอวิ๋นจิงมั่วกลับถูกการกระทำของเซียวจิ่งอี้ทำเอาจั๊กจี้ที่ฝ่าเท้า เริ่มหัวเราะคิกคักทันที เซียวจิ่งอี้ถอนมือกลับ อุ้มเขาเดินกลับไปเดินไปพลางกวาดมองอวิ๋นจิงมั่วอย่างละเอียดเดินไปได้ครู่เดียว ก็มองเห็นสวี่ตงที่กำลังตามหาคนด้วยสีหน้าตื่นตระหนกตอนที่อวิ๋นจิงมั่วฉี่ เพราะสวี่ตงง่วงนอนมาก จึงหลับ

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 103

    ตำบลเล็กๆ ที่อยู่ทางเหนือของเขาเฟิ่งลั่วชื่อตำบลผิงเล่อเที่ยงของวันนี้ จู่ๆ ชาวบ้านของตำบลก็พบคนกลุ่มหนึ่งลงมาจากเขาเฟิ่งลั่ว เสื้อผ้าของคนเหล่านี้ขาดรุ่งริ่ง สีหน้ากลับแดงชุ่มฉ่ำและกะปรี้กะเปร่าเมื่อรู้ว่าทางใต้ของเขาเฟิ่งลั่วถูกน้ำท่วมเพราะฝายเจียงหลิงแตก คนเหล่านี้เดินข้ามเขาเฟิ่งลั่ว ลี้ภัยมาตลอดทาง ชาวบ้านในตำบลต่างก็ประหลาดใจมากเขาเฟิ่งลั่วมีเทือกเขาเยอะ และทอดยาวหลายร้อยลี้ ในภูเขายังมีสัตว์ดุร้ายมากมายคนในตำบลของพวกเขา ไม่เคยกล้าเข้าไปลึกนักผู้ลี้ภัยเหล่านี้สามารถเดินออกมาจากในเขาลึกได้อย่างปลอดภัย ต้องพอมีความสามารถติดตัวแน่นอนหลังจากเห็นหนังเสือที่อยู่นอกสัมภาระของคนเหล่านี้ คนในตำบลยิ่งมั่นใจเรื่องนี้แล้วอีกทั้งผู้ประสบภัยที่ลี้ภัยคนไหนไม่ใช่ผอมจนเห็นกระดูก แม้สภาพของคนเหล่านี้สะบักสะบอม แต่ท่าทางกระปรี้กระเปร่ามีชีวิตชีวาจู่ๆ ก็มีคนกลุ่มใหญ่เช่นนี้มาโผล่ในตำบล กำนันที่ได้รับข่าวอย่างรวดเร็วก็รีบมาทันทีหัวหน้าหมู่บ้านโจวแสดงบทบาทของตัวเองในฐานะหัวหน้าหมู่บ้านทันที ทักทายกำนันครู่หนึ่ง หลังจากนั้นก็สอบถามข่าวเกี่ยวกับการช่วยเหลือผู้ประสบภัยของราชสำนักเนื

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 104

    แต่น่าเสียดาย มีองครักษ์กลุ่มนั้นอยู่ นางไม่สามารถเข้าใกล้เซียวจิ่งอี้ด้วยซ้ำโอกาสบินขึ้นยอดกิ่งไม้กลายเป็นหงส์ฟ้าที่ดีเช่นนี้ เสียดายที่นางไม่สามารถคว้าไว้ได้!เด็กหนุ่มร่างท้วมคนหนึ่งเดินไปที่ข้างกายฟางหลาน เขายิ้มให้นางแล้วกล่าว “เสี่ยวหลาน มา ข้าช่วยถือตะกร้าของเจ้า?”ฟางหลานหันไปยิ้มให้เด็กหนุ่มที่ชื่อสือเฮ่าเทียน กล่าวด้วยสีหน้าตื้นตัน “ขอบคุณพี่สือ”สือเฮ่าเทียนรับสัมภาระของฟางหลานมาด้วยความดีใจ “เกรงใจอะไรกับข้ากัน”บนใบหน้าฟางหลานยิ้มอย่างอ่อนโยน แต่กลับมองบนในใจแม้ว่าระหว่างทางนางได้รับผลประโยชน์จากสือเฮ่าเทียนไม่น้อย มีทั้งผักป่าและของกินต่างๆ แต่ในใจนางไม่ได้ชอบเขาถ้าหากไม่ใช่เพราะสือเฮ่าเทียนยังพอมีประโยชน์อยู่บ้าง นางไม่คิดจะคุยกับเขาด้วยซ้ำต่อให้นางไม่สามารถจับชนชั้นสูงอย่างเซียวจิ่งอี้ แต่ก็ไม่มีทางแต่งงานกับชาวนาอย่างสือเฮ่าเทียน!กลุ่มของเซียวจิ่งอี้เดินออกจากตำบลผิงเล่อได้ไม่ไกล ก็มารวมตัวกับกำลังคนที่รออยู่ที่นี่แล้วเซียวจิ่งอี้ปีนขึ้นหลังม้า หันกลับไปมองเทือกเขาเฟิ่งลั่วอันคดเคี้ยวและทอดยาวที่อยู่ไกลออกไปเทียนเฉวียนเดินเข้ามาถาม “นายท่าน กลับเมืองห

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 105

    “คุณชาย ฟ้ามืดแล้ว วันนี้กลับเข้าเมืองไม่ทันแล้ว คงต้องลำบากท่านพักแรมที่ข้างนอกสักคืน”องครักษ์ที่ขับรถม้าเดินเข้าไป กล่าวรายงานผ่านม่าน“รู้แล้ว” เสียงที่ไพเราะสายหนึ่งดังออกมาจากในรถม้า องครักษ์ที่พูดลากรถม้าไปทางสถานที่ที่อวิ๋นฝูหลิงและคนอื่นตั้งค่ายสุดท้ายหยุดลงตรงจุดที่ห่างจากพวกเขาระยะหนึ่งทันทีที่รถม้าหยุดลง คนที่แต่งตัวเหมือนเด็กรับใช้คนหนึ่งลงมาจากรถม้าก่อน หลังจากนั้นหันไปประคองคนที่อยู่ในรถม้า“คุณชาย ท่านช้าหน่อย!”ภายใต้การประคองของเด็กรับใช้ ชายหนุ่มสวมอาภรณ์สีขาวพระจันทร์เดินออกมาจากในรถม้าผมของเขาดำดุจหมึก ขับให้ใบหน้าขาวดังหิมะ ระหว่างคิ้วมีภาวะของการเจ็บป่วยแฝงอยู่แม้เป็นฤดูร้อนที่อบอ้าว แต่เขากลับสวมผ้าคลุมกันลม เห็นได้ชัดว่าเป็นโรคกลัวหนาวเมื่ออวิ๋นฝูหลิงได้ยินเสียง ก็เงยหน้ามองแวบหนึ่งสายตาของเขากับอวิ๋นฝูหลิงบรรจบกันพอดี พลันพยักหน้าให้นางเล็กน้อยอย่างเกรงใจอวิ๋นฝูหลิงก็พยักหน้าคืนอย่างสุภาพเมื่อชายหนุ่มลงจากรถม้า ผู้ติดตามของเขาก็เริ่มทำงานทันทีปูเบาะรองนั่ง จุดธูปไล่ยุ่งและแมลง ต้มน้ำชงชา ปิ้งขนมแป้งหลังจากขนมแป้งขาวถูกปิ้ง กลิ่นหอมของ

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 106

    เมื่อเป็นเช่นนี้ เด็กรับใช้อยากหายาของคุณชายคืนมาก็ยากแล้วเขาเริ่มร้องไห้โฮ“ทำอย่างไรดี? ทำอย่างไรดี?”หลังจากอวิ๋นฝูหลิงเห็นชายหนุ่มคนนั้นมอบขนมแป้งให้ ในใจก็รู้แล้วว่าแย่แน่แล้วผู้ประสบภัยเหล่านั้นลุกฮือเหมือนแมวที่ได้กลิ่นคาวอย่างที่คิดนางกลัวผู้ประสบภัยเหล่านั้นแย่งของจนติดใจ จะลงมือกับพวกเขาเป็นรายต่อไป ดังนั้นจึงรีบสั่งให้ชาวบ้านระวังตัวใครจะรู้ว่าจู่ๆ ชายหนุ่มคนนั้นก็ล้มลงอวิ๋นฝูหลิงไม่มีเวลาให้คิดมาก รีบพุ่งพรวดเข้าไปช่วยคนทันที“ข้าเป็นหมอ ให้ข้าดูเขาหน่อย!”เมื่อองครักษ์ที่จะเข้ามาขวางในตอนแรกได้ยิน ก็ปล่อยนางเข้าไปทันทีอวิ๋นฝูหลิงจับชีพจร พบว่าหัวใจของคนคนนี้หยุดเต้น และไม่มีชีพจรแล้วนางคาดว่าน่าจะเป็นเพราะเมื่อครู่ ผู้ประสบภัยลุกฮือแย่งของกะทันหัน ชั่วขณะชายหนุ่มสะเทือนใจ อารมณ์แปรปรวนอย่างรุนแรง จึงส่งผลให้หัวใจหยุดเต้นนางทำการปั๊มหัวใจทันทีหวังว่ายังจะกู้ชีพทันเวลาเด็กรับใช้กับองครักษ์เห็นหลังจากอวิ๋นฝูหลิงตรวจชีพจร ก็วางสองมือลงบนหน้าอกคุณชายก็กดไม่หยุดพวกเขาไม่เคยเห็นวิธีช่วยคนเช่นนี้ แอบสงสัยว่าอวิ๋นฝูหลิงคงจะไม่ใช่หมอผีหรือแม่มดอะไรกระมัง?

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 107

    เมื่อได้ยินคำพูดของอวิ๋นฝูหลิง กู้อี่อันเบิกตากว้างอย่างเหลือเชื่อร่างกายเขาอ่อนแอตั้งแต่เด็ก กินยากับกินข้าวพอๆ กันหมอยิ่งไปหามาแล้วกี่คนก็ไม่รู้ แม้แต่หมอหลวงในวัง ก็เคยทุ่มเงินหาเส้นสายเชิญมาตรวจชีพจรให้เขา แต่ไม่เคยมีหมอคนไหนที่สามารถบอกอาการของเขาเหมือนกับอวิ๋นฝูหลิง ยิ่งกว่านั้นยังกล้าพูดว่าสามารถรักษาได้กู้อี่อันตั้งสติอยู่ครู่หนึ่ง จึงจะกล่าวเสียงสั่น “ได้โปรดท่านหมอเทวดาช่วยลงมือขจัดโรคภัยให้ข้า ท่านหมอเทวดามีข้อเรียกร้องอะไร พูดมาได้เลย!”อวิ๋นฝูหลิงนำยาสงบจิตออกมาหนึ่งขวด “เมื่อรู้สึกหัวใจไม่สบายก็กินหนึ่งเม็ด”“ขวดนี้มียี่สิบเม็ด หนึ่งเม็ดสองตำลึงเงิน ทั้งหมดยี่สิบตำลึง”“ต่อไปพยายามทำใจให้สงบ ห้ามมีอารมณ์ที่ดีใจหรือเศร้าอย่างรุนแรง”“ข้าจ่ายเทียบยาให้ท่านอีกหนึ่งใบ ท่านนำเทียบยาไปหาซื้อยาที่ร้านยาเอง กินก่อนสิบเทียบ หลังจากกินหมดข้าจะตรวจท่านใหม่”“ค่ายาลูกกลอน บวกค่ารักษา บวกค่าเทียบยา ทั้งหมดเป็นห้าสิบตำลึงเงิน!”อวิ๋นฝูหลิงกล่าวจบ เห็นกู้อี่อันไม่มีปฏิกิริยา อดไม่ได้ที่จะคิดหรือนางขอมากเกินไป?คนคนนี้เป็นนายน้อยของร้านค้าอะไรสักอย่าง ห้าสิบตำลึงเงินสำหรับ

บทล่าสุด

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 376

    อวิ๋นฝูหลิงตรวจดู จมูกของเด็กไม่มีน้ำคร่ำอุดตัน แล้วก็มองหว่างขาของเด็กแวบหนึ่งเป็นเด็กผู้ชายเด็กออกจากน้ำคร่ำของมารดา ราวกับรับรู้ถึงการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อม ก็ร้องไห้อุแว้ๆ เสียงดังทันทีแต่ว่าเสียงกลับเบากว่าเด็กทารกทั่วไปแม้ไม่ได้เสียงดังมาก แต่ทุกคนที่รออยู่นอกห้องคลอดยังได้ยินเสียงร้องไห้ของเด็กทารกชั่วขณะฉู่หมิงตะลึงเล็กน้อย เงยหน้ามองไปทางฮูหยินฉู่ กล่าวอย่างเหม่อลอย “ท่านแม่ ท่านได้ยินเสียงอะไรหรือไม่?”ฮูหยินฉู่ก็ได้ยินเสียงร้องไห้ของเด็กเช่นกันแต่นี่ก็เร็วเกินไปแล้วตั้งแต่พวกเขาเข้าไปจนถึงตอนนี้ ยังไม่ถึงครึ่งชั่วยามเลยนี่ก็คลอดแล้ว?พระชายาคังจวิ้นอ๋องกล่าวอย่างตื่นเต้น “เป็นเสียงร้องไห้ของเด็ก!”“คลอดแล้ว คลอดแล้ว!”“แต่ไม่รู้ว่าเป็นเด็กผู้ชายหรือเด็กผู้หญิง?”เมื่อได้ยินเสียงรอบข้าง ฉู่หมิงมั่นใจแล้วว่าเมื่อครู่ตัวเองไม่ได้หูฝาดลูกของเขาเกิดแล้ว!ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความสุข ตื่นเต้นจนจะวิ่งเข้าห้องคลอดโชคดีที่ฮูหยินฉู่ดึงเขาไว้ทันเวลา“เจ้ารีบร้อนอะไร รอเฉยๆ ก่อน!”รอในห้องคลอดจัดการทุกอย่างเสร็จแล้ว หมอตำแยต้องอุ้มเด็กออกมาให้พวกเขาดูแน่น

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 375

    พลันอวิ๋นฝูหลิงเหลือบไปมอง หมอหญิงติงจึงจะรู้ตัวว่าไม่ควรส่งเสียง รีบยกมือปิดปากทันทีอวิ๋นฝูหลิงกลับเริ่มไม่ปลื้มแล้วแค่นี้ก็เอะอะส่งเสียงดัง ขวัญอ่อนเกินไปแล้วนางหันไปมองเหยากวงแวบหนึ่งเหยากวงเดินเข้าไปหิ้วหมอหญิงติง โยนนางออกจากห้องคลอดโดยตรงเมื่อหมอหญิงติงออกจากห้องคลอด ก็ถูกสายตาหลายคู่จ้องมองหมอหลวงรีบเดินเข้าไปสอบถามทันที “เจ้าออกมาได้อย่างไร สถานการณ์ข้างในเป็นอย่างไรบ้าง?”เพราะเหยากวงโยนคนออกมาก็กลับเข้าไปแล้ว การเคลื่อนไหวของนางเร็วมาก ทำให้อยากถามนางก็ถามไม่ทันภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ สายตาของทุกคนจ้องไปที่หมอหญิงติงหมอหญิงติงรู้ว่าตัวเองทำพฤติกรรมไม่เหมาะสม ถูกอวิ๋นฝูหลิงรังเกียจแล้วหมอหลวงจงมาถามเวลานี้ นางยิ่งอับอายแล้วใบหน้าของนางแดงก่ำ พูดจาอ้ำอึ้ง “การผ่าตัดเริ่มแล้ว ข้า…ข้าไม่กล้าลงมีด ก็เลยออกมาแล้ว”หมอหลวงจงมองนางอย่างลึกซึ้งแวบหนึ่ง เริ่มขมวดคิ้วในเมื่อเป็นการผ่าท้องทำคลอด ย่อมขาดการลงมีดไม่ได้เรื่องนี้นางรู้ก่อนแล้วไม่ใช่หรือในเมื่อกลัวลงมีด เหตุใดยังต้องตอบตกลงตามโอวหยางหมิงมา?ความสามารถในการเลือกคนของโอวหยางหมิง ต้องพัฒนาแล้วจริงๆแ

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 374

    พระชายาคังจวิ้นอ๋องก็ประหม่าเช่นกัน อย่างไรก็ตามอีกเดี๋ยวคนที่จะถูกผ่าท้องคือลูกสาวของตนเองไม่เพียงพวกนางสองแม่ลูก คนอื่นก็ประหม่าไม่มากก็น้อยเช่นกันมีเพียงคนเดียวที่ไม่ประหม่าก็คงเป็นอวิ๋นฝูหลิงแล้วชาติที่แล้วนางเคยทำการผ่าตัดเช่นนี้ครั้งนับไม่ถ้วน ชินนานแล้วฮูหยินน้อยฉู่เห็นท่าทางของอวิ๋นฝูหลิงดูสงบมาก ราวกับมีความมั่นใจในการผ่าตัดของวันนี้มากความประหม่าของนางจึงจะบรรเทาลงบ้างฮูหยินน้อยฉู่ถูกส่งเข้าไปในห้องคลอด ส่วนพระชายาคังจวิ้นอ๋องถูกอวิ๋นฝูหลิงห้ามไว้ที่นอกห้องคลอดอย่างไรก็ตามอีกเดี๋ยวจะเป็นภาพที่นองเลือด นางกลัวพระชายาคังจวิ้นอ๋องที่เป็นแม่คนนี้รับไม่ไหว จะส่งผลกระทบต่อการผ่าตัดสกุลฉู่ทำตามคำขอของอวิ๋นฝูหลิง เลือกห้องที่สะอาด กว้าง และแสงดีมากมาทำเป็นห้องคลอดภายในห้องคลอดมีแค่เตียงนอนหนึ่งเตียง โต๊ะหนึ่งตัว และเก้าอี้อีกสองสามตัวและรมควันชางจู๋ทั้งห้องตามที่อวิ๋นฝูหลิงบอกหนึ่งรอบก่อนฮูหยินน้อยฉู่เข้าห้องคลอด ก็ได้เปลี่ยนเสื้อผ้าที่เรียบง่ายและสะอาดแล้วหลังจากเข้าห้องคลอด นางถอดเสื้อชั้นนอก สวมเพียงเสื้อชั้นในนอนลงบนเตียงไม้ด้านบนของเตียงไม้ มีผ้าม่านแขว

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 373

    อวิ๋นฝูหลิงอบรมขั้นพื้นฐานหมอหญิงทั้งสี่คนก่อนเข้าผ่าตัดระหว่างการอบรม นางก็คอยสังเกตคุณสมบัติของหมอหญิงทั้งสี่คนในบรรดาพวกนาง มีหมอหญิงคนหนึ่งแซ่ซุน เรียนได้เร็วที่สุดและดีที่สุด ความจำก็ดีคนต่อมาก็คือหมอหญิงแซ่ติงอวิ๋นฝูหลิงตั้งใจจะให้หมอหญิงซุนกับหมอหญิงติงเป็นผู้ช่วยของนางหมอและหมอหญิงล้วนมากันครบแล้ว อวิ๋นฝูหลิงไปตรวจห้องคลอดและวัตถุดิบยาที่สกุลฉู่เตรียมไว้อีกครู่หนึ่งเมื่อเห็นของพร้อมแล้ว และไม่มีข้อผิดพลาดอะไร อวิ๋นฝูหลิงแอบโล่งอกถ้าหากมีคนคิดไม่ดีจริงๆ ลงมือจากวัตถุดิบยาเป็นวิธีที่ง่ายและได้ผลดีที่สุดก็เหมือนกับครั้งก่อนตอนรักษาฮ่องเต้จิ่งผิง มีคนสลับวัตถุดิบยาดังนั้นอวิ๋นฝูหลิงจึงใส่ใจวัตถุดิบยาเป็นพิเศษเพื่อไม่ให้เกิดข้อผิดพลาด นางยังลากโอวหยางหมิงและคนอื่นมาช่วยกันตรวจด้วยกลับพบว่าวัตถุดิบยาที่สกุลฉู่ไม่มีปัญหาเลยแต่ว่าอวิ๋นฝูหลิงก็ไม่ได้ประมาท ให้หมอหลวงจงกับโอวหยางหมิงร่วมกันรับผิดชอบดูแลเรื่องวัตถุดิบยาและการต้มยาโอวหยางหลันคิดแค่ว่าอวิ๋นฝูหลิงใช้ยาอย่างระมัดระวัง เป็นการปฏิบัติในฐานะหมอที่มีความรับผิดชอบหมอหลวงจงกลับรู้สึกถึงอะไรบางอย่าง จากกา

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 372

    องครักษ์ของจวนแม่ทัพพิทักษ์แผ่นดินไม่ธรรมดา แต่ละคนล้วนเป็นผู้กล้าที่เคยผ่านสนามรบและเคยเห็นเลือดมาก่อนถ้าหากมีคนกล้าบุกเข้าไป องครักษ์เหล่านี้ล้วนไม่ได้มีไว้ประดับ!แม้ฮูหยินฉู่รำคาญคนเหล่านี้ แต่ก็มีแผนรับมือในใจแล้วหลังจากนางพบว่าวันนี้มีผู้คนจำนวนมากมาที่จวน จึงเตรียมการทันทีมีองครักษ์ของจวนอยู่ที่นี่ วันนี้อย่าว่าแต่ห้องคลอดเลย ต่อให้เป็นลานเรือนของห้องคลอด ก็ไม่มีใครสามารถบุกเข้าไปได้เมื่อเหล่าฮูหยินที่อยู่ในลานเห็นดังนี้ ก็รู้ว่าวันนี้พวกนางไม่สามารถไปดูอวิ๋นฝูหลิงผ่าท้องทำคลอดที่ห้องคลอดแล้วด้วยเหตุนี้ทุกคนทำได้เพียงนั่งลงดื่มน้ำชาอย่างไม่พอใจเพราะการจากไปตอนนี้เลยมันไม่เหมาะสมต่อให้จะไป ก็ต้องไม่ใช่ตอนนี้ระหว่างทางที่ไปห้องคลอด อวิ๋นฝูหลิงถามฮูหยินฉู่ว่าพวกโอวหยางหมิงมาหรือยังโอวหยางหมิงและคนอื่นมากันแล้ว แต่ว่าฮูหยินฉู่พาพวกเขาไปยังอีกสถานที่หนึ่งอวิ๋นฝูหลิงได้ยินว่าพวกโอวหยางหมิงมากันแล้ว ก็เปลี่ยนใจทันที “ไปหาพวกเจ้าสำนักโอวหยางก่อน”เมื่อฮูหยินฉู่ได้ยิน ก็รีบพาอวิ๋นฝูหลิงไปยังห้องรับแขกที่ต้อนรับพวกโอวหยางหมิงทันทีภายในห้องรับแขก บรรยากาศกำลังครึกคร

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 371

    จ้าวเสวียซือจงใจลดเสียงให้เบาลง และยังยื่นศีรษะเข้าไปทางหน้าต่างรถเซียวจิ่งอี้มองเขาอย่างรังเกียจแวบหนึ่ง“ข้ารู้ว่าตัวเองกำลังทำอะไร”“หดหัวของเจ้ากลับไป!”จ้าวเสวียซือหดศีรษะกลับไปอย่างอับอายพริบตาต่อมา เซียวจิ่งอี้ปิดหน้าต่างรถทันทีจ้าวเสวียซือรู้สึกถึงการเหยียดหยามของเซียวจิ่งอี้ โมโหจนแทบช้ำในเขาก็แค่รู้ตัวช้าไปหน่อย ไม่ทันสังเกตว่ามีบางอย่างผิดปกติ!หลังจากมาถึงจวนแม่ทัพพิทักษ์แผ่นดิน อวิ๋นฝูหลิงก็เข้าใจในสิ่งที่จ้าวเสวียซือพูดแล้ว เกือบครึ่งหนึ่งของเมืองหลวงล้วนรู้เรื่องคร่าวๆ แล้วจวนแม่ทัพพิทักษ์แผ่นดินในวันนี้คึกคักมาก แขกเหรื่อเต็มไปหมดมีคนไม่น้อยที่อาศัยข้ออ้างมาเยี่ยมฮูหยินน้อยฉู่ เพื่อมาดูอวิ๋นฝูหลิงผ่าท้องทำคลอดฮูหยินฉู่รู้เจตนาการมาเยือนของคนเหล่านี้ แต่ก็ไม่สามารถไล่คนตรงๆ ได้ทำได้เพียงรับหน้าไปพลาง หาวิธีส่งแขกไปพลางทว่าฮูหยินฉู่ยังคิดวิธีไม่ออก อวิ๋นฝูหลิงก็มาถึงแล้วเมื่ออวิ๋นฝูหลิงเห็นผู้คนที่อยู่เต็มลาน ก็อดขมวดคิ้วไม่ได้และผู้คนที่มารุมสอบถามเรื่องการผ่าท้องทำคลอดกับฮูหยินฉู่ในตอนแรก เพิ่งเห็นอวิ๋นฝูหลิงมา ก็กรูกันเข้าไปหานางทันทีแต่หลัง

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 370

    หากนางต้องการคน ขอแค่นางบอกมา เกรงว่ากระทั่งหมอหลวงในสำนักหมอหลวงก็คงมีคนมากมายที่ยินยอมช่วยเหลือจำเป็นต้องมาถึงสกุลหางเชียวหรือ?การกระทำเช่นนี้ของอวิ๋นฝูหลิงนั้นถือว่านึกถึงบุญคุณที่สกุลหางได้ช่วยเหลือไว้ก่อนหน้านี้ จึงมามอบน้ำใจให้ถึงสกุลหาง!หลังจากที่นายท่านหางเข้าใจจุดสำคัญของเรื่องนี้ ก็อดยิ้มออกมาไม่ได้ ความอบอุ่นแผ่ซ่านอยู่ในหัวใจวันนี้ข่าวที่อวิ๋นฝูหลิงจะผ่าท้องเอาเด็กออกให้ฮูหยินน้อยฉู่นั้นแพร่กระจายออกไปอย่างรวดเร็ว ในเมืองหลวงจึงมีเรื่องใหม่ให้ได้พูดคุยถกกันอย่างบ้าคลั่งบางคนตื่นตระหนกตกใจ บางคนก็สงสัยใคร่รู้และมีบางคนคิดจะฉวยโอกาสนี้ แอบปลุกปั่นสร้างเรื่องวันต่อมาอวิ๋นฝูหลิงหลับสนิทตลอดทั้งคืน เตรียมตัวไปจวนแม่ทัพพิทักษ์แผ่นดินด้วยจิตใจที่เต็มไปด้วยความกระปรี้กระเปร่าเดิมทีวันนี้เซียวจิ่งอี้จะต้องไปตรวจตราค่ายใหญ่แถบชานเมืองหลวงทว่าพอเขานึกว่าวันนี้อวิ๋นฝูหลิงจะต้องผ่าท้องเอาเด็กออกให้ฮูหยินน้อยฉู่แล้ว เลยวางใจไม่ลงจริง ๆถึงอย่างไรการผ่าตัดครั้งนี้ก็นับว่าเป็นการผ่าท้องเอาเด็กออกในขณะที่คนยังมีชีวิตอยู่เป็นครั้งแรกในประวัติการณ์ ไม่ว่าจะเป็นสกุลฉู่ก็ดี

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 369

    กระทั่งยามที่ฉยงอวี้จวิ้นจู่ได้สติ อวิ๋นฝูหลิงก็โยนแส้ใส่อ้อมแขนของนางแล้ว“เอาละ พวกเราสองคนหายกันแล้วนะ”ฉยงอวี้จวิ้นจู่ถึงกับนิ่งอึ้งยามที่นาได้สติ ตัวอวิ๋นฝูหลิงก็เดินจากไปไกลแล้วฉยงอวี้จวิ้นจู่กำแส้ขี่ม้าในมือแน่น พร้อมกับคิ้วที่กระตุกเล็กน้อยอวิ๋นฝูหลิงผู้นี้ไม่เหมือนกับที่นางคิดเลยสักนิดนิสัยไม่เหมือนใครดี!หลังจากที่อวิ๋นฝูหลิงออกจากจวนแม้ทัพพิทักษ์แผ่นดิน ก็ไปยังเรือนในเมืองหลวงของสกุลหางนายท่านผู้เฒ่าหางดีใจยิ่งนักที่เห็นนางมา“ฝูหลิง ทำไมวันนี้ถึงได้มีเวลามาได้เล่า?”อวิ๋นฝูหลิงก้าวไปคารวะ แล้วยิ้มพลางกล่าวว่า “แน่นอนว่าเป็นเพราะคิดถึงท่านปู่หาง เลยมาเยี่ยมหาอย่าไรเล่าเจ้าคะ”นางเขย่าห่อกระดาษในมือเล็กน้อย “รู้ว่าท่านชอบกินขนมลี่จื่อของโจวจี้ จึงตั้งใจเอามาแสดงความกตัญญูกับท่านปู่เจ้าค่ะ!”รอยยิ้มบนใบหน้าของนายท่านผู้เฒ่าหางยิ่งกว้างกว่าเดิมรีบให้บ่าวไพร่นำขนมลี่จื่อที่อวิ๋นฝูหลิงนำมาไปวางใส่จานมา เขาจะไว้กินแกล้มกับชาปู่หลานพูดคุยกันได้สักพัก อวิ๋นฝูหลิงจึงพูดเรื่องจริงจังขึ้นมา“ท่านปู่หาง ตอนนี้ข้ามีคนไข้อยู่ในมือ นางตั้งครรภ์แฝด หากจะคลอดอย่างธรรมดา

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 368

    ลูกเติบโตอยู่ในท้องของนางทุกวัน ๆ ทุกครั้งที่มีการเคลื่อนไหว ล้วนนำมาซึ่งความปีติยินดีที่ยากจะเอื้อนเอ่ยออกมาได้นางไม่อาจทอดทิ้งลูกในท้องได้จริง ๆหลังได้รู้จักกับวิธีการผ่าท้องเอาเด็กออกของอวิ๋นฝูหลิง ฮูหยินน้อยฉู่ก็ตัดสินใจได้เฉียบขาดเสียยิ่งกว่าผู้ใดเหล่าหมอที่รายล้อมอยู่ข้าง ๆ ล้วนอับจนหนทาง มิสู้ให้อวิ๋นฝูหลิงได้ลองทำมิดีกว่าหรือหากรักษาพวกนางสามแม่ลูกไว้ได้จะเป็นการดีที่สุดหากทำไม่ได้ เช่นนั้นก็เอาชีวิตของนางไปแทนลูก ๆ เถิดแม้นาจะตัดสินใจแน่วแน่แล้ว ทว่ายามที่เหตุการณ์ดำเนินมาถึงตรงหน้า นางก็ยังคงตื่นเต้นอยู่ดีโชคดีที่อวิ๋นฝูหลิงพูดจานุ่มนวล ทำให้นางคลายความตื่นตระหนกในใจไปได้มากหลังจากอวิ๋นฝูหลิงจับชีพจรให้ฮูหยินน้อยฉู่แล้ว จึงกำชับนางว่านับตั้งแต่ตอนนี้ห้ามกินอะไรเข้าไป มิเช่นนั้นจะกระทบต่อการผ่าตัด เป็นอันตรายถึงชีวิตฮูหยินน้อยฉู่ได้ยินน้ำเสียงแสนจริงจังของอวิ๋นฝูหลิงแล้ว รีบแสดงท่าทีว่านางเชื่อฟังคำพูดของอวิ๋นฝูหลิงไม่มีบิดพลิ้ว ไม่กินอะไรลงท้องแน่นอนอวิ๋นฝูหลิงเห็นเช่นนั้น ก็พอใจมากนางชอบผู้ป่วยที่เชื่อฟังคำสั่งของหมอเป็นที่สุดหลังอวิ๋นฝูหลิงกำชับสิ่งท

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status