Share

บทที่ 410

Penulis: หลันซานอวี่
อวิ๋นฝูหลิงคิดไม่ถึงว่าในมือเซียวจิ่งอี้ก็มีคาราวานพ่อค้ากลุ่มหนึ่งด้วย

พูดถึงขั้นนี้แล้ว เซียวจิ่งอี้ก็ไม่คิดจะปิดบังอีก กล่าวตรงๆ “ในมือข้ามีคาราวานพ่อค้ากลุ่มหนึ่ง เป็นพ่อค้าคนกลาง ทำการค้ากับชาวเป่ยหมานและชาวตะวันตกโดยเฉพาะ”

“เมื่อก่อนทำการค้าประเภทผ้าไหมและใบชา”

“แม้ภายใต้ชื่อของข้ามีกิจการไม่น้อย แต่ค่าใช้จ่ายก็สูงเช่นกัน อย่างไรก็ต้องหาวิธีหารายได้เสริมหน่อย”

เมื่ออวิ๋นฝูหลิงเห็นเซียวจิ่งอี้เปิดใจ และเขาทำการค้าชายแดน ก็ไม่ส่งผลกระทบต่อการเปิดร้านค้าในต้าฉีของตน จึงพยักหน้ากล่าว “ได้ เช่นนั้นข้าแค่รับผิดชอบจัดหาสินค้า ส่วนท่านจะขายที่ชายแดนอย่างไร ขายเท่าไร ข้าไม่สนใจ”

เซียวจิ่งอี้จับมืออวิ๋นฝูหลิงมาจูบเบาๆ ทีหนึ่ง

“ขอบคุณพระชายาที่ยินดีให้ข้าร่วมหาเงินด้วย”

อวิ๋นฝูหลิงทุบหน้าอกของเขาด้วยรอยยิ้มทีหนึ่ง “อย่ามาเล่นลิ้น”

“ของที่ข้าให้ท่านดูในวันนี้ ล้วนเป็นของที่ข้าใช้เวลาหลายวันกว่าจะทำออกมาได้”

“ถ้าจัดหาสินค้าให้ท่าน ประกอบกับเปิดร้านค้าในเมืองหลวงก่อน จำนวนการผลิตไม่น้อยแน่นอน”

“ข้าต้องหาสถานที่ตั้งโรงงานก่อน และยังต้องหาแรงงาน…”

กล่าวถึงตรงนี้ จู่ๆ อวิ๋นฝูหลิงก็นึกถ
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Bab Terkunci

Bab terkait

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 411

    เซียวจิ่งอี้ได้ยินว่ามีผู้หญิงหายไปอย่างต่อเนื่องในเมืองหลวง เมื่อวานเป็นคดีที่สามแล้ว ก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วแม้ว่าคดีนี้ผู้ตรวจการเมืองจะเป็นคนสืบสวน แต่กองกำลังรักษาความสงบรับผิดชอบหน้าที่ดูแลเมืองหลวงอยู่ หลังการตรวจสอบอย่างจริงจัง พบว่านี่คือการละเว้นหน้าที่ของกองกำลังรักษาความสงบเซียวจิ่งอี้เป็นผู้บัญชาการของกองกำลังรักษาความสงบ ย่อมถือว่าอยู่ในความรับผิดชอบของตนเขาคุยกับอวิ๋นฝูหลิง และพาคนไปหาผู้ตรวจการเมือง เพื่อช่วยในการสืบสวนเมื่ออวิ๋นฝูหลิงได้รู้เรื่องที่มีคนหายตัวไปอย่างต่อเนื่องที่เมืองหลวงในช่วงนี้ ก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วใต้พระบาทฮ่องเต้ ผู้ใดกล้ามาเหิมเกริมถึงเพียงนี้?ไม่กี่วันต่อมา เซียวจิ่งอี้ก็ออกจากจวนแต่เช้าและกลับมามืดค่ำไม่รู้เป็นเพราะเซียวจิ่งอี้เสริมการลาดตระเวนในเมืองหลวงหรือไม่ ทำให้คนร้ายที่อยู่เบื้องหลังหวาดกลัว ไม่กล้าลงมือต่อ คดีสตรีหายตัวไปในเมืองหลวงจึงไม่เกิดขึ้นอีกทว่าสตรีเหล่านั้นที่หายตัวไปก่อนหน้านี้ กลับหาตัวไม่พบเช่นกันแม้แต่เบาะแส ก็ยังมีน้อยจนน่าเวทนาคดีคนหายตัวไปมาถึงทางตันแล้วด้วยเหตุนี้ เซียวจิ่งอี้จึงโกรธเกรี้ยวเป็นอย่า

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 412

    จนกระทั่งถูกเกณฑ์ทหาร จึงเพิ่งได้กินอาหารจนอิ่มเป็นครั้งแรกในกองทัพแม้การเป็นทหารจะลำบาก แต่อย่างน้อยก็ได้กินอิ่ม เพื่อที่จะได้มีอาหารกินอิ่มทุกวัน จั๋วหลินจึงไม่กลัวที่จะไปสนามรบไหนเลยจะรู้ว่าในการรบครั้งหนึ่ง เขาจะต้องสูญเสียแขนขวาไปทางราชสำนักมอบค่าทำขวัญให้เขาจำนวนหนึ่ง เพื่อให้เขาเกษียณและกลับบ้านเกิดครอบครัวที่เห็นเขากลับมา มิได้มีความยินดีที่ได้กลับมารวมตัวกัน ทว่ากลับมองแขนเสื้อที่ว่างเปล่าของเขาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความรังเกียจหลังจากรู้ว่าราชสำนักให้เงินทำขวัญเขามาก้อนหนึ่ง ก็เปลี่ยนสีหน้าโดยพลัน และถามไถ่สารทุกข์สุกดิบเขาจั๋วหลินผ่านความเป็นความตายอยู่ในสนามรบ จึงไม่ได้เป็นคนใสซื่อเหมือนเมื่อก่อน เขามีสายตาเฉียบแหลม นำค่าทำขวัญส่วนใหญ่ไปซ่อนไว้ และเอาออกมาเพียงเล็กน้อยเมื่อครอบครัวได้เงิน แม้จะเป็นมิตรต่อเขาขึ้นมาบ้าง แต่ก็ยังทดสอบทุกรูปแบบเป็นครั้งคราวแบบอ้อม ๆหลังจากแน่ใจว่าเงินของเขาถูกนำออกมาจนหมด ไม่มีเหลือซ่อนไว้แล้ว ก็เปลี่ยนไปมีท่าทีเย็นชากว่าเดิม และขับไล่เขาออกจากบ้านจั๋วหลินเห็นธาตุแท้ของญาติ ก็รู้สึกหดหู่ใจเป็นอย่างมาก จึงนำเงินส่วนนั้นที่ตัวเอ

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 413

    อวิ๋นฝูหลิงพักอยู่ที่สวนสมุนไพรหลายวัน เฝ้าดูต้นอ่อนสมุนไพรถูกปลูกลงไปทีละต้นต้นอ่อนสมุนไพรเหล่านี้ล้วนถูกอวิ๋นฝูหลิงเพาะปลูกที่สวนสมุนไพรในมิติก่อนแล้ว และใช้อุบายหลายอย่างเพื่อตบตา แสร้งทำเป็นซื้อมาจากที่อื่น ก่อนจะให้คนย้ายมาที่สวนสมุนไพรรากของต้นอ่อนสมุนไพรยังถูกปกคลุมไปด้วยดินจากมิติ ขณะที่ขนย้ายมายังสวนสมุนไพร ก็ล้วนมีพลังชีวิตเต็มเปี่ยมเมื่อปลูกลงไป และรดน้ำสักครา ก็หยั่งรากลงในดินอวิ๋นฝูหลิงตรวจสอบรอบหนึ่ง ก็พบว่าต้นอ่อนสมุนไพรทั้งหมดที่ถูกปลูกล้วนมีชีวิตอยู่รอดนางให้คำแนะนำแก่พวกจั๋วหลินเป็นพิเศษคราหนึ่ง ว่าปกติต้องดูแลต้นอ่อนสมุนไพรเหล่านี้อย่างไรทั้งยังจัดเรียงข้อมูลทั้งหมดไว้ให้จั๋วหลินด้วยหลังจากจัดการงานทางด้านสวนสมุนไพรเสร็จแล้ว อวิ๋นฝูหลิงก็กลับไปยังเมืองหลวงระหว่างเดินทางก็ไปเยี่ยมชมหมู่บ้านที่สร้างโรงงานสบู่คราหนึ่งด้วยโรงงานสบู่เพิ่งสร้างและกำลังดำเนินการอยู่ หลายวันมานี้สวี่ตงอยู่เฝ้าที่นี่มาตลอด เพื่อดูแลการทำงานในโรงงานสบู่เมื่อได้ยินว่าอวิ๋นฝูหลิงมา สวี่ตงก็รีบวางมือจากงานที่ทำอยู่ และจัดระเบียบรูปลักษณ์ ก่อนจะรีบวิ่งออกมาต้อนรับหลังจากต้อนร

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 414

    บางคนที่รู้จักสินค้า ย่อมเป็นฝ่ายมาหานางเองอวิ๋นฝูหลิงนั่งอย่างมั่นคง พลางกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “มีความคิดแล้วอย่างไร? ไม่มีความคิดแล้วอย่างไรหรือ?”พระชายาองค์ชายห้าสบตากับอวิ๋นฝูหลิงที่อมยิ้ม ก็ตระหนักขึ้นมาได้โดยพลันด้วยของที่ดีถึงเพียงนี้ ขอเพียงอาศัยอำนาจของเซียวจิ่งอี้ ย่อมสามารถทำการค้าได้แล้ว ไม่จำเป็นต้องหาผู้ร่วมธุรกิจ มาแบ่งผลประโยชน์เลยทว่าเมื่อได้ยินคำพูดเมื่อครู่ของอวิ๋นฝูหลิง ซึ่งมิได้ปฏิเสธตามตรง หมายความว่าการค้าครั้งนี้ยังสามารถเจรจากันได้ขึ้นอยู่กับว่าพวกเขาจะหยิบแต้มต่อตัวใดออกมา!มิใช่ว่าพระชายาองค์ชายห้าจะไร้ยางอาย จนต้องการตักตวงผลประโยชน์ในมือของอวิ๋นฝูหลิงไปเป็นความจริงที่องค์ชายห้าไม่มีรากฐาน คราแรกที่ออกจากวังมาอยู่ที่จวน ในวังตราบใดที่ปฏิบัติตามกฎ ก็จะได้รับเงินช่วยเหลือครอบครัวละสามแสนตำลึงองค์ชายห้ากับพระชายาองค์ชายห้ามิได้เก่งเรื่องการบริการจัดการหลายปีมานี้ก็พึ่งพิงเงินเก็บส่วนนั้นของตัวเอง รวมถึงรางวัลประจำปีจากในวังทว่าองค์ชายห้าก็เป็นองค์ชายสูงศักดิ์ผู้หนึ่ง จึงมักจะต้องเข้าสังคมบ้าง และสิ่งที่ควรใช้จ่ายก็ต้องใช้จ่ายผ่านไปปีแล้วปีเล่

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 415

    ถนนชิงหลวนเป็นถนนเส้นที่คึกคักและมีชีวิตชีวาที่สุดในเมืองบูรพาพระชายาองค์ชายห้ายินดีนำร้านค้าบนถนนชิงหลวนมาลงทุน ก็เห็นได้ถึงความจริงใจแล้วเจี่ยงซื่อกล่าวตามว่า “ข้ายินดีจ่ายห้าพันตำลึง”วั่นซื่อก็กล่าวเช่นกันว่า “ข้าก็จะจ่ายห้าพันตำลึง”หลังทั้งสองคนพูดจบ พระชายาองค์ชายห้าก็กล่าวอีกว่า “พวกเราจะลงทุนร้านค้ากับเงิน เจ้าใช้สูตรที่ทำก็พอ”“เรื่องกำไร เจ้าเอาไปสี่ส่วน พวกเราสามคนขอคนละสองส่วน เป็นอย่างไร?”คิดไม่ถึงว่าหลังจากอวิ๋นฝูหลิงได้ยินกลับส่ายศีรษะพระชายาองค์ชายห้าคิดว่านางไม่พอใจเรื่องส่วนแบ่ง ก็คิดว่าตัวเองเสียเปรียบแล้ว และกำลังจะพูด ทว่ากลับคาดไม่ถึงว่าอวิ๋นฝูหลิงจะกล่าวออกมาก่อน“พวกท่านแบ่งกันเช่นนี้ ตัวเองจะเสียเปรียบเกินไป”“เอาเช่นนี้เถอะ ร้านของพี่สะใภ้ห้าอยู่บนถนนชิงหลวน คิดว่ามูลค่าย่อมไม่น้อยกว่าห้าพันตำลึง พี่สะใภ้ห้าใช้ร้านนั้นเป็นการลงทุนก็พอ”“พี่เจี่ยงกับพี่วั่นก็ทำตามที่พวกท่านว่า ออกทุนคนละห้าพันตำลึง”“ข้าจะลงทุนสองพันตำลึง และจะจัดการเรื่องช่องทางการจัดการสินค้าทั้งหมด ทั้งยังรับรองด้วยว่าทั้งแคว้นต้าฉีจะมีเพียงร้านของพวกเราที่ได้รับสินค้า”“กำไ

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 416

    นางคิดว่าร้านนี้ทำเลและสภาพแวดล้อมดี หากอวิ๋นฝูหลิงชอบ นางก็สามารถเอาร้านนี้มาเป็นทุนได้ร้านค้าของพระชายาองค์ชายห้าไม่ได้อยู่หน้าถนน แต่ต้องเดินเข้าไปช่วงหนึ่งทว่าถนนสายนี้ก็มีความรุ่งเรือง แม้ตำแหน่งร้านค้าของพระชายาองค์ชายห้าจะมิได้ดีที่สุดบนถนนเส้นนี้ แต่ก็ถือว่าดีมากทีเดียวทั้งร้านค้ามีห้าประตู พื้นที่กว้างขวางมากอวิ๋นฝูหลิงเข้ามา ก็เห็นชั้นไม้จำนวนมากตั้งอยู่ในโถงหลักชั้นหนึ่งอวิ๋นฝูหลิงได้ยินว่าก่อนหน้านี้ที่นี่เป็นร้านค้าผ้า จึงเดาว่าชั้นไม้เหล่านี้คงใช้เพื่อเก็บผ้าร้านค้าน่าจะทำความสะอาดแล้ว จึงสะอาดมากอวิ๋นฝูหลิงเดินจากชั้นหนึ่งไปถึงชั้นสาม ทั้งยังไปดูในสวนด้านหลังคราหนึ่ง ร้านนี้ควรออกแบบตกแต่งอย่างไร ในหัวก็มีความคิดไว้แล้วอวิ๋นฝูหลิงพกดินสอถ่านกับกระดาษติดตัวมาด้วย ตอนนี้จึงหาโต๊ะเก้าอี้ และร่างแบบสองสามภาพออกมาโดยพลันพระชายาองค์ชายห้ามองอวิ๋นฝูหลิงถือสิ่งที่เหมือนถ่านสีดำแท่งหนึ่งในมือ วาดเขียนลงบนกระดาษเพียงขีดเขียนไม่กี่ครั้ง องค์ประกอบภายในร้านค้าก็ปรากฏบนกระดาษ จนอดไม่ได้ที่จะเบิกตากว้างอย่างประหลาดใจเจี่ยงซื่อซึ่งอยู่ด้านข้าง เมื่อเห็นภาพของอวิ๋น

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 417

    วั่นซื่อเพิ่งจะเผยสีหน้าตระหนักได้ออกมาในใจอดไม่ได้ที่เลื่อมใสอวิ๋นฝูหลิงเป็นอย่างยิ่งพระชายาอี้อ๋องมีวิธีการหาเงินเช่นนี้ ช่างเก่งกาจจริงๆ!ทั้งสี่คนนั่งพูดคุยกันครู่หนึ่งส่วนใหญ่เป็นอวิ๋นฝูหลิงที่พูด ขณะที่พวกพระชายาองค์ชายห้าฟัง โดยที่บางครั้งก็เสริมความเห็นของพวกนางบ้างเวลาล่วงเลยมาถึงช่วงบ่าย อวิ๋นฝูหลิงก็ตัดสินใจเรื่องการตกแต่งร้านค้า ทั้งยังวาดแบบร่างเสร็จแล้วด้วยเรื่องการตกแต่ง อวิ๋นฝูหลิงไม่มีเวลามาคอยดูด้วยตัวเองพวกพระชายาองค์ชายห้าทั้งสามคนจึงรับหน้าที่นี้ไปหลังจากเสร็จธุระ ทั้งสี่คนก็หาร้านอาหารใกล้ ๆ เพื่อกินข้าวด้วยกัน ทั้งยังนับว่าเป็นการฉลองการร่วมมือกันทำการค้าของพวกนางด้วยหลังมื้ออาหาร ทั้งสี่คนก็กลับไปที่จวนของตนหลังจากอวิ๋นฝูหลิงกลับมาถึงจวนอี้อ๋อง ก็เพิ่งนึกได้ว่าต้องส่งเหยากวงไปทางฝั่งโรงงานสบู่พรุ่งนี้สักคราหนึ่ง เพื่อให้สวี่ตงเตรียมพวกสบู่หอมและครีมบำรุงผิวกายไว้ห้าสิบชิ้น และส่งไปที่จวนองค์ชายห้าพวกสบู่หอมห้าสิบชิ้นนี้ เป็นของที่ให้พระชายาองค์ชายห้านำไปประชาสัมพันธ์ในแวดวงของสตรีสูงศักดิ์พระชายาองค์ชายห้าถนัดเรื่องร่ายรำด้วยแขนเสื้อยาว แล

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 418

    “สกุลอวิ๋นหมายความว่าอย่างไรกัน?”“การประชุมใหญ่แวดวงแพทย์ในครั้งนี้ยังจะจัดอยู่หรือไม่?”“ได้ยินว่าการประชุมใหญ่แวดวงแพทย์ในครั้งนี้ จัดขึ้นโดยคุณหนูใหญ่สกุลอวิ๋น”“แค่เด็กสาวคนเดียว จะรับหน้าที่สำคัญเช่นนี้ได้อย่างไร?”“การประชุมใหญ่แวดวงแพทย์เป็นประเพณีซึ่งสืบทอดมาตั้งแต่รุ่นนายท่านผู้เฒ่าอวิ๋น วันนี้ไม่ใช่ว่าจะถูกทำลายด้วยมือของเด็กสาวผู้นั้นหรือ?”ขณะที่ทุกคนพูดคุยซุบซิบกันอย่างสนุกปาก ทันใดนั้นประตูใหญ่ของอวิ๋นเทียนย่วนก็ถูกคนเปิดออกมาจากด้านในอย่างกะทันหันอวิ๋นฝูหลิงสวมชุดสีม่วงอ่อน มีเครื่องประดับไข่มุกหลายชิ้นอยู่บนศีรษะ ทั้งตัวนางดูสง่างามและสูงศักดิ์เหยากวงถือดาบในมือ ยืนสงบอยู่ด้านข้าง อยู่ในท่าทางปกป้องเงียบ ๆโอวหยางหมิงพาทั้งเด็กและผู้อาวุโสของสกุลโอวหยางมา ขณะที่นายท่านผู้เฒ่าหางพาทุกคนในสกุลหางมา ทั้งยังมีพวกสวินเส้าคังและลูกศิษย์สกุลอวิ๋นทุกคน ซึ่งต่างยืนอยู่ด้านหลังอวิ๋นฝูหลิงกวาดตามองแล้ว ก็พบกับผู้คนจำนวนมากนอกประตูอวิ๋นเทียนย่วน ฝูงชนที่เดิมทียังส่งเสียงเจื้อยแจ้ว เงียบลงโดยพลันเห็นพวกโอวหยางหมิงซึ่งต่างยืนอยู่ด้านหลังอวิ๋นฝูหลิง ด้วยท่าทางสนับสนุน

Bab terbaru

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 620

    เทียนเฉวียนได้ยินเช่นนั้นก็เข้าใจทันทีว่าท่านอ๋องคิดจะนั่งรอลาภลอยในเมื่อเวินเจาผู้นั้นเป็นนายน้อยเผ่าเยว่ สถานะในเผ่าเยว่ก็ย่อมไม่ธรรมดาหลังจากคนแคว้นเยว่เหล่านั้นรู้ข่าวว่าเวินเจาถูกจับตัวมา จะต้องคิดหาวิธีมาช่วยเขาออกไปเป็นแน่เทียนเฉวียนไปทำตามคำสั่งของเซียวจิ่งอี้ทันทีทว่าหลังจากรอมาสามวัน ก็ยังไม่มีการเคลื่อนไหวจากทางด้านเวินเจาแม้แต่น้อยเซียวจิ่งอี้ตระหนักได้ว่าตัวเองเจอคู่ต่อสู้เข้าแล้วราชครูแคว้นเยว่หลบหนีเก่งมาก ทำให้ยามนี้เขารู้สึกจนปัญญาอยู่บ้างหากพูดตามหลักการแล้ว คนแคว้นเยว่เหล่านั้นต้องการฟื้นฟูแคว้น ตัวตนของเวินเจาซึ่งมีสายเลือดราชวงศ์ จึงทำให้พวกเขามีเหตุผลอันชอบธรรมมิเช่นนั้นอาศัยเพียงราชครูผู้นั้น คนแคว้นเยว่ที่เหลือจะเชื่อฟังคำสั่งเขาได้อย่างไร?ทว่าหลังจากผ่านไปนาน คนแคว้นเยว่เหล่านั้นกลับไม่มีท่าทีว่าจะมาช่วยเวินเจาแม้แต่น้อยนี่หมายความว่ามองแผนของเขาออกใช่หรือไม่? หรือคิดว่ายามนี้ไม่ใช่จังหวะที่ดีในการช่วยเหลือ จึงกำลังวางแผนและเฝ้าดูอยู่?หรือคนแคว้นเยว่ยอมแพ้เรื่องนายน้อยเวินเจาผู้นี้แล้ว?เซียวจิ่งอี้คิดไปคิดมา ก็รู้สึกว่าเป็นไปไม่ได้ที่คนแ

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 619

    ทหารชั้นผู้น้อยคนนั้นได้กลิ่นเลือดจาง ๆ สายหนึ่งกลิ่นเลือดจางมาก จนแทบไม่ได้กลิ่นแต่เขาเกิดมาพร้อมจมูกที่อ่อนไหวต่อกลิ่น แค่เพียงกลิ่นจาง ๆ ก็สามารถได้กลิ่นเช่นกันทหารชั้นผู้น้อยรีบเดินหลายก้าว ไล่ตามสือจ่างซึ่งเป็นผู้นำไปยามนี้สือจ่างเดินออกมาจากเรือนแล้ว ทหารชั้นผู้น้อยรีบเดินไปตรงหน้าสือจ่าง และกระซิบไม่กี่ประโยคก้นบึ้งในดวงตาของสือจ่างฉายแววประหลาดใจ และหันกลับไปมองลานบ้านด้านหลังในลานบ้าน ชายวัยกลางคนกับหญิงสาวผู้งดงามเห็นว่าในที่สุดทหารก็ตรวจค้นเสร็จแล้ว จึงถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกใครจะรู้ว่ายังไม่ทันถอนหายใจเสร็จ ประตูเรือนกลับถูกคนพังเปิดเข้ามาอย่างกะทันหันกลุ่มทหารที่เข้ามาตรวจค้นก่อนหน้านี้บุกเข้ามาอีกครั้งชายวัยกลางคนเห็นเช่นนั้นก็ใจเต้นแรง แต่บนใบหน้ากลับยังสงบ และก้าวออกมาด้วยรอยยิ้มคาดไม่ถึงว่าเขายังไม่ทันได้เอ่ยปาก สือจ่างผู้นั้นซึ่งเป็นหัวหน้าก็ผลักเขาไปด้านข้าง ก่อนออกคำสั่งเสียงเคร่งขรึมว่า “ค้นหาทั้งในและนอกเรือนใหม่อีกครั้ง ค้นให้ละเอียด!”ทหารทุกคนตอบรับ และแยกย้ายไปค้นหาอีกครั้งทันทีทหารชั้นผู้น้อยซึ่งประสาทรับกลิ่นไวยืนอยู่ที่เดิม จมูกขยับฟ

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 618

    “ขอรับ” เทียนซูรับคำสั่งก่อนจะถอยออกไปผ่านไปไม่นาน เทียนซูก็กลับมา“ท่านอ๋อง ผู้ดูแลหอจินอวี้กับพนักงานยืนยันศพกันหมดแล้วขอรับ แน่ใจแล้วว่าเป็นคนที่อยู่ข้างตัวราชครูแคว้นเยว่ผู้นั้น”เซียวจิ่งอี้ใคร่ครวญครู่หนึ่ง ก่อนถามว่า “คนผู้นี้ถูกจับได้ที่ใด?”“ถูกจับที่ตรอกหูลู่ซึ่งอยู่ทางตอนเหนือของเมืองขอรับ” เทียนซูตอบกลับเซียวจิ่งอี้กล่าวทันที “ไปเอาแผนที่จินโจวมา”ผ่านไปไม่นาน แผนที่จินโจวก็ถูกแขวนขึ้นเซียวจิ่งอี้เดินไปข้างหน้าแผนที่ หาตำแหน่งตรอกหูลู่บนแผนที่เขายื่นมือออกไปแตะบนแผนที่ หลังจากนั้นก็วงขอบเขตโดยประมาณและกล่าวว่า“ถ่ายทอดคำสั่ง ให้คนไปค้นหาทุกซอกทุกมุมของตรอกหูลู่”คนผู้นั้นที่ถูกจับได้ ย่อมไม่ปรากฏตัวที่ตรอกหูลู่โดยไม่มีสาเหตุบางทีสถานที่ซ่อนตัวของพวกเขา อาจจะอยู่ใกล้ตรอกหูลู่นอกจากนี้คนผู้นั้นที่ถูกจับได้ ยังกัดลิ้นปลิดชีพตัวเอง ไม่ให้ความหวังตัวเองว่าจะมีชีวิตรอดเลย เห็นได้ชัดว่าทำเพื่อปกป้องใครบางคนดูท่าคนรอบกายราชครูแคว้นเยว่ผู้นั้นจะจงรักภักดีเป็นอย่างยิ่งการเดินทางมาจินโจวครั้งนี้ของเขา ไม่แน่คนข้างกายที่พามาอาจจะล้วนเป็นคนสนิททั้งสิ้นหากคนสนิทเห

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 617

    จิตรกรฝีมือดีเช่นนี้ เหตุใดจึงถูกเซียวจิ่งอี้เชิญไปได้ง่าย ๆยิ่งไปกว่านั้นจิตรกรฝีมือดีเหล่านั้นก็ยังไม่เคยเห็นพวกท่านจอมปราชญ์เหวินมาก่อน เหตุใดจึงสามารถวาดภาพเหมือนจากความว่างเปล่าให้เหมือนพวกเขาโดยสมบูรณ์ได้?นอกจากนี้ท่านจอมปราชญ์เหวินอยู่ที่จินโจวมานานแล้ว แต่ไม่เคยได้ยินว่าในจินโจวมีจิตรกรชื่อดังอันใดเลยตั้งแต่เขาหลบหนีจากหอจินอวี้มาจนถึงตอนนี้ ก็ยังผ่านไปไม่พ้นครึ่งวันเสียด้วยซ้ำภายในระยะเวลาอันสั้นถึงเพียงนี้ เหตุใดจึงมีคนที่สามารถวาดภาพพวกเขาออกมาได้มากมายเช่นนี้?ในใจท่านจอมปราชญ์เหวินไม่อยากจะเชื่อแต่เห็นผู้ใต้บังคับบัญชาพูดจาหนักแน่น เขาก็ไม่กล้าคิดไปเองมากเกินไปไม่รู้เพราะเหตุใด เขามักรู้สึกว่าเรื่องที่เกี่ยวข้องกับเซียวจิ่งอี้ จะมีความแปลกประหลาดมากเสมอบางทีอาจมีคนมากความสามารถอยู่ข้างกายเซียวจิ่งอี้จริง ๆ ซึ่งสามารถวาดภาพเหมือนออกมาได้เหมือนจริงโดยสมบูรณ์ โดยที่อาศัยเพียงคำอธิบายไม่กี่ประโยคยามนี้คนเหล่านี้ที่อยู่ข้างกายเขา ต่างเป็นคนที่เคยปรากฏตัวที่หอจินอวี้หากข้างกายเซียวจิ่งอี้มีจิตรกรฝีมือดีอยู่จริง ๆ เกรงว่าคนเหล่านี้ที่อยู่ข้างกายเขา คงล้วนถูกวาด

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 616

    ท่านจอมปราชญ์เหวินได้แต่แสร้งทำเป็นผ่านทางมา และรีบพาคนจากไปยามที่ออกมาจากหอจินอวี้ ท่านจอมปราชญ์เหวินก็ถอดหน้ากากออกการสวมหน้ากากเดินบนท้องถนน จะยิ่งดึงดูดความสนใจหลังจากถอดหน้ากาก รูปลักษณ์ของเขาก็ไม่ได้โดดเด่นมากนัก ในฝูงชนจึงแทบไม่มีใครสังเกตเห็นเมื่อคิดว่าแผนการของตนล้มเหลว จนถูกเซียวจิ่งอี้ไล่ล่าราวกับสุนัขไร้บ้านตัวหนึ่ง อีกทั้งนายน้อยเผ่าเยว่เป็นหรือตายก็ไม่อาจรู้ได้ ในใจท่านจอมปราชญ์เหวินจึงหดหู่เป็นอย่างยิ่งเป็นความผิดของเซียวจิ่งอี้!ท่านจอมปราชญ์เหวินรู้สึกราวกับว่าเซียวจิ่งอี้เกิดมาเพื่อเป็นหายนะของเขาเขาวางแผนจัดการเซียวจิ่งอี้หลายครั้ง แต่ก็ถูกอีกฝ่ายหลบเลี่ยงได้ทุกครั้งเมื่อเขาคิดจะฉวยโอกาสสร้างความวุ่นวายให้แคว้นต้าฉี ก็จะถูกเซียวจิ่งอี้ทำลายแผนการเสมอยามนี้เมื่อนึกถึงเซียวจิ่งอี้ ท่านจอมปราชญ์เหวินก็โกรธจนกัดกรามในช่วงระยะเวลาสั้น ๆ นี้ เขายังไม่มีกำลังที่จะโต้กลับได้รอก่อนเถอะรอให้เขากลับไปที่เมืองหลวง ก็จะสามารถอาศัยอำนาจขององค์ชายสาม จัดการเซียวจิ่งอี้ให้สิ้นซาก!ท่านจอมปราชญ์เหวินกัดฟัน ขณะที่สีหน้ามืดครึ้มผ่านไปครู่หนึ่ง ในที่สุดท่านจอมป

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 615

    อวิ๋นฝูหลิงยังจำเรื่องที่เซียวจิ่งอี้ขอให้นางวาดภาพเหมือนได้หลังจากพบเซียวจิ่งอี้ ทั้งสองคนก็ไปยังคุกที่ขังผู้ดูแลกับพนักงานของหอจินอวี้ไว้เมื่อพูดถึงแขกผู้มีเกียรติบนชั้นสามของหอจินอวี้ ผู้ดูแลกับพนักงานของหอจินอวี้ก็ต่างจดจำได้เป็นอย่างดีชั้นสามของหอจินอวี้ ไม่ใช่ว่าใครต่างก็มีสิทธิ์ขึ้นไปได้นี่เป็นอุบายที่หอจินอวี้โยนออกมา เป็นวิธีดึงดูดลูกค้าเพื่อสร้างกำไรแบบหนึ่งผู้ที่สามารถขึ้นไปชั้นสามของหอจินอวี้ได้ หมายความว่าเป็นคนที่มีสถานะและทักษะการพนันสูงแต่กลุ่มของท่านจอมปราชญ์เหวิน กลับเป็นเวินเจาพาขึ้นไปด้วยตัวเองนับตั้งแต่เวินจือเหิงนอนป่วยติดเตียง อำนาจทั้งหมดของสกุลเวินก็ตกไปอยู่ในมือของเวินเจาเวินเจาพาคนไปพักอยู่ที่ชั้นสามของหอจินอวี้ ทั้งยังบอกให้ปรนนิบัติกลุ่มของท่านจอมปราชญ์เหวิน เหล่าคนของหอจินอวี้ย่อมไม่กล้าไม่เชื่อฟังไม่ว่าจะเป็นผู้ดูแลของหอจินอวี้ หรือพนักงาน ยามนี้เมื่อถูกขังอยู่ในคุก ทุกคนก็หวาดกลัวอยู่ตลอดเมื่อเห็นการสืบสวนก่อนหน้านี้ของเซียวจิ่งอี้ คนเหล่านี้เพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเอง และออกไปจากคุกโดยเร็ว ทุกคนต่างก็แย่งชิงกันเป็นคนแรกเพราะกล

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 614

    “พี่สาม ทางด้านเมืองหลวงมีข่าวคราวบ้างหรือไม่?”“พวกท่านปู่โอวหยางคิดค้นเทียบยาใหม่ที่ใช้รักษาผู้ที่ป่วยเพราะขี้ผึ้งทองได้แล้วหรือไม่?”หลังจากค้นพบขี้ผึ้งทอง อวิ๋นฝูหลิงก็ดึงพวกรองเจ้าสำนักโอวหยางกับหมอหลวงจงมาร่วมศึกษาด้วยกัน ทั้งยังเขียนจดหมายส่งให้นายท่านผู้เฒ่าหาง รวมถึงส่งข้อมูลที่เกี่ยวกับชีพจรและการรักษาให้เขาด้วยแม้เมืองหลวงกับจินโจวจะเป็นสถานที่ที่ได้รับผลกระทบจากขี้ผึ้งทองมากที่สุด แต่ก็ไม่อาจรับประกันได้ว่าที่อื่นจะไม่ได้รับผลกระทบถึงอย่างไรการค้าของแคว้นต้าฉีก็เจริญรุ่งเรืองมาก จากใต้ขึ้นเหนือมีพ่อค้ามากมาย บางทีอาจจะมีคนที่เดินทางระหว่างเมืองหลวงกับจินโจว ซื้อขี้ผึ้งทองติดไปด้วยสองสามกล่องก็เป็นได้อวิ๋นฝูหลิงคิดว่านางออกจากเมืองหลวงมาหลายวันถึงเพียงนี้ ไม่รู้ว่าทางด้านเมืองหลวงจะมีความคืบหน้าใหม่อันใดบ้างตั้งแต่อวิ๋นฝูหลิงกลับมาถึงจินโจว ก็ยุ่งอยู่กับการรักษาผู้ป่วยมาโดยตลอด หางซานสุ่ยจึงไม่มีโอกาสได้พูดคุยเป็นการส่วนตัวกับนางตอนนี้เมื่อเห็นว่าอวิ๋นฝูหลิงเป็นฝ่ายถามขึ้นมา หางซานสุ่ยก็นับว่ามีโอกาสแล้วเขาหยิบจดหมายสองสามฉบับออกมาจากในโต๊ะ“จดหมายพวกนี้ถูกส่ง

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 613

    แม้ว่าราชครูแคว้นเยว่จะหนีไปแล้ว แต่เขาอยู่ที่หอจินอวี้ตั้งหลายวัน จึงมักจะมีช่วงเวลาที่ผ่อนคลายจนเปิดเผยใบหน้าที่แท้จริงแม้เขาจะใช้หน้ากากปิดบังใบหน้าอยู่เสมอ จึงไม่มีใครเคยเห็นใบหน้าที่แท้จริง แต่ก็เป็นไปไม่ได้ที่คนรอบตัวเขาทุกคนจะสวมหน้ากากกระมัง?เริ่มต้นไล่ไปจากผู้ใต้บังคับบัญชา บางทีอาจจะค้นพบสิ่งใหม่ ๆ ก็เป็นได้เซียวจิ่งอี้ตัดสินใจไต่สวนผู้ดูและกับพนักงานเหล่านั้นของหอจินอวี้ยังมีทักษะการวาดภาพเหมือนอันยอดเยี่ยมของอวิ๋นฝูหลิง จะต้องจับพวกปลาซิวปลาสร้อยพวกนั้นได้เป็นแน่แม้ว่ากลุ่มของราชครูแคว้นเยว่จะฉวยโอกาสวางเพลิงเพื่อหนีออกไปจากหอจินอวี้ แต่ประตูเมืองจินโจวก็ปิดอยู่ ยามนี้พวกเขาคงยังซ่อนตัวอยู่ในเมืองนอกจากนี้ มีบางสิ่งที่ต้องจัดการด้วยเช่นกันเซียวจิ่งอี้ยืนอยู่หน้าประตูสำนักผิงอัน หันกลับมามองอวิ๋นฝูหลิงที่กำลังยุ่งคราหนึ่งเพียงชั่วครู่เดียว เขาก็พลิกร่างขึ้นหลังม้า มุ่งตรงไปยังที่ว่าการเมืองจินโจวครึ่งชั่วยามต่อมา มีประกาศใบหนึ่งถูกนำมาติดไว้ที่ประตูที่ว่าการทั้งยังมีคนตีฆ้องจากที่ว่าการ อ่านเนื้อหาในประกาศไปทั่วเมืองประกาศนี้กล่าวถึงอันตรายของขี้ผึ้งทอง

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 612

    “ข้าอยากจับคนร้ายที่กระทำความผิด ให้ได้แบบคาหนังคาเขา”“แต่ไม่คิดเลยว่าคนผู้นั้นจะโหดเหี้ยมถึงขั้นเสียสติ ตั้งใจวางเพลิงในหอจินอวี้ เพื่อหลบหนีการไล่ล่า”“เป็นเพราะข้าไม่รอบคอบ ทำให้ผู้บริสุทธิ์ทุกคนต้องตกอยู่ในอันตราย”“วันนี้ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บเพราะเหตุเพลิงไหม้ที่หอจินอวี้ ค่ารักษาและค่ายาข้าจะจ่ายให้เอง”“นอกจากนี้ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย จะได้รับห้าตำลึง ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บหนักจะได้รับสิบตำลึง”“ได้ยินว่ามีสองคนที่ถูกไฟไหม้จนบาดเจ็บสาหัส สองคนนี้จะได้รับยี่สิบตำลึง”“เงินเหล่านี้ถือเป็นน้ำใจเล็กน้อยจากข้า ที่อยากจะรักษาร่างกายเหล่าผู้บาดเจ็บ”“ข้าจะให้คนนำเงินมามอบให้ในภายหลัง!”ผู้บาดเจ็บทุกคนได้ยินเช่นนั้น ความไม่พอใจที่สุมอยู่ในอกก็หายไปกว่าครึ่งทันทีตอนนี้เมื่อย้อนคิดดูแล้ว เมื่อคืนยามที่หอจินอวี้ถูกปิดล้อม ผู้นำคนนั้นก็บอกว่าทำเพื่อสืบคดีบางอย่างจริง ๆคิดดูอีกครายามนั้นที่เกิดเพลิงไหม้ ทหารเหล่านั้นก็มิได้บังคับขังพวกเขาไว้ในหอจินอวี้ ทว่ากลับรีบเข้ามาในหอเพื่อดับไฟช่วยคนหากไม่ใช่เพราะเหตุนี้ เกรงว่าพวกเขาคงไม่ใช่แค่ได้รับบาดเจ็บ แต่กว่าครึ่งคงตายตกไปในเหตุเพ

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status