Share

บทที่ 408

Penulis: หลันซานอวี่
แม้สกุลเว่ยไม่มีอิทธิพลเหมือนเมื่อก่อนแล้ว กลับยินดีออกหน้าแทนอวิ๋นฝูหลิง ช่วยนางอีกแรง

แม้ต่อมาอวิ๋นฝูหลิงไม่ได้ให้สกุลเว่ยออกหน้า ก็จัดการอวิ๋นกานซงได้แล้ว แต่จดจำน้ำใจส่วนนี้ไว้ในใจมาโดยตลอด

ยิ่งไม่ต้องพูดถึงต่อมาฉินฮุ่ยได้รับข่าวจากเมืองหลวง ตั้งใจเขียนจดหมายให้อวิ๋นฝูหลิง และยังส่งของมากมายให้นาง

อวิ๋นฝูหลิงสามารถเอารายการสินสอดของมารดาอวิ๋นคืนมา และขับไล่อวิ๋นกานซงออกไปได้ ก็ต้องขอบคุณฉินฮุ่ย

ดังนั้นอวิ๋นฝูหลิงจึงยินดีที่มีญาติอย่างจวนเว่ยกั๋วกง และไปมาหาสู่กับพวกเขา

ยิ่งกว่านั้นสถานการณ์ของจวนเว่ยกั๋วกงในปัจจุบันนับไม่ได้ว่าดีนัก อวิ๋นฝูหลิงก็ตั้งใจจะช่วยพวกเขาสักครั้ง

ปัจจุบันฮูหยินผู้เฒ่าเว่ยเหลือลูกชายสองคน

นายท่านสามเกิดจากอนุภรรยา แต่มารดาผู้ให้กำเนิดเสียชีวิตตอนคลอด ถูกเลี้ยงโดยฮูหยินผู้เฒ่าเว่ยตั้งแต่เด็ก สองแม่ลูกมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้ง ไม่ใช่ลูกแท้ๆ ก็เหมือนลูกแท้ๆ

แต่พรสวรรค์และความสามารถของนายท่านสามนั้นอยู่ในระดับทั่วไป ปัจจุบันรับหน้าที่ดูแลงานทั่วไปของจวนเว่ยกั๋วกง

ส่วนนายท่านสี่เป็นลูกแท้ๆ ของฮูหยินผู้เฒ่าจวนเว่ยกั๋วกง แม่เรียนหนังสือสอบติดบัณฑิตชั้นสูง
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Bab Terkunci

Bab terkait

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 409

    “ฝูหลิง ของที่เจ้าทำพวกนี้ ตั้งใจจะเอาไปขายใช่หรือไม่?” เซียวจิ่งอี้กล่าวถามอวิ๋นฝูหลิงพยักหน้า ไม่ได้ปิดบังเซียวจิ่งอี้อีก“ข้าตั้งใจว่าจะเปิดร้านค้า ขายของพวกบำรุงผิวและความงามโดยเฉพาะ ท่านคิดว่าอย่างไร?”เซียวจิ่งอี้ “ข้ารู้สึกว่าใช้ได้”“ของพวกนี้ไม่มีในท้องตลาด การค้าขายที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวทำง่ายที่สุด”“อีกทั้งทุกคนล้วนรักสวยรักงาม ต้องมีคนมากมายยินดีอุดหนุนการค้าของเจ้าแน่นอน”เมื่ออวิ๋นฝูหลิงได้ยิน ยิ่งมีความมั่นใจแล้ว“ข้าอยากหาคนสองสามคนมาร่วมทำการค้านี้ นิสัยใจคอของเจี่ยงซื่อฮูหยินน้อยรองจวนเซียงกั๋วกง กับวั่นซื่อฮูหยินสามของจวนตงชางปั๋วที่ให้ท่านช่วยหาข่าวก่อนหน้านี้เป็นอย่างไร ท่านได้ข่าวมาหรือไม่?”เซียวจิ่งอี้เลิกคิ้ว “เจ้าอยากร่วมหุ้นกับพวกนาง?”อวิ๋นฝูหลิงกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ยังมีพระชายาองค์ชายห้าด้วย เจอกันในงานเลี้ยงชมบุปผาขององค์หญิงใหญ่ฉางเล่อ ข้ารู้สึกถูกชะตากับพวกนาง แต่ร่วมหุ้นทำการค้าด้วยกัน จะดูแค่ถูกชะตาหรือไม่ถูกชะตาไม่ได้”“ดังนั้นตอนนี้ยังอยู่ในระหว่างพิจารณา”เซียวจิ่งอี้คิดแล้วคิดอีก “ข้าสั่งให้คนไปตรวจสอบแล้ว ชื่อเสียงของเจี่ยงซื่อกับวั่นซื่

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 410

    อวิ๋นฝูหลิงคิดไม่ถึงว่าในมือเซียวจิ่งอี้ก็มีคาราวานพ่อค้ากลุ่มหนึ่งด้วยพูดถึงขั้นนี้แล้ว เซียวจิ่งอี้ก็ไม่คิดจะปิดบังอีก กล่าวตรงๆ “ในมือข้ามีคาราวานพ่อค้ากลุ่มหนึ่ง เป็นพ่อค้าคนกลาง ทำการค้ากับชาวเป่ยหมานและชาวตะวันตกโดยเฉพาะ”“เมื่อก่อนทำการค้าประเภทผ้าไหมและใบชา”“แม้ภายใต้ชื่อของข้ามีกิจการไม่น้อย แต่ค่าใช้จ่ายก็สูงเช่นกัน อย่างไรก็ต้องหาวิธีหารายได้เสริมหน่อย”เมื่ออวิ๋นฝูหลิงเห็นเซียวจิ่งอี้เปิดใจ และเขาทำการค้าชายแดน ก็ไม่ส่งผลกระทบต่อการเปิดร้านค้าในต้าฉีของตน จึงพยักหน้ากล่าว “ได้ เช่นนั้นข้าแค่รับผิดชอบจัดหาสินค้า ส่วนท่านจะขายที่ชายแดนอย่างไร ขายเท่าไร ข้าไม่สนใจ”เซียวจิ่งอี้จับมืออวิ๋นฝูหลิงมาจูบเบาๆ ทีหนึ่ง“ขอบคุณพระชายาที่ยินดีให้ข้าร่วมหาเงินด้วย”อวิ๋นฝูหลิงทุบหน้าอกของเขาด้วยรอยยิ้มทีหนึ่ง “อย่ามาเล่นลิ้น”“ของที่ข้าให้ท่านดูในวันนี้ ล้วนเป็นของที่ข้าใช้เวลาหลายวันกว่าจะทำออกมาได้”“ถ้าจัดหาสินค้าให้ท่าน ประกอบกับเปิดร้านค้าในเมืองหลวงก่อน จำนวนการผลิตไม่น้อยแน่นอน”“ข้าต้องหาสถานที่ตั้งโรงงานก่อน และยังต้องหาแรงงาน…”กล่าวถึงตรงนี้ จู่ๆ อวิ๋นฝูหลิงก็นึกถ

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 411

    เซียวจิ่งอี้ได้ยินว่ามีผู้หญิงหายไปอย่างต่อเนื่องในเมืองหลวง เมื่อวานเป็นคดีที่สามแล้ว ก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วแม้ว่าคดีนี้ผู้ตรวจการเมืองจะเป็นคนสืบสวน แต่กองกำลังรักษาความสงบรับผิดชอบหน้าที่ดูแลเมืองหลวงอยู่ หลังการตรวจสอบอย่างจริงจัง พบว่านี่คือการละเว้นหน้าที่ของกองกำลังรักษาความสงบเซียวจิ่งอี้เป็นผู้บัญชาการของกองกำลังรักษาความสงบ ย่อมถือว่าอยู่ในความรับผิดชอบของตนเขาคุยกับอวิ๋นฝูหลิง และพาคนไปหาผู้ตรวจการเมือง เพื่อช่วยในการสืบสวนเมื่ออวิ๋นฝูหลิงได้รู้เรื่องที่มีคนหายตัวไปอย่างต่อเนื่องที่เมืองหลวงในช่วงนี้ ก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วใต้พระบาทฮ่องเต้ ผู้ใดกล้ามาเหิมเกริมถึงเพียงนี้?ไม่กี่วันต่อมา เซียวจิ่งอี้ก็ออกจากจวนแต่เช้าและกลับมามืดค่ำไม่รู้เป็นเพราะเซียวจิ่งอี้เสริมการลาดตระเวนในเมืองหลวงหรือไม่ ทำให้คนร้ายที่อยู่เบื้องหลังหวาดกลัว ไม่กล้าลงมือต่อ คดีสตรีหายตัวไปในเมืองหลวงจึงไม่เกิดขึ้นอีกทว่าสตรีเหล่านั้นที่หายตัวไปก่อนหน้านี้ กลับหาตัวไม่พบเช่นกันแม้แต่เบาะแส ก็ยังมีน้อยจนน่าเวทนาคดีคนหายตัวไปมาถึงทางตันแล้วด้วยเหตุนี้ เซียวจิ่งอี้จึงโกรธเกรี้ยวเป็นอย่า

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 412

    จนกระทั่งถูกเกณฑ์ทหาร จึงเพิ่งได้กินอาหารจนอิ่มเป็นครั้งแรกในกองทัพแม้การเป็นทหารจะลำบาก แต่อย่างน้อยก็ได้กินอิ่ม เพื่อที่จะได้มีอาหารกินอิ่มทุกวัน จั๋วหลินจึงไม่กลัวที่จะไปสนามรบไหนเลยจะรู้ว่าในการรบครั้งหนึ่ง เขาจะต้องสูญเสียแขนขวาไปทางราชสำนักมอบค่าทำขวัญให้เขาจำนวนหนึ่ง เพื่อให้เขาเกษียณและกลับบ้านเกิดครอบครัวที่เห็นเขากลับมา มิได้มีความยินดีที่ได้กลับมารวมตัวกัน ทว่ากลับมองแขนเสื้อที่ว่างเปล่าของเขาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความรังเกียจหลังจากรู้ว่าราชสำนักให้เงินทำขวัญเขามาก้อนหนึ่ง ก็เปลี่ยนสีหน้าโดยพลัน และถามไถ่สารทุกข์สุกดิบเขาจั๋วหลินผ่านความเป็นความตายอยู่ในสนามรบ จึงไม่ได้เป็นคนใสซื่อเหมือนเมื่อก่อน เขามีสายตาเฉียบแหลม นำค่าทำขวัญส่วนใหญ่ไปซ่อนไว้ และเอาออกมาเพียงเล็กน้อยเมื่อครอบครัวได้เงิน แม้จะเป็นมิตรต่อเขาขึ้นมาบ้าง แต่ก็ยังทดสอบทุกรูปแบบเป็นครั้งคราวแบบอ้อม ๆหลังจากแน่ใจว่าเงินของเขาถูกนำออกมาจนหมด ไม่มีเหลือซ่อนไว้แล้ว ก็เปลี่ยนไปมีท่าทีเย็นชากว่าเดิม และขับไล่เขาออกจากบ้านจั๋วหลินเห็นธาตุแท้ของญาติ ก็รู้สึกหดหู่ใจเป็นอย่างมาก จึงนำเงินส่วนนั้นที่ตัวเอ

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 413

    อวิ๋นฝูหลิงพักอยู่ที่สวนสมุนไพรหลายวัน เฝ้าดูต้นอ่อนสมุนไพรถูกปลูกลงไปทีละต้นต้นอ่อนสมุนไพรเหล่านี้ล้วนถูกอวิ๋นฝูหลิงเพาะปลูกที่สวนสมุนไพรในมิติก่อนแล้ว และใช้อุบายหลายอย่างเพื่อตบตา แสร้งทำเป็นซื้อมาจากที่อื่น ก่อนจะให้คนย้ายมาที่สวนสมุนไพรรากของต้นอ่อนสมุนไพรยังถูกปกคลุมไปด้วยดินจากมิติ ขณะที่ขนย้ายมายังสวนสมุนไพร ก็ล้วนมีพลังชีวิตเต็มเปี่ยมเมื่อปลูกลงไป และรดน้ำสักครา ก็หยั่งรากลงในดินอวิ๋นฝูหลิงตรวจสอบรอบหนึ่ง ก็พบว่าต้นอ่อนสมุนไพรทั้งหมดที่ถูกปลูกล้วนมีชีวิตอยู่รอดนางให้คำแนะนำแก่พวกจั๋วหลินเป็นพิเศษคราหนึ่ง ว่าปกติต้องดูแลต้นอ่อนสมุนไพรเหล่านี้อย่างไรทั้งยังจัดเรียงข้อมูลทั้งหมดไว้ให้จั๋วหลินด้วยหลังจากจัดการงานทางด้านสวนสมุนไพรเสร็จแล้ว อวิ๋นฝูหลิงก็กลับไปยังเมืองหลวงระหว่างเดินทางก็ไปเยี่ยมชมหมู่บ้านที่สร้างโรงงานสบู่คราหนึ่งด้วยโรงงานสบู่เพิ่งสร้างและกำลังดำเนินการอยู่ หลายวันมานี้สวี่ตงอยู่เฝ้าที่นี่มาตลอด เพื่อดูแลการทำงานในโรงงานสบู่เมื่อได้ยินว่าอวิ๋นฝูหลิงมา สวี่ตงก็รีบวางมือจากงานที่ทำอยู่ และจัดระเบียบรูปลักษณ์ ก่อนจะรีบวิ่งออกมาต้อนรับหลังจากต้อนร

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 414

    บางคนที่รู้จักสินค้า ย่อมเป็นฝ่ายมาหานางเองอวิ๋นฝูหลิงนั่งอย่างมั่นคง พลางกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “มีความคิดแล้วอย่างไร? ไม่มีความคิดแล้วอย่างไรหรือ?”พระชายาองค์ชายห้าสบตากับอวิ๋นฝูหลิงที่อมยิ้ม ก็ตระหนักขึ้นมาได้โดยพลันด้วยของที่ดีถึงเพียงนี้ ขอเพียงอาศัยอำนาจของเซียวจิ่งอี้ ย่อมสามารถทำการค้าได้แล้ว ไม่จำเป็นต้องหาผู้ร่วมธุรกิจ มาแบ่งผลประโยชน์เลยทว่าเมื่อได้ยินคำพูดเมื่อครู่ของอวิ๋นฝูหลิง ซึ่งมิได้ปฏิเสธตามตรง หมายความว่าการค้าครั้งนี้ยังสามารถเจรจากันได้ขึ้นอยู่กับว่าพวกเขาจะหยิบแต้มต่อตัวใดออกมา!มิใช่ว่าพระชายาองค์ชายห้าจะไร้ยางอาย จนต้องการตักตวงผลประโยชน์ในมือของอวิ๋นฝูหลิงไปเป็นความจริงที่องค์ชายห้าไม่มีรากฐาน คราแรกที่ออกจากวังมาอยู่ที่จวน ในวังตราบใดที่ปฏิบัติตามกฎ ก็จะได้รับเงินช่วยเหลือครอบครัวละสามแสนตำลึงองค์ชายห้ากับพระชายาองค์ชายห้ามิได้เก่งเรื่องการบริการจัดการหลายปีมานี้ก็พึ่งพิงเงินเก็บส่วนนั้นของตัวเอง รวมถึงรางวัลประจำปีจากในวังทว่าองค์ชายห้าก็เป็นองค์ชายสูงศักดิ์ผู้หนึ่ง จึงมักจะต้องเข้าสังคมบ้าง และสิ่งที่ควรใช้จ่ายก็ต้องใช้จ่ายผ่านไปปีแล้วปีเล่

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 415

    ถนนชิงหลวนเป็นถนนเส้นที่คึกคักและมีชีวิตชีวาที่สุดในเมืองบูรพาพระชายาองค์ชายห้ายินดีนำร้านค้าบนถนนชิงหลวนมาลงทุน ก็เห็นได้ถึงความจริงใจแล้วเจี่ยงซื่อกล่าวตามว่า “ข้ายินดีจ่ายห้าพันตำลึง”วั่นซื่อก็กล่าวเช่นกันว่า “ข้าก็จะจ่ายห้าพันตำลึง”หลังทั้งสองคนพูดจบ พระชายาองค์ชายห้าก็กล่าวอีกว่า “พวกเราจะลงทุนร้านค้ากับเงิน เจ้าใช้สูตรที่ทำก็พอ”“เรื่องกำไร เจ้าเอาไปสี่ส่วน พวกเราสามคนขอคนละสองส่วน เป็นอย่างไร?”คิดไม่ถึงว่าหลังจากอวิ๋นฝูหลิงได้ยินกลับส่ายศีรษะพระชายาองค์ชายห้าคิดว่านางไม่พอใจเรื่องส่วนแบ่ง ก็คิดว่าตัวเองเสียเปรียบแล้ว และกำลังจะพูด ทว่ากลับคาดไม่ถึงว่าอวิ๋นฝูหลิงจะกล่าวออกมาก่อน“พวกท่านแบ่งกันเช่นนี้ ตัวเองจะเสียเปรียบเกินไป”“เอาเช่นนี้เถอะ ร้านของพี่สะใภ้ห้าอยู่บนถนนชิงหลวน คิดว่ามูลค่าย่อมไม่น้อยกว่าห้าพันตำลึง พี่สะใภ้ห้าใช้ร้านนั้นเป็นการลงทุนก็พอ”“พี่เจี่ยงกับพี่วั่นก็ทำตามที่พวกท่านว่า ออกทุนคนละห้าพันตำลึง”“ข้าจะลงทุนสองพันตำลึง และจะจัดการเรื่องช่องทางการจัดการสินค้าทั้งหมด ทั้งยังรับรองด้วยว่าทั้งแคว้นต้าฉีจะมีเพียงร้านของพวกเราที่ได้รับสินค้า”“กำไ

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 416

    นางคิดว่าร้านนี้ทำเลและสภาพแวดล้อมดี หากอวิ๋นฝูหลิงชอบ นางก็สามารถเอาร้านนี้มาเป็นทุนได้ร้านค้าของพระชายาองค์ชายห้าไม่ได้อยู่หน้าถนน แต่ต้องเดินเข้าไปช่วงหนึ่งทว่าถนนสายนี้ก็มีความรุ่งเรือง แม้ตำแหน่งร้านค้าของพระชายาองค์ชายห้าจะมิได้ดีที่สุดบนถนนเส้นนี้ แต่ก็ถือว่าดีมากทีเดียวทั้งร้านค้ามีห้าประตู พื้นที่กว้างขวางมากอวิ๋นฝูหลิงเข้ามา ก็เห็นชั้นไม้จำนวนมากตั้งอยู่ในโถงหลักชั้นหนึ่งอวิ๋นฝูหลิงได้ยินว่าก่อนหน้านี้ที่นี่เป็นร้านค้าผ้า จึงเดาว่าชั้นไม้เหล่านี้คงใช้เพื่อเก็บผ้าร้านค้าน่าจะทำความสะอาดแล้ว จึงสะอาดมากอวิ๋นฝูหลิงเดินจากชั้นหนึ่งไปถึงชั้นสาม ทั้งยังไปดูในสวนด้านหลังคราหนึ่ง ร้านนี้ควรออกแบบตกแต่งอย่างไร ในหัวก็มีความคิดไว้แล้วอวิ๋นฝูหลิงพกดินสอถ่านกับกระดาษติดตัวมาด้วย ตอนนี้จึงหาโต๊ะเก้าอี้ และร่างแบบสองสามภาพออกมาโดยพลันพระชายาองค์ชายห้ามองอวิ๋นฝูหลิงถือสิ่งที่เหมือนถ่านสีดำแท่งหนึ่งในมือ วาดเขียนลงบนกระดาษเพียงขีดเขียนไม่กี่ครั้ง องค์ประกอบภายในร้านค้าก็ปรากฏบนกระดาษ จนอดไม่ได้ที่จะเบิกตากว้างอย่างประหลาดใจเจี่ยงซื่อซึ่งอยู่ด้านข้าง เมื่อเห็นภาพของอวิ๋น

Bab terbaru

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 620

    เทียนเฉวียนได้ยินเช่นนั้นก็เข้าใจทันทีว่าท่านอ๋องคิดจะนั่งรอลาภลอยในเมื่อเวินเจาผู้นั้นเป็นนายน้อยเผ่าเยว่ สถานะในเผ่าเยว่ก็ย่อมไม่ธรรมดาหลังจากคนแคว้นเยว่เหล่านั้นรู้ข่าวว่าเวินเจาถูกจับตัวมา จะต้องคิดหาวิธีมาช่วยเขาออกไปเป็นแน่เทียนเฉวียนไปทำตามคำสั่งของเซียวจิ่งอี้ทันทีทว่าหลังจากรอมาสามวัน ก็ยังไม่มีการเคลื่อนไหวจากทางด้านเวินเจาแม้แต่น้อยเซียวจิ่งอี้ตระหนักได้ว่าตัวเองเจอคู่ต่อสู้เข้าแล้วราชครูแคว้นเยว่หลบหนีเก่งมาก ทำให้ยามนี้เขารู้สึกจนปัญญาอยู่บ้างหากพูดตามหลักการแล้ว คนแคว้นเยว่เหล่านั้นต้องการฟื้นฟูแคว้น ตัวตนของเวินเจาซึ่งมีสายเลือดราชวงศ์ จึงทำให้พวกเขามีเหตุผลอันชอบธรรมมิเช่นนั้นอาศัยเพียงราชครูผู้นั้น คนแคว้นเยว่ที่เหลือจะเชื่อฟังคำสั่งเขาได้อย่างไร?ทว่าหลังจากผ่านไปนาน คนแคว้นเยว่เหล่านั้นกลับไม่มีท่าทีว่าจะมาช่วยเวินเจาแม้แต่น้อยนี่หมายความว่ามองแผนของเขาออกใช่หรือไม่? หรือคิดว่ายามนี้ไม่ใช่จังหวะที่ดีในการช่วยเหลือ จึงกำลังวางแผนและเฝ้าดูอยู่?หรือคนแคว้นเยว่ยอมแพ้เรื่องนายน้อยเวินเจาผู้นี้แล้ว?เซียวจิ่งอี้คิดไปคิดมา ก็รู้สึกว่าเป็นไปไม่ได้ที่คนแ

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 619

    ทหารชั้นผู้น้อยคนนั้นได้กลิ่นเลือดจาง ๆ สายหนึ่งกลิ่นเลือดจางมาก จนแทบไม่ได้กลิ่นแต่เขาเกิดมาพร้อมจมูกที่อ่อนไหวต่อกลิ่น แค่เพียงกลิ่นจาง ๆ ก็สามารถได้กลิ่นเช่นกันทหารชั้นผู้น้อยรีบเดินหลายก้าว ไล่ตามสือจ่างซึ่งเป็นผู้นำไปยามนี้สือจ่างเดินออกมาจากเรือนแล้ว ทหารชั้นผู้น้อยรีบเดินไปตรงหน้าสือจ่าง และกระซิบไม่กี่ประโยคก้นบึ้งในดวงตาของสือจ่างฉายแววประหลาดใจ และหันกลับไปมองลานบ้านด้านหลังในลานบ้าน ชายวัยกลางคนกับหญิงสาวผู้งดงามเห็นว่าในที่สุดทหารก็ตรวจค้นเสร็จแล้ว จึงถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกใครจะรู้ว่ายังไม่ทันถอนหายใจเสร็จ ประตูเรือนกลับถูกคนพังเปิดเข้ามาอย่างกะทันหันกลุ่มทหารที่เข้ามาตรวจค้นก่อนหน้านี้บุกเข้ามาอีกครั้งชายวัยกลางคนเห็นเช่นนั้นก็ใจเต้นแรง แต่บนใบหน้ากลับยังสงบ และก้าวออกมาด้วยรอยยิ้มคาดไม่ถึงว่าเขายังไม่ทันได้เอ่ยปาก สือจ่างผู้นั้นซึ่งเป็นหัวหน้าก็ผลักเขาไปด้านข้าง ก่อนออกคำสั่งเสียงเคร่งขรึมว่า “ค้นหาทั้งในและนอกเรือนใหม่อีกครั้ง ค้นให้ละเอียด!”ทหารทุกคนตอบรับ และแยกย้ายไปค้นหาอีกครั้งทันทีทหารชั้นผู้น้อยซึ่งประสาทรับกลิ่นไวยืนอยู่ที่เดิม จมูกขยับฟ

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 618

    “ขอรับ” เทียนซูรับคำสั่งก่อนจะถอยออกไปผ่านไปไม่นาน เทียนซูก็กลับมา“ท่านอ๋อง ผู้ดูแลหอจินอวี้กับพนักงานยืนยันศพกันหมดแล้วขอรับ แน่ใจแล้วว่าเป็นคนที่อยู่ข้างตัวราชครูแคว้นเยว่ผู้นั้น”เซียวจิ่งอี้ใคร่ครวญครู่หนึ่ง ก่อนถามว่า “คนผู้นี้ถูกจับได้ที่ใด?”“ถูกจับที่ตรอกหูลู่ซึ่งอยู่ทางตอนเหนือของเมืองขอรับ” เทียนซูตอบกลับเซียวจิ่งอี้กล่าวทันที “ไปเอาแผนที่จินโจวมา”ผ่านไปไม่นาน แผนที่จินโจวก็ถูกแขวนขึ้นเซียวจิ่งอี้เดินไปข้างหน้าแผนที่ หาตำแหน่งตรอกหูลู่บนแผนที่เขายื่นมือออกไปแตะบนแผนที่ หลังจากนั้นก็วงขอบเขตโดยประมาณและกล่าวว่า“ถ่ายทอดคำสั่ง ให้คนไปค้นหาทุกซอกทุกมุมของตรอกหูลู่”คนผู้นั้นที่ถูกจับได้ ย่อมไม่ปรากฏตัวที่ตรอกหูลู่โดยไม่มีสาเหตุบางทีสถานที่ซ่อนตัวของพวกเขา อาจจะอยู่ใกล้ตรอกหูลู่นอกจากนี้คนผู้นั้นที่ถูกจับได้ ยังกัดลิ้นปลิดชีพตัวเอง ไม่ให้ความหวังตัวเองว่าจะมีชีวิตรอดเลย เห็นได้ชัดว่าทำเพื่อปกป้องใครบางคนดูท่าคนรอบกายราชครูแคว้นเยว่ผู้นั้นจะจงรักภักดีเป็นอย่างยิ่งการเดินทางมาจินโจวครั้งนี้ของเขา ไม่แน่คนข้างกายที่พามาอาจจะล้วนเป็นคนสนิททั้งสิ้นหากคนสนิทเห

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 617

    จิตรกรฝีมือดีเช่นนี้ เหตุใดจึงถูกเซียวจิ่งอี้เชิญไปได้ง่าย ๆยิ่งไปกว่านั้นจิตรกรฝีมือดีเหล่านั้นก็ยังไม่เคยเห็นพวกท่านจอมปราชญ์เหวินมาก่อน เหตุใดจึงสามารถวาดภาพเหมือนจากความว่างเปล่าให้เหมือนพวกเขาโดยสมบูรณ์ได้?นอกจากนี้ท่านจอมปราชญ์เหวินอยู่ที่จินโจวมานานแล้ว แต่ไม่เคยได้ยินว่าในจินโจวมีจิตรกรชื่อดังอันใดเลยตั้งแต่เขาหลบหนีจากหอจินอวี้มาจนถึงตอนนี้ ก็ยังผ่านไปไม่พ้นครึ่งวันเสียด้วยซ้ำภายในระยะเวลาอันสั้นถึงเพียงนี้ เหตุใดจึงมีคนที่สามารถวาดภาพพวกเขาออกมาได้มากมายเช่นนี้?ในใจท่านจอมปราชญ์เหวินไม่อยากจะเชื่อแต่เห็นผู้ใต้บังคับบัญชาพูดจาหนักแน่น เขาก็ไม่กล้าคิดไปเองมากเกินไปไม่รู้เพราะเหตุใด เขามักรู้สึกว่าเรื่องที่เกี่ยวข้องกับเซียวจิ่งอี้ จะมีความแปลกประหลาดมากเสมอบางทีอาจมีคนมากความสามารถอยู่ข้างกายเซียวจิ่งอี้จริง ๆ ซึ่งสามารถวาดภาพเหมือนออกมาได้เหมือนจริงโดยสมบูรณ์ โดยที่อาศัยเพียงคำอธิบายไม่กี่ประโยคยามนี้คนเหล่านี้ที่อยู่ข้างกายเขา ต่างเป็นคนที่เคยปรากฏตัวที่หอจินอวี้หากข้างกายเซียวจิ่งอี้มีจิตรกรฝีมือดีอยู่จริง ๆ เกรงว่าคนเหล่านี้ที่อยู่ข้างกายเขา คงล้วนถูกวาด

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 616

    ท่านจอมปราชญ์เหวินได้แต่แสร้งทำเป็นผ่านทางมา และรีบพาคนจากไปยามที่ออกมาจากหอจินอวี้ ท่านจอมปราชญ์เหวินก็ถอดหน้ากากออกการสวมหน้ากากเดินบนท้องถนน จะยิ่งดึงดูดความสนใจหลังจากถอดหน้ากาก รูปลักษณ์ของเขาก็ไม่ได้โดดเด่นมากนัก ในฝูงชนจึงแทบไม่มีใครสังเกตเห็นเมื่อคิดว่าแผนการของตนล้มเหลว จนถูกเซียวจิ่งอี้ไล่ล่าราวกับสุนัขไร้บ้านตัวหนึ่ง อีกทั้งนายน้อยเผ่าเยว่เป็นหรือตายก็ไม่อาจรู้ได้ ในใจท่านจอมปราชญ์เหวินจึงหดหู่เป็นอย่างยิ่งเป็นความผิดของเซียวจิ่งอี้!ท่านจอมปราชญ์เหวินรู้สึกราวกับว่าเซียวจิ่งอี้เกิดมาเพื่อเป็นหายนะของเขาเขาวางแผนจัดการเซียวจิ่งอี้หลายครั้ง แต่ก็ถูกอีกฝ่ายหลบเลี่ยงได้ทุกครั้งเมื่อเขาคิดจะฉวยโอกาสสร้างความวุ่นวายให้แคว้นต้าฉี ก็จะถูกเซียวจิ่งอี้ทำลายแผนการเสมอยามนี้เมื่อนึกถึงเซียวจิ่งอี้ ท่านจอมปราชญ์เหวินก็โกรธจนกัดกรามในช่วงระยะเวลาสั้น ๆ นี้ เขายังไม่มีกำลังที่จะโต้กลับได้รอก่อนเถอะรอให้เขากลับไปที่เมืองหลวง ก็จะสามารถอาศัยอำนาจขององค์ชายสาม จัดการเซียวจิ่งอี้ให้สิ้นซาก!ท่านจอมปราชญ์เหวินกัดฟัน ขณะที่สีหน้ามืดครึ้มผ่านไปครู่หนึ่ง ในที่สุดท่านจอมป

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 615

    อวิ๋นฝูหลิงยังจำเรื่องที่เซียวจิ่งอี้ขอให้นางวาดภาพเหมือนได้หลังจากพบเซียวจิ่งอี้ ทั้งสองคนก็ไปยังคุกที่ขังผู้ดูแลกับพนักงานของหอจินอวี้ไว้เมื่อพูดถึงแขกผู้มีเกียรติบนชั้นสามของหอจินอวี้ ผู้ดูแลกับพนักงานของหอจินอวี้ก็ต่างจดจำได้เป็นอย่างดีชั้นสามของหอจินอวี้ ไม่ใช่ว่าใครต่างก็มีสิทธิ์ขึ้นไปได้นี่เป็นอุบายที่หอจินอวี้โยนออกมา เป็นวิธีดึงดูดลูกค้าเพื่อสร้างกำไรแบบหนึ่งผู้ที่สามารถขึ้นไปชั้นสามของหอจินอวี้ได้ หมายความว่าเป็นคนที่มีสถานะและทักษะการพนันสูงแต่กลุ่มของท่านจอมปราชญ์เหวิน กลับเป็นเวินเจาพาขึ้นไปด้วยตัวเองนับตั้งแต่เวินจือเหิงนอนป่วยติดเตียง อำนาจทั้งหมดของสกุลเวินก็ตกไปอยู่ในมือของเวินเจาเวินเจาพาคนไปพักอยู่ที่ชั้นสามของหอจินอวี้ ทั้งยังบอกให้ปรนนิบัติกลุ่มของท่านจอมปราชญ์เหวิน เหล่าคนของหอจินอวี้ย่อมไม่กล้าไม่เชื่อฟังไม่ว่าจะเป็นผู้ดูแลของหอจินอวี้ หรือพนักงาน ยามนี้เมื่อถูกขังอยู่ในคุก ทุกคนก็หวาดกลัวอยู่ตลอดเมื่อเห็นการสืบสวนก่อนหน้านี้ของเซียวจิ่งอี้ คนเหล่านี้เพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเอง และออกไปจากคุกโดยเร็ว ทุกคนต่างก็แย่งชิงกันเป็นคนแรกเพราะกล

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 614

    “พี่สาม ทางด้านเมืองหลวงมีข่าวคราวบ้างหรือไม่?”“พวกท่านปู่โอวหยางคิดค้นเทียบยาใหม่ที่ใช้รักษาผู้ที่ป่วยเพราะขี้ผึ้งทองได้แล้วหรือไม่?”หลังจากค้นพบขี้ผึ้งทอง อวิ๋นฝูหลิงก็ดึงพวกรองเจ้าสำนักโอวหยางกับหมอหลวงจงมาร่วมศึกษาด้วยกัน ทั้งยังเขียนจดหมายส่งให้นายท่านผู้เฒ่าหาง รวมถึงส่งข้อมูลที่เกี่ยวกับชีพจรและการรักษาให้เขาด้วยแม้เมืองหลวงกับจินโจวจะเป็นสถานที่ที่ได้รับผลกระทบจากขี้ผึ้งทองมากที่สุด แต่ก็ไม่อาจรับประกันได้ว่าที่อื่นจะไม่ได้รับผลกระทบถึงอย่างไรการค้าของแคว้นต้าฉีก็เจริญรุ่งเรืองมาก จากใต้ขึ้นเหนือมีพ่อค้ามากมาย บางทีอาจจะมีคนที่เดินทางระหว่างเมืองหลวงกับจินโจว ซื้อขี้ผึ้งทองติดไปด้วยสองสามกล่องก็เป็นได้อวิ๋นฝูหลิงคิดว่านางออกจากเมืองหลวงมาหลายวันถึงเพียงนี้ ไม่รู้ว่าทางด้านเมืองหลวงจะมีความคืบหน้าใหม่อันใดบ้างตั้งแต่อวิ๋นฝูหลิงกลับมาถึงจินโจว ก็ยุ่งอยู่กับการรักษาผู้ป่วยมาโดยตลอด หางซานสุ่ยจึงไม่มีโอกาสได้พูดคุยเป็นการส่วนตัวกับนางตอนนี้เมื่อเห็นว่าอวิ๋นฝูหลิงเป็นฝ่ายถามขึ้นมา หางซานสุ่ยก็นับว่ามีโอกาสแล้วเขาหยิบจดหมายสองสามฉบับออกมาจากในโต๊ะ“จดหมายพวกนี้ถูกส่ง

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 613

    แม้ว่าราชครูแคว้นเยว่จะหนีไปแล้ว แต่เขาอยู่ที่หอจินอวี้ตั้งหลายวัน จึงมักจะมีช่วงเวลาที่ผ่อนคลายจนเปิดเผยใบหน้าที่แท้จริงแม้เขาจะใช้หน้ากากปิดบังใบหน้าอยู่เสมอ จึงไม่มีใครเคยเห็นใบหน้าที่แท้จริง แต่ก็เป็นไปไม่ได้ที่คนรอบตัวเขาทุกคนจะสวมหน้ากากกระมัง?เริ่มต้นไล่ไปจากผู้ใต้บังคับบัญชา บางทีอาจจะค้นพบสิ่งใหม่ ๆ ก็เป็นได้เซียวจิ่งอี้ตัดสินใจไต่สวนผู้ดูและกับพนักงานเหล่านั้นของหอจินอวี้ยังมีทักษะการวาดภาพเหมือนอันยอดเยี่ยมของอวิ๋นฝูหลิง จะต้องจับพวกปลาซิวปลาสร้อยพวกนั้นได้เป็นแน่แม้ว่ากลุ่มของราชครูแคว้นเยว่จะฉวยโอกาสวางเพลิงเพื่อหนีออกไปจากหอจินอวี้ แต่ประตูเมืองจินโจวก็ปิดอยู่ ยามนี้พวกเขาคงยังซ่อนตัวอยู่ในเมืองนอกจากนี้ มีบางสิ่งที่ต้องจัดการด้วยเช่นกันเซียวจิ่งอี้ยืนอยู่หน้าประตูสำนักผิงอัน หันกลับมามองอวิ๋นฝูหลิงที่กำลังยุ่งคราหนึ่งเพียงชั่วครู่เดียว เขาก็พลิกร่างขึ้นหลังม้า มุ่งตรงไปยังที่ว่าการเมืองจินโจวครึ่งชั่วยามต่อมา มีประกาศใบหนึ่งถูกนำมาติดไว้ที่ประตูที่ว่าการทั้งยังมีคนตีฆ้องจากที่ว่าการ อ่านเนื้อหาในประกาศไปทั่วเมืองประกาศนี้กล่าวถึงอันตรายของขี้ผึ้งทอง

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 612

    “ข้าอยากจับคนร้ายที่กระทำความผิด ให้ได้แบบคาหนังคาเขา”“แต่ไม่คิดเลยว่าคนผู้นั้นจะโหดเหี้ยมถึงขั้นเสียสติ ตั้งใจวางเพลิงในหอจินอวี้ เพื่อหลบหนีการไล่ล่า”“เป็นเพราะข้าไม่รอบคอบ ทำให้ผู้บริสุทธิ์ทุกคนต้องตกอยู่ในอันตราย”“วันนี้ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บเพราะเหตุเพลิงไหม้ที่หอจินอวี้ ค่ารักษาและค่ายาข้าจะจ่ายให้เอง”“นอกจากนี้ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย จะได้รับห้าตำลึง ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บหนักจะได้รับสิบตำลึง”“ได้ยินว่ามีสองคนที่ถูกไฟไหม้จนบาดเจ็บสาหัส สองคนนี้จะได้รับยี่สิบตำลึง”“เงินเหล่านี้ถือเป็นน้ำใจเล็กน้อยจากข้า ที่อยากจะรักษาร่างกายเหล่าผู้บาดเจ็บ”“ข้าจะให้คนนำเงินมามอบให้ในภายหลัง!”ผู้บาดเจ็บทุกคนได้ยินเช่นนั้น ความไม่พอใจที่สุมอยู่ในอกก็หายไปกว่าครึ่งทันทีตอนนี้เมื่อย้อนคิดดูแล้ว เมื่อคืนยามที่หอจินอวี้ถูกปิดล้อม ผู้นำคนนั้นก็บอกว่าทำเพื่อสืบคดีบางอย่างจริง ๆคิดดูอีกครายามนั้นที่เกิดเพลิงไหม้ ทหารเหล่านั้นก็มิได้บังคับขังพวกเขาไว้ในหอจินอวี้ ทว่ากลับรีบเข้ามาในหอเพื่อดับไฟช่วยคนหากไม่ใช่เพราะเหตุนี้ เกรงว่าพวกเขาคงไม่ใช่แค่ได้รับบาดเจ็บ แต่กว่าครึ่งคงตายตกไปในเหตุเพ

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status