Share

บทที่ 240

Penulis: หลันซานอวี่
แม่นางหลี่กล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “มิได้ซื้อมา หยกห้อยเอวชิ้นนี้เป็นของที่ท่านตาข้ามอบให้ท่านแม่ของข้าก่อนจะจากโลกนี้ไป และแม่ของข้าก็ได้ส่งต่อมาให้ข้า”

อวิ๋นฝูหลิงไม่ได้พูดให้มากความอีก และคืนหยกห้อยเอวชิ้นนั้นให้แม่นางหลี่

หลังจากพูดคุยกันอีกไม่กี่ประโยค พวกอวิ๋นฝูหลิงก็บอกลาก่อนจะจากมา

หลังจากพวกเขาเดินออกมาไกลแล้ว เซียวจิ่งอี้จึงเพิ่งเอ่ยถามว่า “หยกห้อยเอวชิ้นนั้นมีปัญหาอันใดหรือ?”

อวิ๋นฝูหลิงอธิบาย “ท่านปู่ของข้าเคยให้คนทำหยกห้อยเอวขึ้นมาสี่ชิ้น ลวดลายที่แกะสลักลงบนหยกห้อยเอวคือสมุนไพรล้ำค่าทั้งสี่ชนิด และแบ่งมอบให้ลูกศิษย์ทั้งสี่คนของเขา”

“หยกห้อยเอวของนายท่านผู้เฒ่าหางสลักเป็นรูปเห็ดหลินจือ ดังนั้นบนแผ่นป้ายหน้าประตูของสำนักผิงอันจึงมีรูปเห็ดหลินจือแกะสลักอยู่”

“เมื่อครู่บนหยกห้อยเอวชิ้นนั้นของแม่นางหลี่สลักเป็นรูปบัวหิมะ ท่านตาของแม่นางหลี่คงจะเป็นสือฉีหลิน ศิษย์รองของท่านปู่ทวดของข้า”

“ตามที่นายท่านผู้เฒ่าหางบอก หลังจากที่ท่านปู่ทวดของข้าเสียชีวิต พวกเขาศิษย์พี่ศิษย์น้องก็มีเป้าหมายของแต่ละคน”

“โอวหยางหมิงผู้เป็นศิษย์คนโตเข้าสำนักหมอหลวง สือฉีหลินผู้เป็นศิษย์คนรองออกเดินทา
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Bab Terkunci

Bab terkait

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 241

    คุณชายวั่นเห็นลูกน้องของตนเองล้มลงเป็นใบไม้ร่วง พวกเขามีคนมากมายตั้งขนาดนี้ ทว่ากลับต่อกรกับองครักษ์คนหนึ่งของอีกฝ่ายไม่ได้เลย เขาตกตะลึงพรึงเพริดในทันใด“พวกเจ้า...พวกเจ้ารู้หรือไม่ว่าข้าเป็นใคร?”“พวกเจ้าถึงขึ้นกล้าทำร้ายคนของสกุลวั่น พวกเจ้าตั้งตารอได้เลย!”กล่าววาจาร้ายกาจจบ คุณชายวั่นก็รีบวิ่งหนีไปราวกับสายลมก็มิปานครั้นเหล่าสุนัขรับใช้ที่เหลือเห็นสถานการณ์แล้ว จึงวิ่งโขยกเขยกตามไปอวิ๋นจิงมั่วกอดลูกเสือน้อยไว้พลางร้องเหอะออกมาอย่างเย็นชา แล้วกล่าวอย่างภาคภูมิใจว่า “คิดจะแย่งเทียนเทียนไปจากข้า เจ้าพวกคนชั่ว!”จากนั้นจึงหันไปยกนิ้วโป้งให้เทียนเฉวียน แล้วกล่าวชม “ท่านอาเทียนเฉวียน ท่านเก่งสุดยอดไปเลย แค่คนเดียวก็ทำให้พวกนั้นวิ่งหนีไปได้แล้ว”เทียนเฉวียนหัวเราะแฮะ ๆ “คนพวกนั้นก็พวกท่าดีทีเหลวเท่านั้น ต่อให้มาเพิ่มเท่าหนึ่ง ผู้น้อยเพียงคนเดียวก็จัดการพวกเขาได้ขอรับ!”เซียวจิ่งอี้ลูบลูกเสือน้อยในอ้อมแขนของอวิ๋นจิงมั่วเจ้าลูกเสือน้อยแยกเขี้ยวใส่เซียวจิ่งอี้ ดวงตาของมันราวกับมีประกายเหยียดหยามเล็กน้อย แล้วจึงนอนเกียจคร้านตากแดดในอ้อมแขนของอวิ๋นจิงมั่วต่อเซียวจิ่งอี้รู้สึกว่า

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 242

    การที่สามารถมาอยู่ในตำแหน่งนี้ได้ ย่อมไม่ใช่พวกโง่เขลาเบาปัญญาพ่อบ้านวั่นรู้ดีว่าคุณชายน้อยต้องการถุงน้ำดีเสือสด ๆ เพื่อนำไปทำกระสายยา ดังนั้นช่วงนี้ผู้นำตระกูลจึงเสาะหาคนไปล่าเสือเป็น ๆ ทั่วทุกสารทิศฉะนั้นทันทีที่เขาได้ยินคุณชายวั่นบอกว่าเห็นคนพาเสือเป็น ๆ ตัวหนึ่งเดินไปมาอยู่บนท้องถนน เขาจึงรีบพาคนตามมาทันทีถึงอย่างไรหากเขาสามารถมอบเสือตัวเป็น ๆ ให้แก่ผู้นำตระกูลได้ นี่จะเป็นความดีความชอบชิ้นใหญ่เลยทีเดียวโอกาสดี ๆ เช่นนี้ พ่อบ้านวั่นย่อมจับไว้ให้มั่นเดิมทีพ่อบ้านวั่นคิดจะใช้วาจาก่อนใช้กำลัง เพราะถึงอย่างไรในเขตปกครองจินโจวแล้ว สกุลวั่นนั้นทรงอิทธิพลถึงขนาดที่กระทืบเท้าเพียงครั้ง เขตปกครองจินโจวก็กระเทือนไปถึงสามระลอกสกุลวั่นต้องการลูกเสือของอีกฝ่าย ใครกันจะกล้าไม่ไว้หน้าสกุลวั่น?ผู้ที่รู้จักวางตัว ย่อมมอบให้อย่างว่าง่ายทว่าเขาคิดไม่ถึงเลยว่าเพิ่งมาถึงที่หมายได้ไม่เท่าไร คุณชายวั่นก็รีบนำคนพุ่งเข้าไปในห้องส่วนตัว แสดงท่าทีชัดเจนยิ่งว่าจะใช้กำลังเข้าสู้ที่ยิ่งทำให้พ่อบ้านวั่นคิดไม่ถึงก็คือ เพียงแค่พบหน้ากัน คนพวกนั้นที่เขาพามาก็ถูกซัดจนหมอบกระแตทั้งหมดสมองของพ่อบ้า

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 243

    พ่อบ้านวั่นจึงกระซิบเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นตั้งแต่ต้นจนจบให้นายท่านสี่วั่นฟังคร่าว ๆครั้นนายท่านสี่วั่นได้ฟัง ก็แทบจะกระอักโลหิตเพราะถูกพวกเขาทำให้โมโหมีแต่พวกโง่เขลาไม่มีสมองทั้งนั้น!ในเมื่อขอร้องผู้อื่น เช่นนั้นก็ต้องพูดเจรจาด้วยน้ำเสียงดี ๆ และเหมาะสม เสนอราคาซื้อราคาขายอันเหมาะสม เพื่อให้อีกฝ่ายยอมตัดใจยอมสละให้เจ้าจะไม่เจรจาแล้วลงมือแย่งชิงมาเลยก็ใช่ว่าจะทำมิได้ แต่เจ้าจักต้องมีปัญญา มีความสามารถมากพอที่จะกดดันอีกฝ่ายจนอยู่หมัดให้ได้แต่นี่พ่อบ้านวั่นกับเจ้าสิบเก้าจากบ้านสายรองทั้งพูดจาโน้มน้าวให้อีกฝ่ายตัดใจสละของรักให้ไม่ได้ อีกทั้งพอลงมือกับเขาก็ถูกอีกฝ่ายสั่งสอนกลับมาอย่างน่าอเนจอนาถเป็นพวกไร้ประโยชน์ด้วยกันทั้งคู่!แถมยังเลือกมาลงมือในหอสกุลวั่นของเขาอีก นี่ถ้าหากทำข้าวของอันใดเสียหายไป สุดท้ายแล้วคนที่ได้รับความเสียหายมิใช่ว่ายังเป็นสกุลวั่นของพวกเขาอย่างนั้นหรือไร?คุณชายวั่นหรือก็คือวั่นจื้อซินผู้ที่อยู่ในลำดับศักดิ์ที่สิบเก้าของสกุลวั่นผู้นั้นก้าวเข้าไปด้านหน้านายท่านสี่วั่น แล้วกล่าววาจาประจบเอาใจ “ท่านลุงสี่ หลานเพียงเจตนาดี อยากช่วยเหลือสกุลวั่นอย่างเต็มท

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 244

    สกุลวั่นต้องการดีเสือสดใหม่ไปช่วยชีวิตคุณชายน้อยในเมื่อวันนี้ได้เจอแล้ว เช่นนั้นย่อมต้องคิดหาวิถีทางเอามาอยู่ในมือให้ได้ มิเช่นนั้นจะพลาดโอกาสนายท่านสี่วั่นประสานมือคารวะ ท่าทางยิ่งทวีความสุภาพ “ท่านผู้มีเกียรติสองสามท่านนี้ สกุลวั่นของข้าต้องการเสือตัวเป็น ๆ จริง หากพวกท่านยินยอมสละให้ สามารถพูดเงื่อนไขมาได้ทุกอย่าง...”นายท่านสี่วั่นยังไม่ทันพูดจนจบประโยค อวิ๋นฝูหลิงก็พูดขึ้นมาทั้งที่ขมวดคิ้วว่า “พวกเจ้าแต่ละคนฟังภาษาคนมิรู้เรื่องหรือไร?”“บอกไปหลายครั้งแล้วว่าลูกเสือน้อยตัวนี้เป็นสัตว์เลี้ยงแสนรักของลูกชายข้า ต่อให้เจ้าจะยกภูเขาทองทั้งลูกมากองให้ พวกข้าก็ไม่ให้”“เอาแต่ส่งเสียงหึ่ง ๆ ราวกับแมลงวันไม่หยุดหย่อน หนวกหูเหลือเกิน จะกินข้าวให้สบายใจสักมื้อก็ทำไม่ได้”“ได้ยินว่าหอสกุลวั่นเป็นเหลาอาหารอันดับหนึ่งของเขตปกครองจินโจว พวกเจ้าต้อนรับแขกที่มาอุดหนุนถึงประตูเช่นนี้ ข้าว่าหอสกุลวั่นนี้ก็มิได้เลิศเลอกว่าใครเขาหรอก!”ครั้นลูกค้าคนอื่น ๆ ที่อยู่รอบข้างได้ยินวาจาเช่นนี้ของอวิ๋นฝูหลิงเข้า ก็อดเผยสีหน้าตกตะลึงระคนสงสัย ทั้งยังแฝงไปด้วยความตื่นเต้นอยู่ด้วยในทีออกมาไม่ได้คนพวกนี

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 245

    นายท่านสี่วั่นเห็นว่าพวกเซียวจิ่งอี้ไม่เพียงแต่ไม่หวาดกลัวสกุลวั่นเลยแม้แต่นิดเท่านั้น ฝ่ายนั้นกลับลงมือกับลูกหลานสกุลวั่นโดยไม่ลังเลเสียด้วยซ้ำไป ในใจเขาทั้งตระหนกทั้งเดือดดาลความอยากอาหารของอวิ๋นฝูหลิงถูกทำลายเสียจนหมดสิ้น ยามนี้จะให้กินอะไรก็กินไม่ลงแล้วอวิ๋นฝูหลิงลุกขึ้นแล้วกล่าวว่า “แต่ละคนช่างไม่รู้จักตระหนักตนกันเลย แค่พวกเจ้าไม่กี่คนก็ถือว่าเป็นตัวแทนสกุลวั่นแล้วหรือ!”“หากวันนี้ผู้ที่เอ่ยปากเป็นผู้นำตระกูลวั่น บางทีข้าอาจจะลองพิจารณาดูสักหน่อย”“หมาแมวอย่าวพวกเจ้าไม่กี่คนยังจะมาทำตัวกร่างสร้างปัญหาอยู่ข้างนอกโดยอ้างชื่อเสียงอันยิ่งใหญ่ของสกุลวั่นอีก ทำให้สกุลวั่นต้องเสื่อมเสียเกียรติจริงๆ!”ยามที่เข้ามาในเขตปกครองจินโจว เซียวจิ่งอี้ได้เล่าให้อวิ๋นฝูหลิงฟังแล้วว่า สกุลวั่นเป็นตระกูลที่ใหญ่เป็นอันดับหนึ่งของเขตปกครองจินโจวความมั่นคงของตระกูลใหญ่อันดับหนึ่งตระกูลนี้มิได้มาจากเส้นทางขุนนางหรือกิจการการค้า ทว่ามาจากการขนส่งทางชลมารคท่าเรือจินโจวเป็นท่าเรือที่ใหญ่เป็นอันดับสองของต้าฉี ยามนี้ได้สกุลวั่นคอยควบคุมดูแลอิทธิพลของสกุลวั่นย่อมไม่ธรรมดาอย่างไรก็ตาม วั่นหงผู้ท

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 246

    เขามองไปทางเซียวจิ่งอี้และคนอื่น ๆ “แม้ว่าญาติผู้น้องของข้าจะเป็นฝ่ายทำผิดก่อน แต่ท่านลงมือโหดเหี้ยมเช่นนี้ ก็อาจจะเกินกว่าเหตุไปสักหน่อยกระมัง!”อวิ๋นฝูหลิงมองสำรวจวั่นเฉิงอย่างละเอียดลออไม่ได้บอกว่านายน้อยผู้นี้เป็นโรค จำเป็นต้องใช้ดีเสือมาทำกระสายยาหรอกหรือ?ไม่ว่าจะมองอย่างไรก็ไม่ได้ต่างจากคนปกติทั่วไปเลยสักนิด ท่าทางมิเหมือนคนป่วยด้วย?“สกุลวั่นสั่งสอนบุตรหลานในสกุลให้ดีไม่ได้ ข้าจึงลงมือช่วยสั่งสอนแทนให้ สกุลว่าควรจะขอบคุณข้าต่างหากจึงจะถูก!”“หากสกุลวั่นไม่พอใจอันใด ก็ให้บิดาเจ้ามาพูดกับข้าด้วยตนเอง!”ครั้นเซียวจิ่งอี้พูดจบ มือข้างหน้าก็อุ้มอวิ๋นจิงมั่ว มืออีกข้างก็จับมืออวิ๋นฝูหลิงไว้ ก่อนจะเตรียมตัวจากไปวั่นเฉิงตะลึงจนตาค้างไปชั่วขณะเขาไม่เคยพบเห็นคนที่อวดดีขนาดนี้มาก่อน“หยุด ห้ามไปไหน!”“ไป ไปขวางพวกไว้!”คนสกุลวั่นรีบเข้าไปขวางทางเซียวจิ่งอี้และคนอื่น ๆ โอบล้อมกลุ่มของพวกเขาไว้เทียนเฉวียนพร้อมคนอื่นรีบชักกระบี่ แล้วเข้าไปล้อมรอบพวกเซียวจิ่งอี้ทั้งสามคนเอาไว้ทั้งสองฝั่งรีบมองคุมเชิงกันทันที สถานการณ์ใกล้จะปะทุอยู่รอมร่อครั้นแขกเหรื่อรอบ ๆ ที่มาดูความคึกคั

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 247

    อวิ๋นฝูหลิงฝังเข็มลงไปหลายเข็ม อาการโรคลมชักของวั่นเฉิงที่เกิดกำเริบขึ้นมานั้นทุเลาลงอย่างเห็นได้ชัดยิ่งเหล่าคนสกุลวั่นที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างพากันหุบปากเงียบ แต่ละคนเบิกตากว้างราวกับถูกใครบีบคอก็ไม่ปานกระทั่งอวิ๋นฝูหลิงฝังเข็มจนแล้วเสร็จ วั่นเฉิงที่เดิมทีอาการโรคลมชักกำเริบจนสูญเสียสติสัมปชัญญะก็ค่อย ๆ ฟื้นคืนสติขึ้นมาอวิ๋นฝูหลิงถอนเข็มที่ฝังอยู่ตามร่างกายของวั่นเฉิงออก นำเก็บเข้าห่อเข็ม“นายน้อยวั่น ต่อไปพยายามรักษาใจให้สงบนิ่งเข้าไว้ หากอารมณ์รุนแรงเกินไปจะทำให้อาการกำเริบได้ง่าย ถึงขั้นทำให้อาการทรุดหนักลงกว่าเดิม!”หลังทิ้งคำกำชับเรื่องอาการ อวิ๋นฝูหลิงจึงหมุนกายเดินออกไปนายท่านสี่วั่นพร้อมด้วยคนอื่น ๆ โอบล้อมเข้ามาข้างกายวั่นเฉิง“นายน้อย รู้สึกอย่างไรบ้าง?”วั่นเฉิงเม้มปาก ไม่เอื้อนเอ่ยคำพูดใดเมื่อครู่นี้เขาก็อาการกำเริบขึ้นมากะทันหันอีกแล้วผ่านไปครู่ใหญ่ วั่นเฉิงจึงออกคำสั่งไปว่า “กลับจวน”บุรุษวัยกลางคนผู้มีใบหน้าเหลี่ยมและสั้นผู้นั้นรีบรับคำ แล้วพาคนช่วยกันคุ้มกันวันเฉิงออกไปจวนสกุลวั่นครั้นวั่นหงผู้นำตระกูลวั่นได้ฟังบ่าวรับใช้รายงานเรื่องที่เกิดขึ้นในหอสก

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 248

    ผู้นำตระกูลวั่นมาเยือนถึงหน้าประตูด้วยตนเองเช่นนี้ เกิดกว่าครึ่งนั้นมาเพื่อร้องขอการรักษาอวิ๋นฝูหลิงล้างหน้าล้างตาแล้วเสร็จ จึงกินมื้อเช้าพร้อมกับอวิ๋นจิงมั่วหลังมื้ออาหาร เซียวจิ่งอี้ถึงร่วมทางมากับอวิ๋นฝูหลิงด้วย “ข้าไปพบผู้นำตระกูลวันพร้อมกันกับเจ้าด้วย”อวิ๋นฝูหลิงพยักหน้า มอบหมายให้ลูกพี่อู๋แลคนอื่น ๆ คอยดูแลอวิ๋นจิงมั่วให้ดีหลังจากที่เมื่อวานวั่นหงผู้นำตระกูลวั่นถามยืนยันจากบุตรชายแล้ว วันนี้ทันทีที่ฟ้าสาง เขาจึงเดินทางมาที่โรงเตี๊ยมซื่อฟางด้วยตนเองรออยู่หนึ่งชั่วยามกว่า ก็ยังไม่ได้พบท่านหมอหญิงต้นเรื่องนายท่านสามสกุลวั่นอดโอดครวญออกมาไม่ได้ “ท่านหมอวิชาแพทย์สูงส่งอันใดกัน ถึงได้ทำตนวางมาดเสียใหญ่โตเช่นนี้?”นายท่านสามสกุลวั่นผู้นี้เป็นพี่น้องร่วมท้องมารดาเดียวกันกับวั่นหงทว่าเขามีความสามารถธรรมดา ไร้ใจทะเยอทะยาน วัน ๆ เอาแต่เที่ยวเล่นสนุกเคราะห์ดีที่เขานั้นรู้จักประมาณตน ทั้งยังรักใคร่กลมเกลียวกับพี่น้องอย่างวั่นหง จึงพอใจที่เขาเป็นเพียงนายท่านรองเจ้าสำราญ ทั้งยังไม่สอดมือเข้าไปยุ่มย่ามกับเรื่องต่าง ๆ ในตระกูลเมื่อวานเขาได้ยินว่าวั่นเฉิงอาการกำเริบ จึงรีบรุดไปเ

Bab terbaru

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 620

    เทียนเฉวียนได้ยินเช่นนั้นก็เข้าใจทันทีว่าท่านอ๋องคิดจะนั่งรอลาภลอยในเมื่อเวินเจาผู้นั้นเป็นนายน้อยเผ่าเยว่ สถานะในเผ่าเยว่ก็ย่อมไม่ธรรมดาหลังจากคนแคว้นเยว่เหล่านั้นรู้ข่าวว่าเวินเจาถูกจับตัวมา จะต้องคิดหาวิธีมาช่วยเขาออกไปเป็นแน่เทียนเฉวียนไปทำตามคำสั่งของเซียวจิ่งอี้ทันทีทว่าหลังจากรอมาสามวัน ก็ยังไม่มีการเคลื่อนไหวจากทางด้านเวินเจาแม้แต่น้อยเซียวจิ่งอี้ตระหนักได้ว่าตัวเองเจอคู่ต่อสู้เข้าแล้วราชครูแคว้นเยว่หลบหนีเก่งมาก ทำให้ยามนี้เขารู้สึกจนปัญญาอยู่บ้างหากพูดตามหลักการแล้ว คนแคว้นเยว่เหล่านั้นต้องการฟื้นฟูแคว้น ตัวตนของเวินเจาซึ่งมีสายเลือดราชวงศ์ จึงทำให้พวกเขามีเหตุผลอันชอบธรรมมิเช่นนั้นอาศัยเพียงราชครูผู้นั้น คนแคว้นเยว่ที่เหลือจะเชื่อฟังคำสั่งเขาได้อย่างไร?ทว่าหลังจากผ่านไปนาน คนแคว้นเยว่เหล่านั้นกลับไม่มีท่าทีว่าจะมาช่วยเวินเจาแม้แต่น้อยนี่หมายความว่ามองแผนของเขาออกใช่หรือไม่? หรือคิดว่ายามนี้ไม่ใช่จังหวะที่ดีในการช่วยเหลือ จึงกำลังวางแผนและเฝ้าดูอยู่?หรือคนแคว้นเยว่ยอมแพ้เรื่องนายน้อยเวินเจาผู้นี้แล้ว?เซียวจิ่งอี้คิดไปคิดมา ก็รู้สึกว่าเป็นไปไม่ได้ที่คนแ

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 619

    ทหารชั้นผู้น้อยคนนั้นได้กลิ่นเลือดจาง ๆ สายหนึ่งกลิ่นเลือดจางมาก จนแทบไม่ได้กลิ่นแต่เขาเกิดมาพร้อมจมูกที่อ่อนไหวต่อกลิ่น แค่เพียงกลิ่นจาง ๆ ก็สามารถได้กลิ่นเช่นกันทหารชั้นผู้น้อยรีบเดินหลายก้าว ไล่ตามสือจ่างซึ่งเป็นผู้นำไปยามนี้สือจ่างเดินออกมาจากเรือนแล้ว ทหารชั้นผู้น้อยรีบเดินไปตรงหน้าสือจ่าง และกระซิบไม่กี่ประโยคก้นบึ้งในดวงตาของสือจ่างฉายแววประหลาดใจ และหันกลับไปมองลานบ้านด้านหลังในลานบ้าน ชายวัยกลางคนกับหญิงสาวผู้งดงามเห็นว่าในที่สุดทหารก็ตรวจค้นเสร็จแล้ว จึงถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกใครจะรู้ว่ายังไม่ทันถอนหายใจเสร็จ ประตูเรือนกลับถูกคนพังเปิดเข้ามาอย่างกะทันหันกลุ่มทหารที่เข้ามาตรวจค้นก่อนหน้านี้บุกเข้ามาอีกครั้งชายวัยกลางคนเห็นเช่นนั้นก็ใจเต้นแรง แต่บนใบหน้ากลับยังสงบ และก้าวออกมาด้วยรอยยิ้มคาดไม่ถึงว่าเขายังไม่ทันได้เอ่ยปาก สือจ่างผู้นั้นซึ่งเป็นหัวหน้าก็ผลักเขาไปด้านข้าง ก่อนออกคำสั่งเสียงเคร่งขรึมว่า “ค้นหาทั้งในและนอกเรือนใหม่อีกครั้ง ค้นให้ละเอียด!”ทหารทุกคนตอบรับ และแยกย้ายไปค้นหาอีกครั้งทันทีทหารชั้นผู้น้อยซึ่งประสาทรับกลิ่นไวยืนอยู่ที่เดิม จมูกขยับฟ

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 618

    “ขอรับ” เทียนซูรับคำสั่งก่อนจะถอยออกไปผ่านไปไม่นาน เทียนซูก็กลับมา“ท่านอ๋อง ผู้ดูแลหอจินอวี้กับพนักงานยืนยันศพกันหมดแล้วขอรับ แน่ใจแล้วว่าเป็นคนที่อยู่ข้างตัวราชครูแคว้นเยว่ผู้นั้น”เซียวจิ่งอี้ใคร่ครวญครู่หนึ่ง ก่อนถามว่า “คนผู้นี้ถูกจับได้ที่ใด?”“ถูกจับที่ตรอกหูลู่ซึ่งอยู่ทางตอนเหนือของเมืองขอรับ” เทียนซูตอบกลับเซียวจิ่งอี้กล่าวทันที “ไปเอาแผนที่จินโจวมา”ผ่านไปไม่นาน แผนที่จินโจวก็ถูกแขวนขึ้นเซียวจิ่งอี้เดินไปข้างหน้าแผนที่ หาตำแหน่งตรอกหูลู่บนแผนที่เขายื่นมือออกไปแตะบนแผนที่ หลังจากนั้นก็วงขอบเขตโดยประมาณและกล่าวว่า“ถ่ายทอดคำสั่ง ให้คนไปค้นหาทุกซอกทุกมุมของตรอกหูลู่”คนผู้นั้นที่ถูกจับได้ ย่อมไม่ปรากฏตัวที่ตรอกหูลู่โดยไม่มีสาเหตุบางทีสถานที่ซ่อนตัวของพวกเขา อาจจะอยู่ใกล้ตรอกหูลู่นอกจากนี้คนผู้นั้นที่ถูกจับได้ ยังกัดลิ้นปลิดชีพตัวเอง ไม่ให้ความหวังตัวเองว่าจะมีชีวิตรอดเลย เห็นได้ชัดว่าทำเพื่อปกป้องใครบางคนดูท่าคนรอบกายราชครูแคว้นเยว่ผู้นั้นจะจงรักภักดีเป็นอย่างยิ่งการเดินทางมาจินโจวครั้งนี้ของเขา ไม่แน่คนข้างกายที่พามาอาจจะล้วนเป็นคนสนิททั้งสิ้นหากคนสนิทเห

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 617

    จิตรกรฝีมือดีเช่นนี้ เหตุใดจึงถูกเซียวจิ่งอี้เชิญไปได้ง่าย ๆยิ่งไปกว่านั้นจิตรกรฝีมือดีเหล่านั้นก็ยังไม่เคยเห็นพวกท่านจอมปราชญ์เหวินมาก่อน เหตุใดจึงสามารถวาดภาพเหมือนจากความว่างเปล่าให้เหมือนพวกเขาโดยสมบูรณ์ได้?นอกจากนี้ท่านจอมปราชญ์เหวินอยู่ที่จินโจวมานานแล้ว แต่ไม่เคยได้ยินว่าในจินโจวมีจิตรกรชื่อดังอันใดเลยตั้งแต่เขาหลบหนีจากหอจินอวี้มาจนถึงตอนนี้ ก็ยังผ่านไปไม่พ้นครึ่งวันเสียด้วยซ้ำภายในระยะเวลาอันสั้นถึงเพียงนี้ เหตุใดจึงมีคนที่สามารถวาดภาพพวกเขาออกมาได้มากมายเช่นนี้?ในใจท่านจอมปราชญ์เหวินไม่อยากจะเชื่อแต่เห็นผู้ใต้บังคับบัญชาพูดจาหนักแน่น เขาก็ไม่กล้าคิดไปเองมากเกินไปไม่รู้เพราะเหตุใด เขามักรู้สึกว่าเรื่องที่เกี่ยวข้องกับเซียวจิ่งอี้ จะมีความแปลกประหลาดมากเสมอบางทีอาจมีคนมากความสามารถอยู่ข้างกายเซียวจิ่งอี้จริง ๆ ซึ่งสามารถวาดภาพเหมือนออกมาได้เหมือนจริงโดยสมบูรณ์ โดยที่อาศัยเพียงคำอธิบายไม่กี่ประโยคยามนี้คนเหล่านี้ที่อยู่ข้างกายเขา ต่างเป็นคนที่เคยปรากฏตัวที่หอจินอวี้หากข้างกายเซียวจิ่งอี้มีจิตรกรฝีมือดีอยู่จริง ๆ เกรงว่าคนเหล่านี้ที่อยู่ข้างกายเขา คงล้วนถูกวาด

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 616

    ท่านจอมปราชญ์เหวินได้แต่แสร้งทำเป็นผ่านทางมา และรีบพาคนจากไปยามที่ออกมาจากหอจินอวี้ ท่านจอมปราชญ์เหวินก็ถอดหน้ากากออกการสวมหน้ากากเดินบนท้องถนน จะยิ่งดึงดูดความสนใจหลังจากถอดหน้ากาก รูปลักษณ์ของเขาก็ไม่ได้โดดเด่นมากนัก ในฝูงชนจึงแทบไม่มีใครสังเกตเห็นเมื่อคิดว่าแผนการของตนล้มเหลว จนถูกเซียวจิ่งอี้ไล่ล่าราวกับสุนัขไร้บ้านตัวหนึ่ง อีกทั้งนายน้อยเผ่าเยว่เป็นหรือตายก็ไม่อาจรู้ได้ ในใจท่านจอมปราชญ์เหวินจึงหดหู่เป็นอย่างยิ่งเป็นความผิดของเซียวจิ่งอี้!ท่านจอมปราชญ์เหวินรู้สึกราวกับว่าเซียวจิ่งอี้เกิดมาเพื่อเป็นหายนะของเขาเขาวางแผนจัดการเซียวจิ่งอี้หลายครั้ง แต่ก็ถูกอีกฝ่ายหลบเลี่ยงได้ทุกครั้งเมื่อเขาคิดจะฉวยโอกาสสร้างความวุ่นวายให้แคว้นต้าฉี ก็จะถูกเซียวจิ่งอี้ทำลายแผนการเสมอยามนี้เมื่อนึกถึงเซียวจิ่งอี้ ท่านจอมปราชญ์เหวินก็โกรธจนกัดกรามในช่วงระยะเวลาสั้น ๆ นี้ เขายังไม่มีกำลังที่จะโต้กลับได้รอก่อนเถอะรอให้เขากลับไปที่เมืองหลวง ก็จะสามารถอาศัยอำนาจขององค์ชายสาม จัดการเซียวจิ่งอี้ให้สิ้นซาก!ท่านจอมปราชญ์เหวินกัดฟัน ขณะที่สีหน้ามืดครึ้มผ่านไปครู่หนึ่ง ในที่สุดท่านจอมป

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 615

    อวิ๋นฝูหลิงยังจำเรื่องที่เซียวจิ่งอี้ขอให้นางวาดภาพเหมือนได้หลังจากพบเซียวจิ่งอี้ ทั้งสองคนก็ไปยังคุกที่ขังผู้ดูแลกับพนักงานของหอจินอวี้ไว้เมื่อพูดถึงแขกผู้มีเกียรติบนชั้นสามของหอจินอวี้ ผู้ดูแลกับพนักงานของหอจินอวี้ก็ต่างจดจำได้เป็นอย่างดีชั้นสามของหอจินอวี้ ไม่ใช่ว่าใครต่างก็มีสิทธิ์ขึ้นไปได้นี่เป็นอุบายที่หอจินอวี้โยนออกมา เป็นวิธีดึงดูดลูกค้าเพื่อสร้างกำไรแบบหนึ่งผู้ที่สามารถขึ้นไปชั้นสามของหอจินอวี้ได้ หมายความว่าเป็นคนที่มีสถานะและทักษะการพนันสูงแต่กลุ่มของท่านจอมปราชญ์เหวิน กลับเป็นเวินเจาพาขึ้นไปด้วยตัวเองนับตั้งแต่เวินจือเหิงนอนป่วยติดเตียง อำนาจทั้งหมดของสกุลเวินก็ตกไปอยู่ในมือของเวินเจาเวินเจาพาคนไปพักอยู่ที่ชั้นสามของหอจินอวี้ ทั้งยังบอกให้ปรนนิบัติกลุ่มของท่านจอมปราชญ์เหวิน เหล่าคนของหอจินอวี้ย่อมไม่กล้าไม่เชื่อฟังไม่ว่าจะเป็นผู้ดูแลของหอจินอวี้ หรือพนักงาน ยามนี้เมื่อถูกขังอยู่ในคุก ทุกคนก็หวาดกลัวอยู่ตลอดเมื่อเห็นการสืบสวนก่อนหน้านี้ของเซียวจิ่งอี้ คนเหล่านี้เพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเอง และออกไปจากคุกโดยเร็ว ทุกคนต่างก็แย่งชิงกันเป็นคนแรกเพราะกล

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 614

    “พี่สาม ทางด้านเมืองหลวงมีข่าวคราวบ้างหรือไม่?”“พวกท่านปู่โอวหยางคิดค้นเทียบยาใหม่ที่ใช้รักษาผู้ที่ป่วยเพราะขี้ผึ้งทองได้แล้วหรือไม่?”หลังจากค้นพบขี้ผึ้งทอง อวิ๋นฝูหลิงก็ดึงพวกรองเจ้าสำนักโอวหยางกับหมอหลวงจงมาร่วมศึกษาด้วยกัน ทั้งยังเขียนจดหมายส่งให้นายท่านผู้เฒ่าหาง รวมถึงส่งข้อมูลที่เกี่ยวกับชีพจรและการรักษาให้เขาด้วยแม้เมืองหลวงกับจินโจวจะเป็นสถานที่ที่ได้รับผลกระทบจากขี้ผึ้งทองมากที่สุด แต่ก็ไม่อาจรับประกันได้ว่าที่อื่นจะไม่ได้รับผลกระทบถึงอย่างไรการค้าของแคว้นต้าฉีก็เจริญรุ่งเรืองมาก จากใต้ขึ้นเหนือมีพ่อค้ามากมาย บางทีอาจจะมีคนที่เดินทางระหว่างเมืองหลวงกับจินโจว ซื้อขี้ผึ้งทองติดไปด้วยสองสามกล่องก็เป็นได้อวิ๋นฝูหลิงคิดว่านางออกจากเมืองหลวงมาหลายวันถึงเพียงนี้ ไม่รู้ว่าทางด้านเมืองหลวงจะมีความคืบหน้าใหม่อันใดบ้างตั้งแต่อวิ๋นฝูหลิงกลับมาถึงจินโจว ก็ยุ่งอยู่กับการรักษาผู้ป่วยมาโดยตลอด หางซานสุ่ยจึงไม่มีโอกาสได้พูดคุยเป็นการส่วนตัวกับนางตอนนี้เมื่อเห็นว่าอวิ๋นฝูหลิงเป็นฝ่ายถามขึ้นมา หางซานสุ่ยก็นับว่ามีโอกาสแล้วเขาหยิบจดหมายสองสามฉบับออกมาจากในโต๊ะ“จดหมายพวกนี้ถูกส่ง

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 613

    แม้ว่าราชครูแคว้นเยว่จะหนีไปแล้ว แต่เขาอยู่ที่หอจินอวี้ตั้งหลายวัน จึงมักจะมีช่วงเวลาที่ผ่อนคลายจนเปิดเผยใบหน้าที่แท้จริงแม้เขาจะใช้หน้ากากปิดบังใบหน้าอยู่เสมอ จึงไม่มีใครเคยเห็นใบหน้าที่แท้จริง แต่ก็เป็นไปไม่ได้ที่คนรอบตัวเขาทุกคนจะสวมหน้ากากกระมัง?เริ่มต้นไล่ไปจากผู้ใต้บังคับบัญชา บางทีอาจจะค้นพบสิ่งใหม่ ๆ ก็เป็นได้เซียวจิ่งอี้ตัดสินใจไต่สวนผู้ดูและกับพนักงานเหล่านั้นของหอจินอวี้ยังมีทักษะการวาดภาพเหมือนอันยอดเยี่ยมของอวิ๋นฝูหลิง จะต้องจับพวกปลาซิวปลาสร้อยพวกนั้นได้เป็นแน่แม้ว่ากลุ่มของราชครูแคว้นเยว่จะฉวยโอกาสวางเพลิงเพื่อหนีออกไปจากหอจินอวี้ แต่ประตูเมืองจินโจวก็ปิดอยู่ ยามนี้พวกเขาคงยังซ่อนตัวอยู่ในเมืองนอกจากนี้ มีบางสิ่งที่ต้องจัดการด้วยเช่นกันเซียวจิ่งอี้ยืนอยู่หน้าประตูสำนักผิงอัน หันกลับมามองอวิ๋นฝูหลิงที่กำลังยุ่งคราหนึ่งเพียงชั่วครู่เดียว เขาก็พลิกร่างขึ้นหลังม้า มุ่งตรงไปยังที่ว่าการเมืองจินโจวครึ่งชั่วยามต่อมา มีประกาศใบหนึ่งถูกนำมาติดไว้ที่ประตูที่ว่าการทั้งยังมีคนตีฆ้องจากที่ว่าการ อ่านเนื้อหาในประกาศไปทั่วเมืองประกาศนี้กล่าวถึงอันตรายของขี้ผึ้งทอง

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 612

    “ข้าอยากจับคนร้ายที่กระทำความผิด ให้ได้แบบคาหนังคาเขา”“แต่ไม่คิดเลยว่าคนผู้นั้นจะโหดเหี้ยมถึงขั้นเสียสติ ตั้งใจวางเพลิงในหอจินอวี้ เพื่อหลบหนีการไล่ล่า”“เป็นเพราะข้าไม่รอบคอบ ทำให้ผู้บริสุทธิ์ทุกคนต้องตกอยู่ในอันตราย”“วันนี้ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บเพราะเหตุเพลิงไหม้ที่หอจินอวี้ ค่ารักษาและค่ายาข้าจะจ่ายให้เอง”“นอกจากนี้ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย จะได้รับห้าตำลึง ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บหนักจะได้รับสิบตำลึง”“ได้ยินว่ามีสองคนที่ถูกไฟไหม้จนบาดเจ็บสาหัส สองคนนี้จะได้รับยี่สิบตำลึง”“เงินเหล่านี้ถือเป็นน้ำใจเล็กน้อยจากข้า ที่อยากจะรักษาร่างกายเหล่าผู้บาดเจ็บ”“ข้าจะให้คนนำเงินมามอบให้ในภายหลัง!”ผู้บาดเจ็บทุกคนได้ยินเช่นนั้น ความไม่พอใจที่สุมอยู่ในอกก็หายไปกว่าครึ่งทันทีตอนนี้เมื่อย้อนคิดดูแล้ว เมื่อคืนยามที่หอจินอวี้ถูกปิดล้อม ผู้นำคนนั้นก็บอกว่าทำเพื่อสืบคดีบางอย่างจริง ๆคิดดูอีกครายามนั้นที่เกิดเพลิงไหม้ ทหารเหล่านั้นก็มิได้บังคับขังพวกเขาไว้ในหอจินอวี้ ทว่ากลับรีบเข้ามาในหอเพื่อดับไฟช่วยคนหากไม่ใช่เพราะเหตุนี้ เกรงว่าพวกเขาคงไม่ใช่แค่ได้รับบาดเจ็บ แต่กว่าครึ่งคงตายตกไปในเหตุเพ

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status