Share

บทที่ 245

Author: หลันซานอวี่
นายท่านสี่วั่นเห็นว่าพวกเซียวจิ่งอี้ไม่เพียงแต่ไม่หวาดกลัวสกุลวั่นเลยแม้แต่นิดเท่านั้น ฝ่ายนั้นกลับลงมือกับลูกหลานสกุลวั่นโดยไม่ลังเลเสียด้วยซ้ำไป ในใจเขาทั้งตระหนกทั้งเดือดดาล

ความอยากอาหารของอวิ๋นฝูหลิงถูกทำลายเสียจนหมดสิ้น ยามนี้จะให้กินอะไรก็กินไม่ลงแล้ว

อวิ๋นฝูหลิงลุกขึ้นแล้วกล่าวว่า “แต่ละคนช่างไม่รู้จักตระหนักตนกันเลย แค่พวกเจ้าไม่กี่คนก็ถือว่าเป็นตัวแทนสกุลวั่นแล้วหรือ!”

“หากวันนี้ผู้ที่เอ่ยปากเป็นผู้นำตระกูลวั่น บางทีข้าอาจจะลองพิจารณาดูสักหน่อย”

“หมาแมวอย่าวพวกเจ้าไม่กี่คนยังจะมาทำตัวกร่างสร้างปัญหาอยู่ข้างนอกโดยอ้างชื่อเสียงอันยิ่งใหญ่ของสกุลวั่นอีก ทำให้สกุลวั่นต้องเสื่อมเสียเกียรติจริงๆ!”

ยามที่เข้ามาในเขตปกครองจินโจว เซียวจิ่งอี้ได้เล่าให้อวิ๋นฝูหลิงฟังแล้วว่า สกุลวั่นเป็นตระกูลที่ใหญ่เป็นอันดับหนึ่งของเขตปกครองจินโจว

ความมั่นคงของตระกูลใหญ่อันดับหนึ่งตระกูลนี้มิได้มาจากเส้นทางขุนนางหรือกิจการการค้า ทว่ามาจากการขนส่งทางชลมารค

ท่าเรือจินโจวเป็นท่าเรือที่ใหญ่เป็นอันดับสองของต้าฉี ยามนี้ได้สกุลวั่นคอยควบคุมดูแล

อิทธิพลของสกุลวั่นย่อมไม่ธรรมดา

อย่างไรก็ตาม วั่นหงผู้ท
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 246

    เขามองไปทางเซียวจิ่งอี้และคนอื่น ๆ “แม้ว่าญาติผู้น้องของข้าจะเป็นฝ่ายทำผิดก่อน แต่ท่านลงมือโหดเหี้ยมเช่นนี้ ก็อาจจะเกินกว่าเหตุไปสักหน่อยกระมัง!”อวิ๋นฝูหลิงมองสำรวจวั่นเฉิงอย่างละเอียดลออไม่ได้บอกว่านายน้อยผู้นี้เป็นโรค จำเป็นต้องใช้ดีเสือมาทำกระสายยาหรอกหรือ?ไม่ว่าจะมองอย่างไรก็ไม่ได้ต่างจากคนปกติทั่วไปเลยสักนิด ท่าทางมิเหมือนคนป่วยด้วย?“สกุลวั่นสั่งสอนบุตรหลานในสกุลให้ดีไม่ได้ ข้าจึงลงมือช่วยสั่งสอนแทนให้ สกุลว่าควรจะขอบคุณข้าต่างหากจึงจะถูก!”“หากสกุลวั่นไม่พอใจอันใด ก็ให้บิดาเจ้ามาพูดกับข้าด้วยตนเอง!”ครั้นเซียวจิ่งอี้พูดจบ มือข้างหน้าก็อุ้มอวิ๋นจิงมั่ว มืออีกข้างก็จับมืออวิ๋นฝูหลิงไว้ ก่อนจะเตรียมตัวจากไปวั่นเฉิงตะลึงจนตาค้างไปชั่วขณะเขาไม่เคยพบเห็นคนที่อวดดีขนาดนี้มาก่อน“หยุด ห้ามไปไหน!”“ไป ไปขวางพวกไว้!”คนสกุลวั่นรีบเข้าไปขวางทางเซียวจิ่งอี้และคนอื่น ๆ โอบล้อมกลุ่มของพวกเขาไว้เทียนเฉวียนพร้อมคนอื่นรีบชักกระบี่ แล้วเข้าไปล้อมรอบพวกเซียวจิ่งอี้ทั้งสามคนเอาไว้ทั้งสองฝั่งรีบมองคุมเชิงกันทันที สถานการณ์ใกล้จะปะทุอยู่รอมร่อครั้นแขกเหรื่อรอบ ๆ ที่มาดูความคึกคั

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 247

    อวิ๋นฝูหลิงฝังเข็มลงไปหลายเข็ม อาการโรคลมชักของวั่นเฉิงที่เกิดกำเริบขึ้นมานั้นทุเลาลงอย่างเห็นได้ชัดยิ่งเหล่าคนสกุลวั่นที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างพากันหุบปากเงียบ แต่ละคนเบิกตากว้างราวกับถูกใครบีบคอก็ไม่ปานกระทั่งอวิ๋นฝูหลิงฝังเข็มจนแล้วเสร็จ วั่นเฉิงที่เดิมทีอาการโรคลมชักกำเริบจนสูญเสียสติสัมปชัญญะก็ค่อย ๆ ฟื้นคืนสติขึ้นมาอวิ๋นฝูหลิงถอนเข็มที่ฝังอยู่ตามร่างกายของวั่นเฉิงออก นำเก็บเข้าห่อเข็ม“นายน้อยวั่น ต่อไปพยายามรักษาใจให้สงบนิ่งเข้าไว้ หากอารมณ์รุนแรงเกินไปจะทำให้อาการกำเริบได้ง่าย ถึงขั้นทำให้อาการทรุดหนักลงกว่าเดิม!”หลังทิ้งคำกำชับเรื่องอาการ อวิ๋นฝูหลิงจึงหมุนกายเดินออกไปนายท่านสี่วั่นพร้อมด้วยคนอื่น ๆ โอบล้อมเข้ามาข้างกายวั่นเฉิง“นายน้อย รู้สึกอย่างไรบ้าง?”วั่นเฉิงเม้มปาก ไม่เอื้อนเอ่ยคำพูดใดเมื่อครู่นี้เขาก็อาการกำเริบขึ้นมากะทันหันอีกแล้วผ่านไปครู่ใหญ่ วั่นเฉิงจึงออกคำสั่งไปว่า “กลับจวน”บุรุษวัยกลางคนผู้มีใบหน้าเหลี่ยมและสั้นผู้นั้นรีบรับคำ แล้วพาคนช่วยกันคุ้มกันวันเฉิงออกไปจวนสกุลวั่นครั้นวั่นหงผู้นำตระกูลวั่นได้ฟังบ่าวรับใช้รายงานเรื่องที่เกิดขึ้นในหอสก

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 248

    ผู้นำตระกูลวั่นมาเยือนถึงหน้าประตูด้วยตนเองเช่นนี้ เกิดกว่าครึ่งนั้นมาเพื่อร้องขอการรักษาอวิ๋นฝูหลิงล้างหน้าล้างตาแล้วเสร็จ จึงกินมื้อเช้าพร้อมกับอวิ๋นจิงมั่วหลังมื้ออาหาร เซียวจิ่งอี้ถึงร่วมทางมากับอวิ๋นฝูหลิงด้วย “ข้าไปพบผู้นำตระกูลวันพร้อมกันกับเจ้าด้วย”อวิ๋นฝูหลิงพยักหน้า มอบหมายให้ลูกพี่อู๋แลคนอื่น ๆ คอยดูแลอวิ๋นจิงมั่วให้ดีหลังจากที่เมื่อวานวั่นหงผู้นำตระกูลวั่นถามยืนยันจากบุตรชายแล้ว วันนี้ทันทีที่ฟ้าสาง เขาจึงเดินทางมาที่โรงเตี๊ยมซื่อฟางด้วยตนเองรออยู่หนึ่งชั่วยามกว่า ก็ยังไม่ได้พบท่านหมอหญิงต้นเรื่องนายท่านสามสกุลวั่นอดโอดครวญออกมาไม่ได้ “ท่านหมอวิชาแพทย์สูงส่งอันใดกัน ถึงได้ทำตนวางมาดเสียใหญ่โตเช่นนี้?”นายท่านสามสกุลวั่นผู้นี้เป็นพี่น้องร่วมท้องมารดาเดียวกันกับวั่นหงทว่าเขามีความสามารถธรรมดา ไร้ใจทะเยอทะยาน วัน ๆ เอาแต่เที่ยวเล่นสนุกเคราะห์ดีที่เขานั้นรู้จักประมาณตน ทั้งยังรักใคร่กลมเกลียวกับพี่น้องอย่างวั่นหง จึงพอใจที่เขาเป็นเพียงนายท่านรองเจ้าสำราญ ทั้งยังไม่สอดมือเข้าไปยุ่มย่ามกับเรื่องต่าง ๆ ในตระกูลเมื่อวานเขาได้ยินว่าวั่นเฉิงอาการกำเริบ จึงรีบรุดไปเ

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 249

    แม้ว่าวั่นหงจะประหลาดใจ ด้วยไม่เคยได้ยินว่าอี้อ๋องเสกสมรสพระชายาเมื่อใด ทว่าที่หอสกุลวั่นเมื่อวานนี้ คนสกุลวั่นที่อยู่ในเหตุการณ์ล้วนได้ยินเซียวจิ่งอี้เรียกอวิ๋นฝูหลิงว่าฮูหยินวั่นหงคิดว่าบางทีตัวเขาเองอาจจะได้รับข่าวสารไม่ไวพอ กระทั่งเรื่องที่อี้อ๋องมีพระชายาแล้วเขาก็ยังไม่รู้เรื่องเพียงเรียกว่า ‘พระชายา’ ก็ทำให้ปรากฏรอยยิ้มขึ้นในด้วยตาของเซียวจิ่งอี้แล้วครั้นอวิ๋นฝูหลิงเห็นคนพวกนี้คุกเข่าคารวะ ก็รู้สึกไม่เคยชินเท่าไรนักยิ่งไปกว่านั้น วั่นหงถึงขั้นจำเซียวจิ่งอี้ได้ ทั้งยังเปิดเผยฐานะของเขาออกมาอีกต่างหากอวิ๋นฝูหลิงมองเซียวจิ่งอี้เล็กน้อยเซียวจิ่งอี้จับมือนางไว้ แล้วช่วยพูดแทนนางว่า “ทุกคนลุกขึ้นมาเถิด!”ดวงตาเฉียบแหลมของวั่นหงเห็นการกระทำของเซียวจิ่งอี้เข้า ในใจจึงยิ่งให้ความสำคัญกับอวิ๋นฝูหลิงเพิ่งขึ้นเป็นเท่าตัวดูแล้วพระชายาอี้อ๋องจะมีรักลึกซึ้งกับอี้อ๋องเป็นอย่างยิ่ง“เมื่อวานนี้ ลูกหลานและบ่าวรับใช้ในสกุลทำตัวหยาบคายต่อท่านอ๋องกับพระชายา กระหม่อมพาพวกเขามาขอรับโทษด้วยตนเอง ท่านอ๋องกับพระชายาทรงลงโทษพวกเขาด้วยเถิดพ่ะย่ะค่ะ!”นายท่านสี่และวั่นจื้อซินคุกเข่าลงบนพื้นจ

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 250

    ทันใดนั้นก็มีบ่าวรับใช้ยกหีบของกำนัลเข้ามาเป็นทิวแถวของพวกนี้ล้วนเป็นวั่นหงกับฮูหยินวั่นตั้งใจเตรียมเอาไว้ตั้งแต่เมื่อวาน เพื่อมอบเป็นของกำนัลแทนการขอบคุณให้แก่อวิ๋นฝูหลิงหากอวิ๋นฝูหลิงเป็นเพียงท่านหมอธรรมดา ๆ ผู้หนึ่ง เช่นนั้นของกำนัลแทนคำขอบคุณเหล่านี้ย่อมนับว่าพรั่งพร้อมเป็นอย่างยิ่ง ไม่แน่ว่าอาจจะทำให้นางเห็นใจแล้วเต็มใจเสนอตัวไปตรวจอาการให้เองได้ทว่าพอวันนี้ได้รู้ว่าอวิ๋นฝูหลิงเป็นถึงพระชายาอี้อ๋อง ของกำนัลแทนคำขอบคุณนี้ก็ออกจะดูน้อยนิดไปสักหน่อยแต่จะให้กลับไปเตรียมของกำนัลแทนคำขอบคุณให้ใหม่ในยามนี้ ก็ไม่ทันกาลเสียแล้วหากไม่มอบของกำนัลแทนคำขอบคุณให้ แต่เอ่ยปากขอร้องเชิญคนเขาไปมือเปล่า ก็ยิ่งดูไม่จริงใจมากพอวั่นหงทำอะไรไม่ได้มากนัก ทำได้เพียงมอบของกำนัลที่ตระเตรียมไว้แล้วให้ไปก่อน พลางคิดว่าหลังจากนี้ค่อยส่งมามอบให้เพิ่มเติมอีกหนึ่งชุดอวิ๋นฝูหลิงมองของกำนัลแทนคำขอบคุณที่วั่นหงมอบให้ยามนี้หีบของกำนัลถูกเปิดออกแล้ว สิ่งของด้านในนอกจากจะเป็นผ้าไหมแพรพรรณกับทองแท่งเงินแท่งแล้ว ยังมียาสมุนไพรล้ำค่าจำพวกโสม โชวูและอื่น ๆ อีกจำนวนหนึ่งอวิ๋นฝูหลิงลอบคิดอยู่ในใจว่าสมแล้วที

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 251

    อย่างไรก็ตาม ผู้นำตระกูลสกุลวั่นมาคิดบัญชีกับพวกเขาถึงบ้านด้วยตัวเอง นี่เป็นเรื่องใหญ่แล้วทุกคนในโรงเตี๊ยมต่างชะเง้อศีรษะรอดูเรื่องสนุกทว่าพวกเซียวจิ่งอี้เช่าเรือนทั้งหลังและมีการเฝ้ายามอย่างเข้มงวด คนที่ไม่เกี่ยวข้องล้วนเข้าไปไม่ได้แม้คนในโรงเตี๊ยมไม่สามารถเข้าเรือนของพวกเซียวจิ่งอี้ แต่โรงเตี๊ยมแห่งนี้ต่อให้ใหญ่ก็ใหญ่ไม่ถึงไหน ถ้าหากในเรือนทะเลาะกันเป็นเรื่องใหญ่โตจริงๆ คนที่อยู่นอกเรือนก็สามารถได้ยินได้ดังนั้นทุกคนเอาแต่จ้องไปที่เรือน พยายามฟังเสียงจากข้างในเรือนใครจะรู้ว่าผ่านไปพักใหญ่ ก็ไม่ได้ยินเสียงลงมือทุบตีสุดท้ายกลับเห็นผู้นำตระกูลสกุลวั่นเชิญเซียวจิ่งอี้กับอวิ๋นฝูหลิงขึ้นรถม้าของบ้านตัวเองอย่างนอบน้อมถ่อมตน มุ่งหน้าไปยังทิศทางเรือนหลักของสกุลวั่นแล้วชั่วขณะ ทุกคนงงงวยยืนตะลึงอยู่ตรงนั้นต่างพากันคาดเดาว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่การคาดเดาของคนอื่นไม่สำคัญสำหรับอวิ๋นฝูหลิง สิ่งเดียวที่นางคิดในเวลานี้คืออาการป่วยของวั่นเฉิงฮูหยินวั่นรออยู่ที่บ้านอย่างใจจดใจจ่อ เมื่อได้ยินว่าสามีเชิญคนมาจริงๆ ก็อดมองข้างนอกด้วยความดีใจไม่ได้พลันเมื่อมองไป ฮูหยินวั่นอดไม่ได้ที่จะตก

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 252

    “ก็แค่หมอหญิงคนหนึ่งไม่ใช่หรือ? เชิญมาก็เชิญมาสิ อย่างไรเสียหลายปีนี้สกุลวั่นก็เคยเชิญหมอมาไม่น้อยแล้ว”“ข้าเองก็เพราะถูกสกุลวั่นเชิญมารักษานายน้อยคนนั้นไม่ใช่หรือ?”ผู้ช่วยน้อยกระทืบเท้า กล่าวอย่างไม่สบอารมณ์ “คุณชาย เหตุใดท่านไม่โกรธเลย?”“สกุลวั่นเชิญท่านก่อนนะ ท่านยังพักอยู่ที่สกุลวั่นอยู่เลย พวกเขาก็ไปเชิญคนอื่นแล้ว นี่ไม่เท่ากับตบหน้าท่าน หาว่าฝีมือการแพทย์ของท่านไม่ดีหรอกหรือ?”“อีกทั้งข้ายังได้ยินพี่หงอวี้ที่คอยรับใช้ข้างกายฮูหยินวั่นบอกว่า หมอหญิงคนนั้นปากดีมาก กล้าบอกว่าคุณชายท่านวินิจฉัยผิด!”“คุณชาย ท่านเคยเรียนวิชาแพทย์กับจี้ชุนโหวเลยนะ พื้นเพมาจากสกุลอวิ๋นอย่างแท้จริง นางเป็นตัวอะไร ถึงกล้ามาสงสัยฝีมือการแพทย์ของท่าน?”“พวกเราต้องให้บทเรียนนางสักหน่อย!”ผู้ชายที่อยู่ในห้องคนนี้ไม่ใช่ใครอื่น เขาก็คือหมอสวินที่สกุลวั่นเชิญมารักษาวั่นเฉิงและจ่ายเทียบยาให้สกุลวั่น บอกว่าจะใช้ดีเสือเป็นกระสายยาเมื่อหมอสวินได้ยินคำพูดของผู้ช่วย ในที่สุดสีหน้าที่สงบก็เกิดการเปลี่ยนแปลงเสี้ยวหนึ่ง“เช่นนี้ข้าต้องไปพบหมอหญิงท่านนั้นเสียหน่อยแล้ว!”แม้ไม่กล้าพูดว่าฝีมือการแพทย์ของเขาเป็น

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 253

    อวิ๋นฝูหลิงกล่าวจบ จึงจะพบว่าสีหน้าของสามีภรรยาวั่นหงงงงวยสามีภรรยาวั่นหงงงเป็นไก่ตาแตก ฟังไม่เข้าใจเกี่ยวกับเส้นประสาทเอย ส่งสัญญาณอะไรเอยที่อวิ๋นฝูหลิงพูดเลย ตกลงมันหมายความว่าอย่างไรไม่รอให้วั่นหงเอ่ยปาก อวิ๋นฝูหลิงก็กล่าวสรุปโดยตรง “เอาเป็นว่าเขาได้รับบาดเจ็บในศีรษะ จึงทำให้เกิดอาการลมชัก”คำพูดประโยคนี้ สามีภรรยาวั่นหงเข้าใจแล้วฮูหยินวั่นอดไม่ได้ที่จะคิดว่าหมอที่เชิญในตอนนั้นไม่ได้เรื่อง ไม่ได้รักษาอาการบาดเจ็บที่ศีรษะของลูกให้หายดีวั่นหงกล่าวอย่างร้อนใจ “โรคนี้รักษาได้หรือไม่?”อวิ๋นฝูหลิงพยักหน้า “ได้”ชาติที่แล้วนางก็เคยรักษาคนไข้กรณีนี้ อีกทั้งอาการของผู้ป่วยโรคลมชักท่านนั้นรุ่นแรงกว่านี้เล็กน้อยตอนนั้นนางอาศัยศาสตร์ฝังเข็มสกุลอวิ๋นครึ่งเล่ม พยายามลองศึกษาอยู่นาน สุดท้ายจึงรักษาอีกฝ่ายจนหายดีปัจจุบันนางมีศาสตร์ฝังเข็มสกุลอวิ๋นที่สมบูรณ์ และยังมีประสบการณ์ที่สั่งสมมาจากชาติที่แล้ว เวลารักษาย่อมถนัดมืออยู่แล้วสามีภรรยาวั่นหงดีใจจนน้ำตาแทบร้องไห้แล้วทั้งสองจับมือกันโดยไม่รู้ตัว ดวงตาเป็นประกาย สีหน้าตื่นเต้นนี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้ยินมีหมอพูดอย่างชัดเจนว่า

Latest chapter

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 620

    เทียนเฉวียนได้ยินเช่นนั้นก็เข้าใจทันทีว่าท่านอ๋องคิดจะนั่งรอลาภลอยในเมื่อเวินเจาผู้นั้นเป็นนายน้อยเผ่าเยว่ สถานะในเผ่าเยว่ก็ย่อมไม่ธรรมดาหลังจากคนแคว้นเยว่เหล่านั้นรู้ข่าวว่าเวินเจาถูกจับตัวมา จะต้องคิดหาวิธีมาช่วยเขาออกไปเป็นแน่เทียนเฉวียนไปทำตามคำสั่งของเซียวจิ่งอี้ทันทีทว่าหลังจากรอมาสามวัน ก็ยังไม่มีการเคลื่อนไหวจากทางด้านเวินเจาแม้แต่น้อยเซียวจิ่งอี้ตระหนักได้ว่าตัวเองเจอคู่ต่อสู้เข้าแล้วราชครูแคว้นเยว่หลบหนีเก่งมาก ทำให้ยามนี้เขารู้สึกจนปัญญาอยู่บ้างหากพูดตามหลักการแล้ว คนแคว้นเยว่เหล่านั้นต้องการฟื้นฟูแคว้น ตัวตนของเวินเจาซึ่งมีสายเลือดราชวงศ์ จึงทำให้พวกเขามีเหตุผลอันชอบธรรมมิเช่นนั้นอาศัยเพียงราชครูผู้นั้น คนแคว้นเยว่ที่เหลือจะเชื่อฟังคำสั่งเขาได้อย่างไร?ทว่าหลังจากผ่านไปนาน คนแคว้นเยว่เหล่านั้นกลับไม่มีท่าทีว่าจะมาช่วยเวินเจาแม้แต่น้อยนี่หมายความว่ามองแผนของเขาออกใช่หรือไม่? หรือคิดว่ายามนี้ไม่ใช่จังหวะที่ดีในการช่วยเหลือ จึงกำลังวางแผนและเฝ้าดูอยู่?หรือคนแคว้นเยว่ยอมแพ้เรื่องนายน้อยเวินเจาผู้นี้แล้ว?เซียวจิ่งอี้คิดไปคิดมา ก็รู้สึกว่าเป็นไปไม่ได้ที่คนแ

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 619

    ทหารชั้นผู้น้อยคนนั้นได้กลิ่นเลือดจาง ๆ สายหนึ่งกลิ่นเลือดจางมาก จนแทบไม่ได้กลิ่นแต่เขาเกิดมาพร้อมจมูกที่อ่อนไหวต่อกลิ่น แค่เพียงกลิ่นจาง ๆ ก็สามารถได้กลิ่นเช่นกันทหารชั้นผู้น้อยรีบเดินหลายก้าว ไล่ตามสือจ่างซึ่งเป็นผู้นำไปยามนี้สือจ่างเดินออกมาจากเรือนแล้ว ทหารชั้นผู้น้อยรีบเดินไปตรงหน้าสือจ่าง และกระซิบไม่กี่ประโยคก้นบึ้งในดวงตาของสือจ่างฉายแววประหลาดใจ และหันกลับไปมองลานบ้านด้านหลังในลานบ้าน ชายวัยกลางคนกับหญิงสาวผู้งดงามเห็นว่าในที่สุดทหารก็ตรวจค้นเสร็จแล้ว จึงถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกใครจะรู้ว่ายังไม่ทันถอนหายใจเสร็จ ประตูเรือนกลับถูกคนพังเปิดเข้ามาอย่างกะทันหันกลุ่มทหารที่เข้ามาตรวจค้นก่อนหน้านี้บุกเข้ามาอีกครั้งชายวัยกลางคนเห็นเช่นนั้นก็ใจเต้นแรง แต่บนใบหน้ากลับยังสงบ และก้าวออกมาด้วยรอยยิ้มคาดไม่ถึงว่าเขายังไม่ทันได้เอ่ยปาก สือจ่างผู้นั้นซึ่งเป็นหัวหน้าก็ผลักเขาไปด้านข้าง ก่อนออกคำสั่งเสียงเคร่งขรึมว่า “ค้นหาทั้งในและนอกเรือนใหม่อีกครั้ง ค้นให้ละเอียด!”ทหารทุกคนตอบรับ และแยกย้ายไปค้นหาอีกครั้งทันทีทหารชั้นผู้น้อยซึ่งประสาทรับกลิ่นไวยืนอยู่ที่เดิม จมูกขยับฟ

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 618

    “ขอรับ” เทียนซูรับคำสั่งก่อนจะถอยออกไปผ่านไปไม่นาน เทียนซูก็กลับมา“ท่านอ๋อง ผู้ดูแลหอจินอวี้กับพนักงานยืนยันศพกันหมดแล้วขอรับ แน่ใจแล้วว่าเป็นคนที่อยู่ข้างตัวราชครูแคว้นเยว่ผู้นั้น”เซียวจิ่งอี้ใคร่ครวญครู่หนึ่ง ก่อนถามว่า “คนผู้นี้ถูกจับได้ที่ใด?”“ถูกจับที่ตรอกหูลู่ซึ่งอยู่ทางตอนเหนือของเมืองขอรับ” เทียนซูตอบกลับเซียวจิ่งอี้กล่าวทันที “ไปเอาแผนที่จินโจวมา”ผ่านไปไม่นาน แผนที่จินโจวก็ถูกแขวนขึ้นเซียวจิ่งอี้เดินไปข้างหน้าแผนที่ หาตำแหน่งตรอกหูลู่บนแผนที่เขายื่นมือออกไปแตะบนแผนที่ หลังจากนั้นก็วงขอบเขตโดยประมาณและกล่าวว่า“ถ่ายทอดคำสั่ง ให้คนไปค้นหาทุกซอกทุกมุมของตรอกหูลู่”คนผู้นั้นที่ถูกจับได้ ย่อมไม่ปรากฏตัวที่ตรอกหูลู่โดยไม่มีสาเหตุบางทีสถานที่ซ่อนตัวของพวกเขา อาจจะอยู่ใกล้ตรอกหูลู่นอกจากนี้คนผู้นั้นที่ถูกจับได้ ยังกัดลิ้นปลิดชีพตัวเอง ไม่ให้ความหวังตัวเองว่าจะมีชีวิตรอดเลย เห็นได้ชัดว่าทำเพื่อปกป้องใครบางคนดูท่าคนรอบกายราชครูแคว้นเยว่ผู้นั้นจะจงรักภักดีเป็นอย่างยิ่งการเดินทางมาจินโจวครั้งนี้ของเขา ไม่แน่คนข้างกายที่พามาอาจจะล้วนเป็นคนสนิททั้งสิ้นหากคนสนิทเห

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 617

    จิตรกรฝีมือดีเช่นนี้ เหตุใดจึงถูกเซียวจิ่งอี้เชิญไปได้ง่าย ๆยิ่งไปกว่านั้นจิตรกรฝีมือดีเหล่านั้นก็ยังไม่เคยเห็นพวกท่านจอมปราชญ์เหวินมาก่อน เหตุใดจึงสามารถวาดภาพเหมือนจากความว่างเปล่าให้เหมือนพวกเขาโดยสมบูรณ์ได้?นอกจากนี้ท่านจอมปราชญ์เหวินอยู่ที่จินโจวมานานแล้ว แต่ไม่เคยได้ยินว่าในจินโจวมีจิตรกรชื่อดังอันใดเลยตั้งแต่เขาหลบหนีจากหอจินอวี้มาจนถึงตอนนี้ ก็ยังผ่านไปไม่พ้นครึ่งวันเสียด้วยซ้ำภายในระยะเวลาอันสั้นถึงเพียงนี้ เหตุใดจึงมีคนที่สามารถวาดภาพพวกเขาออกมาได้มากมายเช่นนี้?ในใจท่านจอมปราชญ์เหวินไม่อยากจะเชื่อแต่เห็นผู้ใต้บังคับบัญชาพูดจาหนักแน่น เขาก็ไม่กล้าคิดไปเองมากเกินไปไม่รู้เพราะเหตุใด เขามักรู้สึกว่าเรื่องที่เกี่ยวข้องกับเซียวจิ่งอี้ จะมีความแปลกประหลาดมากเสมอบางทีอาจมีคนมากความสามารถอยู่ข้างกายเซียวจิ่งอี้จริง ๆ ซึ่งสามารถวาดภาพเหมือนออกมาได้เหมือนจริงโดยสมบูรณ์ โดยที่อาศัยเพียงคำอธิบายไม่กี่ประโยคยามนี้คนเหล่านี้ที่อยู่ข้างกายเขา ต่างเป็นคนที่เคยปรากฏตัวที่หอจินอวี้หากข้างกายเซียวจิ่งอี้มีจิตรกรฝีมือดีอยู่จริง ๆ เกรงว่าคนเหล่านี้ที่อยู่ข้างกายเขา คงล้วนถูกวาด

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 616

    ท่านจอมปราชญ์เหวินได้แต่แสร้งทำเป็นผ่านทางมา และรีบพาคนจากไปยามที่ออกมาจากหอจินอวี้ ท่านจอมปราชญ์เหวินก็ถอดหน้ากากออกการสวมหน้ากากเดินบนท้องถนน จะยิ่งดึงดูดความสนใจหลังจากถอดหน้ากาก รูปลักษณ์ของเขาก็ไม่ได้โดดเด่นมากนัก ในฝูงชนจึงแทบไม่มีใครสังเกตเห็นเมื่อคิดว่าแผนการของตนล้มเหลว จนถูกเซียวจิ่งอี้ไล่ล่าราวกับสุนัขไร้บ้านตัวหนึ่ง อีกทั้งนายน้อยเผ่าเยว่เป็นหรือตายก็ไม่อาจรู้ได้ ในใจท่านจอมปราชญ์เหวินจึงหดหู่เป็นอย่างยิ่งเป็นความผิดของเซียวจิ่งอี้!ท่านจอมปราชญ์เหวินรู้สึกราวกับว่าเซียวจิ่งอี้เกิดมาเพื่อเป็นหายนะของเขาเขาวางแผนจัดการเซียวจิ่งอี้หลายครั้ง แต่ก็ถูกอีกฝ่ายหลบเลี่ยงได้ทุกครั้งเมื่อเขาคิดจะฉวยโอกาสสร้างความวุ่นวายให้แคว้นต้าฉี ก็จะถูกเซียวจิ่งอี้ทำลายแผนการเสมอยามนี้เมื่อนึกถึงเซียวจิ่งอี้ ท่านจอมปราชญ์เหวินก็โกรธจนกัดกรามในช่วงระยะเวลาสั้น ๆ นี้ เขายังไม่มีกำลังที่จะโต้กลับได้รอก่อนเถอะรอให้เขากลับไปที่เมืองหลวง ก็จะสามารถอาศัยอำนาจขององค์ชายสาม จัดการเซียวจิ่งอี้ให้สิ้นซาก!ท่านจอมปราชญ์เหวินกัดฟัน ขณะที่สีหน้ามืดครึ้มผ่านไปครู่หนึ่ง ในที่สุดท่านจอมป

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 615

    อวิ๋นฝูหลิงยังจำเรื่องที่เซียวจิ่งอี้ขอให้นางวาดภาพเหมือนได้หลังจากพบเซียวจิ่งอี้ ทั้งสองคนก็ไปยังคุกที่ขังผู้ดูแลกับพนักงานของหอจินอวี้ไว้เมื่อพูดถึงแขกผู้มีเกียรติบนชั้นสามของหอจินอวี้ ผู้ดูแลกับพนักงานของหอจินอวี้ก็ต่างจดจำได้เป็นอย่างดีชั้นสามของหอจินอวี้ ไม่ใช่ว่าใครต่างก็มีสิทธิ์ขึ้นไปได้นี่เป็นอุบายที่หอจินอวี้โยนออกมา เป็นวิธีดึงดูดลูกค้าเพื่อสร้างกำไรแบบหนึ่งผู้ที่สามารถขึ้นไปชั้นสามของหอจินอวี้ได้ หมายความว่าเป็นคนที่มีสถานะและทักษะการพนันสูงแต่กลุ่มของท่านจอมปราชญ์เหวิน กลับเป็นเวินเจาพาขึ้นไปด้วยตัวเองนับตั้งแต่เวินจือเหิงนอนป่วยติดเตียง อำนาจทั้งหมดของสกุลเวินก็ตกไปอยู่ในมือของเวินเจาเวินเจาพาคนไปพักอยู่ที่ชั้นสามของหอจินอวี้ ทั้งยังบอกให้ปรนนิบัติกลุ่มของท่านจอมปราชญ์เหวิน เหล่าคนของหอจินอวี้ย่อมไม่กล้าไม่เชื่อฟังไม่ว่าจะเป็นผู้ดูแลของหอจินอวี้ หรือพนักงาน ยามนี้เมื่อถูกขังอยู่ในคุก ทุกคนก็หวาดกลัวอยู่ตลอดเมื่อเห็นการสืบสวนก่อนหน้านี้ของเซียวจิ่งอี้ คนเหล่านี้เพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเอง และออกไปจากคุกโดยเร็ว ทุกคนต่างก็แย่งชิงกันเป็นคนแรกเพราะกล

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 614

    “พี่สาม ทางด้านเมืองหลวงมีข่าวคราวบ้างหรือไม่?”“พวกท่านปู่โอวหยางคิดค้นเทียบยาใหม่ที่ใช้รักษาผู้ที่ป่วยเพราะขี้ผึ้งทองได้แล้วหรือไม่?”หลังจากค้นพบขี้ผึ้งทอง อวิ๋นฝูหลิงก็ดึงพวกรองเจ้าสำนักโอวหยางกับหมอหลวงจงมาร่วมศึกษาด้วยกัน ทั้งยังเขียนจดหมายส่งให้นายท่านผู้เฒ่าหาง รวมถึงส่งข้อมูลที่เกี่ยวกับชีพจรและการรักษาให้เขาด้วยแม้เมืองหลวงกับจินโจวจะเป็นสถานที่ที่ได้รับผลกระทบจากขี้ผึ้งทองมากที่สุด แต่ก็ไม่อาจรับประกันได้ว่าที่อื่นจะไม่ได้รับผลกระทบถึงอย่างไรการค้าของแคว้นต้าฉีก็เจริญรุ่งเรืองมาก จากใต้ขึ้นเหนือมีพ่อค้ามากมาย บางทีอาจจะมีคนที่เดินทางระหว่างเมืองหลวงกับจินโจว ซื้อขี้ผึ้งทองติดไปด้วยสองสามกล่องก็เป็นได้อวิ๋นฝูหลิงคิดว่านางออกจากเมืองหลวงมาหลายวันถึงเพียงนี้ ไม่รู้ว่าทางด้านเมืองหลวงจะมีความคืบหน้าใหม่อันใดบ้างตั้งแต่อวิ๋นฝูหลิงกลับมาถึงจินโจว ก็ยุ่งอยู่กับการรักษาผู้ป่วยมาโดยตลอด หางซานสุ่ยจึงไม่มีโอกาสได้พูดคุยเป็นการส่วนตัวกับนางตอนนี้เมื่อเห็นว่าอวิ๋นฝูหลิงเป็นฝ่ายถามขึ้นมา หางซานสุ่ยก็นับว่ามีโอกาสแล้วเขาหยิบจดหมายสองสามฉบับออกมาจากในโต๊ะ“จดหมายพวกนี้ถูกส่ง

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 613

    แม้ว่าราชครูแคว้นเยว่จะหนีไปแล้ว แต่เขาอยู่ที่หอจินอวี้ตั้งหลายวัน จึงมักจะมีช่วงเวลาที่ผ่อนคลายจนเปิดเผยใบหน้าที่แท้จริงแม้เขาจะใช้หน้ากากปิดบังใบหน้าอยู่เสมอ จึงไม่มีใครเคยเห็นใบหน้าที่แท้จริง แต่ก็เป็นไปไม่ได้ที่คนรอบตัวเขาทุกคนจะสวมหน้ากากกระมัง?เริ่มต้นไล่ไปจากผู้ใต้บังคับบัญชา บางทีอาจจะค้นพบสิ่งใหม่ ๆ ก็เป็นได้เซียวจิ่งอี้ตัดสินใจไต่สวนผู้ดูและกับพนักงานเหล่านั้นของหอจินอวี้ยังมีทักษะการวาดภาพเหมือนอันยอดเยี่ยมของอวิ๋นฝูหลิง จะต้องจับพวกปลาซิวปลาสร้อยพวกนั้นได้เป็นแน่แม้ว่ากลุ่มของราชครูแคว้นเยว่จะฉวยโอกาสวางเพลิงเพื่อหนีออกไปจากหอจินอวี้ แต่ประตูเมืองจินโจวก็ปิดอยู่ ยามนี้พวกเขาคงยังซ่อนตัวอยู่ในเมืองนอกจากนี้ มีบางสิ่งที่ต้องจัดการด้วยเช่นกันเซียวจิ่งอี้ยืนอยู่หน้าประตูสำนักผิงอัน หันกลับมามองอวิ๋นฝูหลิงที่กำลังยุ่งคราหนึ่งเพียงชั่วครู่เดียว เขาก็พลิกร่างขึ้นหลังม้า มุ่งตรงไปยังที่ว่าการเมืองจินโจวครึ่งชั่วยามต่อมา มีประกาศใบหนึ่งถูกนำมาติดไว้ที่ประตูที่ว่าการทั้งยังมีคนตีฆ้องจากที่ว่าการ อ่านเนื้อหาในประกาศไปทั่วเมืองประกาศนี้กล่าวถึงอันตรายของขี้ผึ้งทอง

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 612

    “ข้าอยากจับคนร้ายที่กระทำความผิด ให้ได้แบบคาหนังคาเขา”“แต่ไม่คิดเลยว่าคนผู้นั้นจะโหดเหี้ยมถึงขั้นเสียสติ ตั้งใจวางเพลิงในหอจินอวี้ เพื่อหลบหนีการไล่ล่า”“เป็นเพราะข้าไม่รอบคอบ ทำให้ผู้บริสุทธิ์ทุกคนต้องตกอยู่ในอันตราย”“วันนี้ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บเพราะเหตุเพลิงไหม้ที่หอจินอวี้ ค่ารักษาและค่ายาข้าจะจ่ายให้เอง”“นอกจากนี้ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย จะได้รับห้าตำลึง ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บหนักจะได้รับสิบตำลึง”“ได้ยินว่ามีสองคนที่ถูกไฟไหม้จนบาดเจ็บสาหัส สองคนนี้จะได้รับยี่สิบตำลึง”“เงินเหล่านี้ถือเป็นน้ำใจเล็กน้อยจากข้า ที่อยากจะรักษาร่างกายเหล่าผู้บาดเจ็บ”“ข้าจะให้คนนำเงินมามอบให้ในภายหลัง!”ผู้บาดเจ็บทุกคนได้ยินเช่นนั้น ความไม่พอใจที่สุมอยู่ในอกก็หายไปกว่าครึ่งทันทีตอนนี้เมื่อย้อนคิดดูแล้ว เมื่อคืนยามที่หอจินอวี้ถูกปิดล้อม ผู้นำคนนั้นก็บอกว่าทำเพื่อสืบคดีบางอย่างจริง ๆคิดดูอีกครายามนั้นที่เกิดเพลิงไหม้ ทหารเหล่านั้นก็มิได้บังคับขังพวกเขาไว้ในหอจินอวี้ ทว่ากลับรีบเข้ามาในหอเพื่อดับไฟช่วยคนหากไม่ใช่เพราะเหตุนี้ เกรงว่าพวกเขาคงไม่ใช่แค่ได้รับบาดเจ็บ แต่กว่าครึ่งคงตายตกไปในเหตุเพ

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status