แชร์

บทที่ 121

ผู้เขียน: หลันซานอวี่
อวิ๋นซานหูน้ำตาไหลพราก ชั่วประเดี๋ยวก็โถมตัวเข้าสู่อ้อมแขนของฮูหยินรองอวิ๋น น้ำเสียงของนางมีแต่ความน้อยเนื้อต่ำใจ

“ท่านแม่...”

หัวใจฮูหยินรองอวิ๋นเต้นโครมคราม “หน้า หน้าเจ้าไปโดนอันใดมา?”

ขนมธรรมเนียมในราชวงศ์ต้าฉีนั้นผ่อนคลายกว่าราชวงศ์ก่อนอยู่บ้าง แม้จะยังมีข้อห้ามระหว่างชายหญิง ทว่ากลับไม่ได้เข้มงวดกวดขันอย่างราชวงศ์ก่อน

ฉะนั้นยามสตรีออกไปข้างนอก จึงมีน้อยคนนักที่จะสวมใส่หมวกม่านมี่หลีปิดบังโฉมหน้า

อวิ๋นซานหูมีนิสัยร่าเริง แต่ไหนแต่ไรก็รำคาญใจที่จะใส่ของอย่างหมวกม่านมี่หลีพวกนี้ ด้วยรังเกียจว่ามันยุ่งยาก

ทว่าในสภาพอากาศร้อนอบอ้าวเช่นนี้ อวิ๋นซานหูถึงกับใส่ผ้าคลุมปิดบังใบหน้าเสียมิดชิด

นางจึงรู้ได้ทันทีว่ามีบางอย่างผิดปกติกับใบหน้าของบุตรสาว

อวิ๋นซานหูไม่ตอบอันใด เพียงแค่ร้องไห้พลางกล่าว “ท่านพ่อเล่า? ท่านพ่อเล่าเจ้าคะ?”

ฮูหยินรองอวิ๋นรีบเรียกคนทันที “เร็วเข้า รีบไปตามนายท่านกลับมาจากสำนักหมอหลวงเร็วเข้า!”

ฮูหยินรองอวิ๋นมัวแต่เป็นห่วงบุตรสาวคนเล็ก จนหลงลืมหลานชายที่อยู่ข้างหลังไปชั่วขณะ

ครั้นติงหมิงรุ่ยนึกถึงสภาพบาดแผลบนดวงหน้าของอวิ๋นซานหู เขาจึงนึกตำหนิตัวเองอยู่ในใจ

แม
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
ความคิดเห็น (1)
goodnovel comment avatar
Jocky Tagool
นิสัยเสียแล้วยังกล่าวหาคนอื่นอีก น่าจะถูกเสือตะปบมากกว่านี้
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 122

    ฉะนั้นการที่อยู่ ๆ ได้ยินอวิ๋นซานหูพูดถึงแม่นางอวิ๋นในยามนี้แล้ว อวิ๋นหลิงจือจึงเอ่ยถามซักไซ้ไล่เลียงทันที “ชื่อแซ่เต็ม ๆ ของแม่นางอวิ๋นผู้นั้นว่าอะไรหรือ? ตอนนี้คนผู้นั้นอยู่ที่ใดเล่า? รูปร่างหน้าตาของนางเป็นเช่นไร?”อวิ๋นซานหูกำลังเจ็บปวดรวดร้าว ทันทีที่ได้ยินพี่สาวเอ่ยถามติดต่อกันถึงสามเรื่อง นางถึงกับสับสนมึนงงไม่น้อยเรื่องพวกนี้มันสำคัญตรงไหนกัน?เรื่องละเอียดยิบย่อยพกวนี้มันไม่สำคัญเลยสักนิดสิ่งที่สำคัญที่สุดในยามนี้ก็คือบาดแผลบนใบหน้าของนาง!ครั้นอวิ๋นหลิงจือเห็นสายตาน้อยเนื้อต่ำใจระคนเอาเรื่องของน้องสาวแล้ว นางก็ได้สติทันทีว่ายามนี้มิใช่เวลามาถามเรื่องพวกนี้อีกทั้งในห้องโถงแห่งนี้ยังมีคนรวมกันอยู่เป็นกลุ่มใหญ่เรื่องของแม่นางอวิ๋น ไว้นางค่อยหาโอกาสอื่น ๆ สอบถามรายละเอียดกับน้องสาวเป็นการส่วนตัวคราวอื่นก็ได้“ให้ข้าดูแผลของเจ้าหน่อย”อวิ๋นหลิงจือนั้นพอจะเข้าใจวิชาแพทย์อยู่บ้างเพียงแต่นางสติปัญญาไม่สูงมากนัก กอปรกับไม่ได้สนใจใคร่รู่วิชาแพทย์มากเท่าใด สาเหตุที่นางบีบบังคับให้ตนเองเล่าเรียนวิชาแพทย์ ก็เพราะว่านางพบว่าการรู้วิชาแพทย์นั้นเป็นวิธีการหนึ่งที่ช่วยให้นางเข้

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 123

    ในฐานะคนที่เคยได้เห็นความคึกคักเจริญรุ่งเรืองของย่านการค้าซีบีดีในยุคปัจจุบันมาแล้ว ความเจริญของเขตปกครองเจียงหนิงนั้นไม่ต่างอะไรกับตัวอำเภอเมืองเล็ก ๆ เลยในสายตาของอวิ๋นฝูหลิงทว่านางก็ยังคงเดินเล่นได้อย่างเบิกบานใจนางจูงมืออวิ๋นจิงมั่ว อวิ๋นจิงมั่วอุ้มลูกเสือน้อยไว้ในอ้อมแขน ส่วนลูกพี่อู๋กับคังหมิงหย่วนก็เดินขนาบอยู่ด้านข้างทั้งสองคนคนสี่คนพร้อมกับเสืออีกหนึ่งตัวเที่ยวเดินเล่น จับจ่ายซื้อของ และกินอาหารเรื่อยไปขณะที่กำลังเดินเล่นกันอย่างสบายใจ จู่ ๆ ลูกพี่อู๋ก็โพล่งเตือนขึ้นมาว่า “แม่นางอวิ๋น ดูเหมือนว่าจะมีคนตามพวกเรามาตลอดทางนะ”อวิ๋นฝูหลิงเองก็รู้สึกได้พอดีกับที่มีตรอกอยู่ข้าง ๆ เส้นหนึ่ง ฝีเท้าของอวิ๋นฝูหลิงจึงเปลี่ยนทิศทาง รีบเดินเลี้ยงเข้าไปในตรอกนั้นคนในชุดสีเทาเดินตามเข้ามาในตรอก ทว่ากลับพบแต่ความว่างเปล่าตรอกแห่งนี้มีเพียงทางออกเดียว ทั้งที่เขาเห็นคนเดินเข้ามาด้านในนี้ชัด ๆ แต่เหตุใดถึงไม่เห็นตัวแล้วเล่า?คนชุดเทามองไปรอบ ๆ ไม่หยุด พร้อมกับที่ได้แต่พิศวงอยู่ในใจทันใดนั้นภาพตรงหน้าก็พร่าเลือน ราวกับมีบางสิ่งบางอย่างโฉบผ่านศีรษะเขาไป ยังไม่ทันที่เขาจะรู้สึกตัว

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 124

    อวิ๋นฝูหลิงไม่ได้เอื้อนเอ่ยคำใด นางฟังอีกฝ่ายเงียบ ๆผ่านไปครู่ใหญ่ อวิ๋นฝูหลิงถึงได้กล่าวออกมา“ข้าจำท่านไม่ได้แล้ว ท่านคือใครหรือ?”“หลังจากที่ฝางมามาช่วยชีวิตข้าออกมาจากกองเพลิงได้ เพราะได้รับบาดเจ็บหนัก ความทรงจำบางอย่างของข้าเลยขาด ๆ หาย ๆ ไม่ชัดเจน”แม้ว่าอวิ๋นฝูหลิงจะฟื้นฟูความทรงจำของเจ้าของร่างเดิมได้มาเป็นส่วนใหญ่แล้ว ทว่ายังมีความทรงจำบางอย่างที่ยังคงเลือนรางไม่ชัดเจนและใจคนนั้นเปลี่ยนง่ายแม้ว่าคนตรงหน้านางจะให้ความรู้สึกคุ้นเคย แต่ในใจของนางก็ยังไม่ละความระแวดระวังบุรุษชุดเทาถึงกับชะงักงัน จากนั้นก็ร้องห่มร้องไห้ออกมายกใหญ่มิน่าสายตาของคุณหนูใหญ่ยามที่มองเขาถึงได้ดูไม่คุ้นเคยขนาดนั้น ที่แท้ก็สูญเสียความทรงจำนี่เองหลายปีมานี้ คุณหนูใหญ่ต้องอยู่ข้างนอกและได้รับความทุกข์ตรมมากเป็นแน่“คุณหนูใหญ่ ข้าน้อยชื่อหลิงโหยวขอรับ”“แต่เดิมข้าน้อยถูกท่านโหวผู้เฒ่าเลือกมาจากชนบท ให้มาเป็นผู้ติดตามของท่านโหวขอรับ”“ข้าน้อยโชคดีนัก ได้เล่าเรียนตำราและวิชาแพทย์กับท่านโหว”“ต่อมาได้รับความไว้วางใจจากนายท่านเหมิงโหว ให้คอยช่วยท่านโหวดูแลจัดการสำนักช่วยชีพขอรับ”......จากคำ

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 125

    ความทะเยอทะยานและความโฉดชั่วของบัณฑิตผู้นั้น เผยโฉมออกมาจนหมดเปลือกบุตรสาวของท่านโหวผู้เฒ่ามีนิสัยอ่อนแอ ทว่าซื่อจื่อน้อยนั้นถูกเลี้ยงดูภายใต้เงาของท่านโหวผู้เฒ่ามาตั้งแต่เด็ก จึงฉลาดเฉลียวไม่เป็นรองใคร จะบีบบังคับเขาก็ไม่ง่ายนักอีกทั้งเส้นสายและสินทรัพย์ของท่านโหวผู้เฒ่าทั้งหมดทั้งมวลล้วนอยู่ในมือของซื่อจื่อน้อยบัณฑิตผู้นั้นอาศัยว่าตนเองเป็นบิดาผู้ให้กำเนิด คิดอยากเป็นเจ้านายของจวนจี้ชุนโหว เช่นนี้ช่างเป็นความคิดเพ้อเจ้อไร้สาระเหลือเกินในมือของซื่อจื่อน้อยมีทั้งคนทั้งเงินทอง จึงบีบคั้นบัณฑิตผู้นั้นและบุตรนอกจวนไว้ ทั้งยังเอาชีวิตของบุตรนอกจวนมาบังคับขู่เข็ญ ให้บัณฑิตผู้นั้นทำตนเป็นนายท่านผู้เฒ่าของเขาไปอย่างเงียบ ๆ อย่าได้ริอ่านไร้สาระกับของที่ไม่ใช้ของตนเมื่อท่านโหวผู้เฒ่าจากไป ซื่อจื่อก็สืบช่วงต่อบรรดาศักดิ์ พระราชโองการแต่งตั้งจี้ชุนโหวคนใหม่ประกาศลงมาอย่างรวดเร็วไม่นานนักบัณฑิตนั้นก็ทำตัวสงบเสงี่ยมประพฤติตนดีภายใต้การกดดันของจี้ชุนโหวคนใหม่ส่วนบุตรสาวของท่านโหวผู้เฒ่านั้นก็ได้รับการกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง เพราะเรื่องที่สามีไปร่วมคลุกคลีกับสตรีอื่น ทั้งยังให้กำเนิดบุ

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 126

    เดิมทีนายท่านรองอวิ๋นก็มีความคิดที่จะกำจัดเขาเช่นกัน แต่หลิงโหยวนั้นฉลาดเฉียบแหลม พาครอบครัวออกไปจากเมืองหลวงแล้วเขาอาศัยวิชาแพทย์ที่ได้ร่วมเรียนกับจี้ชุนโหวเมื่อหลายปีก่อน ไปเป็นหมออยู่ในสำนักแพทย์แห่งหนึ่งในเขตปกครองเจียงหนิงยามนี้คุณชายน้อยสกุลลู่ได้รับบาดเจ็บ หมอมีชื่อแม้จะเล็กน้อยแทบจะทั่วทั้งเขตปกครองเจียงหนิงล้วนถูกสกุลลู่ตามตัวด้วยเหตุนี้ หลิงโหยวจึงได้เห็นอวิ๋นฝูหลิงที่เรือนหลังของสำนักผิงอันภายหลังจากนั้นเขาจำนางได้จากศาสตร์ฝังเข็มสกุลอวิ๋นที่อวิ๋นฝูหลิงใช้“ท่าทางคุณหนูใหญ่จะเติบโตขึ้นมากว่าเมื่อก่อนนะขอรับ”“รูปโฉมละม้ายคล้ายคลึงกับฮูหยิน ทั้งยังเหมือนกับท่านโหว”“วิชาแพทย์ก็ยิ่งเก่งกาจเหมือนอย่างท่านโหวผู้เฒ่ามากขอรับ”“หากท่านโหวผู้เฒ่า ท่านโหวและฮูหยินที่อยู่ในปรโลกได้รับรู้ ได้ทราบว่าสกุลอวิ๋นมีผู้สืบทอด จะต้องดีใจมากแน่ขอรับ!”พูดไปพูดมา หลิงโหยวก็อดร้องไห้ออกมาไม่ได้พวกเขาทั้งครอบครัวได้รับความเมตตาใหญ่หลวงจากท่านโหวผู้เฒ่า ถึงได้มีที่ทางให้ใช้ชีวิตอยู่อย่างสงบสุขท่านโหวปฏิบัติกับเขาดียิ่ง สอนให้เขาอ่านตำราเล่าเรียนวิชาแพทย์ พอเห็นว่าบุตรชายของเขามีสต

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 127

    อวิ๋นฝูหลิงหยิบป้ายอาญาสิทธิ์แผ่นนั้นออกมาจากมิติป้ายอาญาสิทธิ์นี้แกะสลักขึ้นจากหยกมันแพะทั้งแผ่น บริเวณด้านล่างมีลวดลายแปลกตาซึ่งลวดลายแปลกตานี้ วันนี้อวิ๋นฝูหลิงได้เห็นผ่านตาจากป้ายเหนือประตูสำนักช่วยชีพยามที่ไปเดินเที่ยวเล่นแล้วเดินผ่านสำนักช่วยชีพแต่เดิมอวิ๋นฝูหลิงไม่เข้าใจว่าลวดลายนั้นคืออะไร ทว่าพอวันนี้หยิบป้ายขึ้นมาดูอีกครั้ง นางก็เข้าใจได้ทันทีว่าลวดลายนี้เป็นการนำเห็ดหลินจือ โสม บัวหิมะและเขาอ่อนกวาง สี่ตัวยาล้ำค่าและมีชื่อมาประกอบกันราวกับอวิ๋นฝูหลิงนึกอะไรบางอย่างออก นางนำป้ายไม้ที่นายท่านหางมอบให้ออกมา บนป้ายไม้สลักลายเห็ดหลินจือเอาไว้นางจำได้ว่าเหนือประตูสำนักผิงอันก็มีลายเห็ดหลินจือซึ่งปู่ทวดของนางผู้นั้น ช่วงที่ดำรงเป็นจี้ชุนโหวแรก ๆ เคยรับศิษย์ไว้สี่คนเป็นไปได้หรือไม่ว่าตัวยาทั้งสี่จากในลวดลายนี้ พอแยกแล้วจะสื่อถึงศิษย์ทั้งสี่ของเขา?หรือว่าสกุลหางของสำนักผิงอัน จะมีความเกี่ยวข้องกับสกุลอวิ๋นเช่นนี้?อวิ๋นฝูหลิงพลิกเล่นป้ายหยกในมือ สายตาของนางมืดครึ้มผ่านไปครู่ใหญ่ นางถึงได้เก็บป้ายหยกกลับเข้าไปอย่างระมัดระวังเดิมทีหยกมันแพะใหญ่ขนาดนี้ก็ราคาสูงลิ่วอ

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 128

    ต้องวิ่งวุ่นจนถึงยามดึกถึงจะปรุงโอสถพรรณหยกสำหรับกำจัดรอยแผลขึ้นมาได้ จากนั้นจึงทายาให้อวิ๋นซานหูแม้จะทาโอสถพรรณหยกแล้ว ทว่านายท่านรองอวิ๋นกลับยังคงเป็นกังวลด้วยบาดแผลของอวิ๋นซานหูสาหัสเกินไป แม้จะมีโอสถพรรณหยก แต่อยากจะให้รอยแผลเป็นหายไปเป็นปลิดทิ้งนั้นเกรงว่าจะไม่ง่ายดายนักนายท่านรองอวิ๋นตัดสินใจแล้วว่าคืนนี้จะไปพลิกดูตำราแพทย์ที่ห้องตำรา จะลองหาดูว่ามีวิธีกำจัดรอยแผลที่ดีกว่านี้หรือไม่ขณะที่กำลังพลิกดูตำราแพทย์ เขาก็อดนึกถึงตำราแพทย์และศาสตร์ฝังเข็มที่จี้ชุนโหวผู้เฒ่าทิ้งไว้ขึ้นมาไม่ได้ได้ยินมาว่าจี้ชุนโหวผู้เฒ่าเรียบเรียงตำราขึ้นมาจากความรู้ทั้งหมดที่ตนมี ไม่เพียงบันทึกโรคและวิธีการรักษาต่าง ๆ ที่เขาประสบพบเจอมาชั่วชีวิต แต่ยังบันทึกสูตรเทียบยาไว้มากมายนับไม่ถ้วนไม่แน่ว่าในตำราแพทย์นั่นอาจจะมีเทียบยาที่สามารถรักษารอยแผลเป็นอยู่ก็ได้น่าเสียดายก็แต่ ตอนนั้นที่กำจัดนางเด็กหน้าเหม็นนั่น ไม่ได้ขนของต่าง ๆ ออกมาด้วยแล้วก็ไม่รู้ด้วยว่านางเด็กหน้าเหม็นนั่นเอาของไปซุกซ่อนไว้ที่ใดกันแน่!นายท่านรองอวิ๋นเคียดแค้นอยู่ในใจใครจะรู้ว่าอวิ๋นหลิงจือจะมาพบในยามดึกสงัด นางมาบอกข่าว

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 129

    หากไม่ใช่ว่าเขามีอุบายอยู่บ้าง ทั้งยังพึ่งพิงต้นไม้ใหญ่อย่างไทเฮาแล้วละก็ เกรงว่าเขาคงจะถูกขับออกจากสำนักหมอหลวงไปนานแล้วทว่าวันเวลาที่เขาได้อยู่ในสำนักหมอหลวงนั้น กลับไม่ได้ดีสักเท่าไรแม้ว่าฝีมือการรักษาของเขาจะไม่เลวนัก แต่จวบจนวันนี้ก็ยังเป็นเพียงแค่หมอหลวงขั้นสี่เท่านั้นเหนือขึ้นไปข้างบนยังมีขุนเขาใหญ่สามลูกอย่างสำนักหลักพร้อมกับสำนักซ้ายขวาคอยกดทับระหว่างนั้นมีโอกาสให้ได้เลื่อนขั้นอยู่หลายครั้ง ทว่าโอกาสเหล่านั้นล้วนไม่เคยมาถึงเขาสักคราช่วงนี้เขาได้ยินข่าวไม่เป็นทางการมาว่า เจ้าสำนักเซียวอายุมากแล้ว คิดจะเกษียณราชการกลับบ้านเดิมหากเจ้าสำนักเซียวเกษียณตัว รองเจ้าสำนักซ้ายขวาทั้งสองคนนั้นล้วนจับจ้องตำแหน่งเจ้าสำนักตาเป็นมันไม่ว่าใครในสองคนนั้นจะได้ขึ้นเป็นเจ้าสำนัก ตำแหน่งรองเจ้าสำนักก็ว่างลงหนึ่งตำแหน่งอยู่ดีนายท่านรองอวิ๋นรู้จักตนดี จากคุณสมบัติในยามนี้ของเขา หากจะเป็นเจ้าสำนักนั้นคงไม่อาจได้รับการยอมรับ แต่กับตำแหน่งรองเจ้าสำนักแล้ว เขาก็พอจะพยายามยื้อแย่งมาได้อยู่เขาอยู่ในสำนักหมอหลวงมานานหลายปีเช่นนี้ ก็ควรจะได้เลื่อนขั้นกับเขาบ้างหากยามนี้ เขามีตำราแพทย์กับ

บทล่าสุด

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 508

    เซียวจิงมั่วยื่นนิ้วก้อยออกไป“ได้ พวกเราเกี่ยวก้อยกัน” อวิ๋นฝูหลิงก็ยื่นนิ้วก้อยออกไปเช่นกันทั้งสองเกี่ยวนิ้วก้อยสัญญากันคืนนี้อวิ๋นฝูหลิงนอนกับเซียวจิงมั่วเช้าวันรุ่งขึ้น อวิ๋นฝูหลิงนั่งรถม้าที่มีสัญลักษณ์ของจวนอี้อ๋อง พาเซียวจิงมั่วไปที่จวนองค์หญิงใหญ่ฉางเล่อแล้วองค์หญิงใหญ่ฉางเล่อได้รับจดหมายของอวิ๋นฝูหลิงตั้งแต่เมื่อคืนแล้วดังนั้นวันนี้จึงมารอตั้งแต่เช้าแล้วอวิ๋นฝูหลิงจูงมือเซียวจิงมั่วเข้ามา หลังจากคำนับก็กล่าว “ท่านป้า ต้องรบกวนท่านดูแลจิงมั่วสักระยะแล้ว”องค์หญิงใหญ่ฉางเล่อชอบเซียวจิงมั่วมาก ย่อมยินดีที่จะดูแลเขาสักระยะอยู่แล้วเซียวจิงมั่วเงยหน้า ยิ้มหวานให้องค์หญิงใหญ่ฉางเล่อ “ท่านย่า จิงมั่วเป็นเด็กดี เลี้ยงง่ายมาก จิงมั่วยังสามารถเล่นเป็นเพื่อนท่านย่า และเล่าเรื่องตลกให้ท่านย่าฟังขอรับ”เมื่อองค์หญิงใหญ่ฉางเล่อได้ยินเช่นนี้ ก็ดึงเซียวจิงมั่วเข้ามาในอ้อมแขน หยิกแก้มเขาทีหนึ่งแล้วกล่าว “แก้วตาดวงใจของย่า เจ้าอยู่ที่นี่ก็คิดเสียว่าอยู่บ้านของตัวเอง ย่าชอบจิงมั่วของเรามาก!” องค์หญิงใหญ่ฉางเล่อบีบนวดเซียวจิงมั่วครู่หนึ่ง จึงจะเงยหน้ากล่าวกับอวิ๋นฝูหลิง“ฝากจิง

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 507

    อวิ๋นฝูหลิงเห็นอู๋ปิ่งจื๋อพูดตรงเช่นนี้ จึงไม่อ้อมของกับเขาเช่นกัน “ดูจากบัญชีรายชื่อที่พบในเรือนเสินเซียน มีคนไม่น้อยในเมืองหลวงที่เคยไปซื้อขี้ผึ้งทองในเรือนเสินเซียน”“ตอนนี้แม้พวกเราควบคุมเรือนเสินเซียนไว้แล้ว แต่เมื่อไรที่พวกคนที่สูบขี้ผึ้งทองไม่สามารถซื้อขี้ผึ้งทองจากเรือนเสินเซียน เกรงว่าจะเกิดความวุ่นวาย”“แต่ถ้าหากปล่อยขายขี้ผึ้งทอง ไม่เท่ากับช่วยคนชั่วก่อกรรมทำเข็ญ ทำให้ผู้เคราะห์ร้ายยิ่งเสพติดหรือ?”“แต่จะปล่อยให้เรือนเสินเซียนเปิดต่อไปเช่นนี้ มันก็ไม่ใช่ทางออก”“ต่อไปถ้าหากมีคนไปซื้อขี้ผึ้งทองที่เรือนเสินเซียนอีก ท่านสามารถโกหกว่ามีของขาย หลังจากล่อคนไปในที่ลับตาและจับตัวได้แล้ว ค่อยส่งให้นายท่านหลิงของสำนักช่วยชีพ เขารู้ว่าควรจะทำอย่างไร”“ถ้าหากสถานการณ์เกินจะควบคุมจริงๆ ท่านสามารถขายขี้ผึ้งทองออกไปบางส่วน ดึงดูดสายตาของคนในเมืองหลวง”“ต้องทำให้คนที่อยู่เบื้องหลังคิดว่าทุกอย่างในเรือนเสินเซียนยังคงเป็นปกติ จะให้พวกเขาเพ่งเล็งทางเจียงหนานไม่ได้”“ท่านเปิดเรือนเสินเซียนอีกหนึ่งเดือน หลังจากนั้นหนึ่งเดือนปิดโดยตรง”ผู้คนมากมายติดขี้ผึ้งทอง เรื่องนี้ปิดอย่างไรก็ปิดไม่อ

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 506

    “รายละเอียดต่างๆ ข้าได้เขียนไว้บนเทียบยาหมดแล้ว”“ถ้าหากมีอะไรไม่แน่ใจ สามารถไปขอให้ท่านปู่โอวหยางช่วย”อวิ๋นฝูหลิงกล่าวจบ มอบเทียบยาหลายใบที่เขียนไว้ก่อนแล้วให้หลิงโหยวหลิงโหยวรับมือด้วยสองมือ “บ่าวเข้าใจแล้ว คุณหนูใหญ่ไปอย่างวางใจเถอะ บ่าวจะดูแลสำนักช่วยชีพให้ดีแน่นอน”หลังจากอวิ๋นฝูหลิงสั่งงานเสร็จแล้ว ก็ให้หลิงโหยวออกไปทางสวนสมุนไพรและโรงปรุงยาล้วนดำเนินการตามปกติ มีผู้ดูแลคอยดูแลอยู่ ประกอบกับสวี่ตงมาตรวจเป็นระยะ ดังนั้นอวิ๋นฝูหลิงจึงไม่ต้องห่วงอะไรมากกลับกันเป็นทางเรือนเสินเซียนที่ค่อนข้างลำบากเดิมทีเซียวจิ่งอี้เพื่อไม่แหวกหญ้าให้งูตื่น ปิดข่าวของเรือนเสินเซียนมาโดยตลอด และสร้างภาพให้ภายนอกเห็นว่ายังคงดำเนินกิจการตามปกติรอเขารู้สถานการณ์ทางเจียงหนานชัดเจนแล้ว ก็ย่อมสามารถเก็บงานทางเมืองหลวงแล้วคิดไม่ถึงว่าเซียวจิ่งอี้จะหายตัวในเจียงหนานกะทันหันและคนที่สูบขี้ผึ้งทองในเมืองหลวง เริ่มแสดงอาการพึ่งพาขี้ผึ้งทองจนกลายเป็นเสพติดแล้ว คนเหล่านี้หาซื้อขี้ผึ้งทองที่เรือนเสินเซียนไม่ได้ เมื่อนั้นวันเข้า ต้องเกิดความวุ่นวายแน่นอนอวิ๋นฝูหลิงไม่รู้ว่านางไปครั้งนี้ ต้องใช้เว

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 505

    เมื่อเกากงกงตระหนักถึงสิ่งเหล่านี้ รู้ว่าเรื่องเราไม่ได้เป็นอย่างที่เขาคิดก่อนหน้านี้ ในที่สุดก็สบายใจแล้วแต่เมื่อคิดดูอีกที นี่เป็นความลับที่เขาสามารถฟังได้หรือ?เหงื่อเย็นของเกากงกงผุดออกมาทันทีฮ่องเต้จิ่งผิงเหมือนจะเดาความคิดของเกากงกงได้ มองเขาอย่างจะยิ้มไม่ยิ้มแวบหนึ่งแล้วกล่าว “ดูทำเอาเจ้าตกใจซะหน้าซีด!”เกากงกงรีบยิ้มทันที “ความตั้งใจของฝ่าบาท บ่าวแค่ฟังยังซาบซึ้งเลย”ฮ่องเต้จิ่งผิงตอบ “อืม” คำเดียว ก็ไม่ได้พูดอะไรอีกภายในตำหนักมีเพียงฮ่องเต้เจียงผิงกับเกากงกงผ่านไปแล้วครู่หนึ่ง ฮ่องเต้จิ่งผิงจึงจะกล่าว “ผู้บัญชาการทหารรักษาพระองค์อยู่ไหน?”เกากงกงรีบตอบทันที “ฝ่าบาท วันนี้ผู้บัญชาการซ่างพักผ่อน คนที่เข้าเวรวันนี้คือรองผู้บัญชาการเหยาพ่ะย่ะค่ะ”“ไปเรียกผู้บัญชาการทหารรักษาพระองค์ซ่างผิงมา!”เกากงกงขานรับทีหนึ่ง ออกจากตำหนัก สั่งให้คนไปเรียกซ่างผิงมาพบทันทีทางอวิ๋นฝูหลิงหลังออกจากวังหลวง ก็สั่งให้เหยากวงถือป้ายคำสั่งหน่วยกระบี่เงา ไปเอาข้อมูลทั้งหมดที่หน่วยกระบี่เงาได้รับหลังจากเซียวจิ่งอี้กับจั่วเยี่ยนไปถึงเจียงหนานที่หน่วยกระบี่เงาส่วนอวิ๋นฝูหลิงกลับจวนอี้อ๋อง

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 504

    แต่เรื่องการแต่งตั้งฮองเฮา เกี่ยวอะไรกับพระชายาอี้อ๋อง?ฮ่องเต้จิ่งผิงคงจะไม่ได้สนใจพระชายาอี้อ๋อง อยากแต่งตั้งนางเป็นฮองเฮากระมัง?แต่พระชายาอี้อ๋องเป็นพระชายาของอี้อ๋อง!แต่เมื่อก่อนก็ใช่ว่าไม่เคยมีเรื่องเช่นนี้ราชวงศ์ที่แล้วก็มีฮ่องเต้องค์หนึ่ง สนใจลูกสะใภ้ของตัวเอง เขาได้มีพระบัญชาสั่งให้ลูกชายหย่ากับลูกสะใภ้ และประทานการแต่งงานใหม่ให้ลูกชาย หลังจากนั้นบังคับลูกสะใภ้เข้าวัง กลายเป็นพระสนมที่โปรดปรานที่สุดในวังหลังฮ่องเต้จิ่งผิงคงไม่ได้คิดเช่นนี้กระมัง?และบังเอิญเกิดเรื่องกับอี้อ๋องในเวลานี้เมื่อเกากงกงคิดเช่นนี้ เหตุใดรู้สึกว่าการหายตัวไปของอี้อ๋อง เหมือนมีบางอย่างไม่ชอบมาพากลเกากงกงคิดมาถึงตรงนี้ ก็รู้สึกว่าเหลวไหลฝ่าบาทรักอี้อ๋องลูกชายคนนี้ที่สุดมาโดยตลอด และอี้อ๋องกับพระชายาอี้อ๋องก็รักกันมากถ้าหากฝ่าบาทสนใจพระชายาอี้อ๋อง พ่อลูกจะไม่เกิดความขัดแย้งกันหรือ?อีกทั้งถ้าหากฝ่าบาทบังคับพระชายาอี้อ๋องเข้าวังจริงๆ ด้วยสถานะเช่นนี้ อยากแต่งตั้งนางเป็นฮองเฮา เกรงว่าไม่เพียงขุนนางของราชสำนัก แม้แต่ไทเฮากับเหล่าสนมในวังหลังก็จะคัดค้านหัวชนฝาลองนึกดูคนราชวงศ์ก่อน ต่อให้ไ

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 503

    ฮ่องเต้จิ่งผิงชี้ป้ายคำสั่งที่ดำสนิทแล้วกล่าว “นี่คือป้ายคำสั่งของหน่วยกระบี่เงา”“เจ้าถือป้ายคำสั่งชิ้นนี้ สามารถเรียกใช้หน่วยกระบี่เงาในสถานที่ต่างๆ ได้ตามต้องการ”จากนั้นเขาก็ชี้ป้ายทองสีเหลือง “นี่คือป้ายทองพระราชทาน”“ถือป้ายทองชิ้นนี้ เหมือนเราไปเยือนด้วยตัวเอง ขุนนางเล็กใหญ่ในท้องที่ต่างๆ ล้วนเชื่อฟังคำสั่งของเจ้า”อวิ๋นฝูหลิงฟังจนประหลาดใจคิดไม่ถึงว่าฮ่องเต้จิ่งผิงจะมอบอำนาจให้นางมากเช่นนี้เกิดความรู้สึกแปลกๆ ขึ้นในใจนางทว่าสิ่งสำคัญที่สุดในตอนนี้คือรีบหาเซียวจิ่งอี้ให้เจอ อวิ๋นฝูหลิงไม่มีเวลาคิดมาก นางก้มศีรษะคำนับทันที “ขอบพระทัยเสด็จพ่อ!”อวิ๋นฝูหลิงไปตามหาคนที่เจียงหนานครั้งนี้ ต้องเก็บเป็นความลับการหายตัวไปของเซียวจิ่งอี้ ยิ่งให้คนนอกรู้ไม่ได้เพื่อหลีกเลี่ยงถูกคนเอาไปใช้ประโยชน์ จะยิ่งเป็นผลเสียต่อเซียวจิ่งอี้ แต่เรื่องที่ฮ่องเต้จิ่งผิงเรียกอวิ๋นฝูหลิงมาพบที่ตำหนักจื่อเฉินกลับปิดไม่อยู่ดีที่ฮ่องเต้จิ่งผิงคิดวิธีรับมือไว้นานแล้วก่อนออกจากตำหนักจื่อเฉิน อวิ๋นฝูหลิงตรวจชีพจรให้ฮ่องเต้จิ่งผิง ได้เขียนไปตรวจชีพจรและเทียบยาทิ้งไว้หนึ่งใบฮ่องเต้จิ่งผิงออกคำ

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 502

    ฮ่องเต้จิ่งผิงเห็นอวิ๋นฝูหลิงเบิกตากว้าง ทำหน้าไม่อยากเชื่อ ก็อดสงสารไม่ได้เขาเองก็หวังว่านี่จะเป็นข่าวปลอมเขายิ่งรู้สึกเสียใจที่ให้เซียวจิ่งอี้ไปสืบสวนคดีขี้ผึ้งทองที่เจียงหนานแต่ตอนนี้เกิดเรื่องแล้ว การหนีปัญหาคือสิ่งที่ไร้ประโยชน์และขี้ขลาดที่สุดหาวิธีแก้ปัญหาจึงจะเป็นทางออกที่ถูกต้องฮ่องเต้จิ่งผิงหันหน้าหนี ทำใจครู่หนึ่ง จึงจะเอ่ยปากอีกครั้งอย่างลำบากใจ  “คนของหน่วยกระบี่เงาส่งจดหมายลับกลับมาเมืองหลวง อี้อ๋องกับจั่วเยี่ยนหายตัวไป จนถึงตอนนี้ก็ยังหาไม่เจอ”อวิ๋นฝูหลิงจึงจะตระหนัก นางไม่ได้หูฝาด เซียวจิ่งอี้หายตัวไปแล้วจริงๆนางหมุนกายก็เดินออกไปข้างนอกฮ่องเต้จิ่งผิงเห็นดังนี้ก็ตกใจ รีบกล่าว “รีบหยุดนางไว้!”เกาโหย่วฝูมือว่องตาไว รีบวิ่งไปขวางนางไว้ฮ่องเต้จิ่งผิง “เจ้าคิดจะทำอะไร?”“ข้าจะไปตามหาเขาที่เจียงหนาน!” อวิ๋นฝูหลิงหันไปมองฮ่องเต้จิ่งผิง จู่ๆ ก็คุกเข่า “เสด็จพ่อ ท่านโปรดอนุญาต ให้หม่อมฉันไปตามหาเขาที่เจียงหนานด้วยเพคะ!”อวิ๋นฝูหลิงรู้สึกร้อนใจ เป็นห่วงสถานการณ์ของเซียวจิ่งอี้มากแม้เขามีหยดน้ำแห่งจิตวิญญาณในมิติติดตัวหนึ่งหยด ชีวิตของเขาน่าจะปลอดภัย แต่ก่อ

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 501

    เซียวจิ่งอี้ไปนานกว่าครึ่งเดือนแล้วแรกเริ่มยังส่งจดหมายกลับมา แม้เป็นเพียงคำพูดสั้นๆ ไม่กี่คำ แต่อย่างน้อยก็ทำให้อวิ๋นฝูหลิงรู้ว่าเขาปลอดภัยแต่ช่วงนี้กลับไม่มีจดหมายถูกส่งกลับมาเลยแรกๆ อวิ๋นฝูหลิงคิดว่าเขายุ่งอยู่ หรือยังไม่สะดวกส่งจดหมายแต่เมื่อผ่านไปวันแล้ววันเล่า ทางเซียวจิ่งอี้กลับไร้ข่าวคราว อวิ๋นฝูหลิงอดไม่ได้ที่จะเริ่มร้อนใจแล้วนางรู้สึกไม่ดีอย่างคลุมเครือในใจหรือว่าเกิดเรื่องอะไรกับเซียวจิ่งอี้ที่เจียงหนาน?อวิ๋นฝูหลิงรู้สึกไม่สบายใจ แต่คิดไม่ถึงว่าการคาดเดาจะเป็นจริงวันนี้ เสี่ยวเกากงกงที่เป็นลูกบุญธรรมของเกากงกงมาจวนอี้อ๋องกะทันหันเดิมทีเสี่ยวเกากงกงเป็นเด็กกำพร้านอกวัง ไร้ชื่อไร้แซ่ ต่อมาเข้าวังเป็นขันที ได้รับความโปรดปรานจากเกาโหย่วฝู จึงรับเขาเป็นลูกบุญธรรมเขาจึงเปลี่ยนมาแซ่เกาตาทเกาโหย่วฝู ผู้คนเรียกเขาว่าเสี่ยวเกากงกงเด็กคนนี้เป็นคนมีไหวพริบ ทำงานรอบคอบ แม้ยังเทียบกับเกากงกงไม่ได้ แต่ในบรรดาทุกคนที่ปรนนิบัติฮ่องเต้ ก็ถือว่าได้รับความโปรดปรานราชโองการทุกฉบับที่เขาประกาศ แม้ไม่ได้มีน้ำหนักและมีหน้ามีตาเหมือนเกากงกงออกหน้า แต่ก็สามารถแสดงให้เห็นว่าราช

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 500

    “เป็นของที่ข้าใช้ยาสมุนไพรล้ำค่ามากมาย และใช้เวลาอยู่นานกว่าจะทำออกมาได้ไม่กี่หยด”“ท่านต้องเก็บให้ดีนะ”“ไม่ว่าจะได้รับบาดเจ็บหรือถูกพิษ ไม่ว่าบาดเจ็บสาหัสแค่ไหน ไม่ว่าพิษรุนแรงแค่ไหน ขอแค่ยังมีลมหายใจ เมื่อดื่มมันแล้ว ก็จะไม่อันตรายถึงชีวิต ดังนั้นข้าจึงตั้งชื่อมันว่ายาไม่ตาย”“ยาไม่ตายนี่ท่านเก็บไว้ ถ้าหากไม่ต้องใช้มันย่อมดีที่สุด ถ้าหากเกิดอะไรขึ้น ท่านก็มีวิธีเอาตัวรอดมากขึ้น!”เซียวจิ่งอี้มองน้ำเต้าหยกที่ห้อยอยู่ตรงหน้าอก รู้สึกอุ่นใจราวกับแช่อยู่ในบ่อน้ำร้อนเขากอดอวิ๋นฝูหลิงไว้ในอ้อมแขน “วางใจได้ ข้าไปเจียงหนานครั้งนี้จะระวัง หลังจากนั้นกลับมาอย่างปลอดภัย”อวิ๋นฝูหลิงกอดเขา “ท่านพูดแล้วนะว่าจะกลับมาอย่างปลอดภัย!”ทั้งสองอาลัยอาวรณ์อยู่ครู่หนึ่ง อวิ๋นฝูหลิงกล่าวกะทันหัน “หรือไม่ข้าไปกับท่านด้วย?”เซียวจิ่งอี้ยังไม่รู้ว่าทางเจียงหนานเป็นอย่างไร อีกทั้งไปสืบคดีขี้ผึ้งทองที่เจียงหนานครั้งนี้ ยังเกี่ยวข้องกับชาวแคว้นเยว่ ต้องเผชิญหน้ากับอันตรายมากมายแน่นอนเขาไม่อยากให้อวิ๋นฝูหลิงตกอยู่ในอันตราย“ทางเมืองหลวงยังต้องมีเจ้าคอยดูแล”“ข้าได้สั่งการลงไปแล้ว เพื่อไม่แหวกหญ้าใ

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status