ตอนที่ 72 การเดินทางครั้งสุดท้าย [2]น้ำเสียงที่เคยฟังว่านุ่มทุ้มจริงจังน่าเกรงขาม เธอรู้ว่าเขาพยายามปรับน้ำเสียงให้อ่อนลงแล้ว แต่ไม่ว่าอย่างไรเมื่อออกมาจากปากของแม่ทัพน้อยเจิงในเวลานี้กลับดูน่าหวาดกลัวจนเสียวสันหลังเช่นนี้“ข้า..” แม้ก่อนหน้านี้เธอจะคาดหวังว่าคนที่ช่วยเธอได้จะมีเพียงอาอวี่และอาอวี้สองสหายที่ร่วมเดินทางกันมาแต่พอเธออ้าปากพูดออกไปมันกลับเพิ่งทำให้เธอนั้นคิดและได้สติ เธอหลงลืมไปได้อย่างไรว่าทั้งสองนั้นเป็นคนแคว้นฉวาง ยิ่งกว่านั้นผู้ที่วางยาพิษลอบปลงพระชนม์ฮ่องเต้คือสตรีที่ดูไร้พิษภัยที่นั่งจ๋องดั่งลูกหมาอยู่ตรงหน้า เธอไปเอาความมั่นใจมาจากที่ใดกันที่คิดว่าทั้งสองนั้นจะเข้าใจและยอมช่วยเหลือกบฏเช่นเธอยิ่งในเวลานี้เฟยหลงนั้นไม่รู้เลยว่ากระบี่คู่กายของทั้งสองตวัดคมมาบั่นคอเธอเมื่อไหร่ เพียงแต่ตอนนี้เธอกลับรู้สึกว่าคำพูดของเธอช่างน่ากลัวเสียจริง ไม่ว่าจะเอ่ยคำใดออกไปมันช่างดูเหมือนเป็นคำที่จะคร่าชีวิตของเธอได้ทุกเวลาเสียจริง“อาเพ่ย.. แม้ว่าข้าจะรู้จักเจ้าไม่นานแต่ข้าเชื่อว่าสิ่งที่เจ้าทำเหตุผล.. เพราะเรื่องนี้ใช่หรือไม่ที่เจ้าถึงสงสัยว่าเป็นฝีมือของสนมเอกเรื่องลักพาตัวน้อง
ตอนที่ 73 คารวะนายท่าน.. ขอน้อมต้อนรับนายท่านกลับบ้านเมื่อเธอจดจำรายละเอียดทั้งหมดในแผนที่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ใบหน้าสวยได้ขยับตามริมฝีปากบางยิ้มออกมาอย่างดีใจ ก่อนจะยื่นแผนที่แผ่นนั้นกลับคืนให้แม่นางฉีดังเดิม“อาเพ่ย! เจ้าจำทางขึ้นได้แล้วงั้นหรือ” สหายเจียอวี่เองได้เอ่ยถามออกมาด้วยน้ำเสียงตกใจไม่น้อย ไม่เพียงเท่านั้นริมฝีปากของเขายังยกยิ้มขึ้นราวกับว่ากำลังดีใจยกใหญ่“ทางขึ้น.. เจ้าหมายถึงทางขึ้นอะไรงั้นหรือ”“ก็เมื่อครู่.. เจ้ากล่าวมาว่าจำได้แล้วเจ้าไม่ได้หมายถึงทางขึ้นไปยังยอดเขาฉางเต๋องั้นหรือ.. หากเป็นเช่นนั้นแล้วเจ้าหมายถึงสิ่งใดกัน” ฉีอันเฉาเอื้อมมือมารับแผนที่แผ่นนั้นไปม้วนเก็บอย่างเรียบง่าย ก่อนจะหันมาจ้องมองใบหน้าของเฟยหลงด้วยความไม่เข้าใจ“ข้าวหมายถึงตำแหน่งในแผนที่พวกนั้นต่างหาก.. ทางไปยังเมืองฉางเต๋อ”“เช่นนั้นเจ้าไม่จำเป็นต้องจดจำ.. เพราะข้าจะไปกับพวกเจ้า”“อาฉี.. เจ้าจะไปด้วยงั้นหรือ” ไม่รู้ว่าเธอนั้นคิดไปเองหรือไม่ แต่เมื่อครั้งก่อนนี้ระหว่างเจิงเจียอวี่และฉีอันเฉานั้นทั้งสองดูจะไม่ได้ถูกกันเสียเท่าไหร่ แต่หลังจากเมื่อครั้งนั้นที่อารามหนานไห่ ทั้งสองกลับดูสนิทสนมกันมา
ตอนที่ 74 มาแล้วหรือ‘คารวะนายท่าน.. ขอน้อมต้อนรับนายท่านกลับบ้าน’ไอปีศาจที่เคยหนาแน่นกำลังค่อย ๆ สลายออกจนเปิดให้เห็นเส้นทางทำให้ทั้งสองมองหน้ากันด้วยความงุนงง ฟองอากาศหลงจ้องหน้าอวี้เจินอย่างไม่ละสายตาและไม่เข้าใจ เมื่อกี้เธอได้ยินชัดเจนว่าเสียงนั้นดังก้องไปทั่ว และคงไม่ใช่แค่เธอที่ได้ยินเพราะเขาเองก็มองมันด้วยความฉงนเช่นกัน“นายท่านงั้นหรือ.. หมายความว่าอย่างไรกัน” เฟยหลงกำมือไว้แน่น มองเขาด้วยสายตาที่สงสัยอย่างถึงที่สุด“ข้าคิดว่าไม่ใช่ข้า.. แต่เป็นเจ้า”“ข้างั้นหรือ” เธอมองไปตามเส้นทางที่ไอปีศาจนั้นเปิดอย่างกังวล แม้จะไม่เข้าใจสักนิดแต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่านี่คือทางที่สามารถทำให้ทุกคนได้ไปต่อ“อาเพ่ย.. พวกเราเร่งเดินทางกันก่อน” เจียอวี่และอันเฉาเดินจูงม้าทั้งสี่ตามมาทางด้านหลัง และเมื่อเห็นว่าเส้นทางนั้นเปิดออกทั้งสี่จึงกระโดดขึ้นม้าแล้วมุ่งหน้าไปตามเส้นทางนั้นทันทีมีหลายต่อหลายครั้งที่เธอนั้นหันกลับไปมองด้านหลัง ไอปีศาจที่เคยเปิดเส้นทางให้นั้นกำลังล่องลอยปิดเส้นทางด้วยความรวดเร็วราวกับว่าไม่อยากให้มีคนย้อนกลับไป“กะพริบตา!” ทั้งสี่มุ่งหน้าขี่ม้าไปตามเส้นทางแห่งนี้ด้วยความระแวง แม่
ตอนที่ 75 รักษาด้วยเลือด [1]เสียงของสตรีมีอายุคนหนึ่งดังขึ้นในตำแหน่งด้านบนของศีรษะ และเพราะไม่รู้ว่าเธอนั้นกำลังเผชิญหน้าอยู่กับใคร ร่างกายของเธอนั้นได้เด้งลุกขึ้นมานั่งด้วยความเร็วได้อย่างน่าประหลาด หลงลืมไปสิ้นว่าเมื่อครู่ที่ลืมตาขึ้นมานั้นเธอเจ็บปวดที่ใดภาพที่เธอเห็นด้านหน้านั้นคือเจ้าม้าทั้งสี่ตัวกำลังหมอบอยู่ด้านหน้าสตรีผู้นี้ พร้อมยังรอรับผลแอปเปิลจากเธออย่างว่าง่าย ไม่มีท่าทีของสัตว์ที่เพิ่งผ่านช่วงความเป็นความตายมาเลยแม้แต่น้อยถัดไปจากนั้นพบสหายทั้งสามนอนเรียงกันดั่งปลากระป๋องสามแม่ครัว เฟยหลงรีบดันตัวเองให้ลุกขึ้นไปดูอาการของพวกเขาโดยที่ไม่ได้สนใจหญิงชราผู้นี้“เกิดอะไรขึ้น.. พวกเขาเป็นอะไรทำไมยังไม่ตื่น” เธอจับชีพจรของทุกคนก่อนจะถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก เมื่อทั้งสามนั้นเพียงแค่ยังไม่ฟื้น ชีพจรเป็นปกติไม่ได้รู้สึกถึงความเจ็บป่วยที่รุนแรงจากที่ใด“ผ่านพายุเหมันต์ของสามพิภพมาได้โดยไม่ตายก็ถือว่าโชคดีมากแล้ว” สตรีผู้นั้นลูบหัวม้าทั้งสี่ด้วยท่าทางเอ็นดูก่อนจะลุกขึ้นยืนแล้วหันมาจ้องหน้าเธอ“เจ้าเดินทางมาหาข้า.. เกิดเรื่องแล้วงั้นหรือ” เธอเอ่ยถามด้วยท่าทางที่แสนสบาย น้ำเสียง สา
ตอนที่ 76 รักษาด้วยเลือด [2]“เพียงแต่ข้า.. จับปลาไม่เป็น” เธอหันหน้ามาตอบเขาพร้อมทั้งยิ้มให้แห้ง ๆ ส่งให้“หากเจ้าอยากกิน.. เช่นนั้นข้าจับให้เจ้า” อวี้เจินลุกขึ้นจากที่เขานั่งได้เพียงเล็กน้อย ต้องกลับลงมานั่งลงตามเดิมด้วยแรงกระชากจากแขนของน้องชายที่กำลังนั่งยิ้มหวานให้เขาจนตาหยีสลับกับมองใบหน้าของเฟยหลงก่อนจะแสดงท่าทางขนลุกขนชันอย่างน่าประหลาด“เจ้าทำอะไร” เขาเอ่ยถามน้องชายด้วยท่าทางและสายตาที่เรียกได้ว่าหากไม่ใช่น้องชาย อาจจะได้มีการประลองกระบี่กันไปหลายฉาก“ข้ายังอยากกลับบ้านอยู่.. ปล่อยให้ปลามันอยู่ในน้ำไปนั่นดีแล้ว พวกเรากินผลไม้กันได้ใช่หรือไม่.. รีบกินเถอะเราจะได้รีบไปต่อ” หลี่เฟยหลงที่เห็นอาการของสหาย ทำได้เพียงแค่เบะปากมองบนอย่างเข้าใจความหมายของเขา ก็ใช่ว่าเธอนั้นจะอยากย่างปลาชาร์โคลนั่นให้สหายได้กินเสียเมื่อไหร่“เช่นนั้นเจ้าก็รีบกินเข้าไป.. เราจะได้เดินทาง” เธอหันไปมองเจียอวี่ก่อนจะทำใบหน้าทะเล้นให้เขาอย่างขบขัน พร้อมทั้งหันกลับมานั่งกินผลไม้ตามเดิม“พวกเจ้าเอาด้วยหรือไม่” เธอหันไปยื่นผลแอปเปิลที่เหลือให้กับสหายตัวน้อย และพวกมันเองก็ดูเหมือนจะชอบมากเช่นกัน ทั้งสี่ลุกมาคาบผ
ตอนที่ 77 ยอดเขาฉางเต๋อ [1] เฟยหลงกวาดสายตามองก้อนหินที่ถูกวางไว้ไม่ห่างกันนัก แต่ละก้อนมีการแกะสลักติดไว้ทุกก้อน เธอมองอย่างพิจารณาก่อนจะมาสะดุดที่ก้อนเล็กสองก้อนที่ถูกวางไว้ข้างก้อนที่ใหญ่ที่สุดสองก้อนนี้ไม่มีตัวอักษรใดมีเพียงการสลักรูปพระจันทร์เสี้ยวไว้ทั้งสองก้อน ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดแต่สองเท้าของเธอนั้นกำลังก้าวเข้าไปหาหินก้อนใหญ่นั้นราวกับว่าเธอไม่สามารถควบคุมตัวเองได้“อาเพ่ย..” เธอได้ยินเสียงของอวี้เจินที่กำลังส่งเสียงเรียกเธออยู่ด้านหลัง แต่เธอกลับไม่มีความรู้สึกที่อยากจะหันกลับไปมองสหาย สองเท้ายังคงก้าวไปด้านหน้าอย่างไม่นึกเกรงกลัวอันตรายใด“อาเพ่ยนั่นเจ้าจะไปไหน..” นอกจากเสียงของแม่ทัพน้อยเจิงแล้ว เฟยหลงยังคงได้ยินเสียงเรียกของเจิงเจียอวี่“พวกท่านจับนางไว้เร็ว! อาเพ่ยตั้งสติไว้” เสียงที่ดูตกอกตกใจนี้เป็นของแม่นางฉีอันเฉาเป็นแน่สาบานได้ว่าหลี่เฟยหลงนั้นได้ยินเสียงของทุกคนทั้งหมด แต่ที่เธอทำไม่ได้คือการหยุดเดินหรือบังคับร่างกายตัวเอง สองเท้ายังคงก้าวผ่านก้อนหินชิ้นแล้วชิ้นเล่ามุ่งหน้าไปยังหินก้อนที่ใหญ่ที่สุดอย่างไร้อุปสรรค‘เจ้ากลับมาแล้ว’‘เป็นเจ้าใช่หรือไม่’‘คุณหนูกลับ
ตอนที่ 78 ยอดเขาฉางเต๋อ [2]“มันอยู่เพื่อกักขัง.. ตราบใดที่ข้าไม่ลงเขา พวกมันก็ไม่ทำร้ายข้า.. แต่ไม่ใช่กับพวกเจ้า อยู่ให้ห่างจากพวกมันหน่อยจะเป็นผลดี” คำพูดที่แสนจะกำกวมนั้นออกมาจากปากของท่านยายยิ่งทำให้เฟยหลงรู้สึกงุนงงและสงสัยเข้าไปใหญ่ เธอไม่เข้าใจว่านางกำลังหมายถึงสิ่งใดทำได้เพียงมองไปยังไอปีศาจสลับกับหญิงชราผู้นี้ไปมา“หมายความว่าอย่างไร” แต่คงไม่ได้มีแค่เธอกระมังที่นึกสงสัยในคำพูดกำกวมนั้น เพราะแม่นางฉีเองก็เอ่ยถามออกมาอย่างสงสัยเช่นกัน“แม่นาง.. เจ้าอยู่ให้ห่างจากพวกมันเสียหน่อย ร่างกายเจ้าไม่ควรเข้าใกล้พวกมัน เจ้า..” ท่านยายหลิงไถหันมามองฉีอันเฉาก่อนจะปรายตามองเธออย่างพิจารณา สายตาของท่านยายดูมีลับลมคมในไม่น้อย ท่านมองใบหน้าของอันเฉาสลับกับมองที่หน้าท้องเล็กน้อยโดยไม่ได้เอ่ยอะไรออกมาก่อนจะหันกลับไปเดินต่อโดยทิ้งคำถามไว้ให้พวกเราอย่างมากมาย“พวกเจ้าเดินตามข้ามาก็พอ” ทั้งสี่คนทำได้เพียงจูงเจ้าสหายตัวน้อยเดินตามท่านยายหลิงไถไปอย่างเงียบเชียบ ผ่านไปหลายชั่วยามที่ทั้งสี่เดินตามสตรีชราผู้นี้อย่างมองไม่เห็นจุดหมาย ข้างทางเป็นเพียงต้นไม้สีน้ำตาลแห้งแร้งที่ถูกปกคลุมด้วยไอปีศาจดำไม่น่าเ
ตอนที่ 79 สะสาง"ข้าขอไม่ปิดบัง.. อย่างที่ข้าบอกไปนั้นว่าข้ามีนามว่าหลี่เฟยหลง.. เป็นเพียงนักเขียนนวนิยายตัวเล็ก ๆ คนหนึ่ง แต่ไม่รู้ว่าเพราะอะไรวันนั้นเมื่อข้านั้นกำลังนอนหลับได้ฝันเห็นโลกใบนี้กับสตรีนางหนึ่งที่อยู่ในกระท่อมกลางป่าอสรพิษ แต่เมื่อข้าลืมตาขึ้นมาข้าถึงได้รู้ว่าข้านั้นมาอยู่ในร่างของนางเสียแล้ว""ในวันที่ข้านั้นมาอยู่ที่โลกใบนี้ในร่างของแม่นางคนแรกที่ข้าได้พบก็คือเจ้า" เธอหันหน้าไปมองสหายทั้งสามก่อนจะชี้นิ้วไปที่เจิงเจียอวี่"ในวันที่ข้าพาเจ้าที่ได้รับบาดเจ็บเข้าไปรักษาในกระท่อมหลังนั้น.. เป็นวันเดียวกับที่ข้าได้เข้ามาอยู่ในร่างของแม่นาง""เจ้ากำลังจะบอกว่าเจ้ามาในวันที่ข้าบาดเจ็บอย่างนั้นหรือ""สิ่งที่เจ้าคิดนั้นก็ไม่ผิด.. ไม่ว่าจะเป็นตำรายาหรือสมุนไพรข้าหลี่เฟยหลงล้วนแต่ไม่รู้จักเลยสักอย่างสิ่งที่ข้าช่วยชีวิตของเจ้าไว้ได้ก็คือตำราที่แม่นางเพ่ยเพ่ยนั้นทิ้งไว้ในกระท่อมหลังนั้น""แล้วหลังจากนั้นก็เป็นดังที่เจ้าเห็น.. ในวันที่ข้านั้นไปเก็บสมุนไพรหายากเพื่อมารักษาเจ้าก็เป็นวันเดียวกับที่ข้านั้นได้พบกับเสี่ยวจ๋าย""แล้วเรื่องราวทั้งหมดก็เป็นตามที่เจ้าเห็น.. ข้าไม่รู้เรื่องราว
ตอนที่ 98 เจิงฮูหยิน.. ข้ามาแล้วทั้งสี่ยืนมองเจิงอวี้เจินที่ร้องไห้อย่างน่าสงสาร สองแขนของเขากอดร่างกายของภรรยาเอาไว้แน่น ใบหน้าคมประกบจูบลงที่ริมฝีปากของนางก่อนจะขยับเลื่อนไปหอมแก้มทั้งสองข้างของเธอ พร้อมทั้งจุมพิตที่หน้าผากอย่างอ่อนโยนก่อนจะค่อย ๆ ช้อนตัวของเฟยหลงนั้นขึ้นยืนเต็มความสูงเพื่อเดินอุ้มนางไปวางไว้บนเตียง"ข้าขออยู่ส่งนางจนวินาทีสุดท้ายได้หรือไม่" เขาหันมามองท่านยายหลิงไถที่พยักหน้าให้เล็กน้อย เมื่อเขาได้รับอนุญาตแล้วจึงได้ขึ้นไปนอนคู่กันกับเธอบนเตียง สองแขนกอดร่างกายของเธอเอาไว้แน่นอยากสัมผัสไว้ให้นานที่สุด"พวกเจ้าทั้งสองออกไปรอด้านนอกก่อน ข้าจะเตรียมพิธีและเมื่อถึงเวลาอันสมควรข้าจะให้กู่ป๋ายออกไปเรียกพวกเจ้า" สิ้นสุดคำพูดของท่านยายสหายทั้งสองได้มองใบหน้าของเจิงอวี้เจินและหลี่เฟยหลงอีกครั้งก่อนจะเดินออกไปรอด้านนอกอย่างว่าง่าย"กู่ป๋าย.. เจ้ากลัวหรือไม่" แม้ว่าเจิงอวี้เจินนั้นจะได้ยินเสียงของท่านยายและน้องชายของแม่นางเพ่ยเพ่ยคุยกัน แต่เขากลับได้หาสนใจไม่ เขาไม่สนใจเลยว่าทั้งสองจะพูดเรื่องอะไร เขาสนใจเพียงแต่เขาอยากจะกอดร่างกายของภรรยาของเขาเอาไว้ให้นานที่สุด น้ำตาของชาย
ตอนที่ 97 หากนางอยู่ที่นี่.. นางจะเจ็บปวด"เหตุใดเจ้าถึงไม่ยินดี.. ในเมื่อเรื่องนี้เราทั้งสองนั้นได้คุยกันมาก่อนแล้วไม่ใช่หรือ ว่าหากจบเรื่องราวทั้งหมด ข้าจะให้ท่านพ่อของข้าไปสู่ขอเจ้า""ท่านพี่.. ข้ารักท่านอย่างที่ไม่เคยรักชายใดมาก่อน ท่านเป็นคนแรกที่ทำให้ข้ารู้จักคำว่ารัก คำว่าห่วงใย เพียงแต่ท่านหลงลืมไปแล้วอย่างนั้นหรือว่าข้ามิใช่คนในโลกใบนี้ หากเมื่อเราทั้งสองนั้นได้ตกลงปลงใจเข้าร่วมพิธีสมรสในครั้งนี้ หากข้าต้องสลายกลายเป็นเถ้าธุลีท่านจะอยู่อย่างโดดเดี่ยวข้าไม่ยินดีให้ท่านเป็นเช่นนั้น ข้าไม่ยินดีที่ให้งานมงคลสมรสของเราทั้งคู่เป็นสิ่งที่จะเหนี่ยวรั้งท่าน.. ท่านเข้าใจความรู้สึกของข้าหรือไม่""แม่นางหลี่เฟยหลง.. เช่นนั้นเจ้าฟังคำของข้าให้ดี ต่อให้ในโลกใบนี้หรือใบไหน หากเจ้าอยู่ที่ใดข้าขอให้คำมั่นสัญญาต่อฟ้าดินเพื่อเป็นพยาน ข้าจะรักเพียงเจ้าจะติดตามเจ้า ไปทุกที่ หรือต่อให้เจ้าจะทิ้งข้าไว้ในที่แห่งนี้ ทะเลเพลิง ภูเขาน้ำแข็งหรือต้องตายกี่ครั้ง ข้าก็ไม่เสียใจเลยแม้แต่น้อย ขอเพียงแค่ข้าได้รักเจ้าได้ดูแลเจ้าได้อยู่กับเจ้า แม้จะเป็นเพียงหนึ่ง วัน สองวัน เจ็ดวัน หนึ่งเดือน หนึ่งปี หรือตลอดชี
ตอนที่ 96 ข้าไม่ยินดีสำหรับงานมงคลสมรสในครานี้เฟยหลงมองดูแม่นางเพ่ยเพ่ยที่กระโดดโลดเต้นไปมาราวกับว่านางนั้นกำลังทำสิ่งที่เฝ้ารอจนสำเร็จ ด้วยความดีใจของสตรีผู้นี้ที่ดูจะดีใจเกินกว่าปกติทำให้เธอรู้สึกอยากรู้อีกครั้งได้ชะโงกหน้าไปมองที่ตำราเล่มนั้นอีกครา ในตำราหมายเหตุไว้ว่าหากต้องการสิ่งใดให้นึกถึงสิ่งนั้น เป็นการซ้อนวิญญาณของสิ่งมีชีวิตอีกโลกขนานหนึ่ง"สิ่งมีชีวิตอีกโลกหนึ่ง.. เหตุใดในยุคสมัยนี้ถึงรู้เรื่องราวเหล่านี้""ข้าต้องการท่านแม่.. หากข้าสามารถเรียกวิญญาณท่านแม่ได้เรื่องราวพวกนี้ก็จะจบลง แต่หากข้าทำไม่สำเร็จวิญญาณของคนผู้นั้นที่ข้าเรียกมาต้องสะสางเรื่องราวยุ่งเหยิงที่ข้าก่อขึ้นนี้ได้เป็นแน่"แม่นางเพ่ยพูดจบก็ได้วางทุกอย่างลงบนโต๊ะ พร้อมทั้งหยิบเจ้าปลาตัวใหญ่นั้นเดินเข้าไปในครัว แม้ว่าหลี่เฟยหลงจะอยู่ที่นี่อยู่นาน แต่เธอกลับไม่รู้ว่าที่แห่งนี้ส่วนนั้นเป็นครัวที่สามารถทำอาหารได้ เพียงแต่ไม่มีอุปกรณ์ใดที่ใช้ในการทำอาหารอะไรสักอย่าง เธอมองดูแม่นางเพ่ยเพ่ยที่ใช้พลังสีทองของตนในการถอดเกล็ดปลาเสียบไม้แล้วย่าง นางใช้พลังของตนเองในการทำจนหมดสิ้นราวกับไม่ว่าเธอจะไปอยู่ที่แห่งใดย่อมไม่อด
ตอนที่ 95 ซ้อนวิญญาณวิชาต้องห้ามสตรีผู้นี้แผดเสียงดังสนั่นไปทั่วทั้งห้องขัง สาดคำพูดต่อว่าสตรีที่สูงส่งผู้นี้อย่างไม่ได้รู้สึกเกรงกลัว แต่นอกจากที่พระสนมเอกจะไม่ได้รู้สึกโกรธเคืองหรือไม่พอใจแล้ว นางกลับกำลังยกยิ้มอย่างชอบใจสายตาคู่นั้นของแม่นางเพ่ยเพ่ย มองไปทางน้องชายที่ถูกลากออกไป ราวกับหมูหมากาไก่เปรียบเหมือนว่าเขานั้นไม่ใช่สิ่งมีชีวิต ความรู้สึกคับแน่นในอกเริ่มทำให้นางไม่มีทางเลือก หากนางไม่ทำตามคำที่สนมเอกบอก ชีวิตของน้องชายนางไม่รอดแน่ แต่หากนางทำเรื่องที่พระสนมต้องการนั่นถือว่าเป็นเรื่องใหญ่มากสำหรับเธอ หากมันสำเร็จก็ไม่ได้หมายความว่าชีวิตของเธอและน้องชายจะรอด แต่ก็ไม่ได้มีอะไรการันตีว่าทั้งสองจะไม่รอด"เจ้าคิดให้ดีหากเจ้าทำมันสำเร็จข้ารับรองว่าชีวิตของเจ้าและน้องชายเจ้า จะเดินทางออกจากแคว้นฉวางอย่างปลอดภัยหายห่วง.. แต่หากเจ้าไม่ยินดีข้าจะ นำหัวของน้องชายเจ้ามาคืนให้เจ้า.. เจ้าว่าเช่นนี้ดีหรือไม่"แม่นางเพ่ยเพ่ยทำได้เพียงจ้องมองไปที่น้องชายของตนเอง ที่กำลังหายลับไปจนสุดสายตา ก่อนจะสลับมามองพระสนมเอกที่มีนิสัยละโมบโลภมาก เธอไม่รู้เลยว่าทางออกของเธอควรเป็นอย่างไร เธอรู้เพียงแต่ใน
ตอนที่ 94 เจ้ามันปีศาจเธอตะโกนออกมาด้วยเสียงที่ดังก้องกังวานอย่างไม่มีที่สิ้นสุดจนรู้สึกแสบคอ ก่อนจะเด้งตัวมานั่งขัดสมาธิพร้อมทั้งกอดอก อย่างคนที่หงุดหงิด สายตาของเธอกวาดมองไปรอบ ๆ อีกครั้งก่อนจะหลับตาลงเล็กน้อย"ถ้าหงายหลังนอนอีกครั้งจะไปตกที่หลังคาวังหลวงหรือเปล่านะ" แม้ว่าเธอจะคิดเล่น ๆ แต่ทันทีที่เธอหงายหลังนอนลงไปอีกครา ร่างกายของเธอรู้สึกเบาหวิวอีกครั้ง"กำลังเดินทางอีกแล้วสินะ" เธอไม่แม้แต่จะลืมตามามองรอบกาย ทำได้เพียงแค่กอดอกพร้อมปล่อยร่างกายของตัวเองให้ไหลไปตามกระแสลมที่ได้รับฟึ่บ!แต่ครั้งนี้เธอรู้สึกว่าตนเองนั้นตกลงมาที่กองฟางเห็นจะได้ ดวงตาทั้งสองเปิดขึ้นเห็นเพียงแค่ความมืดสนิท เธอค่อย ๆ ใช้มือทั้งสองคลำไปรอบกายรับรู้ได้ว่ามันคือกองฟางจริง ๆ เฟยหลงดันตัวเองให้ลุกขึ้นนั่งพร้อมทั้งสอดสายตามองหาแสงสว่าง"จับมัน!" เธอต้องตกใจเมื่อได้ยินเสียงของผู้ชายคนหนึ่งเอ่ยคำสั่งที่น่ากลัว พร้อมทั้งเสียงฝีเท้าอีกหลายคู่วิ่งเข้ามาในกระท่อมหลังนี้ สองเท้าของเธอก้าวเดินออกไปข้างหน้าตามแสงสว่างที่มีเพียงน้อยนิดนั้น เธอแอบมองจากด้านในเห็นทหารมากมายในชุดดำกำลังจับสองพี่น้องที่ไม่มีทีท่าว่าจะร้
ตอนที่ 93 ความหลังของเพ่ยเพ่ยตู้ม!!แต่ไม่รู้ว่าเป็นเคราะห์ซ้ำหรือกำซัด ทันทีที่ก้นของเธอแตะที่ปุยเมฆขาวนุ่มฟูนั้นร่างกายของเธอก็ได้ตกลงไปในสระน้ำแห่งหนึ่งจนเนื้อตัวเปียกปอนฟู่ว~ทันทีที่เธอนั้นตะเกียกตะกายขึ้นโผล่พ้นน้ำ ริมฝีปากบางได้พ่นลมหายใจออกมาอย่างแรงเพื่อฮุบเอาอากาศด้านบน สายตาของเธอกวาดมองไปรอบกายเห็นกระท่อมที่คุ้นตา เฟยหลงจดจำกระท่อมหลังนี้ได้แม่นยำอย่างไม่มีวันลืม"ทำไมจู่ ๆ ถึงได้กลับมาที่กระท่อมกลางป่าอีกแล้ว" แม้ว่าจะสงสัยอยู่ไม่น้อย แต่บัดนี้หลี่เฟยหลงกำลังตะเกียกตะกายให้ตัวเองขึ้นมาจากในสระ ทันทีที่ร่างกายที่เปียกปอนของเธอปะทะเข้ากับสายลมที่พัดเข้ามาไม่ขาดสายทำให้รู้สึกหนาวเหน็บอยู่ไม่น้อย สองเท้าค่อย ๆ เดินขึ้นไปทางกระท่อมหลังนั้น ทุกอย่างดูไม่ผิดปกติจากที่เธอเห็นก่อนหน้านี้สักเท่าไหร่ เพียงแต่ที่แห่งนี้กลับรู้สึกว่ามีชีวิตชีวามากกว่าเมื่อคราวที่เธอมาในครั้งนั้นอยู่มาก"ท่านยาย.. ยาบำรุงนี้ปรุงอย่างนี้ใช่หรือไม่" ยังไม่ทันที่เธอจะผลักประตูเข้าไป หลี่เฟยหลงได้ยินเสียงของคนผู้หนึ่งดังขึ้นภายในกระท่อมหลังนั้น"ไม่ใช่! สมุนไพรชนิดนี้ไม่สามารถเป็นยาบำรุงได้เจ้าไปเอาชิ้นน
ตอนที่ 92 ข้าเองก็ไม่รู้ว่าจะอยู่รอท่านได้ตลอดรอดฝั่งหรือไม่ทั้งสองเมื่อได้รับการพ้นโทษจึงได้เร่งเดินทางกลับเข้าจวนทันที ระหว่างทางที่เธอและเขาผ่านนั้น ทั้งคู่พบว่ามีประกาศว่าสกุลเจิงเป็นผู้บริสุทธิ์ทำให้ทั้งสองรู้สึกยินดีเป็นอย่างมากทั้งสองเดินทางมาจนถึงหน้าจวน เฟยหลงมองไปยังประตูที่ช่างดูเงียบเหงาจนหัวใจเต้นแรงไม่เป็นจังหวะ อวี้เจินปรายตามองใบหน้าของเธอเล็กน้อยส่งยิ้มให้เธอก่อนจะใช้มือหนาคว้าข้อมือของเธอไว้ เขาใช้อีกอีกข้างดันเพื่อเปิดประตูหน้าของจวนสกุลเจิง ทันทีที่ประตูจวนเปิดออก ภาพที่เขาเห็นนั้นทำให้ทั้งสองยิ้มกว้างออกมาด้วยความยินดี ท่านแม่ทัพใหญ่เจิงเถาฮ่วน สหายเจิงเจียอวี่ พร้อมด้วยข้ารับใช้ในจวนทั้งหมดกำลังยืนต้อนรับทั้งสอง อยู่ก่อนแล้ว"ยินดีต้อนรับกลับจวนขอรับท่านพ่อ น้องรอง และทุกท่านด้วย" เจิงอบุตรีจินเอ่ยกับทุกคนด้วยน้ำเสียงสดใสพร้อมด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม"ยินดีต้อนรับแม่ทัพน้อยเจิงกลับบ้าน" และเป็นเสียงของผู้เป็นบิดาของจวนเอ่ยต้อนรับเขาเช่นกัน"ยินดีต้อนรับแม่นางที่พ้นโทษ.. ได้รับคืนความบริสุทธิ์" ก่อนที่แม่ทัพใหญ่จะหันมาพูดกับเธอด้วยใบหน้าที่นึกขอบคุณไม่เพียงเท่านั้
ตอนที่ 91 ปิดคดีเฟยหลงเอ่ยออกมากับตัวเองเบา ๆ เมื่อยามที่เธอนั้นนั่งอยู่ที่ศาลาริมน้ำมองดูดอก บัวด้วยสายตาที่ไม่ยินดียินร้ายเดิมทีแล้วท่านยายบอกว่าร่างกายของอาเพ่ยนั้นจะอยู่ได้อีกหนึ่งเดือน แต่สิ่งที่เธอทำผิดพลาดอีกครั้ง คือพลังของเธอไม่สามารถขับพิษในร่างกายของฮ่องเต้ได้จนหมด หากเป็นเช่นนั้นร่างกายของฮ่องเต้ที่เคยชินกับพิษนี้ จะสามารถสร้างมันขึ้นมาได้ใหม่ สิ่งที่จะทำให้พระองค์หายขาดได้จึงไม่ใช่การขับออก แต่เป็นการดึงพิษทั้งหมดเข้ามาในร่างของเธอต่างหาก"เจ้าอยู่ในวังเบื่อหรือไม่" เสียงของเจิงอวี้เจินดังขึ้นทางด้านหลัง ทำให้เธอนั้นรีบหันไปมองชายอันเป็นที่รักพร้อมทั้งส่งรอยยิ้มให้เขา ก่อนจะพยักหน้าเล็กน้อยเป็นการตอบรับ"ข้าเบื่อมาก" เธอเดินเข้าไปหาเขาอย่างว่าง่ายก่อนจะใช้สองมือเล็กกอดรอบแขนของเขาเอาไว้อย่างออดอ้อน ใช้ใบหน้าหวานซุกไปที่ทรวงอกของเขาก่อนค่อย ๆ ช้อนสายตาขึ้นมองใบหน้าของบุรุษผู้นี้อวี้เจินหันมองรอบกายซ้ายขวาเล็กน้อยก่อนจะก้มลงจุมพิตที่ริมฝีปากของเธออย่างรวดเร็วแล้วผละออก"ท่านทำอะไรเนี่ย""ก็ที่เจ้าออดอ้อนข้าเช่นนี้ไม่ใช่อยากให้ข้าทำเช่นนี้งั้นหรือ""ท่านไปร่ำเรียนความหน้า
ตอนที่ 90 นับเวลาถอยหลังกับชีวิตที่เหลืออยู่"ความยากลำบากที่หม่อมฉันได้รับ! เด็กสาวที่เคยร่าเริง.. ชื่นชอบการอ่านตำรา ปักผ้า ทำอาหาร มีความสุขกับครอบครัว.. เพียงแค่ชั่วข้ามคืน! ต้องกลายเป็นสตรีที่ไม่มีแม้แต่ที่ซุกหัวนอน! ไม่สามารถบอกใครได้ว่ามาจากตระกูลไหน!”“ทำได้เพียงขอข้าวขอน้ำดั่งขอทานข้างถนน! ไม่มีผู้ใดเหลียวแล.. ซุกหัวนอนตามรางหญ้า บางคราก็ต้องแย่งข้าวกับสุนัขเพื่อประทังชีวิต! โดนทำร้ายหยามเหยียดจนแทบไม่เหลือความเป็นคน! พระองค์รู้หรือไม่กว่าที่หม่อมฉันจะเข้ามาทำให้พระองค์สะดุดตาได้มิใช่เรื่องง่าย ความแค้นที่สุมอยู่ในอกของหม่อมฉันมันเกือบจะสำเร็จอยู่แล้ว.. หากว่านางหมอพิษผู้นั้นไม่หักหลังหม่อมฉัน! ป่านนี้พระองค์ได้ลงไปเฝ้ายมโลกแล้วกับท่านพ่อหม่อมฉันไปแล้ว!""ข้าว่าเจ้าเข้าใจผิดไปใหญ่แล้ว.. ข้ามีเหตุผลของข้า หากเมื่อครานั้นพ่อของเจ้าไม่คิดก่อกบฏข้าย่อมไม่ทำร้ายผู้บริสุทธิ์เป็นแน่""โกหก! พระองค์อย่ามาโกหกกับหม่อมฉัน! พ่อของหม่อมฉันไม่มีทางคิดก่อกบฏเป็นแน่! ท่านใส่ร้ายครอบครัวข้า ฆ่าครอบครัวข้าล้างตระกูลยังไม่พอ.. เวลานี้พระองค์ยังคิดจะใส่ร้ายตระกูลข้า! ท่านยังมีความเป็นคนอยู่หรือ