Share

บทที่ 629

Author: พิณเคล้าสายฝน
last update Last Updated: 2024-11-28 18:00:11
“เป็นภัยธรรมชาติ...”

“นางหนีไม่พ้น เป็นชะตากรรมของนาง...”

คำพูดของชาวบ้านวนเวียนอยู่ในห้วงความคิดของเขา

เยี่ยเป่ยเฉิงไม่ต้องการฟังคำชาวบ้านอีก ยังคงยืนกรานที่จะถามไป๋อวี้ถัง

“ซวงเอ๋อร์เล่า? นางอยู่ที่ใด? เจ้าเอานางไปซ่อนไว้ที่ใด?”

“คืนนางให้ข้าได้หรือไม่?”

ไป๋อวี้ถังคล้ายอ่อนแรงไปทั้งร่าง ได้แต่นั่งทรุดบนพื้นราวกับเศษดินกองหนึ่ง

นัยน์ตาเขาดูพร่าเลือน ว่างเปล่าจ้องมองอย่างไร้จุดหมาย

ที่ตรงนี้ เดิมเคยเป็นถนนที่ราบเรียบ แต่บัดนี้ กลับกลายเป็นกองดินสูงพะเนินเทินทึกที่ยากจะข้ามผ่านได้อีก

เยี่ยเป่ยเฉิงมองตามสายตาเขาไป ความสิ้นหวังเริ่มแผ่ซ่านอยู่ในใจ จนไปถึงอวัยวะทุกส่วนในร่างกาย

ชาวบ้านที่อยู่ด้านข้างกล่าวขึ้น “คุณชาย คนที่ท่านตามหา ถูกฝังอยู่ใต้ดินนี้แล้ว...”

ในที่สุด เยี่ยเป่ยเฉิงก็ยากจะใจเย็นได้อีก

เป็นไปได้อย่างไร?

เขายังจำได้ดี เมื่อเช้าก่อนจะออกมา นางยังสบายดีอยู่ ยังส่งยิ้มให้แก่ตนเอง นางรับปากว่าจะรอเขากลับมา

แล้วผ่านไปเพียงไม่นาน เหตุใดนางจึงถูกฝังอยู่ใต้ดินนี้ได้?

“ไม่ ไม่จริง พวกเจ้าล้วนแต่หลอกข้าใช่หรือไม่?” เยี่ยเป่ยเฉิงกล่าวด้วยน้ำเสียงที่อ่อนระโหย

“นางไปหลบซ
Locked Chapter
Continue to read this book on the APP

Related chapters

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 630

    แต่ทุกอย่างกลับสายเกินแก้แล้วหลังจากทุกคนไม่หลับไม่นอนขุดดินมาหนึ่งวันหนึ่งคืนเต็ม ในที่สุดก็สามารถเปิดเป็นทางเส้นเล็กเบื้องหน้าสำเร็จชาวบ้านคุ้นเคยกับเส้นทางดี จึงรู้ว่าตำแหน่งใดที่หลินซวงเอ๋อร์ควรจะหยุดพัก จึงรีบพาคนขุดต่อไปตามเส้นทางนั้น เพื่อไม่ให้ขุดส่งเดชจนเสียแรงเกินไปภายใต้เศษหิน มีแผ่นไม้ผุพังหลายแผ่นถูกชาวบ้านคนหนึ่งขุดพบ“ขุดเจอแล้ว ขุดเจอแล้ว...”ทันทีที่ได้ยิน ทั้งเยี่ยเป่ยเฉิงและไป๋อวี้ถังต่างก็ใจสั่น“ขุดเจอแผ่นไม้ของรถม้าแล้ว น่าจะอยู่ข้างใต้นี้...”ผู้คนแห่กันไปมุงดู พร้อมถือพลั่วคนละอันไปขุดในตำแหน่งที่ชาวบ้านผู้นั้นบ่งชี้เพียงไม่นาน ล้อข้างหนึ่งของรถม้าก็ถูกขุดออกมา ตามด้วยข้างที่สอง ข้างที่สาม ข้างที่สี่...แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่พบร่างของหลินซวงเอ๋อร์ไป๋อวี้ถังมือสั่นเสียจนแทบจับพลั่วไว้ไม่อยู่ เขากับเยี่ยเป่ยเฉิงยืนอยู่ด้านหลังชาวบ้าน มองดูภาพเบื้องหน้าจนแทบจะกลั้นหายใจชาวบ้านมีประสบการณ์ด้านนี้อยู่แล้ว เมื่อรู้ตำแหน่งแน่ชัดก็ย่อมทำงานง่ายขึ้น ต่างยกพลั่วขึ้นลง พร้อมช่วยกันขุดเป็นพัลวันเสียงพลั่วกระทบลงพื้น เกิดเสียงดังขึ้นเป็นระยะ แต่ละครั้งที่ลงไปคล

    Last Updated : 2024-11-28
  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 631

    เสียงกระพรวนเงินดังขึ้นกรุ๊งกริ๊ง แม้เสียงจะเบาหวิว แต่กลับบาดหูยิ่งนักเยี่ยเป่ยเฉิงสีหน้าคล้ายกับว่างเปล่า ทันใดนั้น ดั่งมีบางสิ่งแตกสลายอยู่ในใจเงียบๆชาวบ้านขุดเอาสร้อยข้อมือขึ้นมาจากดิน สีเงินของกระพรวนเปื้อนไปด้วยดินโคลน และรูปทรงกลมแต่แรกก็ถูกทับจนผิดรูปไป มีเพียงเสียงกรุ๊งกริ๊งที่ออกมาเบาๆ เท่านั้นชาวบ้านถืออยู่ในมือ พลางเอาชายเสื้อเช็ดคราบดินที่เปรอะเปื้อนจนสะอาด และถือมายังเบื้องหน้าไป๋อวี้ถัง พลางกล่าว “คุณชาย ท่านดูสร้อยข้อมือเส้นนี้ เป็นของแม่นางผู้นั้นหรือไม่?”ไป๋อวี้ถังไม่ตอบ มีเพียงดวงตาที่สิ้นหวังมองไปยังเยี่ยเป่ยเฉิงเพราะแท้จริงแล้ว สร้อยข้อมือเส้นนี้เยี่ยเป่ยเฉิงเป็นคนเลือกให้นางเอง อีกทั้งใส่ให้นางกับมือ จึงจำได้มากกว่าแต่ไป๋อวี้ถังจะไม่เคยเห็นสร้อยข้อมือเส้นนี้จริงรึ?ครั้งหนึ่งหลินซวงเอ๋อร์เคยทำสร้อยข้อมือเส้นนี้ตกไปในน้ำ และเขาก็เป็นคนกระโดดลงน้ำไป เก็บขึ้นมาให้นางเอง...ลูกกระพรวนที่ผูกอยู่ เขาก็เคยเห็นมาก่อน เพียงแต่ไม่กล้าเผชิญกับความจริงเท่านั้นชาวบ้านเห็นดังนี้ จึงหันไปยื่นให้เยี่ยเป่ยเฉิงแทน พลางกล่าว “คุณชาย ท่านดูเองเถิด สร้อยเส้นนี้เป็นของแ

    Last Updated : 2024-11-28
  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 1

    ฤดูใบไม้ผลิเดือนสาม อากาศเดี๋ยวก็อบอุ่นเดี๋ยวก็หนาวเสียงกรีดร้องอันโหยหวนดังทะลุท้องนภายามราตรี ทำลายความสงบของจวนหย่งอันเสวี่ยหยวนที่อยู่เรือนฝั่งตะวันออกไม่รู้ว่าทำผิดเรื่องอะไรถึงได้รับโทษทัณฑ์อย่างหนัก เสียงโอดครวญของนางดังไปทั่วทั้งจวนท่านอ๋องตลอดทั้งราตรีในยามเช้า ท่านป้าจ้าวให้หลินซวงเอ๋อร์ไปที่ร้านขายยา และขอให้นางซื้อยาลดไข้กลับมาหลินซวงเอ๋อร์รีบไปรีบกลับ เมื่อเดินผ่านสวนหลังจวน นางเห็นบ่าวรับใช้สองคนลากอะไรบางอย่างที่เปื้อนเลือดมาแต่ไกลหลินซวงเอ๋อร์รีบยืนชิดด้านข้างอย่างรวดเร็วขณะที่หน้าผ่านนางไป เธอก็เหลือบไปเห็นโดยที่ไม่ได้ตั้งใจ แค่เพียงแวบเดียว หลินซวงเอ๋อร์ก็ตกใจกลัวจนหน้าซีดเผือดนั่นไม่ใช่ใครอื่น นั่นก็คือเสวี่ยหยวนที่ส่งเสียงกรีดร้องตลอดทั้งคืนหลินซวงเอ๋อร์ไม่เคยเห็นภาพเช่นนี้มาก่อน จึงตกใจกลัวจนตัวแข็งอยู่กับที่อยู่ครู่หนึ่ง"เจ้ามาทำอะไรอยู่ที่นี่?"ท่านป้าจ้าวผู้ดูแลจวนไม่รู้ว่ามายืนอยู่ข้างหลังนางตั้งแต่เมื่อไหร่ นัยน์ตาอันแหลมคมคู่นั้นจับจ้องไปที่นาง“ยาที่ข้าให้เจ้าไปซื้ออยู่ที่ไหน?”หลินซวงเอ๋อร์รีบถอนสายตากลับมา แล้วยื่นยาที่อยู่ในมือให้ท่าน

    Last Updated : 2024-10-29
  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 2

    “ข้าอยากได้น้ำ น้ำ……”พอตั้งใจฟังแล้ว เสียงนั้นดังมาจากเรือนอวิ๋นซวนและผู้ที่อาศัยอยู่ในเรือนอวิ๋นซวนก็คือท่านอ๋องของจวนนี้ - เยี่ยเป่ยเฉิงหลินซวงเอ๋อร์นึกถึงคำพูดของท่านป้าจ้าวทันทีหากท่านอ๋องเรียกเจ้า เจ้าก็เข้าไปปรนนิบัติรับใช้ ถ้าไม่เรียก เจ้าก็ไม่ต้องไปสนใจหลินซวงเอ๋อร์ลังเล เธอไม่อยากไปปรนนิบัติรับใช้ ตอนกลางวันได้ยินมาว่าท่านอ๋องโมโหร้าย ถ้านางปรนนิบัติไม่ดี ก็จะลงเอยเหมือนเสวี่ยหยวน“น้ำ… ข้าอยากได้น้ำ…”เสียงของชายหนุ่มเริ่มแหบแห้งมากขึ้นเรื่อยๆ ตามด้วยเสียงหอบเบาๆหลายครั้ง ราวกับว่ากำลังพยายามสุดขีดเพื่ออดทนต่อความเจ็บปวดบางที ท่านอาจจะแค่อยากดื่มน้ำ?พอคิดอย่างนี้ สุดท้ายหลินซวงเอ๋อร์ก็ไม่สนใจอะไรมากนัก หยิบปิ่นปักผมจากใต้หมอนแล้วมัดผมอันดำขลับไว้ด้านหลังศีรษะ นางกำลังจะไปหยิบผ้าพันหน้าอก แต่กลับพบว่าผ้าพันอกยังเปียกและมีน้ำหยดอยู่..ด้วยความจนใจ หลินซวงเอ๋อร์จึงเอาเสื้อคลุมหลวมๆตัวหนึ่งจากตู้เสื้อผ้ามาสวมแบบลวกๆพอมาถึงเรือนอวิ๋นซวน เสียงของชายหนุ่มก็ดังมาจากข้างในเป็นระยะๆหลินซวงเอ๋อร์เปิดประตูอย่างตัวสั่นงันงกสองปีที่นางอยู่ที่จวนแห่งนี้ นี่เป็นครั้งแร

    Last Updated : 2024-10-29
  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 3

    เมื่อเยี่ยเป่ยเฉิงตื่นขึ้นมา ภายในมุ้งเตียงก็เละเทะไปหมด หญิงสาวที่ร่วมหลับนอนกับเขาเมื่อคืนได้จากไปนานแล้วเขาลุกขึ้นพร้อมกุมหน้าผาก คิ้วขมวดเล็กน้อย เปลวไฟอันเร่าร้อนนั้นได้มอดไหม้ไปตั้งนานแล้ว เหลือเพียงแต่ความเย็นชาและความเกรี้ยวโกรธภาพเหตุการณ์ของเมื่อคืนปรากฏขึ้นแวบๆราวกับว่าเป็นเศษชิ้นส่วนที่กระจัดกระจาย แต่จะปะติดปะต่ออย่างไรก็ไม่อาจทำให้ภาพสมบูรณ์ได้สิ่งเดียวที่จำได้ก็คือ นัยน์ตาที่ใสบริสุทธิ์เป็นพิเศษคู่นั้น มองมาที่เขาด้วยน้ำตาสายตาแบบนั้น ทำให้เยี่ยเป่ยเฉิงรู้สึกมีอารมณ์แปลกๆอยู่ในใจ และก็รู้สึกหงุดหงิดใจเป็นอย่างยิ่ง"เสวียนอู่! "เสวียนอู่ที่รออยู่นอกประตู พอได้ยินเสียงเรียก ก็รีบเปิดประตูเข้าไปทันทีกวาดสายตามองเตียงที่เละเทะ เสวียนอู่ก็ไม่โง่ มองแวบเดียวก็รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น“เพราะข้าน้อยละเลยหน้าที่ ท่านอ๋องได้โปรดลงโทษด้วย”เสวียนอู่สับสนเล็กน้อย ทั้งๆที่เขาขับไล่หญิงรับใช้เรือนฝั่งตะวันออกไปหมดแล้ว เหตุใด...เยี่ยเป่ยเฉิงนั่งย้อนแสง สีหน้าที่อยู่บนใบหน้าซ่อนอยู่ในเงามืด ในมือกำลังเล่นกับปิ่นปักผมไม้อันหนึ่งอยู่และปิ่นปักผมไม้อันนี้ เป็นปิ่นที่ผู้หญิงคนน

    Last Updated : 2024-10-29
  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 4

    หลินซวงเอ๋อร์นอนอยู่บนเตียงเป็นเวลาสองวันเต็มสองวันที่ผ่านมานี้ ท่านป้าจ้าวมาหาเธอหนึ่งครั้ง นอกจากจะเป็นห่วงเรื่องอาการป่วยของเธอแล้ว ยังถามรายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นที่เรือนฝั่งตะวันออกในวันนั้นด้วยการคัดเลือกในวันนั้น เยี่ยเป่ยเฉิงไม่ชอบสาวใช้คนใดเลย แถมยังอารมณ์เสียอย่างไร้สาเหตุท่านป้าจ้าวไปหาเสวียนอู่เพื่อสอบถามเป็นการส่วนตัว ว่าเป็นสาวใช้ที่ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูงคนไหนกันแน่ที่ไม่เชื่อฟังคำแนะนำ และแอบไปขึ้นเตียงท่านอ๋องในตอนกลางคืน!สถานะอันสูงส่งของเยี่ยเป่ยเฉิง ไม่สิ่งที่คนรับใช้จะคิดอาจเอื้อมได้!แม้ว่าท่านอ๋องจะไว้ชีวิตนาง แต่นายหญิงของจวนอ๋องก็คงจะไม่ปล่อยนางไว้ท่านป้าจ้าวไม่อยากให้จุดจบของเสวี่ยหยวนเกิดขึ้นกับสาวใช้คนอื่นอีก จึงมาหา หลินซวงเอ๋อร์เพราะอยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในวันนั้นเพราะท้ายที่สุดแล้วคนที่รักษาการณ์อยู่ที่เรือนฝั่งตะวันออกก็คือนาง“หลินซวง บอกข้ามาตามตรง วันนั้นนอกจากเจ้าแล้วยังมีใครแอบเข้าไปในเรือนฝั่งตะวันออกอีกไหม?”สีหน้าท่าทางของท่านป้าจ้าวจริงจังมากนิ้วมือของหลินซวงเอ๋อร์กำเสื้อของนางเอาไว้แน่น: "นอกจากข้า ก็ไม่มีคนอื่นเลย"เ

    Last Updated : 2024-10-29
  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 5

    ขนตาที่เปียกชื้นของนางสั่นไหวทันที หลินซวงเอ๋อร์ก้มศีรษะต่ำลงยิ่งกว่าเดิม"เงยหน้าขึ้น!" น้ำเสียงของชายหนุ่มค่อยๆหมดความอดทนเล็บเลาะลึกเข้าไปในฝ่ามือ หลินซวงเอ๋อร์เงยหน้าขึ้นอย่างขี้ขลาดตาขาว แต่ก็ไม่กล้าสบตาเขาเยี่ยเป่ยเฉิงจ้องไปที่คนที่อยู่ตรงหน้า คิ้วทั้งสองข้างก็ขมวดกันทันทีสวมเสื้อผ้าเนื้อหยาบ น่าจะเป็นบ่าวรับใช้ระดับล่างสุดในจวน แต่บ่าวรับใช้คนนี้หน้าตาผุดผ่อง ใบหน้าที่เรียวเล็กเท่าฝ่ามือขาวราวกับไข่ปอก ขนตาที่ทั้งยาวทั้งหนาสั่นไหวเล็กน้อย ริมฝีปากที่เหมือนกลีบดอกไม้นั้นงดงามมีเสน่ห์มากบนโลกใบนี้ จะมีผู้ชายที่หล่อเหลาขนาดนี้ได้อย่างไร?เยี่ยเป่ยเฉิงผู้ที่เห็นสาวงามจนชินตา ในขณะนี้จิตใจเหม่อลอยเล็กน้อยจากนั้นไม่นาน น้ำเสียงของเขาก็ผ่อนคลายลงเล็กน้อย แล้วถามว่า "เจ้าชื่ออะไร?"หลินซวงเอ๋อร์เปิดๆปิดปาก น้ำเสียงเบามาก: "ข้าน้อย... ชื่อหลินซวง"แต่เยี่ยเป่ยเฉิงได้ยินอย่างชัดเจน“หลินซวง?” เขาพึมพำชื่อนี้ออกมา รู้สึกว่าคุ้นหูเล็กน้อย ราวกับว่าเคยได้ยินจากที่ไหนสักแห่ง“เงยหน้าขึ้น แล้วสบตาข้า!” น้ำเสียงที่เย็นชาดังขึ้นอีกครั้ง และความรู้สึกกดดันสุดขีดก็ถาโถมเข้ามาหลิน

    Last Updated : 2024-10-29
  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 6

    "ท่านป้า ข้าเป็นคนที่หยาบกระด้าง จะคู่ควรที่จะไปปรนนิบัติท่านอ๋องได้อย่างไร ท่านป้าได้โปรดเมตตาหลินซวง ให้ข้าย้ายไปที่เรือนฝั่งตะวันตกเถิด?"สวนหลังเรือน หลินซวงเอ๋อร์คุกเข่าลงบนพื้น มือทั้งสองจับแขนเสื้อของท่านป้าจ้าวเอาไว้ ขอร้องอย่างขมขื่นนางคิดว่านางรอดพ้นหายนะในวันนั้นได้แล้ว แต่คิดไม่ถึงว่าภัยพิบัติที่ใหญ่กว่ากำลังจะมาถึงท่านป้าจ้าวมาหานางในตอนเช้า และบอกว่านางจะถูกโยกย้ายไปรับใช้ท่านอ๋องนางตกตะลึงสุดขีดหลินซวงเอ๋อร์กลัวเยี่ยเป่ยเฉิง และอยากจะอยู่ห่างจากเขาให้ไกลที่สุด แต่ตอนนี้ ท่านป้าจ้าวกำลังจะโยกย้ายนางไปอยู่ข้างกายเยี่ยเป่ยเฉิง แบบนี้จะไม่เท่ากับว่าส่งเนื้อเข้าปากเสือหรือ?แม้ว่าเยี่ยเป่ยเฉิงจะจำนางไม่ได้ แต่ถ้าอยู่ด้วยกันตลอดเวลา หลินซวงเอ๋อร์กลัวว่าเขาจะรู้ตัวตนที่แท้จริงของนางเข้าสักวัน...นางจับแขนเสื้อของท่านป้าจ้าวเอาไว้ไม่ยอมปล่อย หลินซวงเอ๋อร์กังวลใจมากจนเกือบจะร้องไห้"ท่านป้าหลินสงสารหลินซวงเถิด หลินซวงโง่เขลา ไม่สามารถทำงานได้จริงๆ"ท่านป้าจ้าวก็รู้สึกงุนงงเช่นกัน ในจวนมีสาวใช้ที่ฉลาดเฉียบแหลมตั้งมากมาย แต่เยี่ยเป่ยเฉิงไม่ชอบใครเลย กลับมาชอบคนรับใช้ที

    Last Updated : 2024-10-29

Latest chapter

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 631

    เสียงกระพรวนเงินดังขึ้นกรุ๊งกริ๊ง แม้เสียงจะเบาหวิว แต่กลับบาดหูยิ่งนักเยี่ยเป่ยเฉิงสีหน้าคล้ายกับว่างเปล่า ทันใดนั้น ดั่งมีบางสิ่งแตกสลายอยู่ในใจเงียบๆชาวบ้านขุดเอาสร้อยข้อมือขึ้นมาจากดิน สีเงินของกระพรวนเปื้อนไปด้วยดินโคลน และรูปทรงกลมแต่แรกก็ถูกทับจนผิดรูปไป มีเพียงเสียงกรุ๊งกริ๊งที่ออกมาเบาๆ เท่านั้นชาวบ้านถืออยู่ในมือ พลางเอาชายเสื้อเช็ดคราบดินที่เปรอะเปื้อนจนสะอาด และถือมายังเบื้องหน้าไป๋อวี้ถัง พลางกล่าว “คุณชาย ท่านดูสร้อยข้อมือเส้นนี้ เป็นของแม่นางผู้นั้นหรือไม่?”ไป๋อวี้ถังไม่ตอบ มีเพียงดวงตาที่สิ้นหวังมองไปยังเยี่ยเป่ยเฉิงเพราะแท้จริงแล้ว สร้อยข้อมือเส้นนี้เยี่ยเป่ยเฉิงเป็นคนเลือกให้นางเอง อีกทั้งใส่ให้นางกับมือ จึงจำได้มากกว่าแต่ไป๋อวี้ถังจะไม่เคยเห็นสร้อยข้อมือเส้นนี้จริงรึ?ครั้งหนึ่งหลินซวงเอ๋อร์เคยทำสร้อยข้อมือเส้นนี้ตกไปในน้ำ และเขาก็เป็นคนกระโดดลงน้ำไป เก็บขึ้นมาให้นางเอง...ลูกกระพรวนที่ผูกอยู่ เขาก็เคยเห็นมาก่อน เพียงแต่ไม่กล้าเผชิญกับความจริงเท่านั้นชาวบ้านเห็นดังนี้ จึงหันไปยื่นให้เยี่ยเป่ยเฉิงแทน พลางกล่าว “คุณชาย ท่านดูเองเถิด สร้อยเส้นนี้เป็นของแ

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 630

    แต่ทุกอย่างกลับสายเกินแก้แล้วหลังจากทุกคนไม่หลับไม่นอนขุดดินมาหนึ่งวันหนึ่งคืนเต็ม ในที่สุดก็สามารถเปิดเป็นทางเส้นเล็กเบื้องหน้าสำเร็จชาวบ้านคุ้นเคยกับเส้นทางดี จึงรู้ว่าตำแหน่งใดที่หลินซวงเอ๋อร์ควรจะหยุดพัก จึงรีบพาคนขุดต่อไปตามเส้นทางนั้น เพื่อไม่ให้ขุดส่งเดชจนเสียแรงเกินไปภายใต้เศษหิน มีแผ่นไม้ผุพังหลายแผ่นถูกชาวบ้านคนหนึ่งขุดพบ“ขุดเจอแล้ว ขุดเจอแล้ว...”ทันทีที่ได้ยิน ทั้งเยี่ยเป่ยเฉิงและไป๋อวี้ถังต่างก็ใจสั่น“ขุดเจอแผ่นไม้ของรถม้าแล้ว น่าจะอยู่ข้างใต้นี้...”ผู้คนแห่กันไปมุงดู พร้อมถือพลั่วคนละอันไปขุดในตำแหน่งที่ชาวบ้านผู้นั้นบ่งชี้เพียงไม่นาน ล้อข้างหนึ่งของรถม้าก็ถูกขุดออกมา ตามด้วยข้างที่สอง ข้างที่สาม ข้างที่สี่...แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่พบร่างของหลินซวงเอ๋อร์ไป๋อวี้ถังมือสั่นเสียจนแทบจับพลั่วไว้ไม่อยู่ เขากับเยี่ยเป่ยเฉิงยืนอยู่ด้านหลังชาวบ้าน มองดูภาพเบื้องหน้าจนแทบจะกลั้นหายใจชาวบ้านมีประสบการณ์ด้านนี้อยู่แล้ว เมื่อรู้ตำแหน่งแน่ชัดก็ย่อมทำงานง่ายขึ้น ต่างยกพลั่วขึ้นลง พร้อมช่วยกันขุดเป็นพัลวันเสียงพลั่วกระทบลงพื้น เกิดเสียงดังขึ้นเป็นระยะ แต่ละครั้งที่ลงไปคล

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 629

    “เป็นภัยธรรมชาติ...”“นางหนีไม่พ้น เป็นชะตากรรมของนาง...”คำพูดของชาวบ้านวนเวียนอยู่ในห้วงความคิดของเขา เยี่ยเป่ยเฉิงไม่ต้องการฟังคำชาวบ้านอีก ยังคงยืนกรานที่จะถามไป๋อวี้ถัง “ซวงเอ๋อร์เล่า? นางอยู่ที่ใด? เจ้าเอานางไปซ่อนไว้ที่ใด?”“คืนนางให้ข้าได้หรือไม่?”ไป๋อวี้ถังคล้ายอ่อนแรงไปทั้งร่าง ได้แต่นั่งทรุดบนพื้นราวกับเศษดินกองหนึ่งนัยน์ตาเขาดูพร่าเลือน ว่างเปล่าจ้องมองอย่างไร้จุดหมายที่ตรงนี้ เดิมเคยเป็นถนนที่ราบเรียบ แต่บัดนี้ กลับกลายเป็นกองดินสูงพะเนินเทินทึกที่ยากจะข้ามผ่านได้อีกเยี่ยเป่ยเฉิงมองตามสายตาเขาไป ความสิ้นหวังเริ่มแผ่ซ่านอยู่ในใจ จนไปถึงอวัยวะทุกส่วนในร่างกายชาวบ้านที่อยู่ด้านข้างกล่าวขึ้น “คุณชาย คนที่ท่านตามหา ถูกฝังอยู่ใต้ดินนี้แล้ว...”ในที่สุด เยี่ยเป่ยเฉิงก็ยากจะใจเย็นได้อีกเป็นไปได้อย่างไร?เขายังจำได้ดี เมื่อเช้าก่อนจะออกมา นางยังสบายดีอยู่ ยังส่งยิ้มให้แก่ตนเอง นางรับปากว่าจะรอเขากลับมาแล้วผ่านไปเพียงไม่นาน เหตุใดนางจึงถูกฝังอยู่ใต้ดินนี้ได้?“ไม่ ไม่จริง พวกเจ้าล้วนแต่หลอกข้าใช่หรือไม่?” เยี่ยเป่ยเฉิงกล่าวด้วยน้ำเสียงที่อ่อนระโหย“นางไปหลบซ

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 628

    นางกล่าวตอบ “สูญเสียคนที่รัก อยู่อย่างโดดดายชั่วชีวิต...”เขาไม่รู้ว่าเหตุใดเวลานี้ จึงจดจำคำพูดที่กล่าวอย่างเลื่อนลอยในตอนนั้นได้อย่างแจ่มชัด รู้เพียงว่า หัวใจกำลังทวีความเจ็บปวดมากขึ้นเรื่อยๆ“ซวงเอ๋อร์ รอข้าด้วย เจ้าจะต้องรอข้า...” เขารีบเฆี่ยนแส้อย่างแรง ห้อตะบึงต่อไปอีกในที่สุดก็มาถึงอำเภออวิ๋นซีเหตุเพราะหน้าดินถล่ม จึงทำให้เส้นทางราบเรียบแต่เดิมกลายเป็นเขาสูงที่ไม่อาจข้ามผ่านได้อีก เมื่อขบวนเดินทางต่อไม่ได้ จึงต้องใช้ทางอ้อมไปเยี่ยเป่ยเฉิงติดตามคนของตระกูลไป๋เดินอ้อมภูเขาสูง มาถึงปากทางหมู่บ้าน อยู่ไกลๆ ก็เห็นชาวบ้านกลุ่มหนึ่งถือพลั่วพร้อมตั้งหน้าตั้งตาขุดดินอยู่ และหนึ่งในนั้นมีรูปกายที่คุ้นตายิ่งเขาคือไป๋อวี้ถัง...ยังจำได้ดีว่า ไป๋อวี้ถังเป็นคนที่ดูแลตัวเองอย่างดี มีความสำอางตั้งแต่หัวจรดเท้า แต่วันนี้ ตัวเขากลับเลอะด้วยดินโคลน ผมเผ้ากระเซิงยังพอว่า สองมือยังเปื้อนเลือด แลดูมอมแมมเป็นอย่างมากแตกต่างจากบุคลิกสง่างามสูงส่งที่ผ่านมาโดยสิ้นเชิงความรู้สึกกังวลใจของเยี่ยเป่ยเฉิง มาถึงยามนี้ยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้น เขาพลิกตัวลงจากหลังม้า ก้าวเท้าหนักตรงไปหาไป๋อวี้ถัง

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 627

    เยี่ยเป่ยเฉิงขี่ม้าออกนอกเมือง ไม่นานก็ไล่ตามคนของตระกูลไป๋จนทัน คนของตระกูลไป๋คล้ายจะออกมาทั้งหมด ทั้งบ่าวไพร่และคนงานรับใช้ทั่วไปที่น่าแปลกก็คือ แต่ละคนมิได้พกอาวุธติดตัว เพียงถือจอบเสียมหรือพลั่วคนละอันเท่านั้นทุกคนคล้ายจะเร่งรีบมาก ควบม้าอยู่ตลอดแทบไม่ได้หยุดพัก หากไม่เพราะเยี่ยเป่ยเฉิงเร่งขี่ม้าให้เร็วขึ้น คงไม่อาจตามทันในเวลาอันสั้นแน่เมื่อเยี่ยเป่ยเฉิงตามไปถึง ก็ได้รั้งตัวทหารผู้หนึ่งไว้ พร้อมกับซักถาม “ใต้เท้าของเจ้าอยู่ที่ใด?”ทหารของตระกูลไป๋ล้วนรู้จักเยี่ยเป่ยเฉิงดี ด้วยเหตุนี้ เมื่อเห็นเขามาขวางทาง จึงรีบดึงเชือกให้หยุด พลางกล่าวด้วยน้ำเสียงเร่งรีบ“ใต้เท้าออกไปแต่เช้าตรู่ขอรับ”เยี่ยเป่ยเฉิงจึงกล่าวต่อ “เขาไปที่ใด? มีผู้ติดตามหรือไม่?”ทหารตอบตามความจริง “ใต้เท้าออกไปเพียงลำพัง ส่วนจะไปที่ใดนั้น ข้าน้อยไม่ทราบได้”เยี่ยเป่ยเฉิงรู้ว่าทหารคงไม่พูดโกหก จึงได้ถามต่อ “แล้วพวกเจ้าจะไปที่ใด? เกิดเรื่องอันใดขึ้น?”ทหารกล่าวตอบ “ได้รับคำสั่งด่วน ให้คนตระกูลไป๋ออกเดินทางทั้งหมด ไปช่วยเหลือที่อำเภออวิ๋นซีขอรับ”เยี่ยเป่ยเฉิงขมวดคิ้วเบาๆ เกิดลางสังหรณ์ไม่สู้ดีในใจ “ช่วย

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 626

    เยี่ยเป่ยเฉิงติดตามเสิ่นป๋อเหลียงเข้าไปในเรือนอวิ๋นซวนก่อนหลินซวงเอ๋อร์จะจากไป นางเก็บไปเพียงเสื้อผ้าชุดเก่าบางตัวเท่านั้น ยาที่เจียงหว่านจัดเตรียมไว้ให้ นางไม่ได้เอาไปด้วย และตอนนี้ก็วางอยู่หน้าโต๊ะเครื่องแป้งเสิ่นป๋อเหลียงเดินเข้าไป นำยามามอบให้เยี่ยเป่ยเฉิง พลางกล่าว “ข้าน้อยเดาว่า ที่พระชายาตกโลหิต สาเหตุเพราะเกิดจากยาตัวนี้”เยี่ยเป่ยเฉิงมองดูยาในมือเสิ่นป๋อเหลียง สีหน้าเปลี่ยนเล็กน้อยคราวก่อนที่หลินซวงเอ๋อร์ขึ้นเขาไปจับงูให้เขา เดินทางเพียงลำพัง กลับมามีบาดแผลทั่วร่าง ยาตัวนี้เจียงหว่านเป็นคนปรุงให้นาง บอกว่ามีสรรพคุณในการรักษาแผลเป็นได้ดี ให้หลินซวงเอ๋อร์ใช้อย่างต่อเนื่อง...ถ้าหากว่ายาตัวนี้มีปัญหาจริง มิเท่ากับเจียงหว่านคิดร้ายต่อหลินซวงเอ๋อร์ตั้งแต่แรกพบหน้าแล้วรึ?มิหนำซ้ำ ยังอยู่ต่อหน้าต่อตาเขาด้วย!เยี่ยเป่ยเฉิงกล่าว “จะเป็นไปได้อย่างไร ยาตัวนี้ข้าได้ส่งให้หมอหลวงตรวจถึงสองครั้ง หมอหลวงก็บอกว่าไม่มีปัญหา...”แรกเริ่มนั้น เขาก็เคยสงสัยเจียงหว่านเช่นกัน จึงนำยาที่นางปรุงให้หลินซวงเอ๋อร์ไปให้หมอหลวงตรวจดู แต่หมอหลวงหลายคนต่างบอกว่าไม่มีปัญหา เขาจึงไม่ได้สงสัยนางอีก

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 625

    เยี่ยเป่ยเฉิงมือสั่นขณะรับขวดกระเบื้องจากตงเหมยมาเนื้อสีขาวของขวดปรากฏเงาสีแดงรำไรอยู่ด้านในตงเหมยกล่าว “ท่านอ๋องบอกว่าจะเชื่อใจนางใช่หรือไม่เจ้าคะ? ถ้าเช่นนั้นบ่าวจะไม่นำไปให้องค์หญิงอีก ท่านอ๋องลองเอาเลือดซวงเอ๋อร์ไปทดสอบดูก็ได้ ว่าเป็นจริงดั่งที่นางว่าหรือไม่ ใช้รักษาโรคระบาดได้จริง!”“ถึงตอนนั้น ท่านอ๋องย่อมจะรู้เอง ว่าซวงเอ๋อร์ไม่ได้พูดโกหก...”เยี่ยเป่ยเฉิงรู้สึกจุกในอก ในยามนี้ เขาเกิดความกลัวที่จะนำไปพิสูจน์เพราะหากว่า ทุกอย่างเป็นจริงดั่งที่ตงเหมยพูด นั่นแสดงว่าเขาทรยศต่อความไว้วางใจของหลินซวงเอ๋อร์อีกครั้งในตอนนั้น นางเคยร่ำไห้พูดกับตนว่า เลือดของนางสามารถช่วยชีวิตคนได้แล้วเขาตอบว่าอย่างไร?อ้อ นึกออกแล้วเขาเย้ยหยันไปว่านางไม่ใช่เทวดา พร้อมกล่าวตำหนิว่านางชอบทำร้ายตนเองบ่อยครั้งสวรรค์ นี่เขาเป็นอะไรไป เขาได้กระทำสิ่งใดต่อนางไปบ้าง...เสวี่ยนอู่เห็นดังนี้ จึงรีบเดินมารับขวดไปจากมือเยี่ยเป่ยเฉิง พร้อมกล่าวต่อเขา “ในค่ายทหารยังมีผู้ป่วยอีกหลายคน ข้าน้อยจะนำไปทดสอบเดี๋ยวนี้...”เมื่อกล่าวเช่นนี้แล้ว ตงเหมยจึงไม่อยากพูดมากความอีก นางหันหลังเตรียมจะจากไป กลับถูก

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 624

    ตงเหมยกล่าวเสียงสะอื้น “เชื่อตอนนี้จะมีประโยชน์อันใดเจ้าคะ? ในยามที่นางโดดเดี่ยวสิ้นหวัง ท่านไม่อยู่เคียงข้าง นางสูญเสียลูกไป ท่านก็ไม่อยู่เคียงข้าง และบัดนี้นางล้มป่วย ท่านก็เอาร่างนางไปอยู่บ้านนอกแทน”“เชื่อตอนนี้จะมีประโยชน์อันใด ทุกอย่างล้วนสายเกินแก้!”ตงเหมยยิ่งพูดก็ยิ่งโมโห จนแทบอยากระบายความอัดอั้นที่หลินซวงเอ๋อร์ได้รับออกมาแทนนางให้หมดสิ้น“น่าเห็นใจซวงเอ๋อร์นัก...นางทำเพื่อท่าน ต้องทนกล้ำกลืนความเจ็บช้ำมากมาย ไม่เคยที่จะระบายให้ท่านฟังสักครั้ง”“คืนวันนั้น ท่านอ๋องจู่ๆ ทิ้งนางไป นางเพิ่งสูญเสียลูก ยังมีเลือดออกเต็มตัว ตอนบ่าวเปิดประตูเข้าไปเห็น รู้แต่ว่าแทบเป็นลมหมดสติ!”“บ่าวคิดจะบอกท่านให้รู้ แต่ซวงเอ๋อร์ไม่ต้องการให้ท่านเป็นห่วง นางบอกว่าท่านอ๋องเป็นคนทำงานใหญ่ ไม่ควรให้อยู่แต่ในเรือนหลัง ยิ่งกลัวว่าหากพูดไปแล้ว ท่านจะรังเกียจร่างกายที่ไม่สมบูรณ์ของนาง วันหน้าไม่อาจมีทายาทให้ท่านได้อีก”“แต่ว่า ท่านอ๋องรู้หรือไม่ ตอนสูญเสียลูกไปนั้น นางเจ็บปวดเพียงไหน ในใจรู้สึกสิ้นหวังเพียงใด?”“ท่านอ๋องเคยคิดปลอบประโลมจิตใจนางบ้างหรือไม่?”เยี่ยเป่ยเฉิงยืนตะลึงตัวแข็งทื่อ เลือดใน

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 623

    “ซวงเอ๋อร์ ซวงเอ๋อร์ ข้ากลับมาแล้ว”เยี่ยเป่ยเฉิงผลักประตูเรือนอวิ๋นซวน พร้อมเดินก้าวเข้าไปด้านใน แต่กลับพบว่าภายในว่างเปล่าผ้าห่มบนเตียงถูกพับไว้เรียบร้อย ข้าวของเครื่องใช้ก็จัดวางเป็นระเบียบ ราวกับมีคนมาจัดเก็บแล้วหนึ่งรอบเมื่อเห็นหลินซวงเอ๋อร์ไม่อยู่ในห้อง เยี่ยเป่ยเฉิงก็คิดว่านางคงไปห้องหนังสือเพราะที่ผ่านมา นางมักชอบเก็บตัวในห้องนั้นเพื่อเขียนหนังสือเงียบๆ เมื่อนึกถึงตรงนี้ เขาจึงรีบออกจากเรือนอวิ๋นซวน ตรงไปยังห้องหนังสือทันทีที่ไหนได้ ห้องหนังสือก็ไม่มีร่องรอยของนาง อุปกรณ์เครื่องเขียนบนโต๊ะจัดวางเป็นระเบียบ พู่กันที่นางเคยใช้บ่อยๆ คล้ายมีการล้างน้ำจนสะอาดสะอ้าน เยี่ยเป่ยเฉิงขมวดคิ้วเล็กน้อย พลางก้าวเดินออกจากห้องหนังสือ เดินตามหาไปยังทุกห้อง ก็ไม่เห็นแม้แต่เงาของนางจนกระทั่งตงเหมยกลับมาจากเรือนด้านหน้าทันทีที่เห็นตงเหมย เยี่ยเป่ยเฉิงก็รีบปรี่ไปหา “ซวงเอ๋อร์เล่า นางอยู่ที่ใด?”ในมือตงเหมยถือกล่องอยู่ใบหนึ่ง เมื่อเผชิญกับคำถามของเยี่ยเป่ยเฉิง นางมิได้ตอบกลับ นอกจากยื่นกล่องในมือให้แก่เยี่ยเป่ยเฉิง“นี่คือเครื่องประดับที่ท่านอ๋องซื้อให้ซวงเอ๋อร์ ก่อนจากไป นางได้ม

DMCA.com Protection Status