แชร์

บทที่ 597

ผู้เขียน: พิณเคล้าสายฝน
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-11-13 18:57:23
ความเจ็บปวดแล่นเข้าสู่หัวใจดังกระแสน้ำก็ไม่ปาน มิอาจหยุดยั้งได้

สุดท้าย นางฝืนทนไม่ไหว กระอักเลือดออกมา

การกระอักเลือดออกมาครั้งนี้ แรงเฮือกสุดท้ายในตัวหลินซวงเอ๋อร์ถูกสูบไปจนหมด และล้มพับไปกับพื้น

บนพื้นเย็นมาก นางนอนอยู่บนพื้นทั้งอย่างนั้น จวบจนครึ่งค่อนคืน ร่างกายถึงค่อยๆ มีแรงขึ้นมาเล็กน้อย

นางหยัดกายลุกขึ้นอย่างยากลำบาก แล้วเดินไปที่เตียงที่ละก้าว

ใจยังคงเจ็บปวด นางล้วงเอาขวดแก้วออกมา เทยาเม็ดออดมาสองสามเม็ด เอาใส่ปากแล้วกลืนมันลงไป ถึงได้รู้สึกว่าดีขึ้นไปมา

มุมเปื้อนไปด้วยคราบเลือด นางยกชายกระโปรงขึ้นมา เช็ดด้วยมือที่สั่นเทา

มองเลือดที่เปื้อนบนกระโปรง ใจของนางเหน็บหนาวลงไปกว่าครึ่ง

นางคิดว่าตัวเองใกล้จะหายแล้ว แต่ทำไม…อาการนี้ถึงได้กำเริบรุนแรงขึ้น…

หลินซวงเอ๋อร์กล่าวปลอบตัวเองด้วยเสียงอันสั่นเทา “ห้ามโกรธ ต้องรีบมีความสุขขึ้นมา แบบนี้อาการจะได้ดีขึ้น”

แต่ยิ่งนางควบคุม น้ำตาก็ยิ่งไหลพรั่งพรูออกมา

ราวกับว่านางรู้สึกว่ามีภูเขาลูกใหญ่ระเบิดพังลงมาอยู่ในใจ

เยี่ยเป่ยเฉิงละทิ้งนางแล้ว แม้แต่คำอธิบายก็ไม่อยากฟังนางพูด

เขาชอบท่าทางของนาง นางเคยเห็นกับตา ดังนั้น ท่าทีที่เขาละ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 598

    มือที่ซ่อนอยู่ใต้ผ้าห่มค่อยๆ กำแน่น หลินซวงเอ๋อร์พยายามระงับความรู้สึกสุดแรง“ทำไม? เจียงหว่าน! ข้าไปทำอะไรให้เจ้า!”“เจ้าว่าอย่างไรล่ะ?” เจียงหว่านกล่าวอย่างยิ้มเยาะ “เจ้ามักรู้สึกว่าข้ากำลังทำลายความสัมพันธ์ระหว่างพวกเจ้าสองคน ความจริงแล้วเจ้าเคยคิดบ้างไหม ว่าแกคือนังสารเลวที่เข้ามาเป็นมือที่สามคนนั้น!”“ข้าไม่ใช่!”หลินซวงเอ๋อร์โต้กลับนางไม่เคยคิดจะเข้าไปเป็นมือที่สามของใคร เป็นเยี่ยเป่ยเฉิงสัญญากับนางมาตลอด บอกว่าทั้งชีวิตนี้จะชอบนางคนเดี๋ยว เป็นเขาที่ตื๊อนาง ให้นางแต่งงานกับเขา ก็เป็นเขาอยากแต่ง และรับปากนางไม่ว่าเมื่อไหร่ก็จะปกป้องนาง เจียงหว่านกล่าว “ข้ารู้จักท่านอ๋องมาตั้งแต่น้อย เราสองคนรักกัน และกำหนดการแต่งงานไว้นานแล้ว พ่อข้าตายก็เพื่อช่วยเขา! ท่านอ๋องเคยบอกกับพ่อข้าว่าจะดูแลข้าไปตลอดชีวิต”นางชี้หน้าด่าหลินซวงเอ๋อร์ “เป็นแก! หลินซวงเอ๋อร์! เป็นเพราะการปรากฏตัวกะทันหันของแกทำให้ท่านอ๋องเปลี่ยนความคิด!หากไม่ใช่เพราะแกใช้อุบายน่าละอายท่านอ๋องจะลืมสัญญาที่ให้ไว้กับข้าได้อย่างไร!”“ดังนั้นเจ้าเลยทำร้ายข้า วางยาข้า แถมยังทำร้ายลูกข้าด้วยหรือ?” มือของหลินซวงเอ๋อร์สั่นเทาเ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-13
  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 599

    นางถึงขั้นทำร้ายเยี่ยเป่ยเฉิงไปแล้วจริงๆ...นางทำร้ายเยี่ยเป่ยเฉิงไปได้อย่างไร...“ซวงเอ๋อร์...เจ้าเป็นอะไรไปกันแน่?” เยี่ยเป่ยเฉิงกุมบาดแผล มองนางด้วยแววตาสับสนเจียงหว่านข้างๆเอ่ย “ท่านอ๋อง แม่นางซวงเอ๋อร์สติฟั่นเฟือน อาการกำเริบขึ้นอีกแล้ว...”“ข้าเปล่า...ท่านพี่ ข้ามิได้อาการกำเริบ ข้ามิได้ตั้งใจทำร้ายท่าน เพราะเจียงหว่าน เจียงหว่านทำร้ายลูกข้า นางยังวางยา นางยอมรับเองกับปาก...” หลินซวงเอ๋อร์อธิบายไปคนละทิศไม่สอดคล้องเจียงหว่านเอ่ย “น้องซวงเอ๋อร์ เจ้าป่วยหนักแล้ว เจ้าเห็นภาพหลอนแล้ว ซ้ำยังพูดจาเหลวไหลอีกแล้ว”“ข้าเปล่า! เจียงหว่าน คนที่พูดจาเหลวไหลคือเจ้า! ข้าไม่ได้ป่วย!” หลินซวงเอ๋อร์จับมือเยี่ยเป่ยเฉิงไว้ ราวกับกำลังจับฟางเส้นสุดท้ายของชีวิตไว้ “ท่านเชื่อข้าได้ไหม? เจียงหว่านทำร้ายข้าจริงๆ นางคือต้นตอของทุกอย่าง ข้าขอร้องล่ะ ท่านเชื่อข้า ได้ไหม...”แค่เยี่ยเป่ยเฉิงเชื่อนางก็พอแล้ว...“เสวียนอู่!” เยี่ยเป่ยเฉิงมองหลินซวงเอ๋อร์ด้วยสายตาสับสน ตะโกนเรียกเสวียนอู่ข้างนอก “ตามหมอหลวงมา!”หลินซวงเอ๋อร์ค่อยๆปล่อยมือจากเยี่ยเป่ยเฉิง นางเดินถอยหลังไม่หยุดด้วยจิตใจแหลกสลาย “ท่านไม

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-13
  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 600

    หมอหลวงยังไม่มา เยี่ยเป่ยเฉิงอุ้มหลินซวงเอ๋อร์มาไว้บนเตียงมุมปากนางเต็มไปด้วยคราบเลือด ทำให้ใบหน้าซีดเซียวยิ่งกว่าเดิมเยี่ยเป่ยเฉิงเช็ดคราบเลือดมุมปากนางด้วยมือสั่นระริก แต่ไม่ว่าจะเช็ดอย่างไรก็เช็ดไม่สะอาดในมือเขาเต็มไปด้วยเลือด ไม่เพียงเช็ดไม่สะอาด แต่กลับทำให้ใบหน้านางเปรอะยิ่งกว่าเดิมเยี่ยเป่ยเฉิงบัดแขนเสื้อมาดหมายเช็ดให้นาง ทว่าเขาคงลืมไปว่าไหล่ของตนก็ได้รับบาดเจ็บเช่นกัน ทั้งแขนเสื้อจึงชุ่มไปด้วยเลือด ทว่าเหมือนเขาไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวด กระทั่งเจียงหว่านเอ่ยเตือนขึ้นข้างๆ “ท่านอ๋อง ท่านพันแผลให้ตัวเองก่อนเถิด”“ไปให้พ้น!” เยี่ยเป่ยเฉิงไม่แม้แต่มองเจียงหว่าน ยังคงเช็ดหน้าตาให้หลินซวงเอ๋อร์ต่อเจียงหว่านกำปลายเสื้อแน่น กัดปากเอ่ยต่อ “ท่านอ๋อง ข้ามิได้ตามทำร้ายน้องซวงเอ๋อร์จริงๆ เมื่อครู่ข้าเดินผ่านมา ได้ยินเสียงความเคลื่อนไหวในห้องนอน ข้ากลัวว่านางจะทำร้ายตัวเอง จึงคิดเข้ามาดู แต่ใครเล่าจะรู้ว่านางอาการกำเริบอีก ทั้งยังไม่ระวังทำร้ายท่าน...”“เจ้าหุบปากสักที!” เยี่ยเป่ยเฉิงหยัดกายยืน ปรี่เข้ามาบีบคอนางทันใด กดนางไว้บนบานประตูสายตาเขาดุร้ายน่าสะพรึงกลัวสุดขีด “ซวงเอ๋อ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-13
  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 601

    คนบนเตียงไม่มีการตอบสนอง นางหลับตาสนิท ราวกับไร้ลมหายใจเยี่ยเป่ยเฉิงกุมมือนางไว้ในอุ้งมือของเขา พบว่ามือของนางเย็นเฉียบ ไร้ไออุ่นแม้แต่น้อยเขากุมปลายนิ้วอันเย็นเฉียบของนางแน่น ในลำคอกลืนกลั้นความเจ็บปวดที่ไร้เสียง“เหตุใดจึงเย็นเช่นนี้...ซวงเอ๋อร์ หนาวใช่หรือไม่?”คนบนเตียงยังคงไม่ตอบสนองต่อเขา ไม่ว่าเขาจะพูดอะไรก็ตามเยี่ยเป่ยเฉิงประคองมือนาง วางไว้บนอกของตนเพื่อให้ความอบอุ่น แต่ไม่ว่าจะพยายามเพียงใดก็ไม่อาจทำให้อุ่นขึ้นได้แสงอาทิตย์ส่องผ่านหน้าต่างตกกระทบใบหน้านาง ทว่ากลับทำให้ผิวพรรณนางขาวซีดดั่งดอกไม้ ทั้งร่างราวกับถูกน้ำค้างแข็งเกาะเยี่ยเป่ยเฉิงโอบกอดนางแน่น สายใยในใจตึงเครียดราวกับจะขาดในชั่วขณะถัดไปโชคดีที่หมอหลวงมาถึงทันเวลาเมื่อเห็นหมอหลวงมาถึง เยี่ยเป่ยเฉิงไม่สนใจบาดแผลของตน สั่งให้หมอหลวงช่วยชีวิตหลินซวงเอ๋อร์ให้ได้ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดหมอหลวงไม่ทันได้คำนับ รีบวางหีบยาลง แล้วจับชีพจรหลินซวงเอ๋อร์เยี่ยเป่ยเฉิงยืนอยู่ข้างๆ หัวใจบีบรัดแน่น“นางเป็นอย่างไรบ้าง?”หมอหลวงกล่าวด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “ทูลท่านอ๋อง พระชายาได้รับความกระทบกระเทือนทางจิตใจ ทำให้โทสะพลุ่งพล

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-13
  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 602

    หลินซวงเอ๋อร์หลับตาลงอย่างอ่อนล้า นางขยับริมฝีปาก ในที่สุดก็เอ่ยประโยคหนึ่งออกมา แต่ก็ยังคงเป็นประโยคเดิม “เป็นเพราะเจียงหว่านทำร้ายข้า...”เยี่ยเป่ยเฉิงกล่าวเสียงนุ่ม “ยาของเจียงหว่าน ข้าได้ให้หมอหลวงตรวจสอบอีกครั้งแล้ว ยาของนางไม่มีปัญหา ซวงเอ๋อร์เกลียดนาง ข้าก็ได้ไล่นางไปแล้ว ต่อไปก็จะไม่ให้นางปรากฏตัวต่อหน้าเจ้าอีก”“ข้าต้องการเพียงให้นางชดใช้ด้วยชีวิต ท่านอ๋องไม่อาจสังหารนางได้จริงหรือ?” หลินซวงเอ๋อร์ค่อยๆ เงยหน้า สบดวงตาที่เต็มไปด้วยความรักลึกซึ้งคู่นั้น ชั่วขณะหนึ่งรู้สึกเพียงความพร่าเลือนดวงตาคู่นี้ของเขาช่างหลอกลวงนัก ทำให้นางหลงเชื่อครั้งแล้วครั้งเล่าว่า เขารักนางแต่ตอนนี้ นางจะไม่หลงเชื่อเขาอีกแล้วเห็นเขาไม่พูดอะไร หลินซวงเอ๋อร์มุมปากยกขึ้นเป็นรอยยิ้มเยาะ “ช่างเถอะ...” นางถอนหายใจลึก ความหวังสุดท้ายที่มีต่อเขาในใจก็สิ้นสุดลงเชื่อหรือไม่เชื่อ สำหรับนางดูเหมือนไม่สำคัญอีกต่อไป“ท่านอ๋องไม่เชื่อก็ช่างเถอะ” นางเงยหน้ามองเรือนอวิ๋นซวน ที่นี่บรรจุความทรงจำมากมายของนาง แต่เมื่อคิดดูให้ดี ดูเหมือนความทรงจำที่เจ็บปวดจะมีมากกว่าที่แท้ นกกระจอกบินขึ้นกิ่งไม้ ก็ไม่อาจกลายเป

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-13
  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 603

    หลินซวงเอ๋อร์มองท้องฟ้า เห็นว่าเวลาไม่เช้าแล้ว วันนี้ไม่ว่าอย่างไรก็คงไปไม่ได้แล้ว จึงกล่าว “เจ้าค่ะ”เพียงแค่คืนเดียวเท่านั้น นางคงทนได้เยี่ยเป่ยเฉิงประคองใบหน้านาง พินิจมองนางอย่างละเอียด กล่าวว่า “ซวงเอ๋อร์ยิ้มหน่อยได้หรือไม่? ขอเพียงทำให้เจ้ามีความสุข จะให้ข้าทำอะไรก็ย่อมได้”ในอดีต ทุกการกระทำของเขาล้วนสั่นสะเทือนหัวใจนาง ทำให้ความสุขทุกข์ของนางปรากฏบนใบหน้า ความรักนับหมื่นพันสะสมอยู่ที่หางตาแต่ตอนนี้ เขาเอาอกเอาใจเพียงใด นางก็ไม่ยอมยิ้มให้เขาสักครั้งเยี่ยเป่ยเฉิงรู้สึกหวั่นใจ เขารู้สึกว่าระหว่างทั้งสอง ราวกับมีบางสิ่งค่อยๆ สูญหายไป ยิ่งเขาพยายามยึดไว้ สิ่งนั้นก็ยิ่งจางหายไปเร็วขึ้น“ซวงเอ๋อร์ยังโกรธอยู่ใช่หรือไม่? โกรธที่เมื่อวานข้าพูดเสียงดังกับเจ้า?”“ข้าไม่ได้ตั้งใจ ข้าขอโทษเจ้า ข้าแค่โมโหจนมืดบอดไปชั่วขณะ ข้าจะไม่พูดเสียงดังกับเจ้าอีกแล้ว”หลินซวงเอ๋อร์ส่ายหน้า ไม่ว่าเขาจะทำอะไรตอนนี้ นางก็ไม่รู้สึกอะไรแล้วความเศร้าที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคือหัวใจที่ตายด้าน ที่แท้ก็เป็นความรู้สึกเช่นนี้เยี่ยเป่ยเฉิงยิ้ม “ข้ารู้อยู่แล้ว ซวงเอ๋อร์ของข้า นิสัยดีที่สุด จะไม่โกรธสามีไปนาน”

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-13
  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 604

    ตงเหมยก้าวเข้าไปกอดหลินซวงเอ๋อร์ แทบจะร้องไห้พูดไม่ออก “ซวงเอ๋อร์ ข้ารู้ว่าใจเจ้าทุกข์ หลายวันมานี้ เรื่องระหว่างเจ้ากับท่านอ๋อง ข้าเห็นทั้งหมด ท่านอ๋องผิดต่อเจ้า”หลินซวงเอ๋อร์ส่ายหน้า “ไม่ใช่ เป็นข้าเองที่หาเรื่องทุกข์ใส่ตัว พวกนางพูดถูก ข้าฐานะต่ำต้อย จริงๆ แล้วไม่คู่ควรกับเขา...บัดนี้ เขาส่งข้ากลับชนบท ก็นับว่ายังให้เกียรติข้า”ตงเหมยกล่าว “ล้วนเป็นเพราะเจียงหว่านคอยก่อเรื่อง นับแต่นางมาที่นี่ ท่านอ๋องก็เปลี่ยนไป...”แม้หลินซวงเอ๋อร์ตั้งใจจะปล่อยวางทุกสิ่ง แต่พอได้ยินคำพูดของตงเหมย หัวใจก็ยังเจ็บราวถูกเข็มทิ่มแทงใช่แล้วเขาเปลี่ยนไปนับแต่เจียงหว่านมาถึง เขาก็เปลี่ยนไปที่แท้ ไม่ใช่นางคิดมากไป แม้แต่ตงเหมียยังมองออก แล้วนางจะไม่รู้สึกได้อย่างไร?“ไม่โทษเขาหรอก” หลินซวงเอ๋อร์ยิ้มขื่น “ใจคนย่อมเปลี่ยนแปลง ชาตินี้ ใครจะรักคนๆ เดียวไปตลอดกาลเล่า?”ยิ่งไปกว่านั้น เขายังเป็นเยี่ยเป่ยเฉิงผู้สูงส่ง!แต่ก่อนนางเคยเตือนตัวเองครั้งแล้วครั้งเล่า ไม่ให้ใจอ่อนกับเขา ให้รู้จักฐานะตัวเอง รักเขาเท่ากับตกลงในเหวลึกไม่มีวันกลับแต่นางลืมบทเรียนอันเจ็บปวด ยอมอ่อนข้อครั้งแล้วครั้งเล่า ลดมาต

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-13
  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 605

    จากนั้น นางนึกอะไรขึ้นได้ จึงกล่าวเพิ่ม “ท่านอ๋องอารมณ์ร้าย หากเขาถาม เจ้าก็บอกว่าของพวกนี้ ข้าเอาไปทั้งหมด เขาก็จะไม่โทษเจ้า”ตงเหมยพูดอย่างเศร้าใจ “เจ้าไปแล้ว ข้าจะทำอย่างไร ซวงเอ๋อร์ เจ้าพาข้าไปด้วยเถิด”หลินซวงเอ๋อร์รู้สึกปวดใจ จริงๆ แล้วนางก็อาลัยตงเหมยมาก นับแต่เข้าจวนมา ตงเหมยปฏิบัติต่อนางเหมือนพี่น้องแท้ๆ บัดนี้นางจากไป ไม่รู้ว่าเมื่อใดจะได้พบกันอีกแต่หลินซวงเอ๋อร์รู้ว่า การจากไปครั้งนี้ นางจะไม่กลับมาอีก“ตงเหมยเจ้าช่างโง่นัก ข้าจะกลับชนบท ไม่ใช่ไปสุขสบาย เจ้าไปด้วยก็มีแต่ความลำบาก ไม่มีข้อดีอื่นใด สู้อยู่ในจวนนี้ อย่างน้อยก็มีข้าวกิน มีเสื้อผ้าอุ่นๆ ใส่”ตงเหมยกล่าว “แต่เจ้าปักผ้าเป็นไม่ใช่หรือ? พวกเราสามารถพึ่งพาตัวเองได้ เราอาจเช่าร้าน ทำมาหากิน ยังดีกว่าอยู่ที่นี่คอยเกรงใจผู้อื่น”หลินซวงเอ๋อร์เงียบไปครู่หนึ่งใช่แล้ว นางลืมความตั้งใจแรกไปได้อย่างไรนางเคยพูดว่า ความปรารถนาสูงสุดของนาง คือเก็บเงินให้พอไถ่ตัวออกจากจวน แล้วไปเช่าร้าน ทำการค้าเล็กๆ น้อยๆ เลี้ยงปากท้อง...แต่หลังจากรักเยี่ยเป่ยเฉิง ในใจในตานางมีแต่เขา ความสุขทุกข์ของเขาคือสิ่งที่นางใส่ใจที่สุดนางมั

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-14

บทล่าสุด

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 655

    วันที่เจียงหว่านกำลังจะถูกเนรเทศ ในที่สุดเจียงเช่อก็มาหาถึงหน้าประตูเขาคุกเข่าเบื้องหน้าเยี่ยเป่ยเฉิง เว้าวอนขอเยี่ยเป่ยเฉิงปล่อยเจียงหว่านไปขณะที่เดินทางมา เขารับรู้เรื่องราวทั้งหมดแล้วเจียงหว่านลอบวางยาพระชายาเยี่ย ใช้ประชาชนที่ติดโรคทดลองยา เข่นฆ่าคนบริสุทธิ์ ผลาญชีวิตคนดุจผักดุจปลา นับเป็นอาชญากรรมอันชั่วร้ายที่สุด......แต่ไม่ว่าอย่างไร เจียงหว่านก็เป็นน้องสาวเขา เป็นคุณหนูหนึ่งเดียวของตระกูลเจียง เจียงเช่อมิอาจนั่งนิ่งดูดาย ปล่อยให้นางไปตายได้“ขอร้องท่านอ๋องไว้ชีวิตนางเถิด เป็นเพราะข้าตามใจนางจนเสียคน หากท่านอ๋องจะลงโทษ โปรดลงที่เจียงเช่อเถิดพะยะค่ะ”เมื่อเห็นเจียงเช่อ สายตาสิ้นหวังของเจียงหว่านพลันมีประกายความหวังขึ้น“พี่......ท่านพี่ ช่วยข้าด้วย ข้าไม่อยากไปแดนเถื่อน ข้าอยากกลับบ้าน ท่านพี่ช่วยข้าด้วย......”เจียงเช่อขมวดคิ้วเขม็งจ้องเจียงหว่าน สายตาแฝงเร้นด้วยแววเกยีดชังเข้าไส้เขารู้ว่าเจียงหว่านต้องโทษตาย ยามนี้แค่เนรเทศ ถือว่าเมตตามากแล้ว แต่เขาเองก็รู้ว่า สถานที่อย่างแดนเถื่อนนั้น มิใช่สถานที่ที่สตรีตัวคนเดียวจะไปได้ การเนรเทศนางไปที่นั่น เท่ากับส่งนางไปขุมนร

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 654

    “เลือดของนาง...”เจียงหว่านสีหน้าตกตะลึงตอนนั้น ตอนที่ฮุ่ยอี๋มอบยาถอนพิษใส่ในมือนาง นางเคยเอาทิ้งไว้หลายขวด เดิมทีคิดศึกษาส่วนผสมในนั้น ทว่าด้านในกลับมีส่วนผสมยาเพียงหนึ่งเดียว นั่นคือเลือดมนุษย์...แรกเริ่ม นางคิดว่าเป็นเรื่องเหลวไหล! กระทั่งยามนี้นางถึงได้เชื่อความจริง ส่วนประกอบของยานั้น มีเพียงเลือดมนุษย์จริงๆ! ทั้งยังเป็นเลือดของหลินซวงเอ๋อร์! เรื่องมาถึงขนาดนี้แล้ว ในที่สุดนางก็เข้าใจ!มิน่า...ตอนนั้น นางใช้ยาปริมาณมาก แต่กลับไม่อาจทำให้หลินซวงเอ๋อร์ถึงตาย! ไม่คิดว่าเลือดของนางจะขจัดพิษในร่างนางโดยมองไม่เห็น...ฮุ่ยอี๋เอ่ย “เจ้ายังมีหน้าพูดว่าไม่ได้ฆ่าคนเป็นผักเป็นปลาอีก! เจียงหว่าน เจ้าลืมแล้วหรือว่าเจ้าวางยาซวงเอ๋อร์อย่างไร? เสด็จอาให้อภัยเจ้าครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ข้าไม่มีวันเกรงใจเจ้า!”คำพูดนี้สองแง่สองง่าม เห็นชัดว่ากำเย้ยหยันเยี่ยเป่ยเฉิงที่ดึงหมาป่าเจ้าเล่ห์เข้าบ้าน!เยี่ยเป่ยเฉิงตัวแข็งทื่ออยู่ที่เดิม ไร้ซึ่งแรงโต้กลับยามนี้ เขามิอาจชำระคืนได้ ซวงเอ๋อร์ของเขาไม่มีวันกลับมาอีกต่อไป!สิ่งเดียวที่ทำได้ตอนนี้ คือทำให้เจียงหว่านชดใช้อย่างสาสมที่สุด ส่วนตัวเขา ชีวิตที่

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 653

    เยี่ยเป่ยเฉิงมีสีหน้าเคร่งขรึม สายตาที่มองเจียงหว่านเยือกเย็นดุจน้ำแข็ง ไม่มีความอ่อนโยนเลยสักนิดเขาอยากฆ่านางตั้งนานแล้ว ที่ปล่อยนางรอดมาจนถึงตอนนี้ ก็แค่อยากให้นางได้รับความทรมานจนตายบัดนี้เห็นนางตกยากเช่นนี้ เยี่ยเป่ยเฉิงกลับรู้สึกว่าบทลงโทษแค่นี้ยังมิพอเจียงหว่านถูกทรมานจนเหมือนตายดีกว่าอยู่มานานแล้ว นางรู้ เยี่ยเป่ยเฉิงไม่มีทางปล่อยนางไปง่ายๆ หลังจากคิดดูแล้ว หากตายด้วยน้ำมือของเยี่ยเป่ยเฉิงได้ ก็คงจะดีกว่าตอนนี้ ที่ดูดซับยาเข้าสู่ร่างกายทุกวัน ถูกฝันร้ายหลอกหลอนทุกคืนสุดท้ายก็ไม่สามารถหนีจากพิษและเสียชีวิตลงได้!อย่างไรก็ตาย มิสู้ให้เยี่ยเป่ยเฉิงจบชีวิตนางด้วยมือเขาเอง!เมื่อคิดได้เช่นนี้ นางก็ยิ้มเยาะ จงใจกล่าวยั่วยุเขา “เยี่ยเป่ยเฉิง เจ้ามีฝีมือแค่นี้หรือ? แน่จริงก็ฆ่าข้าไปเลยสิ!”“ฆ่าข้าให้มันจบๆ ไปเสีย!”เยี่ยเป่ยเฉิงปรายตามองนาง พลางกล่าวอย่างเย็นชา “ตอนนั้น เจ้าก็ทรมานซวงเอ๋อร์เช่นนี้!”เจียงหว่านกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ใช่แล้วอย่างไร!”“ลูกในท้องนางข้าก็เป็นคนทำร้ายเอง! ร่างกายอ่อนแอแบบนั้นของนางต่อไปจะตั้งครรภ์ไม่ได้อีกแล้ว!”“ที่นางฝันร้ายทุกคืน ก็เป็นข้าที่ทำเอง

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 652

    หลายสิบปีมานี้ นางทำเรื่องชั่วมานับไม่ถ้วน ทุกเรื่อง นางจิตใจสงบ ไม่เคยรู้สึกผิดเลยมีเพียงเจียงหลิง…มีเพียงการตายของเจียงหลิง ทำให้นางยากจะข่มตานอนได้…ตลอดเวลาที่ผ่านมา ในฐานะคุณหนูรอง เจียงหว่านไม่เป็นที่ชื่นชอบของพ่อแม่มาตลอด พี่ชายก็ยิ่งไม่สนใจนาง ทว่าเจียงหลิงกลับได้รับความรักมากมาย…นางอิจฉาเจียงหลิง และแทบอยากทำให้อีกฝ่ายหายไปจากโลกใบนี้แต่เจียงหลิงกลับรักเอ็นดูนางมาตั้งแต่ต้นจนจบ ปกป้องนาง มอบของที่ดีที่สุดในโลกใบนี้ให้แก่นาง…เจียงหลิงเป็นพี่สาวที่ดีต่อนางที่สุดบนโลกใบนี้…ทว่าที่นางต้องการหาใช่แค่พี่สาวอย่างเดียว นางต้องการความรักของทุกคน นางต้องการให้พ่อแม่ พี่ชายรกนางแค่คนเดียว นางอยากครอบครองของที่ดีที่สุดไว้กับตัวเอง ไม่ใช่รอให้คนอื่นมอบให้!ดังนั้น ในคืนวันหิมะตก นางผลักเจียงหลิงตกน้ำ มองนางจมตายทั้งเป็นอยู่ใต้น้ำ หลังจากนั้นนางก็ติดวันเกิดเวลาเกิดของเจียงหลิงบนตุ๊กตาคุณไสย แทงเธอทุกวัน สวดภาวนาทุกคืน นางต้องการให้เจียงหลิงไม่มีโอกาสได้ผุดได้เกิด ไม่หวนกลับมาตลอดกาล!เพราะมีเพียงแค่ทำแบบนี้ นางถึงจะไม่มีโอกาสแก้แค้นตัวเอง!แต่ทำไม…ทำไมตอนนี้นางถึงยังหาตัวเอง

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 651

    ยาซึมเข้าสู่ร่างกายติดกันหลายวันทำให้เจียงหว่านค่อยๆ เป็นบ้าในห้องที่ปิดสนิท เจียงหว่านหดตัวอยู่บนพื้นเหมือนดินโคลนตัวนางเหม็นมาก ชุดกระโปรงสีรากบัวเปลี่ยนเป็นสกปรกและเก่าองครักษ์ทำให้เส้นเอ็นมือของนางขาด ตรงบาดแผลถูกทาขี้ผึ้งปิดแผลชั้นแล้วชั้นเล่าแม้ขี้ผึ้งปิดแผลจะเป็นยาสำหรับปกปิด ทว่ากลับมีผลดีต่อการหยุดเลือดบาดแผลแข็งตัวจนกลายเป็นสะเก็ดไปแล้ว เพียงแต่ไม่ได้รับการรักษาที่ดีกว่านี้ แม้จะดีขึ้นก็ยังเหลือรอยแผลเป็นอัปลักษณ์เอาไว้ธูปในห้องไม่เคยลดลงเลยทั้งวัน ประกอบกับกระกระตุ้นของต้นคลีเวีย ความคิดต่ำช้าที่อยู่ในตัวนางแทบจะถูกกระตุ้นออกมาทั้งหมดสองตานางแดงก่ำ ดูฉุนเฉียวไม่น้อย กรีดร้องโวยวายอยู่ในห้อง ประหนึ่งคนบ้าคนหนึ่งองครักษ์ที่เฝ้าอยู่หน้าห้องไม่สนใจนางสักนิด ได้แต่ทรมานนางไม่ให้นางตายทุกวันความเคียดแค้นฉายออกมาจากในตาเจียงหว่าน เวลานี้ นางได้ปล่อยว่างความหลงใหลต่อเยี่ยเป่ยเฉิงแล้ว ไม่ว่าจะรักมากขนาดไหนก็แปรเปลี่ยนเป็นความชิงชังเข้ากระดูก“เยี่ยเป่ยเฉิง! ปล่อยข้ากลับไป! ปล่อยข้ากลับไปสิ!”“แน่จริงก็ฆ่าข้าเลยสิ!ฆ่าข้าให้มันจบๆ ! ท่านมีสิทธิ์อะไรมาขังข้าไว้เช่นนี

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 650

    “ได้ยินว่าพ่อแม่ที่เลี้ยงดูเจ้าเสียไปนานแล้ว แล้วเจ้ากับพี่ชายอยู่มาได้อย่างไร?”“แล้วเหตุใดเจ้าจึงขายตัวไปเป็นบ่าวไพร่? หลายปีมานี้ เจ้าคงผ่านความลำบากมิใช่น้อย เคยถูกใครรังแกหรือไม่?”หลินซวงเอ๋อร์พลันเกิดความขมขื่นในจิตใจเดิมที หากไม่เอ่ยถึงเรื่องเหล่านี้ นางยังพออดทนได้บ้าง แต่เมื่ออวี๋หว่านหนิงถามขึ้นมา นางก็อดรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจเสียมิได้นางเม้มปากพลางจ้องมองนิ้วมือตนเอง น้ำตาเริ่มเอ่อล้น พร้อมหยดแหมะลงหลังมือทีละหยดนางอยู่สบายหรือไม่?นางเคยถามตนเองอยู่เช่นกันหลายปีมานี้ นางผ่านเรื่องราวมากมาย สูญเสียบิดามารดา สูญเสียพี่ชายไป กลายเป็นเด็กกำพร้าที่ไร้ญาติขาดมิตรโดยแท้แต่หากคิดดีๆ ชีวิตนางก็เคยอยู่สุขสบายมาช่วงหนึ่งนั่นคือตอนอยู่กับเยี่ยเป่ยเฉิง นางมีความสุขจริงๆในตอนนั้น เยี่ยเป่ยเฉิงเป็นกำลังใจให้นาง ซื้อเสื้อผ้าชุดใหม่ให้ หาของดีมาให้กิน สอนนางเรียนหนังสือ พาไปเดินเล่นท่องทะเลสาบ ให้ความรักต่อนางอย่างชนิดไร้ผู้เทียบเทียม...ในเวลานั้น นางมีความสุขเหลือล้น เป็นความสุขมากที่สุดในชีวิต แม้แต่ฝันก็ยังเป็นฝันหวาน...แต่ต่อมา ทุกอย่างกลับแปรเปลี่ยน ก่อนหน้านี้เคยสุ

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 649

    เมื่อได้ยินประโยคนี้ หลินซวงเอ๋อร์แทบชะงักงันไปที่บั้นเอวนางมีปานแดงรูปเสี้ยวจันทร์จริงๆ ท่านแม่บอกว่า มันมีติดตัวมาตั้งแต่นางเกิด เนื่องจากเป็นตำแหน่งที่บั้นเอว จึงมีน้อยคนที่จะรู้เรื่องนี้“ท่าน...คือแม่ของข้าจริงหรือ?” หลินซวงเอ๋อร์หัวใจเต้นแรง ขอบตาแดงเรื่อขึ้นอวี๋หว่านหนิงยื่นมือมาจับมือของนางไว้ พลางกล่าวเสียวเศร้า “ซวงเอ๋อร์ ข้าคือแม่เจ้าจริงๆ หลายปีนี้ทำให้เจ้าลำบากนัก...”แม่นมซุนอยู่ด้านข้างพลางกล่าวเสริม “องค์หญิง นางคือเสด็จแม่ของท่านจริงๆ หลายปีมานี้ ฮองเฮาไม่เคยเลิกราในการตามหาท่าน เพียงแต่ภาคกลางกว้างขวางนัก พวกท่านเองก็ข่าวคราวเงียบหาย หลายปีนี้ พวกท่านลำบากก็จริง ฮองเฮาก็ไม่ได้สุขสบายใจ...”หลินซวงเอ๋อร์นิ่งเงียบไปครู่ใหญ่ พลันหันไปมองอวี๋หว่านหนิงแล้วกล่าว “ที่จริง ข้าไม่เคยตำหนิท่านเลย เพียงแต่บางครั้งก็เคยคิด ว่าท่านแม่จะมีหน้าตาเป็นอย่างไร ยังมีชีวิตอยู่ในโลกนี้หรือไม่”“ตอนยังเป็นเด็ก ข้าเคยคาดหวังให้นางมาหาบ้าง แต่พอโตขึ้นก็ไม่เห็นนางมาเสียที ข้าจึงภาวนาให้นางอยู่ดีมีสุขแทน แม้จะไม่ได้พบหน้า แต่ขอให้นางยังมีชีวิตอยู่ เป็นความคิดถึงในใจก็เพียงพอแล้ว...”

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 648

    อวี๋หว่านหนิงรับเอาผ้าเช็ดหน้ามาซับน้ำตา พลันเกิดความตื้นตันจนไม่รู้ตอบอย่างไรดีทันใดนั้น แม่นมซุนเดินขึ้นมาพร้อมกล่าว “องค์หญิง ที่นี่คือวังหลวงแห่งเป่ยหรง ฮองเฮาทรงตามหาท่านมานาน ทุ่มแทแรงกายแรงใจไม่น้อยกว่าจะหาพบ...”“องค์หญิง?” หลินซวงเอ๋อร์นึกว่าตนหูฝาดไป “ท่านเรียกข้าอยู่หรือ?”นางกล่าวตอบ “พวกท่านจำคนผิดหรือเปล่า ข้าไม่ใช่องค์หญิง ข้าคือหลินซวงเอ๋อร์ต่างหาก”นางเป็นเพียงเด็กกำพร้าที่ถูกทอดทิ้ง เติบโตมาจากชนบทแร้นแค้น เป็นเพียงสาวใช้ต่ำต้อยผู้หนึ่งเท่านั้นองค์หญิงอะไรกัน ยังมีวังเป่ยหรงอีก แล้วใครคือฮองเฮา?พวกนางคงจำคนผิดเป็นแน่แม่นมซุนกล่าวตอบ “ไม่ผิดเจ้าค่ะ ไม่มีผิดแน่นอน ท่านก็คือองค์หญิงของเรา องค์หญิงที่พลัดพรากจากฮองเฮาไป...”หลินซวงเอ๋อร์คล้ายกับยังมึนงงอยู่ ความคิดนางเกิดความสับสน ปวดหัวเป็นอย่างมากแม่นมซุนอธิบายต่อ “สมัยที่อดีตฮ่องเต้สวรรคต ฮ่องเต้องค์ใหม่ยังไม่ได้ขึ้นครองราชย์ ราชสำนักเป่ยหรงเกิดความวุ่นวาย ตอนนั้นฮองเฮายังมีฐานะเป็นเพียงพระชายาแห่งรัชทายาท นางเสี่ยงอันตรายให้กำเนิดแฝดชายหญิงคู่หนึ่ง เพื่อปกป้องชีวิตของพวกท่านไว้ จึงให้คนสนิทส่งพวกท่านออก

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 647

    หลินซวงเอ๋อร์เปลือกตากระตุกเล็กน้อย นางก็อยากตื่น แต่ทำอย่างไรก็ไม่อาจตื่นขึ้นมาหน้าอกคล้ายถูกกรีดจนเป็นแผลเหวอะหวะ เหงื่อเย็นในตัวไหลพราก ลำคอคล้ายถูกงูพิษตัวหนึ่งรัดไว้ ยิ่งรัดก็ยิ่งแน่น จนนางใกล้จะหายใจไม่ออกข้างโสตนั้น ได้ยินเสียงคุ้นหูประเดี๋ยวไกลประเดี๋ยวใกล้ ถัดจากนั้น คล้ายมีมืออ่อนโยนลูบไล้ใบหน้านางเบาๆ“เด็กดี หมดเรื่องแล้ว เจ้าปลอดภัยดีแล้ว รีบตื่นมาเถิด ตื่นมาเร็วเข้า...”หลังจากได้ยินเสียงนั้นชัดเจนมากขึ้น ลำคอที่ถูกรัดแน่นก็ค่อยๆ คลายออก นางลืมตาช้าๆ ภาพเบื้องหน้าจากพร่ามัวจนกลายเป็นชัดเจน สิ่งแรกที่เข้าสู่ม่านตาก็คือม่านคลุมเตียงสีม่วงที่อยู่เหนือศีรษะขึ้นไป คล้ายเป็นภาพฝัน เสมือนเป็นแหยักษ์ที่ถูกเหวี่ยงลงมา เพื่อคลุมตัวนางให้อยู่ตรงกลางเตียงนี้เป็นเตียงที่สวยงาม จนแม้แต่เสาเตียงก็เป็นลวดลายที่นางไม่เคยเห็นมาก่อน หัวเตียงนอกจากจะแกะสลักลายดอกไม้แล้วยังฝังด้วยหยกเจียระไนงดงามและพลอยล้ำค่าอีกชั่วขณะนั้น นางรู้สึกมึนงงยิ่งนี่มันเป็นที่ไหนกัน?“ซวงเอ๋อร์ เจ้ารู้สึกตัวแล้วรึ?” จนกระทั่งข้างหูได้ยินเสียงนั้นอีกครั้ง นางจำได้ว่าตอนอยู่ในความฝัน ได้ยินเสียงนี้จนคุ

DMCA.com Protection Status