Share

บทที่ 605

Author: พิณเคล้าสายฝน
last update Last Updated: 2024-11-14 18:00:00
จากนั้น นางนึกอะไรขึ้นได้ จึงกล่าวเพิ่ม “ท่านอ๋องอารมณ์ร้าย หากเขาถาม เจ้าก็บอกว่าของพวกนี้ ข้าเอาไปทั้งหมด เขาก็จะไม่โทษเจ้า”

ตงเหมยพูดอย่างเศร้าใจ “เจ้าไปแล้ว ข้าจะทำอย่างไร ซวงเอ๋อร์ เจ้าพาข้าไปด้วยเถิด”

หลินซวงเอ๋อร์รู้สึกปวดใจ จริงๆ แล้วนางก็อาลัยตงเหมยมาก นับแต่เข้าจวนมา ตงเหมยปฏิบัติต่อนางเหมือนพี่น้องแท้ๆ บัดนี้นางจากไป ไม่รู้ว่าเมื่อใดจะได้พบกันอีก

แต่หลินซวงเอ๋อร์รู้ว่า การจากไปครั้งนี้ นางจะไม่กลับมาอีก

“ตงเหมยเจ้าช่างโง่นัก ข้าจะกลับชนบท ไม่ใช่ไปสุขสบาย เจ้าไปด้วยก็มีแต่ความลำบาก ไม่มีข้อดีอื่นใด สู้อยู่ในจวนนี้ อย่างน้อยก็มีข้าวกิน มีเสื้อผ้าอุ่นๆ ใส่”

ตงเหมยกล่าว “แต่เจ้าปักผ้าเป็นไม่ใช่หรือ? พวกเราสามารถพึ่งพาตัวเองได้ เราอาจเช่าร้าน ทำมาหากิน ยังดีกว่าอยู่ที่นี่คอยเกรงใจผู้อื่น”

หลินซวงเอ๋อร์เงียบไปครู่หนึ่ง

ใช่แล้ว นางลืมความตั้งใจแรกไปได้อย่างไร

นางเคยพูดว่า ความปรารถนาสูงสุดของนาง คือเก็บเงินให้พอไถ่ตัวออกจากจวน แล้วไปเช่าร้าน ทำการค้าเล็กๆ น้อยๆ เลี้ยงปากท้อง...

แต่หลังจากรักเยี่ยเป่ยเฉิง ในใจในตานางมีแต่เขา ความสุขทุกข์ของเขาคือสิ่งที่นางใส่ใจที่สุด

นางมั
Locked Chapter
Continue to read this book on the APP

Related chapters

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 606

    เก็บข้าวของเรียบร้อยแล้ว หลินซวงเอ๋อร์ก็ไปที่ลาน ไปดูเหมาเหมา หรงหรง ต้าหู่ และจี๋เฟิงเป็นครั้งสุดท้ายต้าหู่เห็นนางก็ดีใจ นอนลงกับพื้นเผยท้องน้อยออกมาประจบหลินซวงเอ๋อร์นั่งยองๆ ลูบท้องนุ่มๆ ของมันหลังจากหายป่วย ต้าหู่ก็กินจุขึ้น ท้องที่เคยผอมลงก็กลับมาอวบอ้วนอีกครั้งหลินซวงเอ๋อร์ลูบหัวมัน กำชับ “ต้าหู่ เจ้าต้องว่านอนสอนง่ายนะ หลังจากข้าไปแล้ว เจ้าก็ต้องกินข้าวดีๆ”ต้าหู่ไม่เข้าใจคำพูดของนาง เพียงแต่เอาหัวมาถูไถที่เท้านางไม่หยุดหลินซวงเอ๋อร์ไปดูเหมาเหมาและหรงหรงกระต่ายทั้งสองตัวอ้วนท้วนขึ้น อีกตัวหนึ่งท้องใหญ่ผิดปกติ ดูท่าจะตั้งท้อง อีกไม่นานคงจะออกลูกมาทั้งครอกน่าเสียดายที่หลินซวงเอ๋อร์ไม่มีโอกาสได้เห็นแล้วนางใส่หญ้าแห้งและแครอทไว้ในรังกระต่ายมากมาย แล้วไปดูจี๋เฟิงเป็นครั้งสุดท้ายนี่เป็นม้าที่เยี่ยเป่ยเฉิงให้นาง ตัวเตี้ย ท่าทางซื่อๆ นิสัยอ่อนโยน และเข้าใจความรู้สึกคนที่สุดหลินซวงเอ๋อร์ชอบมันมากแต่คราวนี้ นางพามันไปด้วยไม่ได้ทุกสิ่งที่เยี่ยเป่ยเฉิงให้ นางไม่อยากเอาไป มันไม่ได้เป็นของนางตั้งแต่แรกพอเห็นหลินซวงเอ๋อร์ จี๋เฟิงก็ดีใจวิ่งวนเป็นวงกลม พอหลินซวงเอ๋อร์เ

    Last Updated : 2024-11-14
  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 607

    นางมิอาจช่วยเหลืออันใดเขาได้เลย แต่อย่างน้อย ในภายหน้านางจะมิได้เป็นภาระแก่เขาอีกต่อไปกงชิงเยวี่ยกลับมิคิดที่จะปล่อยนางไปโดยง่าย หลินซวงเอ๋อร์ยิ่งเงียบขรึม กงชิงเยวี่ยก็ยิ่งรู้สึกว่าตนมีเหตุผลเหนือกว่า"เจ้าช่างอ่อนแอจนเกินงาม! มิพอยังทำร้ายเยี่ยเอ๋อร์อีกด้วย!""หลินซวงเอ๋อร์! ข้าว่าที่เจ้าเป็นเช่นนี้มิใช่เพราะป่วยไข้เสียกระไร แต่เป็นเพราะเจ้าคลุ้มคลั่งจนสิ้นสติไปแล้วต่างหาก!"หลินซวงเอ๋อร์กล่าวเบา ๆ ว่า "ข้าขอโทษ ข้ามิได้ตั้งใจ"นางมิเคยคิดจะทำร้ายเขาเลย เพียงแต่ในยามนั้นนางเองก็ไม่อาจบอกได้ว่าตนเป็นอันใดไป เสมือนว่าความคิดขุ่นมัวและมืดมิดในจิตใจครอบงำเพียงกระหายปลิดชีพผู้คน เมื่อกลับมาสู่ความสงบก็นึกสลดใจนักอย่างน้อย เขามิได้รับบาดเจ็บถึงจุดสำคัญหาไม่เช่นนั้นแม้จะจากไปแล้ว จิตใจนางก็คงมิอาจสงบสุขได้"คำขอโทษเพียงคำเดียวแล้วก็จบงั้นหรือ?" กงชิงเยวี่ยกล่าวด้วยความขึ้งโกรธ "เยี่ยเอ๋อร์ต้องบาดเจ็บเพราะเจ้าถึงสองคราแล้ว! คราครั้งแรกเจ้าทำเขาเกือบตาย หากมิใช่เพราะเจียงหว่านเข้าไปช่วยนางไว้ ข้าคงให้เจ้าไปตายตามไปแล้ว!"หลินซวงเอ๋อร์ยังคงกล่าวเพียงคำเดิม "ข้าขอโทษ"กงชิงเยวี่ยกล่า

    Last Updated : 2024-11-14
  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 608

    ความมุ่งมั่นของหลินซวงเอ๋อร์ ทำให้กงชิงเยวี่ยโกรธมากขึ้นเรื่อย ๆบัดนี้นางมิใคร่ได้แม้แต่เงินทอง เพียงขอให้กงชิงเยวี่ยจงลบชื่อของนางออกจากตระกูล เพื่อให้สะดวกในการตัดสัมพันธ์กับเยี่ยเป่ยเฉิง!เหตุนี้แสดงชัดว่านางไม่ปรารถนาเยี่ยเป่ยเฉิงแม้แต่น้อย!กงชิงเยวี่ยทำหน้าเคร่งเครียด กล่าวด้วยเสียงที่ไม่พอใจว่า "เหตุใด? เจ้าคิดว่าลูกของข้าจะตามราวีเจ้าหรือ?"หลินซวงเอ๋อร์ส่ายหัวพร้อมกล่าวว่า "ไม่กล้าเจ้าค่ะ ท่านอ๋องคือผู้สูงส่งอยู่เหนือเมฆา ข้าเป็นเพียงคนต่ำต้อย ท่านอ๋องจะมาราวีข้าได้อย่างไร"กงชิงเยวี่ยกล่าว "เจ้ารู้เพียงเท่านี้ก็ดีแล้ว! เจ้าจงวางใจเถิด วันนี้ข้าจะลบชื่อของเจ้าออกไป และภายหลังนี้ เจ้าจะมิได้มีความเกี่ยวพันกับลูกข้าอีกต่อไป!""ขอเพียงแต่เจ้าจงอย่ามายุ่งกับลูกของข้าเท่านั้นก็พอ!"หลินซวงเอ๋อร์เอ่ย "ท่านหญิงวางใจเถิด ในครานี้ข้าจะไม่พัวพันกับท่านอ๋องอีกแล้ว"กงชิงเยวี่ยทอดสายตามองนางด้วยความรู้สึกไม่ชอบใจยิ่งขึ้น จึงโบกมือไล่นางออกไปตงเหมยทราบว่ากงชิงเยวี่ยได้เรียกหลินซวงเอ๋อร์ไปกล่าวอะไร เมื่อคิดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงนี้ ตงเหมยจึงแอบรู้สึกสงสารแท้จริงแล้ว สตรี

    Last Updated : 2024-11-15
  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 609

    "กล่าวกันว่าเพื่อให้ซวงเอ๋อร์ได้รักษาอาการเจ็บไข้! แต่ใครจะรู้เล่า? อาจเป็นเพราะต้องการให้เจียงหว่านมีโอกาส อยากจะส่งซวงเอ๋อร์ไป! สรุปแล้ว ซวงเอ๋อร์ถูกท่านอ๋องทำร้ายจิตใจอย่างสาหัส ตอนนี้จึงดึงดันต้องการจากไปเพียงลำพัง!"ไป๋อวี้ถังรู้สึกหวิวในใจ "ทำร้ายจิตใจ? จากไปเพียงลำพัง?"ตงเหมยรีบปิดปากตัวเอง เมื่อครู่นางพูดคำที่ไม่ควรพูดอีกแล้วหลินซวงเอ๋อร์ที่ต้องการออกไปเพียงลำพัง เพราะไม่อยากให้เยี่ยเป่ยเฉิงรู้ว่าตนไปที่ไหน!แต่ไป๋อวี้ถังและเยี่ยเป่ยเฉิงมักจะสนิทกันมาโดยตลอด ใครจะรู้ว่าเขาจะบอกท่านอ๋องเรื่องนี้หรือไม่!เมื่อครุ่นคิดถึงตรงนี้ ตงเหมยอยากตีตัวเองหนักๆ จนทนไม่ไหว จึงรีบชี้แจงว่า "บ่าวพูดผิดไปเจ้าค่ะ"ไป๋อวี้ถังมองตงเหมยอย่างจริงจัง ดูเหมือนต้องการมองทะลุเข้าไปในใจของนางเมื่อถูกไป๋อวี้ถังจ้องมอง ตงเหมยรู้สึกเหมือนความคิดทุกอย่างถูกเปิดเผย ไม่อาจปิดบังได้ จึงรู้สึกหนาวสั่นและหัวเราะแห้งๆ ว่า "ใต้เท้าไป๋ เหตุใดมองบ่าวเช่นนี้? บ่าวกลัวเจ้าค่ะ..."ไป๋อวี้ถังยิ้มมุมปากและเอ่ยอย่างแผ่วเบา "ชนขนมดอกกุ้ยฮัวของเจ้าพัง ข้าจะไปซื้อชุดใหม่ให้เจ้า"ตงเหมยรีบตอบว่า "ไม่ต้องรบกวนใต้เท้

    Last Updated : 2024-11-15
  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 610

    กลางดึกเยี่ยเป่ยเฉิงเปิดประตูห้องเข้าไป พบหลินซวงเอ๋อร์ที่หลับใหลอย่างสนิทวันนี้ เขาได้กราบทูลพระราชาว่าขอหยุดพักยาว โดยมุ่งมั่นว่าจะจัดการสิ่งสำคัญให้เรียบร้อยก่อนจะได้พักผ่อนร่วมกับนางในชนบทเพื่อรักษาอาการเจ็บป่วย จึงทำให้เขาอยู่ในค่ายทหารนานกว่าปกติเยี่ยเป่ยเฉิงมองดูเงาร่างที่หลับอยู่บนเตียงด้วยสายตาอ่อนโยน เขาเลิกผ้าห่มขึ้นเบา ๆ จากนั้นนอนข้าง ๆ หลินซวงเอ๋อร์ โดยกอดนางจากด้านหลังหลินซวงเอ๋อร์เป็นคนที่นอนหลับไม่สนิท หากมีเสียงเล็กน้อยก็ทำให้นางตกใจตื่นขึ้นได้นางขยับเปลือกตาเบา ๆ พลิกตัวและค่อย ๆ เปิดตามองไป ก็เห็นเยี่ยเป่ยเฉิงจ้องมองนางอย่างเต็มไปด้วยความรักทันทีที่เห็นเยี่ยเป่ยเฉิง หลินซวงเอ๋อร์มีความรู้สึกอยากจะหันไปอีกทาง เยี่ยเป่ยเฉิงยึดรั้งเอวนางไว้ไม่ให้นางขยับตัวหลินซวงเอ๋อร์ทำอะไรไมได้ จึงจำต้องเงยหน้าขึ้นมองเขาเยี่ยเป่ยเฉิงยิ้มอ่อนหวานและกล่าวว่า "ซวงเอ๋อร์ไม่อยากเห็นข้าหรือ?"หลินซวงเอ๋อร์ตอบ "ท่านอ๋องคิดมากไป ข้าแค่รู้สึกเหนื่อยมากก็เท่านั้น"เยี่ยเป่ยเฉิงกอดนางแน่นขึ้นเหมือนอย่างเคย ใช้มือเบา ๆ ตบหลังหลินซวงเอ๋อร์ ปลอบด้วยเสียงอ่อนโยนว่า "ทั้งหมดนี้เป็น

    Last Updated : 2024-11-15
  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 611

    มาหวนคิดอีกที ที่แท้คือการหลอกลวงทั้งสิ้นโลกนี้ไม่มีคำมั่นสัญญาที่คงอยู่นิรันดร์ ไม่มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เป็นเพียงวาทะกรรมของผู้คนเท่านั้นเยี่ยเป่ยเฉิงกล่าว “ใครว่าเชื่อไม่ได้ คำพูดที่ข้าเคยกล่าวต่อซวงเอ๋อร์ ล้วนเป็นจริงทุกคำ สัญญาที่ให้ไว้ ก็ล้วนเป็นความสัตย์จริง” จู่ๆ หลินซวงเอ๋อร์หัวเราะออกมา แต่สักครู่ก็ตามด้วยน้ำตาไหลริน“ข้ายังจดจำ คำสัญญาที่ท่านอ๋องเคยกล่าวไว้ทุกคำ ข้าบอกว่า หากวันใดท่านอ๋องตระบัดสัตย์ ซวงเอ๋อร์จะขอตายแทนท่าน ยินดีตกนรกหมกไหม้แทน แต่จนวันนี้ข้าก็ยังมีชีวิตอยู่”เยี่ยเป่ยเฉิงมักคิดว่าคำพูดนางประโยคนี้มีความนัยแอบแฝง จึงจับใบหน้านางแล้วกล่าวด้วยความเป็นห่วง “ซวงเอ๋อร์พูดอันใด ข้าเคยตระบัดสัตย์เมื่อไหร่กัน ข้าบอกว่าจะรักและปกป้องซวงเอ๋อร์ชั่วชีวิต ข้าพูดคำไหนคำนั้นเสมอ”หลินซวงเอ๋อร์กล่าวทั้งน้ำตา “ใช่เจ้าค่ะ ท่านอ๋องเคยรับปากเช่นนั้น”แต่เขาก็ทำให้นางผิดหวังซ้ำแล้วซ้ำเล่า“ซวงเอ๋อร์...” เยี่ยเป่ยเฉิงสูดลมหายใจเข้าลึก พลางกล่าว “เจ้าไม่ได้เรียกข้าว่าท่านพี่นานแล้ว...”หลินซวงเอ๋อร์หันข้างให้เขา เนิ่นนานก่อนจะกล่าวเสียงเบา “สำหรับท่านอ๋องแล้ว นี่เป็นสิ่งส

    Last Updated : 2024-11-16
  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 612

    หลังจากเยี่ยเป่ยเฉิงออกไปแล้ว หลินซวงเอ๋อร์จึงเปลี่ยนเครื่องแต่งกายเป็นชุดธรรมดา พร้อมหยิบห่อผ้าที่ซ่อนอยู่ใต้เตียงออกมา เตรียมตัวจะจากไปตงเหมยมารอแต่เช้าตรู่แล้ว ครั้นเห็นเยี่ยเป่ยเฉิงออกไป นางจึงเข้ามาในห้องทันทีในยามนี้ หลินซวงเอ๋อร์ได้จัดเก็บสัมภาระเสร็จสิ้น เตรียมตัวออกเดินทางตงเหมยรีบมากอดนางไว้ กล่าวด้วยความอาวรณ์ “ซวงเอ๋อร์ คิดดีแล้วหรือว่าจะไปที่ใด? รอข้าไถ่ตัวได้ จะรีบไปอยู่ด้วยทันที”หลินซวงเอ๋อร์กล่าวตอบ “ตอนนี้ยังไม่ได้คิด แต่แผ่นดินกว้างใหญ่ คงมีที่ให้ข้าได้อยู่บ้าง”ตงเหมยนำขนมกุ้ยฮวาที่ซื้อมาเมื่อวานใส่ในกล่องอาหารใบหนึ่ง พร้อมยื่นให้หลินซวงเอ๋อร์และกล่าว “ไปจากที่นี่แล้ว ต่อไปคงไม่ได้กินของเหล่านี้อีก ข้าตั้งใจซื้อมาให้เจ้า เอาไว้กินระหว่างทางเถิดนะ”หลินซวงเอ๋อร์รับไว้แล้วกล่าวต่อตงเหมย “ขอบใจเจ้ามาก ตงเหมย อุตส่าห์เตรียมของเหล่านี้เพื่อข้าอีก”ตงเหมยขอบตาแดงเรื่อขึ้น นางสูดจมูกเล็กน้อยพลางกล่าว “อย่าเกรงใจเลย เพียงแค่ของกินเล็กน้อยเท่านั้น ไยจึงต้องซาบซึ้งถึงเพียงนี้”หลินซวงเอ๋อร์ตบไหล่ตงเหมย พลางกล่าว “อย่าเสียใจมากนัก เราไม่ได้ตายจากกันเสียหน่อย ถือว่าข

    Last Updated : 2024-11-16
  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 613

    หลินซวงเอ๋อร์ยิ้มๆ พลางกล่าว “เป็นความจริงรึ? เจ้าไม่คิดว่าข้าเพ้อเจ้อหรอกหรือ?”ตงเหมยส่ายหน้า พลางกล่าว “ไม่เลย ตั้งแต่รู้จักเจ้ามา ข้ารู้ว่าเจ้าไม่เคยพูดโกหก แม้ว่าอาจเป็นเรื่องที่เหลือเชื่อ แต่ข้าก็เชื่อว่าเจ้าพูดจริง”หลินซวงเอ๋อร์รู้สึกตื้นตันใจยิ่งที่แท้ คนที่ไม่เชื่อนาง สุดท้ายกลับมีแต่เยี่ยเฉิงเป่ยเพียงผู้เดียวหลินซวงเอ๋อร์เก็บงำความขมขื่นในใจไว้ พลางกำชับต่อตงเหมย “เมื่อคืนได้ยินท่านอ๋องบอกว่า ในค่ายทหารยังมีผู้ป่วยหลายคนที่ไม่ได้รับการรักษา แต่เพราะเขาไม่เชื่อข้า เจ้าจงเอาเลือดของข้าไปหาองค์หญิง ให้นางออกหน้า ถือว่าเลือดนี้เป็นยาถอนพิษไปมอบให้แก่ท่านอ๋อง”ตงเหมยมองดูข้อมือที่เต็มไปด้วยบาดแผลของนาง พลางกล่าวด้วยความปวดใจ “หมายความว่า ก่อนหน้านี้ผู้ป่วยโรคระบาดหลายคน ล้วนดื่มเลือดของเจ้าจึงได้หายดีกระนั้นรึ?”หลินซวงเอ๋อร์ยิ้มเจื่อน “ใช่ น่าอัศจรรย์ใช่หรือไม่? ที่เลือดของข้าสามารถรักษาโรคระบาดได้ แต่กลับช่วยตัวเองไม่ได้”ตงเหมยกล่าว “ถ้าเช่นนั้นเจ้ากรีดมาแล้วกี่หน? เสียเลือดไปมากเท่าใด? เจ็บมากหรือไม่?”เมื่อได้ยินดังนี้ หลินซวงเอ๋อร์เกือบร้องไห้ออกมามีหรือจะไม่เจ

    Last Updated : 2024-11-16

Latest chapter

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 655

    วันที่เจียงหว่านกำลังจะถูกเนรเทศ ในที่สุดเจียงเช่อก็มาหาถึงหน้าประตูเขาคุกเข่าเบื้องหน้าเยี่ยเป่ยเฉิง เว้าวอนขอเยี่ยเป่ยเฉิงปล่อยเจียงหว่านไปขณะที่เดินทางมา เขารับรู้เรื่องราวทั้งหมดแล้วเจียงหว่านลอบวางยาพระชายาเยี่ย ใช้ประชาชนที่ติดโรคทดลองยา เข่นฆ่าคนบริสุทธิ์ ผลาญชีวิตคนดุจผักดุจปลา นับเป็นอาชญากรรมอันชั่วร้ายที่สุด......แต่ไม่ว่าอย่างไร เจียงหว่านก็เป็นน้องสาวเขา เป็นคุณหนูหนึ่งเดียวของตระกูลเจียง เจียงเช่อมิอาจนั่งนิ่งดูดาย ปล่อยให้นางไปตายได้“ขอร้องท่านอ๋องไว้ชีวิตนางเถิด เป็นเพราะข้าตามใจนางจนเสียคน หากท่านอ๋องจะลงโทษ โปรดลงที่เจียงเช่อเถิดพะยะค่ะ”เมื่อเห็นเจียงเช่อ สายตาสิ้นหวังของเจียงหว่านพลันมีประกายความหวังขึ้น“พี่......ท่านพี่ ช่วยข้าด้วย ข้าไม่อยากไปแดนเถื่อน ข้าอยากกลับบ้าน ท่านพี่ช่วยข้าด้วย......”เจียงเช่อขมวดคิ้วเขม็งจ้องเจียงหว่าน สายตาแฝงเร้นด้วยแววเกยีดชังเข้าไส้เขารู้ว่าเจียงหว่านต้องโทษตาย ยามนี้แค่เนรเทศ ถือว่าเมตตามากแล้ว แต่เขาเองก็รู้ว่า สถานที่อย่างแดนเถื่อนนั้น มิใช่สถานที่ที่สตรีตัวคนเดียวจะไปได้ การเนรเทศนางไปที่นั่น เท่ากับส่งนางไปขุมนร

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 654

    “เลือดของนาง...”เจียงหว่านสีหน้าตกตะลึงตอนนั้น ตอนที่ฮุ่ยอี๋มอบยาถอนพิษใส่ในมือนาง นางเคยเอาทิ้งไว้หลายขวด เดิมทีคิดศึกษาส่วนผสมในนั้น ทว่าด้านในกลับมีส่วนผสมยาเพียงหนึ่งเดียว นั่นคือเลือดมนุษย์...แรกเริ่ม นางคิดว่าเป็นเรื่องเหลวไหล! กระทั่งยามนี้นางถึงได้เชื่อความจริง ส่วนประกอบของยานั้น มีเพียงเลือดมนุษย์จริงๆ! ทั้งยังเป็นเลือดของหลินซวงเอ๋อร์! เรื่องมาถึงขนาดนี้แล้ว ในที่สุดนางก็เข้าใจ!มิน่า...ตอนนั้น นางใช้ยาปริมาณมาก แต่กลับไม่อาจทำให้หลินซวงเอ๋อร์ถึงตาย! ไม่คิดว่าเลือดของนางจะขจัดพิษในร่างนางโดยมองไม่เห็น...ฮุ่ยอี๋เอ่ย “เจ้ายังมีหน้าพูดว่าไม่ได้ฆ่าคนเป็นผักเป็นปลาอีก! เจียงหว่าน เจ้าลืมแล้วหรือว่าเจ้าวางยาซวงเอ๋อร์อย่างไร? เสด็จอาให้อภัยเจ้าครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ข้าไม่มีวันเกรงใจเจ้า!”คำพูดนี้สองแง่สองง่าม เห็นชัดว่ากำเย้ยหยันเยี่ยเป่ยเฉิงที่ดึงหมาป่าเจ้าเล่ห์เข้าบ้าน!เยี่ยเป่ยเฉิงตัวแข็งทื่ออยู่ที่เดิม ไร้ซึ่งแรงโต้กลับยามนี้ เขามิอาจชำระคืนได้ ซวงเอ๋อร์ของเขาไม่มีวันกลับมาอีกต่อไป!สิ่งเดียวที่ทำได้ตอนนี้ คือทำให้เจียงหว่านชดใช้อย่างสาสมที่สุด ส่วนตัวเขา ชีวิตที่

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 653

    เยี่ยเป่ยเฉิงมีสีหน้าเคร่งขรึม สายตาที่มองเจียงหว่านเยือกเย็นดุจน้ำแข็ง ไม่มีความอ่อนโยนเลยสักนิดเขาอยากฆ่านางตั้งนานแล้ว ที่ปล่อยนางรอดมาจนถึงตอนนี้ ก็แค่อยากให้นางได้รับความทรมานจนตายบัดนี้เห็นนางตกยากเช่นนี้ เยี่ยเป่ยเฉิงกลับรู้สึกว่าบทลงโทษแค่นี้ยังมิพอเจียงหว่านถูกทรมานจนเหมือนตายดีกว่าอยู่มานานแล้ว นางรู้ เยี่ยเป่ยเฉิงไม่มีทางปล่อยนางไปง่ายๆ หลังจากคิดดูแล้ว หากตายด้วยน้ำมือของเยี่ยเป่ยเฉิงได้ ก็คงจะดีกว่าตอนนี้ ที่ดูดซับยาเข้าสู่ร่างกายทุกวัน ถูกฝันร้ายหลอกหลอนทุกคืนสุดท้ายก็ไม่สามารถหนีจากพิษและเสียชีวิตลงได้!อย่างไรก็ตาย มิสู้ให้เยี่ยเป่ยเฉิงจบชีวิตนางด้วยมือเขาเอง!เมื่อคิดได้เช่นนี้ นางก็ยิ้มเยาะ จงใจกล่าวยั่วยุเขา “เยี่ยเป่ยเฉิง เจ้ามีฝีมือแค่นี้หรือ? แน่จริงก็ฆ่าข้าไปเลยสิ!”“ฆ่าข้าให้มันจบๆ ไปเสีย!”เยี่ยเป่ยเฉิงปรายตามองนาง พลางกล่าวอย่างเย็นชา “ตอนนั้น เจ้าก็ทรมานซวงเอ๋อร์เช่นนี้!”เจียงหว่านกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ใช่แล้วอย่างไร!”“ลูกในท้องนางข้าก็เป็นคนทำร้ายเอง! ร่างกายอ่อนแอแบบนั้นของนางต่อไปจะตั้งครรภ์ไม่ได้อีกแล้ว!”“ที่นางฝันร้ายทุกคืน ก็เป็นข้าที่ทำเอง

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 652

    หลายสิบปีมานี้ นางทำเรื่องชั่วมานับไม่ถ้วน ทุกเรื่อง นางจิตใจสงบ ไม่เคยรู้สึกผิดเลยมีเพียงเจียงหลิง…มีเพียงการตายของเจียงหลิง ทำให้นางยากจะข่มตานอนได้…ตลอดเวลาที่ผ่านมา ในฐานะคุณหนูรอง เจียงหว่านไม่เป็นที่ชื่นชอบของพ่อแม่มาตลอด พี่ชายก็ยิ่งไม่สนใจนาง ทว่าเจียงหลิงกลับได้รับความรักมากมาย…นางอิจฉาเจียงหลิง และแทบอยากทำให้อีกฝ่ายหายไปจากโลกใบนี้แต่เจียงหลิงกลับรักเอ็นดูนางมาตั้งแต่ต้นจนจบ ปกป้องนาง มอบของที่ดีที่สุดในโลกใบนี้ให้แก่นาง…เจียงหลิงเป็นพี่สาวที่ดีต่อนางที่สุดบนโลกใบนี้…ทว่าที่นางต้องการหาใช่แค่พี่สาวอย่างเดียว นางต้องการความรักของทุกคน นางต้องการให้พ่อแม่ พี่ชายรกนางแค่คนเดียว นางอยากครอบครองของที่ดีที่สุดไว้กับตัวเอง ไม่ใช่รอให้คนอื่นมอบให้!ดังนั้น ในคืนวันหิมะตก นางผลักเจียงหลิงตกน้ำ มองนางจมตายทั้งเป็นอยู่ใต้น้ำ หลังจากนั้นนางก็ติดวันเกิดเวลาเกิดของเจียงหลิงบนตุ๊กตาคุณไสย แทงเธอทุกวัน สวดภาวนาทุกคืน นางต้องการให้เจียงหลิงไม่มีโอกาสได้ผุดได้เกิด ไม่หวนกลับมาตลอดกาล!เพราะมีเพียงแค่ทำแบบนี้ นางถึงจะไม่มีโอกาสแก้แค้นตัวเอง!แต่ทำไม…ทำไมตอนนี้นางถึงยังหาตัวเอง

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 651

    ยาซึมเข้าสู่ร่างกายติดกันหลายวันทำให้เจียงหว่านค่อยๆ เป็นบ้าในห้องที่ปิดสนิท เจียงหว่านหดตัวอยู่บนพื้นเหมือนดินโคลนตัวนางเหม็นมาก ชุดกระโปรงสีรากบัวเปลี่ยนเป็นสกปรกและเก่าองครักษ์ทำให้เส้นเอ็นมือของนางขาด ตรงบาดแผลถูกทาขี้ผึ้งปิดแผลชั้นแล้วชั้นเล่าแม้ขี้ผึ้งปิดแผลจะเป็นยาสำหรับปกปิด ทว่ากลับมีผลดีต่อการหยุดเลือดบาดแผลแข็งตัวจนกลายเป็นสะเก็ดไปแล้ว เพียงแต่ไม่ได้รับการรักษาที่ดีกว่านี้ แม้จะดีขึ้นก็ยังเหลือรอยแผลเป็นอัปลักษณ์เอาไว้ธูปในห้องไม่เคยลดลงเลยทั้งวัน ประกอบกับกระกระตุ้นของต้นคลีเวีย ความคิดต่ำช้าที่อยู่ในตัวนางแทบจะถูกกระตุ้นออกมาทั้งหมดสองตานางแดงก่ำ ดูฉุนเฉียวไม่น้อย กรีดร้องโวยวายอยู่ในห้อง ประหนึ่งคนบ้าคนหนึ่งองครักษ์ที่เฝ้าอยู่หน้าห้องไม่สนใจนางสักนิด ได้แต่ทรมานนางไม่ให้นางตายทุกวันความเคียดแค้นฉายออกมาจากในตาเจียงหว่าน เวลานี้ นางได้ปล่อยว่างความหลงใหลต่อเยี่ยเป่ยเฉิงแล้ว ไม่ว่าจะรักมากขนาดไหนก็แปรเปลี่ยนเป็นความชิงชังเข้ากระดูก“เยี่ยเป่ยเฉิง! ปล่อยข้ากลับไป! ปล่อยข้ากลับไปสิ!”“แน่จริงก็ฆ่าข้าเลยสิ!ฆ่าข้าให้มันจบๆ ! ท่านมีสิทธิ์อะไรมาขังข้าไว้เช่นนี

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 650

    “ได้ยินว่าพ่อแม่ที่เลี้ยงดูเจ้าเสียไปนานแล้ว แล้วเจ้ากับพี่ชายอยู่มาได้อย่างไร?”“แล้วเหตุใดเจ้าจึงขายตัวไปเป็นบ่าวไพร่? หลายปีมานี้ เจ้าคงผ่านความลำบากมิใช่น้อย เคยถูกใครรังแกหรือไม่?”หลินซวงเอ๋อร์พลันเกิดความขมขื่นในจิตใจเดิมที หากไม่เอ่ยถึงเรื่องเหล่านี้ นางยังพออดทนได้บ้าง แต่เมื่ออวี๋หว่านหนิงถามขึ้นมา นางก็อดรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจเสียมิได้นางเม้มปากพลางจ้องมองนิ้วมือตนเอง น้ำตาเริ่มเอ่อล้น พร้อมหยดแหมะลงหลังมือทีละหยดนางอยู่สบายหรือไม่?นางเคยถามตนเองอยู่เช่นกันหลายปีมานี้ นางผ่านเรื่องราวมากมาย สูญเสียบิดามารดา สูญเสียพี่ชายไป กลายเป็นเด็กกำพร้าที่ไร้ญาติขาดมิตรโดยแท้แต่หากคิดดีๆ ชีวิตนางก็เคยอยู่สุขสบายมาช่วงหนึ่งนั่นคือตอนอยู่กับเยี่ยเป่ยเฉิง นางมีความสุขจริงๆในตอนนั้น เยี่ยเป่ยเฉิงเป็นกำลังใจให้นาง ซื้อเสื้อผ้าชุดใหม่ให้ หาของดีมาให้กิน สอนนางเรียนหนังสือ พาไปเดินเล่นท่องทะเลสาบ ให้ความรักต่อนางอย่างชนิดไร้ผู้เทียบเทียม...ในเวลานั้น นางมีความสุขเหลือล้น เป็นความสุขมากที่สุดในชีวิต แม้แต่ฝันก็ยังเป็นฝันหวาน...แต่ต่อมา ทุกอย่างกลับแปรเปลี่ยน ก่อนหน้านี้เคยสุ

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 649

    เมื่อได้ยินประโยคนี้ หลินซวงเอ๋อร์แทบชะงักงันไปที่บั้นเอวนางมีปานแดงรูปเสี้ยวจันทร์จริงๆ ท่านแม่บอกว่า มันมีติดตัวมาตั้งแต่นางเกิด เนื่องจากเป็นตำแหน่งที่บั้นเอว จึงมีน้อยคนที่จะรู้เรื่องนี้“ท่าน...คือแม่ของข้าจริงหรือ?” หลินซวงเอ๋อร์หัวใจเต้นแรง ขอบตาแดงเรื่อขึ้นอวี๋หว่านหนิงยื่นมือมาจับมือของนางไว้ พลางกล่าวเสียวเศร้า “ซวงเอ๋อร์ ข้าคือแม่เจ้าจริงๆ หลายปีนี้ทำให้เจ้าลำบากนัก...”แม่นมซุนอยู่ด้านข้างพลางกล่าวเสริม “องค์หญิง นางคือเสด็จแม่ของท่านจริงๆ หลายปีมานี้ ฮองเฮาไม่เคยเลิกราในการตามหาท่าน เพียงแต่ภาคกลางกว้างขวางนัก พวกท่านเองก็ข่าวคราวเงียบหาย หลายปีนี้ พวกท่านลำบากก็จริง ฮองเฮาก็ไม่ได้สุขสบายใจ...”หลินซวงเอ๋อร์นิ่งเงียบไปครู่ใหญ่ พลันหันไปมองอวี๋หว่านหนิงแล้วกล่าว “ที่จริง ข้าไม่เคยตำหนิท่านเลย เพียงแต่บางครั้งก็เคยคิด ว่าท่านแม่จะมีหน้าตาเป็นอย่างไร ยังมีชีวิตอยู่ในโลกนี้หรือไม่”“ตอนยังเป็นเด็ก ข้าเคยคาดหวังให้นางมาหาบ้าง แต่พอโตขึ้นก็ไม่เห็นนางมาเสียที ข้าจึงภาวนาให้นางอยู่ดีมีสุขแทน แม้จะไม่ได้พบหน้า แต่ขอให้นางยังมีชีวิตอยู่ เป็นความคิดถึงในใจก็เพียงพอแล้ว...”

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 648

    อวี๋หว่านหนิงรับเอาผ้าเช็ดหน้ามาซับน้ำตา พลันเกิดความตื้นตันจนไม่รู้ตอบอย่างไรดีทันใดนั้น แม่นมซุนเดินขึ้นมาพร้อมกล่าว “องค์หญิง ที่นี่คือวังหลวงแห่งเป่ยหรง ฮองเฮาทรงตามหาท่านมานาน ทุ่มแทแรงกายแรงใจไม่น้อยกว่าจะหาพบ...”“องค์หญิง?” หลินซวงเอ๋อร์นึกว่าตนหูฝาดไป “ท่านเรียกข้าอยู่หรือ?”นางกล่าวตอบ “พวกท่านจำคนผิดหรือเปล่า ข้าไม่ใช่องค์หญิง ข้าคือหลินซวงเอ๋อร์ต่างหาก”นางเป็นเพียงเด็กกำพร้าที่ถูกทอดทิ้ง เติบโตมาจากชนบทแร้นแค้น เป็นเพียงสาวใช้ต่ำต้อยผู้หนึ่งเท่านั้นองค์หญิงอะไรกัน ยังมีวังเป่ยหรงอีก แล้วใครคือฮองเฮา?พวกนางคงจำคนผิดเป็นแน่แม่นมซุนกล่าวตอบ “ไม่ผิดเจ้าค่ะ ไม่มีผิดแน่นอน ท่านก็คือองค์หญิงของเรา องค์หญิงที่พลัดพรากจากฮองเฮาไป...”หลินซวงเอ๋อร์คล้ายกับยังมึนงงอยู่ ความคิดนางเกิดความสับสน ปวดหัวเป็นอย่างมากแม่นมซุนอธิบายต่อ “สมัยที่อดีตฮ่องเต้สวรรคต ฮ่องเต้องค์ใหม่ยังไม่ได้ขึ้นครองราชย์ ราชสำนักเป่ยหรงเกิดความวุ่นวาย ตอนนั้นฮองเฮายังมีฐานะเป็นเพียงพระชายาแห่งรัชทายาท นางเสี่ยงอันตรายให้กำเนิดแฝดชายหญิงคู่หนึ่ง เพื่อปกป้องชีวิตของพวกท่านไว้ จึงให้คนสนิทส่งพวกท่านออก

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 647

    หลินซวงเอ๋อร์เปลือกตากระตุกเล็กน้อย นางก็อยากตื่น แต่ทำอย่างไรก็ไม่อาจตื่นขึ้นมาหน้าอกคล้ายถูกกรีดจนเป็นแผลเหวอะหวะ เหงื่อเย็นในตัวไหลพราก ลำคอคล้ายถูกงูพิษตัวหนึ่งรัดไว้ ยิ่งรัดก็ยิ่งแน่น จนนางใกล้จะหายใจไม่ออกข้างโสตนั้น ได้ยินเสียงคุ้นหูประเดี๋ยวไกลประเดี๋ยวใกล้ ถัดจากนั้น คล้ายมีมืออ่อนโยนลูบไล้ใบหน้านางเบาๆ“เด็กดี หมดเรื่องแล้ว เจ้าปลอดภัยดีแล้ว รีบตื่นมาเถิด ตื่นมาเร็วเข้า...”หลังจากได้ยินเสียงนั้นชัดเจนมากขึ้น ลำคอที่ถูกรัดแน่นก็ค่อยๆ คลายออก นางลืมตาช้าๆ ภาพเบื้องหน้าจากพร่ามัวจนกลายเป็นชัดเจน สิ่งแรกที่เข้าสู่ม่านตาก็คือม่านคลุมเตียงสีม่วงที่อยู่เหนือศีรษะขึ้นไป คล้ายเป็นภาพฝัน เสมือนเป็นแหยักษ์ที่ถูกเหวี่ยงลงมา เพื่อคลุมตัวนางให้อยู่ตรงกลางเตียงนี้เป็นเตียงที่สวยงาม จนแม้แต่เสาเตียงก็เป็นลวดลายที่นางไม่เคยเห็นมาก่อน หัวเตียงนอกจากจะแกะสลักลายดอกไม้แล้วยังฝังด้วยหยกเจียระไนงดงามและพลอยล้ำค่าอีกชั่วขณะนั้น นางรู้สึกมึนงงยิ่งนี่มันเป็นที่ไหนกัน?“ซวงเอ๋อร์ เจ้ารู้สึกตัวแล้วรึ?” จนกระทั่งข้างหูได้ยินเสียงนั้นอีกครั้ง นางจำได้ว่าตอนอยู่ในความฝัน ได้ยินเสียงนี้จนคุ

DMCA.com Protection Status