แชร์

บทที่ 591

ผู้แต่ง: พิณเคล้าสายฝน
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-11-11 18:01:01
แม้ว่ารอยยิ้มนางจะดูค่อนข้างฝืน แต่น้ำเสียงฟังแล้วอ่อนโยน แฝงด้วยการเอาอกเอาใจ

เยี่ยเป่ยเฉิงสูดลมหายใจหนัก ทรวงอกคล้ายมีเปลวไฟคุกรุ่น มองดูท่าทีเอาอกเอาใจของหลินซวงเอ๋อร์ ยังคงเฉยเมยไม่พูดจา

ทันใดนั้น ไป๋อวี้ถังตามขึ้นมาบ้าง พลางกล่าวยิ้มๆ “ข้าดูโคมไฟกระต่ายน้อยเหมาะกับแม่นางซวงเอ๋อร์ จึงไปเจรจากับคนขาย เขาจึงยกให้โดยไม่คิดเงิน ได้ยินว่าในบ้านเจ้าก็มีเลี้ยงกระต่าย ช่างบังเอิญนัก”

“เจ้าเป็นคนให้นางรึ?” เยี่ยเป่ยเฉิงแววตาเย็นชา สีหน้าพลอยขรึมตาม

ไป๋อวี้ถังกล่าวตอบ “ใช่ ทำไมรึ?”

เยี่ยเป่ยเฉิงเม้มปากแน่น ขบฟันจนใกล้จะแตก

“ท่านอ๋อง เป็นอะไรหรือเจ้าคะ?” หลินซวงเอ๋อร์รู้สึกถึงความไม่ชอบมาพากล จึงเอื้อมมือไปกระตุกแขนเสื้อของเขา

เยี่ยเป่ยเฉิงไม่ตอบ มีแต่จ้องหน้าไป๋อวี้ถัง

ไป๋อวี้ถังพลันเห็นความไม่พอใจจากแววตาขุ่นมัวของเขา ทำให้รู้สึกแปลกใจยิ่ง

ทันใดนั้น เจียงหว่านอยู่ข้างๆ จึงได้กล่าว “ใต้เท้าไป๋ช่างมีน้ำใจต่อน้องซวงเอ๋อร์นัก โคมไฟนี้แลดูประณีต ราคาคงจะไม่น้อยสิท่า?”

ไป๋อวี้ถังกล่าวยิ้มๆ “ไม่ต้องใช้เงิน ข้าบอกแล้วว่าเถ้าแก่แถมให้มาอีกอัน ข้าจึงรับแทนแม่นางซวงเอ๋อร์”

เจียงหว่านเม้มปาก
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 592

    หลินซวงเอ๋อร์ยืนอยู่ด้านข้าง รู้สึกคล้ายบรรยากาศผิดปกติ“เจ้าเข้าไปก่อน ที่นี่หมดเรื่องเจ้าแล้ว” น้ำเสียงเยี่ยเป่ยเฉิงเย็นชา แฝงด้วยความเยียบเย็นหลินซวงเอ๋อร์มองหน้าฮุ่ยอี๋ และมองไป๋อวี้ถังซ้ำอีก สุดท้ายจึงยอมเดินเข้าจวนเงียบๆนางเดินไปพร้อมหันหน้ากลับ ยังเห็นชายหนุ่มสองคนยืนประจันที่หน้าประตู ในใจรู้สึกห่วงกังวลยิ่งนางไม่เข้าใจว่าเยี่ยเป่ยเฉิงเกิดอะไรขึ้น รู้เพียงว่าวันนี้เขาคงอารมณ์ไม่ดี สะกิดเพียงนิดก็อาจเกิดระเบิดขึ้นได้หลินซวงเอ๋อร์ไม่กล้าขัดใจเขาอีก หลังจากเข้าไปถึงเรือนตะวันออก จึงวางโคมไฟในมือลงที่ตรงนั้นด้วยนางผลักประตูเรือนอวิ๋นซวน ก้าวเท้าเข้าไปในนั้นทันทีที่เข้าห้อง ก็ได้กลิ่นหอมเย็นประหลาดโชยมานางเหลียวซ้ายแลขวา ไม่เห็นที่มาของกลิ่นหอมประหลาดนั้นเป็นกลิ่นที่โชยมาบางเบา คล้ายเป็นกลิ่นยา แต่ก็คล้ายกลิ่นดอกไม้ หลินซวงเอ๋อร์คิดเพียงว่าอาจเป็นยาที่หมอจัดให้นาง เมื่อต้มแล้วจึงมีกลิ่นชนิดนี้ออกมา เพราะอย่างไรเสียหลายวันมานี้ นางก็กินยาเป็นกิจวัตรอยู่แล้วเพียงแต่ได้กลิ่นนี้ทีไร นางมักรู้สึกจุกเสียดแน่นหน้าอก พร้อมความเจ็บในหัวใจเป็นระยะ คล้ายกับจะทำให้นางหายใจไม่

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 593

    “ออกมาครั้งนี้ เห็นชัดว่านางสบายใจขึ้นมาก หากมีโอกาส ข้าจึงอยากแนะนำให้พี่เยี่ยพานางไปเดินเล่นบ่อยๆ อย่าให้กักตัวอยู่แต่ในจวน”“มิเช่นนั้น ต่อให้เป็นคนปกติ ก็อาจเก็บกดจนล้มป่วยได้”เยี่ยเป่ยเฉิงยิ้มเย็นชา “ใต้เท้าไป๋กล่าวหนักไปแล้ว ดูเหมือนท่านจะเข้าใจนางมากกว่าข้าเสียอีก”ไป๋อวี้ถังสีหน้าชะงักเล็กน้อย ครู่หนึ่ง จึงแสร้งทำเป็นนิ่งเฉยแล้วกล่าวต่อ “พี่เยี่ยเข้าใจสิ่งใดผิดไปหรือไม่ คนที่เข้าใจแม่นางซวงเอ๋อร์มากที่สุด ควรเป็นท่านต่างหาก เพราะอย่างไรท่านก็เป็นสามีของนาง เป็นคนที่นางสมควรพึ่งพามากที่สุด”คำกล่าวนี้ ไป๋อวี้ถังแฝงความโกรธอยู่ไม่น้อยหญิงสาวที่เขาซ่อนในใจมาเนิ่นนาน กลับถูกเยี่ยเป่ยเฉิงปฏิบัติต่อนางเช่นนี้ หากไม่เพราะเห็นแก่ความเป็นเพื่อน เขาคงไม่ยึดถือศีลธรรมจรรยา ใช้ทุกวิถีทางเพื่อแย่งนางกลับมาให้จงได้!แต่เขากลับมิได้ทำเช่นนั้น ขอเพียงนางพอใจ เขายินดีเก็บงำความลับนี้ไว้ในใจตลอดไป ไม่มีวันเปิดเผยให้ผู้ใดล่วงรู้ในขณะที่เยี่ยเป่ยเฉิงสามารถครอบครองนางได้อย่างง่ายดาย แต่กลับทำให้นางเสียใจซ้ำแล้วซ้ำเล่า!เมื่อนึกถึงตรงนี้ ไป๋อวี้ถังก็ให้โมโหยิ่งนัก!แต่ขณะเดียวกัน เขาก็จน

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 594

    หลังจากส่งฮุ่ยอี๋กลับวังไปแล้ว ไป๋อวี้ถังก็ตรงดิ่งกลับจวนไป๋ทันทีทันทีที่เข้าจวน พ่อบ้านตระกูลไป๋ก็รีบมารายงานไป๋อวี้ถัง ว่าก่อนหน้านี้เยี่ยเป่ยเฉิงได้มาเยือน เห็นเขายังไม่กลับมา จึงไปรอในห้องหนังสือเมื่อได้ยินดังนี้ ไป๋อวี้ถังก็พลันใบหน้าเปลี่ยนสี รีบเดินไปยังห้องหนังสือทันทีพ่อบ้านรีบร้อนเดินตามมาด้วยไป๋อวี้ถังกวาดสายตามองดูรอบห้อง สุดท้ายไปหยุดที่แจกันบนโต๊ะทำงาน เพียงพริบตาเขาก็ดูออกว่า มีคนมาแตะต้องแจกันนี้เข้า และไม่ต้องคิด เขาก็พอรู้ว่าอะไรเป็นอะไรเขาหันมาจ้องหน้าพ่อบ้าน พลางตวาดด้วยน้ำเสียงดุดัน “ข้าเคยสั่งเอาไว้ อย่าให้ผู้ใดมาเข้าใกล้ห้องนี้ เหตุใดท่านยังปล่อยคนเข้ามาอีก”พ่อบ้านปาดเหงื่อเย็นเต็มหน้าผาก พลางกล่าว “ใต้เท้าโปรดอภัย เป็นความผิดของบ่าวเอง บ่าวห้ามเขาไม่อยู่จริงๆ ขอรับ”พ่อบ้านผู้นี้ทำงานอยู่จวนไป๋มาสิบกว่าปี ไม่เคยเห็นไป๋อวี้ถังโมโหโกรธาเช่นนี้มาก่อน จึงอดรู้สึกหวาดกลัวมิได้แต่เขามองดูแล้ว ห้องหนังสือก็ไม่มีสิ่งใดผิดปกติ จึงไม่เข้าใจว่า เหตุใดไป๋อวี้ถังต้องโมโหถึงเพียงนี้“ไป ไสหัวออกไป!” ไป๋อวี้ถังพยายามระงับไฟโทสะ ไล่พ่อบ้านออกจากห้องไปพ่อบ้านตา

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 595

    หญิงสาวยิ้มเล็กน้อย นางยกโคมไฟในมือและยื่นให้แก่ไป๋อวี้ถัง เอียงศีรษะเล็กน้อยพลางกล่าว “เรามาอธิษฐานด้วยกัน ขอให้เราสองไม่มีวันพรากจาก อยู่ด้วยกันตลอดไป ท่านว่าดีหรือไม่?”ไป๋อวี้ถังกล่าวตอบ “ดี...”......หลังอาบน้ำเสร็จ หลินซวงเอ๋อร์เอนกายลงบนเตียงเมื่อนึกถึงความผิดปกติของเยี่ยเป่ยเฉิงในวันนี้ นางรู้สึกไม่สบายใจเป็นอย่างมากวันนี้ นางได้คิดทบทวนหลายอย่าง จริงอยู่ที่ว่ามีหลายครั้ง นางเองก็พาลหาเรื่องเกินไป เยี่ยเป่ยเฉิงยอมรับนางได้เช่นนี้ นางไม่ควรปั้นสีหน้าใส่เขาอีก และยิ่งไม่ควรทำเย็นชาใส่ด้วยแม้มีเรื่องเข้าใจผิดอันใด ก็ควรสงบสติอารมณ์แล้วค่อยๆ อธิบายฮุ่ยอี๋กล่าวถูกแล้ว สามีภรรยาควรเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ไม่ควรถือโทษโกรธเคืองเนิ่นนาน นางครุ่นคิด ขอเพียงนางยอมผ่อนปรนท่าที พูดคุยกับเขาดีๆ มีปัญหาใดก็ล้วนคลี่คลายได้ง่ายเมื่อนึกถึงตรงนี้ หลินซวงเอ๋อร์พลันสูดลมหายใจเข้าลึก คิดว่าอีกสักพักหากเจอเยี่ยเป่ยเฉิง ควรพูดกับเขาอย่างไรดีนางรออยู่เนิ่นนาน จึงได้ยินเสียงฝีเท้าจากด้านนอก มีเงาคนทาบที่ประตูอยู่ครู่ใหญ่ จึงได้ผลักประตูเข้ามาเมื่อเห็นเยี่ยเป่ยเฉิง หลินซวงเอ๋อร์รู้สึกดีใ

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 596

    “ท่านพี่…ท่านจะไปไหนหรือ?” หลินซวงเอ๋อร์ขวางเขาไว้อย่างลืมตัวเยี่ยเป่ยเฉิงชะงักฝีเท้า เขาไม่ได้หันกลับมา แต่เลือกที่จะหันหลังให้นาว เสียงราบเรียบแฝงไปด้วยความเย็นชาไปหลายส่วน“ไปห้องหนังสือ!”“เราจะคุยกันดีๆ ไม่ได้เลยหรือ?” มือน้อยของหลินซวงเอ๋อร์จับชายเสื้อของเขาไว้แน่น ไม่ง่ายเลยกว่านางจะโน้มน้าวตัวเองได้ ปล่อยวางความรู้สึกทุกอย่าง และคุยเรื่องขัดแย้งระหว่างพวกเขาสองคนกับเขาอย่างสงบใจนางรู้สึกว่าหากไม่คุยกันให้ชัดเจนวันนี้ ความขัดแย้งระหว่างพวกเขาก็จะยิ่งบานปลายขึ้นเรื่อยๆแต่เหมือนเยี่ยเป่ยเฉิงจะไม่อยากคุยเรื่องพวกนี้กับนางยามนี้เขามีโทสะอยู่เต็มเปี่ยมไร้ที่ระบายเขาไม่อยากจะคิดเลย ช่วงเวลานั้นที่เขาไม่อยู่ เกิดอะไรขึ้นระหว่างนางกับไป๋อวี้ถังบ้าง!นอกจากในภาพพวกนั้นแล้ว ยังมีการกระทำที่เกินเลยไปกว่านี้อีกหรือไม่…เขาควรถามเธอไปตรงๆ …แต่ไม่รู้ทำไม พอคำพูดมาถึงปาก เขาก็ถามมันออกมาไม่ได้!เขาเหมือนกับไม่มีความกล้าจะรู้เรื่องเหล่านี้ แม้กระทั่งกลัวที่จะเผชิญหน้าต่อหน้านาง…อย่างไรเสีย ในใจเขา ไป๋อวี้ถังคือสามีในฝันของสตรีทุกคน เขาใส่ใจอบอุ่น สูงส่งมีอำนาจ สะอาดบริสุทธิ์ หน

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 597

    ความเจ็บปวดแล่นเข้าสู่หัวใจดังกระแสน้ำก็ไม่ปาน มิอาจหยุดยั้งได้สุดท้าย นางฝืนทนไม่ไหว กระอักเลือดออกมาการกระอักเลือดออกมาครั้งนี้ แรงเฮือกสุดท้ายในตัวหลินซวงเอ๋อร์ถูกสูบไปจนหมด และล้มพับไปกับพื้นบนพื้นเย็นมาก นางนอนอยู่บนพื้นทั้งอย่างนั้น จวบจนครึ่งค่อนคืน ร่างกายถึงค่อยๆ มีแรงขึ้นมาเล็กน้อยนางหยัดกายลุกขึ้นอย่างยากลำบาก แล้วเดินไปที่เตียงที่ละก้าวใจยังคงเจ็บปวด นางล้วงเอาขวดแก้วออกมา เทยาเม็ดออดมาสองสามเม็ด เอาใส่ปากแล้วกลืนมันลงไป ถึงได้รู้สึกว่าดีขึ้นไปมามุมเปื้อนไปด้วยคราบเลือด นางยกชายกระโปรงขึ้นมา เช็ดด้วยมือที่สั่นเทามองเลือดที่เปื้อนบนกระโปรง ใจของนางเหน็บหนาวลงไปกว่าครึ่งนางคิดว่าตัวเองใกล้จะหายแล้ว แต่ทำไม…อาการนี้ถึงได้กำเริบรุนแรงขึ้น…หลินซวงเอ๋อร์กล่าวปลอบตัวเองด้วยเสียงอันสั่นเทา “ห้ามโกรธ ต้องรีบมีความสุขขึ้นมา แบบนี้อาการจะได้ดีขึ้น”แต่ยิ่งนางควบคุม น้ำตาก็ยิ่งไหลพรั่งพรูออกมาราวกับว่านางรู้สึกว่ามีภูเขาลูกใหญ่ระเบิดพังลงมาอยู่ในใจเยี่ยเป่ยเฉิงละทิ้งนางแล้ว แม้แต่คำอธิบายก็ไม่อยากฟังนางพูดเขาชอบท่าทางของนาง นางเคยเห็นกับตา ดังนั้น ท่าทีที่เขาละ

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 598

    มือที่ซ่อนอยู่ใต้ผ้าห่มค่อยๆ กำแน่น หลินซวงเอ๋อร์พยายามระงับความรู้สึกสุดแรง“ทำไม? เจียงหว่าน! ข้าไปทำอะไรให้เจ้า!”“เจ้าว่าอย่างไรล่ะ?” เจียงหว่านกล่าวอย่างยิ้มเยาะ “เจ้ามักรู้สึกว่าข้ากำลังทำลายความสัมพันธ์ระหว่างพวกเจ้าสองคน ความจริงแล้วเจ้าเคยคิดบ้างไหม ว่าแกคือนังสารเลวที่เข้ามาเป็นมือที่สามคนนั้น!”“ข้าไม่ใช่!”หลินซวงเอ๋อร์โต้กลับนางไม่เคยคิดจะเข้าไปเป็นมือที่สามของใคร เป็นเยี่ยเป่ยเฉิงสัญญากับนางมาตลอด บอกว่าทั้งชีวิตนี้จะชอบนางคนเดี๋ยว เป็นเขาที่ตื๊อนาง ให้นางแต่งงานกับเขา ก็เป็นเขาอยากแต่ง และรับปากนางไม่ว่าเมื่อไหร่ก็จะปกป้องนาง เจียงหว่านกล่าว “ข้ารู้จักท่านอ๋องมาตั้งแต่น้อย เราสองคนรักกัน และกำหนดการแต่งงานไว้นานแล้ว พ่อข้าตายก็เพื่อช่วยเขา! ท่านอ๋องเคยบอกกับพ่อข้าว่าจะดูแลข้าไปตลอดชีวิต”นางชี้หน้าด่าหลินซวงเอ๋อร์ “เป็นแก! หลินซวงเอ๋อร์! เป็นเพราะการปรากฏตัวกะทันหันของแกทำให้ท่านอ๋องเปลี่ยนความคิด!หากไม่ใช่เพราะแกใช้อุบายน่าละอายท่านอ๋องจะลืมสัญญาที่ให้ไว้กับข้าได้อย่างไร!”“ดังนั้นเจ้าเลยทำร้ายข้า วางยาข้า แถมยังทำร้ายลูกข้าด้วยหรือ?” มือของหลินซวงเอ๋อร์สั่นเทาเ

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 599

    นางถึงขั้นทำร้ายเยี่ยเป่ยเฉิงไปแล้วจริงๆ...นางทำร้ายเยี่ยเป่ยเฉิงไปได้อย่างไร...“ซวงเอ๋อร์...เจ้าเป็นอะไรไปกันแน่?” เยี่ยเป่ยเฉิงกุมบาดแผล มองนางด้วยแววตาสับสนเจียงหว่านข้างๆเอ่ย “ท่านอ๋อง แม่นางซวงเอ๋อร์สติฟั่นเฟือน อาการกำเริบขึ้นอีกแล้ว...”“ข้าเปล่า...ท่านพี่ ข้ามิได้อาการกำเริบ ข้ามิได้ตั้งใจทำร้ายท่าน เพราะเจียงหว่าน เจียงหว่านทำร้ายลูกข้า นางยังวางยา นางยอมรับเองกับปาก...” หลินซวงเอ๋อร์อธิบายไปคนละทิศไม่สอดคล้องเจียงหว่านเอ่ย “น้องซวงเอ๋อร์ เจ้าป่วยหนักแล้ว เจ้าเห็นภาพหลอนแล้ว ซ้ำยังพูดจาเหลวไหลอีกแล้ว”“ข้าเปล่า! เจียงหว่าน คนที่พูดจาเหลวไหลคือเจ้า! ข้าไม่ได้ป่วย!” หลินซวงเอ๋อร์จับมือเยี่ยเป่ยเฉิงไว้ ราวกับกำลังจับฟางเส้นสุดท้ายของชีวิตไว้ “ท่านเชื่อข้าได้ไหม? เจียงหว่านทำร้ายข้าจริงๆ นางคือต้นตอของทุกอย่าง ข้าขอร้องล่ะ ท่านเชื่อข้า ได้ไหม...”แค่เยี่ยเป่ยเฉิงเชื่อนางก็พอแล้ว...“เสวียนอู่!” เยี่ยเป่ยเฉิงมองหลินซวงเอ๋อร์ด้วยสายตาสับสน ตะโกนเรียกเสวียนอู่ข้างนอก “ตามหมอหลวงมา!”หลินซวงเอ๋อร์ค่อยๆปล่อยมือจากเยี่ยเป่ยเฉิง นางเดินถอยหลังไม่หยุดด้วยจิตใจแหลกสลาย “ท่านไม

บทล่าสุด

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 625

    เยี่ยเป่ยเฉิงมือสั่นขณะรับขวดกระเบื้องจากตงเหมยมาเนื้อสีขาวของขวดปรากฏเงาสีแดงรำไรอยู่ด้านในตงเหมยกล่าว “ท่านอ๋องบอกว่าจะเชื่อใจนางใช่หรือไม่เจ้าคะ? ถ้าเช่นนั้นบ่าวจะไม่นำไปให้องค์หญิงอีก ท่านอ๋องลองเอาเลือดซวงเอ๋อร์ไปทดสอบดูก็ได้ ว่าเป็นจริงดั่งที่นางว่าหรือไม่ ใช้รักษาโรคระบาดได้จริง!”“ถึงตอนนั้น ท่านอ๋องย่อมจะรู้เอง ว่าซวงเอ๋อร์ไม่ได้พูดโกหก...”เยี่ยเป่ยเฉิงรู้สึกจุกในอก ในยามนี้ เขาเกิดความกลัวที่จะนำไปพิสูจน์เพราะหากว่า ทุกอย่างเป็นจริงดั่งที่ตงเหมยพูด นั่นแสดงว่าเขาทรยศต่อความไว้วางใจของหลินซวงเอ๋อร์อีกครั้งในตอนนั้น นางเคยร่ำไห้พูดกับตนว่า เลือดของนางสามารถช่วยชีวิตคนได้แล้วเขาตอบว่าอย่างไร?อ้อ นึกออกแล้วเขาเย้ยหยันไปว่านางไม่ใช่เทวดา พร้อมกล่าวตำหนิว่านางชอบทำร้ายตนเองบ่อยครั้งสวรรค์ นี่เขาเป็นอะไรไป เขาได้กระทำสิ่งใดต่อนางไปบ้าง...เสวี่ยนอู่เห็นดังนี้ จึงรีบเดินมารับขวดไปจากมือเยี่ยเป่ยเฉิง พร้อมกล่าวต่อเขา “ในค่ายทหารยังมีผู้ป่วยอีกหลายคน ข้าน้อยจะนำไปทดสอบเดี๋ยวนี้...”เมื่อกล่าวเช่นนี้แล้ว ตงเหมยจึงไม่อยากพูดมากความอีก นางหันหลังเตรียมจะจากไป กลับถูก

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 624

    ตงเหมยกล่าวเสียงสะอื้น “เชื่อตอนนี้จะมีประโยชน์อันใดเจ้าคะ? ในยามที่นางโดดเดี่ยวสิ้นหวัง ท่านไม่อยู่เคียงข้าง นางสูญเสียลูกไป ท่านก็ไม่อยู่เคียงข้าง และบัดนี้นางล้มป่วย ท่านก็เอาร่างนางไปอยู่บ้านนอกแทน”“เชื่อตอนนี้จะมีประโยชน์อันใด ทุกอย่างล้วนสายเกินแก้!”ตงเหมยยิ่งพูดก็ยิ่งโมโห จนแทบอยากระบายความอัดอั้นที่หลินซวงเอ๋อร์ได้รับออกมาแทนนางให้หมดสิ้น“น่าเห็นใจซวงเอ๋อร์นัก...นางทำเพื่อท่าน ต้องทนกล้ำกลืนความเจ็บช้ำมากมาย ไม่เคยที่จะระบายให้ท่านฟังสักครั้ง”“คืนวันนั้น ท่านอ๋องจู่ๆ ทิ้งนางไป นางเพิ่งสูญเสียลูก ยังมีเลือดออกเต็มตัว ตอนบ่าวเปิดประตูเข้าไปเห็น รู้แต่ว่าแทบเป็นลมหมดสติ!”“บ่าวคิดจะบอกท่านให้รู้ แต่ซวงเอ๋อร์ไม่ต้องการให้ท่านเป็นห่วง นางบอกว่าท่านอ๋องเป็นคนทำงานใหญ่ ไม่ควรให้อยู่แต่ในเรือนหลัง ยิ่งกลัวว่าหากพูดไปแล้ว ท่านจะรังเกียจร่างกายที่ไม่สมบูรณ์ของนาง วันหน้าไม่อาจมีทายาทให้ท่านได้อีก”“แต่ว่า ท่านอ๋องรู้หรือไม่ ตอนสูญเสียลูกไปนั้น นางเจ็บปวดเพียงไหน ในใจรู้สึกสิ้นหวังเพียงใด?”“ท่านอ๋องเคยคิดปลอบประโลมจิตใจนางบ้างหรือไม่?”เยี่ยเป่ยเฉิงยืนตะลึงตัวแข็งทื่อ เลือดใน

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 623

    “ซวงเอ๋อร์ ซวงเอ๋อร์ ข้ากลับมาแล้ว”เยี่ยเป่ยเฉิงผลักประตูเรือนอวิ๋นซวน พร้อมเดินก้าวเข้าไปด้านใน แต่กลับพบว่าภายในว่างเปล่าผ้าห่มบนเตียงถูกพับไว้เรียบร้อย ข้าวของเครื่องใช้ก็จัดวางเป็นระเบียบ ราวกับมีคนมาจัดเก็บแล้วหนึ่งรอบเมื่อเห็นหลินซวงเอ๋อร์ไม่อยู่ในห้อง เยี่ยเป่ยเฉิงก็คิดว่านางคงไปห้องหนังสือเพราะที่ผ่านมา นางมักชอบเก็บตัวในห้องนั้นเพื่อเขียนหนังสือเงียบๆ เมื่อนึกถึงตรงนี้ เขาจึงรีบออกจากเรือนอวิ๋นซวน ตรงไปยังห้องหนังสือทันทีที่ไหนได้ ห้องหนังสือก็ไม่มีร่องรอยของนาง อุปกรณ์เครื่องเขียนบนโต๊ะจัดวางเป็นระเบียบ พู่กันที่นางเคยใช้บ่อยๆ คล้ายมีการล้างน้ำจนสะอาดสะอ้าน เยี่ยเป่ยเฉิงขมวดคิ้วเล็กน้อย พลางก้าวเดินออกจากห้องหนังสือ เดินตามหาไปยังทุกห้อง ก็ไม่เห็นแม้แต่เงาของนางจนกระทั่งตงเหมยกลับมาจากเรือนด้านหน้าทันทีที่เห็นตงเหมย เยี่ยเป่ยเฉิงก็รีบปรี่ไปหา “ซวงเอ๋อร์เล่า นางอยู่ที่ใด?”ในมือตงเหมยถือกล่องอยู่ใบหนึ่ง เมื่อเผชิญกับคำถามของเยี่ยเป่ยเฉิง นางมิได้ตอบกลับ นอกจากยื่นกล่องในมือให้แก่เยี่ยเป่ยเฉิง“นี่คือเครื่องประดับที่ท่านอ๋องซื้อให้ซวงเอ๋อร์ ก่อนจากไป นางได้ม

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 622

    เสิ่นป๋อเหลียงกล่าว “ท่านอ๋องกล่าวถูกต้อง ยาชนิดนี้ไม่อาจพกติดตัวได้ โดยเฉพาะยามเข้านอน ร่างกายมนุษย์จะอยู่ในช่วงอ่อนแอที่สุด พิษจะซึมเข้าสู่ร่ายกายได้ง่าย...”กล่าวได้ครึ่งหนึ่ง จู่ๆ เสิ่นป๋อเหลียงคล้ายกับนึกอะไรขึ้นมา หันไปมองเยี่ยเป่ยเฉิง พร้อมถามด้วยความตกใจ “พระชายา...นางเคยบาดเจ็บหรือไม่?”เยี่ยเป่ยเฉิงกล่าวตอบ “เคย”เดิมทีนางทำเพื่อหวังจะช่วยเขา ขึ้นเขาไปหางูดำหางไหม้เพียงลำพัง กลับมาพร้อมกับบาดแผลทั่วร่าง...เสิ่นป๋อเหลียงกล่าว “ถ้าเช่นนั้นก็ถูกแล้ว ข้าน้อยเดาว่า อาการของพระชายา น่าจะเกี่ยวข้องกับถุงผ้านี้...”เยี่ยเป่ยเฉิงสูดลมหายใจเข้าลึกในยามนี้ เขาได้กระจ่างแจ้งต่อเรื่องราวทุกอย่างมิน่าเล่า นางมักจะบอกว่าไม่อยากอยู่ในเรือนอวิ๋นซวนมิน่าเล่า นางมักบอกว่ากลางคืนชอบฝันร้าย แม้เขาจะอยู่เป็นเพื่อน นางก็นอนหลับไม่สนิท...มิน่าเล่า นางเริ่มมีอารมณ์แปรปรวน เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้ายเอาแน่ไม่ได้มิน่าเล่า นางคิดจะฆ่าเจียงหว่านให้จงได้...ทั้งที่เมื่อก่อนนางเป็นคนอ่อนน้อม ว่านอนสอนง่ายราวกับกระต่ายน้อยตัวหนึ่ง...แต่เขากลับไม่เชื่อนาง คิดว่านั่นเพราะนางเป็นโรคเครียด เพราะป่วยหน

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 621

    เยี่ยเป่ยเฉิงกล่าว “นางมิได้ตั้งใจ เพียงได้รับความกระทบกระเทือนหนัก จึงทำให้ขาดสติไป ข้าไม่เคยคิดตำหนิ”เมื่อได้ยินดังนี้ เสิ่นป๋อเหลียงก็พอคาดเดาได้บ้าง จึงหยิบผ้าพันแผลออกมา พร้อมทำแผลให้เขาใหม่ และกล่าว “เป็นฝีมือพระชายาใช่หรือไม่?”เห็นเยี่ยเป่ยเฉิงไม่กล่าวตอบ เสิ่นป๋อเหลียงยิ่งรู้ดีแก่ใจ จึงไม่ถามมากความอีกแผ่นดินนี้ คงมีเพียงสตรีผู้นี้เท่านั้นที่กล้าทำร้ายเขาโดยไม่หวาดกลัว ซ้ำยังได้รับการอภัยโดยปราศจากเงื่อนไขใดๆ อีกพันแผลเสร็จเรียบร้อย เสิ่นป๋อเหลียงจึงกล่าวกำชับ “บาดแผลยังไม่แห้งสนิทดี อย่าให้โดนน้ำเป็นอันขาด...”ขาดคำไม่ทันไร จมูกก็ได้กลิ่นหอมประหลาดบางอย่างโชยมาเสิ่นป๋อเหลียงขมวดคิ้วเล็กน้อย พลางสูดกลิ่นหอมประหลาดนั่น แล้วสายตาก็ไปหยุดที่ถุงผ้าใบหนึ่งที่เหน็บอยู่ช่วงเอวของเยี่ยเป่ยเฉิง“ท่านอ๋อง ถุงผ้าใบนั้นให้ข้าดูหน่อยได้หรือไม่?”นั่นเป็นถุงผ้าที่หลินซวงเอ๋อร์เป็นคนปักให้เขา เยี่ยป่ยเฉิงย่อมไม่ยินดีจะมอบให้ผู้อื่นแต่เห็นเสิ่นป๋อเหลียงมีสีหน้าเคร่งเครียด จึงได้ถาม “ทำไมรึ? ถุงผ้าข้ามีสิ่งใดผิดปกติหรืออย่างไร?”เสิ่นป๋อเหลียงกล่าว “ข้อนี้คงต้องถามท่านอ๋อง ว่าภา

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 620

    เมื่อได้ยินว่าเสิ่นป๋อเหลียงกลับมา เยี่ยเป่ยเฉิงก็พลันหยุดชะงัก พร้อมถามเสวียนอู่ “เขาอยู่ที่ใด?”เสวียนอู่กล่าว “เขารู้ว่าหลายวันนี้ท่านอ๋องตามหาอยู่ ดังนั้น เมื่อกลับถึงเมืองหลวง ข้าน้อยจึงรีบพาตัวมาทันที ตอนนี้อยู่ค่ายทหารขอรับ”เยี่ยเป่ยเฉิงกล่าว “เหมาะเลย ข้ากำลังจะกลับจวน ให้เขาตามข้ากลับไปด้วยกัน!”“ขอรับ”เสวียนอู่รีบไปเตรียมรถม้ามาคันหนึ่ง ให้เยี่ยเป่ยเฉิงและเสิ่นป๋อเหลียงโดยสารพร้อมกันภายในรถม้า เยี่ยเป่ยเฉิงมีสีหน้าเคร่งขรึม เสิ่นป๋อเหลียงนั่งอยู่ด้านข้างจึงไม่กล้าพูดจาช่วงเวลาที่ผ่านมา เขาออกจากวังไปท่องเที่ยว เยี่ยเป่ยเฉิงได้มีจดหมายส่งถึงเขาหลายครั้ง เดิมทีควรรีบกลับมาเมืองหลวงนานแล้ว แต่ระหว่างทางกลับมีอุปสรรคมาขวางกั้น จนทำให้เสียเวลาไปมากและบัดนี้ เขาได้กลับถึงเมืองหลวงแล้ว รู้ว่าเยี่ยเป่ยเฉิงต้องการพบเขาคงมีเรื่องเร่งด่วน ทันทีที่มาถึงจึงมาขอพบเยี่ยเป่ยเฉิงก่อนแต่เยี่ยเป่ยเฉิงกลับไม่พูดไม่จา สีหน้าเคร่งเครียดหมองคล้ำ ดูแล้วน่าประหลาดใจยิ่งชั่วขณะนั้น ทั้งคู่ต่างไม่มีการพูดคุย บรรยากาศภายในรถม้าค่อนข้างตึงเครียดเสิ่นป๋อเหลียงเป็นฝ่ายอธิบายก่อน “ใช่ว่าข้

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 619

    ไม่เหลือซากให้เห็น และไม่ได้ออกมาอีกลมเย็นพัดกรูมา เขารู้สึกคล้ายร่างกายถูกหินก้อนใหญ่มากดทับไว้ จนเลือดท่วมทะลัก เจ็บปวดอย่างเหลือแสน...“ไม่...ไม่นะ...”ไป๋อวี้ถังรีบก้าวเท้าพุ่งตัวไป พร้อมเอามือตะกุยดินอย่างบ้าคลั่ง ราวกับสูญเสียสติสัมปชัญญะไปเสียสิ้น“ซวงเอ๋อร์ ข้าไม่ยอมให้เจ้าตาย ข้าจะช่วยเจ้าออกมา ข้าจะช่วยเจ้าออกมาให้ได้...”“เราตกลงว่าจะไปเมืองหยางโจวด้วยกัน เจ้าอย่าทิ้งข้าไปนะ ซวงเอ๋อร์ อย่าทิ้งข้าไป...”เมื่อรอบข้างสงบลง ชาวบ้านก็ต่างแห่กันมา เมื่อเห็นไป๋อวี้ถังเอามือตะกุยดินราวกับไม่คิดชีวิต จนนิ้วมือมีเลือดออก ก็ต่างส่ายหน้าและกล่าวเตือน “คุณชาย ช่างเถิดนะ อย่าขุดอีกเลย ถ้าใครถูกฝังอยู่ใต้ล่าง อย่างไรก็ไม่รอดอยู่แล้ว”ไป๋อวี้ถังไม่ยอมรับฟัง พลางวิ่งเข้าหมู่บ้านถือพลั่วมาหนึ่งอัน ขุดดินไปอย่างบ้าคลั่งอีกเมื่อเห็นเขาเตือนแล้วไม่ฟัง ชาวบ้านบางรายก็ไปช่วยขุดบ้างมีคนหนึ่งกล่าวเตือนเขา “คุณชายก็อย่าเสียใจมากนัก บางที สหายท่านอาจจะรอดตายหวุดหวิด หรือไม่ก็ ไม่ได้รออยู่ที่เชิงเขานี้”ไป๋อวี้ถังหยุดชะงักโดยพลัน นัยน์ตาแดงก่ำ มองชาวบ้านผู้นั้นด้วยความหวัง พลางกล่าว “จริงร

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 618

    ไป๋อวี้ถังขี่ม้ามาถึงหมู่บ้านแห่งหนึ่ง เขามองหาบ่อน้ำ แล้วจึงเอากระเป๋าใส่น้ำที่พกติดตัวมาบรรจุน้ำในบ่อจนเต็มหมู่บ้านนี้มีผู้คนอยู่ห่างๆ เพียงไม่กี่ครัวเรือน เดิมไป๋อวี้ถังไม่คิดจะอยู่นาน แต่พอรอนแรมมาไกลมาก อีกทั้งละแวกนี้ก็ไม่มีโรงเตี๊ยมพอให้พักอาศัยหากคิดจะหาโรงเตี๊ยมจริงๆ ก็ต้องเดินทางต่อไปอีกประมาณสิบกว่าลี้เพื่อไม่ให้หลินซวงเอ๋อร์ต้องหิวข้าว ไป๋อวี้ถังจึงไปหาครอบครัวหนึ่ง พร้อมใช้เงินซื้อหมั่นโถวหลายลูกที่พวกเขาเพิ่งนึ่งเสร็จใหม่ๆ เนื่องจากเขาเป็นคนใจป้ำ ครอบครัวชาวบ้านธรรมดาทำงานหนึ่งปียังไม่ได้เงินมากมายเท่านี้ จึงได้แถมนมแพะที่รีดเองให้แก่ไป๋อวี้ถังไปด้วยเป็นนมที่เพิ่งผ่านการต้มมา ดื่มแล้วช่วยให้ร่างกายอบอุ่นขึ้นมากไป๋อวี้ถึงจึงไม่ปฏิเสธ ยอมรับมาแต่โดยดีแต่เขาไม่กล้าให้หลินซวงเอ๋อร์คอยนาน ขณะหันหลังคิดจะกลับนั้น จู่ๆ มีหญิงชราร้องเรียกจากด้านหลัง“คุณชาย หากไม่รีบร้อนเดินทาง เชิญค้างที่นี่สักคืนค่อยไปก็ได้”ไป๋อวี้ถังกล่าวตอบ “อย่าเลย ข้างหน้ายังมีคนรออยู่”หญิงชรามองดูท้องฟ้า พลางกล่าว “พรุ่งนี้ค่อยไปก็ยังไม่สาย คุณชายไปพาเพื่อนมาด้วยก็ได้ หลายวันนี้มีฝนตกหน

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 617

    ไป๋อวี้ถังกล่าวตอบ “ข้าก็คิดเช่นนั้น”หลินซวงเอ๋อร์มองหน้าเขาพร้อมยิ้มเล็กน้อย นางกล่าวต่อ “ถ้าเช่นนั้นข้าขอไปก่อน ขอให้พี่ไป๋มีความสุขในเร็ววัน ลาก่อน”กล่าวจบ นางไม่รอช้าที่จะปล่อยผ้าม่านลงไป๋อวี้ถังสีหน้าเปลี่ยนโดยพลัน รีบร้อนกล่าวต่อ “แม่นางซวงเอ๋อร์รอประเดี๋ยว...”ได้ยินเสียงร้องเรียกของไป๋อวี้ถัง หลินซวงเอ๋อร์จึงแหวกผ้าม่านด้วยความสงสัยอีกครั้งในยามนี้ ดวงอาทิตย์ลอยขึ้นสูง แดดภายนอกจึงแสบตายิ่ง หลินซวงเอ๋อร์ยกมือขึ้นบังตา เพื่อลดความแรงกล้าของแสง พลางกล่าวเสียงอ่อนโยน “พี่ไป๋ ท่านยังมีเรื่องอันใดอีก?”นางยังต้องรีบเดินทางต่อ ไม่อยากพูดคุยกับเขานานไป๋อวี้ถังกล่าว “แม่นางซวงเอ๋อร์คิดดีแล้วหรือไม่ว่าจะไปที่ใด หรือเราสองคนจะเดินทางด้วยกัน?”น้ำเสียงเขาฟังดูราบเรียบ คล้ายกับไม่ตั้งใจกดดัน เพียงแต่ถามไปเรื่อยเปื่อยแต่หลินซวงเอ๋อร์แทบไม่ต้องคิด นางรีบกล่าวตอบ “อย่าเลย ข้ายังไม่ได้คิดว่าจะไปที่ใด แผ่นดินกว้างใหญ่ ไปถึงแห่งใดก็อยู่ตรงนั้นก่อน”ไป๋อวี้ถังกล่าวยิ้มๆ “เช่นนั้นก็ประจวบเหมาะนัก ข้าก็ไม่คิดจะไปที่ใด หรือเราจะเดินทางด้วยกัน เพราะหนทางยังอีกยาวไกล หากมีเพื่อนพูดคุยก

DMCA.com Protection Status