แชร์

บทที่ 520

ผู้แต่ง: พิณเคล้าสายฝน
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-29 19:42:56
วันต่อมา

หลินซวงเอ๋อร์ตื่นขึ้นมาในอ้อมแขนเยี่ยเป่ยเฉิง

ตื่นมาก็ยามเฉินแล้ว ดวงตะวันลอยสูงเหนือท้องฟ้าเป็นที่เรียบร้อย

หลินซวงเอ๋อร์ยังคงมีสภาพเหมือนไม่ได้นอน สองตายังคงขมุกขมัว

เยี่ยเป่ยเฉิงยื่นมือ จับปอยผมกระเซิงคล้องหูนาง ก่อนเอ่ยเสียงอ่อนโยน “เมื่อคืนซวงเอ๋อร์ฝันร้ายอะไรหรือ?”

เมื่อคืนทั้งคืน นางแทบนอนหลับไม่ได้ ข้างในเสื้อยังชุ่มไปด้วยเหงื่อเย็น เยี่ยเป่ยเฉิงกลัวนางไม่สบาย จึงลุกมาเปลี่ยนชุดนอนแห้งสบายให้นางยามครึ่งค่อนคืน

กลัวว่านางจะฝันร้ายอีก เยี่ยเป่ยเฉิงจึงมิกล้าหลับตา คอยกอดนางทั้งคืนกระทั่งฟ้าสาง

กระทั่งสองชั่วยามสุดท้าย นางถึงได้นอนหลับลง

ยามฟ้าสาง นางยังไม่ตื่น เยี่ยเป่ยเฉิงก็ไม่รบกวนนาง อยากให้นางได้นอนอีกสักนิด

ครั้นได้หลับ ก็หลับยาวก่อนตื่นขึ้นเมื่อครู่

“ฝันร้าย? ” หลินซวงเอ๋อร์ยังงุนงง

นางจำไม่ได้ว่าตนฝันร้ายอะไร แค่รู้สึกว่าหน้าอกถูกทับไว้จนอึดอัด จึงเป็นสาเหตุทำให้นอนหลับไม่สนิท

“จำไม่ได้แล้วว่าฝันร้ายอะไร” หลินซวงเอ๋อร์เอ่ย

เยี่ยเป่ยเฉิงก้มจูบหน้าผากนาง เอ่ยด้วยความปวดใจ “คอยพี่สะสางธุระคามือให้เสร็จ จะมาอยู่ดูแลซวงเอ๋อร์ให้ดี มีพี่คอยอยู่ด้วย ซวงเอ๋อร
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 521

    เป็นความรู้สึกแปลกประหลาดที่เกิดเพียงวูบเดียว หลินซวงเอ๋อร์กล่าวเนิบๆ “ได้ ข้าจะยอมกินยา”เมื่อกำชับทุกอย่างเสร็จสิ้น เยี่ยเป่ยเฉิงก็ไม่อยู่นาน ออกจากจวนตรงไปยังค่ายทหารต่อเมื่อเยี่ยเป่ยเฉิงออกไปแล้ว หลินซวงเอ๋อร์จึงเปิดผ้าห่มแล้วลุกขึ้นเพิ่งลงจากเตียงไม่ทันไร พลันรู้สึกหน้ามืดวิงเวียน สมองคล้ายกับจะว่างเปล่าลงนางเกือบจะล้มลง พร้อมเซถอยหลังไปหลายก้าว จนหลังเอวกระแทกถูกขอบโต๊ะ เอาสองมือยันไว้จึงพอประคองร่างไม่ให้ล้มได้ความรู้สึกวิงเวียนค่อยบรรเทาลง ภาพเบื้องหน้ากลายเป็นสว่างขึ้นอีกครั้ง หลินซวงเอ๋อร์ยืนนิ่งพร้อมตั้งสติ ครู่ใหญ่จึงค่อยมีกำลังวังชาขึ้นมาบ้างนางไม่เข้าใจ ตลอดเวลาที่ผ่านนางได้กินยาตรงเวลา อีกทั้งแรกเริ่มนั้น อาการนางคล้ายจะดีขึ้นด้วยซ้ำแต่ไม่รู้เพราะเหตุใด มาถึงระยะหลัง อาการของโรคไม่เพียงไม่บรรเทา ยังกลับกลายเป็นซับซ้อนยิ่งกว่าเดิมหรือว่า ยาที่เจียงหว่านผสมให้ไม่เห็นผลแล้ว?ไม่รอให้นางคิดนาน หน้าประตูพลันมีเสียงเคาะประตูรัวๆ ดังขึ้นตงเหมยยืนอยู่ข้างนอกเรียกนางอยู่หลินซวงเอ๋อร์เดินไปเปิดประตู เห็นตงเหมยยืนอยู่ด้านนอกด้วยสีหน้าตื่นเต้น“มีอะไรหรือ” หลินซ

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 522

    ตงเหมยพาหมอเข้าจวนมาด้วยความรวดเร็วหมอผู้นี้เป็นชายชราวัยหกสิบปีเศษ มีอาชีพรักษาสัตว์เลี้ยงในครัวเรือน ไม่ว่าเป็นโรคร้ายแรงหรือไม่ หนักหนาสาหัสเพียงไหนก็ล้วนผ่านมาทั้งสิ้น ตงเหมยจึงตั้งใจไปเชิญเขามาดูตงเหมยบอกเล่าอาการของต้าหู่และเหมาเหมา หรงหรงให้ท่านหมอได้ฟังท่านหมอฟังอาการแล้วพลางก้มตัวลง ตรวจดูร่างกายของต้าหู่อย่างถี่ถ้วน“เป็นไปได้อย่างไรกัน” ท่านหมอมีสีหน้าครุ่นคิดหนักหลินซวงเอ๋อร์เห็นเข้าก็รู้สึกจิตใจไม่สู้ดี “ทำไมหรือเจ้าคะท่านหมอ มันป่วยเป็นโรคอะไร”ท่านหมอส่ายศีรษะ พร้อมลุกขึ้นยืนและกล่าว“เสือตัวนี้อาจกินอาหารบางอย่างผิดไป เป็นสิ่งที่มีพิษ จึงทำลายถูกอวัยวะภายในของมัน”หลินซวงเอ๋อร์มองหน้าตงเหมย ทั้งคู่ต่างสบตากันหลินซวงเอ๋อร์กล่าว “แต่มันกินอาหารเหมือนกันทุกวัน จะมีพิษได้อย่างไร?”ท่านหมอครุ่นคิดครู่หนึ่ง จึงได้กล่าวต่อ “อาหารบางชนิดมีฤทธิ์ต้านกัน แม้ว่าจะกินเพียงอย่างเดียว ก็อาจเกิดผลที่เป็นพิษได้”หลินซวงเอ๋อร์กล่าว “ถ้าเช่นนั้นแล้วจะทำอย่างไรดี? ท่านหมอพอมีวิธีรักษาหรือไม่เจ้าคะ”ท่านหมอกล่าว “แม้ข้าจะรักษาสัตว์มานานปี แต่ก็ไม่ใช่เทวดามาจุติ เสือตัวนี้ป่

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 523

    ท่านหมอกล่าว “หมู่นี้แม่นางได้กินยาอะไรบ้างหรือไม่?”หลินซวงเอ๋อร์กล่าวตอบ “มีเจ้าค่ะ ในจวนจะมีหมอคนหนึ่ง ทำหน้าที่คอยปรุงยาบำรุงให้ข้าโดยเฉพาะ”ท่านหมอกล่าว “ขอข้าดูยานี้หน่อยได้หรือไม่?”“ย่อมได้แน่นอน” หลินซวงเอ๋อร์พยักหน้าไปทางตงเหมย ตงเหมยเข้าใจความหมาย พลางรีบไปห้องปรุงยานำตัวยาออกมายาเหล่านี้ล้วนเป็นสูตรที่เจียงหว่านปรุงให้นางด้วยตนเอง และบอกว่ารักษาผลข้างเคียงของโรคได้ดีนักท่านหมอเปิดห่อยาออก พร้อมเกลี่ยยาให้กระจายตัว และหยิบตัวยาแต่ละชนิดขึ้นมาพิจารณาเขาเพ่งดูละเอียดมาก หากเจอยาที่ต้องสงสัย ยังมีการดมกลิ่นเพื่อให้แน่ใจหลินซวงเอ๋อร์ถาม “ยาเหล่านี้มีอะไรผิดปกติหรือไม่เจ้าคะ?”ท่านหมอครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง พลางกล่าวตอบ “ไม่มีสิ่งใดผิดปกติ ล้วนเป็นยาดีในการบำรุงประสาท ไม่มีผลต่อการทำงานของหัวใจ”“อาจเป็นเพราะ...” ท่านหมอครุ่นคิดก่อนตอบ “อาจเพราะแม่นางมีสุขภาพอ่อนแอ จึงไม่อาจต้านฤทธิ์ยาได้กระมัง”เมื่อเห็นหมอกล่าวเช่นนี้ หลินซวงเอ๋อร์จึงไม่อยากคิดมากอีก นางหันไปมองต้าหู่อีกครั้งพร้อมกล่าววิงวอน “เสือตัวนี้เป็นสัตว์เลี้ยงตัวโปรดของสามีข้า ท่านหมอลองหาวิธีช่วยเหลืออีกหน่

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 524

    จวบจนยามเย็น โม่อวิ๋นจึงมาหาเจียงหว่านที่ค่ายทหารเจียงหว่านอยู่ในค่ายกำลังปรุงยาถอนพิษตัวใหม่อยู่โม่อวิ๋นเดินมาใกล้นาง พร้อมช่วยบดยาให้ด้วยความชำนาญงาน“เป็นอย่างไรบ้าง?” เจียงหว่านถามเสียงค่อย ส่วนมือก็ยังทำงานอยู่โม่อวิ๋นยังคงช่วยบดยาเงียบๆ เสียงครกบดยาฟังแล้วดังลั่นอยู่ในค่ายทหาร คล้ายจงใจกลบเสียงสนทนาของพวกนาง“เสือตัวนั้นใกล้จะไม่ไหวแล้ว วันนี้หลินซวงเอ๋อร์ยังตามหมอมาดูอีก” โม่อวิ๋นรายงานตามความเป็นจริงเจียงหว่านเลิกคิ้วเล็กน้อย“แล้วกระต่ายสองตัวล่ะ” เจียงหว่านถามเนิบๆโม่อวิ๋นกล่าวตอบ “อาการเดียวกัน หลังกินยาก็ย่ำแย่เต็มที...”เจียงหว่านหยุดมือครู่หนึ่ง จากนั้นก็คัดยาตามปกติอีกครั้ง“ม้าตัวนั้นเป็นอย่างไร?” นางถามต่อโม่อวิ๋นขมวดคิ้ว “เจ้าม้าใจแข็งนัก ไม่ยอมกินอาหารที่บ่าวส่งให้เจ้าค่ะ”เจียงหว่านดูมีอาการตึงเครียดขึ้นหลายวันนี้นางผสมสูตรยาที่ใช้รักษาโรคระบาดอยู่หลายขนาน จากนั้นก็ใช้ผู้ป่วยมาทดลองยา ปรากฏว่าอาการแต่ละคนกลับยิ่งทรุดหนักมากขึ้น ซ้ำมีบางรายเพิ่งมีอาการเบื้องต้นก็ถึงแก่ชีวิตเสียแล้วยาของนางไม่เพียงไร้ประสิทธิภาพในการรักษา ยังไปซ้ำเติมอาการป่วยเสี

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 525

    เดิมทีนางแทบหมดความหวัง และไม่คาดหวังให้ต้าหู่ตอบโต้นางบ้าง เพียงหวังให้มันดีขึ้นเล็กน้อย ตนจะได้พูดคุยกับมันต่อเท่านั้นแต่นี่กลับเหนือความคาดหมาย จู่ๆ ต้าหู่ก็คลานขึ้นหน้ามา เอาลิ้นมาเลียน้ำที่อยู่ในมือหลินซวงเอ๋อร์ดีใจยิ่ง พลางรีบเอาชามใหญ่ที่รองน้ำให้มันกินต่อน้ำชามใหญ่นั้น ต้าหู่ก็กินจนหมดสิ้นหลินซวงเอ๋อร์ตื่นเต้นดีใจจนยืนขึ้น หันไปกล่าวต่อตงเหมยที่อยู่หลังเรือน “ตงเหมย ต้าหู่กินน้ำได้แล้ว เจ้ารีบไปเอาน้ำแกงกระดูกมาเร็วๆ...”เมื่อได้ยินดังนี้ ตงเหมยก็ดีใจเช่นกัน รีบวิ่งจากหลังเรือนออกมาดู ก็เห็นต้าหู่กำลังกินน้ำอยู่จริง จึงรู้สึกดีใจจนพูดไม่ออก “มัน...มัน...มัน...ดีขึ้นแล้วหรือเจ้าคะ?”หลินซวงเอ๋อร์กล่าวตอบ “เจ้ารีบไปห้องครัวต้มเนื้อมาให้มันชามหนึ่ง ดูว่าพอจะกินได้หรือไม่ หากกินได้ ไม่แน่อาจจะดีขึ้นจริง”“ได้ๆ ข้าจะไปเดี๋ยวนี้” ตงเหมยรีบไปห้องครัวต้มเนื้อทันทีหลินซวงเอ๋อร์ก้มตัวลง พลางลูบหัวของต้าหู่ กล่าวด้วยความห่วงใย “ต้าหู่ เจ้าต้องรีบหายไวๆ นะ”ต้าหู่ทำเสียงฟึดฟัดเล็กน้อย แม้จะไม่ดังมาก แต่ก็ทำให้หลินซวงเอ๋อร์ดีใจยิ่งเมื่อวานมันนอนแน่นิ่งอยู่ที่พื้น แทบไม่มีแรง

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 526

    เดิมทีหลินซวงเอ๋อร์เพียงหวังจะทดลองดู แต่ไม่คาดคิดว่า รุ่งขึ้นวันที่สอง อาการของเหมาเหมาและหรงหรงต่างดีขึ้นมาก การกินอาหารของต้าหู่ก็เพิ่มปริมาณขึ้นอีกหลายเท่าตัวนางจึงสั่งตงเหมยให้ไปเชิญหมอในวันนั้นกลับมาอีกท่านหมอมาถึงก็ตรวจร่างกายต้าหู่อย่างละเอียดตั้งแต่หัวจรดเท้า กลับพบว่าพิษในตัวเลือนหายโดยไม่ต้องรักษาเลยท่านหมอมีสีหน้าตกใจยิ่ง “ช่างเป็นเรื่องอัศจรรย์นัก ข้าอยู่มาครึ่งค่อนชีวิต นี่เป็นครั้งแรกที่เจอกับเหตุการณ์เช่นนี้”กล่าวพลาง เขาไปตรวจกระต่ายน้อยอีกสองตัว ก็พบว่าพิษในร่างกายหมดไปเช่นกัน คล้ายมีของบางอย่างมาช่วยถอนพิษให้ ท่านหมอมองหน้าหลินซวงเอ๋อร์ พลางกล่าว “แม่นางให้พวกมันกินอะไร พิษในตัวจึงได้สลายไปหมดเช่นนี้?”หลินซวงเอ๋อร์บอกไปตามตรง “ข้าก็ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเหตุใด แต่ดูเหมือนพวกมันได้เลียเลือดของข้า แล้วจึงค่อยๆ ดีขึ้นตามลำดับ”กล่าวพลาง หลินซวงเอ๋อร์จึงได้เปิดผ้าพันแผลในมือออก พร้อมพูดด้วยความสงสัย “จะเป็นเพราะเลือดของข้า สามารถช่วยถอนพิษในตัวพวกมันหรือไม่?”ท่านหมอรู้สึกคลางแคลงใจยิ่ง“ข้าไม่เคยพบเจอเรื่อประหลาดเช่นนี้มาก่อน ร่างกายแม่นางแตกต่างจากผู้อื่นหร

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 527

    ตงเหมยคิดอีกที พลางกล่าว “ถ้าอย่างไร บ่าวไปตามท่านอ๋องกลับมาดีหรือไม่เจ้าคะ”หลินซวงเอ๋อร์กล่าวตอบ “อย่าเลย ท่านพี่มีงานรัดตัว เรื่องเล็กน้อยเช่นนี้อย่าได้ไปรบกวนเขา...”กล่าวจบ ก็พลันมีบ่าวไพร่ผู้หนึ่งมารายงาน“พระชายา ข้างนอกมีคนมาขอพบ บอกว่ามีเรื่องด่วนขอรับ”“หาข้ารึ?” หลินซวงเอ๋อร์สีหน้าข้องใจ นอกจากนางเหยาซื่อแล้ว นางนึกไม่ออกว่าจะมีผู้ใดมาหาอีก และฉีหมิงก็ได้ถูกไป๋อวี้ถังช่วยเหลือไปแล้ว ไม่น่าจะมาหาตนได้บ่าวรายงานต่อ “แม่นางผู้นั้นบอกว่ามาจากในวัง ชื่อว่าจื่อหลันขอรับ”เมื่อได้ยินดังนี้ หลินซวงเอ๋อร์ก็แทบไม่ลังเล วิ่งออกไปต้อนรับทันทีจื่อหลันเป็นคนสนิทของฮุ่ยอี๋ นางมาหาตน ก็แสดงว่าฮุ่ยอี๋อาจเกิดเรื่องอะไรขึ้นทันทีที่เห็นหน้าหลินซวงเอ๋อร์ จื่อหลันก็ร้องไห้โผเข้ามา“พระชายา รีบไปดูองค์หญิงหน่อยเถิด...”จือหลันร้องไห้เสียจนหอบหนัก หลินซวงเอ๋อร์ได้แต่ปลอบใจนางก่อน“เกิดอะไรขึ้น เจ้าอย่าเพิ่งร้องไห้ พูดมาให้รู้เรื่องก่อน องค์หญิงเป็นอะไร?”จื่อหลันปาดน้ำตาบนใบหน้า พลางกล่าวเสียงสะอื้น “องค์หญิงป่วยหนักเจ้าค่ะ ยังถูกกักตัวอยู่ในตำหนักหลวนฟิ่ง ตำหนักใหญ่สั่งการลงมา ห้ามผู

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 528

    หลินซวงเอ๋อร์มองหน้าทั่วป๋าจิ่นด้วยความงุนงง “เหตุใดข้าจึงต้องเสียใจ องค์หญิงฮุ่ยอี๋เป็นน้องแท้ๆ ของท่าน ท่านยังเห็นด้วยที่จะกักขังนางไว้ รู้ทั้งรู้ว่านางป่วยอยู่”กล่าวพลาง ภายในตำหนักหลวนเฟิ่งก็มีเสียงไอหนักลอดออกมา ฟังแล้วน่าเป็นห่วงยิ่งหลินซวงเอ๋อร์สีหน้าเปลี่ยน คิดจะก้าวเท้าเข้าไปด้านใน“แม่นางซวงเอ๋อร์โปรดคิดให้ดีก่อน เข้าไปแล้วอาจจะออกมาไม่ได้อีก...”หลินซวงเอ๋อร์ชะงักฝีเท้า หันหน้ามามองเขาทั่วป๋าจิ่นกล่าวต่อ “แม่นางซวงเอ๋อร์ไม่อยากรู้หรือว่าฮุ่ยอี๋ป่วยเป็นโรคอะไร?”หลินซวงเอ๋อร์ไม่ตอบกลับ พลางเบือนสายตาไปมองจื่อหลัน ก็เห็นนางก้มหน้าลงคล้ายมีพิรุธ ในใจหลินซวงเอ๋อก็พอรู้ถึงความไม่ชอบมาพากล“จื่อหลัน องค์หญิงเป็นอะไรกันแน่” หลินซวงเอ๋อร์ซักถามจื่อหลันยิ่งก้มหน้าต่ำไปอีก คล้ายไม่มีแรงที่จะตอบคำถามของนางทันใดนั้น ทั่วป๋าจิ่นเป็นฝ่ายพูดขึ้นก่อน “แม่นางซวงเอ๋อร์อยู่แต่ในจวน ย่อมไม่รู้เกี่ยวกับเรื่องโรคระบาดรุนแรงในช่วงนี้ เพียงแต่ว่า ที่ข้าแปลกใจก็คือ เยี่ยเป่ยเฉิงก็ไม่ได้บอกเจ้าด้วยรึ?”หลินซวงเอ๋อร์ใบหน้าซีดเผือดลงพลัน“ท่านว่ากระไรนะ...”ทั่วป๋าจิ่นพอใจที่เห็นสีหน้า

บทล่าสุด

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 625

    เยี่ยเป่ยเฉิงมือสั่นขณะรับขวดกระเบื้องจากตงเหมยมาเนื้อสีขาวของขวดปรากฏเงาสีแดงรำไรอยู่ด้านในตงเหมยกล่าว “ท่านอ๋องบอกว่าจะเชื่อใจนางใช่หรือไม่เจ้าคะ? ถ้าเช่นนั้นบ่าวจะไม่นำไปให้องค์หญิงอีก ท่านอ๋องลองเอาเลือดซวงเอ๋อร์ไปทดสอบดูก็ได้ ว่าเป็นจริงดั่งที่นางว่าหรือไม่ ใช้รักษาโรคระบาดได้จริง!”“ถึงตอนนั้น ท่านอ๋องย่อมจะรู้เอง ว่าซวงเอ๋อร์ไม่ได้พูดโกหก...”เยี่ยเป่ยเฉิงรู้สึกจุกในอก ในยามนี้ เขาเกิดความกลัวที่จะนำไปพิสูจน์เพราะหากว่า ทุกอย่างเป็นจริงดั่งที่ตงเหมยพูด นั่นแสดงว่าเขาทรยศต่อความไว้วางใจของหลินซวงเอ๋อร์อีกครั้งในตอนนั้น นางเคยร่ำไห้พูดกับตนว่า เลือดของนางสามารถช่วยชีวิตคนได้แล้วเขาตอบว่าอย่างไร?อ้อ นึกออกแล้วเขาเย้ยหยันไปว่านางไม่ใช่เทวดา พร้อมกล่าวตำหนิว่านางชอบทำร้ายตนเองบ่อยครั้งสวรรค์ นี่เขาเป็นอะไรไป เขาได้กระทำสิ่งใดต่อนางไปบ้าง...เสวี่ยนอู่เห็นดังนี้ จึงรีบเดินมารับขวดไปจากมือเยี่ยเป่ยเฉิง พร้อมกล่าวต่อเขา “ในค่ายทหารยังมีผู้ป่วยอีกหลายคน ข้าน้อยจะนำไปทดสอบเดี๋ยวนี้...”เมื่อกล่าวเช่นนี้แล้ว ตงเหมยจึงไม่อยากพูดมากความอีก นางหันหลังเตรียมจะจากไป กลับถูก

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 624

    ตงเหมยกล่าวเสียงสะอื้น “เชื่อตอนนี้จะมีประโยชน์อันใดเจ้าคะ? ในยามที่นางโดดเดี่ยวสิ้นหวัง ท่านไม่อยู่เคียงข้าง นางสูญเสียลูกไป ท่านก็ไม่อยู่เคียงข้าง และบัดนี้นางล้มป่วย ท่านก็เอาร่างนางไปอยู่บ้านนอกแทน”“เชื่อตอนนี้จะมีประโยชน์อันใด ทุกอย่างล้วนสายเกินแก้!”ตงเหมยยิ่งพูดก็ยิ่งโมโห จนแทบอยากระบายความอัดอั้นที่หลินซวงเอ๋อร์ได้รับออกมาแทนนางให้หมดสิ้น“น่าเห็นใจซวงเอ๋อร์นัก...นางทำเพื่อท่าน ต้องทนกล้ำกลืนความเจ็บช้ำมากมาย ไม่เคยที่จะระบายให้ท่านฟังสักครั้ง”“คืนวันนั้น ท่านอ๋องจู่ๆ ทิ้งนางไป นางเพิ่งสูญเสียลูก ยังมีเลือดออกเต็มตัว ตอนบ่าวเปิดประตูเข้าไปเห็น รู้แต่ว่าแทบเป็นลมหมดสติ!”“บ่าวคิดจะบอกท่านให้รู้ แต่ซวงเอ๋อร์ไม่ต้องการให้ท่านเป็นห่วง นางบอกว่าท่านอ๋องเป็นคนทำงานใหญ่ ไม่ควรให้อยู่แต่ในเรือนหลัง ยิ่งกลัวว่าหากพูดไปแล้ว ท่านจะรังเกียจร่างกายที่ไม่สมบูรณ์ของนาง วันหน้าไม่อาจมีทายาทให้ท่านได้อีก”“แต่ว่า ท่านอ๋องรู้หรือไม่ ตอนสูญเสียลูกไปนั้น นางเจ็บปวดเพียงไหน ในใจรู้สึกสิ้นหวังเพียงใด?”“ท่านอ๋องเคยคิดปลอบประโลมจิตใจนางบ้างหรือไม่?”เยี่ยเป่ยเฉิงยืนตะลึงตัวแข็งทื่อ เลือดใน

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 623

    “ซวงเอ๋อร์ ซวงเอ๋อร์ ข้ากลับมาแล้ว”เยี่ยเป่ยเฉิงผลักประตูเรือนอวิ๋นซวน พร้อมเดินก้าวเข้าไปด้านใน แต่กลับพบว่าภายในว่างเปล่าผ้าห่มบนเตียงถูกพับไว้เรียบร้อย ข้าวของเครื่องใช้ก็จัดวางเป็นระเบียบ ราวกับมีคนมาจัดเก็บแล้วหนึ่งรอบเมื่อเห็นหลินซวงเอ๋อร์ไม่อยู่ในห้อง เยี่ยเป่ยเฉิงก็คิดว่านางคงไปห้องหนังสือเพราะที่ผ่านมา นางมักชอบเก็บตัวในห้องนั้นเพื่อเขียนหนังสือเงียบๆ เมื่อนึกถึงตรงนี้ เขาจึงรีบออกจากเรือนอวิ๋นซวน ตรงไปยังห้องหนังสือทันทีที่ไหนได้ ห้องหนังสือก็ไม่มีร่องรอยของนาง อุปกรณ์เครื่องเขียนบนโต๊ะจัดวางเป็นระเบียบ พู่กันที่นางเคยใช้บ่อยๆ คล้ายมีการล้างน้ำจนสะอาดสะอ้าน เยี่ยเป่ยเฉิงขมวดคิ้วเล็กน้อย พลางก้าวเดินออกจากห้องหนังสือ เดินตามหาไปยังทุกห้อง ก็ไม่เห็นแม้แต่เงาของนางจนกระทั่งตงเหมยกลับมาจากเรือนด้านหน้าทันทีที่เห็นตงเหมย เยี่ยเป่ยเฉิงก็รีบปรี่ไปหา “ซวงเอ๋อร์เล่า นางอยู่ที่ใด?”ในมือตงเหมยถือกล่องอยู่ใบหนึ่ง เมื่อเผชิญกับคำถามของเยี่ยเป่ยเฉิง นางมิได้ตอบกลับ นอกจากยื่นกล่องในมือให้แก่เยี่ยเป่ยเฉิง“นี่คือเครื่องประดับที่ท่านอ๋องซื้อให้ซวงเอ๋อร์ ก่อนจากไป นางได้ม

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 622

    เสิ่นป๋อเหลียงกล่าว “ท่านอ๋องกล่าวถูกต้อง ยาชนิดนี้ไม่อาจพกติดตัวได้ โดยเฉพาะยามเข้านอน ร่างกายมนุษย์จะอยู่ในช่วงอ่อนแอที่สุด พิษจะซึมเข้าสู่ร่ายกายได้ง่าย...”กล่าวได้ครึ่งหนึ่ง จู่ๆ เสิ่นป๋อเหลียงคล้ายกับนึกอะไรขึ้นมา หันไปมองเยี่ยเป่ยเฉิง พร้อมถามด้วยความตกใจ “พระชายา...นางเคยบาดเจ็บหรือไม่?”เยี่ยเป่ยเฉิงกล่าวตอบ “เคย”เดิมทีนางทำเพื่อหวังจะช่วยเขา ขึ้นเขาไปหางูดำหางไหม้เพียงลำพัง กลับมาพร้อมกับบาดแผลทั่วร่าง...เสิ่นป๋อเหลียงกล่าว “ถ้าเช่นนั้นก็ถูกแล้ว ข้าน้อยเดาว่า อาการของพระชายา น่าจะเกี่ยวข้องกับถุงผ้านี้...”เยี่ยเป่ยเฉิงสูดลมหายใจเข้าลึกในยามนี้ เขาได้กระจ่างแจ้งต่อเรื่องราวทุกอย่างมิน่าเล่า นางมักจะบอกว่าไม่อยากอยู่ในเรือนอวิ๋นซวนมิน่าเล่า นางมักบอกว่ากลางคืนชอบฝันร้าย แม้เขาจะอยู่เป็นเพื่อน นางก็นอนหลับไม่สนิท...มิน่าเล่า นางเริ่มมีอารมณ์แปรปรวน เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้ายเอาแน่ไม่ได้มิน่าเล่า นางคิดจะฆ่าเจียงหว่านให้จงได้...ทั้งที่เมื่อก่อนนางเป็นคนอ่อนน้อม ว่านอนสอนง่ายราวกับกระต่ายน้อยตัวหนึ่ง...แต่เขากลับไม่เชื่อนาง คิดว่านั่นเพราะนางเป็นโรคเครียด เพราะป่วยหน

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 621

    เยี่ยเป่ยเฉิงกล่าว “นางมิได้ตั้งใจ เพียงได้รับความกระทบกระเทือนหนัก จึงทำให้ขาดสติไป ข้าไม่เคยคิดตำหนิ”เมื่อได้ยินดังนี้ เสิ่นป๋อเหลียงก็พอคาดเดาได้บ้าง จึงหยิบผ้าพันแผลออกมา พร้อมทำแผลให้เขาใหม่ และกล่าว “เป็นฝีมือพระชายาใช่หรือไม่?”เห็นเยี่ยเป่ยเฉิงไม่กล่าวตอบ เสิ่นป๋อเหลียงยิ่งรู้ดีแก่ใจ จึงไม่ถามมากความอีกแผ่นดินนี้ คงมีเพียงสตรีผู้นี้เท่านั้นที่กล้าทำร้ายเขาโดยไม่หวาดกลัว ซ้ำยังได้รับการอภัยโดยปราศจากเงื่อนไขใดๆ อีกพันแผลเสร็จเรียบร้อย เสิ่นป๋อเหลียงจึงกล่าวกำชับ “บาดแผลยังไม่แห้งสนิทดี อย่าให้โดนน้ำเป็นอันขาด...”ขาดคำไม่ทันไร จมูกก็ได้กลิ่นหอมประหลาดบางอย่างโชยมาเสิ่นป๋อเหลียงขมวดคิ้วเล็กน้อย พลางสูดกลิ่นหอมประหลาดนั่น แล้วสายตาก็ไปหยุดที่ถุงผ้าใบหนึ่งที่เหน็บอยู่ช่วงเอวของเยี่ยเป่ยเฉิง“ท่านอ๋อง ถุงผ้าใบนั้นให้ข้าดูหน่อยได้หรือไม่?”นั่นเป็นถุงผ้าที่หลินซวงเอ๋อร์เป็นคนปักให้เขา เยี่ยป่ยเฉิงย่อมไม่ยินดีจะมอบให้ผู้อื่นแต่เห็นเสิ่นป๋อเหลียงมีสีหน้าเคร่งเครียด จึงได้ถาม “ทำไมรึ? ถุงผ้าข้ามีสิ่งใดผิดปกติหรืออย่างไร?”เสิ่นป๋อเหลียงกล่าว “ข้อนี้คงต้องถามท่านอ๋อง ว่าภา

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 620

    เมื่อได้ยินว่าเสิ่นป๋อเหลียงกลับมา เยี่ยเป่ยเฉิงก็พลันหยุดชะงัก พร้อมถามเสวียนอู่ “เขาอยู่ที่ใด?”เสวียนอู่กล่าว “เขารู้ว่าหลายวันนี้ท่านอ๋องตามหาอยู่ ดังนั้น เมื่อกลับถึงเมืองหลวง ข้าน้อยจึงรีบพาตัวมาทันที ตอนนี้อยู่ค่ายทหารขอรับ”เยี่ยเป่ยเฉิงกล่าว “เหมาะเลย ข้ากำลังจะกลับจวน ให้เขาตามข้ากลับไปด้วยกัน!”“ขอรับ”เสวียนอู่รีบไปเตรียมรถม้ามาคันหนึ่ง ให้เยี่ยเป่ยเฉิงและเสิ่นป๋อเหลียงโดยสารพร้อมกันภายในรถม้า เยี่ยเป่ยเฉิงมีสีหน้าเคร่งขรึม เสิ่นป๋อเหลียงนั่งอยู่ด้านข้างจึงไม่กล้าพูดจาช่วงเวลาที่ผ่านมา เขาออกจากวังไปท่องเที่ยว เยี่ยเป่ยเฉิงได้มีจดหมายส่งถึงเขาหลายครั้ง เดิมทีควรรีบกลับมาเมืองหลวงนานแล้ว แต่ระหว่างทางกลับมีอุปสรรคมาขวางกั้น จนทำให้เสียเวลาไปมากและบัดนี้ เขาได้กลับถึงเมืองหลวงแล้ว รู้ว่าเยี่ยเป่ยเฉิงต้องการพบเขาคงมีเรื่องเร่งด่วน ทันทีที่มาถึงจึงมาขอพบเยี่ยเป่ยเฉิงก่อนแต่เยี่ยเป่ยเฉิงกลับไม่พูดไม่จา สีหน้าเคร่งเครียดหมองคล้ำ ดูแล้วน่าประหลาดใจยิ่งชั่วขณะนั้น ทั้งคู่ต่างไม่มีการพูดคุย บรรยากาศภายในรถม้าค่อนข้างตึงเครียดเสิ่นป๋อเหลียงเป็นฝ่ายอธิบายก่อน “ใช่ว่าข้

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 619

    ไม่เหลือซากให้เห็น และไม่ได้ออกมาอีกลมเย็นพัดกรูมา เขารู้สึกคล้ายร่างกายถูกหินก้อนใหญ่มากดทับไว้ จนเลือดท่วมทะลัก เจ็บปวดอย่างเหลือแสน...“ไม่...ไม่นะ...”ไป๋อวี้ถังรีบก้าวเท้าพุ่งตัวไป พร้อมเอามือตะกุยดินอย่างบ้าคลั่ง ราวกับสูญเสียสติสัมปชัญญะไปเสียสิ้น“ซวงเอ๋อร์ ข้าไม่ยอมให้เจ้าตาย ข้าจะช่วยเจ้าออกมา ข้าจะช่วยเจ้าออกมาให้ได้...”“เราตกลงว่าจะไปเมืองหยางโจวด้วยกัน เจ้าอย่าทิ้งข้าไปนะ ซวงเอ๋อร์ อย่าทิ้งข้าไป...”เมื่อรอบข้างสงบลง ชาวบ้านก็ต่างแห่กันมา เมื่อเห็นไป๋อวี้ถังเอามือตะกุยดินราวกับไม่คิดชีวิต จนนิ้วมือมีเลือดออก ก็ต่างส่ายหน้าและกล่าวเตือน “คุณชาย ช่างเถิดนะ อย่าขุดอีกเลย ถ้าใครถูกฝังอยู่ใต้ล่าง อย่างไรก็ไม่รอดอยู่แล้ว”ไป๋อวี้ถังไม่ยอมรับฟัง พลางวิ่งเข้าหมู่บ้านถือพลั่วมาหนึ่งอัน ขุดดินไปอย่างบ้าคลั่งอีกเมื่อเห็นเขาเตือนแล้วไม่ฟัง ชาวบ้านบางรายก็ไปช่วยขุดบ้างมีคนหนึ่งกล่าวเตือนเขา “คุณชายก็อย่าเสียใจมากนัก บางที สหายท่านอาจจะรอดตายหวุดหวิด หรือไม่ก็ ไม่ได้รออยู่ที่เชิงเขานี้”ไป๋อวี้ถังหยุดชะงักโดยพลัน นัยน์ตาแดงก่ำ มองชาวบ้านผู้นั้นด้วยความหวัง พลางกล่าว “จริงร

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 618

    ไป๋อวี้ถังขี่ม้ามาถึงหมู่บ้านแห่งหนึ่ง เขามองหาบ่อน้ำ แล้วจึงเอากระเป๋าใส่น้ำที่พกติดตัวมาบรรจุน้ำในบ่อจนเต็มหมู่บ้านนี้มีผู้คนอยู่ห่างๆ เพียงไม่กี่ครัวเรือน เดิมไป๋อวี้ถังไม่คิดจะอยู่นาน แต่พอรอนแรมมาไกลมาก อีกทั้งละแวกนี้ก็ไม่มีโรงเตี๊ยมพอให้พักอาศัยหากคิดจะหาโรงเตี๊ยมจริงๆ ก็ต้องเดินทางต่อไปอีกประมาณสิบกว่าลี้เพื่อไม่ให้หลินซวงเอ๋อร์ต้องหิวข้าว ไป๋อวี้ถังจึงไปหาครอบครัวหนึ่ง พร้อมใช้เงินซื้อหมั่นโถวหลายลูกที่พวกเขาเพิ่งนึ่งเสร็จใหม่ๆ เนื่องจากเขาเป็นคนใจป้ำ ครอบครัวชาวบ้านธรรมดาทำงานหนึ่งปียังไม่ได้เงินมากมายเท่านี้ จึงได้แถมนมแพะที่รีดเองให้แก่ไป๋อวี้ถังไปด้วยเป็นนมที่เพิ่งผ่านการต้มมา ดื่มแล้วช่วยให้ร่างกายอบอุ่นขึ้นมากไป๋อวี้ถึงจึงไม่ปฏิเสธ ยอมรับมาแต่โดยดีแต่เขาไม่กล้าให้หลินซวงเอ๋อร์คอยนาน ขณะหันหลังคิดจะกลับนั้น จู่ๆ มีหญิงชราร้องเรียกจากด้านหลัง“คุณชาย หากไม่รีบร้อนเดินทาง เชิญค้างที่นี่สักคืนค่อยไปก็ได้”ไป๋อวี้ถังกล่าวตอบ “อย่าเลย ข้างหน้ายังมีคนรออยู่”หญิงชรามองดูท้องฟ้า พลางกล่าว “พรุ่งนี้ค่อยไปก็ยังไม่สาย คุณชายไปพาเพื่อนมาด้วยก็ได้ หลายวันนี้มีฝนตกหน

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 617

    ไป๋อวี้ถังกล่าวตอบ “ข้าก็คิดเช่นนั้น”หลินซวงเอ๋อร์มองหน้าเขาพร้อมยิ้มเล็กน้อย นางกล่าวต่อ “ถ้าเช่นนั้นข้าขอไปก่อน ขอให้พี่ไป๋มีความสุขในเร็ววัน ลาก่อน”กล่าวจบ นางไม่รอช้าที่จะปล่อยผ้าม่านลงไป๋อวี้ถังสีหน้าเปลี่ยนโดยพลัน รีบร้อนกล่าวต่อ “แม่นางซวงเอ๋อร์รอประเดี๋ยว...”ได้ยินเสียงร้องเรียกของไป๋อวี้ถัง หลินซวงเอ๋อร์จึงแหวกผ้าม่านด้วยความสงสัยอีกครั้งในยามนี้ ดวงอาทิตย์ลอยขึ้นสูง แดดภายนอกจึงแสบตายิ่ง หลินซวงเอ๋อร์ยกมือขึ้นบังตา เพื่อลดความแรงกล้าของแสง พลางกล่าวเสียงอ่อนโยน “พี่ไป๋ ท่านยังมีเรื่องอันใดอีก?”นางยังต้องรีบเดินทางต่อ ไม่อยากพูดคุยกับเขานานไป๋อวี้ถังกล่าว “แม่นางซวงเอ๋อร์คิดดีแล้วหรือไม่ว่าจะไปที่ใด หรือเราสองคนจะเดินทางด้วยกัน?”น้ำเสียงเขาฟังดูราบเรียบ คล้ายกับไม่ตั้งใจกดดัน เพียงแต่ถามไปเรื่อยเปื่อยแต่หลินซวงเอ๋อร์แทบไม่ต้องคิด นางรีบกล่าวตอบ “อย่าเลย ข้ายังไม่ได้คิดว่าจะไปที่ใด แผ่นดินกว้างใหญ่ ไปถึงแห่งใดก็อยู่ตรงนั้นก่อน”ไป๋อวี้ถังกล่าวยิ้มๆ “เช่นนั้นก็ประจวบเหมาะนัก ข้าก็ไม่คิดจะไปที่ใด หรือเราจะเดินทางด้วยกัน เพราะหนทางยังอีกยาวไกล หากมีเพื่อนพูดคุยก

DMCA.com Protection Status