แชร์

บทที่ 517

ผู้แต่ง: พิณเคล้าสายฝน
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-29 19:42:56
“ท่านพี่ ท่านยืนอยู่หน้าประตูทำไมหรือ? ท่านรีบเข้ามาสิ…”

เยี่ยเป่ยเฉิงถูกนางลากเข้ามาในห้องทั้งที่ยังนิ่งๆ อยู่อย่างนั้น

หลินซวงเอ๋อร์หมุนตัวไปอยู่ด้านหลังเขาอีกครั้ง และจะปลดเสื้อคลุมบนตัวเขาออก อาจจะเป็นเพราะง่วงเกินไป ปากนางเอาแต่หาวไม่หยุด

จู่ๆ เยี่ยเป่ยเฉิงก็จับมือนางไว้ พลางหมุนตัว กอดนางไว้แน่น

หลินซวงเอ๋อร์หยุดชะงักทุกอย่าง ขยี้ตาที่ง่วงงุน ก่อนถามเขาด้วยความนุ่มนวล “ท่านพี่ ท่านเป็นอะไรหรือ?”

เยี่ยเป่ยเฉิงระงับความรู้สึก และกล่าวด้วยเสียงแหบพร้า “ขอโทษ ซวงเอ๋อร์ พี่ผิดสัญญา พี่ลืมวันสำคัญของเรา พี่ทำให้ซวงเอ๋อร์รอทั้งคืน…”

เขากระชับกอดแน่นมาก หลินซวงเอ๋อร์หายใจไม่ค่อยออกเล็กน้อย

กระนั้นนางไม่ได้ผละเขาออกแต่อย่างใด ตรงข้ามกลับเอื้มมือกอดเอวเขาตอบ และกล่าวปลอบ “ไม่เป็นไร ท่านพี่ไม่มาต้องมีเหตุผลแน่ ท่านพี่ยุ่งมากเลยใช่หรือไม่? ยุ่งจนลืมว่าเมื่อวานคือวันไหว้พระจันทร์ใช่หรือไม่?”

เยี่ยเป่ยเฉิงตอบกลับ “อืม” เสียงเบา แขนยิ่งกระชับแน่น แทบอยากเอานางเข้าไปสิงในร่างของตัวเอง

หลินซวนเอ๋อร์ยิ้มเล็กน้อย “ข้าเดาว่าต้องเป็นแบบนี้ ท่านพี่ไม่มาอย่างไม่มีเหตุผลแน่นอน แม้ไม่มา ท่านพี่ก
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 518

    “ซวงเอ๋อร์ไม่โกรธพี่สักนิดเลยหรือ?” เยี่ยเป่ยเฉิงถามขึ้นมาอย่างทนไม่ไหวหลินซวงเอ๋อร์เงยหน้าด้วยความประหลาดใจ พลางถามเขากลับ “เหตุใดต้องโกรธด้วย? ท่านพี่ไม่ได้ตั้งใจผิดนัดเสียหน่อย ท่านพี่มีเรื่องเร่งด่วนต้องจัดการ อีกอย่าง ตอนนี้ท่านพี่ก้กลับมาแล้วไม่ใช่หรือ?”“ซวงเอ๋อร์…” เยี่ยเป่ยเฉิงหัวใจเต้นแรง ก่อนขานเรียกนางอย่างอดใจไม่ไหว“หืม?”หลินซวงเอ๋อร์ยังคงเป่าฝ่ามือให้เขาเบาๆ ด้วยกลัวว่าการตีเมื่อครู่จะทำให้เขาเจ็บจริงๆ “ต่อไปพี่จะไม่ผิดสัญญากับเจ้าอีกแล้ว…”วาจาเขาหนักแน่นมาก แววตาที่มองนางทั้งล้ำลึกทั้งลึกซึ้งหลินซวงเอ๋อร์ยิ้มออกมา ลักยิ้มบนแก้มเผยออกมาอีกครา “ได้สิ งั้นลงโทษครั้งต่อไปท่านต้องซื้อน้ำตาลปั้นให้ข้าสองอันนะ ”“ได้”เยี่ยเป่ยเฉิงโล่งใจในที่สุดเขารู้ ซวงเอ๋อร์ของเขานิสัยดีมาก ไม่เคยโวยวายไร้เหตุผลเลยสักนิด กระทั้งไม่ต้องให้เขาง้อทุกวิธีนิสัยของนางเหมือนกับกระต่ายนอบน้อม ซึ่งอ่อนโยนกับเขาตลอดไปจู่ๆ ก็รู้สึกว่าเอวมันโล่งๆ เยี่ยเป่ยเฉิงถึงได้นึกอะไรขึ้นมาได้ จึงถามนางทันที “ถุงกระเป๋าที่ซวงเอ๋อร์ปักให้พี่ล่ะ?”หลินซวงเอ๋อร์ถาม “อยู่ใต้หมอน ท่านพี่จะสวมตอนนี้เลยหรื

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 519

    หลังจากได้ลิ้มลองคร่าวๆ คล้ายกับการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ก็ยิ่งควบคุมตัวเองไว้ไม่อยู่ริมฝีปากนางอ่อนนุ่มน่าดึงดูด ขยับไหวราวกับกลีบดอกไม้ละเอียด รสชาติที่ลิ้มลองในปากยังมีความหวานบางเบา ทำเอาใครต่อใครอยากแนบชิดใกล้ขึ้นอีกอย่างทนไม่ได้เยี่ยเป่ยเฉิงค่อยๆรั้งอีกฝ่ายเข้าอ้อมอก ดวงตาจดจ้องนางอย่างละเอียด ก่อนค้นพบว่าต่อให้จ้องมองแค่ไหนก็ไม่เพียงพอขนตาของนางทั้งยาวทั้งแพหนา สั่นระริกเบาๆราวกับปีกนกตามลมหายใจยามหลับผิวพรรณนางขาวลเอียดดุจหิมะ ยามเขินอายมักขึ้นริ้วแดงระเรื่องเห็นชัด ทำเอาคนมองอยากกัดสักครั้งปอยผมเส้นละเอียดกระจายบนหมอน ผมทุกเส้นส่งกลิ่นหอมจางๆ เยี่ยเป่ยเฉิงอดยื่นมือเกี่ยวปอยผมขึ้นมาดอมดมเสียไม่ได้นางหอมจริงๆ ตั้งแต่หัวจรดเท้าหอมละเมียดทั้งสิ้นซวงเอ๋อร์ของเขางดงามยิ่ง ทั้งหอมทั้งอ่อนนุ่ม......เยี่ยเป่ยเฉิงมองนาง ก่อนความคิดบางอย่างพลันผุดขึ้นอยากกอดนางเช่นนี้ไปชั่วชีวิต ไม่ปล่อยนางไปชั่วนิรันดร์สุดท้าย สายตาเขาจึงหยุดลงที่ริมฝีปากเล็กของนาง ริมฝีปากที่ถูกเขาบรรจงจูบชุ่มชื้น ยิ่งดูอ่อนโยนน่าทะนุถนอม......เยี่ยเป่ยเฉิงไม่ทนอีกต่อไป เขาโน้มตัวดูดดุนริมฝีปากนางนา

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 520

    วันต่อมาหลินซวงเอ๋อร์ตื่นขึ้นมาในอ้อมแขนเยี่ยเป่ยเฉิงตื่นมาก็ยามเฉินแล้ว ดวงตะวันลอยสูงเหนือท้องฟ้าเป็นที่เรียบร้อยหลินซวงเอ๋อร์ยังคงมีสภาพเหมือนไม่ได้นอน สองตายังคงขมุกขมัวเยี่ยเป่ยเฉิงยื่นมือ จับปอยผมกระเซิงคล้องหูนาง ก่อนเอ่ยเสียงอ่อนโยน “เมื่อคืนซวงเอ๋อร์ฝันร้ายอะไรหรือ?”เมื่อคืนทั้งคืน นางแทบนอนหลับไม่ได้ ข้างในเสื้อยังชุ่มไปด้วยเหงื่อเย็น เยี่ยเป่ยเฉิงกลัวนางไม่สบาย จึงลุกมาเปลี่ยนชุดนอนแห้งสบายให้นางยามครึ่งค่อนคืนกลัวว่านางจะฝันร้ายอีก เยี่ยเป่ยเฉิงจึงมิกล้าหลับตา คอยกอดนางทั้งคืนกระทั่งฟ้าสางกระทั่งสองชั่วยามสุดท้าย นางถึงได้นอนหลับลงยามฟ้าสาง นางยังไม่ตื่น เยี่ยเป่ยเฉิงก็ไม่รบกวนนาง อยากให้นางได้นอนอีกสักนิดครั้นได้หลับ ก็หลับยาวก่อนตื่นขึ้นเมื่อครู่“ฝันร้าย? ” หลินซวงเอ๋อร์ยังงุนงงนางจำไม่ได้ว่าตนฝันร้ายอะไร แค่รู้สึกว่าหน้าอกถูกทับไว้จนอึดอัด จึงเป็นสาเหตุทำให้นอนหลับไม่สนิท“จำไม่ได้แล้วว่าฝันร้ายอะไร” หลินซวงเอ๋อร์เอ่ยเยี่ยเป่ยเฉิงก้มจูบหน้าผากนาง เอ่ยด้วยความปวดใจ “คอยพี่สะสางธุระคามือให้เสร็จ จะมาอยู่ดูแลซวงเอ๋อร์ให้ดี มีพี่คอยอยู่ด้วย ซวงเอ๋อร

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 521

    เป็นความรู้สึกแปลกประหลาดที่เกิดเพียงวูบเดียว หลินซวงเอ๋อร์กล่าวเนิบๆ “ได้ ข้าจะยอมกินยา”เมื่อกำชับทุกอย่างเสร็จสิ้น เยี่ยเป่ยเฉิงก็ไม่อยู่นาน ออกจากจวนตรงไปยังค่ายทหารต่อเมื่อเยี่ยเป่ยเฉิงออกไปแล้ว หลินซวงเอ๋อร์จึงเปิดผ้าห่มแล้วลุกขึ้นเพิ่งลงจากเตียงไม่ทันไร พลันรู้สึกหน้ามืดวิงเวียน สมองคล้ายกับจะว่างเปล่าลงนางเกือบจะล้มลง พร้อมเซถอยหลังไปหลายก้าว จนหลังเอวกระแทกถูกขอบโต๊ะ เอาสองมือยันไว้จึงพอประคองร่างไม่ให้ล้มได้ความรู้สึกวิงเวียนค่อยบรรเทาลง ภาพเบื้องหน้ากลายเป็นสว่างขึ้นอีกครั้ง หลินซวงเอ๋อร์ยืนนิ่งพร้อมตั้งสติ ครู่ใหญ่จึงค่อยมีกำลังวังชาขึ้นมาบ้างนางไม่เข้าใจ ตลอดเวลาที่ผ่านนางได้กินยาตรงเวลา อีกทั้งแรกเริ่มนั้น อาการนางคล้ายจะดีขึ้นด้วยซ้ำแต่ไม่รู้เพราะเหตุใด มาถึงระยะหลัง อาการของโรคไม่เพียงไม่บรรเทา ยังกลับกลายเป็นซับซ้อนยิ่งกว่าเดิมหรือว่า ยาที่เจียงหว่านผสมให้ไม่เห็นผลแล้ว?ไม่รอให้นางคิดนาน หน้าประตูพลันมีเสียงเคาะประตูรัวๆ ดังขึ้นตงเหมยยืนอยู่ข้างนอกเรียกนางอยู่หลินซวงเอ๋อร์เดินไปเปิดประตู เห็นตงเหมยยืนอยู่ด้านนอกด้วยสีหน้าตื่นเต้น“มีอะไรหรือ” หลินซ

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 522

    ตงเหมยพาหมอเข้าจวนมาด้วยความรวดเร็วหมอผู้นี้เป็นชายชราวัยหกสิบปีเศษ มีอาชีพรักษาสัตว์เลี้ยงในครัวเรือน ไม่ว่าเป็นโรคร้ายแรงหรือไม่ หนักหนาสาหัสเพียงไหนก็ล้วนผ่านมาทั้งสิ้น ตงเหมยจึงตั้งใจไปเชิญเขามาดูตงเหมยบอกเล่าอาการของต้าหู่และเหมาเหมา หรงหรงให้ท่านหมอได้ฟังท่านหมอฟังอาการแล้วพลางก้มตัวลง ตรวจดูร่างกายของต้าหู่อย่างถี่ถ้วน“เป็นไปได้อย่างไรกัน” ท่านหมอมีสีหน้าครุ่นคิดหนักหลินซวงเอ๋อร์เห็นเข้าก็รู้สึกจิตใจไม่สู้ดี “ทำไมหรือเจ้าคะท่านหมอ มันป่วยเป็นโรคอะไร”ท่านหมอส่ายศีรษะ พร้อมลุกขึ้นยืนและกล่าว“เสือตัวนี้อาจกินอาหารบางอย่างผิดไป เป็นสิ่งที่มีพิษ จึงทำลายถูกอวัยวะภายในของมัน”หลินซวงเอ๋อร์มองหน้าตงเหมย ทั้งคู่ต่างสบตากันหลินซวงเอ๋อร์กล่าว “แต่มันกินอาหารเหมือนกันทุกวัน จะมีพิษได้อย่างไร?”ท่านหมอครุ่นคิดครู่หนึ่ง จึงได้กล่าวต่อ “อาหารบางชนิดมีฤทธิ์ต้านกัน แม้ว่าจะกินเพียงอย่างเดียว ก็อาจเกิดผลที่เป็นพิษได้”หลินซวงเอ๋อร์กล่าว “ถ้าเช่นนั้นแล้วจะทำอย่างไรดี? ท่านหมอพอมีวิธีรักษาหรือไม่เจ้าคะ”ท่านหมอกล่าว “แม้ข้าจะรักษาสัตว์มานานปี แต่ก็ไม่ใช่เทวดามาจุติ เสือตัวนี้ป่

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 523

    ท่านหมอกล่าว “หมู่นี้แม่นางได้กินยาอะไรบ้างหรือไม่?”หลินซวงเอ๋อร์กล่าวตอบ “มีเจ้าค่ะ ในจวนจะมีหมอคนหนึ่ง ทำหน้าที่คอยปรุงยาบำรุงให้ข้าโดยเฉพาะ”ท่านหมอกล่าว “ขอข้าดูยานี้หน่อยได้หรือไม่?”“ย่อมได้แน่นอน” หลินซวงเอ๋อร์พยักหน้าไปทางตงเหมย ตงเหมยเข้าใจความหมาย พลางรีบไปห้องปรุงยานำตัวยาออกมายาเหล่านี้ล้วนเป็นสูตรที่เจียงหว่านปรุงให้นางด้วยตนเอง และบอกว่ารักษาผลข้างเคียงของโรคได้ดีนักท่านหมอเปิดห่อยาออก พร้อมเกลี่ยยาให้กระจายตัว และหยิบตัวยาแต่ละชนิดขึ้นมาพิจารณาเขาเพ่งดูละเอียดมาก หากเจอยาที่ต้องสงสัย ยังมีการดมกลิ่นเพื่อให้แน่ใจหลินซวงเอ๋อร์ถาม “ยาเหล่านี้มีอะไรผิดปกติหรือไม่เจ้าคะ?”ท่านหมอครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง พลางกล่าวตอบ “ไม่มีสิ่งใดผิดปกติ ล้วนเป็นยาดีในการบำรุงประสาท ไม่มีผลต่อการทำงานของหัวใจ”“อาจเป็นเพราะ...” ท่านหมอครุ่นคิดก่อนตอบ “อาจเพราะแม่นางมีสุขภาพอ่อนแอ จึงไม่อาจต้านฤทธิ์ยาได้กระมัง”เมื่อเห็นหมอกล่าวเช่นนี้ หลินซวงเอ๋อร์จึงไม่อยากคิดมากอีก นางหันไปมองต้าหู่อีกครั้งพร้อมกล่าววิงวอน “เสือตัวนี้เป็นสัตว์เลี้ยงตัวโปรดของสามีข้า ท่านหมอลองหาวิธีช่วยเหลืออีกหน่

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 524

    จวบจนยามเย็น โม่อวิ๋นจึงมาหาเจียงหว่านที่ค่ายทหารเจียงหว่านอยู่ในค่ายกำลังปรุงยาถอนพิษตัวใหม่อยู่โม่อวิ๋นเดินมาใกล้นาง พร้อมช่วยบดยาให้ด้วยความชำนาญงาน“เป็นอย่างไรบ้าง?” เจียงหว่านถามเสียงค่อย ส่วนมือก็ยังทำงานอยู่โม่อวิ๋นยังคงช่วยบดยาเงียบๆ เสียงครกบดยาฟังแล้วดังลั่นอยู่ในค่ายทหาร คล้ายจงใจกลบเสียงสนทนาของพวกนาง“เสือตัวนั้นใกล้จะไม่ไหวแล้ว วันนี้หลินซวงเอ๋อร์ยังตามหมอมาดูอีก” โม่อวิ๋นรายงานตามความเป็นจริงเจียงหว่านเลิกคิ้วเล็กน้อย“แล้วกระต่ายสองตัวล่ะ” เจียงหว่านถามเนิบๆโม่อวิ๋นกล่าวตอบ “อาการเดียวกัน หลังกินยาก็ย่ำแย่เต็มที...”เจียงหว่านหยุดมือครู่หนึ่ง จากนั้นก็คัดยาตามปกติอีกครั้ง“ม้าตัวนั้นเป็นอย่างไร?” นางถามต่อโม่อวิ๋นขมวดคิ้ว “เจ้าม้าใจแข็งนัก ไม่ยอมกินอาหารที่บ่าวส่งให้เจ้าค่ะ”เจียงหว่านดูมีอาการตึงเครียดขึ้นหลายวันนี้นางผสมสูตรยาที่ใช้รักษาโรคระบาดอยู่หลายขนาน จากนั้นก็ใช้ผู้ป่วยมาทดลองยา ปรากฏว่าอาการแต่ละคนกลับยิ่งทรุดหนักมากขึ้น ซ้ำมีบางรายเพิ่งมีอาการเบื้องต้นก็ถึงแก่ชีวิตเสียแล้วยาของนางไม่เพียงไร้ประสิทธิภาพในการรักษา ยังไปซ้ำเติมอาการป่วยเสี

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 525

    เดิมทีนางแทบหมดความหวัง และไม่คาดหวังให้ต้าหู่ตอบโต้นางบ้าง เพียงหวังให้มันดีขึ้นเล็กน้อย ตนจะได้พูดคุยกับมันต่อเท่านั้นแต่นี่กลับเหนือความคาดหมาย จู่ๆ ต้าหู่ก็คลานขึ้นหน้ามา เอาลิ้นมาเลียน้ำที่อยู่ในมือหลินซวงเอ๋อร์ดีใจยิ่ง พลางรีบเอาชามใหญ่ที่รองน้ำให้มันกินต่อน้ำชามใหญ่นั้น ต้าหู่ก็กินจนหมดสิ้นหลินซวงเอ๋อร์ตื่นเต้นดีใจจนยืนขึ้น หันไปกล่าวต่อตงเหมยที่อยู่หลังเรือน “ตงเหมย ต้าหู่กินน้ำได้แล้ว เจ้ารีบไปเอาน้ำแกงกระดูกมาเร็วๆ...”เมื่อได้ยินดังนี้ ตงเหมยก็ดีใจเช่นกัน รีบวิ่งจากหลังเรือนออกมาดู ก็เห็นต้าหู่กำลังกินน้ำอยู่จริง จึงรู้สึกดีใจจนพูดไม่ออก “มัน...มัน...มัน...ดีขึ้นแล้วหรือเจ้าคะ?”หลินซวงเอ๋อร์กล่าวตอบ “เจ้ารีบไปห้องครัวต้มเนื้อมาให้มันชามหนึ่ง ดูว่าพอจะกินได้หรือไม่ หากกินได้ ไม่แน่อาจจะดีขึ้นจริง”“ได้ๆ ข้าจะไปเดี๋ยวนี้” ตงเหมยรีบไปห้องครัวต้มเนื้อทันทีหลินซวงเอ๋อร์ก้มตัวลง พลางลูบหัวของต้าหู่ กล่าวด้วยความห่วงใย “ต้าหู่ เจ้าต้องรีบหายไวๆ นะ”ต้าหู่ทำเสียงฟึดฟัดเล็กน้อย แม้จะไม่ดังมาก แต่ก็ทำให้หลินซวงเอ๋อร์ดีใจยิ่งเมื่อวานมันนอนแน่นิ่งอยู่ที่พื้น แทบไม่มีแรง

บทล่าสุด

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 625

    เยี่ยเป่ยเฉิงมือสั่นขณะรับขวดกระเบื้องจากตงเหมยมาเนื้อสีขาวของขวดปรากฏเงาสีแดงรำไรอยู่ด้านในตงเหมยกล่าว “ท่านอ๋องบอกว่าจะเชื่อใจนางใช่หรือไม่เจ้าคะ? ถ้าเช่นนั้นบ่าวจะไม่นำไปให้องค์หญิงอีก ท่านอ๋องลองเอาเลือดซวงเอ๋อร์ไปทดสอบดูก็ได้ ว่าเป็นจริงดั่งที่นางว่าหรือไม่ ใช้รักษาโรคระบาดได้จริง!”“ถึงตอนนั้น ท่านอ๋องย่อมจะรู้เอง ว่าซวงเอ๋อร์ไม่ได้พูดโกหก...”เยี่ยเป่ยเฉิงรู้สึกจุกในอก ในยามนี้ เขาเกิดความกลัวที่จะนำไปพิสูจน์เพราะหากว่า ทุกอย่างเป็นจริงดั่งที่ตงเหมยพูด นั่นแสดงว่าเขาทรยศต่อความไว้วางใจของหลินซวงเอ๋อร์อีกครั้งในตอนนั้น นางเคยร่ำไห้พูดกับตนว่า เลือดของนางสามารถช่วยชีวิตคนได้แล้วเขาตอบว่าอย่างไร?อ้อ นึกออกแล้วเขาเย้ยหยันไปว่านางไม่ใช่เทวดา พร้อมกล่าวตำหนิว่านางชอบทำร้ายตนเองบ่อยครั้งสวรรค์ นี่เขาเป็นอะไรไป เขาได้กระทำสิ่งใดต่อนางไปบ้าง...เสวี่ยนอู่เห็นดังนี้ จึงรีบเดินมารับขวดไปจากมือเยี่ยเป่ยเฉิง พร้อมกล่าวต่อเขา “ในค่ายทหารยังมีผู้ป่วยอีกหลายคน ข้าน้อยจะนำไปทดสอบเดี๋ยวนี้...”เมื่อกล่าวเช่นนี้แล้ว ตงเหมยจึงไม่อยากพูดมากความอีก นางหันหลังเตรียมจะจากไป กลับถูก

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 624

    ตงเหมยกล่าวเสียงสะอื้น “เชื่อตอนนี้จะมีประโยชน์อันใดเจ้าคะ? ในยามที่นางโดดเดี่ยวสิ้นหวัง ท่านไม่อยู่เคียงข้าง นางสูญเสียลูกไป ท่านก็ไม่อยู่เคียงข้าง และบัดนี้นางล้มป่วย ท่านก็เอาร่างนางไปอยู่บ้านนอกแทน”“เชื่อตอนนี้จะมีประโยชน์อันใด ทุกอย่างล้วนสายเกินแก้!”ตงเหมยยิ่งพูดก็ยิ่งโมโห จนแทบอยากระบายความอัดอั้นที่หลินซวงเอ๋อร์ได้รับออกมาแทนนางให้หมดสิ้น“น่าเห็นใจซวงเอ๋อร์นัก...นางทำเพื่อท่าน ต้องทนกล้ำกลืนความเจ็บช้ำมากมาย ไม่เคยที่จะระบายให้ท่านฟังสักครั้ง”“คืนวันนั้น ท่านอ๋องจู่ๆ ทิ้งนางไป นางเพิ่งสูญเสียลูก ยังมีเลือดออกเต็มตัว ตอนบ่าวเปิดประตูเข้าไปเห็น รู้แต่ว่าแทบเป็นลมหมดสติ!”“บ่าวคิดจะบอกท่านให้รู้ แต่ซวงเอ๋อร์ไม่ต้องการให้ท่านเป็นห่วง นางบอกว่าท่านอ๋องเป็นคนทำงานใหญ่ ไม่ควรให้อยู่แต่ในเรือนหลัง ยิ่งกลัวว่าหากพูดไปแล้ว ท่านจะรังเกียจร่างกายที่ไม่สมบูรณ์ของนาง วันหน้าไม่อาจมีทายาทให้ท่านได้อีก”“แต่ว่า ท่านอ๋องรู้หรือไม่ ตอนสูญเสียลูกไปนั้น นางเจ็บปวดเพียงไหน ในใจรู้สึกสิ้นหวังเพียงใด?”“ท่านอ๋องเคยคิดปลอบประโลมจิตใจนางบ้างหรือไม่?”เยี่ยเป่ยเฉิงยืนตะลึงตัวแข็งทื่อ เลือดใน

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 623

    “ซวงเอ๋อร์ ซวงเอ๋อร์ ข้ากลับมาแล้ว”เยี่ยเป่ยเฉิงผลักประตูเรือนอวิ๋นซวน พร้อมเดินก้าวเข้าไปด้านใน แต่กลับพบว่าภายในว่างเปล่าผ้าห่มบนเตียงถูกพับไว้เรียบร้อย ข้าวของเครื่องใช้ก็จัดวางเป็นระเบียบ ราวกับมีคนมาจัดเก็บแล้วหนึ่งรอบเมื่อเห็นหลินซวงเอ๋อร์ไม่อยู่ในห้อง เยี่ยเป่ยเฉิงก็คิดว่านางคงไปห้องหนังสือเพราะที่ผ่านมา นางมักชอบเก็บตัวในห้องนั้นเพื่อเขียนหนังสือเงียบๆ เมื่อนึกถึงตรงนี้ เขาจึงรีบออกจากเรือนอวิ๋นซวน ตรงไปยังห้องหนังสือทันทีที่ไหนได้ ห้องหนังสือก็ไม่มีร่องรอยของนาง อุปกรณ์เครื่องเขียนบนโต๊ะจัดวางเป็นระเบียบ พู่กันที่นางเคยใช้บ่อยๆ คล้ายมีการล้างน้ำจนสะอาดสะอ้าน เยี่ยเป่ยเฉิงขมวดคิ้วเล็กน้อย พลางก้าวเดินออกจากห้องหนังสือ เดินตามหาไปยังทุกห้อง ก็ไม่เห็นแม้แต่เงาของนางจนกระทั่งตงเหมยกลับมาจากเรือนด้านหน้าทันทีที่เห็นตงเหมย เยี่ยเป่ยเฉิงก็รีบปรี่ไปหา “ซวงเอ๋อร์เล่า นางอยู่ที่ใด?”ในมือตงเหมยถือกล่องอยู่ใบหนึ่ง เมื่อเผชิญกับคำถามของเยี่ยเป่ยเฉิง นางมิได้ตอบกลับ นอกจากยื่นกล่องในมือให้แก่เยี่ยเป่ยเฉิง“นี่คือเครื่องประดับที่ท่านอ๋องซื้อให้ซวงเอ๋อร์ ก่อนจากไป นางได้ม

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 622

    เสิ่นป๋อเหลียงกล่าว “ท่านอ๋องกล่าวถูกต้อง ยาชนิดนี้ไม่อาจพกติดตัวได้ โดยเฉพาะยามเข้านอน ร่างกายมนุษย์จะอยู่ในช่วงอ่อนแอที่สุด พิษจะซึมเข้าสู่ร่ายกายได้ง่าย...”กล่าวได้ครึ่งหนึ่ง จู่ๆ เสิ่นป๋อเหลียงคล้ายกับนึกอะไรขึ้นมา หันไปมองเยี่ยเป่ยเฉิง พร้อมถามด้วยความตกใจ “พระชายา...นางเคยบาดเจ็บหรือไม่?”เยี่ยเป่ยเฉิงกล่าวตอบ “เคย”เดิมทีนางทำเพื่อหวังจะช่วยเขา ขึ้นเขาไปหางูดำหางไหม้เพียงลำพัง กลับมาพร้อมกับบาดแผลทั่วร่าง...เสิ่นป๋อเหลียงกล่าว “ถ้าเช่นนั้นก็ถูกแล้ว ข้าน้อยเดาว่า อาการของพระชายา น่าจะเกี่ยวข้องกับถุงผ้านี้...”เยี่ยเป่ยเฉิงสูดลมหายใจเข้าลึกในยามนี้ เขาได้กระจ่างแจ้งต่อเรื่องราวทุกอย่างมิน่าเล่า นางมักจะบอกว่าไม่อยากอยู่ในเรือนอวิ๋นซวนมิน่าเล่า นางมักบอกว่ากลางคืนชอบฝันร้าย แม้เขาจะอยู่เป็นเพื่อน นางก็นอนหลับไม่สนิท...มิน่าเล่า นางเริ่มมีอารมณ์แปรปรวน เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้ายเอาแน่ไม่ได้มิน่าเล่า นางคิดจะฆ่าเจียงหว่านให้จงได้...ทั้งที่เมื่อก่อนนางเป็นคนอ่อนน้อม ว่านอนสอนง่ายราวกับกระต่ายน้อยตัวหนึ่ง...แต่เขากลับไม่เชื่อนาง คิดว่านั่นเพราะนางเป็นโรคเครียด เพราะป่วยหน

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 621

    เยี่ยเป่ยเฉิงกล่าว “นางมิได้ตั้งใจ เพียงได้รับความกระทบกระเทือนหนัก จึงทำให้ขาดสติไป ข้าไม่เคยคิดตำหนิ”เมื่อได้ยินดังนี้ เสิ่นป๋อเหลียงก็พอคาดเดาได้บ้าง จึงหยิบผ้าพันแผลออกมา พร้อมทำแผลให้เขาใหม่ และกล่าว “เป็นฝีมือพระชายาใช่หรือไม่?”เห็นเยี่ยเป่ยเฉิงไม่กล่าวตอบ เสิ่นป๋อเหลียงยิ่งรู้ดีแก่ใจ จึงไม่ถามมากความอีกแผ่นดินนี้ คงมีเพียงสตรีผู้นี้เท่านั้นที่กล้าทำร้ายเขาโดยไม่หวาดกลัว ซ้ำยังได้รับการอภัยโดยปราศจากเงื่อนไขใดๆ อีกพันแผลเสร็จเรียบร้อย เสิ่นป๋อเหลียงจึงกล่าวกำชับ “บาดแผลยังไม่แห้งสนิทดี อย่าให้โดนน้ำเป็นอันขาด...”ขาดคำไม่ทันไร จมูกก็ได้กลิ่นหอมประหลาดบางอย่างโชยมาเสิ่นป๋อเหลียงขมวดคิ้วเล็กน้อย พลางสูดกลิ่นหอมประหลาดนั่น แล้วสายตาก็ไปหยุดที่ถุงผ้าใบหนึ่งที่เหน็บอยู่ช่วงเอวของเยี่ยเป่ยเฉิง“ท่านอ๋อง ถุงผ้าใบนั้นให้ข้าดูหน่อยได้หรือไม่?”นั่นเป็นถุงผ้าที่หลินซวงเอ๋อร์เป็นคนปักให้เขา เยี่ยป่ยเฉิงย่อมไม่ยินดีจะมอบให้ผู้อื่นแต่เห็นเสิ่นป๋อเหลียงมีสีหน้าเคร่งเครียด จึงได้ถาม “ทำไมรึ? ถุงผ้าข้ามีสิ่งใดผิดปกติหรืออย่างไร?”เสิ่นป๋อเหลียงกล่าว “ข้อนี้คงต้องถามท่านอ๋อง ว่าภา

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 620

    เมื่อได้ยินว่าเสิ่นป๋อเหลียงกลับมา เยี่ยเป่ยเฉิงก็พลันหยุดชะงัก พร้อมถามเสวียนอู่ “เขาอยู่ที่ใด?”เสวียนอู่กล่าว “เขารู้ว่าหลายวันนี้ท่านอ๋องตามหาอยู่ ดังนั้น เมื่อกลับถึงเมืองหลวง ข้าน้อยจึงรีบพาตัวมาทันที ตอนนี้อยู่ค่ายทหารขอรับ”เยี่ยเป่ยเฉิงกล่าว “เหมาะเลย ข้ากำลังจะกลับจวน ให้เขาตามข้ากลับไปด้วยกัน!”“ขอรับ”เสวียนอู่รีบไปเตรียมรถม้ามาคันหนึ่ง ให้เยี่ยเป่ยเฉิงและเสิ่นป๋อเหลียงโดยสารพร้อมกันภายในรถม้า เยี่ยเป่ยเฉิงมีสีหน้าเคร่งขรึม เสิ่นป๋อเหลียงนั่งอยู่ด้านข้างจึงไม่กล้าพูดจาช่วงเวลาที่ผ่านมา เขาออกจากวังไปท่องเที่ยว เยี่ยเป่ยเฉิงได้มีจดหมายส่งถึงเขาหลายครั้ง เดิมทีควรรีบกลับมาเมืองหลวงนานแล้ว แต่ระหว่างทางกลับมีอุปสรรคมาขวางกั้น จนทำให้เสียเวลาไปมากและบัดนี้ เขาได้กลับถึงเมืองหลวงแล้ว รู้ว่าเยี่ยเป่ยเฉิงต้องการพบเขาคงมีเรื่องเร่งด่วน ทันทีที่มาถึงจึงมาขอพบเยี่ยเป่ยเฉิงก่อนแต่เยี่ยเป่ยเฉิงกลับไม่พูดไม่จา สีหน้าเคร่งเครียดหมองคล้ำ ดูแล้วน่าประหลาดใจยิ่งชั่วขณะนั้น ทั้งคู่ต่างไม่มีการพูดคุย บรรยากาศภายในรถม้าค่อนข้างตึงเครียดเสิ่นป๋อเหลียงเป็นฝ่ายอธิบายก่อน “ใช่ว่าข้

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 619

    ไม่เหลือซากให้เห็น และไม่ได้ออกมาอีกลมเย็นพัดกรูมา เขารู้สึกคล้ายร่างกายถูกหินก้อนใหญ่มากดทับไว้ จนเลือดท่วมทะลัก เจ็บปวดอย่างเหลือแสน...“ไม่...ไม่นะ...”ไป๋อวี้ถังรีบก้าวเท้าพุ่งตัวไป พร้อมเอามือตะกุยดินอย่างบ้าคลั่ง ราวกับสูญเสียสติสัมปชัญญะไปเสียสิ้น“ซวงเอ๋อร์ ข้าไม่ยอมให้เจ้าตาย ข้าจะช่วยเจ้าออกมา ข้าจะช่วยเจ้าออกมาให้ได้...”“เราตกลงว่าจะไปเมืองหยางโจวด้วยกัน เจ้าอย่าทิ้งข้าไปนะ ซวงเอ๋อร์ อย่าทิ้งข้าไป...”เมื่อรอบข้างสงบลง ชาวบ้านก็ต่างแห่กันมา เมื่อเห็นไป๋อวี้ถังเอามือตะกุยดินราวกับไม่คิดชีวิต จนนิ้วมือมีเลือดออก ก็ต่างส่ายหน้าและกล่าวเตือน “คุณชาย ช่างเถิดนะ อย่าขุดอีกเลย ถ้าใครถูกฝังอยู่ใต้ล่าง อย่างไรก็ไม่รอดอยู่แล้ว”ไป๋อวี้ถังไม่ยอมรับฟัง พลางวิ่งเข้าหมู่บ้านถือพลั่วมาหนึ่งอัน ขุดดินไปอย่างบ้าคลั่งอีกเมื่อเห็นเขาเตือนแล้วไม่ฟัง ชาวบ้านบางรายก็ไปช่วยขุดบ้างมีคนหนึ่งกล่าวเตือนเขา “คุณชายก็อย่าเสียใจมากนัก บางที สหายท่านอาจจะรอดตายหวุดหวิด หรือไม่ก็ ไม่ได้รออยู่ที่เชิงเขานี้”ไป๋อวี้ถังหยุดชะงักโดยพลัน นัยน์ตาแดงก่ำ มองชาวบ้านผู้นั้นด้วยความหวัง พลางกล่าว “จริงร

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 618

    ไป๋อวี้ถังขี่ม้ามาถึงหมู่บ้านแห่งหนึ่ง เขามองหาบ่อน้ำ แล้วจึงเอากระเป๋าใส่น้ำที่พกติดตัวมาบรรจุน้ำในบ่อจนเต็มหมู่บ้านนี้มีผู้คนอยู่ห่างๆ เพียงไม่กี่ครัวเรือน เดิมไป๋อวี้ถังไม่คิดจะอยู่นาน แต่พอรอนแรมมาไกลมาก อีกทั้งละแวกนี้ก็ไม่มีโรงเตี๊ยมพอให้พักอาศัยหากคิดจะหาโรงเตี๊ยมจริงๆ ก็ต้องเดินทางต่อไปอีกประมาณสิบกว่าลี้เพื่อไม่ให้หลินซวงเอ๋อร์ต้องหิวข้าว ไป๋อวี้ถังจึงไปหาครอบครัวหนึ่ง พร้อมใช้เงินซื้อหมั่นโถวหลายลูกที่พวกเขาเพิ่งนึ่งเสร็จใหม่ๆ เนื่องจากเขาเป็นคนใจป้ำ ครอบครัวชาวบ้านธรรมดาทำงานหนึ่งปียังไม่ได้เงินมากมายเท่านี้ จึงได้แถมนมแพะที่รีดเองให้แก่ไป๋อวี้ถังไปด้วยเป็นนมที่เพิ่งผ่านการต้มมา ดื่มแล้วช่วยให้ร่างกายอบอุ่นขึ้นมากไป๋อวี้ถึงจึงไม่ปฏิเสธ ยอมรับมาแต่โดยดีแต่เขาไม่กล้าให้หลินซวงเอ๋อร์คอยนาน ขณะหันหลังคิดจะกลับนั้น จู่ๆ มีหญิงชราร้องเรียกจากด้านหลัง“คุณชาย หากไม่รีบร้อนเดินทาง เชิญค้างที่นี่สักคืนค่อยไปก็ได้”ไป๋อวี้ถังกล่าวตอบ “อย่าเลย ข้างหน้ายังมีคนรออยู่”หญิงชรามองดูท้องฟ้า พลางกล่าว “พรุ่งนี้ค่อยไปก็ยังไม่สาย คุณชายไปพาเพื่อนมาด้วยก็ได้ หลายวันนี้มีฝนตกหน

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 617

    ไป๋อวี้ถังกล่าวตอบ “ข้าก็คิดเช่นนั้น”หลินซวงเอ๋อร์มองหน้าเขาพร้อมยิ้มเล็กน้อย นางกล่าวต่อ “ถ้าเช่นนั้นข้าขอไปก่อน ขอให้พี่ไป๋มีความสุขในเร็ววัน ลาก่อน”กล่าวจบ นางไม่รอช้าที่จะปล่อยผ้าม่านลงไป๋อวี้ถังสีหน้าเปลี่ยนโดยพลัน รีบร้อนกล่าวต่อ “แม่นางซวงเอ๋อร์รอประเดี๋ยว...”ได้ยินเสียงร้องเรียกของไป๋อวี้ถัง หลินซวงเอ๋อร์จึงแหวกผ้าม่านด้วยความสงสัยอีกครั้งในยามนี้ ดวงอาทิตย์ลอยขึ้นสูง แดดภายนอกจึงแสบตายิ่ง หลินซวงเอ๋อร์ยกมือขึ้นบังตา เพื่อลดความแรงกล้าของแสง พลางกล่าวเสียงอ่อนโยน “พี่ไป๋ ท่านยังมีเรื่องอันใดอีก?”นางยังต้องรีบเดินทางต่อ ไม่อยากพูดคุยกับเขานานไป๋อวี้ถังกล่าว “แม่นางซวงเอ๋อร์คิดดีแล้วหรือไม่ว่าจะไปที่ใด หรือเราสองคนจะเดินทางด้วยกัน?”น้ำเสียงเขาฟังดูราบเรียบ คล้ายกับไม่ตั้งใจกดดัน เพียงแต่ถามไปเรื่อยเปื่อยแต่หลินซวงเอ๋อร์แทบไม่ต้องคิด นางรีบกล่าวตอบ “อย่าเลย ข้ายังไม่ได้คิดว่าจะไปที่ใด แผ่นดินกว้างใหญ่ ไปถึงแห่งใดก็อยู่ตรงนั้นก่อน”ไป๋อวี้ถังกล่าวยิ้มๆ “เช่นนั้นก็ประจวบเหมาะนัก ข้าก็ไม่คิดจะไปที่ใด หรือเราจะเดินทางด้วยกัน เพราะหนทางยังอีกยาวไกล หากมีเพื่อนพูดคุยก

DMCA.com Protection Status