แชร์

บทที่ 510

ผู้เขียน: พิณเคล้าสายฝน
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-20 18:00:01
“แม่นางซวงเอ๋อร์ชอบน้ำตาลปั้นอันนี้หรือไม่? ข้าเห็นว่าหงส์ตัวนี้สวย เหมาะกับแม่นางซวงเอ๋อร์พอดี”ไป๋อวี้ถังยื่นน้ำตาลปั้นให้กลินซวงเอ๋อร์ ในคำพูดเขาแฝงไปด้วยรอยยิ้มโปรดปราน ทำให้คนที่ได้ฟังรู้สึกอบอุ่นในใจ

หลินซวงเอ๋อร์กลืนน้ำลาย ไม่กล้ายื่นมือออกไปรับ

“แม่นางซวงเอ๋อร์ไม่ชอบหรือ?”ไป๋อวี้ถังถามนางด้วยความอดทน

หลินซวงเอ๋อร์ซ่อนความรู้สึกไว้ไม่มิด ชอบหรือไม่ชอบล้วนเขียนเด่นหราอยู่บนใบหน้า ความคิดบริสุทธิ์จนคนมองแวบเดียวก็มองออก

ไป๋อวี้ถังรู้ว่านางชอบ แต่เขาไม่รู้ว่าเหตุใดนางถึงไม่กล้ารับ

หลินซวงเอ๋อร์ลังเลไปชั่วครู่หนึ่ง และกล่าวว่า “ชอบ”

เสียงของไป๋อวี้ถังยิ่งอ่อนโยนเพิ่มขึ้น “ถ้าชอบก็รับไปเถิดหากยังไม่พอ พี่ใหญ่ไป๋จะซื้อให้แม่นางซวงเอ๋อร์อีก”

หลินซวงเอ๋อร์เอามือไพล่หลัง ยังคงไม่กล้ายื่นมือไปรับ และคุยกับเขาอย่างนุ่มนิ่ม “แต่สามีข้าไม่ให้ข้ารับของจากคนอื่น”

“คนอื่นหรือ?” ไป๋อวี้ถังตกใจก่อน จากนั้นก็เข้าใจอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ พลางกล่าวด้วยรอยยิ้มราบเรียบ “พี่ใหญ่ไป๋หาใช่คนนอกเสียหน่อย เยี่ยเป่ยเฉิงเป็นสหายสนิทข้า ของที่ข้าซื้อ เจ้ารับไปได้”

หลินซวงเอ๋อร์กล่าว “รับไม่ได้หรอก ท่านพ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 511

    เมื่อเห็นนางยอมกินในที่สุด จู่ๆ ใจของไป๋อวี้ถังก็เกิดความรู้สึกอิ่มเอมอย่างอธิบายไม่ถูกขึ้นมานี่คือน้ำตาลปั้นที่นางคนึงหามานานมาก ในนั้นผสมกลิ่นหอมของดอกกุ้ยฮวากับน้ำผึ้ง หลินซวงเอ๋อร์เลียไปคำหนึ่ง ในใจอย่าเอ่ยถึงเลยว่าพึงพอใจมากแค่ไหนน้ำตาลรูปหงส์สวยมาก นางไม่กล้ากัด ได้แต่เลียไปทีละคำด้วยความระมัดระวังบนถนนไร้ผู้คนไปหมดแล้ว มีแค่บางครั้งจะมีคนเมาเดินออกมาจากร้านขายเหล้าเท่านั้นหลินซวงเอ๋อร์รู้ว่าไม่ควรไปยุแหย่คนที่ดื่มเหล้า จึงตั้งใจเดินหลบเลี่ยงพวกเขาไปแต่ไม่คิดเลยว่า จู่ๆ ผู้ชายคนหนึ่งเดินโซซัดโซเซพุ่งเข้ามาหาทว่าท่าทาง เท้าที่เขาย่ำเดินกลับเร็วมาก หลินซวงเอ๋อร์หลบไม่ทัน ไหล่จึงถูกเขาชนอย่างแรงโดยไม่ทันระวังน้ำตาลปั้นในมือร่วงหล่นตุบอยู่บนพื้น แตกจนแหลกละเอียดหลินซวงเอ๋อร์ยืนอยู่ที่เดิม มองน้ำตาลปั้นบนพื้นอย่างยิ่งอึ้งไปชั่วขณะ ไป๋อวี้ถังคาดไม่ถึงว่าจะเกิดเหตุการณ์นี้ เมื่อได้สติกลับมา หลินซวงเอ๋อร์ก็แทบถูกคนชนล้มลงบนพื้นแล้วคล้อยหลังเร่งรีบปกป้องคนไว้ด้านหลัง สายตาของไป๋อวี้ถังก็มองผู้ชายที่ชนตรงหน้าอย่างเยือกเย็นคาดว่าผู้ชายคนนี้จะดื่มเหล้าจนเมา เพราะกลิ่นเห

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-20
  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 512

    เขาแอบออกแรงที่นิ้ว สีหน้าของผู้ชายค่อยๆ เปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำเพราะเลือดคลั่ง“ไว้…ไว้ชีวิตด้วย…”สัญชาตญาณในการเอาตัวรอดทำให้ผู้ชายเค้นคำออกมาจากลำคอด้วยความยากลำบากไป๋อวี้ถังยิ่งมีแววตาเย็นชาขึ้น ในดวงตานั้นเจือไปด้วยจิตสังหาร ทำให้คนอดรู้สึกขวัญหนีดีฝ่อไม่ได้“พี่ใหญ่ไป๋…”เสียงอ่อนนุ่มหนึ่งดังขึ้นจากด้านหลัง คิ้มที่ขมวดเป็นปมของไป๋อวี้ถังก็ค่อยๆ คลายออกเขาปล่อยผู้ชายคนนั้น และหันกลับมามองหลินซวงเอ๋อร์ ท่าทางเย็นเยือกดุจน้ำแข็งเปลี่ยนไปเป็นมาดผู้ดีของคุณชายไปชั่วพริบตาหลินซวงเอ๋อร์รีบเข้าไปหา เหลือบมองชายที่ตกใจจนหน้าซีดอยู่บนพื้น ก่อนจะดึงแขนเสื้อของไป๋อวี้ถัง “พี่ใหญ่ไป๋ ช่างมันเถิด เขาดื่มเหล้าจนเมา เป็นแค่คนขี้เมาคนหนึ่ง”เทศกาลไหว้พระจันทร์จัดอยู่บนถนนใหญ่ หลินซวงเอ๋อร์กลัวว่าไป่อวี้ถังพลั้งมือฆ่าคนขึ้นมา ชื่อเสียงของเขาต้องไม่ดีแน่ไป่อวี้ถังกล่าวด้วยท่าทางเหมือนปกติ “แม่นางซวงเอ๋อร์โปรดวางใจ แค่สั่งสอนเขาธรรมดาๆ พี่ใหญ่ไป๋หาใช่มารที่ฆ่าคนโดยไม่กระพริบตา ข้าไม่ฆ่าเขาหรอก”หางตาของเขาเผยรอยหยักยิ้มราบเรียบออกมา ไม่เหมือนท่าทางที่อยากฆ่าคนสักนิดหลินซวงเอ๋อร์โล่งใจ “วั

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-20
  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 513

    จากนั้น หลินซวงเอ๋อร์ก็เอ่ยเสริมอีกว่า “เพียงแต่ พี่ใหญ่ไป๋ไม่ใช่คนไม่ดีอะไร เขาเป็นคนดี ก่อนหน้านี้ยังช่วยข้าตั้งหลายครั้ง ต่อไปหากเจอเขา เราก็ควรเกรงใจเขาสักหน่อย”ตงเหมยพยักหน้า “นั่นมันแน่นอนอยู่แล้ว แม้พระชายาไม่พูด บ่าวก็รู้ท่านสมุหราชเลขาไม่ใช่คนไม่ดีอะไร”เมื่อเห็นว่าไป๋อวี้ถังยังไม่กลับมา ตงเหมยก็อดกล่าวไม่ได้ว่า “ว่าแต่ ท่านสมุหราชเลขาก็ไปตั้งนานแล้ว ไยถึงยังไม่กลับมาอีก?”หลินซวงเอ๋อร์ส่ายหน้า เดาว่า “บางทีอาจจะไล่ตามพ่อค้าคนนั้นกระมัง เรารออีกสักหน่อยเถิด”…..ในขณะนั้น ในซอยลึกมืดมิด มีชายคนหนึ่งฟุบอยู่บนพื้นด้วยท่าทางเจ็บปวด กระดูกทั่วร่างแตกหักหลายแห่ง เลือดกระอักไหลออกมามาจากปากเขา พลางเงยหน้าขึ้นด้วยความหวาดกลัว เห็นร่างสูงใหญ่ค่อยๆ เดินออกมาจากส่วนลึกของซอยเสื้อคลุมสีดำต้องลมปลิวไสว เผยให้เห็นรูปร่างที่โดดเด่นของเขา ย่างก้าวเขามั่นคง ราวกับพยายามมาเอาชีวิต ทั่วร่างเคลือบไปด้วยไอเย็นยะเยือก ทำให้คนรู้สึกเหน็บหนาวขึ้นมากำแพงด้านหลังมีรอยแตกร้าวหนึ่ง เป็นเขาที่โดนถีบจนร่างชนเข้ากับกำแพงอย่างจังเมื่อครู่นี้เอง… กำลังนั้นหนักหน่วงมาก กระดูกของผู้ชายแตกหักไปทั่วต

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-21
  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 514

    ในค่ายทหารจู่ๆ ชายที่นอนเอนกายอยู่บนเตียงเกิดเป็นไข้ขึ้นมา อาการเหมือนจะรุนแรงกว่าก่อนหน้าอย่างมาก ไม่เพียงแผลทั่วร่างเกิดเป็นหนอง ปากก็เริ่มส่งเสียงไม่ออกแล้วเยี่ยเป่ยเฉิงสั่งให้คนแยกกระโจมที่ชายคนนี้พักอยู่ออกไปเป็นพิเศษ ยกเว้นเขาและเจียงหว่าน ห้ามให้ใครเข้าใกล้ เพื่อป้องกันไม่ให้เจ้าหน้าที่ในกองทัพติดเชื้อโดยไม่ระวังหลังจากเดินออกมาจากกระโจม เยี่ยเป่ยเฉิงเอาผ้าปิดหน้าและถุงมือออก พลางกล่าวกับเจียงหว่าน “ไม่ใช่ให้ยาแก้แล้วหรอกหรือ? เหตุใดคนผู้นี้ถึงยังเป็นเช่นนี้อยู่!”เจียงหว่านกล่าวด้วยสีหน้าจริงจัง “โรคนี้รุนแรงเกินไป ยาของข้ายังขาด…”เยี่ยเป่ยเฉิงขมวดคิ้วมุ่นให้เวลาเจียงหว่านไปตั้งนาน แต่นางกลับจัดยาแก้รักษาโรคนี้ไม่ได้มาตลอด ชาวบ้านที่อยู่อย่างสุขสงบก่อนหน้าพากันติดโรคระบาด อาการยิ่งโหมรุนแรงขึ้น หากยังรักษาไม่ได้อยู่อีก เกรงว่าผลที่ตามมามิอาจจะจินตนาการได้ บางทีอาจจะอันตรายไปถึงผู้คนในเมืองหลวง…ทว่าเสิ่นป๋อเหลียงยังกลับไปไม่ถึงเมืองหลวง เยี่ยเป่ยเฉิงได้แค่ฝากความหวังไว้กับเจียงหว่านเท่านั้นแต่นางกลับทำให้เขาผิดหวังครั้งแล้วครั้งเล่า!เยี่ยเป่ยเฉิงค่อยๆ หมดความอดท

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-21
  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 515

    พูดถึงงูดำหางไหม้ จู่ๆ เหมือนเยี่ยเป่ยเฉิงจะนึกอะไรขึ้นมาได้ สีหน้าพลันซีดขาวทันทีในเวลานี้เอง รองแม่ทัพหวังขุ่ยเพิ่งกลับมาจากกินข้าวพร้อมหน้าพร้อมตากันที่บ้าน และกำลังจะผูกม้าของตัวเองไว้ในคอกม้า ก็บังเอิญเห็นเยี่ยเป่ยเฉิงยืนอยู่นอกกระโจมพอดี จึงอดเดินเข้าไปถามไม่ได้ “วันนี้คือวันไหว้พระจันทร์ ไยท่านอ๋องจึงไม่กลับบ้านเล่า?”เยี่ยเป่ยเฉิงไม่พูดอะไร ยื่นมือไปแย่งสายบังเหียนในมือหวังขุ่ยมา พลิกตัวขึ้นหลังม้า และขี่หายลับไปในความมืดทันทีหวังขุ่ยงุนงงอยู่กับที่ ทอดมองไปยังทิศทางที่เยี่ยเป่ยเฉิงจากไป ก่อนมองเจียงหว่านที่ยืนอยู่ด้านข้าง พลางกล่าวอย่างไม่เข้าใจ “นี่…ท่านอ๋องคงจะไม่ได้ลืมว่าวันนี้คือวันไหว้พระจันทร์หรอกใช่ไหม?”เจียงหว่านไม่พูดอะไร นางกัดริมฝีปาก และกำมือแน่นจนเล็บแทบจะหยักลงไปในเนื้อหวังขุ่ยเห็นนางถูกทิ้งอยู่ในค่ายทหารคนเดียวก็รู้สึกสงสารเล็กน้อย จึงกล่าวว่า “วันไหว้พระจันทร์ แม่นางเจียงไม่กลับบ้านไปฉลองหรือ? เช้านี้พี่ชายกับพี่สะใภ้แม่นางตั้งใจส่งคนมาถ่ายทอดข้อความ ให้แม่นางกลับไปฉลองวันนี้  เหตุใดแม่นางยังอยู่ที่นี่อยู่อีก?”เจียงหว่านยิ้ม “ไม่ล่ะ โรคระบาดยังไม่หาย

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-21
  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 516

    เยี่ยเป่ยเฉิงควบม้ากลับไปที่จวนอย่างไม่หยุดหย่อนเมื่อมาถึงหน้าประตูจวนก็เห็นไป๋อวี้ถังกำลังกลับออกมาจากด้านในพอดี“เพิ่งกลับมาหรือ?”ไป๋อวี้ถังไม่ค่อยดูแปลกใจเท่าไหร่นัก ยังคงถามเขาด้วยน้ำเสียงที่เป็นปกติเยี่ยเป่ยเฉิงพลิกตัวลงจากม้า คาดว่าน่าจะรีบมา หน้าอกเขาถึงได้กระเพื่อมขึ้นลงเบาๆ บนหน้าผากยังชื้นไปด้วยเหงื่อ“เหตุใดเจ้าถึงมาอยู่ที่นี่?”เยี่ยเป่ยเฉิงถามเขาไป๋อวี้ถังกล่าวด้วยท่าทางเรียบเฉย “มาส่งแม่นางซวงเอ๋อร์กลับ”เยี่ยเป่ยเฉิงชะงักไป “เพิ่งกลับมาตอนนี้หรือ?”ไป๋อวี้ถังพยักหน้า “นางรอเจ้าทั้งคืน เจ้าไม่รู้หรือ?”นัยน์ตาดำขลับเบิกกว้าง เยี่ยเป่ยเฉิงอดตกใจไม่ได้ “รอจนถึงตอนนี้และเพิ่งกลับมาหรือ?”เมื่อครู่เขาไปหานางที่ข้างสะพาน เมื่อเห็นนางไม่อยู่ เขาก้รู้สึกโล่งใจ คิดว่านางรอตัวเองไม่ไหว น่าจะกลับจวนไปนานแล้ว…แต่ไป๋อวี้ถังบอกเขาว่า นางเพิ่งกลับมาตอนนี้…นางรอเขาทั้งคืนเต็มๆ …เมื่อคิดได้เช่นนี้ ในของเยี่ยเป่ยเฉิงยิ่งเสียใจและโทษตัวเองอย่างหาที่เปรียบไม่ได้หลายวันมานี้เขายุ่งมาก ยุ่งจนไม่กินไม่นอน ยุ่งจนลืมเวลา และถึงขั้นลืมนัดสำคัญไป…เรื่องนัดวันไหว้พระจันทร์ เป็น

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-21
  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 517

    “ท่านพี่ ท่านยืนอยู่หน้าประตูทำไมหรือ? ท่านรีบเข้ามาสิ…”เยี่ยเป่ยเฉิงถูกนางลากเข้ามาในห้องทั้งที่ยังนิ่งๆ อยู่อย่างนั้นหลินซวงเอ๋อร์หมุนตัวไปอยู่ด้านหลังเขาอีกครั้ง และจะปลดเสื้อคลุมบนตัวเขาออก อาจจะเป็นเพราะง่วงเกินไป ปากนางเอาแต่หาวไม่หยุดจู่ๆ เยี่ยเป่ยเฉิงก็จับมือนางไว้ พลางหมุนตัว กอดนางไว้แน่นหลินซวงเอ๋อร์หยุดชะงักทุกอย่าง ขยี้ตาที่ง่วงงุน ก่อนถามเขาด้วยความนุ่มนวล “ท่านพี่ ท่านเป็นอะไรหรือ?”เยี่ยเป่ยเฉิงระงับความรู้สึก และกล่าวด้วยเสียงแหบพร้า “ขอโทษ ซวงเอ๋อร์ พี่ผิดสัญญา พี่ลืมวันสำคัญของเรา พี่ทำให้ซวงเอ๋อร์รอทั้งคืน…”เขากระชับกอดแน่นมาก หลินซวงเอ๋อร์หายใจไม่ค่อยออกเล็กน้อยกระนั้นนางไม่ได้ผละเขาออกแต่อย่างใด ตรงข้ามกลับเอื้มมือกอดเอวเขาตอบ และกล่าวปลอบ “ไม่เป็นไร ท่านพี่ไม่มาต้องมีเหตุผลแน่ ท่านพี่ยุ่งมากเลยใช่หรือไม่? ยุ่งจนลืมว่าเมื่อวานคือวันไหว้พระจันทร์ใช่หรือไม่?”เยี่ยเป่ยเฉิงตอบกลับ “อืม” เสียงเบา แขนยิ่งกระชับแน่น แทบอยากเอานางเข้าไปสิงในร่างของตัวเองหลินซวนเอ๋อร์ยิ้มเล็กน้อย “ข้าเดาว่าต้องเป็นแบบนี้ ท่านพี่ไม่มาอย่างไม่มีเหตุผลแน่นอน แม้ไม่มา ท่านพี่ก

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-22
  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 518

    “ซวงเอ๋อร์ไม่โกรธพี่สักนิดเลยหรือ?” เยี่ยเป่ยเฉิงถามขึ้นมาอย่างทนไม่ไหวหลินซวงเอ๋อร์เงยหน้าด้วยความประหลาดใจ พลางถามเขากลับ “เหตุใดต้องโกรธด้วย? ท่านพี่ไม่ได้ตั้งใจผิดนัดเสียหน่อย ท่านพี่มีเรื่องเร่งด่วนต้องจัดการ อีกอย่าง ตอนนี้ท่านพี่ก้กลับมาแล้วไม่ใช่หรือ?”“ซวงเอ๋อร์…” เยี่ยเป่ยเฉิงหัวใจเต้นแรง ก่อนขานเรียกนางอย่างอดใจไม่ไหว“หืม?”หลินซวงเอ๋อร์ยังคงเป่าฝ่ามือให้เขาเบาๆ ด้วยกลัวว่าการตีเมื่อครู่จะทำให้เขาเจ็บจริงๆ “ต่อไปพี่จะไม่ผิดสัญญากับเจ้าอีกแล้ว…”วาจาเขาหนักแน่นมาก แววตาที่มองนางทั้งล้ำลึกทั้งลึกซึ้งหลินซวงเอ๋อร์ยิ้มออกมา ลักยิ้มบนแก้มเผยออกมาอีกครา “ได้สิ งั้นลงโทษครั้งต่อไปท่านต้องซื้อน้ำตาลปั้นให้ข้าสองอันนะ ”“ได้”เยี่ยเป่ยเฉิงโล่งใจในที่สุดเขารู้ ซวงเอ๋อร์ของเขานิสัยดีมาก ไม่เคยโวยวายไร้เหตุผลเลยสักนิด กระทั้งไม่ต้องให้เขาง้อทุกวิธีนิสัยของนางเหมือนกับกระต่ายนอบน้อม ซึ่งอ่อนโยนกับเขาตลอดไปจู่ๆ ก็รู้สึกว่าเอวมันโล่งๆ เยี่ยเป่ยเฉิงถึงได้นึกอะไรขึ้นมาได้ จึงถามนางทันที “ถุงกระเป๋าที่ซวงเอ๋อร์ปักให้พี่ล่ะ?”หลินซวงเอ๋อร์ถาม “อยู่ใต้หมอน ท่านพี่จะสวมตอนนี้เลยหรื

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-22

บทล่าสุด

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 655

    วันที่เจียงหว่านกำลังจะถูกเนรเทศ ในที่สุดเจียงเช่อก็มาหาถึงหน้าประตูเขาคุกเข่าเบื้องหน้าเยี่ยเป่ยเฉิง เว้าวอนขอเยี่ยเป่ยเฉิงปล่อยเจียงหว่านไปขณะที่เดินทางมา เขารับรู้เรื่องราวทั้งหมดแล้วเจียงหว่านลอบวางยาพระชายาเยี่ย ใช้ประชาชนที่ติดโรคทดลองยา เข่นฆ่าคนบริสุทธิ์ ผลาญชีวิตคนดุจผักดุจปลา นับเป็นอาชญากรรมอันชั่วร้ายที่สุด......แต่ไม่ว่าอย่างไร เจียงหว่านก็เป็นน้องสาวเขา เป็นคุณหนูหนึ่งเดียวของตระกูลเจียง เจียงเช่อมิอาจนั่งนิ่งดูดาย ปล่อยให้นางไปตายได้“ขอร้องท่านอ๋องไว้ชีวิตนางเถิด เป็นเพราะข้าตามใจนางจนเสียคน หากท่านอ๋องจะลงโทษ โปรดลงที่เจียงเช่อเถิดพะยะค่ะ”เมื่อเห็นเจียงเช่อ สายตาสิ้นหวังของเจียงหว่านพลันมีประกายความหวังขึ้น“พี่......ท่านพี่ ช่วยข้าด้วย ข้าไม่อยากไปแดนเถื่อน ข้าอยากกลับบ้าน ท่านพี่ช่วยข้าด้วย......”เจียงเช่อขมวดคิ้วเขม็งจ้องเจียงหว่าน สายตาแฝงเร้นด้วยแววเกยีดชังเข้าไส้เขารู้ว่าเจียงหว่านต้องโทษตาย ยามนี้แค่เนรเทศ ถือว่าเมตตามากแล้ว แต่เขาเองก็รู้ว่า สถานที่อย่างแดนเถื่อนนั้น มิใช่สถานที่ที่สตรีตัวคนเดียวจะไปได้ การเนรเทศนางไปที่นั่น เท่ากับส่งนางไปขุมนร

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 654

    “เลือดของนาง...”เจียงหว่านสีหน้าตกตะลึงตอนนั้น ตอนที่ฮุ่ยอี๋มอบยาถอนพิษใส่ในมือนาง นางเคยเอาทิ้งไว้หลายขวด เดิมทีคิดศึกษาส่วนผสมในนั้น ทว่าด้านในกลับมีส่วนผสมยาเพียงหนึ่งเดียว นั่นคือเลือดมนุษย์...แรกเริ่ม นางคิดว่าเป็นเรื่องเหลวไหล! กระทั่งยามนี้นางถึงได้เชื่อความจริง ส่วนประกอบของยานั้น มีเพียงเลือดมนุษย์จริงๆ! ทั้งยังเป็นเลือดของหลินซวงเอ๋อร์! เรื่องมาถึงขนาดนี้แล้ว ในที่สุดนางก็เข้าใจ!มิน่า...ตอนนั้น นางใช้ยาปริมาณมาก แต่กลับไม่อาจทำให้หลินซวงเอ๋อร์ถึงตาย! ไม่คิดว่าเลือดของนางจะขจัดพิษในร่างนางโดยมองไม่เห็น...ฮุ่ยอี๋เอ่ย “เจ้ายังมีหน้าพูดว่าไม่ได้ฆ่าคนเป็นผักเป็นปลาอีก! เจียงหว่าน เจ้าลืมแล้วหรือว่าเจ้าวางยาซวงเอ๋อร์อย่างไร? เสด็จอาให้อภัยเจ้าครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ข้าไม่มีวันเกรงใจเจ้า!”คำพูดนี้สองแง่สองง่าม เห็นชัดว่ากำเย้ยหยันเยี่ยเป่ยเฉิงที่ดึงหมาป่าเจ้าเล่ห์เข้าบ้าน!เยี่ยเป่ยเฉิงตัวแข็งทื่ออยู่ที่เดิม ไร้ซึ่งแรงโต้กลับยามนี้ เขามิอาจชำระคืนได้ ซวงเอ๋อร์ของเขาไม่มีวันกลับมาอีกต่อไป!สิ่งเดียวที่ทำได้ตอนนี้ คือทำให้เจียงหว่านชดใช้อย่างสาสมที่สุด ส่วนตัวเขา ชีวิตที่

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 653

    เยี่ยเป่ยเฉิงมีสีหน้าเคร่งขรึม สายตาที่มองเจียงหว่านเยือกเย็นดุจน้ำแข็ง ไม่มีความอ่อนโยนเลยสักนิดเขาอยากฆ่านางตั้งนานแล้ว ที่ปล่อยนางรอดมาจนถึงตอนนี้ ก็แค่อยากให้นางได้รับความทรมานจนตายบัดนี้เห็นนางตกยากเช่นนี้ เยี่ยเป่ยเฉิงกลับรู้สึกว่าบทลงโทษแค่นี้ยังมิพอเจียงหว่านถูกทรมานจนเหมือนตายดีกว่าอยู่มานานแล้ว นางรู้ เยี่ยเป่ยเฉิงไม่มีทางปล่อยนางไปง่ายๆ หลังจากคิดดูแล้ว หากตายด้วยน้ำมือของเยี่ยเป่ยเฉิงได้ ก็คงจะดีกว่าตอนนี้ ที่ดูดซับยาเข้าสู่ร่างกายทุกวัน ถูกฝันร้ายหลอกหลอนทุกคืนสุดท้ายก็ไม่สามารถหนีจากพิษและเสียชีวิตลงได้!อย่างไรก็ตาย มิสู้ให้เยี่ยเป่ยเฉิงจบชีวิตนางด้วยมือเขาเอง!เมื่อคิดได้เช่นนี้ นางก็ยิ้มเยาะ จงใจกล่าวยั่วยุเขา “เยี่ยเป่ยเฉิง เจ้ามีฝีมือแค่นี้หรือ? แน่จริงก็ฆ่าข้าไปเลยสิ!”“ฆ่าข้าให้มันจบๆ ไปเสีย!”เยี่ยเป่ยเฉิงปรายตามองนาง พลางกล่าวอย่างเย็นชา “ตอนนั้น เจ้าก็ทรมานซวงเอ๋อร์เช่นนี้!”เจียงหว่านกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ใช่แล้วอย่างไร!”“ลูกในท้องนางข้าก็เป็นคนทำร้ายเอง! ร่างกายอ่อนแอแบบนั้นของนางต่อไปจะตั้งครรภ์ไม่ได้อีกแล้ว!”“ที่นางฝันร้ายทุกคืน ก็เป็นข้าที่ทำเอง

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 652

    หลายสิบปีมานี้ นางทำเรื่องชั่วมานับไม่ถ้วน ทุกเรื่อง นางจิตใจสงบ ไม่เคยรู้สึกผิดเลยมีเพียงเจียงหลิง…มีเพียงการตายของเจียงหลิง ทำให้นางยากจะข่มตานอนได้…ตลอดเวลาที่ผ่านมา ในฐานะคุณหนูรอง เจียงหว่านไม่เป็นที่ชื่นชอบของพ่อแม่มาตลอด พี่ชายก็ยิ่งไม่สนใจนาง ทว่าเจียงหลิงกลับได้รับความรักมากมาย…นางอิจฉาเจียงหลิง และแทบอยากทำให้อีกฝ่ายหายไปจากโลกใบนี้แต่เจียงหลิงกลับรักเอ็นดูนางมาตั้งแต่ต้นจนจบ ปกป้องนาง มอบของที่ดีที่สุดในโลกใบนี้ให้แก่นาง…เจียงหลิงเป็นพี่สาวที่ดีต่อนางที่สุดบนโลกใบนี้…ทว่าที่นางต้องการหาใช่แค่พี่สาวอย่างเดียว นางต้องการความรักของทุกคน นางต้องการให้พ่อแม่ พี่ชายรกนางแค่คนเดียว นางอยากครอบครองของที่ดีที่สุดไว้กับตัวเอง ไม่ใช่รอให้คนอื่นมอบให้!ดังนั้น ในคืนวันหิมะตก นางผลักเจียงหลิงตกน้ำ มองนางจมตายทั้งเป็นอยู่ใต้น้ำ หลังจากนั้นนางก็ติดวันเกิดเวลาเกิดของเจียงหลิงบนตุ๊กตาคุณไสย แทงเธอทุกวัน สวดภาวนาทุกคืน นางต้องการให้เจียงหลิงไม่มีโอกาสได้ผุดได้เกิด ไม่หวนกลับมาตลอดกาล!เพราะมีเพียงแค่ทำแบบนี้ นางถึงจะไม่มีโอกาสแก้แค้นตัวเอง!แต่ทำไม…ทำไมตอนนี้นางถึงยังหาตัวเอง

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 651

    ยาซึมเข้าสู่ร่างกายติดกันหลายวันทำให้เจียงหว่านค่อยๆ เป็นบ้าในห้องที่ปิดสนิท เจียงหว่านหดตัวอยู่บนพื้นเหมือนดินโคลนตัวนางเหม็นมาก ชุดกระโปรงสีรากบัวเปลี่ยนเป็นสกปรกและเก่าองครักษ์ทำให้เส้นเอ็นมือของนางขาด ตรงบาดแผลถูกทาขี้ผึ้งปิดแผลชั้นแล้วชั้นเล่าแม้ขี้ผึ้งปิดแผลจะเป็นยาสำหรับปกปิด ทว่ากลับมีผลดีต่อการหยุดเลือดบาดแผลแข็งตัวจนกลายเป็นสะเก็ดไปแล้ว เพียงแต่ไม่ได้รับการรักษาที่ดีกว่านี้ แม้จะดีขึ้นก็ยังเหลือรอยแผลเป็นอัปลักษณ์เอาไว้ธูปในห้องไม่เคยลดลงเลยทั้งวัน ประกอบกับกระกระตุ้นของต้นคลีเวีย ความคิดต่ำช้าที่อยู่ในตัวนางแทบจะถูกกระตุ้นออกมาทั้งหมดสองตานางแดงก่ำ ดูฉุนเฉียวไม่น้อย กรีดร้องโวยวายอยู่ในห้อง ประหนึ่งคนบ้าคนหนึ่งองครักษ์ที่เฝ้าอยู่หน้าห้องไม่สนใจนางสักนิด ได้แต่ทรมานนางไม่ให้นางตายทุกวันความเคียดแค้นฉายออกมาจากในตาเจียงหว่าน เวลานี้ นางได้ปล่อยว่างความหลงใหลต่อเยี่ยเป่ยเฉิงแล้ว ไม่ว่าจะรักมากขนาดไหนก็แปรเปลี่ยนเป็นความชิงชังเข้ากระดูก“เยี่ยเป่ยเฉิง! ปล่อยข้ากลับไป! ปล่อยข้ากลับไปสิ!”“แน่จริงก็ฆ่าข้าเลยสิ!ฆ่าข้าให้มันจบๆ ! ท่านมีสิทธิ์อะไรมาขังข้าไว้เช่นนี

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 650

    “ได้ยินว่าพ่อแม่ที่เลี้ยงดูเจ้าเสียไปนานแล้ว แล้วเจ้ากับพี่ชายอยู่มาได้อย่างไร?”“แล้วเหตุใดเจ้าจึงขายตัวไปเป็นบ่าวไพร่? หลายปีมานี้ เจ้าคงผ่านความลำบากมิใช่น้อย เคยถูกใครรังแกหรือไม่?”หลินซวงเอ๋อร์พลันเกิดความขมขื่นในจิตใจเดิมที หากไม่เอ่ยถึงเรื่องเหล่านี้ นางยังพออดทนได้บ้าง แต่เมื่ออวี๋หว่านหนิงถามขึ้นมา นางก็อดรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจเสียมิได้นางเม้มปากพลางจ้องมองนิ้วมือตนเอง น้ำตาเริ่มเอ่อล้น พร้อมหยดแหมะลงหลังมือทีละหยดนางอยู่สบายหรือไม่?นางเคยถามตนเองอยู่เช่นกันหลายปีมานี้ นางผ่านเรื่องราวมากมาย สูญเสียบิดามารดา สูญเสียพี่ชายไป กลายเป็นเด็กกำพร้าที่ไร้ญาติขาดมิตรโดยแท้แต่หากคิดดีๆ ชีวิตนางก็เคยอยู่สุขสบายมาช่วงหนึ่งนั่นคือตอนอยู่กับเยี่ยเป่ยเฉิง นางมีความสุขจริงๆในตอนนั้น เยี่ยเป่ยเฉิงเป็นกำลังใจให้นาง ซื้อเสื้อผ้าชุดใหม่ให้ หาของดีมาให้กิน สอนนางเรียนหนังสือ พาไปเดินเล่นท่องทะเลสาบ ให้ความรักต่อนางอย่างชนิดไร้ผู้เทียบเทียม...ในเวลานั้น นางมีความสุขเหลือล้น เป็นความสุขมากที่สุดในชีวิต แม้แต่ฝันก็ยังเป็นฝันหวาน...แต่ต่อมา ทุกอย่างกลับแปรเปลี่ยน ก่อนหน้านี้เคยสุ

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 649

    เมื่อได้ยินประโยคนี้ หลินซวงเอ๋อร์แทบชะงักงันไปที่บั้นเอวนางมีปานแดงรูปเสี้ยวจันทร์จริงๆ ท่านแม่บอกว่า มันมีติดตัวมาตั้งแต่นางเกิด เนื่องจากเป็นตำแหน่งที่บั้นเอว จึงมีน้อยคนที่จะรู้เรื่องนี้“ท่าน...คือแม่ของข้าจริงหรือ?” หลินซวงเอ๋อร์หัวใจเต้นแรง ขอบตาแดงเรื่อขึ้นอวี๋หว่านหนิงยื่นมือมาจับมือของนางไว้ พลางกล่าวเสียวเศร้า “ซวงเอ๋อร์ ข้าคือแม่เจ้าจริงๆ หลายปีนี้ทำให้เจ้าลำบากนัก...”แม่นมซุนอยู่ด้านข้างพลางกล่าวเสริม “องค์หญิง นางคือเสด็จแม่ของท่านจริงๆ หลายปีมานี้ ฮองเฮาไม่เคยเลิกราในการตามหาท่าน เพียงแต่ภาคกลางกว้างขวางนัก พวกท่านเองก็ข่าวคราวเงียบหาย หลายปีนี้ พวกท่านลำบากก็จริง ฮองเฮาก็ไม่ได้สุขสบายใจ...”หลินซวงเอ๋อร์นิ่งเงียบไปครู่ใหญ่ พลันหันไปมองอวี๋หว่านหนิงแล้วกล่าว “ที่จริง ข้าไม่เคยตำหนิท่านเลย เพียงแต่บางครั้งก็เคยคิด ว่าท่านแม่จะมีหน้าตาเป็นอย่างไร ยังมีชีวิตอยู่ในโลกนี้หรือไม่”“ตอนยังเป็นเด็ก ข้าเคยคาดหวังให้นางมาหาบ้าง แต่พอโตขึ้นก็ไม่เห็นนางมาเสียที ข้าจึงภาวนาให้นางอยู่ดีมีสุขแทน แม้จะไม่ได้พบหน้า แต่ขอให้นางยังมีชีวิตอยู่ เป็นความคิดถึงในใจก็เพียงพอแล้ว...”

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 648

    อวี๋หว่านหนิงรับเอาผ้าเช็ดหน้ามาซับน้ำตา พลันเกิดความตื้นตันจนไม่รู้ตอบอย่างไรดีทันใดนั้น แม่นมซุนเดินขึ้นมาพร้อมกล่าว “องค์หญิง ที่นี่คือวังหลวงแห่งเป่ยหรง ฮองเฮาทรงตามหาท่านมานาน ทุ่มแทแรงกายแรงใจไม่น้อยกว่าจะหาพบ...”“องค์หญิง?” หลินซวงเอ๋อร์นึกว่าตนหูฝาดไป “ท่านเรียกข้าอยู่หรือ?”นางกล่าวตอบ “พวกท่านจำคนผิดหรือเปล่า ข้าไม่ใช่องค์หญิง ข้าคือหลินซวงเอ๋อร์ต่างหาก”นางเป็นเพียงเด็กกำพร้าที่ถูกทอดทิ้ง เติบโตมาจากชนบทแร้นแค้น เป็นเพียงสาวใช้ต่ำต้อยผู้หนึ่งเท่านั้นองค์หญิงอะไรกัน ยังมีวังเป่ยหรงอีก แล้วใครคือฮองเฮา?พวกนางคงจำคนผิดเป็นแน่แม่นมซุนกล่าวตอบ “ไม่ผิดเจ้าค่ะ ไม่มีผิดแน่นอน ท่านก็คือองค์หญิงของเรา องค์หญิงที่พลัดพรากจากฮองเฮาไป...”หลินซวงเอ๋อร์คล้ายกับยังมึนงงอยู่ ความคิดนางเกิดความสับสน ปวดหัวเป็นอย่างมากแม่นมซุนอธิบายต่อ “สมัยที่อดีตฮ่องเต้สวรรคต ฮ่องเต้องค์ใหม่ยังไม่ได้ขึ้นครองราชย์ ราชสำนักเป่ยหรงเกิดความวุ่นวาย ตอนนั้นฮองเฮายังมีฐานะเป็นเพียงพระชายาแห่งรัชทายาท นางเสี่ยงอันตรายให้กำเนิดแฝดชายหญิงคู่หนึ่ง เพื่อปกป้องชีวิตของพวกท่านไว้ จึงให้คนสนิทส่งพวกท่านออก

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 647

    หลินซวงเอ๋อร์เปลือกตากระตุกเล็กน้อย นางก็อยากตื่น แต่ทำอย่างไรก็ไม่อาจตื่นขึ้นมาหน้าอกคล้ายถูกกรีดจนเป็นแผลเหวอะหวะ เหงื่อเย็นในตัวไหลพราก ลำคอคล้ายถูกงูพิษตัวหนึ่งรัดไว้ ยิ่งรัดก็ยิ่งแน่น จนนางใกล้จะหายใจไม่ออกข้างโสตนั้น ได้ยินเสียงคุ้นหูประเดี๋ยวไกลประเดี๋ยวใกล้ ถัดจากนั้น คล้ายมีมืออ่อนโยนลูบไล้ใบหน้านางเบาๆ“เด็กดี หมดเรื่องแล้ว เจ้าปลอดภัยดีแล้ว รีบตื่นมาเถิด ตื่นมาเร็วเข้า...”หลังจากได้ยินเสียงนั้นชัดเจนมากขึ้น ลำคอที่ถูกรัดแน่นก็ค่อยๆ คลายออก นางลืมตาช้าๆ ภาพเบื้องหน้าจากพร่ามัวจนกลายเป็นชัดเจน สิ่งแรกที่เข้าสู่ม่านตาก็คือม่านคลุมเตียงสีม่วงที่อยู่เหนือศีรษะขึ้นไป คล้ายเป็นภาพฝัน เสมือนเป็นแหยักษ์ที่ถูกเหวี่ยงลงมา เพื่อคลุมตัวนางให้อยู่ตรงกลางเตียงนี้เป็นเตียงที่สวยงาม จนแม้แต่เสาเตียงก็เป็นลวดลายที่นางไม่เคยเห็นมาก่อน หัวเตียงนอกจากจะแกะสลักลายดอกไม้แล้วยังฝังด้วยหยกเจียระไนงดงามและพลอยล้ำค่าอีกชั่วขณะนั้น นางรู้สึกมึนงงยิ่งนี่มันเป็นที่ไหนกัน?“ซวงเอ๋อร์ เจ้ารู้สึกตัวแล้วรึ?” จนกระทั่งข้างหูได้ยินเสียงนั้นอีกครั้ง นางจำได้ว่าตอนอยู่ในความฝัน ได้ยินเสียงนี้จนคุ

DMCA.com Protection Status