Share

บทที่ 370

Penulis: พิณเคล้าสายฝน
ไป๋อวี้ถังก็เตรียมของขวัญให้ฮุ่ยอี๋เช่นกัน

เพียงแต่ว่าฮุ่ยอี๋ไม่ค่อยสนใจ ของขวัญของเขามากเท่าไหร่นัก จึงให้จื่อหลันเอาของไปวางที่ในกระโจม

จื่อหลันถามว่า: "องค์หญิงไม่อยากเห็นสิ่งที่สมุหราชเลขาธิการมอบให้หรือ?"

ฮุ่ยอี๋โบกไม้โบกมือ แล้วกล่าวว่า: " เอาวางไว้ตรงนั้นแหละ เขาจะมอบของดีๆอะไรให้ได้ล่ะ? บางทีอาจจะเลือกของแบบสุ่มๆแล้วเอามามอบให้กับข้า "

จื่อหลันกล่าวว่า: "ดูเหมือนว่าองค์หญิงจะไม่ค่อยชอบท่านสมุหราชเลขาธิการมากเท่าไหร่นัก? เขาทำให้องค์หญิงขุ่นเคืองใจหรือ?"

จื่อหลันจำได้อย่างชัดเจนว่า เมื่อก่อนองค์หญิงชื่นชอบไป๋อวี้ถังมาก ชอบมากจนตั้งเกาะติดเขาทุกเมื่อเชื่อวัน แต่อยู่มาวันหนึ่ง องค์หญิงก็ไม่ค่อยสนใจไป๋อวี้ถังแล้ว จื่อหลันก็ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเหตุใด แค่คิดว่าองค์หญิงอาจจะรู้สึกเบื่อแล้ว

อย่างไรเสีย หญิงสาวที่ชื่นชอบไป๋อวี้ถังก็มีจำนวนไม่น้อย ไป๋อวี้ถังไม่เหมือนฉีหมิง ที่มีใบหน้าที่เย็นชาเหมือนภูเขาน้ำแข็งกับทุกคน เมื่อไป๋อวี้ถังเผชิญหน้ากับหญิงสาวที่งดงามเหล่านั้นก็มักจะพูดคุยหัวเราะได้อย่างสนุกสนาน แต่แค่ไม่รู้ว่าในใจของเขาชื่นชอบคนไหนกันแน่

เมื่อได้ยินคำพูดของจื่อหลัน ฮุ่ยอี
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Bab Terkunci

Bab terkait

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 371

    ในขณะนี้จ้าวชิงชิงยืนอยู่นอกกระโจม มองเห็นเยี่ยเป่ยเฉิงจากระยะไกลเยี่ยเป่ยเฉิงกระโดดลงมาจากม้าที่สูงใหญ่ เขาสวมชุดสีดำ และรัศมีแห่งความเย็นชาแผ่ซ่านไปทั่วทั้งร่างกายเขามีรูปร่างที่ตรงสง่า หน้าตาหล่อเหลาคล้ายมาร นัยน์ตาสดใสประดุจดารายามราตรีอันหนาวเหน็บ คิ้วอันคมเข้มเชิดไปจนถึงขมับ อกผายไหล่ผึ่ง และมีสง่าบารมีที่คนยากจะต้านทานได้เพียงแค่เขายืนอยู่ตรงนั้น ก็เปล่งรัศมีของราชาผู้เป็นใหญ่ในใต้หล้า เขาทำให้ผู้คนหวาดเกรงกลัวโดยไม่มีสาเหตุ ในขณะเดียวกันก็ทำให้ผู้คนอดไม่ได้ที่จะมองเขาหลายหนหากไป๋อวี้ถังและฉีหมิงเป็นความฝันอันแสนหวานในใจของหญิงสาวนับไม่ถ้วนในเมืองหลวง เยี่ยเป่ยเฉิงก็ถือว่า เป็นความฝันที่พวกนางมิอาจเอื้อมถึงได้มีข่าวลือว่าเยี่ยเป่ยเฉิงเป็นคนเย็นชารักสันโดษ ไม่ฝักใฝ่ในอิสตรี องอาจห้าวหาญในสนามรบ ราวกับเทพแห่งความชั่วร้าย โหดร้ายเลือดเย็นต่อสตรี สาวงามมากมายในเมืองหลวง ไม่มีใครเข้าใกล้เขาได้เลยสักคนแต่ถึงกระนั้น ก็ไม่มีใครสามารถต้านทานความหล่อเหลาของเขาได้ แค่มองดูครู่หนึ่ง ก็ทำให้ทุกคนรู้สึกหลงใหล แม้ว่าจะต้องตายในอ้อมกอดของเขา พวกนางก็ยินยอมบรรดาหญิงสาวที่อยู่ข้างๆต

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 372

    ฮุ่ยอี๋เดินออกจากในกระโจม แค่แวบแรกก็เห็นหลินซวงเอ๋อร์แล้วก่อนหน้านี้เคยเห็นนางจากระยะไกลเท่านั้น จึงไม่รู้สึกว่ามีอะไรพิเศษกว่าคนทั่วไปแต่ตอนนี้เมื่อได้เห็นด้านหน้า นางกลับไม่คิดเช่นนั้นความประหลาดใจผุดแวบขึ้นมาในนัยน์ตาของฮุ่ยอี๋แม้ว่าหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้าจะแต่งกายเรียบง่ายสง่างาม แต่กลับโดดเด่นกว่าหญิงสาวคนอื่นๆนางเกิดมาพร้อมกับรูปร่างหน้าตาที่งดงาม มีผิวพรรณที่ขาวใสราวกับหยก ผิวเนียนละเอียดนุ่มน่าถนอมเป็นอย่างมาก แค่นางยกริมฝีปากขึ้นเล็กน้อย ก็มีเสน่ห์น่าหลงใหลเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งนัยน์ตาที่สะอาดสุกใสคู่นั้น บวกกับแสงสีแดงเข้มที่สะท้อนอยู่ในรูม่านตา ราวกับว่าสูงส่งสง่างามมาต้งแต่กำเนิดเห็นได้ชัดว่านางเป็นเพียงสาวใช้ แต่กลับเกิดมาพร้อมกับความสูงส่ง!ฮุ่ยอี๋ขมวดคิ้วเล็กน้อย“มิน่าฉีหมิงถึบงได้ชื่นชอบนางมากขนาดนี้…” นางพึมพำโดยไม่รู้ตัววันนี้ล่าสัตว์ นางไม่จำเป็นต้องแต่งตัวหรูหราเกินไป เดิมทีนางได้เตรียมชุดขี่ม้าสีแดงแบบทะมัดทะแมงเอาไว้หนึ่งชุด แต่นางคิดว่าชุดนั้นขี้เหร่เกินไป ถึงได้ยืนกรานสวมชุดที่ตนเองชื่นชอบจนกระทั่งตอนนี้ที่นางได้เห็นหลินซวงเอ๋อร์ เสื้อ

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 373

    จ้าวชิงชิงคิดว่าตกเองสนิทสนมกับฮุ่ยอี๋ จึงไร้ระเบียบกฏเกณฑ์มากยิ่งขึ้น ไม่เพียงแต่ก้าวไปข้างหน้าแล้วคล้องแขนฮุ่ยอี๋เอาไว้ ยังพูดจาอย่างไม่มีหูรูดว่า: " วันนี้เป็นวันคล้ายวันเกิดขององค์หญิง จะปล่อยให้คนที่มีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมมาทำให้องค์หญิงไม่เบิกบานใจได้อย่างไร คนที่มาที่นี่ล้วนเป็นคนที่มีเกียรติมีศักดิ์ศรี อย่าปล่อยให้เป็นสาวใช้ชั้นต่ำเหล่านั้นมาเข้าใกล้องค์หญิงเด็ดขาด "สิ่งที่นางพูดมีนัยความหมายบางอย่าง เห็นได้อย่างชัดเจนว่ากำลังพูดถึงหลินซวงเอ๋อร์ก่อนที่ฮุ่ยอี๋จะเอ่ยปากพูด จ้าวชิงชิงก็พูดอีกครั้งว่า: " ข้าว่านะ คนเราควรจะรู้จักประเมินตนเอง ถ้าข้าเป็นนาง จะซ่อนตัวอยู่ที่ในจวนไม่ออกมาให้อับอายขายขี้หน้าหรอก! นังสาวใช้ชั้นต่ำ! ไม่คู่ควรมางานเฉลิมฉลองวันคล้ายวันเกิดองค์หญิงเลย!ช่างไร้ยางอายจริงๆ! "ฮุ่ยอี๋ขมวดคิ้วเล็กน้อยแม้ว่านางจะไม่ชอบหลินซวงเอ๋อร์ แต่คำพูดของจ้าวชิงชิงแหลมสูง ทำให้นางฟังแล้วรู้สึกหงุดหงิด เหมือนอีกาตัวหนึ่งที่น่ารำคาญ ร้องจ้อกแจ้กจอแจอยู่ข้างหูนางไม่หยุดช่างน่ารำคาญมากจริงๆ!ด้วยความหงุดหงิดนางจึงดึงแขนออกมาจากที่ในมือของจ้าวชิงชิง ฮุ่ยอี๋มีสีหน้าที่ดูส

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 374

    ในอดีตไม่ว่าจะวาระโอกาสใดก็ตาม เหล่าขุนนางไม่เคยเห็นเยี่ยเป่ยเฉิงมีพาสมาชิกในจวนที่เป็นหญิงมาด้วยเลย วันนี้เมื่อพวกเขาเห็นสาวงามที่อยู่ข้างกายเขา ก็อดรู้สึกสงสัยไม่ได้เว่ยหวยซานชี้ไปที่หลินซวงเอ๋อร์ที่อยู่ข้างเยี่ยเป่ยเฉิง ก็อดไม่ได้ที่จะถามว่า: " ท่านอ๋อง แม่นางท่านนี้เป็นบุตรีของขุนนางจวนไหนหรือ ถึงได้งดงามมีเสน่ห์เช่นนี้ แต่มองก็สามารถทำให้ผู้คนชื่นชอบแล้ว"เว่ยหวยซานติดตามเยี่ยเป่ยเฉิงมาหลายปีแล้ว เมื่อสองปีก่อนเขาถูกย้ายไปที่ชายแดนเพื่อปกป้องป้อมปราการ ภายใต้การสนับสนุนของเยี่ยเป่ยเฉิง เขาจึงได้เลื่อนขั้นเป็นนายพลหลังจากปราบจราจลที่ป้อมปราการชายแดนได้แล้ว ก็เพิ่งจะกลับมาเมืองหลวงเมื่อไม่กี่วันก่อนเนื่องจากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาเขาไม่ได้ติดตามเยี่ยเป่ยเฉิง เว่ยหวยซานจึงไม่รู้อะไรมากมาย รวมถึงเรื่องที่เยี่ยเป่ยเฉิงมีผู้หญิงอยู่ข้างกายตั้งแต่เมื่อไหร่ เขาก็ไม่รู้เช่นกันหลินซวงเอ๋อร์มองไปที่เว่ยหวยซาน ก็รู้สึกหวาดกลัวบนโลกใบนี้ มีคนกำยำล่ำสันขนาดนี้ได้อย่างไร! หลินซวงเอ๋อร์ไม่อยากจะเชื่อเลยเขามีร่างกายที่สูงใหญ่กำยำล่ำสัน หนวดเคราที่อยู่บนหน้าทำให้เขาจึงดุร้ายป่าเถื่อนมา

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 375

    ในเวลานี้ ขุนนางที่พอจะรู้เรื่องก็เข้ามาอธิบายเหตุผลที่ข้างหูของเขาว่า: "นายพลเว่ย แม้แต่พระชายาท่านก็กล้าล้อเล่นด้วยหรือ?"“ พระชายา?” เว่ยหวยซานมีสีหน้าที่ดูตกใจคิดไม่ถึงว่าท่านอ๋องที่สันโดษเย็นชามาโดยตลอดจะสมรสพระชายาโดยที่ไม่มีข่าวคราวอะไรเลย?เว่ยหวยซานไม่อยากจะเชื่อเลย เหตุใดเขาไม่ได้ยินข่าวคราวใดๆเลย?ไม่น่าแปลกใจเลยที่เยี่ยเป่ยเฉิงจะเกรี้ยวโกรธ เว่ยหวยซานแทบอยากจะตบปากตนเองสักสองสามครั้ง จึงรีบพูดกับหลินซวงเอ๋อร์ว่า: " พระชายาได้โปรดอย่าคิดจริงจังเลย ข้าเป็นคนหยาบกระด้าง เมื่อกี้ข้าก็แค่ล้อเล่นไปเรื่อยเปื่อย ข้าไม่เคยกินคน พระชายาอย่าได้หวาดกลัวไปเลย "เพื่อแสดงไมตรีจิต เว่ยหวยซานได้แสดงรอยยิ้มที่เขาคิดว่าเป็นที่เป็นมิตรที่สุดให้หลินซวงเอ๋อร์เห็น แต่คิดไม่ถึงว่าจะทำให้หลินซวงเอ๋อร์กลัวแทบตายตอนที่เขาไม่ยิ้มยังพอรับได้ แต่พอเขายิ้มขึ้นมาดูน่าหวาดกลัวยิ่งกว่า เมื่อปากกว้างๆอ้าขึ้น ก็จะเผยให้เห็นฟันขาวอันน่าขนลุกของเขา จึงทำให้ดูเหมือนภูตผีแห่งขุนเขาที่กินคนมากกว่า“สวามี…” ทันใดนั้นหลินซวงเอ๋อร์ก็ซุกหน้าเข้าไปในอ้อมแขนของเยี่ยเป่ยเฉิง ด้วยร่างกายที่สั่นเทามากยิ่งขึ้นเย

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 376

    นับตั้งแต่ที่ได้ยินคำพูดขององค์ชายใหญ่ทั่วป๋าจิ่น หลินซวงเอ๋อร์ก็มีจิตใจที่ย่ำแย่เป็นอย่างมาก สีหน้าจึงดูซีดเผือดลงเล็กน้อยตอนที่นางตกอยู่ในมือของอู๋เต๋อไห่ แทบจะถูกทรมานจนตาย ฝันร้ายที่ยืดเยื้อนั้นรังควานนางมาเป็นเวลานานในเวลานั้น นางเองก็ไม่เข้าใจ ตนเองไม่ได้มีเรื่องบาดหมางอะไรกับขันทีผู้โหดร้ายคนนั้น เหตุใดเขาถึงทรมานนางทุกรูปแบบจนกระทั่งในเวลาต่อมาได้ยินคำพูดของเยี่ยเป่ยเฉิงโดยไม่ทันได้ตั้งใจ จึงเข้าใจได้ในทันทีที่แท้ เยี่ยเป่ยเฉิงเป็นคนมอบนางให้กับอู๋เต๋อไห่ด้วยตนเอง...ตอนที่นางรู้ความจริง นางก็รับไม่ได้ จนกระทั่งผ่านไปเป็นเวลานาน ถึงได้เก็บเรื่องราวในอดีตเอาไว้ในใจเดิมที นางไม่อยากให้อภัยเยี่ยเป่ยเฉิงแต่ว่า เขาดีกับตนเองมากจริงๆ ดีจนทำให้นางต้องสงสัยว่า ตอนนั้นคนที่ส่งตนเองไปไม่ใช่เขา บางทีอาจจะเป็นแค่ความเข้าใจผิด...เมื่อเวลาผ่านไป นางก็ไม่ได้คิดถึงเรื่องนี้อีกจนกระทั่งตอนนี้ ได้หยิบยกเรื่องในอดีตขึ้นมาพูดอีกครั้ง ทั่วป๋าจิ่นได้พูดเรื่องนี้ต่อหน้าหน้านางและเยี่ยเป่ยเฉิง ทำให้หลินซวงเอ๋อร์ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้หลินซวงเอ๋อร์พบว่า แท้จริงแล้วมีเรื่องมากมาย ไม่ใช่ว่

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 377

    เยี่ยเป่ยเฉิงรู้สึกพ่ายแพ้เป็นครั้งแรกในชีวิตเขาไม่กล้าแม้แต่จะสบตานางดวงตาของนางสะอาดบริสุทธิ์ ราวกับว่าเป็นหยกไร้ที่ติในโลก ในอดีต นางมักจะใช้สายตาคู่นี้ มองเขาด้วยความรักอันลึกซึ้ง ราวกับว่าในดวงตาของนางมีแต่เขาตอนนี้ นางกลับใช้นัยน์ตาที่มีเสน่ห์คู่นี้ซักถามเขา ทำให้รู้สึกละลายใจจนไม่รู้จะอยู่ที่ไหน และมีความคิดที่อยากจะหลบหนีเมื่อเห็นว่าเขาไม่พูด หลินซวงเอ๋อร์จึงซักถามอีกครั้งว่า: " ตอนนั้นสวามีมอบข้าให้กับขันทีคนนั้น สวามีรู้หรือไม่ว่าขันทีคนนั้นเป็นคนอย่างไร? สวามีรู้หรือรู้ไม่ว่าเขามีบุคลิกนิสัยที่วิปลาส และมีวิธีการทรมานคนหลายรูปแบบ? "เยี่ยเป่ยเฉิงขมวดคิ้วเล็กน้อย และกระชับนิ้วอย่างลับๆในอดีต มีแต่เขาสอบปากคำคนอื่น แต่ตอนนี้หลินซวงเอ๋อร์สอบปากคำเขาอย่างไม่ปราณี“ถ้าสวามีสงสัยว่าข้าเป็นสายลับ เหตุใดถึงไม่สังหารข้าเลย? เหตุใดต้องส่งซวงเอ๋อร์ไปให้คนโหดเหี้ยมแบบนั้นทรมานด้วย?”หลินซวงเอ๋อร์รู้สึกไม่สบายใจเช่นกัน เพราะความทรงจำนั้นเจ็บปวดเกินไป เมื่อใดก็ตามที่นางนึกถึงเหตุการณ์นั้น นางก็รู้สึกหนาวสั่นอยู่ในใจ และถูกฝันร้ายรังควานทุกคืนตอนนั้น ถ้านางจับพลัดจับผลูเสียต

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 378

    สนามล่าสัตว์ของราชวงค์ อยู่ห่างจากเมืองหลวงประมาณหนึ่งร้อยกิโลเมตรสนามล่าสัตว์กว้างขวางมาก ภูเขาเรียงรายสุดลูกหูลูกตา ขอบเขตในการล่าสัตว์กินพื้นที่หลายสิบกิโลเมตร ในนั้นมีสัตว์หายากแปลกตามากมายนอกสนามบล่าสัตว์ ทำเป็นพื้นที่ราบ เพื่อทำเป็นค่ายเพื่อปักกระโจม ตรงใจกลางค่ายจะมีพื้นที่กว้างขวาง และมีเป้ายิงธนูสิบกว่าอันตามแบบแผนที่ทำกันมาก่อนหน้านี้ ก่อนที่จะเริ่มล่าสัตว์ จะต้องอบอุ่นร่างกายก่อน เพื่อเลือกธนูที่เหมาะสมมากที่สุดคนส่วนใหญ่ที่อยู่ตรงนั้นล้วนเรียนรู้ทักษะการยิงธนูมาบ้างแล้ว แม้ว่าพวกเขาจะยิงไม่เข้าเป้าทุกดอก แต่อย่างน้อยก็มีทักษะการยิงธนูขั้นพื้นฐานที่ดีเหล่าขุนนางที่ประพฤติตนตามกฏเกณฑ์ทั้งหลายต่างก็เปลี่ยนเป็นชุดที่ทะมัดทะแมง และยืนอยู่ในตำแหน่งที่ได้จัดสรรไว้ให้เป้าธนูตั้งอยู่ห่างออกไปร้อยเมตร ระยะห่างนี้จะว่าไกลก็ไม่ไกล จะว่าใกล้ก็ไม่ใกล้ ถ้าอยากจะยิงให้โดนเป้า ถือว่ามีความยากเล็กน้อยเหล่าสตรีทั้งหลายก็พากันยืนแยกออกเป็นสองฝั่ง พวกนางล้วนเป็นสตรีที่อ่อนแอไร้ซึ่งเรี่ยวแรงกำลัง จึงไม่จำเป็นต้องเข้าร่วมในการล่าสัตว์ในฤดูใบไม้ร่วงในครั้งนี้ และทำได้แค่อยู่ในค่ายเพื

Bab terbaru

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 655

    วันที่เจียงหว่านกำลังจะถูกเนรเทศ ในที่สุดเจียงเช่อก็มาหาถึงหน้าประตูเขาคุกเข่าเบื้องหน้าเยี่ยเป่ยเฉิง เว้าวอนขอเยี่ยเป่ยเฉิงปล่อยเจียงหว่านไปขณะที่เดินทางมา เขารับรู้เรื่องราวทั้งหมดแล้วเจียงหว่านลอบวางยาพระชายาเยี่ย ใช้ประชาชนที่ติดโรคทดลองยา เข่นฆ่าคนบริสุทธิ์ ผลาญชีวิตคนดุจผักดุจปลา นับเป็นอาชญากรรมอันชั่วร้ายที่สุด......แต่ไม่ว่าอย่างไร เจียงหว่านก็เป็นน้องสาวเขา เป็นคุณหนูหนึ่งเดียวของตระกูลเจียง เจียงเช่อมิอาจนั่งนิ่งดูดาย ปล่อยให้นางไปตายได้“ขอร้องท่านอ๋องไว้ชีวิตนางเถิด เป็นเพราะข้าตามใจนางจนเสียคน หากท่านอ๋องจะลงโทษ โปรดลงที่เจียงเช่อเถิดพะยะค่ะ”เมื่อเห็นเจียงเช่อ สายตาสิ้นหวังของเจียงหว่านพลันมีประกายความหวังขึ้น“พี่......ท่านพี่ ช่วยข้าด้วย ข้าไม่อยากไปแดนเถื่อน ข้าอยากกลับบ้าน ท่านพี่ช่วยข้าด้วย......”เจียงเช่อขมวดคิ้วเขม็งจ้องเจียงหว่าน สายตาแฝงเร้นด้วยแววเกยีดชังเข้าไส้เขารู้ว่าเจียงหว่านต้องโทษตาย ยามนี้แค่เนรเทศ ถือว่าเมตตามากแล้ว แต่เขาเองก็รู้ว่า สถานที่อย่างแดนเถื่อนนั้น มิใช่สถานที่ที่สตรีตัวคนเดียวจะไปได้ การเนรเทศนางไปที่นั่น เท่ากับส่งนางไปขุมนร

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 654

    “เลือดของนาง...”เจียงหว่านสีหน้าตกตะลึงตอนนั้น ตอนที่ฮุ่ยอี๋มอบยาถอนพิษใส่ในมือนาง นางเคยเอาทิ้งไว้หลายขวด เดิมทีคิดศึกษาส่วนผสมในนั้น ทว่าด้านในกลับมีส่วนผสมยาเพียงหนึ่งเดียว นั่นคือเลือดมนุษย์...แรกเริ่ม นางคิดว่าเป็นเรื่องเหลวไหล! กระทั่งยามนี้นางถึงได้เชื่อความจริง ส่วนประกอบของยานั้น มีเพียงเลือดมนุษย์จริงๆ! ทั้งยังเป็นเลือดของหลินซวงเอ๋อร์! เรื่องมาถึงขนาดนี้แล้ว ในที่สุดนางก็เข้าใจ!มิน่า...ตอนนั้น นางใช้ยาปริมาณมาก แต่กลับไม่อาจทำให้หลินซวงเอ๋อร์ถึงตาย! ไม่คิดว่าเลือดของนางจะขจัดพิษในร่างนางโดยมองไม่เห็น...ฮุ่ยอี๋เอ่ย “เจ้ายังมีหน้าพูดว่าไม่ได้ฆ่าคนเป็นผักเป็นปลาอีก! เจียงหว่าน เจ้าลืมแล้วหรือว่าเจ้าวางยาซวงเอ๋อร์อย่างไร? เสด็จอาให้อภัยเจ้าครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ข้าไม่มีวันเกรงใจเจ้า!”คำพูดนี้สองแง่สองง่าม เห็นชัดว่ากำเย้ยหยันเยี่ยเป่ยเฉิงที่ดึงหมาป่าเจ้าเล่ห์เข้าบ้าน!เยี่ยเป่ยเฉิงตัวแข็งทื่ออยู่ที่เดิม ไร้ซึ่งแรงโต้กลับยามนี้ เขามิอาจชำระคืนได้ ซวงเอ๋อร์ของเขาไม่มีวันกลับมาอีกต่อไป!สิ่งเดียวที่ทำได้ตอนนี้ คือทำให้เจียงหว่านชดใช้อย่างสาสมที่สุด ส่วนตัวเขา ชีวิตที่

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 653

    เยี่ยเป่ยเฉิงมีสีหน้าเคร่งขรึม สายตาที่มองเจียงหว่านเยือกเย็นดุจน้ำแข็ง ไม่มีความอ่อนโยนเลยสักนิดเขาอยากฆ่านางตั้งนานแล้ว ที่ปล่อยนางรอดมาจนถึงตอนนี้ ก็แค่อยากให้นางได้รับความทรมานจนตายบัดนี้เห็นนางตกยากเช่นนี้ เยี่ยเป่ยเฉิงกลับรู้สึกว่าบทลงโทษแค่นี้ยังมิพอเจียงหว่านถูกทรมานจนเหมือนตายดีกว่าอยู่มานานแล้ว นางรู้ เยี่ยเป่ยเฉิงไม่มีทางปล่อยนางไปง่ายๆ หลังจากคิดดูแล้ว หากตายด้วยน้ำมือของเยี่ยเป่ยเฉิงได้ ก็คงจะดีกว่าตอนนี้ ที่ดูดซับยาเข้าสู่ร่างกายทุกวัน ถูกฝันร้ายหลอกหลอนทุกคืนสุดท้ายก็ไม่สามารถหนีจากพิษและเสียชีวิตลงได้!อย่างไรก็ตาย มิสู้ให้เยี่ยเป่ยเฉิงจบชีวิตนางด้วยมือเขาเอง!เมื่อคิดได้เช่นนี้ นางก็ยิ้มเยาะ จงใจกล่าวยั่วยุเขา “เยี่ยเป่ยเฉิง เจ้ามีฝีมือแค่นี้หรือ? แน่จริงก็ฆ่าข้าไปเลยสิ!”“ฆ่าข้าให้มันจบๆ ไปเสีย!”เยี่ยเป่ยเฉิงปรายตามองนาง พลางกล่าวอย่างเย็นชา “ตอนนั้น เจ้าก็ทรมานซวงเอ๋อร์เช่นนี้!”เจียงหว่านกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ใช่แล้วอย่างไร!”“ลูกในท้องนางข้าก็เป็นคนทำร้ายเอง! ร่างกายอ่อนแอแบบนั้นของนางต่อไปจะตั้งครรภ์ไม่ได้อีกแล้ว!”“ที่นางฝันร้ายทุกคืน ก็เป็นข้าที่ทำเอง

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 652

    หลายสิบปีมานี้ นางทำเรื่องชั่วมานับไม่ถ้วน ทุกเรื่อง นางจิตใจสงบ ไม่เคยรู้สึกผิดเลยมีเพียงเจียงหลิง…มีเพียงการตายของเจียงหลิง ทำให้นางยากจะข่มตานอนได้…ตลอดเวลาที่ผ่านมา ในฐานะคุณหนูรอง เจียงหว่านไม่เป็นที่ชื่นชอบของพ่อแม่มาตลอด พี่ชายก็ยิ่งไม่สนใจนาง ทว่าเจียงหลิงกลับได้รับความรักมากมาย…นางอิจฉาเจียงหลิง และแทบอยากทำให้อีกฝ่ายหายไปจากโลกใบนี้แต่เจียงหลิงกลับรักเอ็นดูนางมาตั้งแต่ต้นจนจบ ปกป้องนาง มอบของที่ดีที่สุดในโลกใบนี้ให้แก่นาง…เจียงหลิงเป็นพี่สาวที่ดีต่อนางที่สุดบนโลกใบนี้…ทว่าที่นางต้องการหาใช่แค่พี่สาวอย่างเดียว นางต้องการความรักของทุกคน นางต้องการให้พ่อแม่ พี่ชายรกนางแค่คนเดียว นางอยากครอบครองของที่ดีที่สุดไว้กับตัวเอง ไม่ใช่รอให้คนอื่นมอบให้!ดังนั้น ในคืนวันหิมะตก นางผลักเจียงหลิงตกน้ำ มองนางจมตายทั้งเป็นอยู่ใต้น้ำ หลังจากนั้นนางก็ติดวันเกิดเวลาเกิดของเจียงหลิงบนตุ๊กตาคุณไสย แทงเธอทุกวัน สวดภาวนาทุกคืน นางต้องการให้เจียงหลิงไม่มีโอกาสได้ผุดได้เกิด ไม่หวนกลับมาตลอดกาล!เพราะมีเพียงแค่ทำแบบนี้ นางถึงจะไม่มีโอกาสแก้แค้นตัวเอง!แต่ทำไม…ทำไมตอนนี้นางถึงยังหาตัวเอง

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 651

    ยาซึมเข้าสู่ร่างกายติดกันหลายวันทำให้เจียงหว่านค่อยๆ เป็นบ้าในห้องที่ปิดสนิท เจียงหว่านหดตัวอยู่บนพื้นเหมือนดินโคลนตัวนางเหม็นมาก ชุดกระโปรงสีรากบัวเปลี่ยนเป็นสกปรกและเก่าองครักษ์ทำให้เส้นเอ็นมือของนางขาด ตรงบาดแผลถูกทาขี้ผึ้งปิดแผลชั้นแล้วชั้นเล่าแม้ขี้ผึ้งปิดแผลจะเป็นยาสำหรับปกปิด ทว่ากลับมีผลดีต่อการหยุดเลือดบาดแผลแข็งตัวจนกลายเป็นสะเก็ดไปแล้ว เพียงแต่ไม่ได้รับการรักษาที่ดีกว่านี้ แม้จะดีขึ้นก็ยังเหลือรอยแผลเป็นอัปลักษณ์เอาไว้ธูปในห้องไม่เคยลดลงเลยทั้งวัน ประกอบกับกระกระตุ้นของต้นคลีเวีย ความคิดต่ำช้าที่อยู่ในตัวนางแทบจะถูกกระตุ้นออกมาทั้งหมดสองตานางแดงก่ำ ดูฉุนเฉียวไม่น้อย กรีดร้องโวยวายอยู่ในห้อง ประหนึ่งคนบ้าคนหนึ่งองครักษ์ที่เฝ้าอยู่หน้าห้องไม่สนใจนางสักนิด ได้แต่ทรมานนางไม่ให้นางตายทุกวันความเคียดแค้นฉายออกมาจากในตาเจียงหว่าน เวลานี้ นางได้ปล่อยว่างความหลงใหลต่อเยี่ยเป่ยเฉิงแล้ว ไม่ว่าจะรักมากขนาดไหนก็แปรเปลี่ยนเป็นความชิงชังเข้ากระดูก“เยี่ยเป่ยเฉิง! ปล่อยข้ากลับไป! ปล่อยข้ากลับไปสิ!”“แน่จริงก็ฆ่าข้าเลยสิ!ฆ่าข้าให้มันจบๆ ! ท่านมีสิทธิ์อะไรมาขังข้าไว้เช่นนี

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 650

    “ได้ยินว่าพ่อแม่ที่เลี้ยงดูเจ้าเสียไปนานแล้ว แล้วเจ้ากับพี่ชายอยู่มาได้อย่างไร?”“แล้วเหตุใดเจ้าจึงขายตัวไปเป็นบ่าวไพร่? หลายปีมานี้ เจ้าคงผ่านความลำบากมิใช่น้อย เคยถูกใครรังแกหรือไม่?”หลินซวงเอ๋อร์พลันเกิดความขมขื่นในจิตใจเดิมที หากไม่เอ่ยถึงเรื่องเหล่านี้ นางยังพออดทนได้บ้าง แต่เมื่ออวี๋หว่านหนิงถามขึ้นมา นางก็อดรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจเสียมิได้นางเม้มปากพลางจ้องมองนิ้วมือตนเอง น้ำตาเริ่มเอ่อล้น พร้อมหยดแหมะลงหลังมือทีละหยดนางอยู่สบายหรือไม่?นางเคยถามตนเองอยู่เช่นกันหลายปีมานี้ นางผ่านเรื่องราวมากมาย สูญเสียบิดามารดา สูญเสียพี่ชายไป กลายเป็นเด็กกำพร้าที่ไร้ญาติขาดมิตรโดยแท้แต่หากคิดดีๆ ชีวิตนางก็เคยอยู่สุขสบายมาช่วงหนึ่งนั่นคือตอนอยู่กับเยี่ยเป่ยเฉิง นางมีความสุขจริงๆในตอนนั้น เยี่ยเป่ยเฉิงเป็นกำลังใจให้นาง ซื้อเสื้อผ้าชุดใหม่ให้ หาของดีมาให้กิน สอนนางเรียนหนังสือ พาไปเดินเล่นท่องทะเลสาบ ให้ความรักต่อนางอย่างชนิดไร้ผู้เทียบเทียม...ในเวลานั้น นางมีความสุขเหลือล้น เป็นความสุขมากที่สุดในชีวิต แม้แต่ฝันก็ยังเป็นฝันหวาน...แต่ต่อมา ทุกอย่างกลับแปรเปลี่ยน ก่อนหน้านี้เคยสุ

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 649

    เมื่อได้ยินประโยคนี้ หลินซวงเอ๋อร์แทบชะงักงันไปที่บั้นเอวนางมีปานแดงรูปเสี้ยวจันทร์จริงๆ ท่านแม่บอกว่า มันมีติดตัวมาตั้งแต่นางเกิด เนื่องจากเป็นตำแหน่งที่บั้นเอว จึงมีน้อยคนที่จะรู้เรื่องนี้“ท่าน...คือแม่ของข้าจริงหรือ?” หลินซวงเอ๋อร์หัวใจเต้นแรง ขอบตาแดงเรื่อขึ้นอวี๋หว่านหนิงยื่นมือมาจับมือของนางไว้ พลางกล่าวเสียวเศร้า “ซวงเอ๋อร์ ข้าคือแม่เจ้าจริงๆ หลายปีนี้ทำให้เจ้าลำบากนัก...”แม่นมซุนอยู่ด้านข้างพลางกล่าวเสริม “องค์หญิง นางคือเสด็จแม่ของท่านจริงๆ หลายปีมานี้ ฮองเฮาไม่เคยเลิกราในการตามหาท่าน เพียงแต่ภาคกลางกว้างขวางนัก พวกท่านเองก็ข่าวคราวเงียบหาย หลายปีนี้ พวกท่านลำบากก็จริง ฮองเฮาก็ไม่ได้สุขสบายใจ...”หลินซวงเอ๋อร์นิ่งเงียบไปครู่ใหญ่ พลันหันไปมองอวี๋หว่านหนิงแล้วกล่าว “ที่จริง ข้าไม่เคยตำหนิท่านเลย เพียงแต่บางครั้งก็เคยคิด ว่าท่านแม่จะมีหน้าตาเป็นอย่างไร ยังมีชีวิตอยู่ในโลกนี้หรือไม่”“ตอนยังเป็นเด็ก ข้าเคยคาดหวังให้นางมาหาบ้าง แต่พอโตขึ้นก็ไม่เห็นนางมาเสียที ข้าจึงภาวนาให้นางอยู่ดีมีสุขแทน แม้จะไม่ได้พบหน้า แต่ขอให้นางยังมีชีวิตอยู่ เป็นความคิดถึงในใจก็เพียงพอแล้ว...”

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 648

    อวี๋หว่านหนิงรับเอาผ้าเช็ดหน้ามาซับน้ำตา พลันเกิดความตื้นตันจนไม่รู้ตอบอย่างไรดีทันใดนั้น แม่นมซุนเดินขึ้นมาพร้อมกล่าว “องค์หญิง ที่นี่คือวังหลวงแห่งเป่ยหรง ฮองเฮาทรงตามหาท่านมานาน ทุ่มแทแรงกายแรงใจไม่น้อยกว่าจะหาพบ...”“องค์หญิง?” หลินซวงเอ๋อร์นึกว่าตนหูฝาดไป “ท่านเรียกข้าอยู่หรือ?”นางกล่าวตอบ “พวกท่านจำคนผิดหรือเปล่า ข้าไม่ใช่องค์หญิง ข้าคือหลินซวงเอ๋อร์ต่างหาก”นางเป็นเพียงเด็กกำพร้าที่ถูกทอดทิ้ง เติบโตมาจากชนบทแร้นแค้น เป็นเพียงสาวใช้ต่ำต้อยผู้หนึ่งเท่านั้นองค์หญิงอะไรกัน ยังมีวังเป่ยหรงอีก แล้วใครคือฮองเฮา?พวกนางคงจำคนผิดเป็นแน่แม่นมซุนกล่าวตอบ “ไม่ผิดเจ้าค่ะ ไม่มีผิดแน่นอน ท่านก็คือองค์หญิงของเรา องค์หญิงที่พลัดพรากจากฮองเฮาไป...”หลินซวงเอ๋อร์คล้ายกับยังมึนงงอยู่ ความคิดนางเกิดความสับสน ปวดหัวเป็นอย่างมากแม่นมซุนอธิบายต่อ “สมัยที่อดีตฮ่องเต้สวรรคต ฮ่องเต้องค์ใหม่ยังไม่ได้ขึ้นครองราชย์ ราชสำนักเป่ยหรงเกิดความวุ่นวาย ตอนนั้นฮองเฮายังมีฐานะเป็นเพียงพระชายาแห่งรัชทายาท นางเสี่ยงอันตรายให้กำเนิดแฝดชายหญิงคู่หนึ่ง เพื่อปกป้องชีวิตของพวกท่านไว้ จึงให้คนสนิทส่งพวกท่านออก

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 647

    หลินซวงเอ๋อร์เปลือกตากระตุกเล็กน้อย นางก็อยากตื่น แต่ทำอย่างไรก็ไม่อาจตื่นขึ้นมาหน้าอกคล้ายถูกกรีดจนเป็นแผลเหวอะหวะ เหงื่อเย็นในตัวไหลพราก ลำคอคล้ายถูกงูพิษตัวหนึ่งรัดไว้ ยิ่งรัดก็ยิ่งแน่น จนนางใกล้จะหายใจไม่ออกข้างโสตนั้น ได้ยินเสียงคุ้นหูประเดี๋ยวไกลประเดี๋ยวใกล้ ถัดจากนั้น คล้ายมีมืออ่อนโยนลูบไล้ใบหน้านางเบาๆ“เด็กดี หมดเรื่องแล้ว เจ้าปลอดภัยดีแล้ว รีบตื่นมาเถิด ตื่นมาเร็วเข้า...”หลังจากได้ยินเสียงนั้นชัดเจนมากขึ้น ลำคอที่ถูกรัดแน่นก็ค่อยๆ คลายออก นางลืมตาช้าๆ ภาพเบื้องหน้าจากพร่ามัวจนกลายเป็นชัดเจน สิ่งแรกที่เข้าสู่ม่านตาก็คือม่านคลุมเตียงสีม่วงที่อยู่เหนือศีรษะขึ้นไป คล้ายเป็นภาพฝัน เสมือนเป็นแหยักษ์ที่ถูกเหวี่ยงลงมา เพื่อคลุมตัวนางให้อยู่ตรงกลางเตียงนี้เป็นเตียงที่สวยงาม จนแม้แต่เสาเตียงก็เป็นลวดลายที่นางไม่เคยเห็นมาก่อน หัวเตียงนอกจากจะแกะสลักลายดอกไม้แล้วยังฝังด้วยหยกเจียระไนงดงามและพลอยล้ำค่าอีกชั่วขณะนั้น นางรู้สึกมึนงงยิ่งนี่มันเป็นที่ไหนกัน?“ซวงเอ๋อร์ เจ้ารู้สึกตัวแล้วรึ?” จนกระทั่งข้างหูได้ยินเสียงนั้นอีกครั้ง นางจำได้ว่าตอนอยู่ในความฝัน ได้ยินเสียงนี้จนคุ

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status