Share

บทที่ 220

Penulis: พิณเคล้าสายฝน
อุณภูมิบนร่างกายของหลินซวงเอ๋อร์ร้อนจนน่ากลัว ไป๋อวี้ถังถึงได้รู้ว่านางถูกวางยา

ปริมาณของยานี้ไม่น้อยเลย หากทนฝืน นางอาจจะต้องเสียชีวิตได้!

หลินซวงเอ๋อร์พลางน้ำตาไหลอาบหน้า พลางคว้าคอเสื้อของไป๋อวี้ถังเอาไว้ ร่างกายของนางสั่นเทาเล็กน้อย สติสัมปชัญญะของนางค่อยๆถดถอยไป นางแทบจะมองเห็นหน้าของไป๋อวี้ถังไม่ชัดแล้ว จึงได้แต่เรียกเขาว่า: "พี่ไป๋..." "

เสียงที่อ่อนช้อยเคล้าน้ำตา ราวกับว่าเป็นคาถาเย้ายวน ทำให้หัวใจของไป๋อวี้ถังสับสนวุ่นวายเล็กน้อย

หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็อุ้มหลินซวงเอ๋อร์ขึ้น แล้วเดินจำอ้าวออกไปนอกบ้าน

“ แม่นางซวงเอ๋อร์ เจ้าอดทนอีกนิดนะ ข้าจะพาเจ้ากลับไปที่จวนโหวก่อน”

ไป๋อวี้ถังรู้อยู่แก่ใจว่า นาเป็นของเยี่ยเป่ยเฉิง แม้ว่าเขาจะชื่นชอบนางมาก อยากจะเอานางมาเป็นของตนเองใจจะขาด แต่ถ้าพูดถึงเรื่องศีลธรรม เขาจึงไม่สามารถแตะต้องนางได้!

เยี่ยเป่ยเฉิงเป็นสหายที่ดีที่สุดของเขา เขาจะแย่งคนรักของเขาไม่ได้

จะทำอะไรภรรยาสหายไม่ได้!

ประโยคนี้เปรียบเสมือนมนต์สะกด ที่มัดเขาไว้ตลอดเวลา ทำให้เขาไม่กล้ากระทำผิด

หลินซวงเอ๋อร์วางมือไว้บนไหล่ของเขา แล้วเอาหน้าแนบไปบนหน้าอกของเขา เสีย
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Bab Terkunci

Bab terkait

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 221

    ไป๋อวี้ถังไม่เคยรู้สึกว่าเวลาจะผ่านไปอย่างยากลำบากขนาดนี้เขาเป็นคนที่หยิ่งในศักดิ์ศรีมาโดยตลอด นี่เป็นครั้งแรกที่เขาจะต้องอดทนอย่างยากลำบาก เพราะความใคร่ในอิสตรีเช่นนี้ในห้องอับชื้นจนเกินไป บนหน้าผากของทั้งคู่เต็มไปด้วยเหงื่อบางๆ หลินซวงเอ๋อร์เปียกโชกไปด้วยเหงื่อ เสื้อชั้นในบางๆจึงแนบชิดกับผิวพรรณอันขาวละไมของนางนางร้อนมากเหลือเกิน จนอดไม่ได้ที่จะต้องใช้มือถอดเสื้อผ้าที่อยู่บนตัวของตนเองออกไป๋อวี้ถังห้ามนางเอาไว้ได้ทันเวลา“แม่นางซวงเอ๋อร์ ได้โปรดอดทนอีกนิดนึง”เสียงของเขาเริ่มแหบแห้งอย่างอธิบายไม่ถูก และไม่มีใครรู้ว่าตอนนี้หัวใจของเขาสับสนวุ่นวายแค่ไหนแต่เขาก็ยังคงยืนหยัดอยู่เขาไม่อาจฉวยโอกาสตอนที่คนตกอยู่ในสภาวะที่ยากลำบากได้ และไม่สามารถเอานางมาเป็นของตนเองในตอนที่นางไม่มีสติตอนที่ตามมาจนถึงที่นี่ เขาได้ทิ้งร่องรอยสัญลักษณ์เอาไว้ตลอดทาง และเชื่อว่าเยี่ยเป่ยเฉิงจะหาสถานที่แห่งนี้เจอในไม่ช้าแต่ว่า เหตุใดเขาถึงยังไม่มา?เหตุใดถึงยังไม่มา?เวลาผ่านไปอย่างยากลำบากมากเขารู้สึกว่าคอแหบแห้งมาก ร่างกายก็เริ่มร้อนเขาเงยหน้าขึ้นมองไปรอบๆบ้าน ในบ้านที่ทรุดโทรมแห่งนี้ ไม่มี

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 222

    ไป๋อวี้ถังประทับจูบลงไป พอได้ลิ้มรสความหวานแล้วก็ไม่สามารถควบคุมตนเองได้อีกดูเหมือนเขาจะไม่เคยคิดมาก่อนว่า รสชาติของนางจะหอมหวานเช่นนี้ และทำให้คนรู้สึกคลั่งไคล้ทันทีที่ได้สัมผัสอารมณ์หดหู่ว่างเปล่าในใจในช่วงสองสามวันที่ผ่านมา ในที่สุดก็ได้พบกับวิธีที่จะทำหลุดพ้นจากอารมณ์นี้แล้ว และในเวลานี้หัวใจที่ว่างเปล่าของเขาก็ถูกเติมเต็มทีละเล็กทีละน้อยเขาพยายามอ่อนโยนให้มากที่สุด ไม่กล้าใช้กำลังมากเกินไป เพราะกลัวว่าถ้าใช้แรงเพียงเล็กน้อยจะทำให้หญิงสาวที่อ่อนแอที่อยู่ในอ้อมแขนคนนี้เจ็บหลินซวงเอ๋อร์ค่อยๆสติเลือนราง เนื่องจากฤทธิ์ของยาทำให้นางตอบสนองต่อเขาอย่างควบคุมไม่ได้เมื่อได้รับตอบสนองของนาง ร่างกายของไป๋อวี้ถังก็สั่นไหว นัยน์ตาของเขาก็จริงจังขึ้นมาทันทีทันใด จากนั้นเขาก็แทบจะฝังทั้งตัวนางเอาไว้ในอ้อมแขนของตนสุดท้ายก็อดรนทนไม่ไหวลิ้นอันร้อนแรงของเขา ตวัดกวาดเลียปากของนาง และยื้อแย่งทุกลมหายใจของนางหลินซวงเอ๋อร์ถูกจูบอย่างดุเดือด จนนางรู้สึกทนไม่ไหวเล็กน้อยจังหวะการหายใจของไป๋อวี้ถังก็ค่อยๆเร็วขึ้น อุณหภูมิร่างกายของเขายังคงสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องความคิดอันชั่วร้ายที่อยู่ในใจ

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 223

    ดูเหมือนว่ามีเพียงวิธีนี้เท่านั้น ที่จะสามารถทำให้นางมีสติ และเห็นรูปร่างหน้าตาของเขาได้อย่างชัดเจนเขาไม่ใช่เยี่ยเป่ยเฉิง เขาอยากปรากฏตัวในนัยน์ตาของนางอย่างสง่าผ่าเผย เพื่อว่าต่อจากนี้ไป ในหัวใจในนัยน์ตาของนางจะมีแต่เขาเท่านั้น!ช่างเป็นความความคิดที่บ้าบิ่นสุดขีดนางเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย ผมสีดำขลับของนางทำให้ใบหน้านางเรียวผมมากในรูม่านตาของนาง สะท้อนแสงสีแดงเข้ม ดูมีเสน่ห์เย้ายวนมาแต่โดยกำเนิด ทำให้คนถอนตัวไม่ขึ้นโดยที่ไม่รู้ตัวมีสาวงามนับไม่ถ้วนในเมืองหลวง ล้วนเทียบไม่ได้กับผมที่ดำมันเงา ดวงตาเต็มไปด้วยเสน่ห์ และหน้าตาที่บริสุทธิ์งดงามของนางไม่ได้เลยนางมองเขา ด้วยดวงตาที่ทั้งสับสนทั้งไม่รู้จะทำอย่างไรไป๋อวี้ถังหายใจถี่ขึ้น โน้มตัวเข้าไปข้างหน้าอีกครั้ง และจูบนางอย่างไม่สนใจอะไรทั้งนั้นแต่คนที่อยู่ในอ้อมแขนกลับร้องไห้อย่างทุกข์ระทมนางรู้สึกทุกข์ใจเป็นอย่างมาก ในร่างกายราวกับว่ามีแมลงเล็กๆน้อยๆนับไม่ถ้วนกัดแทะนางอยู่แต่นางรู้ว่า คนที่อยู่ตรงหน้าของนางไม่ใช่เยี่ยเป่ยเฉิง แม้ว่าร่างกายของนางอยากจะเข้าใกล้ตามสัญชาตญาณ แต่หัวใจของนางกลับต่อต้านเป็นอย่างมากควรจะทำอย่างไรด

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 224

    ประตูถูกคนเตะให้เปิดออก ทันใดนั้น ฝุ่นก็ฟุ้งกระจาย และประตูไม้ที่ทรุดโทรมก็แตกออกเป็นเสี่ยงๆเยี่ยเป่ยเฉิงทนฝ่าความยากลำบากมาถึงได้ทันเวลาพอดีไม่รู้ใครรู้เลยว่าตอนที่หาหลินซวงเอ๋อร์ไม่เจอ เขาตื่นตระหนกแค่ไหน เขาแทบจะพลิกแผ่นดินเมืองฉางอานใจจะขาดโชคดีที่ทหารมารายงานได้ทันเวลา บอกว่าหลินซวงเอ๋อร์ถูกลักพาตัวออกนอกเมือง และไป๋อวี้ถังก็ได้ขี่ม้าตามไปแล้วเขาไม่กล้าชักช้าแม้แต่เพียงครู่เดียว รีบแกะร่องรอยที่ไป๋อวี้ถังทิ้งไว้ให้เขาแล้วตามไปทันทีโชคดีที่ ทุกอย่างยังไม่สายจนเกินไป!ก่อนที่เขาจะพังประตู ไป๋อวี้ถังได้ปล่อยคนที่อยู่ในอ้อมแขนได้ทันเวลา ในนัยน์ตาของเขาแฝงไแด้วยความเจ็บปวดโศกเศร้าตอนที่เยี่ยเป่ยเฉิงเข้ามา บังเอิญเห็นหลินซวงเอ๋อร์นอนอยู่บนเตียงไม้ด้วยลมหายใจที่แผ่วเบาพอดี และไป๋อวี้ถังกำลังยืนอยู่ ด้านข้างของนางเขาไม่ได้สังเกตเห็นอะไรผิดปกติ และไม่เห็นความผิดหวังในดวงตาของไป๋อวี้ถังเลย เขาเดินตรงเข้าไปหาหลินซวงเอ๋อร์ สุดท้ายก็ยืนอยู่ตรงหน้านางหลินซวงเอ๋อร์ในเวลานี้ รู้สึกทุรนทุรายเพราะฤทธิ์ยาไปตั้งนานแล้ว และถูกทรมานจนเจียนตายใบหน้านางแดงก่ำผิดธรรมชาติ หน้าผากของนางเต

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 225

    ทันใดนั้นหลินซวงเอ๋อร์ก็ลุกขึ้นมาจากอ้อมแขนของเขา เอามือทั้งสองข้างโอบไปที่ไหล่ของเขา แล้วยื่นริมฝีปากออกไปอย่างกล้าหาญสุดขีดริมฝีปากอันชุ่มฉ่ำ ประทับลงบนลูกกระเดือกของเขา ราวกับเป็นเวทมนตร์เร่งรัดให้คนตายเร็วๆทันใดนั้น เลือดที่แข็งตัวก็เริ่มก่อตัวอย่างรวดเร็ว โดยไม่มีสัญญาณเตือนใดๆ พอหมดเสียงดัง"จุ๊บ" ความสั่นไหวที่อยู่ในใจก็เดือดพล่านขึ้นมาทันทีนาง.…คิดไม่ถึงว่านางจะ...." ซวงเอ๋อร์ เจ้ากำลังทำอะไรอยู่? "สติที่หลงเหลืออยู่ทำให้เขาผลักนางออกไปได้ทันเวลา จากนั้นก็จับไหล่ชองนางเอาไว้ด้วยมือขนาดใหญ่ และพูดด้วยน้ำเสียงที่ต่ำลึกซึ้งกินใจพอถูกเขาผลักออกไป ทันใดนั้นหลินซวงเอ๋อร์ก็รู้สึกโศกเศร้าเสียใจเป็นอย่างมากความทุกข์ระทมอันท่วมท้นก็ได้ถาโถมเข้ามานางอดกลั้นด้วยความยากลำบากจริงๆ นี่เป็นครั้งแรกที่นางเป็นคนเริ่มก่อน แต่กลับถูกเขาปฏิเสธนางร้องไห้ไม่ว่าเมื่อก่อนจะสะบักสะบอมขนาดไหน จะเจ็บปวดสักเท่าไหร่ แต่นางก็ไม่เคยร้องห่มร้องไห้เสียใจเช่นนี้มาก่อนเลย ในที่สุดตอนนี้นางก็ได้พบกับเยี่ยเป่ยเฉิง แต่เขากลับปฏิเสธนางนางรู้สึกทุกข์ใจสุดขีด ทั้งน้อยเนื้อต่ำใจทั้งเจ็บปวดรวดร้าว จู

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 226

    เสวียนอู่เข้าใจ พอลงจากรถม้าแล้วก็ไปหลบอยู่ห่างๆเยี่ยเป่ยเฉิงวางหลินซวงเอ๋อร์ไว้บนที่นั่ง หลินซวงเอ๋อร์ใช้มือคล้องคอของเขาเอาไว้ แล้วพึมพำเบาๆเยี่ยเป่ยเฉิงตั้งใจฟัง เสียงเหล่านั้น ร้องเรียกแต่ชื่อของเขาข้างนอกรถม้า ลมยามค่ำคืนพัดใบไม้ไผ่ดังกรอบแกรบ ภายในพื้นที่แคบๆ มีเพียงลมหายใจที่พัวพันกันของคนทั้งสองเท่านั้นในลมหายใจของนางมีกลิ่นหอมหวานของน้ำนม และยังมีกลิ่นหอมที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของหญิงสาว ซึ่งมีกลิ่นหอมมากเยี่ยเป่ยเฉิงโอบกอดนางเอาไว้ แล้วเอาศีรษะมุดเข้าไปในผมที่สยายของนาง และดอมดมกลิ่นหอมที่เป็นเอกลักษณ์บนร่างกายของนางอย่างตะกละตะกลามหลินซวงเอ๋อร์ลืมตาขึ้นอย่างเลือนราง และมองเรือนร่างที่คลุมเครือของเยี่ยเป่ยเฉิง ด้วยหัวใจที่เต้นรัวนางกลายเป็นภูตสาวพราวเสน่ห์ที่เกาะติดมนุษย์ พยายามทำทุกวถีทางเพื่อทำให้เขาพอใจ...แต่เนื่องจากความรักนวลสงวนอยู่ในจิตใต้สำนึก ทำให้นางไม่สามารถปลดปล่อยตนเองได้ การเคลื่อนไหวของนางจึงไม่ชำนาญอย่างไรเสียนางก็ไม่เคยมีประสบการณ์มาก่อนทันใดนั้นฝ่ามือขนาดใหญ่ที่ระหว่างเอวของนางก็กระชับขึ้น เยี่ยเป่ยเฉิงพลิกตัว แล้วดันตัวขึ้นไปด้านบนทันที

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 227

    เยี่ยเป่ยเฉิงเม้มริมฝีปาก เห็นได้ชัดว่าเขายังไม่พึงพอใจ แต่เมื่อเห็นรอยฟกช้ำทั่วร่างกายของนาง เขาก็รู้สึกเสียใจเป็นอย่างมากสมควรตาย!เขาคิดว่าเขาสามารถควบคุมตนเองได้แต่ในความเป็นจริงแล้ว พอเขาได้สัมผัสนาง ความปรารถนาอันแรงกล้าในร่างกายของเขาก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และไม่สามารถควบคุมมันได้เลยผิวพรรณที่อ่อนโยนของหลินซวงเอ๋อร์ สภาพผิวจึงกับผู้ที่อยู่ในสนามรบมาหลายปี เขาคิดว่าตนเองได้ระมัดระวังแล้ว สำหรับนางที่บอบบาง บางทีอาจจะเป็นการทรมานประเภทหนึ่ง...แต่นางกลับไม่ร้องสักแอะ?ในสมองของเขาอดไม่ได้ที่จะนึกถึงเรื่องเมื่อคืน สายตาที่นางมองมาที่ตนเอง นัยน์ตาที่เต็มไปด้วยน้ำตา ทั้งน่าสงสารทั้งอดกลั้นเยี่ยเป่ยเฉิงใช้นิ้วสัมผัสรอยแดงบนร่างกายของนางเบาๆ นัยน์ตาเริ่มลึกซึ้งขึ้นเรื่อยๆเมื่อสัมผัสได้ถึงการสัมผัสของเขา คนที่นอนอยู่ในอ้อมแขนของเขาก็พลิกตัว และเอาหัวเล็กๆซุกเข้าไปในอ้อมแขนของเขา…...ตอนที่หลินซวงเอ๋อร์ตื่นขึ้นมา เป็นเช้าของวันถัดไปแล้วตงเหมยกำลังเฝ้าอยู่ข้างเตียงนาง เมื่อเห็นนางตื่นขึ้นมา ก็กอดนางเอาไว้แล้วร้องห่มร้องไห้ศีรษะของนางยังคงวิงเวียนเล็กน้อย และจำเรื่องรา

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 228

    ถนนฉางอาน หอบุปผชาติจ้าวเจาหยางกำลังดื่มสุราดอกไม้กับคนร่ำรวยกลุ่มหนึ่งอยู่ ครบครันไปด้วยสุราอาหารสเลิศ โอบกอดหญิงงามอย่างสราญใจชายคนหนึ่งกว่าว่า: "สหายจ้าว ไม่ได้เห็นเจ้าออกมาหลายวันแล้ว ข้าคิดว่าเจ้าถูกพ่อของเจ้ากักขังลงโทษเสียแล้ว"มีหญิงงามคนหนึ่งที่อยู่ด้านข้างยื่นสุราชั้นดีให้ จ้าวเจาหยางเงยหน้าขึ้นแล้วดื่มมันหมดจอกภายในรวดเดียว จากนั้นก็พูดด้วยรอยยิ้มอันแสนรื่นรมย์ว่า: " เจ้าเด็กนี่พูดในสิ่งที่ไม่ควรพูด รู้อย่างนี้ วันนั้นข้าไม่กลับไปหรอก สู้อยู่ที่นี่เพื่อชื่นชมสาวงามไม่ได้! "เขาถูกจ้าวหย่วนโหวลงโทษด้วยการกักขังจริงๆ แต่จ้าวชิงชิงแอบปล่อยเขาออกมา และให้เงินแก่เขาจำนวนมาก เพื่อให้เขาสุรุ่ยสุร่ายได้ตามใจชอบแต่มีเพียงเงื่อนไขเดียวเท่านั้น นั่นคือกำจัดสาวใช้ที่อยู่ข้างกายเยี่ยเป่ยเฉิง หญิงสาวที่ชื่อหลินซวงเอ๋อร์อะไรนั่นแทนนางแค่สาวใช้คนหนึ่งเหตุใดนางต้องทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่ด้วย! จ้าวเจาหยางไม่ได้ใส่ใจเรื่องนี้เลยแต่ว่า ใครบ้างที่จะไม่อยากได้เงิน? น้องสาวของเขาเป็นท่านหญิงที่ได้รับการแต่งตั้งจากองค์จักรพรรดิ นางจึงมีเงินมากกว่าเขา! เขาจะต้องทำเรื่องที่ยิ่งใหญ่

Bab terbaru

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 655

    วันที่เจียงหว่านกำลังจะถูกเนรเทศ ในที่สุดเจียงเช่อก็มาหาถึงหน้าประตูเขาคุกเข่าเบื้องหน้าเยี่ยเป่ยเฉิง เว้าวอนขอเยี่ยเป่ยเฉิงปล่อยเจียงหว่านไปขณะที่เดินทางมา เขารับรู้เรื่องราวทั้งหมดแล้วเจียงหว่านลอบวางยาพระชายาเยี่ย ใช้ประชาชนที่ติดโรคทดลองยา เข่นฆ่าคนบริสุทธิ์ ผลาญชีวิตคนดุจผักดุจปลา นับเป็นอาชญากรรมอันชั่วร้ายที่สุด......แต่ไม่ว่าอย่างไร เจียงหว่านก็เป็นน้องสาวเขา เป็นคุณหนูหนึ่งเดียวของตระกูลเจียง เจียงเช่อมิอาจนั่งนิ่งดูดาย ปล่อยให้นางไปตายได้“ขอร้องท่านอ๋องไว้ชีวิตนางเถิด เป็นเพราะข้าตามใจนางจนเสียคน หากท่านอ๋องจะลงโทษ โปรดลงที่เจียงเช่อเถิดพะยะค่ะ”เมื่อเห็นเจียงเช่อ สายตาสิ้นหวังของเจียงหว่านพลันมีประกายความหวังขึ้น“พี่......ท่านพี่ ช่วยข้าด้วย ข้าไม่อยากไปแดนเถื่อน ข้าอยากกลับบ้าน ท่านพี่ช่วยข้าด้วย......”เจียงเช่อขมวดคิ้วเขม็งจ้องเจียงหว่าน สายตาแฝงเร้นด้วยแววเกยีดชังเข้าไส้เขารู้ว่าเจียงหว่านต้องโทษตาย ยามนี้แค่เนรเทศ ถือว่าเมตตามากแล้ว แต่เขาเองก็รู้ว่า สถานที่อย่างแดนเถื่อนนั้น มิใช่สถานที่ที่สตรีตัวคนเดียวจะไปได้ การเนรเทศนางไปที่นั่น เท่ากับส่งนางไปขุมนร

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 654

    “เลือดของนาง...”เจียงหว่านสีหน้าตกตะลึงตอนนั้น ตอนที่ฮุ่ยอี๋มอบยาถอนพิษใส่ในมือนาง นางเคยเอาทิ้งไว้หลายขวด เดิมทีคิดศึกษาส่วนผสมในนั้น ทว่าด้านในกลับมีส่วนผสมยาเพียงหนึ่งเดียว นั่นคือเลือดมนุษย์...แรกเริ่ม นางคิดว่าเป็นเรื่องเหลวไหล! กระทั่งยามนี้นางถึงได้เชื่อความจริง ส่วนประกอบของยานั้น มีเพียงเลือดมนุษย์จริงๆ! ทั้งยังเป็นเลือดของหลินซวงเอ๋อร์! เรื่องมาถึงขนาดนี้แล้ว ในที่สุดนางก็เข้าใจ!มิน่า...ตอนนั้น นางใช้ยาปริมาณมาก แต่กลับไม่อาจทำให้หลินซวงเอ๋อร์ถึงตาย! ไม่คิดว่าเลือดของนางจะขจัดพิษในร่างนางโดยมองไม่เห็น...ฮุ่ยอี๋เอ่ย “เจ้ายังมีหน้าพูดว่าไม่ได้ฆ่าคนเป็นผักเป็นปลาอีก! เจียงหว่าน เจ้าลืมแล้วหรือว่าเจ้าวางยาซวงเอ๋อร์อย่างไร? เสด็จอาให้อภัยเจ้าครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ข้าไม่มีวันเกรงใจเจ้า!”คำพูดนี้สองแง่สองง่าม เห็นชัดว่ากำเย้ยหยันเยี่ยเป่ยเฉิงที่ดึงหมาป่าเจ้าเล่ห์เข้าบ้าน!เยี่ยเป่ยเฉิงตัวแข็งทื่ออยู่ที่เดิม ไร้ซึ่งแรงโต้กลับยามนี้ เขามิอาจชำระคืนได้ ซวงเอ๋อร์ของเขาไม่มีวันกลับมาอีกต่อไป!สิ่งเดียวที่ทำได้ตอนนี้ คือทำให้เจียงหว่านชดใช้อย่างสาสมที่สุด ส่วนตัวเขา ชีวิตที่

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 653

    เยี่ยเป่ยเฉิงมีสีหน้าเคร่งขรึม สายตาที่มองเจียงหว่านเยือกเย็นดุจน้ำแข็ง ไม่มีความอ่อนโยนเลยสักนิดเขาอยากฆ่านางตั้งนานแล้ว ที่ปล่อยนางรอดมาจนถึงตอนนี้ ก็แค่อยากให้นางได้รับความทรมานจนตายบัดนี้เห็นนางตกยากเช่นนี้ เยี่ยเป่ยเฉิงกลับรู้สึกว่าบทลงโทษแค่นี้ยังมิพอเจียงหว่านถูกทรมานจนเหมือนตายดีกว่าอยู่มานานแล้ว นางรู้ เยี่ยเป่ยเฉิงไม่มีทางปล่อยนางไปง่ายๆ หลังจากคิดดูแล้ว หากตายด้วยน้ำมือของเยี่ยเป่ยเฉิงได้ ก็คงจะดีกว่าตอนนี้ ที่ดูดซับยาเข้าสู่ร่างกายทุกวัน ถูกฝันร้ายหลอกหลอนทุกคืนสุดท้ายก็ไม่สามารถหนีจากพิษและเสียชีวิตลงได้!อย่างไรก็ตาย มิสู้ให้เยี่ยเป่ยเฉิงจบชีวิตนางด้วยมือเขาเอง!เมื่อคิดได้เช่นนี้ นางก็ยิ้มเยาะ จงใจกล่าวยั่วยุเขา “เยี่ยเป่ยเฉิง เจ้ามีฝีมือแค่นี้หรือ? แน่จริงก็ฆ่าข้าไปเลยสิ!”“ฆ่าข้าให้มันจบๆ ไปเสีย!”เยี่ยเป่ยเฉิงปรายตามองนาง พลางกล่าวอย่างเย็นชา “ตอนนั้น เจ้าก็ทรมานซวงเอ๋อร์เช่นนี้!”เจียงหว่านกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ใช่แล้วอย่างไร!”“ลูกในท้องนางข้าก็เป็นคนทำร้ายเอง! ร่างกายอ่อนแอแบบนั้นของนางต่อไปจะตั้งครรภ์ไม่ได้อีกแล้ว!”“ที่นางฝันร้ายทุกคืน ก็เป็นข้าที่ทำเอง

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 652

    หลายสิบปีมานี้ นางทำเรื่องชั่วมานับไม่ถ้วน ทุกเรื่อง นางจิตใจสงบ ไม่เคยรู้สึกผิดเลยมีเพียงเจียงหลิง…มีเพียงการตายของเจียงหลิง ทำให้นางยากจะข่มตานอนได้…ตลอดเวลาที่ผ่านมา ในฐานะคุณหนูรอง เจียงหว่านไม่เป็นที่ชื่นชอบของพ่อแม่มาตลอด พี่ชายก็ยิ่งไม่สนใจนาง ทว่าเจียงหลิงกลับได้รับความรักมากมาย…นางอิจฉาเจียงหลิง และแทบอยากทำให้อีกฝ่ายหายไปจากโลกใบนี้แต่เจียงหลิงกลับรักเอ็นดูนางมาตั้งแต่ต้นจนจบ ปกป้องนาง มอบของที่ดีที่สุดในโลกใบนี้ให้แก่นาง…เจียงหลิงเป็นพี่สาวที่ดีต่อนางที่สุดบนโลกใบนี้…ทว่าที่นางต้องการหาใช่แค่พี่สาวอย่างเดียว นางต้องการความรักของทุกคน นางต้องการให้พ่อแม่ พี่ชายรกนางแค่คนเดียว นางอยากครอบครองของที่ดีที่สุดไว้กับตัวเอง ไม่ใช่รอให้คนอื่นมอบให้!ดังนั้น ในคืนวันหิมะตก นางผลักเจียงหลิงตกน้ำ มองนางจมตายทั้งเป็นอยู่ใต้น้ำ หลังจากนั้นนางก็ติดวันเกิดเวลาเกิดของเจียงหลิงบนตุ๊กตาคุณไสย แทงเธอทุกวัน สวดภาวนาทุกคืน นางต้องการให้เจียงหลิงไม่มีโอกาสได้ผุดได้เกิด ไม่หวนกลับมาตลอดกาล!เพราะมีเพียงแค่ทำแบบนี้ นางถึงจะไม่มีโอกาสแก้แค้นตัวเอง!แต่ทำไม…ทำไมตอนนี้นางถึงยังหาตัวเอง

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 651

    ยาซึมเข้าสู่ร่างกายติดกันหลายวันทำให้เจียงหว่านค่อยๆ เป็นบ้าในห้องที่ปิดสนิท เจียงหว่านหดตัวอยู่บนพื้นเหมือนดินโคลนตัวนางเหม็นมาก ชุดกระโปรงสีรากบัวเปลี่ยนเป็นสกปรกและเก่าองครักษ์ทำให้เส้นเอ็นมือของนางขาด ตรงบาดแผลถูกทาขี้ผึ้งปิดแผลชั้นแล้วชั้นเล่าแม้ขี้ผึ้งปิดแผลจะเป็นยาสำหรับปกปิด ทว่ากลับมีผลดีต่อการหยุดเลือดบาดแผลแข็งตัวจนกลายเป็นสะเก็ดไปแล้ว เพียงแต่ไม่ได้รับการรักษาที่ดีกว่านี้ แม้จะดีขึ้นก็ยังเหลือรอยแผลเป็นอัปลักษณ์เอาไว้ธูปในห้องไม่เคยลดลงเลยทั้งวัน ประกอบกับกระกระตุ้นของต้นคลีเวีย ความคิดต่ำช้าที่อยู่ในตัวนางแทบจะถูกกระตุ้นออกมาทั้งหมดสองตานางแดงก่ำ ดูฉุนเฉียวไม่น้อย กรีดร้องโวยวายอยู่ในห้อง ประหนึ่งคนบ้าคนหนึ่งองครักษ์ที่เฝ้าอยู่หน้าห้องไม่สนใจนางสักนิด ได้แต่ทรมานนางไม่ให้นางตายทุกวันความเคียดแค้นฉายออกมาจากในตาเจียงหว่าน เวลานี้ นางได้ปล่อยว่างความหลงใหลต่อเยี่ยเป่ยเฉิงแล้ว ไม่ว่าจะรักมากขนาดไหนก็แปรเปลี่ยนเป็นความชิงชังเข้ากระดูก“เยี่ยเป่ยเฉิง! ปล่อยข้ากลับไป! ปล่อยข้ากลับไปสิ!”“แน่จริงก็ฆ่าข้าเลยสิ!ฆ่าข้าให้มันจบๆ ! ท่านมีสิทธิ์อะไรมาขังข้าไว้เช่นนี

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 650

    “ได้ยินว่าพ่อแม่ที่เลี้ยงดูเจ้าเสียไปนานแล้ว แล้วเจ้ากับพี่ชายอยู่มาได้อย่างไร?”“แล้วเหตุใดเจ้าจึงขายตัวไปเป็นบ่าวไพร่? หลายปีมานี้ เจ้าคงผ่านความลำบากมิใช่น้อย เคยถูกใครรังแกหรือไม่?”หลินซวงเอ๋อร์พลันเกิดความขมขื่นในจิตใจเดิมที หากไม่เอ่ยถึงเรื่องเหล่านี้ นางยังพออดทนได้บ้าง แต่เมื่ออวี๋หว่านหนิงถามขึ้นมา นางก็อดรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจเสียมิได้นางเม้มปากพลางจ้องมองนิ้วมือตนเอง น้ำตาเริ่มเอ่อล้น พร้อมหยดแหมะลงหลังมือทีละหยดนางอยู่สบายหรือไม่?นางเคยถามตนเองอยู่เช่นกันหลายปีมานี้ นางผ่านเรื่องราวมากมาย สูญเสียบิดามารดา สูญเสียพี่ชายไป กลายเป็นเด็กกำพร้าที่ไร้ญาติขาดมิตรโดยแท้แต่หากคิดดีๆ ชีวิตนางก็เคยอยู่สุขสบายมาช่วงหนึ่งนั่นคือตอนอยู่กับเยี่ยเป่ยเฉิง นางมีความสุขจริงๆในตอนนั้น เยี่ยเป่ยเฉิงเป็นกำลังใจให้นาง ซื้อเสื้อผ้าชุดใหม่ให้ หาของดีมาให้กิน สอนนางเรียนหนังสือ พาไปเดินเล่นท่องทะเลสาบ ให้ความรักต่อนางอย่างชนิดไร้ผู้เทียบเทียม...ในเวลานั้น นางมีความสุขเหลือล้น เป็นความสุขมากที่สุดในชีวิต แม้แต่ฝันก็ยังเป็นฝันหวาน...แต่ต่อมา ทุกอย่างกลับแปรเปลี่ยน ก่อนหน้านี้เคยสุ

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 649

    เมื่อได้ยินประโยคนี้ หลินซวงเอ๋อร์แทบชะงักงันไปที่บั้นเอวนางมีปานแดงรูปเสี้ยวจันทร์จริงๆ ท่านแม่บอกว่า มันมีติดตัวมาตั้งแต่นางเกิด เนื่องจากเป็นตำแหน่งที่บั้นเอว จึงมีน้อยคนที่จะรู้เรื่องนี้“ท่าน...คือแม่ของข้าจริงหรือ?” หลินซวงเอ๋อร์หัวใจเต้นแรง ขอบตาแดงเรื่อขึ้นอวี๋หว่านหนิงยื่นมือมาจับมือของนางไว้ พลางกล่าวเสียวเศร้า “ซวงเอ๋อร์ ข้าคือแม่เจ้าจริงๆ หลายปีนี้ทำให้เจ้าลำบากนัก...”แม่นมซุนอยู่ด้านข้างพลางกล่าวเสริม “องค์หญิง นางคือเสด็จแม่ของท่านจริงๆ หลายปีมานี้ ฮองเฮาไม่เคยเลิกราในการตามหาท่าน เพียงแต่ภาคกลางกว้างขวางนัก พวกท่านเองก็ข่าวคราวเงียบหาย หลายปีนี้ พวกท่านลำบากก็จริง ฮองเฮาก็ไม่ได้สุขสบายใจ...”หลินซวงเอ๋อร์นิ่งเงียบไปครู่ใหญ่ พลันหันไปมองอวี๋หว่านหนิงแล้วกล่าว “ที่จริง ข้าไม่เคยตำหนิท่านเลย เพียงแต่บางครั้งก็เคยคิด ว่าท่านแม่จะมีหน้าตาเป็นอย่างไร ยังมีชีวิตอยู่ในโลกนี้หรือไม่”“ตอนยังเป็นเด็ก ข้าเคยคาดหวังให้นางมาหาบ้าง แต่พอโตขึ้นก็ไม่เห็นนางมาเสียที ข้าจึงภาวนาให้นางอยู่ดีมีสุขแทน แม้จะไม่ได้พบหน้า แต่ขอให้นางยังมีชีวิตอยู่ เป็นความคิดถึงในใจก็เพียงพอแล้ว...”

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 648

    อวี๋หว่านหนิงรับเอาผ้าเช็ดหน้ามาซับน้ำตา พลันเกิดความตื้นตันจนไม่รู้ตอบอย่างไรดีทันใดนั้น แม่นมซุนเดินขึ้นมาพร้อมกล่าว “องค์หญิง ที่นี่คือวังหลวงแห่งเป่ยหรง ฮองเฮาทรงตามหาท่านมานาน ทุ่มแทแรงกายแรงใจไม่น้อยกว่าจะหาพบ...”“องค์หญิง?” หลินซวงเอ๋อร์นึกว่าตนหูฝาดไป “ท่านเรียกข้าอยู่หรือ?”นางกล่าวตอบ “พวกท่านจำคนผิดหรือเปล่า ข้าไม่ใช่องค์หญิง ข้าคือหลินซวงเอ๋อร์ต่างหาก”นางเป็นเพียงเด็กกำพร้าที่ถูกทอดทิ้ง เติบโตมาจากชนบทแร้นแค้น เป็นเพียงสาวใช้ต่ำต้อยผู้หนึ่งเท่านั้นองค์หญิงอะไรกัน ยังมีวังเป่ยหรงอีก แล้วใครคือฮองเฮา?พวกนางคงจำคนผิดเป็นแน่แม่นมซุนกล่าวตอบ “ไม่ผิดเจ้าค่ะ ไม่มีผิดแน่นอน ท่านก็คือองค์หญิงของเรา องค์หญิงที่พลัดพรากจากฮองเฮาไป...”หลินซวงเอ๋อร์คล้ายกับยังมึนงงอยู่ ความคิดนางเกิดความสับสน ปวดหัวเป็นอย่างมากแม่นมซุนอธิบายต่อ “สมัยที่อดีตฮ่องเต้สวรรคต ฮ่องเต้องค์ใหม่ยังไม่ได้ขึ้นครองราชย์ ราชสำนักเป่ยหรงเกิดความวุ่นวาย ตอนนั้นฮองเฮายังมีฐานะเป็นเพียงพระชายาแห่งรัชทายาท นางเสี่ยงอันตรายให้กำเนิดแฝดชายหญิงคู่หนึ่ง เพื่อปกป้องชีวิตของพวกท่านไว้ จึงให้คนสนิทส่งพวกท่านออก

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 647

    หลินซวงเอ๋อร์เปลือกตากระตุกเล็กน้อย นางก็อยากตื่น แต่ทำอย่างไรก็ไม่อาจตื่นขึ้นมาหน้าอกคล้ายถูกกรีดจนเป็นแผลเหวอะหวะ เหงื่อเย็นในตัวไหลพราก ลำคอคล้ายถูกงูพิษตัวหนึ่งรัดไว้ ยิ่งรัดก็ยิ่งแน่น จนนางใกล้จะหายใจไม่ออกข้างโสตนั้น ได้ยินเสียงคุ้นหูประเดี๋ยวไกลประเดี๋ยวใกล้ ถัดจากนั้น คล้ายมีมืออ่อนโยนลูบไล้ใบหน้านางเบาๆ“เด็กดี หมดเรื่องแล้ว เจ้าปลอดภัยดีแล้ว รีบตื่นมาเถิด ตื่นมาเร็วเข้า...”หลังจากได้ยินเสียงนั้นชัดเจนมากขึ้น ลำคอที่ถูกรัดแน่นก็ค่อยๆ คลายออก นางลืมตาช้าๆ ภาพเบื้องหน้าจากพร่ามัวจนกลายเป็นชัดเจน สิ่งแรกที่เข้าสู่ม่านตาก็คือม่านคลุมเตียงสีม่วงที่อยู่เหนือศีรษะขึ้นไป คล้ายเป็นภาพฝัน เสมือนเป็นแหยักษ์ที่ถูกเหวี่ยงลงมา เพื่อคลุมตัวนางให้อยู่ตรงกลางเตียงนี้เป็นเตียงที่สวยงาม จนแม้แต่เสาเตียงก็เป็นลวดลายที่นางไม่เคยเห็นมาก่อน หัวเตียงนอกจากจะแกะสลักลายดอกไม้แล้วยังฝังด้วยหยกเจียระไนงดงามและพลอยล้ำค่าอีกชั่วขณะนั้น นางรู้สึกมึนงงยิ่งนี่มันเป็นที่ไหนกัน?“ซวงเอ๋อร์ เจ้ารู้สึกตัวแล้วรึ?” จนกระทั่งข้างหูได้ยินเสียงนั้นอีกครั้ง นางจำได้ว่าตอนอยู่ในความฝัน ได้ยินเสียงนี้จนคุ

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status