Home / รักโบราณ / ทารกผู้นี้ มิใช่ของข้า / ตอนที่ 5 ข้าไม่เอาสามีผู้นี้แล้ว

Share

ตอนที่ 5 ข้าไม่เอาสามีผู้นี้แล้ว

last update Last Updated: 2025-02-20 17:25:39

ทารกที่ 5

ข้าไม่เอาสามีผู้นี้แล้ว

ฟูกที่นอนอ่อนยวบ เปลวเทียนถูกลมหายใจเป่าดับ สายตาเมิ่งจื่อตกอยู่ในความมืด จากนั้นนางรู้สึกว่าผ้าห่มที่ปลายเท้าถูกเลิกขึ้น ตามมาด้วยไอเย็นปะทะเข้ากลางหว่างขา เพราะกระโปรงชุดแต่งงานของนางถูกถอดออก

เมิ่งจื่อสะดุ้งเฮือก นางขัดขืนเพราะขาทั้งสองถูกมือเย็นๆ จับแยก สาวน้อยไม่รู้ความจึงถามสามีว่า

“ท่านพี่จะทำไรหรือ?”

นี่เป็นท่านแม่สอนให้เรียก นางบอกว่าหลังจากนี้ให้เรียกพี่ชายแปลกหน้าว่าท่านพี่

แม้นางจะไม่รู้ว่าสามีทำอะไร และไม่มีคำตอบรับกลับมา แต่เมิ่งจื่อยังยอมแยกขาออกให้ เพราะท่านแม่บอกว่าคืนนี้ให้อยู่นิ่งๆ เชื่อฟังสามี

วิกาลคล้อยดึก เพื่อนบ้านของเมิ่งจื่อความจริงหลับหมดแล้ว แต่จู่ๆ มีเสียงร้องโหยหวนดังขึ้น จับใจความได้ว่า “อ่า อ๊า โอ้ย! ไม่เอาแล้วท่านแม่ ข้าไม่เอาสามีคนนี้แล้วเจ้าคะ ไม่เอาแล้วเจ้าคะ ฮือ! ฮือ!”

“…”

บนเตียงนอนบ่าวสาว เมิ่งจื่อความจริงถูกทาบทับจากข้างหน้า แต่เพราะนางดิ้นรนเอาชีวิตรอด ถีบจนสิ่งที่แทงนางเจ็บปวดหลุดออก พลิกตัวคลานหนีลงเตียง

แต่นี่เป็นการตัดสินใจผิดพลาด เซียวเฟิงเห็นท่าคลานของนางก็คึกยิ่งกว่าเดิม เขาตามไปกระชากบั้นท้ายดีดเด้งในความมืด ใช้มือคลำดูก็พบช่องทางสวาทคับแคบ เลยจัดการยัดแท่งเอ็นกลับเข้าไปกระแทกเสียเลย

เสียง ตับ ตับ ตับ ดังลั่นห้อง เมิ่งจื่อไหนเลยรับรู้รสชาติ นางร้องโวยวายไปทั่ว บางครั้งก็อ้อนวอนของให้ท่านแม่ช่วยเหลือ ตะโกนให้ผู้เป็นมารดาได้ยิน กล่าวว่า “ไม่เอาแล้ว! ฮือ! ฮือ! ข้าไม่เอาสามีแล้ว!”

รุ่งเช้า

เมิ่งจื่อตื่นนอนขึ้นมาก็พบว่าเกือบเที่ยง นอกกระท่อมมีเสียงพูดคุยหัวเราะคิก ได้ยินท่านป้าผู้หนึ่งบอกว่า ลูกเขยเจ้าแรงดีขนาดนี้ ปีหน้าเจ้าคงได้หลานชายตัวอ้วนแน่ๆ

เมิ่งจื่อแรกเสียสาวได้ยินก็โมโหมาก แรงดีอะไรกัน เมื่อคืนนางเกือบตายเลยนะ! แต่พอจะปีนลงจากเตียงไปโต้เถียง นางกับฟุบคว่ำจนเกิดเสียงดัง นางเมิ่งซือได้ยินเสียงกุกกักจึงเปิดประตูเข้ามา ก็พบเข้ากับบุตรสาวที่นั่งพับเพียบคุดคู้ จับก้นตนเองอยู่ข้างเตียง

เพียงไม่กี่วัน ข่าวที่เมิ่งจื่อเข้าหอจนลงจากเตียงไม่ได้ถูกเล่าปากต่อปาก นับตั้งแต่แต่งสามีนางก็ร้องลั่นทุกคืน เพื่อนบ้านข้างเคียงได้ยินจนรำคาญหู ถึงกับเดินมาด่าทอนางถึงหน้าบ้าน บอกให้ครางเบาๆ กว่านี้ “…”

***

“พั่บ พั่บ พั่บ” ผ่านมาสิบกว่าวัน เมิ่งจื่อเริ่มรู้รสชาติบุรุษแล้ว นางหงายท้องนอนถ่างขาให้ความร่วมมือเต็มที่ ข้อเท้าทั้งสองแกว่งไกวอยู่บนบ่าไหล่สามี

“อืมมม จื่อจื่อ พรุ่งนี้เจ้าไปขายเนื้อที่อำเภอกับข้าดีหรือไม่” เซียวเฟิงขณะร่อนเอวกระแทกเนิบนาบ เขายังชวนภรรยาคุยไปเรื่อย ตอนนี้ทั้งคู่เริ่มสนิทกันมากแล้ว ทั้งยังติดใจในรสชาติราคะ หลังจากได้จับนางพลิกคว่ำพลิกหงายหลายคืน

อิงเถาเล็กๆ ของเมิ่งจื่อสั่นกระเพื่อม เล็บมือนางจิกผ้าห่มอยู่เหนือศีรษะ กัดริมฝีปากตอบรับเสียงอ้อยอิ่งว่าไป

ราวกับคันกั้นน้ำทะลัก ครู่ใหญ่นางอุ่นวาบในช่องท้อง จากนั้นกลางหว่างขาพลันโหวงเหวง เมิ่งจื่อหอบหายใจหนักหน่วงคิดว่ารอดแล้ว แต่ก็ผิดคาด เมื่อนางถูกสามีจับพลิกคว่ำให้คลานสี่ขา กระแทกใส่สุดเข้ามาภายในครั้งเดียว!

เสียง อ่า อ้า อ๊า ยังคงทำร้ายเพื่อนบ้านต่อไป…

ทางเกวียนหลายสิบลี้ทอดยาวไกล แต่สกุลเมิ่งหาได้มีรถม้า วันนี้เมิ่งจื่ออารมณ์ดียิ่ง นางเดินอยู่ริมทางน้อยโดยที่สามีแบกหลัวไม้ไผ่ ใส่เนื้อหมูสิบกว่าชั่งเพื่อนำไปขายในตัวอำเภอ

สมัยก่อนเมิ่งจื่อมักจะขอติดตามบิดา เขาพอได้หมูป่ามาก็จะนำไปแล่เนื้อขาย แต่สองปีที่ผ่านมาท่านพ่อไม่ให้นางตามไปซักครั้ง บอกว่านางโตเป็นสาวแล้ว ไหนเลยไปยืนให้บุรุษโสโครกแทะเล็ม

ใช่แล้ว! เมิ่งจื่อถูกกินเต้าหูประจำ

แตกต่างจากเซียวเฟิง หลังจากเขาถูกกำหนดศักดิ์ฐานะใหม่ เมิ่งผู้พ่อก็แนะนำเขากับสหายนายพราน พาไปขายของที่ตลาดสิบกว่าครั้งภายในสองเดือน

“อ้าวเซียวอัน พาภรรยามาด้วยหรือ?”

เดินชั่วยามกว่าๆ ก็ถึงแผงขาย หงเป่าสหายเมิ่งผู้พ่อเห็นเซียวเฟิงมาพร้อมภรรยาก็เอ่ยทัก จากนั้นทั้งสองช่วยกันจัดร้าน ตั้งแผงขายสินค้าที่หามาได้

ในแวดวงนายพราน เซียวอันเป็นนามที่เพิ่งผุดขึ้นมาใหม่ ทุกคนต่างก็ทราบว่าเขาเป็นลูกเขยสกุลเมิ่ง ทั้งยังมีฝีมือร้ายกาจในการยิงธนู

เมิ่งไท่อี้ราวกับเก็บได้ของวิเศษ เขาคิดไม่ถึงว่าเจ้าหนุ่มที่ลูกสาวหิ้วมาจะฝีมือดีขนาดนี้ เพียงแค่ครั้งแรกที่พาขึ้นเขาก็ยิงได้กวางสองตัว ระยะเวลาเพียงสองเดือนชื่อเสียงเซียวอันก็โด่งดังไปทั่ว นายพรานที่หากินแถวป่าไท่หังมิมีผู้ใดไม่รู้จักเขา

เมิ่งจื่อความจริงเชี่ยวชาญค้าขาย นางเห็นสามีถูกท่านลุงในหมู่บ้านที่สนิทกันชวนคุย จึงไล่ให้เขาไปนั่งดื่มน้ำชาร้านฝั่งตรงข้าม ส่วนตนจะรับหน้าที่ค้าขายเอง

เหล่าหงเหล่าจางหัวเราะฮ่าฮ่า บอกว่าในเมื่อเมียปล่อยตัวแล้วเจ้าก็ตามพวกเรามา ไปดื่มกันให้สะใจซักตั้ง เห็นว่าวันก่อนได้หมู่ป่าหนักร้อยกว่าชั่งมามิใช่หรือ

เซียวเฟิงได้แต่ฝากร้านไว้กับเมิ่งจื่อ ติดตามท่านลุงทั้งสองเข้าร้านไปดื่มสุรา...

***

“เจ้ารู้หรือไม่? เมื่อวานมีคนพบศพเจ้าหน้าที่ทางการหกคนบนเขาทางทิศตะวันตก เห็นว่าแต่ละคนถูกสังหารในหนึ่งฝ่ามือ!”

ลุงหงเป็นคนเปิดประเด็น ข่าวนี้โด่งดังมาก โต๊ะข้างๆ ก็กำลังพูดคุยเรื่องนี้ เซียวเฟิงก็แสดงท่าทีสนอกสนใจ พูดคุยกับพวกเขาอยู่นานสองนาน…

ตำหนักเว่ยเฉียน

“ปัง! บัดซบ! ล้วนเป็นพวกทรยศ! เป็นพวกทรยศ!” แท่นฝนหมึกถูกฟาดลงพื้น ในมือฮ่องเต้เป็นรายงานลับ ช่องทางที่ส่งมาก็เป็นความลับขั้นสูง เพราะได้มาจากสายข่าวพิเศษขององครักษ์เงา มิได้ผ่านหน่วยงานใดๆ

ที่ผ่านมาข่าวสารจากเมืองห่างไกลมาไม่ถึงมือฮ่องเต้ แต่บัดนี้ความจริงเปิดเผยแล้ว ตงฉ่างและซีฉ่างที่เคยเป็นหูเป็นตาให้ราชวงศ์กว่าสองร้อยปี บัดนี้มีผู้คนคิดคดทรยศ แบ่งพรรคแบ่งพวกอยู่ในองค์กร

นี่เป็นภาษาลับที่มีแต่คนในหน่วยเงาและฮ่องเต้อ่านออก สองเดือนก่อนเซียวเฟิงจำความได้ จึงรีบเขียนรายงานส่งกลับ ทั้งยังแนบรายชื่อขุนนางใหญ่สิบกว่าคนที่เอาใจออกห่าง และขอกำลังเสริมที่มิใช่ขุนนางท้องถิ่นให้ติดตามแฝงตัวในแดนส่านซี เพื่อสืบเรื่องของเฉิงอ๋อง ทั้งยังลงท้ายในรายงานว่า

เป็นไปได้สูงที่เฉิงอ๋องคิดก่อกบฏ!

หลังจากขาดการติดต่อไปสองเดือน ฮ่องเต้มิได้โล่งใจแม้แต่น้อย คิดไม่ถึงว่าเรื่องราวจะร้ายแรงขนาดนี้ กับพัวพันขุนนางในราชสำนักมากมาย นี่เขาถูกปิดหูปิดตามานานเท่าใด

“พวกเจ้าแบ่งคนไปช่วยหัวหน้าซะ! อย่าให้เรื่องนี้รั่วไหลออกไปภายนอก”

องครักษ์เงามีไม่ถึงร้อย ตอนนี้ยังต้องแบ่งกว่าครึ่งไปทำงานข้างนอก ถือเป็นเรื่องที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนนับแต่ก่อตั้งราชวงศ์

แต่ข่าวนี้ไม่เชื่อไม่ได้!

นี่เป็นคนข้างกายฮ่องเต้ หากเซียวเฟิงทรยศ ในโลกนี้พระองค์ก็ไม่เหลือผู้ภักดีอีกแล้ว

แปดเดือนก่อนเซียวเฟิงแฝงตัวตามคำบัญชา เขาลอบปลอมแปลงเป็นเจ้าหน้าที่ตงฉ่างและซีฉ่าง ปกติสองหน่วยงานนี้รับข่าวจากภายนอก เพียงใช้รหัสลับติดต่อกัน ซึ่งเซียวเฟิงย่อมรับรู้ จึงเริ่มแฝงตัวส่งข่าวไปยังแดนเหนือแดนใต้ ใช้ข่าวลับเป็นเหยื่อล่อ สืบหาว่าสายข่าวถูกตัดขาดตรงจุดใดกันแน่

แต่ละอำเภอของต้าเว่ยจะมีเจ้าหน้าที่สายลับ ใช้ส่งข่าวสือสาร เซียวเฟิงอาศัยที่รู้เส้นสนกลในติดต่อกับพวกเขา กระทั่งคลำเครือไปเรื่อยๆ จนพบผลแตง เดินทางมาถึงเมืองส่านซี ตัวตนของเขาก็ถูกเปิดเผย

แม้มือดีตงฉ่างซีฉ่างสามสิบกว่าคนจะรับมือไม่ยาก แต่พิษที่พวกเขาใช้กับรุนแรงยิ่ง เซียวเฟิงพลาดท่าถูกไปเพียงน้อยนิด เขาถึงกับต้องใช้กำลังภายในทั้งหมดขับออก จนถูกธาตุไฟเข้าแทรก ร่างกายร้อนรุ่มจนต้องโดดลงแม่น้ำ

เซียวเฟิงเป็นไพ่ตายใบสุดท้ายที่ถูกส่งออกไป ฮ่องเต้อยู่นิ่งไม่ได้แล้ว อำนาจการบริหารของพระองค์ถูกท้าทาย ตอนนี้จำเป็นต้องแยกพวกที่ยังใช้งานได้ และพวกคิดคดออกจากกัน

เปลวไฟเริ่มปะทุ ขุนนางในราชสำนักทั้งหมดกลายเป็นที่ขัดตายิ่ง แต่ฮ่องเต้ยังคงออกว่าการเช้าราวกับไม่มีเรื่องราวใดเกิดขึ้น ปล่อยให้พวกเขาส่งฎีกาคำร้องตามปกติ ส่วนพระองค์ก็เออออไปเรื่อย เห็นดีเห็นงามกับงานราชการทั้งหมดที่ขุนนางใหญ่เสนอมา

***

เนื้อหมูชั่งสุดท้ายถูกขายไปแล้ว เมิ่งจื่อยิ้มหน้าบาน นางนับดูก็พบว่าขายได้เกือบเก้าร้อยเหวิน จึงจัดเก็บมีดและเขียง จากนั้นเดินตามไปหาสามีที่โรงน้ำชา

“ท่านพี่ ขายหมดแล้วเจ้าคะ”

เมิ่งจื่อยืนอยู่ข้างโต๊ะ ท่านลุงหงและจางชมเชยว่านางขายเก่งมาก ใช้เวลายังไม่ถึงครึ่งชั่วยามเลย

เมิ่งจื่อนำเงินทั้งหมดวางไว้บนโต๊ะ ส่งสัญญาณว่าให้ท่านพี่เป็นคนเก็บไว้ แต่เซียวเฟิงกับหยิบแล้วยัดเข้าใส่สาบเสื้อนาง ฉวยโอกาสสัมผัสปลายถันนางเล็กน้อยจากนั้นกล่าวว่า

“เจ้าเป็นคนเก็บเถอะ”

ต่อหน้าผู้อาวุโสทั้งสอง เมิ่งจื่อเขินอายจนหน้าแดง แต่เหล่าจางเหล่าหงหาได้สังเกตเห็นไม่ พวกเขายังคงพูดคุยเรื่องการออกล่า นัดแนะกันว่าจะไปยิงสัตว์ป่าอีกทีเมื่อใด

ยังคงเป็นการพูดคุย เซียวเฟิงสั่งบะหมี่กับไก่นึ่งตัวหนึ่งให้ภรรยา แม้นางจะปฏิเสธบอกว่าไม่เป็นไร ซื้อที่นี่แพงจะตาย กลับบ้านค่อยเชือดทำกินเองก็ได้ แต่เซียวเฟิงยังคงสั่งให้นางกินอยู่ดี

เมิ่งจื่อเคี้ยวน่องไก่แสนอร่อยตุ้ยๆ นางเงยหน้ามองสามีเป็นระยะๆ ชมดูความหล่อเหลาของเขา ยามพูดคุยหัวเราะเฮฮากับท่านลุงทั้งสองคน…

***

Related chapters

  • ทารกผู้นี้ มิใช่ของข้า   ตอนที่ 6 ต้นหลิว

    ทารกที่ 6ต้นหลิวเซียวเฟิงรอจนเมิ่งจื่อรับประทานเสร็จ จากนั้นบอกท่านลุงทั้งสองว่าขอตัวกลับก่อน แล้วจับจูงมือภรรยาเดินออกจากร้าน มุ่งหน้าไปยังประตูเมืองทิศตะวันออก ระหว่างทางก็แวะแผงขายเครื่องประดับ เลือกซื้อปิ่นปักผมราคาถูกให้เมิ่งจื่อสองอันนี่เป็นปิ่นไม้ขัดจนเงาไม่มีราคาค่างวด แต่เซียวเฟิงพบเห็นแล้วก็ชอบ จึงถามหญิงสาวข้างๆว่า งดงามหรือไม่ ด้วยเหตุนี้เองเมิ่งจื่อจึงยิ้มระรื่นก่อนออกจากเมืองแม้จะเพียงแค่อันละสามสิบเหวิน แต่นี่เป็นสิ่งที่สามีซื้อหาให้ ตลอดทางกลับเมิ่งจื่อเลยเบิกบานยิ่ง เดินนำหน้าเขาแกว่งมือแกว่งเท้า บิดเอวอ้อนแอ้นไปมาอย่างอารมณ์ดีในสายตาเซียวเฟิง ปิ่นราคาแสนตำลึงเขาก็เคยเห็นมาแล้ว แต่พอคิดว่า นำมาประดับอยู่บนศีรษะภรรยาตอนนี้ ออกจะไม่เหมาะสมเท่าใด แต่ปิ่นไม้ธรรมดาเรียบง่ายกับดูเหมาะสม ที่จะขับเน้นความบริสุทธิ์ของสาวชาวบ้านออกมาตรงหน้าชายหนุ่มเป็นหญิงบอบบางในชุดผ้าเนื้อหยาบ นางสูงเพียงช่วงไหล่เขาเท่านั้น ก้นน้ำเต้าแบบนี้ ต่อให้มีอายุมากขึ้น เขาก็มองออกว่านางจะไม่สูงขึ้นอีกแม้แต่คืบเดียวสมัยก่อนเซียวเฟิงแฝงตัวอยู่ในวัง ไม่ว่าหญิงสูงศักดิ์งดงามเพียงใด ทุกนางล้วนผ่านสา

    Last Updated : 2025-02-24
  • ทารกผู้นี้ มิใช่ของข้า   ตอนที่ 7 เจ้าหน้าที่ทางการ

    ทารกที่ 7เจ้าหน้าที่ทางการยังคงอยู่ที่ริมแม่น้ำ เมิ่งจื่อซักผ้าเสร็จแล้ว นางก้มลงหยิบถังไม้หันกลับขึ้นฝั่ง ดวงตาหญิงสาวไม่มีน้ำตาประดับอยู่ซักนิด ราวกับเมื่อครู่นางมิได้ร่ำไห้อันใด“นี่! เป็นไร! แค่นี้ก็ตอบไม่ได้หรือว่าของใครดีกว่ากัน?” จูเอ๋อไม่คิดปล่อยอริไปโดยง่าย นางพอเห็นเมิ่งจื่อจะเดินหนีก็ตะโกนถาม จากนั้นหัวเราะคิกคักกับสหายต่อไป“ดีแล้วจะทำไม? สามีข้าเอาดีแล้วเกี่ยวใดกับพวกเจ้า” ขณะเดินผ่าน เมิ่งจื่อพลันตอบกลับไปด้วยสีหน้าเรียบเฉย นี่เป็นคำพูดหยาบคายของชาวบ้านชนบท หากนางกล่าวแบบนี้ที่เมืองหลวงให้ผู้คนได้ยิน คงถูกเหล่าบัณฑิตประณามด่าท่อ ว่าเป็นหญิงมักมากร่านราคะจริงๆจูเอ๋อถึงกับอึ้ง นางไม่คิดว่าจะถูกโต้กลับมาแบบนี้ แต่เพราะเรื่องราวเกิดขึ้นเร็วมาก กว่านางจะคิดคำด่าได้ เมิ่งจื่อก็เดินหนีหายไปไกลแล้ว ดังนั้นจึงได้แต่กำมือจิกเล็บยืนเต้นเร้าๆ ด่าเมิ่งจื่อลับหลังกับเหล่าสหายด้วยคำหยาบต่างๆ นาๆบนทางน้อยกลับบ้าน เมิ่งจื่อไม่เคยรู้สึกเช่นนี้มาก่อน นี่เป็นครั้งแรกที่นางตอบโต้จูเอ๋อ คิดไม่ถึงว่าพอพูดยั่วโมโหออกไปแบบนั้น นางจะรู้สึกดีและตื่นเต้นมากใช่แล้ว นางไม่เคยทำผิดต่อสามี พอนางคิ

    Last Updated : 2025-02-24
  • ทารกผู้นี้ มิใช่ของข้า   ตอนที่ 8 ภาพวาด 18+

    ทารกที่ 8ภาพวาดก่อนเมิ่งจื่อแต่งงานหนึ่งเดือน จู่ๆ ในอำเภอไท่หังมีร้านรับซื้อหนังสัตว์เปิดใหม่ เรื่องแบบนี้ถือว่าปกติมาก เพราะแดนส่านซีอยู่กึ่งกลางระหว่างเมืองทางเหนือและใต้ขนจิ้งจอกขาวมีชื่อหาได้ยากอยู่แดนเหนือ ส่วนขนหมีและเสือส่วนมากอยู่ภาคกลางและใต้ พ่อค้าส่วนใหญ่จึงตั้งร้านรับซื้ออยู่ในแดนส่านซี เพื่อนำไปขายทำกำไลต่อในเมืองหลวงจินหลิงเป็นเมืองหลวงของต้าเว่ย นี่อยู่ห่างส่านซีถึงสามพันลี้ หากเดินทางไปกลับใช้เวลาเกือบสองเดือน ดังนั้นสมาคมพ่อค้าหนังจึงจัดตั้งหน่วยขนส่ง เพื่อรวมกลุ่มกันเดินทางขนสินค้าอย่างปลอดภัยร้านรับซื้อใหม่ที่เพิ่งเปิด ก็เป็นสมาชิกของสมาคมนี้เองร้านหนังสัตว์จูเก่อหลงจู๊พอจ่ายเงินค่าหนังสองผืนให้เซียวเฟิง เขาก็เดินกลับเข้าหลังร้าน ใช้คนงานให้เปลี่ยนมาเฝ้าร้านแทน ส่วนตัวเองพอถึงที่ลับตา ก็เดินออกทางประตูหลัง ปะปนกับผู้คนในตลาด จนกระทั่งมั่นใจว่าไม่มีผู้ใดสะกดรอยตาม ถึงได้หายเข้าไปในบ้านหลังหนึ่ง“ท่านตรวจดู รายชื่อในภาพคุ้นชินหรือไม่?”ห้องใต้ดินของบ้านลึกลับ หลงจู๊ร้านหนังกางภาพวาดผืนใหญ่ลงบนโต๊ะ ภาพใบนี้เป็นเซียวเฟิงซุกซ่อนมากับหนังหมี ชายปริศนาเจ้าของบ้านก็

    Last Updated : 2025-02-24
  • ทารกผู้นี้ มิใช่ของข้า   ตอนที่ 9 ปิ่นปักผม

    ทารกที่ 9ปิ่นปักผมกว่าจะถึงอำเภอ เวลาก็ไม่เช้าแล้ว เซียวเฟิงพาเมิ่งจื่อไปที่ว่าการเป็นอันดับแรก ติดต่อขอเข้าพบผู้ช่วยสวี เจ้าหน้าที่เฝ้าประตูเหมือนจะรู้อยู่ก่อน พอบอกว่ามาจากหมู่บ้านหลิวชิ่ง ตรวจสอบเอกสารที่นำมาเล็กน้อย ก็พาคนทั้งหมดเดินอ้อมเข้าตึกหลัง ไปพบผู้ช่วยสวีที่ทำงานอยู่ด้านในระหว่างทางพวกเมิ่งจื่อเดินสวนกับสาวงามกลุ่มหนึ่ง ทุกนางแต่งตัวดูดีมาก ศีรษะมีเครื่องประดับเต็มไปหมด ไม่ว่าจะปิ่นหยกปิ่นเงินปิ่นทอง ล้วนมีทั้งนั้นพวกนางเองก็พบเห็นเมิ่งจื่อ แต่หญิงสาวเหล่านั้นหาได้สังเกตดูนางไม่ เพียงพินิจเซียวเฟิงแวบเดียว จากนั้นชักสายตากลับมาหัวเราะคิก มิทราบซุบซิบนินทาอะไรกันภายในห้องทำงานผู้ช่วยสวี บัณฑิตกลางคนกล่าวว่าลำบากพวกเจ้าแล้ว ที่อยู่ในกล่องนั่นเป็นใบผ่านทางทั้งหมด พวกเจ้าใช่ยกไปไหวหรือไม่เมิ่งจื่อมองไปที่หีบในหนึ่ง นางลอบปาดเหงื่อ คิดไม่ถึงว่าใบผ่านทางที่ผู้ใหญ่บ้านบอก จะมีมากมายปานนี้“…”ทีแรกนางคิดว่าต้องนำกลับไปเพียงไม่กี่ใบเท่านั้น ใบผ่านทางมากขนาดนี้นางจะเอากลับไปไหวได้ยังไง?“โอ้! ไฉนมีมากมายปานนี้ขอรับ?”เซียวเฟิงแสร้งเป็นตกใจ อุทานถามผู้ช่วยสวี บัณฑิตกลางคนก็เอา

    Last Updated : 2025-02-24
  • ทารกผู้นี้ มิใช่ของข้า   ตอนที่ 10 โรงสุราแม่นางอิ๋ง 18+

    ทารกที่ 10โรงสุราแม่นางอิ๋งก่อนแต่งกับเซียวเฟิง เมิ่งจื่อเพียงแค่รู้สึกชอบเขาเล็กน้อย หลังจากมารดาบอกว่า เขาจะเป็นสามีนางในอนาคต เมิ่งจื่อก็ไม่คิดถึงเรื่องพี่เสิ่นอีก เพราะนางยึดถือคำสอนที่ว่า อยู่บ้านเชื่อฟังพ่อแม่ ออกเรือนเชื่อฟังสามีแต่คำพูดฮูหยินพวกนั้นสะกิดแผลในใจนาง จะให้สามีนางสอบจิ่นสือเป็นขุนนาง แม้แต่นางยังไม่กล้าคิด นี่มันคำดูถูกเหยียดหยามชัดๆ เมิ่งจื่อพบว่าสามีไม่รู้กฎระเบียบก็อับอายอยู่แล้ว ตอนนี้ยังถูกถากถางซึ่งหน้า จะให้นางไม่เสียใจได้ยังไงแต่ท่านพี่เพียงหวังดีกับนาง!เมื่อเทียบกันแล้ว พี่เสิ่นยามนี้คงเป็นขุนนางในราชสำนัก สมัยก่อนเขาสัญญาอะไรกับนางไว้ตั้งมาก บอกว่าพอเขาเข้าเมืองหลวง นางก็จะเป็นฮูหยินน้อย เขาจะซื้อเครื่องประดับเงินประดับทองให้นาง ทั้งยังจะพานางไปดูงิ้ว หลายปีให้หลังมีตำแหน่งสูงขึ้น เขาบอกว่านางจะได้เป็นฮูหยินบรรดาศักดิ์ ถึงตอนนั้นยังสามารถปักปิ่นหงส์ใช่แล้ว กฎข้อบังคับระบุว่า มีเพียงฮูหยินบรรดาศักดิ์ขั้นสองขึ้นไปเท่านั้น ที่สวมใส่เครื่องประดับรูปหงส์ได้ ในชีวิตเมิ่งจื่อเกิดมาเคยแต่เห็นรูปหงส์ในกระดาษ แม้แต่เครื่องประดับแบบนั้นนางก็ไม่เคยเจอทั่วทั้ง

    Last Updated : 2025-02-24
  • ทารกผู้นี้ มิใช่ของข้า   ตอนที่ 11 เมิ่งจื่อท้องแล้ว!

    ทารกที่ 11เมิ่งจื่อท้องแล้ว!รุ่งเช้า ผู้ใหญ่บ้านเดินทางมาพบสกุลเมิ่งเป็นครอบครัวแรก ในมือท่านผู้เฒ่าถือหนังสือผ่านทางมาด้วยห้าฉบับ นี่เป็นสิ่งของที่แยกออกมาจากในหีบ ที่เมื่อวานเซียวเฟิงแบกใส่บ่ากลับมา“ทางการเข้มงวดมาก ช่วงนี้พวกเจ้าก็พกใบผ่านทางติดตัวตลอด อย่าได้หลงลืมวางทิ้งไว้ที่ใดละ”ผู้ใหญ่บ้านกำชับกับเมิ่งไท่อี้ เพราะเขาเป็นนายพรานต้องออกเดินทางบ่อยครั้งเพราะเป็นเขยแต่งเข้า ขั้นตอนการย้ายสำมะโนครัวจึงเป็นไปด้วยความง่ายดาย เนื่องจากญาติทางฝั่งเจ้าบ่าวถือว่าเสียหน้า ดังนั้นจึงมักไม่ยอมรับ เพียงใช้เงินจำนวนหนึ่งติดสินบนขุนนางตรวจสอบ ก็ไม่จำเป็นต้องแสดงทะเบียนราษฎร์ยืนยันให้ขายขี้หน้าอย่าว่าแต่เซียวอันใช้ศักดิ์ฐานะญาติฝั่งมารดา เมื่อมีนางเมิ่งซือรับรอง ตอนแต่งงานก็มอบของกำนัลให้ผู้ใหญ่บ้าน เขาจึงเข้าสู่ตระกูลเมิ่งได้อย่างราบรื่นหนังสือผ่านทางห้าฉบับนี้ หนึ่งใบเป็นของเซียวอัน เพราะทางอำเภอออกให้ในฐานะบุตรเขยตระกูลเมิ่งแห่งหลิวชิ่ง เมื่อเป็นเช่นนี้ ต่อให้หูตาเฉิงอ๋องมีหลายแสนก็ยากจะพบตัวสายลับที่ปะปนเข้ามาเซียวเฟิงจึงทำงานได้อย่างสะดวกสบาย!หลายเดือนต่อมาซ่งจูเอ๋อที่อยู่ข้างบ้า

    Last Updated : 2025-02-24
  • ทารกผู้นี้ มิใช่ของข้า   ตอนที่ 12 ข้าอยู่นี่! 18+

    ทารกที่ 12ข้าอยู่นี่!ในความชุลมุนวุ่นวาย ชายหญิงหลายสิบบ้างถือไม้กวาดบ้างถือเก้าอี้วิ่งตามเซี่ยหานไป เมิ่งไท่อี้หนวดเคราสั่นระริก เขาแทบไม่เชื่อหูตนเองว่าบุตรเขยสุดประเสริฐจะทำเรื่องชั่วช้าเช่นนี้ เลยหยิบขาโต๊ะที่หักออกมาคิดนำไปทุบตีเซียวเฟิงให้ตาย!“ตับๆ ตับๆ ตับๆ” !!!“อ๊า อูววว อูววว” !!!“แรงอีกเจ้าคะพี่เซียว! แรงอีก!”ฟังจากเสียงคราง ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าคนในห้องหับเมามันขนาดไหน นี่ไม่เหมือนที่พูดไว้ตอนแรก คนทั้งหมดนิ่งงันยืนงงอยู่หน้าห้อง ไหนว่าถูกข่มขืนมิใช่หรือ?“บัดซบ! เซียวอัน! เจ้าไสหัวออกมาให้กับข้าเดี๋ยวนี้!” ถึงผู้อื่นจะแข็งค้าง แต่เมิ่งไท่อี้โมโหจนอกจะแตกตายแล้ว ความจริงเขาคิดอาละวาดพังประตูเข้าไป แต่กับถูกเซี่ยหานและคนอื่นๆ ดึงตัวไว้ บอกว่าเข้าไปไม่ได้ หากพวกเราเข้าไปตอนนี้ จะให้พี่สาวของเขามีชีวิตอยู่ต่อไปได้ยังไง?นี่มิใช่การข่มขืน! แต่เป็นการเล่นชู้!ขณะเมิ่งผู้พ่อโวยวายอยู่หน้าห้อง คนด้านในก็เหมือนจะไม่ได้ยิน ยังคงกระแทกกันต่อด้วยความสะใจนานสองนาน ผู้คนบางส่วนหลบออกไปลานด้านนอก ตอนนี้เหลือเพียงคนสกุลเซี่ยเท่านั้น เพื่อพูดคุยหารือเรื่องงามหน้า ที่บุตรเขยตระกูลเมิ่งล

    Last Updated : 2025-02-24
  • ทารกผู้นี้ มิใช่ของข้า   ตอนที่ 13 เฉิงอ๋อง

    ทารกที่ 13เฉิงอ๋องหน้าหมู่บ้านหลิวชิ่ง เมิ่งจื่อมองดูเงาหลังสามีไกลลิบตา ครั้งนี้เมิ่งผู้พ่อปล่อยลูกเขยไปตามลำพัง เพราะถึงไปด้วยกันเขาก็ยิงสัตว์ได้ไม่มากเท่าใด “…”ยังคงเป็นริมลำธารแม้เมิ่งจื่อจะท้องแก่ แต่ชีวิตชาวบ้านชนบทก็มีอะไรให้ทำไม่มาก วันนี้นางมิได้หอบผ้ามาซัก หากแต่เพียงมาตกปลาเล่นกับผู้เป็นมารดาห่างไปไม่ไกลมีหญิงสาวสูงต่ำสิบกว่าคน หนึ่งในนั้นเป็นซ่งจูเอ๋อ เพียงแค่เห็นเงาร่างอุ้ยอ้ายของอีกฝ่ายนางก็จิกเล็บ ความจริงตั้งใจจะหอบเสื้อผ้ามาซัก แต่พอพบว่าผู้ใดนั่งอยู่ตรงนั้น นางก็เปลี่ยนเส้นทางเดินหนีทันทีนับตั้งแต่แต่งงาน ซ่งจูเอ๋อเติบโตขึ้นมาก นางมิเพียงได้เรียนรู้เรื่องโหดร้ายทางโลก ทั้งยังมีปากเสียงทะเลาะตบตีกับสามีเป็นประจำ อยากเช่นวันนี้ เบ้าตานางฟกช้ำขึ้นสีม่วง แต่ก็หนีไม่พ้นถูกแม่สามีจิกหัวใช้งานความอับอายของนางหมดไปนานแล้ว แต่มีเพียงผู้เดียวที่จูเอ๋อรู้สึกยอมไม่ได้นั่นคือเมิ่งจื่อเอง!จูเอ๋อไม่เข้าใจไฉนตนเองรู้สึกโกรธแค้น ยิ่งเห็นเมิ่งจื่อมีชีวิตที่ดี นางก็ยิ่งคับแค้นใจ...แต่นางหารู้ตัวไม่ ทุกวันนี้เมิ่งจื่อยังคงเป็นเมิ่งจื่อคนเดิมที่นางชอบกลั่นแกล้ง หากแต่ตัวนางเปลี

    Last Updated : 2025-02-24

Latest chapter

  • ทารกผู้นี้ มิใช่ของข้า   ตอนที่ 13 เฉิงอ๋อง

    ทารกที่ 13เฉิงอ๋องหน้าหมู่บ้านหลิวชิ่ง เมิ่งจื่อมองดูเงาหลังสามีไกลลิบตา ครั้งนี้เมิ่งผู้พ่อปล่อยลูกเขยไปตามลำพัง เพราะถึงไปด้วยกันเขาก็ยิงสัตว์ได้ไม่มากเท่าใด “…”ยังคงเป็นริมลำธารแม้เมิ่งจื่อจะท้องแก่ แต่ชีวิตชาวบ้านชนบทก็มีอะไรให้ทำไม่มาก วันนี้นางมิได้หอบผ้ามาซัก หากแต่เพียงมาตกปลาเล่นกับผู้เป็นมารดาห่างไปไม่ไกลมีหญิงสาวสูงต่ำสิบกว่าคน หนึ่งในนั้นเป็นซ่งจูเอ๋อ เพียงแค่เห็นเงาร่างอุ้ยอ้ายของอีกฝ่ายนางก็จิกเล็บ ความจริงตั้งใจจะหอบเสื้อผ้ามาซัก แต่พอพบว่าผู้ใดนั่งอยู่ตรงนั้น นางก็เปลี่ยนเส้นทางเดินหนีทันทีนับตั้งแต่แต่งงาน ซ่งจูเอ๋อเติบโตขึ้นมาก นางมิเพียงได้เรียนรู้เรื่องโหดร้ายทางโลก ทั้งยังมีปากเสียงทะเลาะตบตีกับสามีเป็นประจำ อยากเช่นวันนี้ เบ้าตานางฟกช้ำขึ้นสีม่วง แต่ก็หนีไม่พ้นถูกแม่สามีจิกหัวใช้งานความอับอายของนางหมดไปนานแล้ว แต่มีเพียงผู้เดียวที่จูเอ๋อรู้สึกยอมไม่ได้นั่นคือเมิ่งจื่อเอง!จูเอ๋อไม่เข้าใจไฉนตนเองรู้สึกโกรธแค้น ยิ่งเห็นเมิ่งจื่อมีชีวิตที่ดี นางก็ยิ่งคับแค้นใจ...แต่นางหารู้ตัวไม่ ทุกวันนี้เมิ่งจื่อยังคงเป็นเมิ่งจื่อคนเดิมที่นางชอบกลั่นแกล้ง หากแต่ตัวนางเปลี

  • ทารกผู้นี้ มิใช่ของข้า   ตอนที่ 12 ข้าอยู่นี่! 18+

    ทารกที่ 12ข้าอยู่นี่!ในความชุลมุนวุ่นวาย ชายหญิงหลายสิบบ้างถือไม้กวาดบ้างถือเก้าอี้วิ่งตามเซี่ยหานไป เมิ่งไท่อี้หนวดเคราสั่นระริก เขาแทบไม่เชื่อหูตนเองว่าบุตรเขยสุดประเสริฐจะทำเรื่องชั่วช้าเช่นนี้ เลยหยิบขาโต๊ะที่หักออกมาคิดนำไปทุบตีเซียวเฟิงให้ตาย!“ตับๆ ตับๆ ตับๆ” !!!“อ๊า อูววว อูววว” !!!“แรงอีกเจ้าคะพี่เซียว! แรงอีก!”ฟังจากเสียงคราง ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าคนในห้องหับเมามันขนาดไหน นี่ไม่เหมือนที่พูดไว้ตอนแรก คนทั้งหมดนิ่งงันยืนงงอยู่หน้าห้อง ไหนว่าถูกข่มขืนมิใช่หรือ?“บัดซบ! เซียวอัน! เจ้าไสหัวออกมาให้กับข้าเดี๋ยวนี้!” ถึงผู้อื่นจะแข็งค้าง แต่เมิ่งไท่อี้โมโหจนอกจะแตกตายแล้ว ความจริงเขาคิดอาละวาดพังประตูเข้าไป แต่กับถูกเซี่ยหานและคนอื่นๆ ดึงตัวไว้ บอกว่าเข้าไปไม่ได้ หากพวกเราเข้าไปตอนนี้ จะให้พี่สาวของเขามีชีวิตอยู่ต่อไปได้ยังไง?นี่มิใช่การข่มขืน! แต่เป็นการเล่นชู้!ขณะเมิ่งผู้พ่อโวยวายอยู่หน้าห้อง คนด้านในก็เหมือนจะไม่ได้ยิน ยังคงกระแทกกันต่อด้วยความสะใจนานสองนาน ผู้คนบางส่วนหลบออกไปลานด้านนอก ตอนนี้เหลือเพียงคนสกุลเซี่ยเท่านั้น เพื่อพูดคุยหารือเรื่องงามหน้า ที่บุตรเขยตระกูลเมิ่งล

  • ทารกผู้นี้ มิใช่ของข้า   ตอนที่ 11 เมิ่งจื่อท้องแล้ว!

    ทารกที่ 11เมิ่งจื่อท้องแล้ว!รุ่งเช้า ผู้ใหญ่บ้านเดินทางมาพบสกุลเมิ่งเป็นครอบครัวแรก ในมือท่านผู้เฒ่าถือหนังสือผ่านทางมาด้วยห้าฉบับ นี่เป็นสิ่งของที่แยกออกมาจากในหีบ ที่เมื่อวานเซียวเฟิงแบกใส่บ่ากลับมา“ทางการเข้มงวดมาก ช่วงนี้พวกเจ้าก็พกใบผ่านทางติดตัวตลอด อย่าได้หลงลืมวางทิ้งไว้ที่ใดละ”ผู้ใหญ่บ้านกำชับกับเมิ่งไท่อี้ เพราะเขาเป็นนายพรานต้องออกเดินทางบ่อยครั้งเพราะเป็นเขยแต่งเข้า ขั้นตอนการย้ายสำมะโนครัวจึงเป็นไปด้วยความง่ายดาย เนื่องจากญาติทางฝั่งเจ้าบ่าวถือว่าเสียหน้า ดังนั้นจึงมักไม่ยอมรับ เพียงใช้เงินจำนวนหนึ่งติดสินบนขุนนางตรวจสอบ ก็ไม่จำเป็นต้องแสดงทะเบียนราษฎร์ยืนยันให้ขายขี้หน้าอย่าว่าแต่เซียวอันใช้ศักดิ์ฐานะญาติฝั่งมารดา เมื่อมีนางเมิ่งซือรับรอง ตอนแต่งงานก็มอบของกำนัลให้ผู้ใหญ่บ้าน เขาจึงเข้าสู่ตระกูลเมิ่งได้อย่างราบรื่นหนังสือผ่านทางห้าฉบับนี้ หนึ่งใบเป็นของเซียวอัน เพราะทางอำเภอออกให้ในฐานะบุตรเขยตระกูลเมิ่งแห่งหลิวชิ่ง เมื่อเป็นเช่นนี้ ต่อให้หูตาเฉิงอ๋องมีหลายแสนก็ยากจะพบตัวสายลับที่ปะปนเข้ามาเซียวเฟิงจึงทำงานได้อย่างสะดวกสบาย!หลายเดือนต่อมาซ่งจูเอ๋อที่อยู่ข้างบ้า

  • ทารกผู้นี้ มิใช่ของข้า   ตอนที่ 10 โรงสุราแม่นางอิ๋ง 18+

    ทารกที่ 10โรงสุราแม่นางอิ๋งก่อนแต่งกับเซียวเฟิง เมิ่งจื่อเพียงแค่รู้สึกชอบเขาเล็กน้อย หลังจากมารดาบอกว่า เขาจะเป็นสามีนางในอนาคต เมิ่งจื่อก็ไม่คิดถึงเรื่องพี่เสิ่นอีก เพราะนางยึดถือคำสอนที่ว่า อยู่บ้านเชื่อฟังพ่อแม่ ออกเรือนเชื่อฟังสามีแต่คำพูดฮูหยินพวกนั้นสะกิดแผลในใจนาง จะให้สามีนางสอบจิ่นสือเป็นขุนนาง แม้แต่นางยังไม่กล้าคิด นี่มันคำดูถูกเหยียดหยามชัดๆ เมิ่งจื่อพบว่าสามีไม่รู้กฎระเบียบก็อับอายอยู่แล้ว ตอนนี้ยังถูกถากถางซึ่งหน้า จะให้นางไม่เสียใจได้ยังไงแต่ท่านพี่เพียงหวังดีกับนาง!เมื่อเทียบกันแล้ว พี่เสิ่นยามนี้คงเป็นขุนนางในราชสำนัก สมัยก่อนเขาสัญญาอะไรกับนางไว้ตั้งมาก บอกว่าพอเขาเข้าเมืองหลวง นางก็จะเป็นฮูหยินน้อย เขาจะซื้อเครื่องประดับเงินประดับทองให้นาง ทั้งยังจะพานางไปดูงิ้ว หลายปีให้หลังมีตำแหน่งสูงขึ้น เขาบอกว่านางจะได้เป็นฮูหยินบรรดาศักดิ์ ถึงตอนนั้นยังสามารถปักปิ่นหงส์ใช่แล้ว กฎข้อบังคับระบุว่า มีเพียงฮูหยินบรรดาศักดิ์ขั้นสองขึ้นไปเท่านั้น ที่สวมใส่เครื่องประดับรูปหงส์ได้ ในชีวิตเมิ่งจื่อเกิดมาเคยแต่เห็นรูปหงส์ในกระดาษ แม้แต่เครื่องประดับแบบนั้นนางก็ไม่เคยเจอทั่วทั้ง

  • ทารกผู้นี้ มิใช่ของข้า   ตอนที่ 9 ปิ่นปักผม

    ทารกที่ 9ปิ่นปักผมกว่าจะถึงอำเภอ เวลาก็ไม่เช้าแล้ว เซียวเฟิงพาเมิ่งจื่อไปที่ว่าการเป็นอันดับแรก ติดต่อขอเข้าพบผู้ช่วยสวี เจ้าหน้าที่เฝ้าประตูเหมือนจะรู้อยู่ก่อน พอบอกว่ามาจากหมู่บ้านหลิวชิ่ง ตรวจสอบเอกสารที่นำมาเล็กน้อย ก็พาคนทั้งหมดเดินอ้อมเข้าตึกหลัง ไปพบผู้ช่วยสวีที่ทำงานอยู่ด้านในระหว่างทางพวกเมิ่งจื่อเดินสวนกับสาวงามกลุ่มหนึ่ง ทุกนางแต่งตัวดูดีมาก ศีรษะมีเครื่องประดับเต็มไปหมด ไม่ว่าจะปิ่นหยกปิ่นเงินปิ่นทอง ล้วนมีทั้งนั้นพวกนางเองก็พบเห็นเมิ่งจื่อ แต่หญิงสาวเหล่านั้นหาได้สังเกตดูนางไม่ เพียงพินิจเซียวเฟิงแวบเดียว จากนั้นชักสายตากลับมาหัวเราะคิก มิทราบซุบซิบนินทาอะไรกันภายในห้องทำงานผู้ช่วยสวี บัณฑิตกลางคนกล่าวว่าลำบากพวกเจ้าแล้ว ที่อยู่ในกล่องนั่นเป็นใบผ่านทางทั้งหมด พวกเจ้าใช่ยกไปไหวหรือไม่เมิ่งจื่อมองไปที่หีบในหนึ่ง นางลอบปาดเหงื่อ คิดไม่ถึงว่าใบผ่านทางที่ผู้ใหญ่บ้านบอก จะมีมากมายปานนี้“…”ทีแรกนางคิดว่าต้องนำกลับไปเพียงไม่กี่ใบเท่านั้น ใบผ่านทางมากขนาดนี้นางจะเอากลับไปไหวได้ยังไง?“โอ้! ไฉนมีมากมายปานนี้ขอรับ?”เซียวเฟิงแสร้งเป็นตกใจ อุทานถามผู้ช่วยสวี บัณฑิตกลางคนก็เอา

  • ทารกผู้นี้ มิใช่ของข้า   ตอนที่ 8 ภาพวาด 18+

    ทารกที่ 8ภาพวาดก่อนเมิ่งจื่อแต่งงานหนึ่งเดือน จู่ๆ ในอำเภอไท่หังมีร้านรับซื้อหนังสัตว์เปิดใหม่ เรื่องแบบนี้ถือว่าปกติมาก เพราะแดนส่านซีอยู่กึ่งกลางระหว่างเมืองทางเหนือและใต้ขนจิ้งจอกขาวมีชื่อหาได้ยากอยู่แดนเหนือ ส่วนขนหมีและเสือส่วนมากอยู่ภาคกลางและใต้ พ่อค้าส่วนใหญ่จึงตั้งร้านรับซื้ออยู่ในแดนส่านซี เพื่อนำไปขายทำกำไลต่อในเมืองหลวงจินหลิงเป็นเมืองหลวงของต้าเว่ย นี่อยู่ห่างส่านซีถึงสามพันลี้ หากเดินทางไปกลับใช้เวลาเกือบสองเดือน ดังนั้นสมาคมพ่อค้าหนังจึงจัดตั้งหน่วยขนส่ง เพื่อรวมกลุ่มกันเดินทางขนสินค้าอย่างปลอดภัยร้านรับซื้อใหม่ที่เพิ่งเปิด ก็เป็นสมาชิกของสมาคมนี้เองร้านหนังสัตว์จูเก่อหลงจู๊พอจ่ายเงินค่าหนังสองผืนให้เซียวเฟิง เขาก็เดินกลับเข้าหลังร้าน ใช้คนงานให้เปลี่ยนมาเฝ้าร้านแทน ส่วนตัวเองพอถึงที่ลับตา ก็เดินออกทางประตูหลัง ปะปนกับผู้คนในตลาด จนกระทั่งมั่นใจว่าไม่มีผู้ใดสะกดรอยตาม ถึงได้หายเข้าไปในบ้านหลังหนึ่ง“ท่านตรวจดู รายชื่อในภาพคุ้นชินหรือไม่?”ห้องใต้ดินของบ้านลึกลับ หลงจู๊ร้านหนังกางภาพวาดผืนใหญ่ลงบนโต๊ะ ภาพใบนี้เป็นเซียวเฟิงซุกซ่อนมากับหนังหมี ชายปริศนาเจ้าของบ้านก็

  • ทารกผู้นี้ มิใช่ของข้า   ตอนที่ 7 เจ้าหน้าที่ทางการ

    ทารกที่ 7เจ้าหน้าที่ทางการยังคงอยู่ที่ริมแม่น้ำ เมิ่งจื่อซักผ้าเสร็จแล้ว นางก้มลงหยิบถังไม้หันกลับขึ้นฝั่ง ดวงตาหญิงสาวไม่มีน้ำตาประดับอยู่ซักนิด ราวกับเมื่อครู่นางมิได้ร่ำไห้อันใด“นี่! เป็นไร! แค่นี้ก็ตอบไม่ได้หรือว่าของใครดีกว่ากัน?” จูเอ๋อไม่คิดปล่อยอริไปโดยง่าย นางพอเห็นเมิ่งจื่อจะเดินหนีก็ตะโกนถาม จากนั้นหัวเราะคิกคักกับสหายต่อไป“ดีแล้วจะทำไม? สามีข้าเอาดีแล้วเกี่ยวใดกับพวกเจ้า” ขณะเดินผ่าน เมิ่งจื่อพลันตอบกลับไปด้วยสีหน้าเรียบเฉย นี่เป็นคำพูดหยาบคายของชาวบ้านชนบท หากนางกล่าวแบบนี้ที่เมืองหลวงให้ผู้คนได้ยิน คงถูกเหล่าบัณฑิตประณามด่าท่อ ว่าเป็นหญิงมักมากร่านราคะจริงๆจูเอ๋อถึงกับอึ้ง นางไม่คิดว่าจะถูกโต้กลับมาแบบนี้ แต่เพราะเรื่องราวเกิดขึ้นเร็วมาก กว่านางจะคิดคำด่าได้ เมิ่งจื่อก็เดินหนีหายไปไกลแล้ว ดังนั้นจึงได้แต่กำมือจิกเล็บยืนเต้นเร้าๆ ด่าเมิ่งจื่อลับหลังกับเหล่าสหายด้วยคำหยาบต่างๆ นาๆบนทางน้อยกลับบ้าน เมิ่งจื่อไม่เคยรู้สึกเช่นนี้มาก่อน นี่เป็นครั้งแรกที่นางตอบโต้จูเอ๋อ คิดไม่ถึงว่าพอพูดยั่วโมโหออกไปแบบนั้น นางจะรู้สึกดีและตื่นเต้นมากใช่แล้ว นางไม่เคยทำผิดต่อสามี พอนางคิ

  • ทารกผู้นี้ มิใช่ของข้า   ตอนที่ 6 ต้นหลิว

    ทารกที่ 6ต้นหลิวเซียวเฟิงรอจนเมิ่งจื่อรับประทานเสร็จ จากนั้นบอกท่านลุงทั้งสองว่าขอตัวกลับก่อน แล้วจับจูงมือภรรยาเดินออกจากร้าน มุ่งหน้าไปยังประตูเมืองทิศตะวันออก ระหว่างทางก็แวะแผงขายเครื่องประดับ เลือกซื้อปิ่นปักผมราคาถูกให้เมิ่งจื่อสองอันนี่เป็นปิ่นไม้ขัดจนเงาไม่มีราคาค่างวด แต่เซียวเฟิงพบเห็นแล้วก็ชอบ จึงถามหญิงสาวข้างๆว่า งดงามหรือไม่ ด้วยเหตุนี้เองเมิ่งจื่อจึงยิ้มระรื่นก่อนออกจากเมืองแม้จะเพียงแค่อันละสามสิบเหวิน แต่นี่เป็นสิ่งที่สามีซื้อหาให้ ตลอดทางกลับเมิ่งจื่อเลยเบิกบานยิ่ง เดินนำหน้าเขาแกว่งมือแกว่งเท้า บิดเอวอ้อนแอ้นไปมาอย่างอารมณ์ดีในสายตาเซียวเฟิง ปิ่นราคาแสนตำลึงเขาก็เคยเห็นมาแล้ว แต่พอคิดว่า นำมาประดับอยู่บนศีรษะภรรยาตอนนี้ ออกจะไม่เหมาะสมเท่าใด แต่ปิ่นไม้ธรรมดาเรียบง่ายกับดูเหมาะสม ที่จะขับเน้นความบริสุทธิ์ของสาวชาวบ้านออกมาตรงหน้าชายหนุ่มเป็นหญิงบอบบางในชุดผ้าเนื้อหยาบ นางสูงเพียงช่วงไหล่เขาเท่านั้น ก้นน้ำเต้าแบบนี้ ต่อให้มีอายุมากขึ้น เขาก็มองออกว่านางจะไม่สูงขึ้นอีกแม้แต่คืบเดียวสมัยก่อนเซียวเฟิงแฝงตัวอยู่ในวัง ไม่ว่าหญิงสูงศักดิ์งดงามเพียงใด ทุกนางล้วนผ่านสา

  • ทารกผู้นี้ มิใช่ของข้า   ตอนที่ 5 ข้าไม่เอาสามีผู้นี้แล้ว

    ทารกที่ 5ข้าไม่เอาสามีผู้นี้แล้วฟูกที่นอนอ่อนยวบ เปลวเทียนถูกลมหายใจเป่าดับ สายตาเมิ่งจื่อตกอยู่ในความมืด จากนั้นนางรู้สึกว่าผ้าห่มที่ปลายเท้าถูกเลิกขึ้น ตามมาด้วยไอเย็นปะทะเข้ากลางหว่างขา เพราะกระโปรงชุดแต่งงานของนางถูกถอดออกเมิ่งจื่อสะดุ้งเฮือก นางขัดขืนเพราะขาทั้งสองถูกมือเย็นๆ จับแยก สาวน้อยไม่รู้ความจึงถามสามีว่า“ท่านพี่จะทำไรหรือ?”นี่เป็นท่านแม่สอนให้เรียก นางบอกว่าหลังจากนี้ให้เรียกพี่ชายแปลกหน้าว่าท่านพี่แม้นางจะไม่รู้ว่าสามีทำอะไร และไม่มีคำตอบรับกลับมา แต่เมิ่งจื่อยังยอมแยกขาออกให้ เพราะท่านแม่บอกว่าคืนนี้ให้อยู่นิ่งๆ เชื่อฟังสามีวิกาลคล้อยดึก เพื่อนบ้านของเมิ่งจื่อความจริงหลับหมดแล้ว แต่จู่ๆ มีเสียงร้องโหยหวนดังขึ้น จับใจความได้ว่า “อ่า อ๊า โอ้ย! ไม่เอาแล้วท่านแม่ ข้าไม่เอาสามีคนนี้แล้วเจ้าคะ ไม่เอาแล้วเจ้าคะ ฮือ! ฮือ!”“…”บนเตียงนอนบ่าวสาว เมิ่งจื่อความจริงถูกทาบทับจากข้างหน้า แต่เพราะนางดิ้นรนเอาชีวิตรอด ถีบจนสิ่งที่แทงนางเจ็บปวดหลุดออก พลิกตัวคลานหนีลงเตียงแต่นี่เป็นการตัดสินใจผิดพลาด เซียวเฟิงเห็นท่าคลานของนางก็คึกยิ่งกว่าเดิม เขาตามไปกระชากบั้นท้ายดีดเด้งในควา

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status