Home / วาย / ทั่วทั้งใต้หล้า ข้ามองหาเพียงเจ้า / บทที่ 13 (2.2) + บท 14 (4 หน้า) เคียงข้างธารา ยลหมู่แมกไม้

Share

บทที่ 13 (2.2) + บท 14 (4 หน้า) เคียงข้างธารา ยลหมู่แมกไม้

last update Last Updated: 2025-02-28 12:21:56
“คุณชายว่านก็กล่าวเกินจริงไปหน่อย ข้าไหนเลยจะใจคอโหดร้ายเพียงนั้น” กู่ซิงอีกล่าวอย่างน้อยใจ ใบหน้าเหมือนเด็กที่โดนดุ หันมองไปทางอื่นเหมือนรอให้บิดามารดามาปลอบโยนก็มิปาน

ว่านฟู่เฉิงเผลอกดมุมปากลึกลง เกือบหลุดขำออกมา บุรุษตัวโตมีท่าทีตั้งแง่ตั้งงอนได้เสียที่ไหน ทว่าพอกู่ซิงอีทำแล้วกลับให้ความรู้สึกน่าเอ็นดูยิ่งนัก ถึงขั้นที่ว่าเขาเผลอปล่อยมือออกจากกระต่ายแล้วยกมือขึ้นไปลูบหัวของกู่ซิงอีโดยไม่รู้ตัวแทน อาจด้วยเพราะเจ้าตัวเอามือวางบนเข่าจนตัวขดเล็กลงเหมือนเด็กน้อยด้วยแหละ เขาจึงใจอ่อนขึ้นมา ว่านฟู่เฉิงหาข้ออ้างให้ตนเองเช่นนั้น

แต่เพียงลูบไปได้สองครั้งเท่านั้นทุกอย่างพลันชะงัก ทั้งเขาและกู่ซิงอีที่เพิ่งหันกลับมาต่างมองหน้ากันนิ่งงัน ดวงตาของโจรถ่อยตัวน้อยก็ดูโตขึ้นเล็กน้อย ว่านฟู่เฉิงรีบดึงมือกลับก่อนจะรีบควานหาพัดแถวขาขึ้นมาสะบัดพรึ่บหนึ่งทีเพื่อกางออก แล้วพัดโบกไปมา ไม่รู้ตัวว่าเจ้ากระต่ายบนตักกระโดดหนีไปตั้งแต่ตอนไหน “ไม่ไปแล้วหรือน้ำตก หากมืดแล้วเดี๋ยวผีจะหลอกเอา” เขากล่าวเพื่อเบี่ยงเบนบรรยากาศอึดอัดที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ให้จางหายไป แต่สิ่งที่คาดไม่ถึงก็คือประโยคที่ฟังดูตลกนี้จะ
เสี่ยวเทีย

น้องแค่ถูกเท้านิดเดียวเองพ่อ 555 หวั่นไหวสะละ /// กู่ซิงอีว่าเจ้าวางแผนแล้วเดี๋ยวเจอพ่อเขาที่วางแผนมาล่วงหน้าแทน บทที่ 14 จะเป็นจุดที่ทำให้ทั้งคู่ได้มาอยู่ด้วยกันมากขึ้นแล้วค่ะ แถมยังมีฉากหนึ่งที่พอ.เอาเรื่องวันนี้ที่ได้นอนห้องเดียวกันมาอ้างด้วย 5555 อย่างร้าย (ปมเรื่องน้อยจริง แต่ดีเทลเยอะอยู่) อ่อ ! ตอนหน้าพ่อเขาเกือบอดกลั้นไม่อยู่แล้วเพราะน้องเกือบจะล้วงลับจับซ้อนพ่อเขาแบบไม่ได้ตั้งใจ ตัวพ่อไม่ชอบให้ใครโดนตัวแต่กับน้องรอบนี้พ่อไม่ห้ามเฉยยยย ช่วงQ&A ทำไมก่อนหน้านี้น้องถึงไปขโมยขนมในจวนคนพี่มากินโดยไม่กลัวเขาด่า : คนพี่ปกติไม่ค่อนทานขนมค่ะ แต่ชอบนอนดึกเพราะหลับยาก ท่านน้าแม่ครัวเลยกลัวว่าจะหิว และคนจีนโบราณมักไม่ค่อยทำอาหารทิ้งไว้ข้ามคืนค่ะ ท่านน้าแม่ครัวเลยมักจะหาขนมที่ไม่หวานมากไว้เผื่อคุณชายว่านหิวยามดึกแทน ซึ่งส่วนมากพอขนมผ่านไปหลายวันก็จะถูกเอาไปแจกคนในจวนกินเพราะคุณชายว่านไม่กินอยู่แล้ว และก็ซื้อเข้ามาใหม่ ด้วยความรวยอ่ะเนอะ / นอ.ก็รู้จุดนี้อยู่แล้วเพราะมาทำงานอยู่สองสามวัน เลยไม่กลัวพอ.บ่น แต่ดูเถอะ ขนาดถึงขั้นบุกมาหาเขายามดึกจะมีอะไรให้กลัวอีก อย่างที่น้องได้บอกไว้ก่อนหน้านี้ ว่าตัวเองนอกจากเซี่ยลู่หลินแล้วก็ไม่มีใครอีก ดังนั้นจึงไม่ต้องคอยมาห่วงหน้ากังวลหลัง ทำทุกอย่างเพื่อช่วยเพื่อนให้ได้ก็พอ

| Like
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • ทั่วทั้งใต้หล้า ข้ามองหาเพียงเจ้า   บทที่ 14 (2.4) รังเกียจหรือไม่

    “หันหลัง” ว่านฟู่เฉิงใช้มือข้างที่ยกอยู่เปลี่ยนไปตบไหล่ของกู่ซิงอีแทน ใบหน้าที่เรียบนิ่งดูกังวลเล็กน้อย กู่ซิงอีเหมือนจะเข้าใจท่าทางอึดอัดของเขาได้ พอรับคำในลำคอแล้วก็หมุนตัวไปตามที่เขาบอก ในตอนนั้นแขนใหญ่ของคุณชายว่านก็พาดมาที่ไหล่ของเขา กู่ซิงอีช่วยขยับอีกฝ่ายขึ้นมาบนแผ่นหลังตัวเองด้วยอีกแรง ก่อนจะยืนขึ้นอย่างมั่นคงพากลับไปที่เก้าอี้รถเข็นแล้วทั้งคู่ก็เดินทางกลับไปที่กระท่อมด้วยกัน ตอนมาถึงสีของท้องฟ้าก็เริ่มเปลี่ยนเป็นสีเข้มขึ้นแล้ว มองเห็นดวงจันทร์ได้เลือนราง โจรถ่อยอย่างกู่ซิงอีรู้งานยิ่งนัก ครั้นเมื่อมาถึงก็รีบต้มน้ำให้คุณชายว่านอาบก่อน แล้วพาคนบนเก้าอี้รถเข็นไปที่ห้องอาบน้ำ “ไม่ต้องอุ้ม พยุงข้าก็พอ” ว่านฟู่เฉิงที่พอถอดเสื้อตัวนอกออกเสร็จแล้วก็รีบเอ่ยปากบอกก่อน มองดูถังน้ำที่ไม่สูงมากนักก็คิดว่าตัวเองสามารถลงไปได้โดยไม่ต้องให้กู่ซิงอีลงมืออุ้มอีก กู่ซิงอีพักหลังก็เชื่อฟังเป็นพิเศษ ยื่นแขนไปโอบลำตัวของว่านฟู่เฉิงไว้ แต่เจ้าตัวกลับจับแขนเขาออกมาไว้ข้างตัวแทน กู่ซิงอีก็เกร็งแขนรอ มองดูว่านฟู่เฉิงขยับตัวยืนขึ้นมาจากการใช้แรงที่มือของตนพยุงร่างกาย ก่อนจะ

    Last Updated : 2025-03-10
  • ทั่วทั้งใต้หล้า ข้ามองหาเพียงเจ้า   บทที่ 14 (3.4) มิเคยคิดเกินเลย

    แต่ว่านฟู่เฉิงไม่อาจปฏิเสธได้เลยว่ากู่ซิงอีแตกต่างจากผู้คนรอบตัวของเขามากจริง ๆ ในตอนนี้เลยพลอยคิดไปว่าที่ตนคาดหวังคงเพราะต้องการยืนยันให้แน่ชัดว่าไม่ได้มองคนผิดไปก็เท่านั้นเอง หวังเพียงต้องการให้อีกฝ่ายมาทำงานด้วยกันตามความตั้งใจเดิมตั้งแต่แรก มิได้คิดเกินเลยจริง ๆ ไม่ได้คิดเลย... ทว่าตอนที่ถามออกไปแล้วหัวใจของว่านฟู่เฉิงกลับบีบรัดแน่นเล็กน้อย ลมหายใจก็สะดุดไม่เป็นจังหวะ แต่ความรู้สึกนั้นก็ผ่านมาเพียงชั่วครู่เท่านั้นเพราะทันทีที่ถามจบกู่ซิงอีก็ตอบออกมาทันที “ย่อมไม่อยู่แล้ว!” กู่ซิงอีลุกพรวดพราดยืนขึ้นตบอกตัวเอง “ข้าไม่เคยคิดว่าท่านแตกต่างจากผู้อื่น แถมความสามารถของท่านก็เป็นสิ่งที่ผู้คนโดยรอบล้วนประจักษ์แก่สายตา มีคนหนุ่มในรุ่นราวคราวเดียวกับท่านคนไหนบ้างที่เก่งพอ ๆ กับท่าน หาได้ยากยิ่งนัก ไยท่านจะต้องคิดมากเช่นนั้น” ประโยคนี้คือสิ่งที่ออกมาจากใจของเขาล้วน ๆ แต่กู่ซิงอีกลับไม่ได้คิดไปจนสุดทางว่าคำถามของคุณชายว่านค่อนข้างแปลกเล็กน้อย ว่านฟู่เฉิงได้เห็นแววตากระจ่างชัดยิ่งกว่าดาราบนท้องฟ้าของกู่ซิงอีก็เผลอยิ้มบางออกมาเป็นครั้งแรก บางเบาจนแทบมองไม่เห็น แต่ก

    Last Updated : 2025-03-10
  • ทั่วทั้งใต้หล้า ข้ามองหาเพียงเจ้า   บทที่ 14 (4.4)+15 (1.2) ซื้อตัวข้าเถอะ

    หากคนผู้หนึ่งไม่เปิดใจรับใครง่าย ๆ ขนาดแค่จะสนิทชิดเชื้อยังหาทางเข้าไม่เจอ เช่นนั้นคุณหนูรองเซี่ยทำอย่างไรกันกู่ซิงอีถึงขั้นยอมแม้กระทั่งเอาชีวิตของตนเองมาเสี่ยงขนาดนี้ นางดูไม่ได้ฉลาดมากนักย่อมไม่ได้เจ้าเล่ห์เจ้าแผนการจนเกินไป ดังนั้นอาจมีทางเดียวนั่นคือมอบความจริงใจให้กู่ซิงอีจากใจจริง กู่ซิงอีถึงยอมเปิดใจรับนางเป็นสหาย “ทำไมเจ้าถึงสนิทกับคุณหนูรองเซี่ยได้” ในเมื่อขี้เกียจเสียเวลาไตร่ตรองให้มากความ มิสู้ถามออกไปเลยจะดีกว่า เพราะเวลานี้ตนก็ถือสิทธิ์เหนือกว่าหนึ่งขั้น การหมั้นหมายในครั้งนี้มีเขาเป็นผู้ชี้ชะตา อย่างไรเสียกู่ซิงอีก็ต้องยอมบอกเขาอยู่แล้ว “ตอนนั้นข้าอายุเพียงสิบสี่ปีและเพิ่งเสียญาติเพียงคนเดียวที่มีไป เด็กคนหนึ่งซึ่งไม่เคยเผชิญโลกกว้างได้สูญเสียกำแพงที่คอยปกป้องตนเองไป จิตใจย่อมอ่อนแอ ตอนนั้นข้าไม่รู้สึกอะไรนอกจากน้ำตาที่ไหลอาบแก้มและความสิ้นหวังภายในใจ นั่งร้องไห้ที่หน้าหลุมศพอยู่สามวันเต็ม เป็นเสี่ยวลู่ที่นั่งรถม้าผ่านมาเจอเข้าจึงได้ช่วยปลอบข้าให้ได้สติขึ้นมา นางห่างจากข้าหนึ่งปี แต่ตัวกลับเล็กยิ่งนัก สมัยก่อนเสี่ยวลู่มักชอบสวมชุดสีเหลืองสว่างและเพราะมีเน

    Last Updated : 2025-03-10
  • ทั่วทั้งใต้หล้า ข้ามองหาเพียงเจ้า   บทที่ 15 + บทที่ 16 งานหมั้นหมายเรียบร้อยดี

    “ก่อนหน้านี้ข้าเคยกล่าวกับคุณชายว่านเรื่องหนึ่ง เกรงว่าหากกล่าวอีกก็กลัวจะทำร้ายความรู้สึกของคุณชายว่าน แต่ไม่พูดก็ไม่ได้ ตอนที่ผู้เฒ่าเว่ยยังมีชีวิตอยู่ข้ากับเขาราวกับไม้เบื่อไม้เมา ตีกันทุกวัน แต่พอเขาจากไปข้าถึงได้รู้ซึ้งว่าข้าสามารถทำทุกอย่างได้ด้วยตนเอง ทำอาหาร หาเงินเลี้ยงชีพ ดูแลเสื้อผ้า กวาดถูบ้านเรือน ทุกอย่างล้วนมาจากการสั่งสอนของเขา สิ่งที่ข้าอยากจะบอกท่านก็คือ คนเราเมื่อสูญเสียจึงรู้ว่าสิ่งนั้นมีค่ามากเพียงไร” กู่ซิงอีกล่าวเสียงกังวานไม่เหมือนเศร้าสร้อย ราวกับเข้าใจอย่างกระจ่างแล้วว่าความลำบากในตอนนั้นส่งผลกับตนในตอนนี้อย่างไร แต่ก็ยังมีความทอดถอนใจในอดีตอยู่ส่วนลึกปะปนมาด้วย เป็นความรู้สึกที่ว่าหากรู้ว่าจะสูญเสียไปคงตั้งใจพูดคุยกันให้มากขึ้นอีกหน่อย ว่านฟู่เฉิงพลันก้มมองขาของตนเองและเข้าใจว่าอีกฝ่ายกล่าวถึงเรื่องเมื่อวานที่เขาเอาแต่ถามคำถามเดิมซ้ำไปซ้ำมา คราที่เขาเดินไม่ได้ช่วงแรกก็คงรู้สึกสิ้นหวังเหมือนกับกู่ซิงอีที่เสียญาติเพียงคงเดียวไปกระมัง แต่ตอนนั้นเขาไร้คนข้างกายคอยปลอบโยน ไม่มีลูกเจี๊ยบนำทางแบบคนด้านหน้า กระนั้นแม้จะน้อยใจในโชคชะตาตอนนั้นแต่คำพูดต่

    Last Updated : 2025-03-10
  • ทั่วทั้งใต้หล้า ข้ามองหาเพียงเจ้า   บทที่ 16 (2.3) สารภาพจำชื่อตอนไม่ได้แล้ว

    เมื่อครู่เพียงนิดหลี่เซียวที่รอคำชมอยู่ก็งุนงง มองคุณชายสลับกับเด็กหนุ่มผู้นั้นที่ดูร้อนรนด้วยความไม่เข้าใจ กระทั่งคนหนึ่งจากไป คนหนึ่งมองตาม เขาก็ยังมองสองคนนั้นสลับกันไปมาด้วยความไม่กระจ่างแจ้งอยู่ดี ในตอนนั้นก็ทันได้เห็นสายตาแปลกประหลาดของคุณชายที่ไม่เคยมีมาก่อนยามมองแผ่นหลังของเด็กหนุ่มผู้นั้นจากไปได้ทัน หลี่เซียวพลันรู้สึกประหวั่นใจขึ้นมา คล้ายหมอกจางที่ดูบางเบาแต่เมื่อยื่นมือออกไปก็แทบมองไม่เห็นมือของตนเอง เป็นความรู้สึกที่เหมือนว่าตนกำลังจะโชคร้ายก็ไม่ปาน และในท้ายที่สุดราวกับพายุฝนมาเยือนยามที่ตนอยู่นอกบ้านไร้ที่บดบัง สายตาคุณชายว่านที่หันกลับมามองเขาแปรเปลี่ยนเป็นเรียบนิ่ง นิ่งเสียจนมืดมนหม่นแสงไร้ชีวิตชีวา ประหนึ่งคนผู้นี้เป็นเพียงรูปปั้นหยกแกะสลักที่งดงามชิ้นหนึ่งเท่านั้น กาลก่อนคุณชายมีสีหน้าสองอย่างเท่านั้น คือเรียบเฉยและขมวดคิ้วนาน ๆ ครั้ง แม้จะบอกว่ายามนี้จะเหมือนใบหน้าปกติที่ไม่แสดงอารมณ์ แต่หลี่เซียวที่เติบโตมาในตระกูลว่านตั้งแต่จำความได้ย่อมรู้ว่าไม่ได้เป็นแบบที่ผ่านมาแน่นอน ด้านว่านฟู่เฉิงพอเห็นอีกฝ่ายมีท่าทางหวาดกลัวเขาก็ชักสีหน้าใส่ หลี่เซียวจึ

    Last Updated : 2025-03-10
  • ทั่วทั้งใต้หล้า ข้ามองหาเพียงเจ้า   บทที่ 16 3.3 ไม่บอกชื่อตอน ปล่อยให้ลุ้นเล่นๆ

    “...” ว่านฟู่เฉิงมิใช่เทพเซียนย่อมไม่รู้ดีถึงขนาดนั้น อันที่จริงตัวเขาก็นั่งอยุู่ตรงนี้มาสักพักแล้วเหมือนกันและไม่รู้ว่ากู่ซิงอีอยู่อีกฝากฝั่งของกำแพง จนกระทั่งเมื่อครู่มีสายลมหอบหนึ่งพัดผ่านช่องลมบนกำแพงเข้ามาในจวนพอดี สายลมเย็นสบายระลอกนั้นได้นำพากลิ่นที่มีเฉพาะบนตัวของกู่ซิงอีมาด้วย เขาถึงได้ลองเอ่ยทักออกไป “คุณชายว่านยังจำก่อนที่ข้าจากไปได้หรือไม่ ที่ท่านว่าสัญญายังคงเหมือนเดิม” กู่ซิงอีพอเดินมาถึงแล้วก็กล่าวถามเสียงเบาไม่เหมือนยามปกติที่มีชีวิตชีวา เพราะนี่เป็นเรื่องที่เป็นไปได้ยาก งานหมั้นถูกจัดไปแล้ว คล้ายสัญญาฉบับหนึ่งที่มีแขกในงานเป็นสักขีพยาน ฝ่ายเจ้าบ่าวถูกถอนหมั้นย่อมไม่เป็นไร แต่ฝ่ายสตรีแม้ต่อให้เป็นผู้ถอนหมั้นเสียเองอย่างไรก็ต้องตกเป็นขี้ปากชาวบ้าน มีแต่จะเสียหายหนัก ด้านนายท่านเซี่ยงานนี้ก็คงไม่ยอมเลิกราได้โดยง่าย อีกอย่างตัวเขากับเสี่ยวลู่ก็ไม่ได้มีสิ่งใดมาแลกเปลี่ยนมากพอที่จะขอร้องให้คุณชายว่านออกหน้ายกเลิกพันธะการหมั้นหมายด้วยตัวเอง ส่วนเรื่องที่ก่อนหน้านี้คุณชายว่านเสนอมาก็เป็นสิ่งที่น่าเหลือเชื่อจนเขาคิดว่าอีกฝ่ายคงแค่อยากหลอกให้เขาพาตนเองกลับมาเท่าน

    Last Updated : 2025-03-10
  • ทั่วทั้งใต้หล้า ข้ามองหาเพียงเจ้า   บทที่ 17 (1.2) งดงามมากนัก แต่มิอาจให้ใครได้ยลโฉม

    แสงสีทองเพิ่งจะอาบท้องนภา น้ำค้างยังไม่ทันแห้งเหือด คนในชุดฟ้าเนื้อผ้าหยาบที่มีกลิ่นกายพิเศษผู้นั้นก็โผล่มาแต่เช้าตรู่ ใบหน้าแย้มยิ้มยืนอยู่ข้างเตียงของว่านฟู่เฉิง ทั่วร่างเต็มไปด้วยพลังที่มากล้น ให้ความรู้สึกเจิดจ้ายิ่งกว่าดวงตะวัน ว่านฟู่เฉิงเพิ่งจะลืมตาลุกขึ้นมานั่งก็เจอกู่ซิงอียืนอยู่ข้างคนสนิทของเขาแล้ว อันที่จริงเพียงคิดว่าให้กู่ซิงอีช่วยงานในส่วนของตนบางส่วนเท่านั้นไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะเข้าใจว่าตัวเองต้องทำทุกอย่างให้เขาขนาดนี้จริง ๆ แต่พอมาถึงตรงนี้ว่านฟู่เฉิงก็ไม่คิดจะกล่าวความจริงออกไป “อรุณสวัสดิ์ขอรับนายท่าน” กู่ซิงอีแย้มยิ้มบางกล่าวอย่างกระฉับกระเฉง ในขณะที่หลี่เซียวซึ่งยืนอยู่ข้างกายก็หันมองด้วยความสงสัย อันที่จริงเมื่อวานช่วงที่เขาทำงานตามที่คุณชายสั่งการไว้เสร็จแล้วก็มารายงานกับเจ้านาย ถึงได้รู้ว่ากู่ซิงอีจะมาช่วยงานข้างกายคุณชาย แต่ไม่คิดว่าจะโผล่มาตั้งแต่เช้าขนาดนี้ จู่ๆ เขาก็รู้สึกมีลางสังหรณ์ว่าตนเองจะถูกแย่งงานอย่างไรไม่รู้ และยามนี้หลี่เซียวก็จำได้แล้วว่าคนที่คุณชายบอกว่าเป็นเพียงคนผ่านทางมาก็กู่ซิงอีนี่เอง และก็เป็นคนที่เดินมาเคาะรถของคุณชา

    Last Updated : 2025-03-10
  • ทั่วทั้งใต้หล้า ข้ามองหาเพียงเจ้า   บทที่ 17 (2.2)+ 18 ปล้นคนแล้ว

    ในห้องทำงานของคุณชายที่ดูคับแคบขึ้นมาจากเดิมเพียงเล็กน้อยก็มีเสียงดีดลูกคิดดังขึ้นตลอดเวลา ยามเริ่มแรกเสียงนั้นเบาบางคล้ายไม่คุ้นชินและกังวล ครึ่งวันให้หลังเสียงนั้นก็ดังไม่หยุด มือหนึ่งของกู่ซิงอีสะบัดลูกไม้กลมกลึงผ่านแกนกลางของเส้นไม้จากตัวลูกคิดขึ้นไปไม่หยุด แล้วก็ดึงลงไม่หยุดเช่นกัน อีกมือก็ตวัดพู่กันไปด้วย แถมบางครั้งมือที่หยุดดีดไปแล้วก็หยิบตั๋วเงินขึ้นมานับอยู่สองรอบแล้ววางลงในหีบเก็บเงินข้างขา จากนั้นก็เริ่มคำนวณตั๋วเงินร้านค้าอีกร้านต่อ เป็นอย่างนี้อยู่ครึ่งค่อนวันจนหลี่เซียวคิดว่าตนได้เห็นคุณชายคนที่สองเข้าแล้ว! ว่านฟู่เฉิงเองคราแรกยังคิดว่ากู่ซิงอีต้องบ่นสักหน่อยที่งานล้นมือขนาดนี้และต้องเสียใจที่มารับปากเขาแน่ แต่ตอนนี้ก็เบาใจได้แล้ว กลับเป็นตัวเขาที่ตอนนี้แทบไม่ได้ทำงานเลยเอาแต่มองคนด้านขวามือเป็นระยะ ทว่าในตอนนี้ก็เพิ่งจะหันไปเห็นหลี่เซียวที่ยืนอยู่ไม่ไกลกำลังมองกู่ซิงอีอยู่เช่นเดียวกัน ในใจรู้สึกแปลกพิกลคล้ายไม่พอใจอะไรบางอย่างขึ้นมา แต่กลับไม่รู้ว่าเกิดจากอะไร ยามนี้เพียงเดาไปว่าเพราะหลี่เซียวเอาแต่ยืนเฉย ๆ วัน ๆ ไม่ค่อยช่วยงานเขาได้มากเท่าคนที่มาใหม่ แต

    Last Updated : 2025-03-10

Latest chapter

  • ทั่วทั้งใต้หล้า ข้ามองหาเพียงเจ้า   ตอนพิเศษ บทส่งท้าย ตราบจนนิรันดร์

    ค่ำคืนวันนี้ไร้ดวงจันทร์คอยส่องแสงอย่างเคย ทางเบื้องหน้ามืดสนิทจนแทบมองไม่เห็นทางเดิน แต่กู่‍ซิง‍อีกลับไม่รู้สึกว่ามันน่ากลัวอย่างที่คิด อาจเป็นเพราะยามนี้เขาได้ขี่อยู่บนหลังผู้อื่น ลำตัวแนบชิดกับคนที่กำลังเดินอยู่จนไร้ช่องว่างระหว่างกาย รับรู้ได้ถึงแผ่นหลังที่สั่นไหวเบา ‍ๆ‍ ทำให้รู้ว่ายังมีใครอีกคนอยู่กับตนเสมอ กู่‍ซิง‍อีกระชับอ้อมแขนที่เกี่ยวคอคนออกแรงอยู่เพิ่มขึ้นอีกนิด “อีกนานหรือไม่” เขาเอ่ยถามออกไปเพราะรู้สึกว่าตนถูกแบกมาไกลมากแล้ว กระนั้นว่าน‍ฟู่‍เฉิงก็ไม่มีท่าทีว่าจะหยุดเดิน “เสี่ยว‍อี เหนื่อยแล้วหรือ” ว่าน‍ฟู่‍เฉิงเดินช้าลงและย่ำเท้าด้วยความเบา ด้วยเกรงว่าตนอาจจะเดินเร็วไปจนตัวสะเทือนทำให้คนที่อยู่บนหลังรู้สึกไม่สบายตัว “ข้าจะเหนื่อยได้อย่างไร ท่านเป็นคนแบกข้าอยู่นะ” กู่‍ซิง‍อีซบคางลงที่ไหล่ของว่าน‍ฟู่‍เฉิง ใจจริงแล้วเขาอยากให้เวลาหยุดอยู่เช่นนี้ตลอดไปเลยต่างหาก ถึงได้กำลังกลัวว่าจุดหมายปลายทางจะมาถึงเร็วเกินไป กระนั้นก็ยังอดห่วงว่าว่าน‍ฟู่‍เฉิงจะหนักอยู่ดีเลยไม่ได้บอกความในใจออกไป กู่‍ซิง‍อีเพิ่งได้รู้ว่าเมื่อก่อนตอนที่ว่าน‍ฟู่‍เฉิงถูกเขาแบกขึ้นบนหลังเดินไ

  • ทั่วทั้งใต้หล้า ข้ามองหาเพียงเจ้า   ตอนพิเศษ 10 กาลก่อนท่านเป็นคนเอ่ย ว่าข้าไร้มารยาท

    หลี่เซียวที่กำลังเดินอยู่ในจวนก็พบกับคุณชายของตนกำลังเดินมาหาด้วยท่าทางเร่งรีบ เขาไม่ได้เดินไปหาอย่างที่ควรจะเป็น กลับรอคุณชายเดินเข้ามาหาตนที่หยุดรออยู่ก่อนแล้วแทน พลางคิดในใจว่า เอาอีกแล้ว ‍!‍ “เห็นเสี่ยว‍อีของข้าหรือไม่” นั่นไง จะมีสิ่งใดที่เขาเดาผิดไปจากท่าทางเร่งรีบของคุณชายได้อีก ‍!‍ “เมื่อ‍ครู่พอคุณชายกู่เตรียมรากบัวต้มน้ำตาลอยู่ในครัวเสร็จแล้วคิดจะถือนำไปให้คุณชายด้วยตัวเอง แต่ไม่ทันระวังเผลอสะดุดจนของในมือหกรดตัวเอง ตอนนี้น่าจะกำลังไปเปลี่ยนชุดขอรับ” “สะดุดหรือ ‍!‍ แล้วเสี่ยว‍อีบาดเจ็บตรงไหนหรือไม่” ว่าน‍ฟู่‍เฉิงพูดค่อนข้างเร็วอย่างหาได้อยาก แทบจะยืนไม่ติดที่อยู่แล้ว ตอนนี้ร่างกายอยู่ตรงนี้แต่หัวใจกลับลอยไปไกลแล้ว “ไม่เป็นอะไรมากขอรับ คุณชายกู่ทรงตัวได้ทันจึงไม่ได้ล้มพับไปกับพื้น แถมรากบัวก็มิได้ร้อนมากและก็เพียงเปื้อนโดนปลายอาภรณ์เล็กน้อยเท่านั้น” สิ่งที่หลี่เซียวไม่ได้กล่าวจนหมดก็คือกู่‍ซิง‍อีนั้นร้อนรนขนาดไหนหลังจากทำขนมหกใส่ตัวเอง เอ่ยปากบ่นอยู่หลายประโยคว่าชุดนั้นคุณชายเป็นคนเลือกให้ตนเองกับมือแถมยังแพงมากด้วย ครั้นบ่นเสร็จก็รีบจาก

  • ทั่วทั้งใต้หล้า ข้ามองหาเพียงเจ้า   ตอนพิเศษ 9 ถูกจับได้เสียแล้ว

    ด้วยเพราะรู้ว่ากู่‍ซิง‍อีหลับลึกขนาดไหน ว่าน‍ฟู่‍เฉิงจึงใช้เรื่องนี้ในการแอบเอาเปรียบกู่‍ซิง‍อีอยู่บ่อยครั้ง อย่างเช่นเมื่อคืนที่เขาตื่นมากลางดึกและพบว่ามีใครแอบขยับมาซุกกายแนบชิดตนอยู่ แบบนั้นมีหรือจะอดใจไหว เผลอกัดกู่‍ซิง‍อีไปหลายทีจนกระทั่งอีกฝ่ายส่งเสียงฮึมฮัมในลำคอเหมือนจะรู้สึกตัวเขาถึงได้แสร้งหลับลงไปตามเดิม แต่กลับไม่ได้ปล่อยคนในอ้อมกอดให้เป็นอิสระ เมื่อก่อนจะแอบทำทีไรต้องหักห้ามใจตลอด แต่บัดนี้ทั้งคู่ตบแต่งกันแล้ว เขาขอเชยชมสักนิดก็คงไม่เป็นไรกระมัง แต่อาจเพราะเผลอตัวมากไป กลับกระทำการไม่แนบเนียน โดนจับได้ตั้งแต่อีกฝ่ายลืมตาตื่นขึ้นมา “คุณ‍ชาย‍ว่าน เมื่อคืนทำอะไรแปลก ‍ๆ‍ หรือไม่” ว่าน‍ฟู่‍เฉิงหันมองคนที่ลุกขึ้นมานั่งอยู่บนเตียง เพราะกู่‍ซิง‍อีขี้ร้อนเป็นทุนเดิมเวลาสวมเสื้อผ้านอนมักจะมัดหลวม ‍ๆ‍ พอตื่นนอนมาทีไรเสื้อผ้าที่มัดไม่แน่นก็จะหลุดลุ่ยอย่างเช่นตอนนี้ อาภรณ์ที่เปิดกว้างเผยให้เห็นแผ่นอกขาวเนียนบางส่วนที่มีรอยช้ำจาง ‍ๆ‍ ผมดำเงาชี้ฟูเล็กน้อย ดวงตาก็หรี่เล็กลงยังไม่ทันลืมตาได้เต็มที่ แต่กลับถามเหมือนรู้บางอย่างเช่นนี้ เล่นเอาคนที่กำลังยกน้ำชาไปให้รู้สึกร

  • ทั่วทั้งใต้หล้า ข้ามองหาเพียงเจ้า   ตอนพิเศษ 8.2 เทศกาลฉีเฉียวมาเยือนอีกครา

    รุ่งอรุณก่อนวันงานเทศกาลฉีเฉียว “เสี่ยว‍อี เจ้ากำลังจะไปที่ใด” ว่าน‍ฟู่‍เฉิงเพิ่งลืมตาตื่นขึ้นมาและกำลังลุกขึ้นนั่งก็ทันได้เห็นกู่‍ซิง‍อีที่เพิ่งแต่งตัวเสร็จเข้าพอดี แถมดูท่าทางรีบร้อนเหมือนจะออกไปจากห้อง เมื่อถามเสร็จเขาก็เบนสายตามองดูท้องฟ้าข้างนอกหน้าต่าง ฟ้ายังไม่ทันสว่างเท่าไรนักน่าจะเลยยามเฉิน[1]มาเพียงไม่นาน ([1] ยามเฉิน คือ 07.00 – 08.59 น. ) แน่นอนว่าปกติทั้งสองคนต่างพากันตื่นเช้ากว่านี้นัก แต่เมื่อวานคุยกันแล้วว่าจะหยุดทำงานสามวัน เหตุใดกู่‍ซิง‍อีถึงลุกมาแต่งตัวคล้ายจะไปทำงานอีก ต่อให้ปกติพวกเขาจะสลับทำงานที่จวนและที่ร้านว่าน และวันนี้คือวันที่ต้องทำงานที่จวน ทว่าว่าน‍ฟู่‍เฉิงอยากให้ดูไม่มีความน่าสงสัยจึงเปลี่ยนเป็นหยุดงานทั้งหมดแทน คำกล่าวเช่นนั้นก็รวมถึงงานที่จวนก็ไม่ต้องทำมิใช่หรือ หยุดก็คือหยุด ไหนเลยกลับคาดไม่ถึงว่ากู่‍ซิง‍อีจะไม่เข้าใจสิ่งที่หมายถึงให้หยุดอยู่จวนจริง ‍ๆ‍ ครั้นพอได้เห็นอีกฝ่ายแต่งตัวก็คิดว่าจะออกไปที่ห้องทำงาน “ไปร้านขนมไฉ่ที่ข้าชอบอย่างไรเล่า นานครั้งเราถึงจะว่างในช่วงเช้าแบบนี้ รอบนี้ก็ไม่ต้องวานให้คนอื่นไปต่อแถวแทน ได้

  • ทั่วทั้งใต้หล้า ข้ามองหาเพียงเจ้า   ตอนพิเศษ 8.1 เทศกาลฉีเฉียวมาเยือนอีกครา (4.4)

    อีกทั้งด้ายแดงที่เด่นชัดแม้อยู่ห่างไกลกันถึงเพียงนี้จากข้อมือแต่ละข้างของว่าน‍ฟู่‍เฉิงและกู่‍ซิง‍อีก็ดูคล้ายกันยิ่งนัก คนแอบมองจิตใจลนลานรีบหันกลับไปด้วยดวงตาเบิกโพลง ก้าวเดินตามหลังคนนำทางไปติด ‍ๆ‍ ด้วยท่าทางที่เร่งรีบขึ้นกว่าเดิมราวกับกำลังโดนไฟไล่เผาก้นมา สิ่งที่คนภายนอกกล่าวมาเรื่องฮูหยินของตระ‍กูล‍ว่านไม่มีที่มาที่ไปที่แน่ชัดหลอมรวมกับการกระทำของคนทั้งสองด้านหลัง และยังบวกกับก่อนหน้านี้ที่ได้พูดคุยกับกู่‍ซิง‍อีก็คล้ายว่างานทั้งหมดของตระ‍กูล‍ว่านได้ตกอยู่ในมือกู่‍ซิง‍อีแล้ว ดังนั้นทุกอย่างที่นึกขึ้นได้จึงไม่ใช่ตนคิดไปเองแน่ ‍ๆ‍ ทว่าเซี่ย‍หลี่‍จวินแม้จะได้ล่วงรู้ความลับเรื่องนี้เข้าแต่ก็ไม่ได้คิดจะป่าวประกาศให้คนอื่นได้รับรู้หรอก เพราะเห็นแก่ผลประโยชน์ของตนเป็นหลัก เนื่องจากตระ‍กูล‍ว่านเป็นคนเปิดเส้นทางหลายสายให้เขา ดังนั้นนอกจากแตะว่าน‍ฟู่‍เฉิงไม่ได้แล้ว ก็ยิ่งห้ามทำให้กู่‍ซิง‍อีไม่พอใจอีกด้วย ‍!‍ ถ้าล่วงรู้อนาคตได้ว่าเรื่องราวจะดำเนินมาเป็นแบบนี้เขาคงจะเห็นใจกู่‍ซิง‍อีอีกสักหน่อย บางทีตัวเขาอาจได้ผลประโยชน์มากกว่าให้บุตรสาวของตนตบแต่งกับน้องชายบุญธรรมของว่าน‍ฟู่

  • ทั่วทั้งใต้หล้า ข้ามองหาเพียงเจ้า   ตอนพิเศษ 8.1 เทศกาลฉีเฉียวมาเยือนอีกครา (3+4.)

    “ขอรับ ‍!‍” หลี่เซียวรีบร้อนรับคำก่อนจากไป ฉี‍หย่าหันมองซ้ายขวาด้วยความตกใจ นางจะถูกปฏิบัติอย่างนี้จริง ‍ๆ‍ หรือ นางไม่งดงามหรือไรทำไมคุณ‍ชาย‍ว่านถึงไม่คิดจะสนใจหรือเมตตานางสักนิด แม้จะต้องยอมรับว่าสองคนตรงหน้านางรูปงามไร้ที่ติ แต่นางไม่คิดว่าตนเองจะด้อยค่าถึงเพียงนี้ ‍!‍ จังหวะนั้นเองประตูห้องบานเดิมพลันเปิดออกอีกครั้ง คราวนี้เป็นนาย‍ท่าน‍เซี่ยเดินออกมา พอเห็นบ่าวในจวนของตนที่นั่งกองกับพื้นก็ฉงน ที่แท้คนที่ส่งเสียงดังเมื่อ‍ครู่ก็คือฉี‍หย่าสาวรับใช้ที่บุตรสาวทิ้งไว้ที่จวนเมื่อสองปีก่อน สตรีนางนี้แม้หน้าตาจะงดงามแต่กลับทำอะไรไม่ได้เรื่องสักอย่าง มีดีแค่ดนตรีกับร่ายรำ แต่มันจะมีประโยชน์อะไรกับการทำงานในจวนได้เล่า ดังนั้นสำหรับเขาแล้วนางแทบไม่มีสิ่งใดให้ใช้งานได้เลย ตัวเขาแทบไม่อยากพามาทว่านางก็ดื้อดึงขอตามมาจนได้ เขายังกลัวว่าฮูหยินของตนจะเข้าใจผิดด้วยซ้ำ บัดนี้ยังจะมาสร้างความเดือดร้อนให้อีก ช่างน่าขายหน้าจริง ‍ๆ‍ เซี่ย‍หลี่‍จวินหันมองว่าน‍ฟู่‍เฉิงด้วยความระวัง กลัวว่าสิ่งที่เคยสัญญาไว้จะถูกยกเลิกเพียงเพราะบ่าวรับใช้ในจวนของตนเอง “คุณ‍ชาย‍ว่าน เป็นข้าไม่อบรมบ่

  • ทั่วทั้งใต้หล้า ข้ามองหาเพียงเจ้า   ตอนพิเศษ 8.1 เทศกาลฉีเฉียวมาเยือนอีกครา (2.4)

    แล้วนางไหนเลยจะคาดเดาอนาคตได้ ตนย้ายไปอยู่ตระ‍กูล‍เซี่ยเพียงไม่นานยังไม่มีโอกาสได้มาพบคุณ‍ชาย‍ว่านเลยสักครั้ง คุณชายผู้นี้ก็ตบแต่งภรรยาเสียแล้ว แต่นางยินยอม ยินยอมเป็นเพียงอนุภรรยาคนหนึ่งของเขาก็ได้ การค้าของตระ‍กูล‍ว่านเติบโตในชั่วข้ามคืนแค่ไหน ใครในเมือง‍จางไม่รู้บ้างเล่า ดังนั้นทุกวันนางจึงตั้งตารอคอยมาโดยตลอด กาลก่อนแม้คุณ‍ชาย‍ว่านจะนั่งเก้าอี้รถเข็นแต่อย่างไรก็ยังรูปงามมากนัก บัดนี้พอเดินเหินได้ปกติด้วยใบหน้าสง่างามเป็นทุนเดิมก็ไม่ต่างอะไรกับเทพเซียนลงมาเดินบนดิน พอได้พบเห็นคนที่ตนคะนึงหาอีกคราก็พาให้หัวใจนางเต้นผิดจังหวะ ใบหน้าพลันขึ้นสีแดงด้วยความขวยเขิน “คุณ‍ชาย‍ว่าน...” นางเอ่ยเรียกเสียงหวาน “...เจ้ามาทำไม” ว่าน‍ฟู่‍เฉิงกลับไม่สบอารมณ์ทันทีที่ได้เจอนาง นึกรังเกียจสายตาเช่นนี้ยิ่งนัก หากเป็นกู่‍ซิง‍อีมองเขาด้วยสายตาแบบนี้เจ้าตัวคงไม่อาจหนีรอดเขาไปได้ แต่พอเป็นสตรีตรงหน้าส่งสายตาเฉกเช่นนี้มาให้เขากลับรู้สึกอยากจะอาเจียนขึ้นมา ถึงขั้นดึงหลี่เซียวมาบังตัวเองไว้ครึ่งหนึ่ง “คุณ‍ชาย‍ว่านถามเช่นนี้ ข้าเสียใจยิ่งนัก” ฉี‍หย่าตอบด้วยน้ำเสียงน้อยใจ เดินก้าว

  • ทั่วทั้งใต้หล้า ข้ามองหาเพียงเจ้า   ตอนพิเศษ 8.1 เทศกาลฉีเฉียวมาเยือนอีกครา (1.4)

    วันนี้หลี่เซียวรอจังหวะที่ว่าน‍ฟู่‍เฉิงอยู่ตัวคนเดียวถึงได้มีโอกาสเข้ามาเตือนอะไรบางอย่าง “คุณชาย ไม่รู้ว่าสองสามวันที่ผ่านมาคุณชายเห็นรายงานร้านค้าที่เพิ่มขึ้นมาในถนนสายฝนแล้วหรือยังขอรับ” “มีงานเทศกาลหรือ ‍?‍” ช่วงนี้งานปกติที่เขาเคยทำล้วนส่งมอบให้ฮูหยินของตนเกือบทั้งหมด ส่วนตัวเองไปมองหาลู่ทางการขยายกิจการแทน ขณะนี้เองก็กำลังดูเครื่องประดับที่ส่งมาจากแคว้นอื่นด้วยความตั้งใจ พอถูกถามจึงไม่ได้ทันคิดถึงว่าวันนี้คือวันที่เท่าไร มีงานอะไรสำคัญหรือไม่ เพราะนอกจากจะนับวันรอที่จะได้หยุดเพื่อออกไปชมต้นไม้ใบหญ้าลำธารกับคนของใจแล้ว วันเวลาอย่างอื่นล้วนไม่อยู่ในสายตาของเขา แต่ที่ถามออกไปได้อย่างแม่นยำและถูกถึงเก้าส่วนก็เพราะประสบการณ์ที่ผ่านมาล้วน ‍ๆ‍ เนื่องจากถนนสายฝนเป็นหนึ่งในกิจการร้านค้าที่เขามีมากที่สุดในเมือง‍จาง หากมีร้านค้าเพิ่มขึ้นมาก็หมายถึงมีการแบ่งพื้นที่หน้าร้านแต่เดิมจากหนึ่งเป็นสองร้าน หรือก็คืออาจมีงานเทศกาลยามค่ำคืนร่วมด้วย แถมบางครั้งยังเป็นตระ‍กูล‍ว่านที่ต้องออกหน้ารับจัดงานด้วยซ้ำ แต่แน่นอนว่าในส่วนนี้เขาย่อมมีผู้ดูแลแทนอยู่แล้วเลยไม่ค่อยสนใจที่หลี่เซี

  • ทั่วทั้งใต้หล้า ข้ามองหาเพียงเจ้า   ตอนพิเศษ 7 ตกถังข้าวสารแล้ว งานไม่ต้องทำก็ได้

    ใกล้เข้าเหมันตฤดูแล้ว ว่าน‍ฟู่‍เฉิงยืนกอดอกมองคนขนของเข้ามาในจวน เขาสั่งไหมาเยอะมาก เอามาทุกขนาดที่หาได้ หากคำนวณผ่านตาคร่าว ‍ๆ‍ ตั้งแต่ครึ่งก้านธูปที่แล้วไหที่ถูกขนเข้าไปก็ปาไปหลายร้อยใบแล้ว กู่‍ซิง‍อีที่เดินหาวหวอดออกมาก็มองตามกลุ่มคนมากมายซึ่งกำลังพากันขนไหเข้าไปด้านหลังจวน “ท่านสั่งไหมาทำไมเยอะแยะ” เมื่อเดินเข้ามาใกล้ถึงคนรักของตนก็เอ่ยถามออกไป “ไว้ให้เจ้าหมักสุรา” ว่าน‍ฟู่‍เฉิงกล่าวแย้มยิ้ม ไม่ต้องรอให้อีกฝ่ายเดินเข้ามาจนถึงตนเอง ว่าน‍ฟู่‍เฉิงก็ก้าวยาว ‍ๆ‍ เดินไปหยุดยืนข้างกายดวงใจของตนแล้ว เมื่อเห็นว่าไม่มีใครสนใจมองมาทางนี้จึงขยับหอมแก้มกู่‍ซิง‍อีด้วยความรวดเร็วไปหนึ่งที กู่‍ซิง‍อีตกใจจนตัวแข็ง รีบหันมองซ้ายมองขวา เมื่อไม่เห็นใครก็โล่งใจ แต่อดที่จะมองค้อนเขาไปทีหนึ่งมิได้ “เหอะ ท่านยังคิดจะใช้ข้าทำงานอีก ‍!‍ ข้าตกถังข้าวสารแล้ว ไหนเลยจะไปทำงานให้เหนื่อย” ว่าน‍ฟู่‍เฉิงไม่ได้เสียใจหรือน้อยใจกลับยกยิ้มมองกู่‍ซิง‍อีและพูดเสริมว่า “ข้าสั่งทำห้องหมักสุราโดยเฉพาะไว้ให้เจ้าแล้วไม่ต้องรวมกับครัวของจวนแบบครั้งก่อนอีก และทั้งข้าว ไห เชือก ผ้ากรองก็มีให้ใช้ไม

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status