“ไม่เสมอไป...” ปรีชา หรือ ปิเอโร่ ที่ลอวเรนซ์เรียกจนติดปากตั้งแต่สมัยเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยฮาวาร์ดมาด้วยกันมองเจ้าของนัยน์ตาสีฟ้าเหลือบประกายมรกตดูเจิดจ้าราวสีท้องฟ้าอันสดใสอย่างค้นคิด ชายหนุ่มผิวพรรณสะอาดสะอ้านดูดีแต่ความสูงในระดับชาวเอเชียขมวดคิ้วมุ่นอย่างไม่เข้าใจความหมายของเพื่อน
“บางครั้งการที่เราขึ้นมาอยู่ในจุดที่คิดว่าสูงที่สุดอาจเป็นที่ ๆ เหน็บหนาวมากที่สุดในโลก ฉันก็ภูมิใจที่ทำในสิ่งที่ครอบครัวสร้างมันมาเพื่อฉันได้ แต่หากสิ่งที่ได้มาแลกกับการต้องสูญเสียอะไรไป...ฉันก็ยังไม่แน่ใจว่ามันจะมีความหมายสำหรับฉัน”
“กลับมาคราวนี้นายแปลกไปนะ ดูเคร่งเครียดชอบกล ถึงปกตินายจะเป็นคนจริงจังกับทุกเรื่องก็เถอะ อย่าซีเรียสนักเลย ถ้ายังไม่อยากกลับฟลอเรนซ์ จะพักอยู่ที่นี่หลายวันก็ได้เพราะนี่ก็บ้านนาย นายเป็นเจ้าของ เซลิโน่ รีสอร์ท แอนด์ เรสสิเดนท์ อยู่แล้ว แต่คืนนี้อย่าเพิ่งรีบเข้านอน ฉันจะชวนนายไปฟังดนตรีคลาสสิคที่ห้องอาหารริมทะเลข้างล่าง นายจะได้ผ่อนคลายตัวเองลง ไม่เคร่งเครียดทั้งที่ก็มาพักผ่อนแบบนี้ไงเพื่อน”
“ดนตรีคลาสสิค...”
“อืม...วงเครื่องสาย พวกเชลโล่ ไวโอลิน ฉันให้คุณนุสบาผู้จัดการห้องอาหารกับบาร์ของที่นี่ติดต่อให้มาเล่นเพราะแขกยุโรปรีเควสต์ (ร้องขอ) อยากฟังแบบแสดงสด ก็เอา...จัดให้แขกไป” นัยน์ตาสีฟ้ามรกตเข้มขึ้นทันที่ที่ปรีชาพูดจบ เขาไม่ได้คิดถึงอะไรนอกจากผู้หญิงเห็นแก่ได้คนนั้นที่ล่อลวงเขาเป็นสะพานทอดไปหาเงินตรา
“ฉันไม่ชอบฟัง! นายจะฟังนายก็ฟังไปคนเดียวเถอะ ปิเอโร่!”
“เฮ้! ริค... นายเป็นอะไร อย่าปฏิเสธกันแบบนี้สิ ดนตรีพวกนี้ก็อยู่ในสายเลือดของอิตาเลียนอย่างนายไม่ใช่เหรอ ทำไมนึกไม่อยากฟังขึ้นมา ฉันจำได้ว่าตอนอยู่มหาลัยนายชอบไปดูการแสดงออเคสตร้าอยู่เป็นประจำ ชอบพูดกับฉันว่าฟังเพลงคลาสสิคเพราะคิดถึงบ้าน”
“เวลาเปลี่ยน คนเราก็ไม่มีวันเหมือนเดิม เมื่อก่อนฉันชอบ แต่ตอนนี้ฉันเกลียดมันเข้ากระดูกดำ ของที่เกลียดไปแล้วจะให้มานึกชอบใหม่ไม่ใช่ลอวเรนซ์คนนี้แน่!”
“เป็นอะไรของนายวะ!” ปรีชาลุกขึ้นเอามือล้วงกระเป๋ากางเกงสแล็กขณะมองผิวสีแทนทองบนร่างสูงใหญ่กำยำที่ใบหน้าคมคายนั้นเครียดตึงทันทีเมื่อเพื่อนสนิทพูดเรื่องที่ไม่คิดว่าคนฟังจะโกรธ หนุ่มไทยส่ายหน้าก่อนจะกล่าวด้วยน้ำเสียงที่ก็ยังชัดเจน
“นึกเสียว่าฉันขอร้องก็แล้วกันคืนนี้ ฉันอุตส่าห์บอกคุณนุสบาผู้จัดการกับนักดนตรีที่เขาจะมาเล่นที่ห้องอาหารว่าหุ้นส่วนใหญ่ของโรงแรมชอบฟังเพลงคลาสสิคมาก นายจะฟังเพลงเดียวแล้วกลับฉันก็ไม่ว่า แต่อยากให้สตาฟได้เห็นหน้าเป็นกำลังใจก็พอ”
คนพูดเดินออกจากห้องไปแล้วโดยไม่ทันเห็นคนที่นั่งอยู่ขบกรามเข้าหากันแน่นจนนูนเป็นสันด้วยความเคียดแค้นในใจ เขาเลิกฟังเพลงที่เคยชอบจนถึงขั้นเรียกว่ารักพวกนี้ไปนานแล้วตั้งแต่ความฝันของตัวเองพังทลายไปจนหมดด้วยน้ำมือของผู้หญิงที่ตีค่าตัวเองเป็นเงินแค่สิบล้านบาทก่อนเขี่ยเขาทิ้งอย่างไม่ใยดี มัสมิน เธียรธรากุล เขายังท่องชื่อนี้ได้ขึ้นใจที่เธอสลัดเขาทิ้งไปหลังเรียกเงินจากบิดาเป็นค่าเสียเวลาแสดงความรักกับคนอย่างเขาด้วยตัวเลขสูงลิ่ว ลอวเรนซ์เคยรักผู้หญิงคนนั้นมากจนถึงขนาดอยากตกร่องปล่องชิ้นอยากอยู่กับเธอไปจนชั่วชีวิต ทว่าสิ่งที่ได้ตอบแทนคือคำโกหกปลิ้นปล้อนทำให้เขาหัวปั่นจนแทบบ้าและเมื่อถูกหักหลังจากคนหิวเงินแล้งไร้ความจริงใจความโกรธเกลียดชิงชังเท่านั้นที่มันกัดกร่อนหัวใจจนชาด้าน ไม่ว่าที่ไหนหรือเมื่อไหร่หากเขาได้พบมัสมินอีกครั้ง การเอาคืนให้พินาศกันไปข้างคือสิ่งตอบแทนไม่มีคำว่าปราณี
********************
“นุ่น...นุ่นสวยมากเลยนะคืนนี้ แหม...เธอคงรู้ใช่มั้ยล่ะว่าหุ้นส่วนใหญ่ของคุณปรีชาจะมาฟังพวกเราเล่นไวโอลินที่ห้องอาหารของโรงแรม” พัชชุลีทักทายเพื่อนสาวอย่างอารมณ์ดีขณะหิ้วกระเป๋าไวโอลินเข้ามาที่ม้าหินยาวตรงระเบียงทางเดินซึ่งทอดไปยังห้องอาหารอันหรูหราของ เซลิโน่ รีสอร์ท แอนด์ เรสสิเดนท์ เธอนั่งลงข้าง ๆ มัสมินซึ่งงดงามอยู่ในชุดราตรียาวสีขาวไหล่เบี่ยงเผยนวลเนื้อขาวเนียนของไหล่อีกข้างเคลียด้วยเรือนผมยาวสลวยสีน้ำตาลเข้มดั่งเทพธิดากรีก
“นุ่นก็แต่งแบบนี้ของนุ่นเป็นปกตินะ ลี ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าหุ้นส่วนใหญ่ของเซลิโน่จะมาคืนนี้ และถึงเขามามันก็ไม่มีอะไรที่เกี่ยวกับนุ่นเลย เพราะนุ่นต้องเล่นไวโอลินทุกวันอยู่แล้ว”
“ลีว่ามันอาจจะสำคัญก็ได้นะ หุ้นส่วนใหญ่ของโรงแรมหรูขนาดนี้น่ะไม่ธรรมดาหรอกนะจ๊ะ คุณนุสบาผู้จัดการห้องอาหารบอกว่าหุ้นส่วนใหญ่ของที่นี่เป็นชาวต่างชาติ หล่อมากถึงมากที่สุด เธอบอกว่าเขาเป็นผู้ชายทรงเสน่ห์ ดูดีดึงดูดใจโดยไม่ต้องทำอะไรเลย ลีล่ะอยากเห็นตัวจริงว่าจะเป็นอย่างที่เขาร่ำลือกันหรือเปล่า อืม...นุ่น...ดูนุ่นจะรักไวโอลินตัวนี้มากเลยนะ พอว่างลีเห็นนุ่นชอบนั่งลูบมันเหมือนลูบสัตว์เลี้ยงยังไงยังงั้น คงเป็นของที่มีความหมายกับนุ่นมาก” หญิงสาวในชุดราตรีปักเลื่อมสีนิลก้มลงมองไวโอลินแสนสวยบนตักของมัสมินด้วยแววตาชื่นชมระคนสงสัย เธอมักเห็นเพื่อนของเธอนั่งพิศดูเครื่องดนตรีที่ทำจากไม้ด้วยฝีมือละเอียดลออซึ่งในฐานะผู้เล่นเครื่องดนตรีชนิดนี้แค่มองแวบเดียวก็รู้ว่ามันไม่ได้ผลิตในประเทศแถมราคาคงสูงลิบอย่างมิต้องกังขา มันอาจมีความเชื่อมโยงกับแววตาเศร้าสร้อยที่ปิดไม่มิดของมัสมินตั้งแต่เดินทางมาถึงที่นี่ตามคำชวนของเธอ เกาะแสนงามรายล้อมด้วยน้ำทะเลใสและบรรยากาศอันน่าสุขสันต์ หากทว่ามัสมินเหมือนคนอมทุกข์ไม่ยอมเผยความนัยที่แอบซ่อนไว้ภายใต้กรอบวงหน้ารูปไข่แสนสวยราวหน้ากากแก้วของ
“ขอแสดงความยินดีด้วยนะคะ ผลจากการตรวจเซลล์ต้นกำเนิดเม็ดเลือดของคุณมี HLA* ตรงกันกับคุณปัทมาน้องสาวของคุณค่ะ หลังจากนี้เราจะเริ่มกระบวนการรักษาผู้ป่วยด้วยการปลูกถ่ายไขกระดูกให้น้องสาวของคุณโดยเร็วที่สุด ไม่ต้องเป็นกังวลนะคะ เธอจะมีอาการดีขึ้นแน่นอน” คำกล่าวของแพทย์หญิงซึ่งรับผิดชอบในการรักษาผู้ป่วยทำให้มัสมินยืนยิ้มอยู่ข้างเตียงคนไข้ซึ่งมีร่างหญิงสาวอายุราวยี่สิบปีนอนเหยียดยาวหลังได้รับการถ่ายเลือดซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องกระทำทุกเดือนตั้งแต่รู้ว่า ปัทมา น้องสาวของเธอป่วยเป็นโรคธาลัสซีเมีย โรคร้ายซึ่งเกิดจากความผิดปกติของเม็ดเลือดแดง รอยยิ้มอ่อนจางที่ยังดูเศร้าระบายอยู่บนเรียวปากรูปกระจับเคลือบกลอสสีชมพูอ่อนขับผิวแก้มใสเปล่งปลั่งในวัยยี่สิบสี่ของสาวสะพรั่งให้เจิดจรัสราวท้องฟ้าอันสดใส จมูกโด่งงามและดวงตากลมโตใต้โครงคิ้วโก่งดุจคันศรขับความละมุนละไมให้ใบหน้าในกรอบเรือนผมสีน้ำตาลเข้มเป็นมันเงาเสมือนดอกไม้เบ่งบานในยามเช้าท่ามกลางละอองน้ำค้างใสกระจ่าง “พี่นุ่น...” เสียงแหบแห้งของปัทมาซึ่งมีความงามละม้ายคล้ายพี่สาวต่างกันเพียงทรงผมบ๊อบสั้นและผิวพรรณซูบซีดมากกว่าปลุก
มหาเศรษฐีที่หยิบยื่นเงินสิบล้านบาทมาให้เธอคนนั้นล่ะหรือ ปัทมาไม่มีวันรู้ว่าเขาคือ ริคาร์ดิโอ จิอานนี่ บิดาของบุรุษที่น้องสาวเอ่ยถึงเมื่อครู่ ชายวัยกลางคนชาวอิตาเลียนผู้กำธุรกิจสายการบิน ยูนิโก้ แอร์ไลน์ ซึ่งเป็นสายการบินใหญ่ที่สุดของอิตาลีไว้ในมือ ซึ่งนั่นยังไม่นับรวมธุรกิจที่แตกแขนงออกไปอีกมากมายภายใต้การครอบครองกิจการของชายผู้นี้ ร่ำรวย หรูหรา แต่เด็ดขาดดุดัน ควรเป็นนิยามของชายผู้ไม่ยอมให้สิ่งใดมาขวางกั้นความต้องการของตนแม้แต่ความรักของบุตรชายที่เขาคือผู้ชี้ชะตาว่าใครควรคู่กับทายาทธุรกิจหมื่นล้านซึ่งแน่นอนว่าไม่ใช่เธอ มัสมิน เธียรธรากุล นักเล่นไวโอลินที่ไม่มีอะไรคู่ควรกับ เขา คนที่เธอเคยรักสุดหัวใจ เธอพบกับลอวเรนซ์จากการเล่นไวโอลินในโรงแรมหรูแห่งหนึ่งซึ่งเป็นช่วงเวลาเดินทางมาพักผ่อนที่ประเทศไทยของเขา หลังจากนั้นต่างก็มีโลกสีชมพูของกันและกันจนเธอคิดว่าพบคนที่ใช่แม้เขาเป็นชาวต่างชาติ แต่แล้วค่ำคืนแห่งความเปลี่ยนผันหลังปลูกต้นรักไม่ทันแตกหน่อต่อใบก็เดินทางมาถึงเมื่อการแสดงไวโอลินในบทเพลง โอเชียนนิค (บทเพลงแห่งมหาสมุทร) จบลงในโรงแรมสุดหรูซึ่งเต็มไปด้วยแขกกระเป๋าหนักและห
“ลูกชายของผมมีนิสัยอย่างหนึ่งที่ทำยังไงผมก็ยังกำราบเขาไม่ลง เขาเชื่อมั่นในตัวเองสูงมากและหัวแข็งจนไม่เคยอ่อนข้อให้ใครเลยแม้แต่พ่อของเขาเอง ถ้าเขาเชื่ออะไรแล้วก็จะยึดติดกับความเชื่อของตัวเองอยู่อย่างนั้น จนกว่าเขาจะค้นพบด้วยตัวเองว่าสิ่งที่เขาเชื่อมาตลอดเป็นเรื่องที่ผิด ซึ่งผมอยากให้เขาได้ข้อพิสูจน์นั้นจากคุณ” ชายอิตาเลียนวัยกลางคนดีดนิ้วเรียกบอดี้การ์ดร่างยักษ์ก้าวเข้ามาหยุดข้าง ๆ และวางแผ่นกระดาษแผ่นเล็กรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าลงบนโต๊ะก่อนจะถอยออกไป“ผมไม่ให้คุณต้องเสียเวลาเปล่า ๆ ปลี้ ๆ กับการพิสูจน์ในครั้งนี้แน่นอน นี่เป็นเช็คเงินสดสิบล้านบาทสำหรับความมีน้ำใจของคุณที่จะเดินออกจากทางชีวิตของเขาเพื่อที่จะช่วยให้ลอวเรนซ์กลับไปดำรงตำแหน่งประธานของยูนิโก้ แอร์ไลน์เร็วขึ้น และนี่เป็นสัญญาระหว่างเราหลังจากที่คุณรับเงินจำนวนนี้ไปแล้วคุณต้องรับปากกับผมว่าลอวเรนซ์จะไม่มีวันรู้เรื่องนี้เด็ดขาด” แน่นอนที่สุดว่ามันเป็นพันธะสัญญาแม้มิได้ร่างออกมาเป็นลายลักษณ์อักษรหากทว่าข้อตกลงอันเจ็บปวดได้สลักความเป็นผู้หญิงหิวเงิน เห็นแก่ตัวและไร้ค่าในสายตาของคนที่เธอรักลงบนความเป็นมัสมินอย่างยากจะลบเลือน หญิงสาวอา