“ขอแสดงความยินดีด้วยนะคะ ผลจากการตรวจเซลล์ต้นกำเนิดเม็ดเลือดของคุณมี HLA* ตรงกันกับคุณปัทมาน้องสาวของคุณค่ะ หลังจากนี้เราจะเริ่มกระบวนการรักษาผู้ป่วยด้วยการปลูกถ่ายไขกระดูกให้น้องสาวของคุณโดยเร็วที่สุด ไม่ต้องเป็นกังวลนะคะ เธอจะมีอาการดีขึ้นแน่นอน” คำกล่าวของแพทย์หญิงซึ่งรับผิดชอบในการรักษาผู้ป่วยทำให้มัสมินยืนยิ้มอยู่ข้างเตียงคนไข้ซึ่งมีร่างหญิงสาวอายุราวยี่สิบปีนอนเหยียดยาวหลังได้รับการถ่ายเลือดซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องกระทำทุกเดือนตั้งแต่รู้ว่า ปัทมา น้องสาวของเธอป่วยเป็นโรคธาลัสซีเมีย โรคร้ายซึ่งเกิดจากความผิดปกติของเม็ดเลือดแดง รอยยิ้มอ่อนจางที่ยังดูเศร้าระบายอยู่บนเรียวปากรูปกระจับเคลือบกลอสสีชมพูอ่อนขับผิวแก้มใสเปล่งปลั่งในวัยยี่สิบสี่ของสาวสะพรั่งให้เจิดจรัสราวท้องฟ้าอันสดใส จมูกโด่งงามและดวงตากลมโตใต้โครงคิ้วโก่งดุจคันศรขับความละมุนละไมให้ใบหน้าในกรอบเรือนผมสีน้ำตาลเข้มเป็นมันเงาเสมือนดอกไม้เบ่งบานในยามเช้าท่ามกลางละอองน้ำค้างใสกระจ่าง
“พี่นุ่น...” เสียงแหบแห้งของปัทมาซึ่งมีความงามละม้ายคล้ายพี่สาวต่างกันเพียงทรงผมบ๊อบสั้นและผิวพรรณซูบซีดมากกว่าปลุกภวังค์ของมัสมินให้ต้องรีบเข้าไปจับมือของน้องสาวด้วยใบหน้าซ่อนความนัยใต้รอยยิ้มบาง ๆ
“นิ่ม...ตื่นแล้วหรือจ๊ะ เป็นยังไงบ้าง ดีขึ้นมั้ย” / “นิ่มชินแล้วค่ะพี่นุ่น ว่าแต่พี่นุ่นเถอะ วันนี้ไม่ไปแสดงไวโอลินเหรอ?”
ปัทมานิ่วหน้าที่เห็นพี่สาวคอยเฝ้าเธอผ่านกระบวนการถ่ายเลือดและขับธาตุเหล็กอันเป็นผลพวงจากการรับเลือดใหม่ในปริมาณมากด้วยเกรงจะรบกวนเวลาทำงานของมัสมินที่ต้องเล่นไวโอลินในโรงแรมใหญ่ ๆ
“ไม่เป็นไรหรอกนิ่ม พี่แจ้งผู้จัดการไว้แล้ว งานของพี่ไม่ได้มีความสำคัญเท่าชีวิตของน้องเลยนะจ๊ะ” / “พี่นุ่น..”
สาวรุ่นบีบมือพี่สาวแน่นเมื่อรู้สึกถึงความตีบตันผลักดันน้ำรื้นขึ้นมาคลอหน่วยตา “ทำไมนิ่มต้องเป็นโรคนี้ โรคที่ต้องรักษาตลอดชีวิต ต้องใช้ทั้งเงินทั้งเวลา ทำให้คนอื่นต้องพลอยมาแบกรับภาระชีวิตของนิ่ม โดยเฉพาะพี่นุ่น”
“นิ่มจะหายจ้ะ...นิ่มต้องหาย เราต้องมีศรัทธาในชีวิต เราต้องคิดว่าพรุ่งนี้จะได้ยินเสียงนกร้องและเห็นแสงแดดอย่างทุก ๆ วัน”
“นิ่มท้อค่ะ...นิ่มต้องถ่ายเลือดทุกเดือน ค่าใช้จ่ายก็เยอะ ลำพังพี่นุ่นทำงานจะช่วยพ่อกับแม่แบกรับภาระนี้ได้อีกสักกี่วัน”
“นิ่มต้องหาย...คุณหมอตรวจเซลล์ต้นกำเนิดเม็ดเลือดของพี่แล้ว เนื้อเยื่อเรามี HLA ตรงกัน พี่จะให้คุณหมอรักษานิ่มด้วยการปลูกถ่ายไขกระดูก มันเป็นการรักษาธาลัสซีเมียให้หายขาด นิ่มจะได้กลับมาใช้ชีวิตอย่างคนปกติทั่วไป แข็งแรงและมีความสุข”
“พี่นุ่น!...แต่ค่าใช้จ่ายเป็นล้านนะคะ พี่นุ่นจะเอาเงินจากไหนมากมายมาเป็นค่าใช้จ่ายรักษานิ่ม” ปัทมาแทบไม่เห็นร่องรอยของความกังวลบนใบหน้างดงามของพี่สาวนอกเสียจากรอยยิ้มตอกย้ำให้เธอมั่นใจว่าทุกอย่างจะเป็นไปด้วยดี
“มีเศรษฐีคนหนึ่งชอบฟังเพลงที่พี่เล่นไวโอลินมาก เขาให้ค่าตอบแทนสูงลิ่ว และพี่ก็คิดว่ามันไม่ได้เหลือบ่ากว่าแรงถ้าจะเก็บเงินนั่นมาเป็นค่ารักษานิ่ม”
“พี่นุ่นพูดความจริงหรือ พี่นุ่นไม่ได้ไปเป็นเมียเก็บเศรษฐีที่ไหนแน่นะ”
“ดูพูดเข้า...เห็นพี่เป็นคนสิ้นคิดแบบนั้นไปได้ พี่ยืนยันนะจ๊ะว่าไม่มีเรื่องอย่างที่นิ่มคิดเกิดขึ้นกับพี่สาวคนนี้แน่นอน พักผ่อนนะ...เดี๋ยวพี่มา”
“พี่นุ่น...” มัสมินทำท่าจะเดินออกไปก็ถูกปัทมาดึงมือไว้แน่น
“ลอวเรนซ์ล่ะคะ...นิ่มไม่เจอเขาเลย พี่นุ่นยังคบกับเขาอยู่หรือเปล่า” รอยยิ้มบนใบหน้าของมัสมินจางลงจนริมฝีปากที่แย้มน้อย ๆ คลายลงจนเกือบราบเรียบ น้องสาวของเธอกำลังตั้งคำถามถึงผู้ชายคนหนึ่งซึ่งเป็นชาวต่างชาติลูกครึ่งไทย ฝรั่งเศส อิตาเลียน ลอวเรนซ์ มาร์โค ริคาร์ดิอาโด บุรุษรูปร่างสูงใหญ่นัยน์ตาสีฟ้าน้ำทะเลอมเขียวมรกตสว่างใสบนใบหน้าหล่อเหลาราวประติมากรรมแห่งเทพซึ่งทำเช่นไรเธอก็ไม่มีวันลืมได้ลง
“พี่เลิกกับเขาแล้วล่ะจ้ะ...เขากลับอิตาลีไปหลายเดือนแล้ว อย่าสนใจเลยนะ เขาคงพบผู้หญิงคนใหม่แล้วล่ะ...อืม...เดี๋ยวพี่กลับมานะ” มัสมินรีบตัดบทและก้าวออกจากห้องพักฟื้นพิเศษของน้องสาวอย่างรีบเร่งเพื่อไม่ให้ปัทมาทันเห็นน้ำตาหยดน้อยไหลออกมาจากดวงตาคู่งาม ร่างบางในชุดเสื้อเชิ้ตขาวกางเกงเดนิมรัดรูปก้าวมาหยุดแค่หน้าห้องและพิงหลังกับผนังอย่างอ่อนแรง
มหาเศรษฐีที่หยิบยื่นเงินสิบล้านบาทมาให้เธอคนนั้นล่ะหรือ ปัทมาไม่มีวันรู้ว่าเขาคือ ริคาร์ดิโอ จิอานนี่ บิดาของบุรุษที่น้องสาวเอ่ยถึงเมื่อครู่ ชายวัยกลางคนชาวอิตาเลียนผู้กำธุรกิจสายการบิน ยูนิโก้ แอร์ไลน์ ซึ่งเป็นสายการบินใหญ่ที่สุดของอิตาลีไว้ในมือ ซึ่งนั่นยังไม่นับรวมธุรกิจที่แตกแขนงออกไปอีกมากมายภายใต้การครอบครองกิจการของชายผู้นี้ ร่ำรวย หรูหรา แต่เด็ดขาดดุดัน ควรเป็นนิยามของชายผู้ไม่ยอมให้สิ่งใดมาขวางกั้นความต้องการของตนแม้แต่ความรักของบุตรชายที่เขาคือผู้ชี้ชะตาว่าใครควรคู่กับทายาทธุรกิจหมื่นล้านซึ่งแน่นอนว่าไม่ใช่เธอ มัสมิน เธียรธรากุล นักเล่นไวโอลินที่ไม่มีอะไรคู่ควรกับ เขา คนที่เธอเคยรักสุดหัวใจ เธอพบกับลอวเรนซ์จากการเล่นไวโอลินในโรงแรมหรูแห่งหนึ่งซึ่งเป็นช่วงเวลาเดินทางมาพักผ่อนที่ประเทศไทยของเขา หลังจากนั้นต่างก็มีโลกสีชมพูของกันและกันจนเธอคิดว่าพบคนที่ใช่แม้เขาเป็นชาวต่างชาติ แต่แล้วค่ำคืนแห่งความเปลี่ยนผันหลังปลูกต้นรักไม่ทันแตกหน่อต่อใบก็เดินทางมาถึงเมื่อการแสดงไวโอลินในบทเพลง โอเชียนนิค (บทเพลงแห่งมหาสมุทร) จบลงในโรงแรมสุดหรูซึ่งเต็มไปด้วยแขกกระเป๋าหนักและห
“ลูกชายของผมมีนิสัยอย่างหนึ่งที่ทำยังไงผมก็ยังกำราบเขาไม่ลง เขาเชื่อมั่นในตัวเองสูงมากและหัวแข็งจนไม่เคยอ่อนข้อให้ใครเลยแม้แต่พ่อของเขาเอง ถ้าเขาเชื่ออะไรแล้วก็จะยึดติดกับความเชื่อของตัวเองอยู่อย่างนั้น จนกว่าเขาจะค้นพบด้วยตัวเองว่าสิ่งที่เขาเชื่อมาตลอดเป็นเรื่องที่ผิด ซึ่งผมอยากให้เขาได้ข้อพิสูจน์นั้นจากคุณ” ชายอิตาเลียนวัยกลางคนดีดนิ้วเรียกบอดี้การ์ดร่างยักษ์ก้าวเข้ามาหยุดข้าง ๆ และวางแผ่นกระดาษแผ่นเล็กรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าลงบนโต๊ะก่อนจะถอยออกไป“ผมไม่ให้คุณต้องเสียเวลาเปล่า ๆ ปลี้ ๆ กับการพิสูจน์ในครั้งนี้แน่นอน นี่เป็นเช็คเงินสดสิบล้านบาทสำหรับความมีน้ำใจของคุณที่จะเดินออกจากทางชีวิตของเขาเพื่อที่จะช่วยให้ลอวเรนซ์กลับไปดำรงตำแหน่งประธานของยูนิโก้ แอร์ไลน์เร็วขึ้น และนี่เป็นสัญญาระหว่างเราหลังจากที่คุณรับเงินจำนวนนี้ไปแล้วคุณต้องรับปากกับผมว่าลอวเรนซ์จะไม่มีวันรู้เรื่องนี้เด็ดขาด” แน่นอนที่สุดว่ามันเป็นพันธะสัญญาแม้มิได้ร่างออกมาเป็นลายลักษณ์อักษรหากทว่าข้อตกลงอันเจ็บปวดได้สลักความเป็นผู้หญิงหิวเงิน เห็นแก่ตัวและไร้ค่าในสายตาของคนที่เธอรักลงบนความเป็นมัสมินอย่างยากจะลบเลือน หญิงสาวอา
“ไม่เสมอไป...” ปรีชา หรือ ปิเอโร่ ที่ลอวเรนซ์เรียกจนติดปากตั้งแต่สมัยเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยฮาวาร์ดมาด้วยกันมองเจ้าของนัยน์ตาสีฟ้าเหลือบประกายมรกตดูเจิดจ้าราวสีท้องฟ้าอันสดใสอย่างค้นคิด ชายหนุ่มผิวพรรณสะอาดสะอ้านดูดีแต่ความสูงในระดับชาวเอเชียขมวดคิ้วมุ่นอย่างไม่เข้าใจความหมายของเพื่อน “บางครั้งการที่เราขึ้นมาอยู่ในจุดที่คิดว่าสูงที่สุดอาจเป็นที่ ๆ เหน็บหนาวมากที่สุดในโลก ฉันก็ภูมิใจที่ทำในสิ่งที่ครอบครัวสร้างมันมาเพื่อฉันได้ แต่หากสิ่งที่ได้มาแลกกับการต้องสูญเสียอะไรไป...ฉันก็ยังไม่แน่ใจว่ามันจะมีความหมายสำหรับฉัน” “กลับมาคราวนี้นายแปลกไปนะ ดูเคร่งเครียดชอบกล ถึงปกตินายจะเป็นคนจริงจังกับทุกเรื่องก็เถอะ อย่าซีเรียสนักเลย ถ้ายังไม่อยากกลับฟลอเรนซ์ จะพักอยู่ที่นี่หลายวันก็ได้เพราะนี่ก็บ้านนาย นายเป็นเจ้าของ เซลิโน่ รีสอร์ท แอนด์ เรสสิเดนท์ อยู่แล้ว แต่คืนนี้อย่าเพิ่งรีบเข้านอน ฉันจะชวนนายไปฟังดนตรีคลาสสิคที่ห้องอาหารริมทะเลข้างล่าง นายจะได้ผ่อนคลายตัวเองลง ไม่เคร่งเครียดทั้งที่ก็มาพักผ่อนแบบนี้ไงเพื่อน” “ดนตรีคลาสสิค...”
“ลีว่ามันอาจจะสำคัญก็ได้นะ หุ้นส่วนใหญ่ของโรงแรมหรูขนาดนี้น่ะไม่ธรรมดาหรอกนะจ๊ะ คุณนุสบาผู้จัดการห้องอาหารบอกว่าหุ้นส่วนใหญ่ของที่นี่เป็นชาวต่างชาติ หล่อมากถึงมากที่สุด เธอบอกว่าเขาเป็นผู้ชายทรงเสน่ห์ ดูดีดึงดูดใจโดยไม่ต้องทำอะไรเลย ลีล่ะอยากเห็นตัวจริงว่าจะเป็นอย่างที่เขาร่ำลือกันหรือเปล่า อืม...นุ่น...ดูนุ่นจะรักไวโอลินตัวนี้มากเลยนะ พอว่างลีเห็นนุ่นชอบนั่งลูบมันเหมือนลูบสัตว์เลี้ยงยังไงยังงั้น คงเป็นของที่มีความหมายกับนุ่นมาก” หญิงสาวในชุดราตรีปักเลื่อมสีนิลก้มลงมองไวโอลินแสนสวยบนตักของมัสมินด้วยแววตาชื่นชมระคนสงสัย เธอมักเห็นเพื่อนของเธอนั่งพิศดูเครื่องดนตรีที่ทำจากไม้ด้วยฝีมือละเอียดลออซึ่งในฐานะผู้เล่นเครื่องดนตรีชนิดนี้แค่มองแวบเดียวก็รู้ว่ามันไม่ได้ผลิตในประเทศแถมราคาคงสูงลิบอย่างมิต้องกังขา มันอาจมีความเชื่อมโยงกับแววตาเศร้าสร้อยที่ปิดไม่มิดของมัสมินตั้งแต่เดินทางมาถึงที่นี่ตามคำชวนของเธอ เกาะแสนงามรายล้อมด้วยน้ำทะเลใสและบรรยากาศอันน่าสุขสันต์ หากทว่ามัสมินเหมือนคนอมทุกข์ไม่ยอมเผยความนัยที่แอบซ่อนไว้ภายใต้กรอบวงหน้ารูปไข่แสนสวยราวหน้ากากแก้วของ