“ลีว่ามันอาจจะสำคัญก็ได้นะ หุ้นส่วนใหญ่ของโรงแรมหรูขนาดนี้น่ะไม่ธรรมดาหรอกนะจ๊ะ คุณนุสบาผู้จัดการห้องอาหารบอกว่าหุ้นส่วนใหญ่ของที่นี่เป็นชาวต่างชาติ หล่อมากถึงมากที่สุด เธอบอกว่าเขาเป็นผู้ชายทรงเสน่ห์ ดูดีดึงดูดใจโดยไม่ต้องทำอะไรเลย ลีล่ะอยากเห็นตัวจริงว่าจะเป็นอย่างที่เขาร่ำลือกันหรือเปล่า อืม...นุ่น...ดูนุ่นจะรักไวโอลินตัวนี้มากเลยนะ พอว่างลีเห็นนุ่นชอบนั่งลูบมันเหมือนลูบสัตว์เลี้ยงยังไงยังงั้น คงเป็นของที่มีความหมายกับนุ่นมาก”
หญิงสาวในชุดราตรีปักเลื่อมสีนิลก้มลงมองไวโอลินแสนสวยบนตักของมัสมินด้วยแววตาชื่นชมระคนสงสัย เธอมักเห็นเพื่อนของเธอนั่งพิศดูเครื่องดนตรีที่ทำจากไม้ด้วยฝีมือละเอียดลออซึ่งในฐานะผู้เล่นเครื่องดนตรีชนิดนี้แค่มองแวบเดียวก็รู้ว่ามันไม่ได้ผลิตในประเทศแถมราคาคงสูงลิบอย่างมิต้องกังขา มันอาจมีความเชื่อมโยงกับแววตาเศร้าสร้อยที่ปิดไม่มิดของมัสมินตั้งแต่เดินทางมาถึงที่นี่ตามคำชวนของเธอ เกาะแสนงามรายล้อมด้วยน้ำทะเลใสและบรรยากาศอันน่าสุขสันต์ หากทว่ามัสมินเหมือนคนอมทุกข์ไม่ยอมเผยความนัยที่แอบซ่อนไว้ภายใต้กรอบวงหน้ารูปไข่แสนสวยราวหน้ากากแก้วของนางละคร
“ไวโอลินตัวนี้มีความหมายกับนุ่นมากจ้ะลี มันเป็นของรักของนุ่นที่ใครคนหนึ่งซื้อให้นุ่นเป็นของขวัญวันเกิด”
“ใครกันจ๊ะนุ่น...ท่าทางเขาคงรักนุ่นมาก ไวโอลินตัวนี้ไม่ใช่ของราคาถูก ๆ เลยนะ”
มัสมินหันมายิ้มกับพัชชุลีใต้แสงจันทร์เต็มดวงและเกลียวน้ำสะท้อนเงาเงินยวงระยับในท้องทะเล
“เป็นของคนที่นุ่นรัก แต่ตอนนี้เขาจากไปแล้ว...เราเลิกกันแล้วล่ะจ้ะ”
“นี่ใช่มั้ยเป็นเหตุผลที่ทำให้นุ่นรับปากลีว่าจะมาสมุยโดยไม่ต้องคิดให้เสียเวลา ลีสงสัยตั้งแต่นุ่นมาถึงที่นี่แล้ว ขอโทษนะจ๊ะ ลีไม่น่าถามเรื่องที่ทำให้นุ่นต้องคิดมากอย่างนี้เลย”
“ไม่เป็นไรหรอกนะลี เราต่างจากกันด้วยดีต่างหากล่ะจ๊ะ” ว่าพลางก้มลงมองเข็มบนเรือนเวลาบนข้อมือบอกว่าเธอและเพื่อนสาวควรไปถึงห้องอาหารของโรงแรมในตอนนี้
“เราไปห้องอาหารกันเถอะนะ นุ่นต้องเล่นไวโอลินคนแรกด้วย”
พัชชุลีพยักหน้าเปื้อนรอยยิ้มก่อนลุกขึ้นเดินตามมัสมินเข้าไปยังห้องอาหารริมทะเลซึ่งบัดนี้มีแขกของโรงแรมนั่งเต็มเกือบทุกโต๊ะ บรรยากาศการับประทานอาหารชั้นเลิศภายในห้องอาหารของโรงแรมชั้นเยี่ยมอย่าง เซลิโน่ ยิ่งน่าดึงดูดใจสำหรับแขกระดับวีไอพีมากขึ้นหลายเท่าเมื่อร่างระหงในชุดราตรีไหล่เบี่ยงสีขาวสวมรองเท้าส้นสูงประดับมุกก้าวอาด ๆ ไปยืนบนเวทีขนาดเล็กตกแต่งด้วยกล้วยไม้งามหลากสีเป็นพื้นที่โชว์ดนตรีเพื่อขับกล่อมและเพิ่มอรรถรสของการรับประทานอาหารมื้อค่ำให้น่ารื่นรมย์ยิ่งขึ้น
รอยยิ้มแสนหวานบนริมฝีปากอิ่มจิ้มลิ้มเคลือบกลอสสีชมพูอ่อนใสเป็นประกายระบายอยู่บนใบหน้าสวยไร้อาการเขินอายหรือประหม่ากระทั่งดวงตากลมโตคู่นั้นกวาดไปบรรจบยังใครคนหนึ่งนั่งอยู่ที่โต๊ะหน้าเวที ใกล้เสียจนสมองของเธอไม่ต้องเสียเวลาประมวลผลว่าเธอตาลายหรือฝันไปที่เห็น เขา อยู่ตรงหน้า
ลอวเรนซ์ มาร์โค ริคาร์ดิอาโด เรียวปากอิ่มราบเรียบลงในทันทีทั้งมือซึ่งกุมไวโอลินและคันชักไว้ก็เย็นเยียบแทบไม่รู้สึกว่ากำเครื่องสายไว้แน่นขนาดไหน ใบหน้าคร้ามคมนั้น รูปร่างสูงใหญ่กำยำและผิวสีแทนทองกร้าวกร้านภายใต้เสื้อเชิ้ตลายทางและกางเกงสแล็กนั้นล่องลอยในความสำนึกจดจำของเธอเสมอ ผิดแต่ดวงตาที่จ้องมองมาส่องประกายราวเหล็กกล้าคล้ายจะเชือดเฉือนสิ่งที่เห็นตรงหน้าให้ขาดสะบั้น มัสมินยืนนิ่งราวรูปปั้น นานจนนุสบาผู้จัดการห้องอาหารที่นั่งอยู่โต๊ะเดียวกันกับ เขา คนนั้นและปรีชาหุ้นส่วนคนสำคัญต้องลุกจากเก้าอี้เมื่อสังเกตเห็นความผิดปกติเพื่อเข้าไปสะกิดหญิงสาวเรียกภวังค์เธอกลับคืน
“คุณมัสมินคะ...เป็นอะไรไปคะ แขกกำลังรอฟังคุณเล่นไวโอลินนะคะ โดยเฉพาะคุณลอวเรนซ์ หุ้นส่วนใหญ่ของเซลิโน่ที่นั่งอยู่กับคุณปรีชาข้างหน้านี่ล่ะค่ะ” เสียงของนุสบาทำให้สติอันวายวุ่นนั้นกลับมาอยู่กับเธอ หากทว่าหญิงสาวกำลังจะสูญเสียการควบคุมตัวเอง มีเพียงก้อนแห่งความละอายแล่นปรี่ขึ้นมาจุกอกและลำคอแห้งผากของมัสมิน
********************************************************************
“ขอแสดงความยินดีด้วยนะคะ ผลจากการตรวจเซลล์ต้นกำเนิดเม็ดเลือดของคุณมี HLA* ตรงกันกับคุณปัทมาน้องสาวของคุณค่ะ หลังจากนี้เราจะเริ่มกระบวนการรักษาผู้ป่วยด้วยการปลูกถ่ายไขกระดูกให้น้องสาวของคุณโดยเร็วที่สุด ไม่ต้องเป็นกังวลนะคะ เธอจะมีอาการดีขึ้นแน่นอน” คำกล่าวของแพทย์หญิงซึ่งรับผิดชอบในการรักษาผู้ป่วยทำให้มัสมินยืนยิ้มอยู่ข้างเตียงคนไข้ซึ่งมีร่างหญิงสาวอายุราวยี่สิบปีนอนเหยียดยาวหลังได้รับการถ่ายเลือดซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องกระทำทุกเดือนตั้งแต่รู้ว่า ปัทมา น้องสาวของเธอป่วยเป็นโรคธาลัสซีเมีย โรคร้ายซึ่งเกิดจากความผิดปกติของเม็ดเลือดแดง รอยยิ้มอ่อนจางที่ยังดูเศร้าระบายอยู่บนเรียวปากรูปกระจับเคลือบกลอสสีชมพูอ่อนขับผิวแก้มใสเปล่งปลั่งในวัยยี่สิบสี่ของสาวสะพรั่งให้เจิดจรัสราวท้องฟ้าอันสดใส จมูกโด่งงามและดวงตากลมโตใต้โครงคิ้วโก่งดุจคันศรขับความละมุนละไมให้ใบหน้าในกรอบเรือนผมสีน้ำตาลเข้มเป็นมันเงาเสมือนดอกไม้เบ่งบานในยามเช้าท่ามกลางละอองน้ำค้างใสกระจ่าง “พี่นุ่น...” เสียงแหบแห้งของปัทมาซึ่งมีความงามละม้ายคล้ายพี่สาวต่างกันเพียงทรงผมบ๊อบสั้นและผิวพรรณซูบซีดมากกว่าปลุก
มหาเศรษฐีที่หยิบยื่นเงินสิบล้านบาทมาให้เธอคนนั้นล่ะหรือ ปัทมาไม่มีวันรู้ว่าเขาคือ ริคาร์ดิโอ จิอานนี่ บิดาของบุรุษที่น้องสาวเอ่ยถึงเมื่อครู่ ชายวัยกลางคนชาวอิตาเลียนผู้กำธุรกิจสายการบิน ยูนิโก้ แอร์ไลน์ ซึ่งเป็นสายการบินใหญ่ที่สุดของอิตาลีไว้ในมือ ซึ่งนั่นยังไม่นับรวมธุรกิจที่แตกแขนงออกไปอีกมากมายภายใต้การครอบครองกิจการของชายผู้นี้ ร่ำรวย หรูหรา แต่เด็ดขาดดุดัน ควรเป็นนิยามของชายผู้ไม่ยอมให้สิ่งใดมาขวางกั้นความต้องการของตนแม้แต่ความรักของบุตรชายที่เขาคือผู้ชี้ชะตาว่าใครควรคู่กับทายาทธุรกิจหมื่นล้านซึ่งแน่นอนว่าไม่ใช่เธอ มัสมิน เธียรธรากุล นักเล่นไวโอลินที่ไม่มีอะไรคู่ควรกับ เขา คนที่เธอเคยรักสุดหัวใจ เธอพบกับลอวเรนซ์จากการเล่นไวโอลินในโรงแรมหรูแห่งหนึ่งซึ่งเป็นช่วงเวลาเดินทางมาพักผ่อนที่ประเทศไทยของเขา หลังจากนั้นต่างก็มีโลกสีชมพูของกันและกันจนเธอคิดว่าพบคนที่ใช่แม้เขาเป็นชาวต่างชาติ แต่แล้วค่ำคืนแห่งความเปลี่ยนผันหลังปลูกต้นรักไม่ทันแตกหน่อต่อใบก็เดินทางมาถึงเมื่อการแสดงไวโอลินในบทเพลง โอเชียนนิค (บทเพลงแห่งมหาสมุทร) จบลงในโรงแรมสุดหรูซึ่งเต็มไปด้วยแขกกระเป๋าหนักและห
“ลูกชายของผมมีนิสัยอย่างหนึ่งที่ทำยังไงผมก็ยังกำราบเขาไม่ลง เขาเชื่อมั่นในตัวเองสูงมากและหัวแข็งจนไม่เคยอ่อนข้อให้ใครเลยแม้แต่พ่อของเขาเอง ถ้าเขาเชื่ออะไรแล้วก็จะยึดติดกับความเชื่อของตัวเองอยู่อย่างนั้น จนกว่าเขาจะค้นพบด้วยตัวเองว่าสิ่งที่เขาเชื่อมาตลอดเป็นเรื่องที่ผิด ซึ่งผมอยากให้เขาได้ข้อพิสูจน์นั้นจากคุณ” ชายอิตาเลียนวัยกลางคนดีดนิ้วเรียกบอดี้การ์ดร่างยักษ์ก้าวเข้ามาหยุดข้าง ๆ และวางแผ่นกระดาษแผ่นเล็กรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าลงบนโต๊ะก่อนจะถอยออกไป“ผมไม่ให้คุณต้องเสียเวลาเปล่า ๆ ปลี้ ๆ กับการพิสูจน์ในครั้งนี้แน่นอน นี่เป็นเช็คเงินสดสิบล้านบาทสำหรับความมีน้ำใจของคุณที่จะเดินออกจากทางชีวิตของเขาเพื่อที่จะช่วยให้ลอวเรนซ์กลับไปดำรงตำแหน่งประธานของยูนิโก้ แอร์ไลน์เร็วขึ้น และนี่เป็นสัญญาระหว่างเราหลังจากที่คุณรับเงินจำนวนนี้ไปแล้วคุณต้องรับปากกับผมว่าลอวเรนซ์จะไม่มีวันรู้เรื่องนี้เด็ดขาด” แน่นอนที่สุดว่ามันเป็นพันธะสัญญาแม้มิได้ร่างออกมาเป็นลายลักษณ์อักษรหากทว่าข้อตกลงอันเจ็บปวดได้สลักความเป็นผู้หญิงหิวเงิน เห็นแก่ตัวและไร้ค่าในสายตาของคนที่เธอรักลงบนความเป็นมัสมินอย่างยากจะลบเลือน หญิงสาวอา
“ไม่เสมอไป...” ปรีชา หรือ ปิเอโร่ ที่ลอวเรนซ์เรียกจนติดปากตั้งแต่สมัยเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยฮาวาร์ดมาด้วยกันมองเจ้าของนัยน์ตาสีฟ้าเหลือบประกายมรกตดูเจิดจ้าราวสีท้องฟ้าอันสดใสอย่างค้นคิด ชายหนุ่มผิวพรรณสะอาดสะอ้านดูดีแต่ความสูงในระดับชาวเอเชียขมวดคิ้วมุ่นอย่างไม่เข้าใจความหมายของเพื่อน “บางครั้งการที่เราขึ้นมาอยู่ในจุดที่คิดว่าสูงที่สุดอาจเป็นที่ ๆ เหน็บหนาวมากที่สุดในโลก ฉันก็ภูมิใจที่ทำในสิ่งที่ครอบครัวสร้างมันมาเพื่อฉันได้ แต่หากสิ่งที่ได้มาแลกกับการต้องสูญเสียอะไรไป...ฉันก็ยังไม่แน่ใจว่ามันจะมีความหมายสำหรับฉัน” “กลับมาคราวนี้นายแปลกไปนะ ดูเคร่งเครียดชอบกล ถึงปกตินายจะเป็นคนจริงจังกับทุกเรื่องก็เถอะ อย่าซีเรียสนักเลย ถ้ายังไม่อยากกลับฟลอเรนซ์ จะพักอยู่ที่นี่หลายวันก็ได้เพราะนี่ก็บ้านนาย นายเป็นเจ้าของ เซลิโน่ รีสอร์ท แอนด์ เรสสิเดนท์ อยู่แล้ว แต่คืนนี้อย่าเพิ่งรีบเข้านอน ฉันจะชวนนายไปฟังดนตรีคลาสสิคที่ห้องอาหารริมทะเลข้างล่าง นายจะได้ผ่อนคลายตัวเองลง ไม่เคร่งเครียดทั้งที่ก็มาพักผ่อนแบบนี้ไงเพื่อน” “ดนตรีคลาสสิค...”
“ลีว่ามันอาจจะสำคัญก็ได้นะ หุ้นส่วนใหญ่ของโรงแรมหรูขนาดนี้น่ะไม่ธรรมดาหรอกนะจ๊ะ คุณนุสบาผู้จัดการห้องอาหารบอกว่าหุ้นส่วนใหญ่ของที่นี่เป็นชาวต่างชาติ หล่อมากถึงมากที่สุด เธอบอกว่าเขาเป็นผู้ชายทรงเสน่ห์ ดูดีดึงดูดใจโดยไม่ต้องทำอะไรเลย ลีล่ะอยากเห็นตัวจริงว่าจะเป็นอย่างที่เขาร่ำลือกันหรือเปล่า อืม...นุ่น...ดูนุ่นจะรักไวโอลินตัวนี้มากเลยนะ พอว่างลีเห็นนุ่นชอบนั่งลูบมันเหมือนลูบสัตว์เลี้ยงยังไงยังงั้น คงเป็นของที่มีความหมายกับนุ่นมาก” หญิงสาวในชุดราตรีปักเลื่อมสีนิลก้มลงมองไวโอลินแสนสวยบนตักของมัสมินด้วยแววตาชื่นชมระคนสงสัย เธอมักเห็นเพื่อนของเธอนั่งพิศดูเครื่องดนตรีที่ทำจากไม้ด้วยฝีมือละเอียดลออซึ่งในฐานะผู้เล่นเครื่องดนตรีชนิดนี้แค่มองแวบเดียวก็รู้ว่ามันไม่ได้ผลิตในประเทศแถมราคาคงสูงลิบอย่างมิต้องกังขา มันอาจมีความเชื่อมโยงกับแววตาเศร้าสร้อยที่ปิดไม่มิดของมัสมินตั้งแต่เดินทางมาถึงที่นี่ตามคำชวนของเธอ เกาะแสนงามรายล้อมด้วยน้ำทะเลใสและบรรยากาศอันน่าสุขสันต์ หากทว่ามัสมินเหมือนคนอมทุกข์ไม่ยอมเผยความนัยที่แอบซ่อนไว้ภายใต้กรอบวงหน้ารูปไข่แสนสวยราวหน้ากากแก้วของ
“ไม่เสมอไป...” ปรีชา หรือ ปิเอโร่ ที่ลอวเรนซ์เรียกจนติดปากตั้งแต่สมัยเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยฮาวาร์ดมาด้วยกันมองเจ้าของนัยน์ตาสีฟ้าเหลือบประกายมรกตดูเจิดจ้าราวสีท้องฟ้าอันสดใสอย่างค้นคิด ชายหนุ่มผิวพรรณสะอาดสะอ้านดูดีแต่ความสูงในระดับชาวเอเชียขมวดคิ้วมุ่นอย่างไม่เข้าใจความหมายของเพื่อน “บางครั้งการที่เราขึ้นมาอยู่ในจุดที่คิดว่าสูงที่สุดอาจเป็นที่ ๆ เหน็บหนาวมากที่สุดในโลก ฉันก็ภูมิใจที่ทำในสิ่งที่ครอบครัวสร้างมันมาเพื่อฉันได้ แต่หากสิ่งที่ได้มาแลกกับการต้องสูญเสียอะไรไป...ฉันก็ยังไม่แน่ใจว่ามันจะมีความหมายสำหรับฉัน” “กลับมาคราวนี้นายแปลกไปนะ ดูเคร่งเครียดชอบกล ถึงปกตินายจะเป็นคนจริงจังกับทุกเรื่องก็เถอะ อย่าซีเรียสนักเลย ถ้ายังไม่อยากกลับฟลอเรนซ์ จะพักอยู่ที่นี่หลายวันก็ได้เพราะนี่ก็บ้านนาย นายเป็นเจ้าของ เซลิโน่ รีสอร์ท แอนด์ เรสสิเดนท์ อยู่แล้ว แต่คืนนี้อย่าเพิ่งรีบเข้านอน ฉันจะชวนนายไปฟังดนตรีคลาสสิคที่ห้องอาหารริมทะเลข้างล่าง นายจะได้ผ่อนคลายตัวเองลง ไม่เคร่งเครียดทั้งที่ก็มาพักผ่อนแบบนี้ไงเพื่อน” “ดนตรีคลาสสิค...”
“ลูกชายของผมมีนิสัยอย่างหนึ่งที่ทำยังไงผมก็ยังกำราบเขาไม่ลง เขาเชื่อมั่นในตัวเองสูงมากและหัวแข็งจนไม่เคยอ่อนข้อให้ใครเลยแม้แต่พ่อของเขาเอง ถ้าเขาเชื่ออะไรแล้วก็จะยึดติดกับความเชื่อของตัวเองอยู่อย่างนั้น จนกว่าเขาจะค้นพบด้วยตัวเองว่าสิ่งที่เขาเชื่อมาตลอดเป็นเรื่องที่ผิด ซึ่งผมอยากให้เขาได้ข้อพิสูจน์นั้นจากคุณ” ชายอิตาเลียนวัยกลางคนดีดนิ้วเรียกบอดี้การ์ดร่างยักษ์ก้าวเข้ามาหยุดข้าง ๆ และวางแผ่นกระดาษแผ่นเล็กรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าลงบนโต๊ะก่อนจะถอยออกไป“ผมไม่ให้คุณต้องเสียเวลาเปล่า ๆ ปลี้ ๆ กับการพิสูจน์ในครั้งนี้แน่นอน นี่เป็นเช็คเงินสดสิบล้านบาทสำหรับความมีน้ำใจของคุณที่จะเดินออกจากทางชีวิตของเขาเพื่อที่จะช่วยให้ลอวเรนซ์กลับไปดำรงตำแหน่งประธานของยูนิโก้ แอร์ไลน์เร็วขึ้น และนี่เป็นสัญญาระหว่างเราหลังจากที่คุณรับเงินจำนวนนี้ไปแล้วคุณต้องรับปากกับผมว่าลอวเรนซ์จะไม่มีวันรู้เรื่องนี้เด็ดขาด” แน่นอนที่สุดว่ามันเป็นพันธะสัญญาแม้มิได้ร่างออกมาเป็นลายลักษณ์อักษรหากทว่าข้อตกลงอันเจ็บปวดได้สลักความเป็นผู้หญิงหิวเงิน เห็นแก่ตัวและไร้ค่าในสายตาของคนที่เธอรักลงบนความเป็นมัสมินอย่างยากจะลบเลือน หญิงสาวอา
มหาเศรษฐีที่หยิบยื่นเงินสิบล้านบาทมาให้เธอคนนั้นล่ะหรือ ปัทมาไม่มีวันรู้ว่าเขาคือ ริคาร์ดิโอ จิอานนี่ บิดาของบุรุษที่น้องสาวเอ่ยถึงเมื่อครู่ ชายวัยกลางคนชาวอิตาเลียนผู้กำธุรกิจสายการบิน ยูนิโก้ แอร์ไลน์ ซึ่งเป็นสายการบินใหญ่ที่สุดของอิตาลีไว้ในมือ ซึ่งนั่นยังไม่นับรวมธุรกิจที่แตกแขนงออกไปอีกมากมายภายใต้การครอบครองกิจการของชายผู้นี้ ร่ำรวย หรูหรา แต่เด็ดขาดดุดัน ควรเป็นนิยามของชายผู้ไม่ยอมให้สิ่งใดมาขวางกั้นความต้องการของตนแม้แต่ความรักของบุตรชายที่เขาคือผู้ชี้ชะตาว่าใครควรคู่กับทายาทธุรกิจหมื่นล้านซึ่งแน่นอนว่าไม่ใช่เธอ มัสมิน เธียรธรากุล นักเล่นไวโอลินที่ไม่มีอะไรคู่ควรกับ เขา คนที่เธอเคยรักสุดหัวใจ เธอพบกับลอวเรนซ์จากการเล่นไวโอลินในโรงแรมหรูแห่งหนึ่งซึ่งเป็นช่วงเวลาเดินทางมาพักผ่อนที่ประเทศไทยของเขา หลังจากนั้นต่างก็มีโลกสีชมพูของกันและกันจนเธอคิดว่าพบคนที่ใช่แม้เขาเป็นชาวต่างชาติ แต่แล้วค่ำคืนแห่งความเปลี่ยนผันหลังปลูกต้นรักไม่ทันแตกหน่อต่อใบก็เดินทางมาถึงเมื่อการแสดงไวโอลินในบทเพลง โอเชียนนิค (บทเพลงแห่งมหาสมุทร) จบลงในโรงแรมสุดหรูซึ่งเต็มไปด้วยแขกกระเป๋าหนักและห
“ขอแสดงความยินดีด้วยนะคะ ผลจากการตรวจเซลล์ต้นกำเนิดเม็ดเลือดของคุณมี HLA* ตรงกันกับคุณปัทมาน้องสาวของคุณค่ะ หลังจากนี้เราจะเริ่มกระบวนการรักษาผู้ป่วยด้วยการปลูกถ่ายไขกระดูกให้น้องสาวของคุณโดยเร็วที่สุด ไม่ต้องเป็นกังวลนะคะ เธอจะมีอาการดีขึ้นแน่นอน” คำกล่าวของแพทย์หญิงซึ่งรับผิดชอบในการรักษาผู้ป่วยทำให้มัสมินยืนยิ้มอยู่ข้างเตียงคนไข้ซึ่งมีร่างหญิงสาวอายุราวยี่สิบปีนอนเหยียดยาวหลังได้รับการถ่ายเลือดซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องกระทำทุกเดือนตั้งแต่รู้ว่า ปัทมา น้องสาวของเธอป่วยเป็นโรคธาลัสซีเมีย โรคร้ายซึ่งเกิดจากความผิดปกติของเม็ดเลือดแดง รอยยิ้มอ่อนจางที่ยังดูเศร้าระบายอยู่บนเรียวปากรูปกระจับเคลือบกลอสสีชมพูอ่อนขับผิวแก้มใสเปล่งปลั่งในวัยยี่สิบสี่ของสาวสะพรั่งให้เจิดจรัสราวท้องฟ้าอันสดใส จมูกโด่งงามและดวงตากลมโตใต้โครงคิ้วโก่งดุจคันศรขับความละมุนละไมให้ใบหน้าในกรอบเรือนผมสีน้ำตาลเข้มเป็นมันเงาเสมือนดอกไม้เบ่งบานในยามเช้าท่ามกลางละอองน้ำค้างใสกระจ่าง “พี่นุ่น...” เสียงแหบแห้งของปัทมาซึ่งมีความงามละม้ายคล้ายพี่สาวต่างกันเพียงทรงผมบ๊อบสั้นและผิวพรรณซูบซีดมากกว่าปลุก