ตอนที่ 9
“ประหลาด” เคลย์ริกยิ้มขันให้กับคำตอบของคนอวดเก่ง แต่ที่น่าแปลกก็คือเขาเพิ่งจะรู้สึกว่าวันนี้เป็นวันที่เขายิ้มได้กว้างมากที่สุดในรอบปี
“คุณสิประหลาด” ริมฝีปากสวยเบ้ออกอย่างนึกชังรอยยิ้มบนหน้าโหดๆ นั่น
“เธอต่างหากที่ประหลาด แล้วก็จำเอาไว้ด้วยว่าเธอไม่มีสิทธิ์ไล่เจ้าของบ้าน”
“คุณก็ไม่สิทธิ์มากักขังฉันไว้ที่นี่เหมือนกัน แล้วฉันก็ขอยืนยันไว้ตรงนี้เลยว่าฉันไม่ใช่ผู้หญิงแพศยาอย่างที่คุณกล่าวหา” มธุราเอ่ยยืนยันความบริสุทธิ์ของตัวเองอย่างชัดถ้อยชัดคำ
“เห็นอยู่ตำตา ยังจะกล้าปฏิเสธอีกเหรอ” เคลย์ริกตะคอกใส่อย่างหัวเสีย เมื่อสาวเจ้าไม่ยอมรับ ทั้งที่ก่อนจะบุกไปจับหล่อนมาเขาก็มีหลักฐานอย่างชัดเจน
“ตำตาบ้าบออะไรของคุณ” เธอตอบกลับเสียงแข็ง พลางจ้องมองคนตัวโตตาไม่กะพริบ อีกทั้งก็พยายามนึกว่าเคยไปเจอผู้ชายคนนี้ที่ไหน ทว่านึกให้ตายก็นึกไม่ออก
“จะไม่ยอมรับใช่ไหม”
“ฉันไม่ยอมรับอะไรทั้งนั่นแหละ”
“เธอนี่…”
“หยุดกล่าวหาฉัน แล้วคุณก็ช่วยบอกฉันทีว่าฉันไปทำอะไรให้คุณไม่พอใจตอนไหน คุณถึงมากล่าวหาฉัน” มธุราพยายามระงับอารมณ์ให้เย็นลง เพื่อจะได้ใช้โอกาสนี้ถามอีกฝ่ายกลับไปว่าเธอไปทำอะไรผิด ทำไมจะต้องมาปรับปรำเธอ แล้วก็จับเธอมากักขังจนหมดอิสรภาพ
“คุณเป็นแม่เล้า คอยหาผู้หญิงไปปรนเปรอผู้ชาย แล้วคุณก็ขายตัวเองด้วย”
“ว่าไงนะ!” ร่างเล็กถามกลับเสียงหลง เมื่อเจอข้อกล่าวหาที่ร้ายแรงหนักกว่าเดิม
‘แม่เล้า! เธอนี่เนี่ยเหรอเป็นแม่เล้า อีตาบ้านี่ ไปเอาข้อมูลมาจากไหน?’
“อย่ามาแสแสร้ง” เคลย์ริกบิดปากออกอย่างเย้ยหยัน นึกเกลียดมารยาหญิงเสียจริง แต่อย่าหวังว่ามารยาพวกนี้จะทำอะไรเขาได้!
“ฉันไม่ใช่แม่เล้า!”
“ต้องให้เอาหลักฐานมาปาใส่หน้าก่อนใช่ไหม คุณถึงจะยอมรับ!” เคลย์ริกบอกเสียงกร้าว
“ไอ้บ้า! ฉันไม่ยอมรับอะไรทั้งนั้นแหละ เพราะว่าฉันไม่ได้เป็นทั้งแม่เล้าทั้งผู้หญิง...โอ๊ย!” แพศยายังไม่ทันหลุดออกจากปาก ท่อนแขนก็ถูกมือหนากระชากอย่างแรง เสี้ยววินาทีตัวของเธอกระแทกเข้ากับแผงอกกว้าง ทรวงอกอวบเบียดชิดจนแม้แต่อากาศยังผ่านไปแทบไม่ได้
“คุณแน่ใจว่าไม่ใช่” เคลย์ริกเอ่ยเสียงเย็น พลางโน้มหน้าลงต่ำจนปลายจมูกของเขาชนกับจมูกโด่งรั้น
มธุราดิ้นรนเพื่อไปให้หลุดจากพันธนาการที่รัดแน่น ทว่ายิ่งดิ้นอกนุ่มๆ ของเธอก็ยิ่งบดเบียดกับอกกำยำ
“ว่าไง” เขาย้ำเมื่อหญิงสาวเอาแต่ดิ้นหนี
“ฉันแน่ใจ แล้วคุณก็เลิกกล่าวหาฉันซะที”
เคลย์ริกยกยิ้มมุมปากพร้อมกับดันคนตัวเล็กให้ยิ่งเข้ามาชิด
“ไอ้บ้า ปล่อยฉันนะ ปล่อย” เสียงของเธอแผ่วลงเรื่อยๆ เมื่อคนหน้าโหดฝังจมูกลงบนแก้ม กลิ่นหอมอ่อนๆ จากตัวเธอทำให้เคลย์ริกเผลอสูดดมเข้าไปเต็มปอด และนั่นก็ทำให้คนถูกสูดกลิ่นกายขนลุกซู่ไปทั้งตัว หายใจก็ไม่ทั่วท้อง
“หอม…” เคลย์ริกกระซิบข้างใบหูนุ่มนิ่มพร้อมกับสูดดมกลิ่นกายของเธอไปด้วย
“ปล่อยฉันนะไอ้โรคจิต ไอ้ลา...อื้อ!” เสียงถูกกลืนหายเมื่อปากหยักประกบจูบลงมาอย่างดุดัน ก่อนจะค่อยๆ แปรเปลี่ยนเป็นนุ่มนวล มธุราตัวอ่อนระทวยราวขี้ผึ้งถูกไฟลนเมื่อถูกจูบสูบวิญญาณ มือเล็กที่ตั้งใจประทุษร้ายกายแกร่ง เปลี่ยนเป็นเกาะเกี่ยวเขาเอาไว้เป็นที่พึ่ง เมื่อแข้งขาอ่อนแรงเหมือนจะยืนหยัดไม่อยู่
“อื้อ...”
“ปากเธอหวานเหลือเกิน มธุรา” เสียงทุ้มพร่ากระซิบชิดปากอิ่ม มือหนาเลื่อนลูบไล้ไปตามส่วนเว้าส่วนโค้ง ก่อนจะมาหยุดนิ่งที่สะโพกงามงอน บีบเคล้นหนักเบาสลับกัน ปากหยักร้ายที่ซุกไซ้ทั่วลำคอขาวหอมละมุน เลื่อนขึ้นไปประกบจูบปากอิ่มอีกครั้ง
“อื้อ ปละ...ปล่อย ปล่อยฉัน” เสียงหวานเอ่ยสั่งทันทีเมื่อปากหยักเคลื่อนไปจูบซอกคอ ลามไปถึงใบหูนุ่มนิ่ม เขาขบเม้มเบาๆ หยอกเย้าให้เจ้าของใจสั่น
“แน่ใจว่าอยากให้ปล่อย” เสียงทุ้มพร่าถามกลับ สลับกับตวัดลิ้นอุ่นไล้เลียใบหูนุ่มนิ่ม ขณะที่เจ้าของก็หดคอหนีการรุกรานพัลวัน
“ปล่อย อ๊ะ!” มธุรายื่นมือออกไปคว้าร่างใหญ่เมื่อเขาถอยห่างแบบไม่ทันให้เธอตั้งตัว
“คราวหลังอย่าอวดเก่งกับผมอีก” เพราะกลิ่นหอมที่ยั่วยวนจนทำให้เจ้าของกายใหญ่เกือบเตลิดเขาจึงรีบถอยห่างออกมา
“ฉัน…” มธุราพูดได้แค่นั้นก็ถูกคนที่เพิ่งถอยห่างออกไปยื่นมือมารวบเอวแล้วรั้งเข้ามาชิดลำตัวเช่นเดิม วินาทีต่อมาปากหยักก็กดลงบนแก้มนุ่ม
“นี่! หยุดนะ” มธุราร้องห้ามเสียงสั่นๆ เบี่ยงหน้าปากหยักสุดชีวิต
“แก้มเธอนี่หอมชะมัด” เขาพึมพำเสียงพร่า พยายามจะถอยห่างจากแก้มนุ่ม ทว่าเป็นอะไรที่ตัดใจถอยห่างยากเหลือเกิน ทั้งที่เขาก็ผ่านผู้หญิงมาหลายคน แต่ไม่เคยเจอกลิ่นกายของใครหอมเย้ายวนได้เท่าเธอคนนี้
“ยะ...อย่า อย่าทำอะไรฉันนะ” เมื่อถูกกอดรัดหนักเข้าเธอจึงรีบร้องห้ามเสียงตะกุกตะกัก ที่กว่าจะพูดจบประโยคร่างกายเบื้องล่างก็ถูกคนหน้าโหดลวนลามด้วยการขยับสะโพกสอบเบียดความแข็งขึงที่เธอรู้ดีว่าคืออะไร เลยทำให้ตอนนี้ท้องไส้ของเธอปั่นป่วนไปหมดแล้ว
ตอนที่ 10 “ชอบไหม” ถามเสียงทุ้มพร่า “ปล่อยฉันนะ ไอ้หน้าโหด อย่ามาทำทุเรศกับฉัน” สองมือเล็กผลักไสกายแกร่ง ทว่าเขาไม่ขยับเขยื้อนไปไหน “อย่าแสแสร้งว่าไม่เคยทำแบบนี้เลยยาหยี เพราะผมมั่นใจว่าผู้หญิงแพศยาอย่างคุณเคยโดนบ่อยๆ” เคลย์ริกกระซิบเสียงแหบพร่า กดปากขยี้จุมพิตบนปากอิ่มอย่างหลงใหล มือหนาก็ยังนวดเฟ้นสะโพกงามงอนอย่างสนุกมือ “อื้อ” มธุราทั้งดิ้นทั้งสะบัดหน้าหนีจุมพิต ที่หนักหน่วงขึ้นเรื่อยๆ ที่เธอรู้ตัวดีว่าหากไม่ต่อต้านเขาตอนนี้ เธออาจสูญเสียพรหมจรรย์ที่เก็บรักษามายี่สิบกว่าปีให้ไอ้หน้าโหด เล็บแหลมกดลงบนผิวเนื้อของอีกคนสุดแรง แต่เคลย์ริกไม่สะดุ้งสะเทือน “ชอบแบบรุนแรงก็ไม่บอกกันก่อนเลยนะยาหยี” เคลย์ริกถอนปากออกมากระซิบ ใบหน้าเคียดขึ้ง เพราะเวลานี้เขากำลังโกรธตัวเองที่หลงใหลไปกลิ่นกายยั่วยวนของผู้หญิงแพศยา และโกรธผู้หญ
ตอนที่ 11 “ทนให้ได้ตลอดแล้วกันยาหยี” เคลย์ริกยิ้มอย่างเป็นต่อ นั่นก็เพราะเกมนี้เขาเป็นฝ่ายชนะเห็นๆ “ฮึก...ฮือ...” น้ำตาไหลอาบสองแก้มเมื่อกางเกงที่สวมถูกปลด “น้ำตาของคุณ หยุดผมไม่ได้หรอกยาหยี” “ไอ้เลว ไอ้ชั่ว ฉันขอแช่งให้คุณตายวันนี้พรุ่งนี้ไปเลย” มธุรายอมเปิดปากในที่สุด แต่แทนที่เธอจะอ้อนวอนขอร้องให้เขาหยุดรุกรานร่างกาย กลับเป็นคำสาปแช่งแทน ซึ่งคนถูกแช่งก็น้อมรับคำแช่งด้วยรอยยิ้มบนมุมปาก “ถ้างั้นก่อนผมจะตาย ผมขอ...” เคลย์ริกหยุดพูดเมื่อได้ยินเสียงเอะอะจากด้านนอกเล็ดรอดเข้ามา ที่เขาก็ลืมไปซะสนิทว่าให้ลูกน้องโทรตามคู่ขาให้ไปรอในห้อง “ไอ้คนสารเลว ถอยไปนะ” มธุราใช้โอกาสที่อีกคนหยุดสนใจเสียงเอะอ
ตอนที่ 12 “เจ้านายแน่ใจนะครับ” เลขาฯ หนุ่มถามย้ำ “แน่ใจ! แล้วแกไม่ต้องมาเซ้าซี้หาเหตุผล ไปจัดการจ่ายเงินให้เรียบร้อย” เคลย์ริกเสียงเข้ม เพราะเดาความคิดของเลขาออกว่าตอนนี้อีกฝ่ายคงทำหน้าสงสัย “ถ้างั้นผมจะรีบจัดการให้ครับเจ้านาย แต่ผมมีอีกเรื่องที่จะแจ้งให้เจ้านายทราบ” “เรื่องอะไร” “เรื่องเลขาฯ คนใหม่ของเจ้านายครับ” “หมายถึงผู้หญิงคนที่แม่ฉันเคยแนะนำให้มาทำงานเป็นเลขาฯ ของฉันน่ะเหรอ” เคลย์ริกตอบแบบคล้ายจะพึมพำกับตัวเองมากกว่า เพราะเขาก็ลืมเรื่องนี้ไปแล้วด้วย “ใช่ครับเจ้านาย ตอนนี้เธอเรียนจบพร้อมจะมาทำงานกับเจ้านายแล้วครับ” “ถ้างั้นแกจัดการไปล่ะกันว่าจะใ
ตอนที่ 13 “เคลย์ริก คุณอย่าตัดสัมพันธ์ฉันแบบนี้เลยนะคะ ฉันรักคุณนะคะเคลย์ริก ฉันไม่เคยต้องการเงินของคุณเลย” ลีอากล่าวตัดพ้อ หลังเพิ่งจะได้รับเช็คจากคนของเลขาเมื่อไม่กี่นาทีก่อนหน้า และเพราะเหตุนี้ทำให้เธอกล้ามาดักรอเขาที่หน้าลิฟต์ เพราะไม่อยากโดนตัดสัมพันธ์ ในขณะที่เธอกำลังจะสานต่อความใกล้ชิดครั้งนี้ไปถึงขั้นแต่งงาน “นั่นมันเรื่องของคุณ” เคลย์ริกตอบกลับเสียงเย็น ก่อนจะดันตัวนักร้องสาวออกห่าง นักร้องสาวคนสวยไม่ได้อยากผละห่างเลยสักนิด แต่เมื่อเจอสายตาดุดันของชายหนุ่มทำให้เธอยอมถอยออกมาโดยไม่อิดออด “แต่เราสองคนมีความสัมพันธ์กันมานานแล้วนะคะ ฉันจริงจังกับคุณ เคลย์ริกคะ ได้โปรดอย่าเอาเงินฟาดหัวฉันเหมือนผู้หญิงคนอื่นๆ ของคุณได้ไหมคะ” นักร้องสาวใส่จริตมารยาเต็มที่ หวังจะให้ชายหนุ่มที่หมายปองหวนกลับมาคิดทบทวนเรื่องตัดสัมพันธ์เสียใหม่ “มันเ
ตอนที่ 14 “สบายเกินไปแล้ว” สิ้นเสียงทุ้มผ้าห่มที่สาวเจ้าใช้ห่มก็ถูกกระชากออกไปหล่นอยู่ข้างเตียง แต่กระนั้นก็ไม่ได้ทำให้คนขี้เซารู้สึกตัว เคลย์ริกจึงเดินไปเปิดสวิทซ์ไฟ อึดใจไฟทั้งห้องก็สว่างโร่มธุราวาดมือควานหาหมอนมาปิดหน้าปิดตาหนีแสงไฟ แต่เมื่อสำเหนียกได้ว่าตัวเธอหาได้นอนสบายอยู่บนเตียงนุ่มๆ ภายในบ้านพักหลังใหญ่ของตัวเองก็ดีดตัวลุกขึ้น “ไง นอนสบายดีไหม” น้ำเสียงแดกดันเต็มที่ ปากหยักร้ายแค่นยิ้มที่คนเห็นเกลียดแสนเกลียด มธุราเลือกจะเงียบไม่ตอบโต้ เพราะเบื่อจะต่อปากต่อคำด้วย “ไม่มีปากหรือไง ถึงไม่ยอมตอบ”“มี! แต่คุณเข้ามาในห้องฉันเวลานี้ทำไม” ถามจบแล้วเธอก็รีบโดดลงจากเตียงไปยืนหลบภัยอยู่มุมห้อง “เข้ามาทำอะไรดีล่ะ เข้ามาดูดนมคุณด
ตอนที่ 15 “อย่าคิดทำร้ายผมอีกเลยยาหยี เพราะยังไงยาหยีก็ไม่มีวันทำเสร็จ” “แต่ฉันเชื่อว่าสักวันฉันจะทำสำเร็จ” มธุราบอกอย่างมั่นใจ “สงสัยคงต้องรอชาติหน้านะยาหยี” “ชาตินี่แหละ ระวังตัวไว้ให้ดีเถอะ ไอ้คนเฮงซวย” ขู่ฟ่อๆ ทั้งที่ตอนนี้เธอยังเอาตัวไม่รอด “ปากคอคุณนี่ร้ายไม่เบาเลยนะยาหยี” “ฉันจะร้ายมากนี้แน่ ถ้าคุณยังไม่ปล่อยฉัน” มือเล็กระดมทุบตีกายแกร่งไม่ยั้ง หวังจะให้เขาปล่อย ทว่าอีกคนกลับทำหน้านิ่งเฉยใส่ซะอย่างนั้น แล้วก็เป็นเธอที่เจ็บมือซะเอง “หยุดทำไมล่ะ หรือเปลี่ยนใจจะทำข้อตกลงแล้ว งั้นก็ไปนอนคุยกันบนเตียงได้เลย เพราะข้อตกลงที่ว่า ผมต้องทดสอบดูก่อนว่าไ
ตอนที่ 16 “ยัยหมาบ้า! ปล่อย” คนถูกกัดจนจมเขี้ยวตวาดสั่ง แต่มีหรือที่คำสั่งจะเป็นผลเมื่อมธุรากดฟันกัดแน่นจนเธอได้ลิ้มรสเลือด แม้อยากอาเจียนแทบตายแต่เธอก็ฝืนทนจนกว่าจะได้รับอิสรภาพ “บ้าเฮ้ย! ยัยตัวแสบปล่อยเดี๋ยวนี้ ถ้าไม่ปล่อย เธอโดนดีแน่!” เคลย์ริกคาดโทษเสียงดังลั่นมธุราเริ่มลังเลว่าจะปล่อยดีหรือไม่ “ผมจะนับหนึ่งถึงสาม หนึ่ง!”ทันทีที่เริ่มนับเจ้าของคมเขี้ยวก็เริ่มคิดหนัก “สอง!”สันกรามบนหน้านูนเด่นชัดอย่างโมโห แต่โมโหตัวเองมากกว่าที่ดันพลาดท่าเป็นหนที่สองให้กับคนตัวเล็กที่กำลังฝังเขี้ยวบนร่างกายของเขา “สะ...” “ฉันยอมแล้ว แต่คุณห้ามทำอะไรฉันน
ตอนที่ 17 ภายในซอกตึกสูงเรียงรายกันนับสิบตึก มธุราหยุดฝีเท้าลงแล้วอิงแผ่นหลังเข้ากับผนังตึกอย่างไม่สนใจว่าสภาพตึกจะสกปรกหรือไม่ หญิงสาวยื่นหอบอยู่สักพักจนพอหายใจได้สะดวกขึ้น ก็เริ่มกวาดตามองรอบตัวที่มืดสลัว ความกลัวเริ่มจู่โจม เพราะเธอเคยได้ยินข่าวมาบ่อยครั้งว่าจะมีพวกอันธพาล ขี้ยา อาศัยอยู่ตามซอกตึกเก่าๆ เพื่อหาเหยื่อ ‘เจ้าประคูณขออย่าให้ลูกต้องหนีเสือปะจระเข้เลยนะคะ ตอนนี้ลูกแทบจะก้าวขาไม่ออกอยู่แล้ว ถ้าต้องไปเจอพวกอันธพาล ลูกต้องตายแน่’ มธุราพนมมือไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้คุ้มภัย ก่อนจะมองซ้ายแลขวาอย่างตัดสินใจว่าจะไปทางไหนต่อ เพราะเธอไม่เคยมา เงินก็ไม่มี บัตรอะไรก็ไม่มีสักอย่าง “แยกย้ายกันตามหาให้พบ” เสียงดังแว่วๆ เข้ามาทำให้คนที่กำลังพนมมือขอพรลดมืออย่างเร็ว ก่อนจะหันไปยังต้นเสียง
บทส่งท้าย สองปีต่อมา... คุณพ่อลูกหนึ่งเดินออกจากห้องพักไปยังห้องของลูกชาย ที่ตอนนี้กำลังอยู่ในอ้อมกอดของผู้เป็นแม่ ที่กำลังกล่อมลูกชายเข้านอน ที่วันนี้เจ้าตัวแสบไม่ยอมนอนเสียทีทั้งที่ตอนนี้ก็ห้าทุ่มเข้าไปแล้ว เจ้าของร่างสูงยืนพิงประตูเฝ้ามองภรรยาและลูกน้อยด้วยความรักนานเป็นสิบนาที ก่อนจะเดินเข้าไปทิ้งสะโพกนั่งบนเตียงข้างภรรยาคนสวยที่กำลังค่อยๆ วางลูกน้อยบนที่นอน “พออุ้มกล่อมเข้าหน่อยก็หลับปุ๋ยเชียวนะตัวแสบ ลูกรักของแม่” มธุราพึมพำเบาๆ แล้วโน้มหน้าลงหอมแก้มของลูกชาย ที่ยิ่งโตก็ยิ่งเหมือนพ่อ “หอมลูกแล้วก็หอมพ่อบ้างสิทูนหัว” เคลย์ริกโน้มเข้าไปกระซิบ “แก้มคุณฉันหอมจนเบื่อแล้ว อีกอย่างแก้มคุ
อวสาน หลังจบอาหารค่ำ ที่วันนี้ครอบครัวแม็คแคลตันก็เดินทางมารับประทานอาหารค่ำที่บ้านศิริโชคธนาอีกครั้งเพื่อสร้างความสนิทสนิมแก่สองครอบครัวที่กำลังจะเกี่ยวดองกัน เคลย์ริกก็เดินกุมมือคนตัวเล็กออกมาเดินเล่นที่สวนดอกไม้หน้าบ้าน ในค่ำคืนที่พระจันทร์เต็มดวง ประหนึ่งว่ากำลังเป็นสักขีพยานในความรักของสองหนุ่มสาว ที่โชคชะตานำพาให้มาพบกันด้วยเรื่องเข้าใจผิด “ส่ายหน้าทำไมยาหยี” เคลย์ริกเอ่ยถามเมื่อคนตัวเล็กยิ้มแล้วก็ส่ายหน้าไปมา “ไม่อยากเชื่อเลยนะคะว่าเราสองคนกำลังจะแต่งงานกัน ฉันจำได้ว่าวันแรกที่เราพบกัน คุณกับฉันแทบจะฆ่ากันตาย” มธุราเงยหน้าขึ้นตอบคนตัวโต ส่วนคนที่ทำให้คนหน้าโหดเข้าใจผิด ตอนนี้เธอและครอบครัวของฝ่ายนั้นก็ไม่ได้ติดต่อกันนานแล้ว แต่ก็รู้มาว่าพี่สาวคนสนิทกำลังจะแต่งงานกับนับธุรกิจชาวสิงค์โปร “ก็
ตอนที่ 52หลังกลับจากเยี่ยมผู้อาวุโสและอยู่รับประทานอาหารค่ำกันแล้ว เคลย์ริกก็พามธุราเดินทางกลับบ้านพัก ที่ทุกครั้งที่ไปเยี่ยมผู้อาวุโส ที่ตอนนี้รักษาตัวจนหายป่วยเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์แล้วนับตั้งแต่ออกจากโรงพยาบาลได้เกือบสองสัปดาห์ และทุกครั้งที่ไปเยี่ยม ท่านก็ถามเรื่องแต่งงานระหว่างเธอกับคนหน้าโหดทุกครั้ง ‘ผมจะแต่งงานเร็วๆ นี้ครับ คุณตาตัดชุดรอเลยนะครับ’ นั่นคือคำตอบขอบคนหน้าโหดที่ให้คำตอบกับผู้อาวุโสก่อนจะเดินทางกลับที่พัก เธอสังเกตเห็นว่าสีหน้าของผู้อาวุโสดูมีความสุขมากที่ได้รู้ว่าหลานชายจะมีครอบครัว ส่วนเธอก็ยอมรับแหละว่าที่ผ่านมาเธอเปิดรับให้คนหน้าโหดเข้ามาจองพื้นที่ในหัวใจไปแล้ว ส่วนเรื่องแต่งงาน เธอยังไม่ได้บอกครอบครัว‘บอกพี่มาร์ชก่อน แล้วค่อยบอกคุณแม่ดีกว่า’ คิดแล้วก็หยิบโทรศัพท์ จะกดโทรออกอยู่สองสามรอบก็เปลี่ยนใจ ก่อนจะตัดสินใจโทรหาพี่ชายในที่สุด “แ
ตอนที่ 51 ก๊อกๆ “เจ้านายครับ” เสียงเคาะประตูและเสียงของจีโอดังขัดจังหวะการสนทนา ก่อนที่เคลย์ริกจะส่งเสียงบอกให้เข้ามา “มีอะไร” “คนที่บ้านคุณเนอร์แมนเพิ่งโทรมาแจ้งว่าคุณเคอร์ตินกลับมาที่บ้านครับ” เคลย์ริกฟังแล้วก็ไม่ได้ตอบอะไร เขาหันมาบอกให้มธุรารออยู่ที่นี่ ส่วนเขาและจีโอก็รีบเดินทางไปบ้านพักของผู้เป็นตา ที่เวลานี้สถานการณ์ไม่ค่อยดีนักเมื่อเคอร์ตินย้อนกลับมาหวังจะเอาทรัพย์สินไปใช้เพื่อการหลบหนี แต่คนเป็นพ่อบอกให้มอบตัวและยังหวังให้ลูกชายกลับเนื้อกลับตัว “ไม่! ผมไม่อยากติดคุก” “เคอร์ติน พ่อขอร้อง แกวางปืนลงเถอะ แ
ตอนที่ 50 “ดีขึ้นไหมคะ” เธอถามหลังจากปล่อยให้เขากอดอยู่พักใหญ่ ด้านเคลย์ริกก็คลายมือออกแล้วมาจับคางมน “ผมขอโทษนะที่ต้องพาคุณมาเจอเรื่องร้ายๆ แต่ผมสัญญาว่าจะไม่ให้เกิดเรื่องพวกนี้ขึ้นอีก คุณจะอยู่กับผมใช่ไหม ยาหยี” มธุราฟังแล้วก็ยิ้มอย่างเดียว “ว่าไงยาหยี หรือคุณคิดจะไปจากผม” “ฉัน…เอ่อ…” “ผมผิดเองที่ทำให้การพบเจอกันของเราไม่ค่อยดี แล้วผมก็โง่เองที่ไม่สืบให้ดีๆ จนไปจับตัวคุณมา แต่ผมก็ดีใจที่จับมาผิดคน เพราะถ้าจับถูกคน ผมคงไม่ได้เจอกับคุณ” เคลย์ริกบอกเมื่อคนตัวเล็กเอาแต่อ้ำอึ้ง ส่วนผู้หญิงที่ทำให้เขาเข้าใจผิดว่าเป็นสาเหตุทำให้มารดาตรอมใจจนล้มป่วยและจากไปนั้น หากมีโอกาสได้เจอกันเขาจะ
ตอนที่ 49 วันต่อมา… เหตุการณ์ร้ายเมื่อคืนกลายเป็นข่าวดังและผู้คนก็ให้ความสนใจเป็นอย่างมาก เมื่อมีการประโคมข่าวว่ามีคนในตระกูลแม็คแคลตันมีส่วนในเรื่องนี้ ก๊อกๆ “เข้ามา” เมื่อได้รับอนุญาตจีโอก็เปิดประตูเข้ามารายงานความคืบหน้าถึงเหตุการณ์เมื่อคืน ที่พอเกิดเรื่องทั้งผู้เป็นตา บิดา และน้องชายฝาแฝด ต่างโทรมาถามไถ่ถึงเรื่องที่เกิดและเมื่อทุกคนรู้ว่าเคลย์ริกปลอดภัยก็โล่งใจไปตามๆ กัน “ได้เรื่องอะไรบ้าง” เคลย์ริกเอ่ยถามลูกน้องเสียงเรียบ ด้าน จีโอก็รายงานความคืบหน้าให้กับเจ้านายฟังอย่างไม่รีรอ ที่ตอนนี้ทางตำรวจแจ้งมาว่าฮาร์วี่ย์เริ่มซักทอ
ตอนที่ 48 “คุณเคลย์ริก คุณไม่กลัวเลยเหรอ” มธุราเอ่ยถามเสียงสั่น หลังสถานการณ์สงบลง โดยที่พวกคนร้ายก็พากันถูกจับ บ้างก็หนีรอดไปได้ ซึ่งตำรวจก็แยกย้ายกันไปตามจับกุม บางส่วนก็นอนเจ็บล้มตายเป็นที่น่าสยดสยองสำหรับคนที่เพิ่งประสบพบเจอเหตุการณ์แบบนี้อย่างมธุรา “แล้วคุณกลัวหรือยาหยี” “ฉันกลัวจนหัวใจจะวายตายอยู่แล้ว นี่ถ้าตำรวจไม่มา ฉันคงตายอยู่ในรถไปแล้ว” “ผมไม่มีวันปล่อยให้เมียตัวเองตายหรอก เชื่อใจผมนะ ผมจะดูแลและปกป้องคุณเอง” “แล้วคุณคิดว่าเราจะรอดได้ทุกครั้งเหรอ” “ผมจะไม่ยอมให้พวกมันทำแบบนี้อีกแล้ว” “ค่ะ แล้วนี่ลูก
ตอนที่ 47 เคลย์ริกรับฟังเรื่องราวที่เกิดขึ้นด้วยแววตาที่ค่อยๆ แดงก่ำ และในที่สุดเขาก็ไม่อาจข่มกลั้นน้ำตาเอาไว้ได้ เมื่อได้รับรู้ความจริงแสนเจ็บปวด จากคนที่เขารักและเคารพมากที่สุดในชีวิต เป็นคนทำให้พ่อแท้ๆ ของเขาต้องตาย และทำให้มารดาของเขาตรอมใจจนล้มป่วยจนจากเขาและน้องๆ ไป “เคลย์ริก ตาขอโทษ” ผู้อาวุโสบอกหลานชายเสียงสั่นเครือ ท่านยื่นมือไปจะวางบนหลังมือของหลานชาย ทว่าเคลย์ริกที่เจ็บปวดกับสิ่งที่ได้รับรู้ลุกขึ้นและเดินออกมา “เคลย์ริก!! เคลย์ริก!!”ไทร์เฟียและเนอร์แมนพากันเอ่ยเรียก แต่เจ้าของร่างสูงใหญ่กลับยิ่งเร่งฝีเท้าออกไป กระทั่งมาถึงห้องโถงซึ่งมธุราก็เดินหอบหนังสือออกมาพอดี ทั้งที่ความจริงเธอแค่อ้างเพื่อเปิดโอกาสให้ครอบครัวแม็คแคลตันได้พูดคุยกันตามลำพัง แต่เผอิญไปเจอหนังสือที่อยากอ่านมานาน เธอจึงหอบเอามาด้วย&nbs
ตอนที่ 46“อย่าโกรธผมเลยนะยาหยี ที่ผมทำไปก็เพราะผมเป็นห่วง แล้วก็หวงคุณนะยาหยี”“พอเลยไม่ต้องพูดแล้ว แล้วคุณก็ช่วยปล่อยฉันด้วย ฉันมีเรื่องสำคัญต้องเจรจากับคุณ” “เรื่องอะไรเหรอยาหยี” “คุณอย่าแกล้งทำเป็นไม่รู้เลย” “ผมไม่รู้จริงๆ นะยาหยี” มธุราถอนหายใจดังพรืดให้กับความแกล้งซื่อของคนหน้าโหด ก่อนจะบอกเขาไปเสียงดังฟังชัด “ฉันรู้ว่าคุณส่งลิเบอร์ไปจัดการเรื่องภายในครอบครัวของฉัน แล้วที่ฉันมานี่ ฉันก็มาเพื่อจะขอเจราเรื่องเวลาชดใช้เงินกับคุณใหม่ เพราะเวลาแค่สามเดือน ฉันกับพี่ชายหาไม่ทัน” “แล้วทำไมยาหยีถึงคิดว่าเป็นผมล่ะ”&