ตอนที่ 10
“ชอบไหม” ถามเสียงทุ้มพร่า
“ปล่อยฉันนะ ไอ้หน้าโหด อย่ามาทำทุเรศกับฉัน” สองมือเล็กผลักไสกายแกร่ง ทว่าเขาไม่ขยับเขยื้อนไปไหน
“อย่าแสแสร้งว่าไม่เคยทำแบบนี้เลยยาหยี เพราะผมมั่นใจว่าผู้หญิงแพศยาอย่างคุณเคยโดนบ่อยๆ” เคลย์ริกกระซิบเสียงแหบพร่า กดปากขยี้จุมพิตบนปากอิ่มอย่างหลงใหล มือหนาก็ยังนวดเฟ้นสะโพกงามงอนอย่างสนุกมือ
“อื้อ” มธุราทั้งดิ้นทั้งสะบัดหน้าหนีจุมพิต ที่หนักหน่วงขึ้นเรื่อยๆ ที่เธอรู้ตัวดีว่าหากไม่ต่อต้านเขาตอนนี้ เธออาจสูญเสียพรหมจรรย์ที่เก็บรักษามายี่สิบกว่าปีให้ไอ้หน้าโหด เล็บแหลมกดลงบนผิวเนื้อของอีกคนสุดแรง แต่เคลย์ริกไม่สะดุ้งสะเทือน
“ชอบแบบรุนแรงก็ไม่บอกกันก่อนเลยนะยาหยี” เคลย์ริกถอนปากออกมากระซิบ ใบหน้าเคียดขึ้ง เพราะเวลานี้เขากำลังโกรธตัวเองที่หลงใหลไปกลิ่นกายยั่วยวนของผู้หญิงแพศยา และโกรธผู้หญิงอวดเก่งที่กล้าทำร้ายร่างกายเขา
เคลย์ริกถอยห่างจากเรือนร่างน่าปรารถนา คนที่กำลังจะพ่ายแพ้ต่อแรงอารมณ์ใจชื้นขึ้นมา เมื่อเขาถอยห่างออกไป เธอเตรียมการจะเผ่นหนี
ทว่า...
“กรี๊ด!!” หญิงสาวกรีดร้องเสียงหลงเมื่อร่างถูกเหวี่ยงลงบนเตียงแบบไม่ออมแรง ทำให้ร่างกระเด็นกระดอนจนแทบร่วงจากเตียง
“ที่ร้องลั่นห้องเพราะชอบใช่ไหมความรุนแรงใช่ไหม” คนที่กำลังพ่ายต่อแรงปรารถนาตวาดถาม สายตาของเขาก็จดจ้องไปยังร่างปรารถนา ในใจก็คิดอย่างสับสนกับแรงปรารถนาที่มีต่อผู้หญิงที่เขาตราหน้าว่าแพศยา!
‘ไอ้บ้า ไอ้โรคจิต เหวี่ยงมาได้’ มธุราบ่นด่าคนหน้าโหดในใจด้วยสีหน้าเหยเก แต่เวลานี้เธอไม่ควรมัวสำออยให้เขาเห็น หญิงสาวเลยกัดฟันอดทนกับความมึนงงและเจ็บที่ถูกเหวี่ยง ขยับกายถอยหนีอีกคนที่เดินเข้ามาและไม่กี่วินาทีผ้าเช็ดตัวก็ถูกดึงออกจากสะโพกสอบ
มธุราตาโตจนแทบถลน ทั้งตกใจทั้งกลัวเมื่อรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับตัวเอง เธอพลิกตัวหันหลังเผ่นลงจากเตียง ทว่าเท้าเหยียบพื้นไปเพียงแค่เสี้ยววินาทีร่างก็ถูกกระชากกลับมา
“กรี๊ด!! ปล่อยฉันนะ ไอ้บ้า ไอ้โรคจิต ปล่อย!”
“คิดว่าจะหนีได้ง่ายๆ เหรอยาหยี” สิ้นเสียงทุ้มลำตัวที่ปราศจากเสื้อผ้าก็เข้ามาเบียดชิดกับร่างเล็ก ที่ตอนนี้หน้าแดงเป็นลูกตำลึงสุก เพราะตัวตนที่แข็งและร้อนของเขาเบียดสะโพกของเธอ แม้เวลานี้เธอจะสวมเสื้อผ้าแต่ไอร้อนจากส่วนนั้นของเขาก็ทะลุผ่านเข้ามาให้เธอใจหายใจคว่ำได้
“ไอ้คนลามก โรคจิต ปล่อยฉันนะ”
“ฝันไปเถอะ”
คำตอบนั่นดับสิ้นหนทางรอดของคนตัวเล็กแต่ถึงกระนั้นเจ้าตัวก็ยังไม่เลิกดิ้นรน
“คุณไม่มีสิทธิ์มาทำอะไรกับฉันแบบนี้ ปล่อยฉัน” มธุราดิ้นรนโดยไม่รู้เลยว่าทำให้ร่างกายสัมผัสเสียดสีกันและกันมากยิ่งขึ้น
“ก็บอกแล้วไงว่าฝันไปเถอะ ฟังภาษาคนไม่รู้เรื่องหรือไง หรือต้องให้พูดภาษากาย คุณถึงจะเข้าใจ” ตอบกลับไปแล้วก็เผยยิ้มยียวนกวนประสาทคนตัวเล็ก ที่ทั้งกลัวทั้งโกรธ
“ฉันไม่อยากเข้าใจอะไรทั้งนั้น แล้วก็ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ ไม่งั้นฉัน...ฉันจะไปฟ้องตำรวจให้มาลากคอคุณเข้าคุก ถ้าคุณขืนใจฉัน” คนเสียเปรียบเริ่มเอากฎหมายมาข่มขู่ด้วยน้ำเสียงไม่ค่อยมั่นใจนัก นั่นก็เพราะหนทางหลุดพ้นจากพันธนการของผู้ชายหน้าโหดริบหรี่เหลือเกิน
“ก่อนจะได้ไปฟ้องตำรวจ คุณคงป่นปี้หมดแล้วยาหยี”
“ไอ้...”
“อย่าปากร้ายให้มากนักยาหยี” เคลย์ริกทำเสียงขัดใจ ก่อนจะมองคนตัวเล็กด้วยสายตาหื่นกระหาย
“หยุดมองฉันด้วยสายตาแบบนี้นะ”
“ผมล่ะอยากรู้จริงๆ ว่าผู้หญิงอย่างคุณมีอะไรเป็นทีเด็ด ทำไมผู้ชายถึงได้ชอบกันนัก ว่าแต่ภายในหนึ่งวัน คุณรับแขกกี่คน” เคลย์ริกแสยะยิ้มร้าย ก่อนจะกระชากร่างเล็กที่ไม่สิ้นฤทธิ์เข้ามานอนแผ่หลาอยู่ใต้ร่าง
“ปล่อยฉันนะไอ้บ้า ไอ้โรคจิต” มธุราทั้งร้องทั้งตบตีและทำอีกสารพัดเพื่อให้ตัวเองหลุดพ้นจากคนโรคจิต ที่คงจะโรคจิตขั้นวิกฤติแล้ว เพราะไม่ว่าเธอจะตะโกนด่าอะไรออกไปเขาก็ทำแค่แสยะยิ้มที่เธอเกลียดแสนเกลียดกลับมา
“เปลี่ยนจากร้องให้ปล่อย มาเป็นแสดงทีเด็ดดีกว่านะยาหยี แล้วจากนั้นเราจะได้สนุกด้วยกัน” เคลย์ริกก้มหน้าลงต่ำแล้วทาบริมฝีปากลงปากอิ่ม ที่เจ้าของเม้มแน่น แต่นั่นไม่ใช่ปัญหาสำหรับคนที่เจนจัดเรื่องบนเตียงอย่างเคลย์ริก
“อื้อ!” ใบหน้าสวยส่ายไปมาเพื่อห้ามปรามคนโรคจิต
“จะเล่นแบบนี้ใช่ไหม” เคลย์ริกเลื่อนมือข้างหนึ่งขึ้นไปหยอกล้อกับทรวงอกผ่านเนื้อผ้าที่เธอสวมใส่ แต่แม้จะมีเนื้อผ้าขวางกั้นอยู่ ทว่าแรงสัมผัสที่จาบจ้วงก็ทำให้เจ้าของทรวงอก สั่นสะท้านและสับสนกับความรู้สึกที่ตีรวนอยู่ในร่างกาย ทั้งร้อนทั้งหนาวจนอยากเปล่งเสียงออกมาดังๆ ทว่าเธอไม่อาจขยับปากปลดปล่อยเสียงออกมาได้ เพราะหากทำเช่นนั้นก็จะเป็นการเปิดโอกาสให้คนเหนือร่างได้ฉกฉวยเข้าไปช่วงชิงน้ำหวานภายในปากของเธอ ที่เธอรู้ดีว่าหากถูกจูบเมื่อไหร่ เธอจะโอนอ่อนให้ผู้ชายคนนี้ในไม่ช้า
“อื้อๆ” มธุราได้แต่ส่งเสียงครางอืออาในลำคอ ขยับกายหนีมือใหญ่ที่กำลังเคล้นคลึงอกอวบ
ตอนที่ 11 “ทนให้ได้ตลอดแล้วกันยาหยี” เคลย์ริกยิ้มอย่างเป็นต่อ นั่นก็เพราะเกมนี้เขาเป็นฝ่ายชนะเห็นๆ “ฮึก...ฮือ...” น้ำตาไหลอาบสองแก้มเมื่อกางเกงที่สวมถูกปลด “น้ำตาของคุณ หยุดผมไม่ได้หรอกยาหยี” “ไอ้เลว ไอ้ชั่ว ฉันขอแช่งให้คุณตายวันนี้พรุ่งนี้ไปเลย” มธุรายอมเปิดปากในที่สุด แต่แทนที่เธอจะอ้อนวอนขอร้องให้เขาหยุดรุกรานร่างกาย กลับเป็นคำสาปแช่งแทน ซึ่งคนถูกแช่งก็น้อมรับคำแช่งด้วยรอยยิ้มบนมุมปาก “ถ้างั้นก่อนผมจะตาย ผมขอ...” เคลย์ริกหยุดพูดเมื่อได้ยินเสียงเอะอะจากด้านนอกเล็ดรอดเข้ามา ที่เขาก็ลืมไปซะสนิทว่าให้ลูกน้องโทรตามคู่ขาให้ไปรอในห้อง “ไอ้คนสารเลว ถอยไปนะ” มธุราใช้โอกาสที่อีกคนหยุดสนใจเสียงเอะอ
ตอนที่ 12 “เจ้านายแน่ใจนะครับ” เลขาฯ หนุ่มถามย้ำ “แน่ใจ! แล้วแกไม่ต้องมาเซ้าซี้หาเหตุผล ไปจัดการจ่ายเงินให้เรียบร้อย” เคลย์ริกเสียงเข้ม เพราะเดาความคิดของเลขาออกว่าตอนนี้อีกฝ่ายคงทำหน้าสงสัย “ถ้างั้นผมจะรีบจัดการให้ครับเจ้านาย แต่ผมมีอีกเรื่องที่จะแจ้งให้เจ้านายทราบ” “เรื่องอะไร” “เรื่องเลขาฯ คนใหม่ของเจ้านายครับ” “หมายถึงผู้หญิงคนที่แม่ฉันเคยแนะนำให้มาทำงานเป็นเลขาฯ ของฉันน่ะเหรอ” เคลย์ริกตอบแบบคล้ายจะพึมพำกับตัวเองมากกว่า เพราะเขาก็ลืมเรื่องนี้ไปแล้วด้วย “ใช่ครับเจ้านาย ตอนนี้เธอเรียนจบพร้อมจะมาทำงานกับเจ้านายแล้วครับ” “ถ้างั้นแกจัดการไปล่ะกันว่าจะใ
ตอนที่ 13 “เคลย์ริก คุณอย่าตัดสัมพันธ์ฉันแบบนี้เลยนะคะ ฉันรักคุณนะคะเคลย์ริก ฉันไม่เคยต้องการเงินของคุณเลย” ลีอากล่าวตัดพ้อ หลังเพิ่งจะได้รับเช็คจากคนของเลขาเมื่อไม่กี่นาทีก่อนหน้า และเพราะเหตุนี้ทำให้เธอกล้ามาดักรอเขาที่หน้าลิฟต์ เพราะไม่อยากโดนตัดสัมพันธ์ ในขณะที่เธอกำลังจะสานต่อความใกล้ชิดครั้งนี้ไปถึงขั้นแต่งงาน “นั่นมันเรื่องของคุณ” เคลย์ริกตอบกลับเสียงเย็น ก่อนจะดันตัวนักร้องสาวออกห่าง นักร้องสาวคนสวยไม่ได้อยากผละห่างเลยสักนิด แต่เมื่อเจอสายตาดุดันของชายหนุ่มทำให้เธอยอมถอยออกมาโดยไม่อิดออด “แต่เราสองคนมีความสัมพันธ์กันมานานแล้วนะคะ ฉันจริงจังกับคุณ เคลย์ริกคะ ได้โปรดอย่าเอาเงินฟาดหัวฉันเหมือนผู้หญิงคนอื่นๆ ของคุณได้ไหมคะ” นักร้องสาวใส่จริตมารยาเต็มที่ หวังจะให้ชายหนุ่มที่หมายปองหวนกลับมาคิดทบทวนเรื่องตัดสัมพันธ์เสียใหม่ “มันเ
ตอนที่ 14 “สบายเกินไปแล้ว” สิ้นเสียงทุ้มผ้าห่มที่สาวเจ้าใช้ห่มก็ถูกกระชากออกไปหล่นอยู่ข้างเตียง แต่กระนั้นก็ไม่ได้ทำให้คนขี้เซารู้สึกตัว เคลย์ริกจึงเดินไปเปิดสวิทซ์ไฟ อึดใจไฟทั้งห้องก็สว่างโร่มธุราวาดมือควานหาหมอนมาปิดหน้าปิดตาหนีแสงไฟ แต่เมื่อสำเหนียกได้ว่าตัวเธอหาได้นอนสบายอยู่บนเตียงนุ่มๆ ภายในบ้านพักหลังใหญ่ของตัวเองก็ดีดตัวลุกขึ้น “ไง นอนสบายดีไหม” น้ำเสียงแดกดันเต็มที่ ปากหยักร้ายแค่นยิ้มที่คนเห็นเกลียดแสนเกลียด มธุราเลือกจะเงียบไม่ตอบโต้ เพราะเบื่อจะต่อปากต่อคำด้วย “ไม่มีปากหรือไง ถึงไม่ยอมตอบ”“มี! แต่คุณเข้ามาในห้องฉันเวลานี้ทำไม” ถามจบแล้วเธอก็รีบโดดลงจากเตียงไปยืนหลบภัยอยู่มุมห้อง “เข้ามาทำอะไรดีล่ะ เข้ามาดูดนมคุณด
ตอนที่ 15 “อย่าคิดทำร้ายผมอีกเลยยาหยี เพราะยังไงยาหยีก็ไม่มีวันทำเสร็จ” “แต่ฉันเชื่อว่าสักวันฉันจะทำสำเร็จ” มธุราบอกอย่างมั่นใจ “สงสัยคงต้องรอชาติหน้านะยาหยี” “ชาตินี่แหละ ระวังตัวไว้ให้ดีเถอะ ไอ้คนเฮงซวย” ขู่ฟ่อๆ ทั้งที่ตอนนี้เธอยังเอาตัวไม่รอด “ปากคอคุณนี่ร้ายไม่เบาเลยนะยาหยี” “ฉันจะร้ายมากนี้แน่ ถ้าคุณยังไม่ปล่อยฉัน” มือเล็กระดมทุบตีกายแกร่งไม่ยั้ง หวังจะให้เขาปล่อย ทว่าอีกคนกลับทำหน้านิ่งเฉยใส่ซะอย่างนั้น แล้วก็เป็นเธอที่เจ็บมือซะเอง “หยุดทำไมล่ะ หรือเปลี่ยนใจจะทำข้อตกลงแล้ว งั้นก็ไปนอนคุยกันบนเตียงได้เลย เพราะข้อตกลงที่ว่า ผมต้องทดสอบดูก่อนว่าไ
ตอนที่ 16 “ยัยหมาบ้า! ปล่อย” คนถูกกัดจนจมเขี้ยวตวาดสั่ง แต่มีหรือที่คำสั่งจะเป็นผลเมื่อมธุรากดฟันกัดแน่นจนเธอได้ลิ้มรสเลือด แม้อยากอาเจียนแทบตายแต่เธอก็ฝืนทนจนกว่าจะได้รับอิสรภาพ “บ้าเฮ้ย! ยัยตัวแสบปล่อยเดี๋ยวนี้ ถ้าไม่ปล่อย เธอโดนดีแน่!” เคลย์ริกคาดโทษเสียงดังลั่นมธุราเริ่มลังเลว่าจะปล่อยดีหรือไม่ “ผมจะนับหนึ่งถึงสาม หนึ่ง!”ทันทีที่เริ่มนับเจ้าของคมเขี้ยวก็เริ่มคิดหนัก “สอง!”สันกรามบนหน้านูนเด่นชัดอย่างโมโห แต่โมโหตัวเองมากกว่าที่ดันพลาดท่าเป็นหนที่สองให้กับคนตัวเล็กที่กำลังฝังเขี้ยวบนร่างกายของเขา “สะ...” “ฉันยอมแล้ว แต่คุณห้ามทำอะไรฉันน
ตอนที่ 17 ภายในซอกตึกสูงเรียงรายกันนับสิบตึก มธุราหยุดฝีเท้าลงแล้วอิงแผ่นหลังเข้ากับผนังตึกอย่างไม่สนใจว่าสภาพตึกจะสกปรกหรือไม่ หญิงสาวยื่นหอบอยู่สักพักจนพอหายใจได้สะดวกขึ้น ก็เริ่มกวาดตามองรอบตัวที่มืดสลัว ความกลัวเริ่มจู่โจม เพราะเธอเคยได้ยินข่าวมาบ่อยครั้งว่าจะมีพวกอันธพาล ขี้ยา อาศัยอยู่ตามซอกตึกเก่าๆ เพื่อหาเหยื่อ ‘เจ้าประคูณขออย่าให้ลูกต้องหนีเสือปะจระเข้เลยนะคะ ตอนนี้ลูกแทบจะก้าวขาไม่ออกอยู่แล้ว ถ้าต้องไปเจอพวกอันธพาล ลูกต้องตายแน่’ มธุราพนมมือไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้คุ้มภัย ก่อนจะมองซ้ายแลขวาอย่างตัดสินใจว่าจะไปทางไหนต่อ เพราะเธอไม่เคยมา เงินก็ไม่มี บัตรอะไรก็ไม่มีสักอย่าง “แยกย้ายกันตามหาให้พบ” เสียงดังแว่วๆ เข้ามาทำให้คนที่กำลังพนมมือขอพรลดมืออย่างเร็ว ก่อนจะหันไปยังต้นเสียง
ตอนที่ 18 ภายในห้องผู้โดยสารของรถหรูตกอยู่ในความเงียบตั้งแต่รถเคลื่อนตัวออกจากสถานีตำรวจ กระทั่งกำลังเคลื่อนผ่านประตูรัวสูงสามเมตรเข้ามายังคฤหาสน์ของตระกูลแม็คแคลตัน ทำให้คนที่ถูกบังคับแกมขู่เข็ญให้กลับมาอยู่ที่บ้านยิ่ง ทำหน้าบอกบุญไม่รับ เพราะเจ้าตัวต้องการกลับไปอยู่เพนท์เฮาส์มากกว่า เพราะสะดวกในทุกๆ เรื่อง โดยเฉพาะเรื่องบนเตียง ซึ่งถ้าเขากลับมาอยู่คฤหาสน์คงจะพาสาวๆ เข้ามาหาความสุขไม่ได้ เนื่องจากเป็นกฎเหล็กของบ้าน ที่ห้ามคนในบ้านพาผู้หญิงเข้ามา นอกเสียจากเธอคนนั้นจะเป็นคนสำคัญ “คุณเคลย์ริก วันนี้มาเสียดึกนะครับ แล้วจะรับอะไรดี เดี๋ยวผมเข้าครัวจัดเตรียมมาให้” อัลเฟรด พ่อบ้านประจำคฤหาสน์ออกมาต้อนรับและทักทายด้วยรอยยิ้มปนประหลาดใจที่เห็นทายาทคนโตของนายท่านกลับมาที่บ้านในเวลานี้ “ไม่ต้องครับ ผมแค่แวะมาส
บทส่งท้าย สองปีต่อมา... คุณพ่อลูกหนึ่งเดินออกจากห้องพักไปยังห้องของลูกชาย ที่ตอนนี้กำลังอยู่ในอ้อมกอดของผู้เป็นแม่ ที่กำลังกล่อมลูกชายเข้านอน ที่วันนี้เจ้าตัวแสบไม่ยอมนอนเสียทีทั้งที่ตอนนี้ก็ห้าทุ่มเข้าไปแล้ว เจ้าของร่างสูงยืนพิงประตูเฝ้ามองภรรยาและลูกน้อยด้วยความรักนานเป็นสิบนาที ก่อนจะเดินเข้าไปทิ้งสะโพกนั่งบนเตียงข้างภรรยาคนสวยที่กำลังค่อยๆ วางลูกน้อยบนที่นอน “พออุ้มกล่อมเข้าหน่อยก็หลับปุ๋ยเชียวนะตัวแสบ ลูกรักของแม่” มธุราพึมพำเบาๆ แล้วโน้มหน้าลงหอมแก้มของลูกชาย ที่ยิ่งโตก็ยิ่งเหมือนพ่อ “หอมลูกแล้วก็หอมพ่อบ้างสิทูนหัว” เคลย์ริกโน้มเข้าไปกระซิบ “แก้มคุณฉันหอมจนเบื่อแล้ว อีกอย่างแก้มคุ
อวสาน หลังจบอาหารค่ำ ที่วันนี้ครอบครัวแม็คแคลตันก็เดินทางมารับประทานอาหารค่ำที่บ้านศิริโชคธนาอีกครั้งเพื่อสร้างความสนิทสนิมแก่สองครอบครัวที่กำลังจะเกี่ยวดองกัน เคลย์ริกก็เดินกุมมือคนตัวเล็กออกมาเดินเล่นที่สวนดอกไม้หน้าบ้าน ในค่ำคืนที่พระจันทร์เต็มดวง ประหนึ่งว่ากำลังเป็นสักขีพยานในความรักของสองหนุ่มสาว ที่โชคชะตานำพาให้มาพบกันด้วยเรื่องเข้าใจผิด “ส่ายหน้าทำไมยาหยี” เคลย์ริกเอ่ยถามเมื่อคนตัวเล็กยิ้มแล้วก็ส่ายหน้าไปมา “ไม่อยากเชื่อเลยนะคะว่าเราสองคนกำลังจะแต่งงานกัน ฉันจำได้ว่าวันแรกที่เราพบกัน คุณกับฉันแทบจะฆ่ากันตาย” มธุราเงยหน้าขึ้นตอบคนตัวโต ส่วนคนที่ทำให้คนหน้าโหดเข้าใจผิด ตอนนี้เธอและครอบครัวของฝ่ายนั้นก็ไม่ได้ติดต่อกันนานแล้ว แต่ก็รู้มาว่าพี่สาวคนสนิทกำลังจะแต่งงานกับนับธุรกิจชาวสิงค์โปร “ก็
ตอนที่ 52หลังกลับจากเยี่ยมผู้อาวุโสและอยู่รับประทานอาหารค่ำกันแล้ว เคลย์ริกก็พามธุราเดินทางกลับบ้านพัก ที่ทุกครั้งที่ไปเยี่ยมผู้อาวุโส ที่ตอนนี้รักษาตัวจนหายป่วยเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์แล้วนับตั้งแต่ออกจากโรงพยาบาลได้เกือบสองสัปดาห์ และทุกครั้งที่ไปเยี่ยม ท่านก็ถามเรื่องแต่งงานระหว่างเธอกับคนหน้าโหดทุกครั้ง ‘ผมจะแต่งงานเร็วๆ นี้ครับ คุณตาตัดชุดรอเลยนะครับ’ นั่นคือคำตอบขอบคนหน้าโหดที่ให้คำตอบกับผู้อาวุโสก่อนจะเดินทางกลับที่พัก เธอสังเกตเห็นว่าสีหน้าของผู้อาวุโสดูมีความสุขมากที่ได้รู้ว่าหลานชายจะมีครอบครัว ส่วนเธอก็ยอมรับแหละว่าที่ผ่านมาเธอเปิดรับให้คนหน้าโหดเข้ามาจองพื้นที่ในหัวใจไปแล้ว ส่วนเรื่องแต่งงาน เธอยังไม่ได้บอกครอบครัว‘บอกพี่มาร์ชก่อน แล้วค่อยบอกคุณแม่ดีกว่า’ คิดแล้วก็หยิบโทรศัพท์ จะกดโทรออกอยู่สองสามรอบก็เปลี่ยนใจ ก่อนจะตัดสินใจโทรหาพี่ชายในที่สุด “แ
ตอนที่ 51 ก๊อกๆ “เจ้านายครับ” เสียงเคาะประตูและเสียงของจีโอดังขัดจังหวะการสนทนา ก่อนที่เคลย์ริกจะส่งเสียงบอกให้เข้ามา “มีอะไร” “คนที่บ้านคุณเนอร์แมนเพิ่งโทรมาแจ้งว่าคุณเคอร์ตินกลับมาที่บ้านครับ” เคลย์ริกฟังแล้วก็ไม่ได้ตอบอะไร เขาหันมาบอกให้มธุรารออยู่ที่นี่ ส่วนเขาและจีโอก็รีบเดินทางไปบ้านพักของผู้เป็นตา ที่เวลานี้สถานการณ์ไม่ค่อยดีนักเมื่อเคอร์ตินย้อนกลับมาหวังจะเอาทรัพย์สินไปใช้เพื่อการหลบหนี แต่คนเป็นพ่อบอกให้มอบตัวและยังหวังให้ลูกชายกลับเนื้อกลับตัว “ไม่! ผมไม่อยากติดคุก” “เคอร์ติน พ่อขอร้อง แกวางปืนลงเถอะ แ
ตอนที่ 50 “ดีขึ้นไหมคะ” เธอถามหลังจากปล่อยให้เขากอดอยู่พักใหญ่ ด้านเคลย์ริกก็คลายมือออกแล้วมาจับคางมน “ผมขอโทษนะที่ต้องพาคุณมาเจอเรื่องร้ายๆ แต่ผมสัญญาว่าจะไม่ให้เกิดเรื่องพวกนี้ขึ้นอีก คุณจะอยู่กับผมใช่ไหม ยาหยี” มธุราฟังแล้วก็ยิ้มอย่างเดียว “ว่าไงยาหยี หรือคุณคิดจะไปจากผม” “ฉัน…เอ่อ…” “ผมผิดเองที่ทำให้การพบเจอกันของเราไม่ค่อยดี แล้วผมก็โง่เองที่ไม่สืบให้ดีๆ จนไปจับตัวคุณมา แต่ผมก็ดีใจที่จับมาผิดคน เพราะถ้าจับถูกคน ผมคงไม่ได้เจอกับคุณ” เคลย์ริกบอกเมื่อคนตัวเล็กเอาแต่อ้ำอึ้ง ส่วนผู้หญิงที่ทำให้เขาเข้าใจผิดว่าเป็นสาเหตุทำให้มารดาตรอมใจจนล้มป่วยและจากไปนั้น หากมีโอกาสได้เจอกันเขาจะ
ตอนที่ 49 วันต่อมา… เหตุการณ์ร้ายเมื่อคืนกลายเป็นข่าวดังและผู้คนก็ให้ความสนใจเป็นอย่างมาก เมื่อมีการประโคมข่าวว่ามีคนในตระกูลแม็คแคลตันมีส่วนในเรื่องนี้ ก๊อกๆ “เข้ามา” เมื่อได้รับอนุญาตจีโอก็เปิดประตูเข้ามารายงานความคืบหน้าถึงเหตุการณ์เมื่อคืน ที่พอเกิดเรื่องทั้งผู้เป็นตา บิดา และน้องชายฝาแฝด ต่างโทรมาถามไถ่ถึงเรื่องที่เกิดและเมื่อทุกคนรู้ว่าเคลย์ริกปลอดภัยก็โล่งใจไปตามๆ กัน “ได้เรื่องอะไรบ้าง” เคลย์ริกเอ่ยถามลูกน้องเสียงเรียบ ด้าน จีโอก็รายงานความคืบหน้าให้กับเจ้านายฟังอย่างไม่รีรอ ที่ตอนนี้ทางตำรวจแจ้งมาว่าฮาร์วี่ย์เริ่มซักทอ
ตอนที่ 48 “คุณเคลย์ริก คุณไม่กลัวเลยเหรอ” มธุราเอ่ยถามเสียงสั่น หลังสถานการณ์สงบลง โดยที่พวกคนร้ายก็พากันถูกจับ บ้างก็หนีรอดไปได้ ซึ่งตำรวจก็แยกย้ายกันไปตามจับกุม บางส่วนก็นอนเจ็บล้มตายเป็นที่น่าสยดสยองสำหรับคนที่เพิ่งประสบพบเจอเหตุการณ์แบบนี้อย่างมธุรา “แล้วคุณกลัวหรือยาหยี” “ฉันกลัวจนหัวใจจะวายตายอยู่แล้ว นี่ถ้าตำรวจไม่มา ฉันคงตายอยู่ในรถไปแล้ว” “ผมไม่มีวันปล่อยให้เมียตัวเองตายหรอก เชื่อใจผมนะ ผมจะดูแลและปกป้องคุณเอง” “แล้วคุณคิดว่าเราจะรอดได้ทุกครั้งเหรอ” “ผมจะไม่ยอมให้พวกมันทำแบบนี้อีกแล้ว” “ค่ะ แล้วนี่ลูก
ตอนที่ 47 เคลย์ริกรับฟังเรื่องราวที่เกิดขึ้นด้วยแววตาที่ค่อยๆ แดงก่ำ และในที่สุดเขาก็ไม่อาจข่มกลั้นน้ำตาเอาไว้ได้ เมื่อได้รับรู้ความจริงแสนเจ็บปวด จากคนที่เขารักและเคารพมากที่สุดในชีวิต เป็นคนทำให้พ่อแท้ๆ ของเขาต้องตาย และทำให้มารดาของเขาตรอมใจจนล้มป่วยจนจากเขาและน้องๆ ไป “เคลย์ริก ตาขอโทษ” ผู้อาวุโสบอกหลานชายเสียงสั่นเครือ ท่านยื่นมือไปจะวางบนหลังมือของหลานชาย ทว่าเคลย์ริกที่เจ็บปวดกับสิ่งที่ได้รับรู้ลุกขึ้นและเดินออกมา “เคลย์ริก!! เคลย์ริก!!”ไทร์เฟียและเนอร์แมนพากันเอ่ยเรียก แต่เจ้าของร่างสูงใหญ่กลับยิ่งเร่งฝีเท้าออกไป กระทั่งมาถึงห้องโถงซึ่งมธุราก็เดินหอบหนังสือออกมาพอดี ทั้งที่ความจริงเธอแค่อ้างเพื่อเปิดโอกาสให้ครอบครัวแม็คแคลตันได้พูดคุยกันตามลำพัง แต่เผอิญไปเจอหนังสือที่อยากอ่านมานาน เธอจึงหอบเอามาด้วย&nbs
ตอนที่ 46“อย่าโกรธผมเลยนะยาหยี ที่ผมทำไปก็เพราะผมเป็นห่วง แล้วก็หวงคุณนะยาหยี”“พอเลยไม่ต้องพูดแล้ว แล้วคุณก็ช่วยปล่อยฉันด้วย ฉันมีเรื่องสำคัญต้องเจรจากับคุณ” “เรื่องอะไรเหรอยาหยี” “คุณอย่าแกล้งทำเป็นไม่รู้เลย” “ผมไม่รู้จริงๆ นะยาหยี” มธุราถอนหายใจดังพรืดให้กับความแกล้งซื่อของคนหน้าโหด ก่อนจะบอกเขาไปเสียงดังฟังชัด “ฉันรู้ว่าคุณส่งลิเบอร์ไปจัดการเรื่องภายในครอบครัวของฉัน แล้วที่ฉันมานี่ ฉันก็มาเพื่อจะขอเจราเรื่องเวลาชดใช้เงินกับคุณใหม่ เพราะเวลาแค่สามเดือน ฉันกับพี่ชายหาไม่ทัน” “แล้วทำไมยาหยีถึงคิดว่าเป็นผมล่ะ”&