ตอนที่ 15
“อย่าคิดทำร้ายผมอีกเลยยาหยี เพราะยังไงยาหยีก็ไม่มีวันทำเสร็จ”
“แต่ฉันเชื่อว่าสักวันฉันจะทำสำเร็จ” มธุราบอกอย่างมั่นใจ
“สงสัยคงต้องรอชาติหน้านะยาหยี”
“ชาตินี่แหละ ระวังตัวไว้ให้ดีเถอะ ไอ้คนเฮงซวย” ขู่ฟ่อๆ ทั้งที่ตอนนี้เธอยังเอาตัวไม่รอด
“ปากคอคุณนี่ร้ายไม่เบาเลยนะยาหยี”
“ฉันจะร้ายมากนี้แน่ ถ้าคุณยังไม่ปล่อยฉัน” มือเล็กระดมทุบตีกายแกร่งไม่ยั้ง หวังจะให้เขาปล่อย ทว่าอีกคนกลับทำหน้านิ่งเฉยใส่ซะอย่างนั้น แล้วก็เป็นเธอที่เจ็บมือซะเอง
“หยุดทำไมล่ะ หรือเปลี่ยนใจจะทำข้อตกลงแล้ว งั้นก็ไปนอนคุยกันบนเตียงได้เลย เพราะข้อตกลงที่ว่า ผมต้องทดสอบดูก่อนว่าไ
ตอนที่ 16 “ยัยหมาบ้า! ปล่อย” คนถูกกัดจนจมเขี้ยวตวาดสั่ง แต่มีหรือที่คำสั่งจะเป็นผลเมื่อมธุรากดฟันกัดแน่นจนเธอได้ลิ้มรสเลือด แม้อยากอาเจียนแทบตายแต่เธอก็ฝืนทนจนกว่าจะได้รับอิสรภาพ “บ้าเฮ้ย! ยัยตัวแสบปล่อยเดี๋ยวนี้ ถ้าไม่ปล่อย เธอโดนดีแน่!” เคลย์ริกคาดโทษเสียงดังลั่นมธุราเริ่มลังเลว่าจะปล่อยดีหรือไม่ “ผมจะนับหนึ่งถึงสาม หนึ่ง!”ทันทีที่เริ่มนับเจ้าของคมเขี้ยวก็เริ่มคิดหนัก “สอง!”สันกรามบนหน้านูนเด่นชัดอย่างโมโห แต่โมโหตัวเองมากกว่าที่ดันพลาดท่าเป็นหนที่สองให้กับคนตัวเล็กที่กำลังฝังเขี้ยวบนร่างกายของเขา “สะ...” “ฉันยอมแล้ว แต่คุณห้ามทำอะไรฉันน
ตอนที่ 17 ภายในซอกตึกสูงเรียงรายกันนับสิบตึก มธุราหยุดฝีเท้าลงแล้วอิงแผ่นหลังเข้ากับผนังตึกอย่างไม่สนใจว่าสภาพตึกจะสกปรกหรือไม่ หญิงสาวยื่นหอบอยู่สักพักจนพอหายใจได้สะดวกขึ้น ก็เริ่มกวาดตามองรอบตัวที่มืดสลัว ความกลัวเริ่มจู่โจม เพราะเธอเคยได้ยินข่าวมาบ่อยครั้งว่าจะมีพวกอันธพาล ขี้ยา อาศัยอยู่ตามซอกตึกเก่าๆ เพื่อหาเหยื่อ ‘เจ้าประคูณขออย่าให้ลูกต้องหนีเสือปะจระเข้เลยนะคะ ตอนนี้ลูกแทบจะก้าวขาไม่ออกอยู่แล้ว ถ้าต้องไปเจอพวกอันธพาล ลูกต้องตายแน่’ มธุราพนมมือไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้คุ้มภัย ก่อนจะมองซ้ายแลขวาอย่างตัดสินใจว่าจะไปทางไหนต่อ เพราะเธอไม่เคยมา เงินก็ไม่มี บัตรอะไรก็ไม่มีสักอย่าง “แยกย้ายกันตามหาให้พบ” เสียงดังแว่วๆ เข้ามาทำให้คนที่กำลังพนมมือขอพรลดมืออย่างเร็ว ก่อนจะหันไปยังต้นเสียง
ตอนที่ 18 ภายในห้องผู้โดยสารของรถหรูตกอยู่ในความเงียบตั้งแต่รถเคลื่อนตัวออกจากสถานีตำรวจ กระทั่งกำลังเคลื่อนผ่านประตูรัวสูงสามเมตรเข้ามายังคฤหาสน์ของตระกูลแม็คแคลตัน ทำให้คนที่ถูกบังคับแกมขู่เข็ญให้กลับมาอยู่ที่บ้านยิ่ง ทำหน้าบอกบุญไม่รับ เพราะเจ้าตัวต้องการกลับไปอยู่เพนท์เฮาส์มากกว่า เพราะสะดวกในทุกๆ เรื่อง โดยเฉพาะเรื่องบนเตียง ซึ่งถ้าเขากลับมาอยู่คฤหาสน์คงจะพาสาวๆ เข้ามาหาความสุขไม่ได้ เนื่องจากเป็นกฎเหล็กของบ้าน ที่ห้ามคนในบ้านพาผู้หญิงเข้ามา นอกเสียจากเธอคนนั้นจะเป็นคนสำคัญ “คุณเคลย์ริก วันนี้มาเสียดึกนะครับ แล้วจะรับอะไรดี เดี๋ยวผมเข้าครัวจัดเตรียมมาให้” อัลเฟรด พ่อบ้านประจำคฤหาสน์ออกมาต้อนรับและทักทายด้วยรอยยิ้มปนประหลาดใจที่เห็นทายาทคนโตของนายท่านกลับมาที่บ้านในเวลานี้ “ไม่ต้องครับ ผมแค่แวะมาส
ตอนที่ 19 “พ่อเคยบอกแล้วใช่ไหมว่าให้แกเพลาๆ เรื่องความใจร้อนลงบ้าง อีกอย่างแกกับแมทธิวก็เป็นลูกพี่ลูกน้องกัน ยอมให้กันบ้างไม่ได้หรือไง แล้วผู้หญิงบนโลกนี้มีแค่คนนั้นเดียวหรือไง ถึงต้องไปชกต่อยแย่งชิงกันราวกับเด็กๆ” คำพูดของบิดาทำให้เคลย์ริกหันมองบิดาเล็กน้อย ก่อนจะเมินหน้าไปอีกทางเมื่อบิดามองตอบ “กลัวจะไม่ได้ฟ้องหรือไง” คนเพิ่งไปมีเรื่องพึมพำ แต่ก็พอทำให้บิดาและพี่ชายได้ยิน “พ่อขอล่ะ อย่าไปหาเรื่องแมทธิวอีกเลย” “มันหาเรื่องผมก่อนต่างหากแด็ด แล้วนี่รีบโทรมาฟ้องไว้ก่อน จะได้เข้ามาขอเงินหรือไม่ก็เข้ามาขอให้ไอ้แมทธิวเข้าไปทำงานในคาสิโนอีกตามเคย” โรมันพูดขึ้นพร้อมกับบิดปากออกเล็กน้อย เพราะเดาได้ไม่ยากและก็เป็นแบบนี้แทบทุกครั้ง เวลาที่เขามีเรื่องกับแมทธิว ลุงเคอร์ต
ตอนที่ 20 เมื่อเดินทางกลับมาถึงที่พักเคลย์ริกก็สั่งให้ลูกน้องแยกย้ายกันไปพักผ่อน ส่วนเขาก็เดินไปยังห้องคุมขังเชลยสาว ที่ตอนนี้นั่งหลับคอพับคาเก้าอี้ไปอย่างเหนื่อยล้า หลังจากต้องใช้แรงวิ่งหนีทั้งโจรและหนีลูกน้องของผู้ชายหน้าโหด ที่ตอนนี้เจ้าตัวไม่ได้รู้เลยว่ากำลังตกเป็นอาหารตาของคนหน้าโหด ปากหยักขยับยิ้มเล็กน้อยเมื่อเห็นสภาพน่าของเชลยสาว “ยัยตัวแสบ ตื่นได้แล้ว” เคลย์ริกส่ายหน้าเล็กน้อยเมื่อเรียกแล้วเชลยสาวไม่มีปฏิกิริยาตอบสนอง เขาจึงใช้มือตบแก้มนุ่มเบาๆ “ยัยตัวแสบ! ตื่นได้แล้ว” “คุณ! เข้า…เข้ามาทำไม” มธุราเอ่ยเสียงตะกุกตะกัก หน้าตาตื่นตระหนก “เป็นคำถามที่ตลกดี” คนหน้าโหดพูดจบก็เดินไปนั่งบนเตียง แล้วก็เริ่มปลดกระดุม
ตอนที่ 21 วันต่อมา บรรยากาศในห้องรับแขกภายในคฤหาสน์ของชายชราวัยเกือบเก้าสิบ กำลังตกอยู่ในภาวะตึงเครียด หลังจากเคอร์ตินเข้ามาบอกผู้เป็นพ่อให้ทราบถึงเรื่องที่ลูกชายของตัวเอง ถูกโรมันทำร้ายร่างกายจนถึงขึ้นโรงพัก แล้วตนก็ได้ไปยื่นข้อเสนอให้ทางนั่นรับแมทธิวเข้าไปทำงาน แต่ทางนั่นกลับบอกว่าเรื่องนี้ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของเคลย์ริก ที่ตนรู้ดีว่าเจ้าหมอนี่ไม่มีวันรับแมทธิวเข้าไปทำงาน และหนทางเดียวที่จะทำให้แมทธิวได้เข้าไปทำงานในตำแหน่งที่ต้องการก็คือคุณพ่อของตน ทว่าท่านกลับเอาแต่นิ่งเฉย “คุณพ่อ! พูดอะไรบ้างเถอะ ผมนั่งรอนานแล้ว” เคอร์ติน ถามเสียงห้วนเมื่อหมดความอดทน ข้างกันนั้นก็เป็นลูกชาย ที่อยากรู้ว่าตัวเองจะได้เข้าบริหารงานที่คาสิโนหรือไม่ “แล้วแกจะให้ฉันพูดอะไร ในเมื่อเรื่องมันเป็นแบบนี้ก็เพราะแกสองคนพ่อลูกทำตัวเอง” เนอร์แมน ถามลูกชายพร้อมสายตาตำหนิ ที่ลูกชายใช้น้ำเสียงไม่ดีกับตน
ตอนที่ 22 “แล้วทำไมพี่แมทธิวไม่ไปทำงานบ้างล่ะ” “เพราะแกกับฉันไม่เหมือนกันไง เพราะฉะนั้น แกต้องไปทำงานตามที่คุณพ่อสั่ง” “ไม่เหมือนกันยังไงล่ะ อ๋อ...นี่พี่แมทธิวคิดว่าตัวเองเป็นลูกแท้ๆ ของแด็ดดี๊ล่ะสิถึงได้มาข่มไฮดี้” ไฮดี้เสียงเริ่มสั่นเครือ แต่ก่อนที่สองพี่น้องจะทะเลาะกันไปมากกว่านี้ เคอร์ตินก็รีบปรามลูกชาย เพราะเรื่องนี้มันละเอียดอ่อนมากสำหรับไฮดี้ ที่แม้จะไม่ใช่ลูกแท้ๆ แต่ตนก็รักและเอ็นดูเหมือนลูกในไส้ แต่ทุกวันนี้ก็เอือมระอานิสัยของลูกสาวบุญธรรมไม่น้อย แต่ก็ต้องโทษตนคนเดียวที่เลี้ยงแบบตามใจมาตลอด “คุณพ่อ” แมทธิวขานเรียกด้วยสีหน้าหงุดหงิด เมื่อบิดาเข้าข้างน้องสาวนอกไส้ ขณะที่บิดาก็ยกมือปรามลูกชายแล้วเอ่ยเสียงเข้ม “พอเถอะแมทธิว แยกย้ายกันได้แล้ว ส่วนแก ไฮดี้ พรุ่งนี้แต่งตัวสวยๆ พ่อจะพาไปทำงาน” “ไฮดี้ไม่ไป” “แกห้ามปฏิเสธยัยไฮดี้ แล้วฉันเดาว่างานที่คุณพ่อจะพาแกไปทำงาน แกจะได้อยู่ใกล้ไอ้เคลย์ริก” แมทธิวตอบแทนบิดาที่ได้แต่ทำหน้าเหนื่อยหน่าย แต่พอเห็นสีหน้าของลูกสาวบุญธรรมที่รู้ว่าจะได้ไปทำงานกับเคลย์ริกก็เริ่มเปลี่ยนท่าทีมาสนใจ ด้านไฮดี้ก็ร
ตอนที่ 23 “ป้าสรวง” ธารางกรูยึดแขนป้าสรวงไม่ยอมปล่อย “โธ่…คุณมาร์ช อย่ามาถามป้าเลยค่ะ ป้าลำบากใจนะคะ” “ผมขอร้องล่ะ ป้ารู้อะไรมาก็บอกผมมาเถอะ แล้วยิ่ง ป้าสรวงไม่บอกผม ผมก็ยิ่งช่วยคุณแม่ได้ช้า แล้วปัญหาอาจบานปลายมากกว่านี้” น้ำเสียงเริ่มเข้มขึ้น “ค่ะๆ เดี๋ยวป้าจะบอกแล้วค่ะ” ป้าสรวงดึงลูกชายเจ้าของบ้านไปคุยตามลำพัง จากนั้นก็ได้บอกเล่าเรื่องราวที่ตนรู้ให้ฟัง ‘เมื่อหกปีก่อน คุณพ่อของคุณมาร์ชเอาบ้านไปกู้เงินมาทำบริษัทรับเหมาก่อสร้างกับเพื่อน แต่ทำได้แค่ปีกว่า ธุรกิจก็เจ๊ง ทำให้คุณพ่อของคุณมาร์ชเครียดจนสุขภาพไม่ค่อยดี แล้วก็ยิ่งเครียดมากขึ้นเมื่อเพื่อนล้มป่วยแล้วตายจากไป เลยพลอยทำให้เงินที่จะได้มาไถ่บ้านคืนไม่มี เพราะทางครอบครัวนั่นก็ไม่มีเงินเหมือนกัน แต่คุณเพียงเพ็ญก็พยายามหาเงินไปจ่ายหนี้ แต่ก็มีขาดจ่ายบ้าง เพราะต้องจ่ายเดือนละเกือบสองแสน เลยทำให้หมุนเงินไม่ทัน’ คำบอกเล่าจากป้าสรวงยังดังก้องอยู่ในหัวตลอดเวลา ธารางกรูเดินมาทิ้งตัวลงบนเก้าอี้แกะสลักลวดลายสวยงามภายในสวนอย่างคนหมดแรง เพราะเขาไม่เคยคิดมาก่อนเลยมารดาจะแบกรับปัญหาเอาไว้มากม
บทส่งท้าย สองปีต่อมา... คุณพ่อลูกหนึ่งเดินออกจากห้องพักไปยังห้องของลูกชาย ที่ตอนนี้กำลังอยู่ในอ้อมกอดของผู้เป็นแม่ ที่กำลังกล่อมลูกชายเข้านอน ที่วันนี้เจ้าตัวแสบไม่ยอมนอนเสียทีทั้งที่ตอนนี้ก็ห้าทุ่มเข้าไปแล้ว เจ้าของร่างสูงยืนพิงประตูเฝ้ามองภรรยาและลูกน้อยด้วยความรักนานเป็นสิบนาที ก่อนจะเดินเข้าไปทิ้งสะโพกนั่งบนเตียงข้างภรรยาคนสวยที่กำลังค่อยๆ วางลูกน้อยบนที่นอน “พออุ้มกล่อมเข้าหน่อยก็หลับปุ๋ยเชียวนะตัวแสบ ลูกรักของแม่” มธุราพึมพำเบาๆ แล้วโน้มหน้าลงหอมแก้มของลูกชาย ที่ยิ่งโตก็ยิ่งเหมือนพ่อ “หอมลูกแล้วก็หอมพ่อบ้างสิทูนหัว” เคลย์ริกโน้มเข้าไปกระซิบ “แก้มคุณฉันหอมจนเบื่อแล้ว อีกอย่างแก้มคุ
อวสาน หลังจบอาหารค่ำ ที่วันนี้ครอบครัวแม็คแคลตันก็เดินทางมารับประทานอาหารค่ำที่บ้านศิริโชคธนาอีกครั้งเพื่อสร้างความสนิทสนิมแก่สองครอบครัวที่กำลังจะเกี่ยวดองกัน เคลย์ริกก็เดินกุมมือคนตัวเล็กออกมาเดินเล่นที่สวนดอกไม้หน้าบ้าน ในค่ำคืนที่พระจันทร์เต็มดวง ประหนึ่งว่ากำลังเป็นสักขีพยานในความรักของสองหนุ่มสาว ที่โชคชะตานำพาให้มาพบกันด้วยเรื่องเข้าใจผิด “ส่ายหน้าทำไมยาหยี” เคลย์ริกเอ่ยถามเมื่อคนตัวเล็กยิ้มแล้วก็ส่ายหน้าไปมา “ไม่อยากเชื่อเลยนะคะว่าเราสองคนกำลังจะแต่งงานกัน ฉันจำได้ว่าวันแรกที่เราพบกัน คุณกับฉันแทบจะฆ่ากันตาย” มธุราเงยหน้าขึ้นตอบคนตัวโต ส่วนคนที่ทำให้คนหน้าโหดเข้าใจผิด ตอนนี้เธอและครอบครัวของฝ่ายนั้นก็ไม่ได้ติดต่อกันนานแล้ว แต่ก็รู้มาว่าพี่สาวคนสนิทกำลังจะแต่งงานกับนับธุรกิจชาวสิงค์โปร “ก็
ตอนที่ 52หลังกลับจากเยี่ยมผู้อาวุโสและอยู่รับประทานอาหารค่ำกันแล้ว เคลย์ริกก็พามธุราเดินทางกลับบ้านพัก ที่ทุกครั้งที่ไปเยี่ยมผู้อาวุโส ที่ตอนนี้รักษาตัวจนหายป่วยเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์แล้วนับตั้งแต่ออกจากโรงพยาบาลได้เกือบสองสัปดาห์ และทุกครั้งที่ไปเยี่ยม ท่านก็ถามเรื่องแต่งงานระหว่างเธอกับคนหน้าโหดทุกครั้ง ‘ผมจะแต่งงานเร็วๆ นี้ครับ คุณตาตัดชุดรอเลยนะครับ’ นั่นคือคำตอบขอบคนหน้าโหดที่ให้คำตอบกับผู้อาวุโสก่อนจะเดินทางกลับที่พัก เธอสังเกตเห็นว่าสีหน้าของผู้อาวุโสดูมีความสุขมากที่ได้รู้ว่าหลานชายจะมีครอบครัว ส่วนเธอก็ยอมรับแหละว่าที่ผ่านมาเธอเปิดรับให้คนหน้าโหดเข้ามาจองพื้นที่ในหัวใจไปแล้ว ส่วนเรื่องแต่งงาน เธอยังไม่ได้บอกครอบครัว‘บอกพี่มาร์ชก่อน แล้วค่อยบอกคุณแม่ดีกว่า’ คิดแล้วก็หยิบโทรศัพท์ จะกดโทรออกอยู่สองสามรอบก็เปลี่ยนใจ ก่อนจะตัดสินใจโทรหาพี่ชายในที่สุด “แ
ตอนที่ 51 ก๊อกๆ “เจ้านายครับ” เสียงเคาะประตูและเสียงของจีโอดังขัดจังหวะการสนทนา ก่อนที่เคลย์ริกจะส่งเสียงบอกให้เข้ามา “มีอะไร” “คนที่บ้านคุณเนอร์แมนเพิ่งโทรมาแจ้งว่าคุณเคอร์ตินกลับมาที่บ้านครับ” เคลย์ริกฟังแล้วก็ไม่ได้ตอบอะไร เขาหันมาบอกให้มธุรารออยู่ที่นี่ ส่วนเขาและจีโอก็รีบเดินทางไปบ้านพักของผู้เป็นตา ที่เวลานี้สถานการณ์ไม่ค่อยดีนักเมื่อเคอร์ตินย้อนกลับมาหวังจะเอาทรัพย์สินไปใช้เพื่อการหลบหนี แต่คนเป็นพ่อบอกให้มอบตัวและยังหวังให้ลูกชายกลับเนื้อกลับตัว “ไม่! ผมไม่อยากติดคุก” “เคอร์ติน พ่อขอร้อง แกวางปืนลงเถอะ แ
ตอนที่ 50 “ดีขึ้นไหมคะ” เธอถามหลังจากปล่อยให้เขากอดอยู่พักใหญ่ ด้านเคลย์ริกก็คลายมือออกแล้วมาจับคางมน “ผมขอโทษนะที่ต้องพาคุณมาเจอเรื่องร้ายๆ แต่ผมสัญญาว่าจะไม่ให้เกิดเรื่องพวกนี้ขึ้นอีก คุณจะอยู่กับผมใช่ไหม ยาหยี” มธุราฟังแล้วก็ยิ้มอย่างเดียว “ว่าไงยาหยี หรือคุณคิดจะไปจากผม” “ฉัน…เอ่อ…” “ผมผิดเองที่ทำให้การพบเจอกันของเราไม่ค่อยดี แล้วผมก็โง่เองที่ไม่สืบให้ดีๆ จนไปจับตัวคุณมา แต่ผมก็ดีใจที่จับมาผิดคน เพราะถ้าจับถูกคน ผมคงไม่ได้เจอกับคุณ” เคลย์ริกบอกเมื่อคนตัวเล็กเอาแต่อ้ำอึ้ง ส่วนผู้หญิงที่ทำให้เขาเข้าใจผิดว่าเป็นสาเหตุทำให้มารดาตรอมใจจนล้มป่วยและจากไปนั้น หากมีโอกาสได้เจอกันเขาจะ
ตอนที่ 49 วันต่อมา… เหตุการณ์ร้ายเมื่อคืนกลายเป็นข่าวดังและผู้คนก็ให้ความสนใจเป็นอย่างมาก เมื่อมีการประโคมข่าวว่ามีคนในตระกูลแม็คแคลตันมีส่วนในเรื่องนี้ ก๊อกๆ “เข้ามา” เมื่อได้รับอนุญาตจีโอก็เปิดประตูเข้ามารายงานความคืบหน้าถึงเหตุการณ์เมื่อคืน ที่พอเกิดเรื่องทั้งผู้เป็นตา บิดา และน้องชายฝาแฝด ต่างโทรมาถามไถ่ถึงเรื่องที่เกิดและเมื่อทุกคนรู้ว่าเคลย์ริกปลอดภัยก็โล่งใจไปตามๆ กัน “ได้เรื่องอะไรบ้าง” เคลย์ริกเอ่ยถามลูกน้องเสียงเรียบ ด้าน จีโอก็รายงานความคืบหน้าให้กับเจ้านายฟังอย่างไม่รีรอ ที่ตอนนี้ทางตำรวจแจ้งมาว่าฮาร์วี่ย์เริ่มซักทอ
ตอนที่ 48 “คุณเคลย์ริก คุณไม่กลัวเลยเหรอ” มธุราเอ่ยถามเสียงสั่น หลังสถานการณ์สงบลง โดยที่พวกคนร้ายก็พากันถูกจับ บ้างก็หนีรอดไปได้ ซึ่งตำรวจก็แยกย้ายกันไปตามจับกุม บางส่วนก็นอนเจ็บล้มตายเป็นที่น่าสยดสยองสำหรับคนที่เพิ่งประสบพบเจอเหตุการณ์แบบนี้อย่างมธุรา “แล้วคุณกลัวหรือยาหยี” “ฉันกลัวจนหัวใจจะวายตายอยู่แล้ว นี่ถ้าตำรวจไม่มา ฉันคงตายอยู่ในรถไปแล้ว” “ผมไม่มีวันปล่อยให้เมียตัวเองตายหรอก เชื่อใจผมนะ ผมจะดูแลและปกป้องคุณเอง” “แล้วคุณคิดว่าเราจะรอดได้ทุกครั้งเหรอ” “ผมจะไม่ยอมให้พวกมันทำแบบนี้อีกแล้ว” “ค่ะ แล้วนี่ลูก
ตอนที่ 47 เคลย์ริกรับฟังเรื่องราวที่เกิดขึ้นด้วยแววตาที่ค่อยๆ แดงก่ำ และในที่สุดเขาก็ไม่อาจข่มกลั้นน้ำตาเอาไว้ได้ เมื่อได้รับรู้ความจริงแสนเจ็บปวด จากคนที่เขารักและเคารพมากที่สุดในชีวิต เป็นคนทำให้พ่อแท้ๆ ของเขาต้องตาย และทำให้มารดาของเขาตรอมใจจนล้มป่วยจนจากเขาและน้องๆ ไป “เคลย์ริก ตาขอโทษ” ผู้อาวุโสบอกหลานชายเสียงสั่นเครือ ท่านยื่นมือไปจะวางบนหลังมือของหลานชาย ทว่าเคลย์ริกที่เจ็บปวดกับสิ่งที่ได้รับรู้ลุกขึ้นและเดินออกมา “เคลย์ริก!! เคลย์ริก!!”ไทร์เฟียและเนอร์แมนพากันเอ่ยเรียก แต่เจ้าของร่างสูงใหญ่กลับยิ่งเร่งฝีเท้าออกไป กระทั่งมาถึงห้องโถงซึ่งมธุราก็เดินหอบหนังสือออกมาพอดี ทั้งที่ความจริงเธอแค่อ้างเพื่อเปิดโอกาสให้ครอบครัวแม็คแคลตันได้พูดคุยกันตามลำพัง แต่เผอิญไปเจอหนังสือที่อยากอ่านมานาน เธอจึงหอบเอามาด้วย&nbs
ตอนที่ 46“อย่าโกรธผมเลยนะยาหยี ที่ผมทำไปก็เพราะผมเป็นห่วง แล้วก็หวงคุณนะยาหยี”“พอเลยไม่ต้องพูดแล้ว แล้วคุณก็ช่วยปล่อยฉันด้วย ฉันมีเรื่องสำคัญต้องเจรจากับคุณ” “เรื่องอะไรเหรอยาหยี” “คุณอย่าแกล้งทำเป็นไม่รู้เลย” “ผมไม่รู้จริงๆ นะยาหยี” มธุราถอนหายใจดังพรืดให้กับความแกล้งซื่อของคนหน้าโหด ก่อนจะบอกเขาไปเสียงดังฟังชัด “ฉันรู้ว่าคุณส่งลิเบอร์ไปจัดการเรื่องภายในครอบครัวของฉัน แล้วที่ฉันมานี่ ฉันก็มาเพื่อจะขอเจราเรื่องเวลาชดใช้เงินกับคุณใหม่ เพราะเวลาแค่สามเดือน ฉันกับพี่ชายหาไม่ทัน” “แล้วทำไมยาหยีถึงคิดว่าเป็นผมล่ะ”&