ที่พักอาศัยของคุณยายฝ้ายคำเป็นเรือนไม้ทรงไทย อยู่ในบริเวณเดียวกับคฤหาสน์ของลูกสาว เพียงแค่มีรั้วไม้กั้นเขตไว้ เดิมที่ดินเป็นผืนเดียวกัน หลังจากแพรพรรณแต่งงานกับสมเกียรติได้ขอให้มารดาแบ่งแปลงที่ดินออกเป็นสองแปลง เซ็นยกให้เป็นกรรมสิทธิ์ของตัวเอง คุณยายฝ้ายคำจึงสั่งให้คนงานมาทำรั้วไม้กั้นฝั่งเรือนไทยของตัวเองไว้ และที่ดินฝั่งเรือนไทยผืนนี้ตั้งใจจะมอบให้ไหมพิมพ์ลูกสาวคนเล็ก แต่ไหมพิมพ์แต่งงานกับไมเคิลก็ย้ายออกไปอยู่กับสามี และได้เสียชีวิตไปทิ้งลูกสาวคนเดียวคือมัสลินไว้ให้ท่านดูแล การโอนกรรมสิทธิ์ให้หลานสาวยังไม่ได้ทำคุณยายฝ้ายคำก็ประสบอุบัติเหตุป่วยเป็นอัมพาตขยับไม่ได้ ที่ดินบ้านเรือนไทยจึงกลายเป็นมรดกส่วนกลาง
มัสลินเดินออกจากตึกหลังใหญ่หิ้วถุงขนมติดมือมาด้วยถุงหนึ่ง เปิดประตูรั้วเข้ามาบริเวณเรือนไทย หากบ้านหลังใหญ่ของคุณแพรพรรณคือนรก ที่นี่คงเปรียบดั่งสวรรค์ ความสงบเงียบร่มรื่นของต้นไม้ใหญ่ ทำให้รู้สึกสดชื่นขึ้นมาทันที หญิงสาวเดินขึ้นไปบนเรือน ตรงไปยังห้องนอนของผู้เป็นยาย เปิดประตูห้องเข้าไปก็พบเด็กอาหมี่กำลังทำความสะอาดอยู่ ส่วนคุณยายนอนดูทีวีเงียบตามประสาท่าน อาการโรคอัมพาตของคุณยายฝ้ายคำเป็นตั้งแต่บั้นเอวลงมาทำให้เดินไม่ได้ ส่วนท่อนบนยังพอใช้งานได้แต่ก็อ่อนแรงไม่สามารถทำอะไรได้มากนัก
“คุณยายคะ ป้าเปรมฝากขนมถ้วยมาให้ค่ะ มัสจำได้ว่าคุณยายชอบทาน”
คนเป็นหลานวางถุงขนมบนโต๊ะเล็ก แล้วมานั่งข้างขอบเตียง จับมือเหี่ยวย่นมาแนบแก้มส่งยิ้มสดใสให้คนแก่
“ยายอยากกินอยู่พอดี มัสก็ชอบกินเหมือนกันนี่ลูก เดี๋ยวเรามากินด้วยกัน”
คุณยายฝ้ายคำมองดูหลานสาวด้วยแววตารักใคร่เอ็นดู มัสลินคอยดูแลท่านตั้งแต่ป่วย ไม่ว่าจะอาบน้ำ เช็ดตัว ป้อนข้าว ป้อนยา มานอนเฝ้าหน้าเตียงทุกคืน อีกทั้งยังต้องทำงานอื่นๆ อีกมากมาย เหนื่อยแสนสาหัสแค่ไหนมัสลินก็ไม่เคยปริปากบอกสักคำ คนเป็นยายรับรู้เรื่องราวของหลานสาวจากคำบอกเล่าของนางแววและเด็กอาหมี่มาโดยตลอด แต่ท่านก็ไม่สามารถช่วยเหลืออะไรได้เลย เพราะเซ็นยกอำนาจการจัดการทรัพย์สินให้แพรพรรณไปแล้ว ด้วยคิดว่าลูกสาวคนโตจะมีจิตใจเมตตาหลานกำพร้าบ้าง
ทว่า... เป็นความผิดพลาดที่สุดในชีวิตที่ท่านทำลงไป แพรพรรณไม่เพียงฮุบอำนาจการบริหารเงินทั้งหมดไป ยังใช้อำนาจข่มเหงรังแกมัสลินอย่างไร้ความเมตตา ท่านไม่คิดว่าแพรพรรณจะกลายเป็นคนเห็นแก่ตัวไม่รู้จักชั่วดีถึงเพียงนี้ ในอดีตท่านเมตตารับเลี้ยงแพรพรรณซึ่งเป็นลูกของแม่บ้านเก่าแก่ของท่านไว้ และจดทะเบียนรับเป็นลูกบุญธรรมในเวลาต่อมา พอท่านมีลูกของตัวเองคือไหมพิมพ์ แพรพรรณก็แสดงท่าทีเหมือนจะน้อยใจที่มีคนแย่งความรักไป ทั้งที่ท่านก็เมตตาให้ความรักไม่ต่างจากลูกแท้ๆ แพรพรรณเริ่มแสดงธาตุแท้ของตัวเองออกมาเรื่อยๆ โดยการบังคับให้ท่านเปลี่ยนข้อความในพินัยกรรมแต่ท่านไม่ยอม แพรพรรณจึงหันไปเล่นงานมัสลินหนักขึ้น ทั้งใช้ทำงานบ้าน และไม่ยอมส่งเสียให้เรียนต่อหลังจบชั้นมัธยมปลาย ข่มขู่ท่านสารพัดว่าหากท่านไม่ยอมทำตามคำสั่ง จะไล่มัสลินออกไปจากบ้าน แต่ท่านก็ใช้พินัยกรรมขู่กลับว่าจะไม่ยกสมบัติให้แพรพรรณหากกล้าทำกับมัสลินแบบนั้น อีกฝ่ายจึงทำได้แค่กลั่นแกล้งข่มเหงหลานสาวนอกไส้ ให้ทำงานหนัก ไม่ให้เงินใช้จนมัสลินต้องหาทางออกด้วยการทำขนมขายหาเงินมาเลี้ยงตัวเอง
“เดี๋ยวมัสจะอาบน้ำให้คุณยายนะคะ อาหมี่จ๊ะมาช่วยมัสหน่อย”
มัสลินบอกคุณยาย แล้วหันไปบอกอาหมี่ให้มาช่วยพาคุณยายลงจากเตียง อาหมี่เข็นรถเข็นมารอข้างเตียงแล้วเข้าไปช่วยอุ้มคนป่วยลงมานั่ง จากนั้นสองสาวก็พาท่านไปยังห้องน้ำจัดการช่วยกันอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าชุดใหม่ แล้วพาคนป่วยมานั่งที่โต๊ะริมระเบียงห้อง
ช่วงเย็นอากาศดีลมพัดเย็นสบาย ดอกไม้ที่ปลูกไว้ก็ส่งกลิ่นหอมฟุ้งลอยมาตามลมให้รู้สึกสดชื่น มัสลินฝากอาหมี่ช่วยดูแลคุณยายตัวเธอไปเตรียมสำรับมือเย็นมาป้อนคนป่วย
“มัสแบ่งขนมให้อาหมี่ไว้ในครัวนะจ๊ะ อาหมี่กลับไปตึกใหญ่ได้เลย เดี๋ยวป้าแพรจะเรียกใช้ ขอบคุณมากที่มาช่วยมัสอาบน้ำให้คุณยาย”
มัสลินอนุญาตให้อาหมี่กลับไปตึกใหญ่ ส่วนตัวเองก็จัดการป้อนอาหารให้คนป่วย หลังจากป้อนยามื้อค่ำก็นั่งนวดขาทำกายภาพบำบัดเบาๆ ให้ท่านก่อนนอน
“มัสเหนื่อยมาทั้งวัน ไม่ต้องนวดให้ยายหรอก นวดไปก็เมื่อยมือเปล่าๆ ยายไม่มีวันหายหรอกลูก”
คนเป็นยายจับมือหลานสาวไว้ เอ่ยห้ามไม่ให้นวดต่อ สงสารมือน้อยๆ ที่ต้องทำงานหนักจนหยาบกร้าน
“มัสยินดีทำให้คุณยายนะคะ หมอบอกว่าให้นวดฟื้นฟูกล้ามเนื้อ คุณยายจะได้ไม่กล้ามเนื้อลีบ ถ้าไม่นวดคุณยายอาจจะอาการแย่ลงได้นะคะ”
มัสลินยังคงนวดต่อไป พร้อมกับอธิบายให้ท่านฟัง
“ถ้ายายตายไป มัสคงไม่ลำบากแบบนี้” มือเหี่ยวย่นลูบศีรษะหลานอย่างเวทนา
“โถ... คุณยายคะ อย่าพูดแบบนั้นสิคะ ถ้าคุณยายตายไปมัสจะอยู่กับใคร มัสมีคุณยายคนเดียวนะคะ”
มัสลินน้ำตาคลอ พยายามกลั้นสะอื้นไม่ให้น้ำตาไหล ใจดวงน้อยไหววูบเมื่อคิดถึงวันที่ไม่มีคุณยาย เธอมีชีวิตอยู่ทุกวันนี้ อดทนทำทุกอย่างได้ ก็เพราะมีท่านเป็นเสาหลักในชีวิต หากขาดท่านไปเธอจะทำยังไง จะมีชีวิตอยู่ได้อย่างไร แค่คิดก็จุกแน่นในอกลำคอตีบตันไปหมด
“มัส เอ๊ย ยายผิดเอง ที่ไม่มีปัญญาดูแลหนู ทำให้หนูต้องลำบากแบบนี้”
คนแก่รำพึงด้วยความคับแค้นใจ หากท่านไม่หลงเชื่อคำพูดของแพรพรรณ ไม่ไว้ใจคนผิด มัสลินคงไม่ลำบากขนาดนี้ ท่านจะแก้ไขความผิดพลาดนี้ได้อย่างไร
“มัสไม่ได้ลำบากอะไร มัสยินดีดูแลคุณยายนะคะ”
มัสลินขยับลุกมากอดร่างผอมบางของคุณยายฝ้ายคำไว้ ซบหน้ากับอกอุ่นของท่าน แขนเล็กเหี่ยวย่นตามวัยกอดรัดหลานสาวไว้อย่างห่วงใย
“มัส ยายรู้ว่าตลอดหลายปีนี้ มัสต้องอดทนมากแค่ไหน ยายแพรมันใจดำนัก ทำกับมัสเหมือนกับเป็นทาส”
ดวงตาฝ้าฟางคลอคลองด้วยหยาดน้ำตาแห่งความเสียใจและเจ็บช้ำ น้ำเสียงยิ่งสั่นเครือเมื่อท่านไม่อาจกลั้นน้ำตาไว้ได้
“คุณยายรู้...”
มัสลินอุทานเสียงแผ่ว เงยหน้าขึ้นมองผู้เป็นยาย เห็นท่านพยักหน้าให้ น้ำตาที่กลั้นไว้ก็ไหลออกมาทันที
“โถ่ คุณยาย มัส... มัสไม่เป็นอะไร มัสทนได้”
“อย่าทนอีกเลยลูก ปล่อยยายทิ้งไว้ที่นี่ แล้วหนูออกไปอยู่ข้างนอก ไปใช้ชีวิตของตัวเองให้มีความสุขเถอะ”
ศีรษะได้รูปส่ายปฏิเสธทันที “ไม่ค่ะ มัสไม่มีวันทิ้งคุณยาย คุณยายอยู่ที่ไหนมัสก็จะอยู่ด้วย” น้ำตาไหลอาบแก้มนวล ใจร้าวรานไปหมด
มัสลินนึกเวทนาตัวเอง ที่หลงคิดว่าปกปิดเรื่องทุกอย่างไม่ให้คนเป็นยายรู้ ที่แท้ท่านรู้มาโดยตลอดว่าเกิดอะไรขึ้น เธอไม่อยากให้ท่านต้องคิดมาก ไม่อยากให้อาการของท่านทรุดหนัก พยายามรักษาจิตใจของท่านไว้ให้มากที่สุด แต่เรื่องร้ายๆ มันก็ปิดไม่มิด
“ยายขอโทษที่ช่วยอะไรหนูไม่ได้เลยลูก ซ้ำยังเป็นภาระให้หนูอีก”
เสียงรำพึงแหบพร่าเจือเสียงสะอื้น มือสั่นเทาประคองใบหน้าของหลานรักไว้ ซบหน้าผากแนบกันน้ำตาไหลอาบแก้มไม่ต่างกันทั้งยายหลาน
“คุณยายขา... คุณยายไม่ต้องขอโทษมัส คุณยายไม่ใช่ภาระ คุณยายคือทุกสิ่งในชีวิตของมัส หากมัสไม่มีคุณยาย มัสคงไม่มีสิ่งใดให้ยึดเหนี่ยวหัวใจ”
“ความดีของมัส จะเป็นเหมือนเกราะแก้ว นำพามัสของยายให้ผ่านพ้นความทุกข์นี้ไป สักวันหนึ่งความดีจะตอบแทนมัส ยายขออวยพรนะลูก”
คำอวยพรของผู้เป็นยาย ดั่งน้ำทิพย์ชโลมใจ น้ำตาไหลลงมาอาบแก้มหยดลงเป็นหยดเล็กที่ปลายคางตกลงพื้น เหมือนกลั่นความเจ็บปวดหัวใจของคนทั้งคู่ออกมา ใจอ่อนล้าเจียนหมดแรง แต่หัวใจต้องเข้มแข็งหยัดยืนต่อไป ท่ามกลางความเจ็บปวดและทรมานใจอย่างสาหัส หวังเพียงสักวันหนึ่งข้างหน้าจะมีวันที่ความเจ็บปวดและความทุกข์นี้จะผ่านพ้นไป
ตอนที่ 5 เจ้าสาวตัวแทน/1 อาทิตย์ต่อมาแพรพรรณกับสมเกียรติพามัสลินเดินทางไปยังภูเก็ตสถานที่จัดงานแต่งงาน ก่อนเดินทางมัสลินเข้าไปกราบลาคุณยายฝ้ายคำ“มัสต้องไปช่วยงานแต่งงานของพี่ป่าน ป้าแพรบอกว่าต้องไปหลายวัน” มัสลินพนมมือกราบบนอกผู้เป็นยาย“ไปดีมาดีนะลูก ยายจะรอมัสกลับมา” คนแก่ลูบศีรษะหลานสาว พร้อมอวยพร“คุณยายอยู่ทางนี้ก็ทานข้าวทานยาที่อาหมี่ป้อนให้ครบนะคะ ไม่ต้องเป็นห่วงมัส ถ้าเสร็จงานมัสจะรีบกลับมาหาคุณยายค่ะ”พูดไปก็รู้สึกแน่นในอกตาร้อนผ่าวจนต้องกลั้นเอาไว้ ด้วยไม่เคยจากผู้เป็นยายไปไหนนานๆ แม้นางแววกับเด็กอาหมี่จะรับปากว่า จะผลัดกันมานอนเฝ้าคุณยาย และช่วยดูแลป้อนข้าวป้อนยาตามเวลา แต่มัสลินก็รู้สึกวูบโหวงในใจ พยายามไม่คิดมาก ปัดความห่วงใยออกจากใจ เธอต้องเชื่อใจนางแววกับเด็กอาหมี่สิ ทั้งสองรับปากแล้วว่าจะดูแลคุณยายอย่างดี เธอเองก็ไม่ได้ไปเป็นเดือน เพียงอาทิตย์เดียวก็ได้กลับมาหาคุณยายแล้ว “ไม่ต้องห่วงยาย ดูแลตัวเองให้ดีๆ นะลูก ยายจะรอมัสกลับมา”คนแก่ย้ำอีกครั้ง กอดหลานสาวไว้แน่น รู้สึกใจหายแปลกๆ แต่พยายามไม่คิดในทางร้าย อาจจะไม่ใช่ลางสังหรณ์บ้าบออะไร ท่านควรคิดแต่สิ่ง
ตอนที่ 6.เจ้าสาวตัวแทน/2 “ขอบคุณค่ะ ฉันถอดชุดออกได้แล้วใช่ไหมคะ” มัสลินทำท่าจะขยับลุก แต่ถูกห้ามไว้ก่อน“ยังค่ะ ยังถอดไม่ได้ ต้องไปถ่ายรูปพรีเวดดิ้งก่อนค่ะ เจ้าบ่าวเจ้าสาวก็ไม่ค่อยมีเวลา แถมงานก็จะจัดในไม่กี่วันนี้แล้ว ทางเราต้องเร่งทำสแตนดิ้งด้วย ขอความร่วมมือด้วยนะคะ”จากแค่ลองชุด แต่งหน้าทำผม บานปลายไปจนถึงขั้นต้องถ่ายพรีเวดดิ้ง ทำเอามัสลินอึดอัดพูดอะไรไม่ออก จะปฏิเสธก็ไม่ได้ ได้แต่นิ่งเงียบไว้ก๊อก ก๊อก ก๊อก !!!เสียงเคาะประตูดังขึ้น พอช่างเสื้อไปเปิดก็มีผู้ชายร่างสูงคนหนึ่งเดินเข้ามาในห้อง ใบหน้าของเขาหล่อเหลาแบบหนุ่มตี๋ แต่เจ้าตัวดูเคร่งขรึมไร้รอยยิ้มประดับ ดวงตายาวเรียวมองมาทางมัสลิน เมื่อสบตากันหญิงสาวก็รู้สึกอึดอัดใจกว่าเดิม เมื่อเห็นแววตาของเขาช่างเย็นชาราวกับรูปปั้นไร้หัวใจ นึกขอบคุณสวรรค์ที่เธอไม่ใช่เจ้าสาวของเขาจริงๆ และนึกเห็นใจลินินที่ต้องแต่งงานกับผู้ชายแบบนี้ ป้าแพรพรรณจับลูกสาวคลุมถุงชนกับเศรษฐีใหญ่ โดยไม่สนใจว่าพี่สาวของเธอจะเต็มใจหรือไม่ ลินินมาบ่นให้เธอฟังหลายหนว่า อยากจะล้มเลิกงานแต่ง แต่แม่กับพ่อรับสินสอดบางส่วนจากทางเจ้าบ่าวมาแล้ว แถมยังเอาไปใช้หนี้เกือบหมดคงไ
ตอนที่7. เจ้าสาวตัวแทน/3“แต่ก็ยังดีกว่าเรื่อง สโนว์ไวท์กับคนแคระทั้งเจ็ดนะคะ อย่างน้อยฉันก็ไม่ถูกไล่ออกจากบ้าน ไม่ถูกสั่งฆ่า หรือว่าถูกแม่มดหลอกให้กินแอปเปิ้ลอาบยาพิษ”มัสลินยังมีอารมณ์ขัน ทั้งที่อยากร้องไห้เต็มทน เธอมองเห็นอนาคตตัวเองโดยไม่ต้องให้หมอดูทำนาย “รันทดได้อีก” ภานุส่ายหน้าอย่างเวทนา“ฉันชินแล้วค่ะ ยอมให้ป้าแพรด่าสักหน่อย ตบอีกทีสองที แลกกับการไม่ถูกไล่ออกจากบ้าน ได้อยู่ดูแลคุณยาย ฉันว่าฉันทนได้ค่ะ”น้ำเสียงคนพูดแม้จะพยายามให้สดใส แต่ก็ซ่อนความปวดร้าวไว้ไม่มิด คนฟังสะท้อนใจสงสารหญิงสาวคนนี้เหลือเกิน บิดาของเขาอยากให้เขามีทายาทสืบสกุลให้ท่าน บังคับให้เขาแต่งงานกับหญิงสาวที่ท่านเลือกให้ แลกกับการยกมรดกทั้งหมดให้ ภานุจำยอมอย่างไร้ทางเลือก เขาทำใจแล้วกับการต้องแต่งงานกับผู้หญิงที่ไม่ได้รัก และคงต้องฝืนใจมีทายาทให้บิดาสมหวัง จากนั้นเขาอาจจะขอหย่า โยนเงินให้สักก้อนเพื่อแยกทางกัน แล้วกลับไปใช้ชีวิตในแบบที่ตัวเองต้องการ แต่มัสลินทำให้เขาเกิดความคิดบางอย่าง“คุณเป็นคนดี ไม่ควรต้องทนให้ป้าคุณข่มเหง”“ฉันมีคุณยายที่ป่วยเป็นอัมพาตต้องดูแล ฉันทิ้งท่านไม่ได้หรอกค่ะ ต่อให
ตอนที่ 8.ทัณฑ์เถื่อน/1“ไม่ต้องห่วงค่ะ ฉันเตรียมคำอธิบายไว้แล้ว ลูกต้องเข้าใจค่ะ”แพรพรรณเชื่อมั่นว่าเธอสามารถจัดการทุกอย่างได้ ตอนนี้มัสลินก็เข้าพิธีแทนลินินไปแล้ว ชั่วดียังไงหลานสาวของเธอก็ได้ชื่อว่าเป็นสะใภ้ของเจ้าสัวโภคิน อีกฝ่ายคงไม่กล้าโวยวายให้เสียหน้า ส่วนชีวิตหลังจากนี้ของมัสลินเธอไม่คิดจะสนใจงานเลี้ยงสิ้นสุดลง เจ้าบ่าวเจ้าสาวถูกส่งตัวเข้าหอ การแต่งงานที่มากพิธีแสนเหนื่อยทำให้สองหนุ่มสาวแทบยืนไม่ไหว“เหนื่อยหรือเปล่ามัส” ภานุเอ่ยถามเจ้าสาวของเขา“ยิ่งกว่าวิ่งมาราธอนอีกค่ะ ยืนรับแขกจนปวดขาไปหมด พี่นุก็ท่าทางเหนื่อยไม่แพ้มัสเลย”มัสลินถอดรองเท้าส้นสูงออก แล้วนั่งลงที่เก้าอี้หน้าโต๊ะเครื่องแป้ง ก้มลงนวดขาตัวเองให้คลายความเมื่อยล้า ไม่คิดว่างานแต่งงานจะเหนื่อยขนาดนี้“พี่ขอสาบานเลยนะ ว่าจะแต่งงานครั้งนี้ครั้งแรกและครั้งเดียว เข็ดจริงๆ” ภานุทิ้งตัวลงนอนแผ่บนเตียง“พี่นุไปอาบน้ำสิคะ จะได้หายเหนื่อย แช่น้ำอุ่นๆ จะได้สบายตัว เดี๋ยวมัดเตรียมน้ำให้ค่ะ”“ไม่เป็นไร มัสพักเถอะ พี่ขอตัวไปอาบน้ำก่อน” ภานุลุกจากเตียงเดินหายเข้าในห้องน้ำมัสลินมองตามหลังเจ้าบ่าวที่เดินโผเผเข้าไปในห้องน้ำแล้ว
ตอนที่9 ทัณฑ์เถื่อน/2“นายมีเรื่องกับคุณภานุใช่ไหม...”อีกฝ่ายยังเงียบไม่ยอมตอบ ได้ยินเสียงถอนหายใจแรง พร้อมกับมือหนาที่เอื้อมมาบีบไหล่แล้วยกตัวเธอให้ลุกขึ้นนั่ง มัสลินขยับถอยหนีตามสัญชาตญาณ แต่เขาไม่ยอมให้เธอหนีห่างบีบไหล่ไว้แน่น แรงบีบทำให้หญิงสาวนิ่วหน้าด้วยความเจ็บ“โอ๊ย... ฉันเจ็บนะ”เสียงร้องทำให้เขาคลายมือออกเล็กน้อยแต่ไม่ยอมปล่อย ยื่นหน้าเข้ามาใกล้จนรู้สึกถึงลมหายใจร้อนผ่าวที่รินรดใกล้แก้มนวล มัสลินเบี่ยงหน้าหนีอย่างรังเกียจ นั่นดูเหมือนทำให้อีกฝ่ายไม่พอใจ มือหนาละจากไหล่มาบีบปลายคางเธอไว้แน่นราวกับคีมเหล็ก“รู้ไหมว่าตอนนี้ ไอ้เจ้าบ่าวของเธอมันเป็นยังไง” เขาพูดข้างหูเธอด้วยน้ำเสียงชวนขนลุก“คุณภานุ...” มัสลินมัวแต่ห่วงตัวเองจนลืมนึกถึงภานุ“หึ ไม่ต้องห่วงมันหรอก ห่วงตัวเองดีกว่า”ไม่กี่ชั่วโมงก่อน เขาเข้าไปหลบในห้องหอของสองหนุ่มสาว รอเวลาที่ทั้งคู่จะเข้ามา คนแรกที่เขาจัดการคือภานุ มันเดินเข้ามาในห้องน้ำที่เขาหลบอยู่ เมื่อเขาเปิดเผยตัวพร้อมกับปืนในมือ อีกฝ่ายถึงกับยืนตัวแข็งด้วยความตกใจ“แก... แกเข้ามาได้ยังไง” จบประโยคนั้น เขาก็ฟาดมันด้วยด้ามปืน จนอีกฝ่ายทรุดลงไปกองกับพื้น นอ
ตอนที่10 ทัณฑ์เถื่อน/3มัสลินสะดุ้งผวา พยายามดิ้นรนปกป้องตัวเองสุดชีวิต ทั้งที่รู้ดีว่าเรี่ยวแรงหรือสภาพร่างกายของตัวเองที่ถูกเขาจับมัดไว้ ไม่อาจจะต้านทานความป่าเถื่อนของอีกฝ่ายได้ น้ำตาไหลรินออกมาพร้อมกับเสียงร้องอ้อนวอน“ไม่นะ ปล่อยฉันเถอะ อย่าทำฉันเลย ฮือ...”อาภรณ์ชิ้นน้อยถูกกระชากจนหลุดออกจากร่าง เผยให้เห็นความงดงามของวัยสาว ปทุมทองคู่งามอวบใหญ่พอดีตัว ปลายยอดสีชมพูกะจิริดน่ามอง เอวคอด หน้าท้องแบนเรียบ ผิวขาวผ่องไร้รอยไฝฝ้าอ่อนละมุนไปทั้งตัว สายตาของกริชกวาดมองไปบนร่างงามอย่างตะลึงลาน เจ้าสาวของศัตรูสวยชนิดเป็นหนึ่งไม่มีสอง งามกว่าผู้หญิงคนไหนที่เคยผ่านตา ความงามนี้ควรค่าแก่การยกย่องไว้เป็นยอดดวงใจของเจ้าบ่าว แต่เธอโชคร้ายที่เลือกแต่งงานกับผู้ชายอย่างภานุ ความงดงามราวกับดอกบัวสวรรค์จึงต้องถูกบดขยี้ ทำลายให้สาสมกับความแค้นที่ประทุขึ้นในใจของผู้ชายอย่างกริช“กรี๊ดดด อย่านะ...”เสียงกรีดร้องดังขึ้น เมื่อมือหนากระชากอาภรณ์ชิ้นสุดท้ายที่ปกปิดกายส่วนล่างออกพ้นตัว หมดแล้วความปรานีที่มอบให้ เมื่อไฟแค้นไม่อาจดับมอดลงได้ด้วยความเมตตา ร่างงดงามบริสุทธิ์ของเจ้าสาวในคืนวิวาห์ ต้องรับการลงทัณฑ
ตอนที่ 11.ฉันคือเจ้าของเธอ/1“เกิดอะไรขึ้น ใครทำอะไรแก แล้วหนูมัสล่ะหายไปไหน”คนเป็นพ่อรีบปาดเข้าไปหาลูกชายด้วยความตกใจ สภาพของภานุถูกตีจนหัวแตกเลือดไหลอาบหน้าเปื้อนชุดสูทสีขาวที่สวมอยู่ ในห้องไร้ร่องรอยของเจ้าสาว“มีคนร้ายบุกเข้ามาทำร้ายผม แล้วจับตัวมัสลินไปครับ”ภานุบอกความจริงไม่หมด เขาเก็บกระดาษแผ่นนั้นซุกกระเป๋าไว้ไม่ให้คนเป็นพ่อเห็น ไม่ต้องการให้เรื่องบานปลายแบบที่เคยเกิดขึ้นมาก่อน“บ้าจริง รึว่ามันเป็นแผนของแม่ยายกับพ่อตาแก สองคนนั่นหอบสินสอดขอตัวกลับบ้านไปหลังงานเลิก”เจ้าสัวโภคินรีบกดโทรศัพท์สั่งการลูกน้อง ให้ไปดักนางแพรพรรณและสามีที่สนามบิน ดูจากเวลาทั้งสองยังไม่ขึ้นเครื่อง เขายอมเอาหูไปนาเอาตาไปไร่แสร้งไม่รับรู้ว่าอีกฝ่าย เอาหลานสาวมาแต่งงานแทนลูกสาวตัวเอง หลังจกที่ภานุบอกความจริงให้เขารู้เมื่อหลายวันก่อน ภานุยืนยันว่ารู้สึกพอใจมัสลินยินดีแต่งงานกับเธอมากกว่าจะหาผู้หญิงคนอื่นมาแทน เขาจึงไม่คิดจะเอาเรื่องแพรพรรณที่คิดหลอกลวง ยอมยกเงินสินสอดและหนี้สินให้ตามข้อตกลงเดิม แต่ตอนนี้ลูกชายของเขาถูกทำร้าย และเจ้าสาวหายตัวไป คิดในแง่อื่นไม่ได้นอกจากอาจเป็นแผนการของอีกฝ่ายภานุถูกส่ง
ตอนที่ 12. ฉันคือเจ้าของเธอ/2 “เจ็บมากหรือเปล่า”กริชเอ่ยถามหญิงสาว แต่เธอนอนนิ่งไม่ยอมตอบ ทำให้เขาระบายลมหายออกแรง ๆ แล้วเข้ามาแก้มัดที่มือ ปลดผ้าคาดตาเธอออกใบหน้ารกเรื้อเต็มไปด้วยหนวดเคราของเขา ไม่ต่างจากมหาโจร มัสลินเมินหน้าหนีไม่ยอมมองหน้าอีกฝ่าย ไม่อยากจดจำคนเลวที่สร้างรอยราคีให้ชีวิตของเธอ หากอนาคตได้มีชีวิตรอดกลับไป ก็ขอลืมคืนวันเลวร้ายนี้ไปให้ได้“ลุกขึ้น!”เขาจับข้อมือดึงร่างที่อยู่บนพื้นให้ลุกขึ้น มัสลินขืนตัวต่อต้าน แต่คนตัวโตกว่าก็หิ้วเธอขึ้นมาจนได้ ชุดเจ้าสาวที่คลุมร่างร่วงลงกองกับพื้น“ว้าย!”หญิงสาวตกใจรีบคว้ามาปกปิดร่าง เนื้อตัวของเธอเปลือยเปล่ามีเพียงชุดขาดวิ่นชุดนี้ที่พอใช้ห่อตัวได้ แก้มร้อนผ่าวเมื่อสบสายตาคมวาวของอีกฝ่าย อยากให้เขาเอาผ้ามาปิดตาเธอไว้เหมือนเดิม ดีกว่าต้องทนเห็นสายตาที่เขามองมา“เห็นมาหมดทั้งตัวแล้ว ยังจะอายอะไร”ท่าทางยุกยิกของเธอ คงทำให้เขารำคาญ“ขอร้องเถอะ อย่ามองได้ไหม”มัสลินพูดโดยไม่หันไปมองร่างล่ำสัน ที่มีสภาพนุ่มลมห่มฟ้า เธอพยายามกลั้นสะอื้นไม่ร้องไห้ออกมา รู้สึกอดสูตัวเองที่ถูกย่ำยีอย่างไร้ทางสู้ แล้วยังต้องถูกเขาพูดจาให้ต้องอับอายอีก“ผู้ห
ตอนที่ 22.มรสุมชีวิต/1หญิงสาวถอนสายตาจากใบหน้าคร้ามคม ขยับลงมาจากเตียงเดินไปหยิบเสื้อผ้าที่ถูกคนหื่นเหวี่ยงตกบนพื้น เอามาสวมใส่ แล้วเดินเข้าไปชำระร่างกายในห้องน้ำ ก่อนจะกลับออกมาชะโงกหน้ามองดูคนตัวโตที่ยังหลับสนิทไม่ยอมตื่น เอหันไปมองแจกันใบใหญ่ที่เคยคิดจะเอามาทุบหัวเขาให้แตกตาย แล้วเบือนสายตากลับมามองใบหน้ารกเรื้อนั้น พลางถอนหายใจแรง พาตัวเองเดินออกจากห้องตรงไปยังห้องครัวมัสลินเปิดดูช่องแช่แข็ง พบปลาแซลมอนแช่ไว้หลายชิ้น มีกุ้งแกะเปลือก และปลาหมึก จึงนำออกมาละลายน้ำแข็ง ระหว่างรอก็เปิดตู้ของแห้ง ในนั้นมีอาหารกระป๋องหลายอย่าง ทั้งอาหารสำเร็จพร้อมทาน ข้าวสวยแบบกระป๋อง รวมถึงข้าวสาร เส้นหมี่แห้ง เส้นสปาเกตตี และยังมีผักสดให้นำมาเป็นวัตถุดิบประกอบอาหารได้หลายอย่าง หญิงสาวเลือกหยิบเส้นสปาเกตตีมาต้ม หั่นผัก เตรียมมื้อเย็นให้ตัวเองและชายหนุ่มการทำอาหารเป็นพรสวรรค์ของมัสลิน หญิงสาวได้รับถ่ายทอดสูตรเด็ดสารพัดทั้งอาหารคาวอาหารหวานจากมารดาและคุณยายฝ้ายคำ รวมถึงจากการสอนของเปรมใจ ทำได้ทั้งอาหารไทยและเทศ เคยแอบนึกฝันอยากเปิดร้านอาหารเล็กๆ ขายขนมและเครื่องดื่ม แต่มันเป็นเพียงแค่ฝันที่มัสลินไม่กล
ตอนที่ 21.แค่มีเธอ/4“ถ้าอย่างนั้น ผมว่าเราไปขอพบเจ้าสัวดีไหมครับ จะได้รู้เรื่องกัน” ปรัชญ์ร้อนใจจนอยู่นิ่งเฉยไม่ไหว“แม่ขอให้คุณพิพัฒน์ช่วยเรื่องขอพบเจ้าสัวไว้แล้ว นี่รอเขาโทรมาอีกครั้ง ปอนด์ใจเย็นๆ ก่อนนะลูก”การเข้าพบคนระดับเจ้าสัวโภคิน ไม่ใช่เรื่องที่สามารถเดินเข้าไปง่ายๆ อีกฝ่ายเป็นผู้มีอิทธิพลของจังหวัด ย่อมจะไม่ยอมพบกับคนที่ไม่ได้นัดหมายล่วงหน้ามาก่อน ยิ่งไม่เคยรู้จักคงยากจะเข้าถึงตัวได้“เราทำได้แค่รอหรือครับ ผมห่วงมัสจะแย่แล้ว”ปรัชญ์รักเอ็นดูมัสลินเหมือนน้องสาวแท้ๆ ด้วยเห็นเธอมาตั้งแต่เด็ก ช่วยเหลือดูแลมาตลอดหลายปี ย่อมผูกพันกว่าคนอื่นๆ มัสลินน่าสงสารมาก เป็นฝ่ายถูกแพรพรรณข่มเหงรังแกสารพัด โดยที่เขาไม่สามารถพาเธอออกมาจากบ้านหลังนั้นได้ มัสลินรักและกตัญญูต่อคุณยายฝ้ายคำมาก ไม่ยอมทอดทิ้งท่าน เขากับมารดาจึงทำได้เพียงช่วยเหลืออยู่ห่างๆ“หนูมัสเป็นคนดี ความดีต้องคุ้มครอง แม่เชื่ออย่างนั้น”คนเป็นแม่ปลอบใจลูกชาย และปลอบใจตัวเองไปด้วย หวังเพียงว่ามัสลินจะผ่านพ้นเรื่องราวนี้ไปได้ตื๊ด ตื๊ด ตื๊ด !!!เสียงโทรศัพท์ของเปรมใจดังขึ้น เจ้าของรีบกดรับเมื่อเห็นว่าใครโทรเข้ามา“สวัสดีค่ะคุณพิ
ตอนที่ 20 แค่มีเธอ/3มือหนาจับข้อเท้ามาพาดบนบ่า ถอนริมฝีปากออกจากเรียวปากชุ่มชื้น มาจุมพิตปลีน่องเรียวสวย ขบเม้มตรงใต้เข่า ไล้เลีย หยอกเย้าให้เธอตื่นเต้น แตะริมฝีปากไล่จุมพิตตามเรียวขาลงมาเรื่อยๆ ก่อนจะหยุดขบเม้มตรงเนินสาว ตวัดปลายลิ้นลากไล้ผิวเนียนละเอียด ผ่านตฤณชาตินุ่มสลวยไปยังต้นขาอีกข้าง มือดันขาให้เบะออกด้านข้าง สอดมือยกสะโพกหนั่นแน่นให้ลอยขึ้นจากพื้น แล้วแทรกกายใหญ่โตเข้าแนบชิดผกางามที่คลี่กลีบเบ่งบาน ชวนเชิญให้ภมรหนุ่มลงไปดื่มกินน้ำหวาน “อ๊ะ ไม่... ไม่นะ” เธอร้องครางประท้วง“ชู่ ไว้ใจฉันนะคนดี”กริชจุปากไม่ให้เธอเสียขวัญ ค่อยนำตัวตนแกร่งกร้าวแทรกผ่านความบอบบางแสนนุ่มร้อนจนสุดความยาว แรงโอบรัดรอบลำกายทำให้เขาสูดปากแรงด้วยความทรมาน ชายหนุ่มสูดลมหายใจเข้าออกแรงๆ ข่มกลั้นความดิบเถื่อนในกายไว้สุดกำลัง เขาจะทำให้เธอรับรู้ถึงความงดงามของสิ่งนี้ มอบประสบการณ์แสนวิเศษให้เธอจดจำไปนานแสนนาน ผ่อนตัวเองให้ช้าลง หยุดรอให้เธอปรับตัว ขณะรั้งร่างบางมากอดปลอบประโลม พรมจุมพิตไปบนใบหน้างดงาม มือลูบไล้พร้อมกับปลุกเร้าเธอให้เคลิ้มไหวคลายความแข็งเกร็งลงเมื่อร่างบางเริ่มตอบสนองเขาจึงค่อยๆ ขยับกาย
ตอนที่ 19. แค่มีเธอ/2ก่อนจะเลยเถิดไปมากกว่านี้เขาก็ผละริมฝีปากออกช้าๆ ดวงตาวาววามจ้องมองใบหน้างามของหญิงสาวรสจูบแสนเร่าร้อนเมื่อครู่ทำให้ริมฝีปากอิ่มแดงจัด บวมเจ่อนิดๆ เธอปรือตามองเขาด้วยแววตาอ่อนหวาน ต่างจากสายตาเกลียดชังก่อนหน้า ทำให้หัวใจของกริชสั่นไหวรุนแรง ก้มลงไปจุมพิตริมฝีปากนุ่มอย่างดูดดื่มอีกครา บดเคล้า ดูดกลืนความหอมหวานของเธอราวกับคนหลงกลางทะเลทราย พบเจอกับบ่อน้ำทิพย์ เฝ้าเวียนดื่มกินไม่รู้จักอิ่มเอมหวาน... หวานเหลือเกิน...ในหัวของชายหนุ่มมีแต่คำนี้ ความหวานของเธอแทรกผ่านปลายลิ้นเข้าสู่หัวใจ สั่นสะเทือนประสาทรับรู้ทั้งหมดให้เคลิ้มไหว มึนเมาจนยากจะถอดถอน ใช่ว่าไม่เคยสัมผัสผู้หญิงคนไหน แต่เธอพิเศษกว่าหญิงใด ไม่เพียงร่างกายร่ำร้องต้องการ หัวใจของเขาก็ปรารถนาเธอเช่นกัน“มัสลิน... เห็นใจฉันเถอะนะ”ขอเพียงแค่ความเห็นใจจากเธอ เขาปรารถนาเธอเหลือเกิน อยากครอบครองร่างงามแสนนุ่มเนียนใจแทบขาด เพียงเธอเห็นใจ เขาก็พร้อมจะทำทุกสิ่งให้เธอมีความสุข...“ฉัน... ฉัน...”หญิงสาวหอบหายใจกระเส่า อ่อนระทวยจนต้องโอบรอบคอไว้พยุงตัวไม่ให้เข่าอ่อน ความรู้สึกแปลกป่วนกำลังทำเธอหูอื้อตาลาย ไม่เป็นตัว
ตอนที่ 18. แค่มีเธอ/1“ไปนั่งเล่นข้างนอกกันเถอะ” เขาชวนหลังจากวางจานเข้าชั้น“ไปสิ”มัสลินเดินตามร่างสูงใหญ่ มองแผ่นหลังกว้างของคนตัวโตที่เดินนำอยู่ เมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อนเธอยังหวาดกลัวเขาแทบตาย ตอนนี้เธอหายกลัวเขาไปได้อย่างไร หญิงสาวไม่เข้าใจตัวเอง“เรือนี้ของนายเหรอ...” มัสลินอดถามไม่ได้“ยืมเขามา...”เรือลำนี้เป็นของเขา แต่ไม่อยากบอกว่าเขาเป็นเจ้าของ ชายหนุ่มจึงเลี่ยงตอบไปแบบนั้น ไม่อยากให้มากความ“อ๋อ... ยืมเพื่อนมา”เธอทวนคำ ดัดเสียงให้ดุเข้มขึ้น ก่อนจะหัวเราะคิกเมื่อนึกถึงเจ้าของประโยคยอดฮิตนี้ หวังว่าเพื่อนเขาคงมีชีวิตอยู่นะ“หือ...”กริชยกคิ้วสูง ก่อนจะเข้าใจมุกของคนพูดเลยประสานเสียงหัวเราะออกมา“คนให้ยืมยังมีชีวิตอยู่ ฉันไม่ได้ยืมแล้วยืมเลย ฮ่า ฮ่า ฮ่า”“แหม นึกว่าจะไม่เก็ตมุกซะแล้ว”มัสลินหัวเราะตาม อารมณ์ดีขึ้นจนเริ่มกลับมาเป็นคนเดิมที่ชอบหาเรื่องคุยสนุกให้ผ่อนคลาย เธอมักจะไปคุยเล่นกับปรัชญ์บ่อยๆ เขาเป็นเพื่อนคนเดียวที่หวังดีกับเธอจริงๆ ส่วนพี่สาวอย่างลินินนั้นไม่ใช่คนชอบคุยเล่น อีกฝ่ายจริงจังกับทุกเรื่อง ไม่ว่าเรื่องเรียนหรือเรื่องทั่วไป มักชอบมองเธอกับปรัชญ์ว่าเป็นพวกเหลว
ตอนที่ 17. ขอเพียงแค่ความเห็นใจ /4“คุณภานุเลวร้ายขนาดนั้นเชียวหรือ...”มัสลินสะท้อนใจกับเรื่องที่ได้รับรู้ เธอไม่เคยรู้จักกับภานุมาก่อน ยอมรับปากแต่งงานกับเขา เพียงเพราะเขายื่นข้อเสนอที่เธอมองว่า จะทำให้เธอสามารถพาคุณยายออกมาจากบ้านหลังนั้นได้ เมื่อรับรู้สิ่งที่เขาทำกับพี่ชายของกริช หญิงสาวก็รู้สึกเห็นใจเขาขึ้นมา คนที่ถูกกระทำแบบนั้นย่อมแค้นเคือง แม้การเอาคืนของเขาจะเป็นการทำร้ายเธอก็ตาม“เธอจะไม่เชื่อก็ได้ คำพูดของฉันมันอาจจะไม่มีน้ำหนักมากพอ แต่ขอให้รู้ไว้ว่าฉันมีเหตุผลในการกระทำครั้งนี้”กริชพลิกกายพาร่างของมัสลินลงไปนอนบนเตียง แล้วขยับลงจากเตียง เดินไปคว้าผ้าขนหนุมาพันร่าง ก่อนจะเดินออกจากห้องไป ทิ้งให้หญิงสาวนอนอยู่บนเตียงคนเดียว“ตาบ้านี่ อารมณ์ขึ้นลงเหมือนคนเป็นโรคไบโพล่า”มัสลินว่าคนที่เดินหายไป หัวใจเริ่มผ่อนคลายความตึงเครียดลง ผู้ชายคนนี้ไม่ได้เลวร้ายโดยสันดาน เพราะความแค้นทำเขากระทำการเลวร้าย หากเธอพูดจากับเขาดีๆ บางทีเขาอาจจะเห็นใจเธอก็ได้“คุณยายคะ มัสจะต้องกลับไปหาคุณยายให้ได้”มัสลินพักสายตาอยู่ครู่ใหญ่ กริชก็เปิดประตูเข้ามา ชายหนุ่มแต่งตัวเรียบร้อยแล้ว เขาสวมเสื้อเชิ้
ตอนที่ 16 ขอเพียงแค่ความเห็นใจ/3“เลวเหลือทน คนอะไรเลวขนาดนี้”ปรัชญ์กำหมัดแน่นด้วยความแค้นใจ แพรพรรณบังคับคุณยายฝ้ายคำให้เปลี่ยนพินัยกรรมสมใจ แล้วก็ตระบัดสัตย์ไม่ยอมช่วยมัสลิน หากคุณยายรู้เข้าคงอาการทรุดที่หลงเล่ห์คนเลว เขาเองก็ไม่อาจทนนิ่งเฉยได้อีกต่อไป“แม่ ผมจะไปตามหาน้อง ใครไม่ช่วยผมจะหาทางช่วยน้องเอง” ปรัชญ์บอกมารดา“แม่จะไปด้วย อยู่รอฟังข่าวไม่ไหวหรอก แม่คงอกแตกตาย” เปรมใจสนับสนุนลูกชาย“ป้าแววรู้ไหมครับ ว่ามัสหายไปที่ไหน ผมกับแม่จะไปตามหาน้อง”“เมื่ออาทิตย์ก่อน คุณนายพาคุณมัสไปช่วยงานแต่งงานของคุณป่านที่ภูเก็ตค่ะ บ้านเจ้าสัวโภคินอะไรนี่แหละค่ะ”ความสอดรู้ของนางแวว ทำให้รู้ความเคลื่อนไหวของเจ้านายทุกอย่าง“เพื่อนคุณพ่ออยู่ที่นั่น แม่จะไปขอให้เขาช่วย”เปรมใจนึกถึงเพื่อนของสามีที่เป็นเจ้าของเมืองแร่ ในอดีตสามีของเธอเคยทำงานเป็นนักสำรวจสายแร่ รู้จักสนิทสนมกับนายพิพัฒน์เจ้าของเหมืองแร่ดี หากนางไปขอความช่วยเหลืออีกฝ่ายคงมีน้ำใจ“ปอนด์ไปจองตั๋วเครื่องบิน แม่จะโทรหาคุณพิพัฒน์”เปรมใจหันไปบอกลูกชาย ก่อนจะบอกนางแววว่า“พี่แววอย่าเพิ่งให้ใครรู้เรื่องนี้นะ ไม่ว่าจะคุณยาย อาหมี่ หรือผัวพี่
ตอนที่ 15. ขอเพียงแค่ความเห็นใจ/2“คนเลว... ฉันไม่มีวันให้อภัยแก”มัสลินปาดน้ำตาทิ้งหยิบชุดขาดวิ่นมาสวมปกปิดร่างกายเปลือยเปล่าของตัวเอง มองไปรอบๆ กาย ก่อนจะสะดุดกับแจกันใส่ดอกไม้ใบใหญ่ หญิงสาวมองร่างหนาที่นอนหลับบนเตียงด้วยแววตาเกลียดชัง วูบหนึ่งของความคิด ทำให้เธอลุกขึ้นเดินตรงไปยังแจกันใบนั้น คิดจะยกมันขึ้นหวังจะทุ่มแจกันใส่หัวคนเลวที่นอนอยู่ทว่า... พอมือเอื้อมไปแตะแจกัน ก็ถูกมือหนาจับมือเธอไว้“รู้นะว่าคิดอะไร”ใบหน้ารกเรื้อยื่นมากระซิบข้างหู มือน้อยถูกมือหนากว่าบีบไว้แน่น ดวงตาคมกริบของเขาจ้องใบหน้าเธอด้วยแววตาวาววับ บ่งบอกว่าเขารู้ทันความคิดของเธอ“ปล่อยฉัน...”มัสลินเชิดหน้าเอ่ยเสียงแข็ง สะบัดมือออกจากมือหนา เบี่ยงหน้าหลบปลายจมูกโด่งงามที่คลอเคลียข้างแก้ม ไรหนวดแข็งสากคายของเขาทิ่มผิวนุ่มของเธอจนเจ็บ ผิวของเธอบางโดนอะไรนิดหน่อยก็มีรอยแดง เมื่อคืนถูกเขาฟัดเฟ้นทั้งคืน รอยจ้ำแดงๆ จึงปรากฏขึ้นบนผิวเนื้อ เจ้าตัวพยายามไม่มองให้เจ็บช้ำใจ“ยังไม่หายโกรธฉันอีกหรือ”“ถ้ายอมให้ฉันเอาแจกันทุบหัวแก ฉันอาจจะหายโกรธ” มัสลินโต้กลับ“หึ ดุจริงเมียใครไม่รู้”กริชกระตุกยิ้มไม่โกรธกับถ้อยคำนั้น หญ
ตอนที่ 14.ขอเพียงแค่ความเห็นใจ/1“เบิกเงินกองกลางไปจ่ายให้พวกโจร ขอเพียงยายมัสปลอดภัย จะต้องเสียเท่าไหร่ฉันก็ยอม” คุณยายฝ้ายคำไม่เสียดายเงินสักนิด หากมันแลกกับการได้หลานรักกลับคืนมา“เงินกองกลางก็เป็นส่วนหนึ่งของมรดกนะคะ คุณแม่จะใช้อำนาจเบิกออกมาใช้เพื่อยายมัสไม่ได้นะคะ แล้วยายป่านล่ะคะ หลานก็มีสิทธิ์ในมรดกเหมือนกัน” แพรพรรณเอาลูกสาวมาอ้าง“ยายแพร นี่แกอยากช่วยหลานจริงๆ หรือเปล่า ทำไมฮะ เงินแค่นี้มันสำคัญมากกว่าชีวิตยายมัสหรือยังไง”คนแก่สุดจะทน แผดเสียงใส่ลูกสาวด้วยความโมโห ก่อนจะหอบหายใจแรงจับมือกุมหน้าอกไว้ เมื่อรู้สึกเจ็บแปลบที่ทรวงอกด้านซ้าย“คุณแพรไม่มีอำนาจเบิกเงินส่วนนี้ครับคุณแม่”สมเกียรติเกริ่นเข้าเรื่อง สบตากับภรรยาให้ช่วยเสริม“เงินกองกลางต้องมีลายเซ็นคุณแม่ แล้วในบัญชีก็มีเงินเหลือไม่ถึงยี่สิบล้าน ถ้าพวกโจรมันเรียกมากกว่านั้น อาจจะไม่พอจ่าย” แพรพรรณเริ่มกดดันมารดา“ทำไมเหลือแค่นั้น เงินรายได้จากค่าเช่าตึก ค่าเช่าแผงในตลาดเดือนๆ นึงเกือบล้าน มันหายไปไหนหมด”คุณยายฝ้ายคำตกใจกับยอดเงินที่ไม่เพิ่มขึ้น เมื่อตอนที่ท่านบริหารจัดการ เงินเข้าบัญชีทุกเดือนไม่ได้ขาด สะสมได้แต่ละปี