“เกิดอะไรขึ้น ใครทำอะไรแก แล้วหนูมัสล่ะหายไปไหน”
คนเป็นพ่อรีบปาดเข้าไปหาลูกชายด้วยความตกใจ สภาพของภานุถูกตีจนหัวแตกเลือดไหลอาบหน้าเปื้อนชุดสูทสีขาวที่สวมอยู่ ในห้องไร้ร่องรอยของเจ้าสาว
“มีคนร้ายบุกเข้ามาทำร้ายผม แล้วจับตัวมัสลินไปครับ”
ภานุบอกความจริงไม่หมด เขาเก็บกระดาษแผ่นนั้นซุกกระเป๋าไว้ไม่ให้คนเป็นพ่อเห็น ไม่ต้องการให้เรื่องบานปลายแบบที่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
“บ้าจริง รึว่ามันเป็นแผนของแม่ยายกับพ่อตาแก สองคนนั่นหอบสินสอดขอตัวกลับบ้านไปหลังงานเลิก”
เจ้าสัวโภคินรีบกดโทรศัพท์สั่งการลูกน้อง ให้ไปดักนางแพรพรรณและสามีที่สนามบิน ดูจากเวลาทั้งสองยังไม่ขึ้นเครื่อง เขายอมเอาหูไปนาเอาตาไปไร่แสร้งไม่รับรู้ว่าอีกฝ่าย เอาหลานสาวมาแต่งงานแทนลูกสาวตัวเอง หลังจกที่ภานุบอกความจริงให้เขารู้เมื่อหลายวันก่อน ภานุยืนยันว่ารู้สึกพอใจมัสลินยินดีแต่งงานกับเธอมากกว่าจะหาผู้หญิงคนอื่นมาแทน เขาจึงไม่คิดจะเอาเรื่องแพรพรรณที่คิดหลอกลวง ยอมยกเงินสินสอดและหนี้สินให้ตามข้อตกลงเดิม แต่ตอนนี้ลูกชายของเขาถูกทำร้าย และเจ้าสาวหายตัวไป คิดในแง่อื่นไม่ได้นอกจากอาจเป็นแผนการของอีกฝ่าย
ภานุถูกส่งไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล เจ้าสัวโภคินสั่งปิดข่าวไม่ยอมแจ้งตำรวจ เขากลับไปรอที่บ้านตัวเองให้ลูกน้องลากตัวแพรพรรณกับสามีมาสอบถาม
“ว่าไงคุณแพรพรรณ คุณสมเกียรติ” เจ้าสัวโภคินเอ่ยทักสองสามีภรรยา
ทั้งสองท่าทางแตกตื่นแพรพรรณกอดกระเป๋าถือใบใหญ่ของตัวเองไว้แน่น ในนั้นบรรจุเพชรทองและของมีค่าสินสอดที่เจ้าสัวมอบให้ไว้ แพรพรรณกับสมเกียรติกำลังนั่งรอเครื่องบินออกด้วยความลิงโลดใจ คิดวางแผนจะตามลูกสาวไปเมืองนอกหลังจากกลับถึงกรุงเทพ แต่ไม่ทันขึ้นเครื่อง คนของเจ้าสัวก็มาลากตัวออกจากสนามบิน พาตัวขึ้นรถมายังคฤหาสน์นี้
“ท่านเจ้าสัว... ทำไมถึงเชิญดิฉันกับสามีมาที่นี่คะ”
แพรพรรณเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงสั่นนิดๆ นึกหวาดหวั่นในใจว่า เจ้าสัวอาจจะรู้ความลับเรื่องการสลับตัวเจ้าสาวแล้ว ถึงได้สั่งให้ลูกน้องพาตัวเธอกับสามีมา นึกเคืองมัสลินที่ทำให้ความลับแตก ยายเด็กบ้านั่นอาจจะไปบอกความจริงกับเจ้าสัวแล้ว ท่านถึงได้ลากตัวนางกับสามีมา
“เกิดเรื่องขึ้นกับตานุลูกชายผม”
ท่านเจ้าสัวเอ่ยเสียงเครียด สายตาจับจ้องใบหน้าอวบอูมของแพรพรรณด้วยแววตาวาวโรจน์ อีกฝ่ายหลบตาเหงื่อแตกเต็มหน้า สมเกียรติเองก็เอาแต่ก้มหน้าก้มตา
“มีอะไรเกิดขึ้นหรือคะ” แพรพรรณปาดเหงื่อ เอ่ยถามเสียงแผ่ว
“มีคนร้ายบุกเข้าไปทำร้ายลูกชายผมในห้องหอ แล้วเอาตัวมัสลินไป”
สิ่งที่ได้ยินทำให้แพรพรรณกับสมเกียรติทำตาโตมองหน้ากันอย่างตกใจ
“คุณภานุเป็นอะไรมากหรือเปล่า แล้วคนร้ายเป็นใครคะ”
คำถามนั้นทำให้ท่านเจ้าสัวตาลุกวาบ มองสองสามีภรรยาอย่างโมโห
“ลูกชายผมบาดเจ็บนิดหน่อยไม่ถึงตาย แต่คุณไม่คิดจะถามถึงลูกสาวคุณสักนิดหรือ คนร้ายมันจับตัวหนูมัสลินไปนะ”
“อ่า... โถ่หนูมัสลูกแม่ ป่านนี้จะเป็นตายร้ายดียังไม่รู้ ท่านเจ้าสัวช่วยลูกสาวฉันด้วยนะคะ”
น้ำตาจระเข้ของแพรพรรณหลั่งออกมาราวกับกดสวิตช์ เจ้าตัวฟูมฟายร่ำไห้ราวกับจะขาดใจตาย เจ้าสัวถึงกับทนไม่ไหวกับมารยาแสนฉ้อฉลนั่น
“หยุดเล่นละครได้แล้ว ผมสงสัยว่าคุณกับสามี อาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ สารภาพมาซะดีๆ ว่าคุณวางแผนหลอกลวงผมเพื่อหวังเงินสินสอด คุณเป็นพวกเดียวกับคนร้ายใช่ไหม!”
คำกล่าวหาของเจ้าสัวทำเอาแพรพรรณตกใจ จนหยุดร้องไห้ทันที รีบเถียงคอเป็นเอ็นว่า
“ฉันไม่รู้ไม่เห็นอะไรนะคะ ฉันไม่ได้วางแผนหลอกลวงอะไรเจ้าสัวเลย เชื่อฉันเถอะค่ะ”
“ใช่ครับ เราสองคนไม่รู้เรื่องนี้เลยนะครับ บางทีอาจจะมีคนร้ายหวังเงินค่าไถ่ มาจับตัวยายมัสไปก็ได้ มันคงคิดว่ายายมัสเป็นสะใภ้ของท่านอาจจะเรียกเงินค่าไถ่ได้เยอะ” สมเกียรติช่วยภรรยาแก้ตัว
“ผมไม่รู้ว่าเรื่องนี้มันเป็นแผนการของใคร แต่ผมคงไม่รับมัสลินเป็นสะใภ้ได้อีก ส่วนสินสอดทองหมั้นทั้งหลาย ผมขอคืน เรื่องโจรเรียกค่าไถ่อะไรนั่น ถ้ามันเป็นเรื่องจริง มันคงติดต่อมาเอง พวกคุณก็หาเงินไปไถ่ตัวเธอเองก็แล้วกัน”
พูดจบคนของเจ้าสัว ก็มาแย่งกระเป๋าในมือของแพรพรรณไป
“ไมได้นะคะ แบบนี้ทางดิฉันก็เสียหายสิคะ ยายมัสเข้าพิธีแต่งงานกับลูกชายท่านไปแล้ว ก็ถือว่าเป็นสะใภ้ท่าน เงินสินสอดนี่ดิฉันในฐานะแม่ก็ต้องได้รับตามประเพณี ท่านจะเอาคืนไปไม่ได้”
แพรพรรณโวยวายเสียงดัง เข้าไปแย่งกระเป๋าคืน แต่พอเห็นลูกน้องของท่านเจ้าสัวควักปืนออกมาก็รีบขยับไปหลบหลังสามี ด้วยความกลัว
“ดูเหมือนคุณแพรพรรณจะห่วงสินสอด มากกว่าห่วงชีวิตลูกสาวตัวเองนะ “
ท่านเจ้าสัวมองท่าทางของอีกฝ่ายด้วยสายตารังเกียจ แค่เอาหลานสาวมาแต่งงานแทนลูกสาวตัวเองว่าแย่แล้ว นี่ยังไม่คิดห่วงความปลอดภัยของหลานตัวเองสักนิด กลับยื้อแย่งห่วงเงินค่าสินสอด แบบนี้ข้อสันนิษฐานที่ท่านคิดไว้ ว่าแพรพรรณอาจจะมีส่วนรู้เห็นกับโจรที่ทำร้ายลูกชายของท่าน น่าจะมีเค้าความจริง
“ไม่ใช่นะคะท่าน ดิฉันแค่รักษาสิทธิ์ของตัวเองเท่านั้น ถ้าท่านไม่เชื่อว่าดิฉันไม่มีส่วนรู้เห็นในเรื่องนี้ ดิฉันกับสามีจะขอจัดการเรื่องนี้เองค่ะ”
แพรพรรณกัดฟันพูด ตอนนี้เธอไม่หวังอะไรมากกว่าเอาตัวเองให้รอดจากโทสะของท่านเจ้าสัว เงินค่าสินสอดคงปลิวหายไปในอากาศแล้ว อย่าหวังจะได้คืน หากเอาลมหายใจปลิวไปด้วย คงไม่ดีแน่
“หึ ถ้าอย่างนั้นก็ไสหัวไปให้พ้นบ้านผมได้แล้ว ออ... ส่วนหนี้สินที่พวกคุณติดค้างผมไว้ ผมคิดว่าควรจะรีบใช้ได้แล้ว ผมจะส่งทนายไปดำเนินการเร่งรัดหนี้สินภายในอาทิตย์นี้”
พูดจบท่านเจ้าสัวก็เดินหนีไป ทิ้งให้แพรพรรณกับสมเกียรติมองหน้าด้วยความหนักใจ
“โอย... เวรกรรมอะไรอย่างนี้ ซวยจริงๆ ไอ้โจรบ้าที่ไหนมาจับตัวยายมัสไป”
แพรพรรณอยากจะขยำหัวตัวเองแรงด้วยความโมโห แต่กลัวผมเสียทรงได้แต่กำมือไว้แทน เรื่องที่เกิดขึ้นมันทำให้แผนการของเธอล่มไปหมด ไม่ได้เงินแถมเจ้าสัวจะทวงหนี้อีก งานนี้มีแต่เสียไม่มีได้
“ผมว่าเรารีบขึ้นเครื่องกันเถอะ กลับไปคิดที่บ้านดีกว่า” สมเกียรติยกนาฬิกาขึ้นดู เห็นว่ายังทันขึ้นเครื่อง
“ค่ะ ไปก็ไป อยู่ที่นี่ ไม่มีประโยชน์”
แพรพรรณเดินตามสามีออกมาจากบ้านเจ้าสัว เรียกแท็กซี่ให้ไปส่งที่สนามบิน ทั้งสองเดินทางกลับมาบ้านก็พากันไปปรึกษาเครียดในห้องนอน
“เราติดหนี้เจ้าสัวอยู่สิบห้าล้าน คงไม่มีทางจะหามาใช้ได้ง่ายๆ ถ้าเราเอาเงินของคุณแม่มาใช้ได้ก็คงจะดี”
สมเกียรติพ่นลมหายใจแรง ด้วยความหนักใจ ฐานะทางบ้านของเขาไม่ได้ร่ำรวยอะไร พี่น้องก็เป็นเพียงข้าราชการ สมบัติแทบไม่มีอะไรพอจะแบ่งกัน โชคดีที่เขาแต่งงานกับลูกสาวเศรษฐีอย่างแพรพรรณ จึงอาศัยเงินทางบ้านภรรยาในการเชิดชูฐานะทางสังคม
“เงินของคุณแม่...”
แพรพรรณครางในคอ สมองคิดหาวิธีเอาเงินของมารดามาใช้ แค่เงินค่าเช่าแผงในตลาดกับค่าเช่าตึกในแต่ละเดือน ก็ได้ไม่ถึงล้าน ไม่มีทางจะเอามาใช้หนี้ท่านเจ้าสัวได้หมด นอกจากจะได้มรดกทั้งหมดแล้วจัดการขายบางส่วนหรือทั้งหมด อาจจะได้เงินนับร้อยล้าน แต่จะเอามายังไงเมื่อคนเป็นมารดายังไม่ได้ทำพินัยกรรมยกทุกสิ่งให้นางคนเดียว หากท่านตายไปเปิดพินัยกรรมอาจจะมีชื่อมัสลินร่วมด้วย ส่วนแบ่งก็จะน้อยลง และไม่รู้ว่าท่านจะตายเมื่อไหร่
“เราต้องหาวิธี เอาเงินของคุณแม่มาใช้หนี้ท่านเจ้าสัวให้ได้”
สมเกียรติขบคิดหาทางแก้ปัญหา ก่อนจะนึกอะไรบางอย่างออก
“เอาแบบนี้ไหมคุณแพร เราบอกคุณแม่เรื่องยายมัสถูกโจรจับตัวไปเรียกค่าไถ่ ขอให้ท่านเซ็นชื่อให้เราเบิกเงินกองกลางออกมา”
แผนการของสมเกียรติทำให้แพรพรรณเบิกตากว้าง นึกทบทวนก่อนจะพยักหน้าเห็นด้วย แล้วเสริมว่า
“แค่นั้นจะพออะไร ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว ฉันจะเอาเรื่องนี้ขู่ให้คุณแม่เปลี่ยนพินัยกรรม หากท่านไม่เซ็นยกสมบัติทั้งหมดให้ฉัน ท่านก็จะไม่ได้เห็นหน้าหลานสาวสุดที่รักอีก”
ความคิดของสมเกียรติว่าร้ายแล้ว ความคิดของแพรพรรณเลวยิ่งกว่า ความโลภบังตาความเลวบังใจ ความดีจึงไม่มีอยู่ในกมลสันดานของนางเลย คิดเพียงหาประโยชน์ให้ตัวเอง ไม่สำนึกบุญคุณสักนิดว่า คุณยายฝ้ายคำคือคนที่ชุบเลี้ยงตัวเองมา
สองสามีภรรยามองหน้ากับแล้วยิ้มอย่างมีแผนการ พรุ่งนี้เช้าทั้งสองจะเข้าไปจัดการเรื่องนี้ คืนนี้ดึกเกินไปที่จะเรียกทนายออกมาแก้ไขพินัยกรรม
ตอนที่ 12. ฉันคือเจ้าของเธอ/2 “เจ็บมากหรือเปล่า”กริชเอ่ยถามหญิงสาว แต่เธอนอนนิ่งไม่ยอมตอบ ทำให้เขาระบายลมหายออกแรง ๆ แล้วเข้ามาแก้มัดที่มือ ปลดผ้าคาดตาเธอออกใบหน้ารกเรื้อเต็มไปด้วยหนวดเคราของเขา ไม่ต่างจากมหาโจร มัสลินเมินหน้าหนีไม่ยอมมองหน้าอีกฝ่าย ไม่อยากจดจำคนเลวที่สร้างรอยราคีให้ชีวิตของเธอ หากอนาคตได้มีชีวิตรอดกลับไป ก็ขอลืมคืนวันเลวร้ายนี้ไปให้ได้“ลุกขึ้น!”เขาจับข้อมือดึงร่างที่อยู่บนพื้นให้ลุกขึ้น มัสลินขืนตัวต่อต้าน แต่คนตัวโตกว่าก็หิ้วเธอขึ้นมาจนได้ ชุดเจ้าสาวที่คลุมร่างร่วงลงกองกับพื้น“ว้าย!”หญิงสาวตกใจรีบคว้ามาปกปิดร่าง เนื้อตัวของเธอเปลือยเปล่ามีเพียงชุดขาดวิ่นชุดนี้ที่พอใช้ห่อตัวได้ แก้มร้อนผ่าวเมื่อสบสายตาคมวาวของอีกฝ่าย อยากให้เขาเอาผ้ามาปิดตาเธอไว้เหมือนเดิม ดีกว่าต้องทนเห็นสายตาที่เขามองมา“เห็นมาหมดทั้งตัวแล้ว ยังจะอายอะไร”ท่าทางยุกยิกของเธอ คงทำให้เขารำคาญ“ขอร้องเถอะ อย่ามองได้ไหม”มัสลินพูดโดยไม่หันไปมองร่างล่ำสัน ที่มีสภาพนุ่มลมห่มฟ้า เธอพยายามกลั้นสะอื้นไม่ร้องไห้ออกมา รู้สึกอดสูตัวเองที่ถูกย่ำยีอย่างไร้ทางสู้ แล้วยังต้องถูกเขาพูดจาให้ต้องอับอายอีก“ผู้ห
ตอนที่ 13. ฉันคือเจ้าของเธอ/3“ไม่... ไม่นะ...”มัสลินสะอื้นฮักกับความปั่นป่วนในกายตัวเอง เธอละอายแต่ไม่อาจห้ามปรามแรงขับทางกายที่กำลังทำให้เธอคิดอะไรไม่ออก ความหวาดผวาค่อยเลือนหายไป พร้อมกับความควบคุมตัวเองหมดไป เธออ่อนระทวยสิ้นเรี่ยวแรงขัดขืน ได้แต่หลับตาจิกปลายเล็บขยำผ้าปูที่นอนจนยับย่น“คนสวยของฉัน...”กริชครางในคอ กระดกลิ้นรัวแรงขึ้น ปลายลิ้นแทรกลึกเข้าไปในโถน้ำผึ้ง เรียกเสียงกรีดร้องดังระงม น้ำหวานหลั่งรินออกมาจนชุ่มฉ่ำ มธุรสหวานล้ำนั้นทำให้คนดื่มกินเมามัว เขาเร่งจังหวะละเลงปลายลิ้นจนเธอกรีดร้องออกมา“กรี๊ดดดด”มัสลินรับรู้ทุกสัมผัสจากปลายลิ้นร้อนนั้นอย่างละอาย แต่ก็ห้ามร่างกายตัวเองไม่ให้ลู่ไหวไปกับการปลุกเร้าแสนเชี่ยวชาญของเขาได้ เธอพ่ายแพ้ให้แก่อารมณ์ดำกฤษณา ปล่อยให้ตัวเองล่องลอยไปสู่ดินแดนที่ไม่เคยรู้จัก โดยมีเขาเป็นผู้ส่งเธอไปจนสุดทาง แสงสีขาวแตกกระจาย ในท้องบิดมวน ร่างกายเกร็งสะท้านก่อนจะมีบางอย่างระเบิดพร่างออกมา ร่างงามเกร็งตัวแอ่นสะโพก ยกตัวลอยจากหมอนที่รองรับ เสียงลมหายใจหอบกระเส่า บ่งบอกว่าเขาส่งเธอไปแตะขอบฟ้าสำเร็จเป็นครั้งแรกในชีวิตสาวกริชเงยหน้าขึ้นชื่นชมความสำเร็
ตอนที่ 14.ขอเพียงแค่ความเห็นใจ/1“เบิกเงินกองกลางไปจ่ายให้พวกโจร ขอเพียงยายมัสปลอดภัย จะต้องเสียเท่าไหร่ฉันก็ยอม” คุณยายฝ้ายคำไม่เสียดายเงินสักนิด หากมันแลกกับการได้หลานรักกลับคืนมา“เงินกองกลางก็เป็นส่วนหนึ่งของมรดกนะคะ คุณแม่จะใช้อำนาจเบิกออกมาใช้เพื่อยายมัสไม่ได้นะคะ แล้วยายป่านล่ะคะ หลานก็มีสิทธิ์ในมรดกเหมือนกัน” แพรพรรณเอาลูกสาวมาอ้าง“ยายแพร นี่แกอยากช่วยหลานจริงๆ หรือเปล่า ทำไมฮะ เงินแค่นี้มันสำคัญมากกว่าชีวิตยายมัสหรือยังไง”คนแก่สุดจะทน แผดเสียงใส่ลูกสาวด้วยความโมโห ก่อนจะหอบหายใจแรงจับมือกุมหน้าอกไว้ เมื่อรู้สึกเจ็บแปลบที่ทรวงอกด้านซ้าย“คุณแพรไม่มีอำนาจเบิกเงินส่วนนี้ครับคุณแม่”สมเกียรติเกริ่นเข้าเรื่อง สบตากับภรรยาให้ช่วยเสริม“เงินกองกลางต้องมีลายเซ็นคุณแม่ แล้วในบัญชีก็มีเงินเหลือไม่ถึงยี่สิบล้าน ถ้าพวกโจรมันเรียกมากกว่านั้น อาจจะไม่พอจ่าย” แพรพรรณเริ่มกดดันมารดา“ทำไมเหลือแค่นั้น เงินรายได้จากค่าเช่าตึก ค่าเช่าแผงในตลาดเดือนๆ นึงเกือบล้าน มันหายไปไหนหมด”คุณยายฝ้ายคำตกใจกับยอดเงินที่ไม่เพิ่มขึ้น เมื่อตอนที่ท่านบริหารจัดการ เงินเข้าบัญชีทุกเดือนไม่ได้ขาด สะสมได้แต่ละปี
ตอนที่ 15. ขอเพียงแค่ความเห็นใจ/2“คนเลว... ฉันไม่มีวันให้อภัยแก”มัสลินปาดน้ำตาทิ้งหยิบชุดขาดวิ่นมาสวมปกปิดร่างกายเปลือยเปล่าของตัวเอง มองไปรอบๆ กาย ก่อนจะสะดุดกับแจกันใส่ดอกไม้ใบใหญ่ หญิงสาวมองร่างหนาที่นอนหลับบนเตียงด้วยแววตาเกลียดชัง วูบหนึ่งของความคิด ทำให้เธอลุกขึ้นเดินตรงไปยังแจกันใบนั้น คิดจะยกมันขึ้นหวังจะทุ่มแจกันใส่หัวคนเลวที่นอนอยู่ทว่า... พอมือเอื้อมไปแตะแจกัน ก็ถูกมือหนาจับมือเธอไว้“รู้นะว่าคิดอะไร”ใบหน้ารกเรื้อยื่นมากระซิบข้างหู มือน้อยถูกมือหนากว่าบีบไว้แน่น ดวงตาคมกริบของเขาจ้องใบหน้าเธอด้วยแววตาวาววับ บ่งบอกว่าเขารู้ทันความคิดของเธอ“ปล่อยฉัน...”มัสลินเชิดหน้าเอ่ยเสียงแข็ง สะบัดมือออกจากมือหนา เบี่ยงหน้าหลบปลายจมูกโด่งงามที่คลอเคลียข้างแก้ม ไรหนวดแข็งสากคายของเขาทิ่มผิวนุ่มของเธอจนเจ็บ ผิวของเธอบางโดนอะไรนิดหน่อยก็มีรอยแดง เมื่อคืนถูกเขาฟัดเฟ้นทั้งคืน รอยจ้ำแดงๆ จึงปรากฏขึ้นบนผิวเนื้อ เจ้าตัวพยายามไม่มองให้เจ็บช้ำใจ“ยังไม่หายโกรธฉันอีกหรือ”“ถ้ายอมให้ฉันเอาแจกันทุบหัวแก ฉันอาจจะหายโกรธ” มัสลินโต้กลับ“หึ ดุจริงเมียใครไม่รู้”กริชกระตุกยิ้มไม่โกรธกับถ้อยคำนั้น หญ
ตอนที่ 16 ขอเพียงแค่ความเห็นใจ/3“เลวเหลือทน คนอะไรเลวขนาดนี้”ปรัชญ์กำหมัดแน่นด้วยความแค้นใจ แพรพรรณบังคับคุณยายฝ้ายคำให้เปลี่ยนพินัยกรรมสมใจ แล้วก็ตระบัดสัตย์ไม่ยอมช่วยมัสลิน หากคุณยายรู้เข้าคงอาการทรุดที่หลงเล่ห์คนเลว เขาเองก็ไม่อาจทนนิ่งเฉยได้อีกต่อไป“แม่ ผมจะไปตามหาน้อง ใครไม่ช่วยผมจะหาทางช่วยน้องเอง” ปรัชญ์บอกมารดา“แม่จะไปด้วย อยู่รอฟังข่าวไม่ไหวหรอก แม่คงอกแตกตาย” เปรมใจสนับสนุนลูกชาย“ป้าแววรู้ไหมครับ ว่ามัสหายไปที่ไหน ผมกับแม่จะไปตามหาน้อง”“เมื่ออาทิตย์ก่อน คุณนายพาคุณมัสไปช่วยงานแต่งงานของคุณป่านที่ภูเก็ตค่ะ บ้านเจ้าสัวโภคินอะไรนี่แหละค่ะ”ความสอดรู้ของนางแวว ทำให้รู้ความเคลื่อนไหวของเจ้านายทุกอย่าง“เพื่อนคุณพ่ออยู่ที่นั่น แม่จะไปขอให้เขาช่วย”เปรมใจนึกถึงเพื่อนของสามีที่เป็นเจ้าของเมืองแร่ ในอดีตสามีของเธอเคยทำงานเป็นนักสำรวจสายแร่ รู้จักสนิทสนมกับนายพิพัฒน์เจ้าของเหมืองแร่ดี หากนางไปขอความช่วยเหลืออีกฝ่ายคงมีน้ำใจ“ปอนด์ไปจองตั๋วเครื่องบิน แม่จะโทรหาคุณพิพัฒน์”เปรมใจหันไปบอกลูกชาย ก่อนจะบอกนางแววว่า“พี่แววอย่าเพิ่งให้ใครรู้เรื่องนี้นะ ไม่ว่าจะคุณยาย อาหมี่ หรือผัวพี่
ตอนที่ 17. ขอเพียงแค่ความเห็นใจ /4“คุณภานุเลวร้ายขนาดนั้นเชียวหรือ...”มัสลินสะท้อนใจกับเรื่องที่ได้รับรู้ เธอไม่เคยรู้จักกับภานุมาก่อน ยอมรับปากแต่งงานกับเขา เพียงเพราะเขายื่นข้อเสนอที่เธอมองว่า จะทำให้เธอสามารถพาคุณยายออกมาจากบ้านหลังนั้นได้ เมื่อรับรู้สิ่งที่เขาทำกับพี่ชายของกริช หญิงสาวก็รู้สึกเห็นใจเขาขึ้นมา คนที่ถูกกระทำแบบนั้นย่อมแค้นเคือง แม้การเอาคืนของเขาจะเป็นการทำร้ายเธอก็ตาม“เธอจะไม่เชื่อก็ได้ คำพูดของฉันมันอาจจะไม่มีน้ำหนักมากพอ แต่ขอให้รู้ไว้ว่าฉันมีเหตุผลในการกระทำครั้งนี้”กริชพลิกกายพาร่างของมัสลินลงไปนอนบนเตียง แล้วขยับลงจากเตียง เดินไปคว้าผ้าขนหนุมาพันร่าง ก่อนจะเดินออกจากห้องไป ทิ้งให้หญิงสาวนอนอยู่บนเตียงคนเดียว“ตาบ้านี่ อารมณ์ขึ้นลงเหมือนคนเป็นโรคไบโพล่า”มัสลินว่าคนที่เดินหายไป หัวใจเริ่มผ่อนคลายความตึงเครียดลง ผู้ชายคนนี้ไม่ได้เลวร้ายโดยสันดาน เพราะความแค้นทำเขากระทำการเลวร้าย หากเธอพูดจากับเขาดีๆ บางทีเขาอาจจะเห็นใจเธอก็ได้“คุณยายคะ มัสจะต้องกลับไปหาคุณยายให้ได้”มัสลินพักสายตาอยู่ครู่ใหญ่ กริชก็เปิดประตูเข้ามา ชายหนุ่มแต่งตัวเรียบร้อยแล้ว เขาสวมเสื้อเชิ้
ตอนที่ 18. แค่มีเธอ/1“ไปนั่งเล่นข้างนอกกันเถอะ” เขาชวนหลังจากวางจานเข้าชั้น“ไปสิ”มัสลินเดินตามร่างสูงใหญ่ มองแผ่นหลังกว้างของคนตัวโตที่เดินนำอยู่ เมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อนเธอยังหวาดกลัวเขาแทบตาย ตอนนี้เธอหายกลัวเขาไปได้อย่างไร หญิงสาวไม่เข้าใจตัวเอง“เรือนี้ของนายเหรอ...” มัสลินอดถามไม่ได้“ยืมเขามา...”เรือลำนี้เป็นของเขา แต่ไม่อยากบอกว่าเขาเป็นเจ้าของ ชายหนุ่มจึงเลี่ยงตอบไปแบบนั้น ไม่อยากให้มากความ“อ๋อ... ยืมเพื่อนมา”เธอทวนคำ ดัดเสียงให้ดุเข้มขึ้น ก่อนจะหัวเราะคิกเมื่อนึกถึงเจ้าของประโยคยอดฮิตนี้ หวังว่าเพื่อนเขาคงมีชีวิตอยู่นะ“หือ...”กริชยกคิ้วสูง ก่อนจะเข้าใจมุกของคนพูดเลยประสานเสียงหัวเราะออกมา“คนให้ยืมยังมีชีวิตอยู่ ฉันไม่ได้ยืมแล้วยืมเลย ฮ่า ฮ่า ฮ่า”“แหม นึกว่าจะไม่เก็ตมุกซะแล้ว”มัสลินหัวเราะตาม อารมณ์ดีขึ้นจนเริ่มกลับมาเป็นคนเดิมที่ชอบหาเรื่องคุยสนุกให้ผ่อนคลาย เธอมักจะไปคุยเล่นกับปรัชญ์บ่อยๆ เขาเป็นเพื่อนคนเดียวที่หวังดีกับเธอจริงๆ ส่วนพี่สาวอย่างลินินนั้นไม่ใช่คนชอบคุยเล่น อีกฝ่ายจริงจังกับทุกเรื่อง ไม่ว่าเรื่องเรียนหรือเรื่องทั่วไป มักชอบมองเธอกับปรัชญ์ว่าเป็นพวกเหลว
ตอนที่ 19. แค่มีเธอ/2ก่อนจะเลยเถิดไปมากกว่านี้เขาก็ผละริมฝีปากออกช้าๆ ดวงตาวาววามจ้องมองใบหน้างามของหญิงสาวรสจูบแสนเร่าร้อนเมื่อครู่ทำให้ริมฝีปากอิ่มแดงจัด บวมเจ่อนิดๆ เธอปรือตามองเขาด้วยแววตาอ่อนหวาน ต่างจากสายตาเกลียดชังก่อนหน้า ทำให้หัวใจของกริชสั่นไหวรุนแรง ก้มลงไปจุมพิตริมฝีปากนุ่มอย่างดูดดื่มอีกครา บดเคล้า ดูดกลืนความหอมหวานของเธอราวกับคนหลงกลางทะเลทราย พบเจอกับบ่อน้ำทิพย์ เฝ้าเวียนดื่มกินไม่รู้จักอิ่มเอมหวาน... หวานเหลือเกิน...ในหัวของชายหนุ่มมีแต่คำนี้ ความหวานของเธอแทรกผ่านปลายลิ้นเข้าสู่หัวใจ สั่นสะเทือนประสาทรับรู้ทั้งหมดให้เคลิ้มไหว มึนเมาจนยากจะถอดถอน ใช่ว่าไม่เคยสัมผัสผู้หญิงคนไหน แต่เธอพิเศษกว่าหญิงใด ไม่เพียงร่างกายร่ำร้องต้องการ หัวใจของเขาก็ปรารถนาเธอเช่นกัน“มัสลิน... เห็นใจฉันเถอะนะ”ขอเพียงแค่ความเห็นใจจากเธอ เขาปรารถนาเธอเหลือเกิน อยากครอบครองร่างงามแสนนุ่มเนียนใจแทบขาด เพียงเธอเห็นใจ เขาก็พร้อมจะทำทุกสิ่งให้เธอมีความสุข...“ฉัน... ฉัน...”หญิงสาวหอบหายใจกระเส่า อ่อนระทวยจนต้องโอบรอบคอไว้พยุงตัวไม่ให้เข่าอ่อน ความรู้สึกแปลกป่วนกำลังทำเธอหูอื้อตาลาย ไม่เป็นตัว
ตอนที่ 22.มรสุมชีวิต/1หญิงสาวถอนสายตาจากใบหน้าคร้ามคม ขยับลงมาจากเตียงเดินไปหยิบเสื้อผ้าที่ถูกคนหื่นเหวี่ยงตกบนพื้น เอามาสวมใส่ แล้วเดินเข้าไปชำระร่างกายในห้องน้ำ ก่อนจะกลับออกมาชะโงกหน้ามองดูคนตัวโตที่ยังหลับสนิทไม่ยอมตื่น เอหันไปมองแจกันใบใหญ่ที่เคยคิดจะเอามาทุบหัวเขาให้แตกตาย แล้วเบือนสายตากลับมามองใบหน้ารกเรื้อนั้น พลางถอนหายใจแรง พาตัวเองเดินออกจากห้องตรงไปยังห้องครัวมัสลินเปิดดูช่องแช่แข็ง พบปลาแซลมอนแช่ไว้หลายชิ้น มีกุ้งแกะเปลือก และปลาหมึก จึงนำออกมาละลายน้ำแข็ง ระหว่างรอก็เปิดตู้ของแห้ง ในนั้นมีอาหารกระป๋องหลายอย่าง ทั้งอาหารสำเร็จพร้อมทาน ข้าวสวยแบบกระป๋อง รวมถึงข้าวสาร เส้นหมี่แห้ง เส้นสปาเกตตี และยังมีผักสดให้นำมาเป็นวัตถุดิบประกอบอาหารได้หลายอย่าง หญิงสาวเลือกหยิบเส้นสปาเกตตีมาต้ม หั่นผัก เตรียมมื้อเย็นให้ตัวเองและชายหนุ่มการทำอาหารเป็นพรสวรรค์ของมัสลิน หญิงสาวได้รับถ่ายทอดสูตรเด็ดสารพัดทั้งอาหารคาวอาหารหวานจากมารดาและคุณยายฝ้ายคำ รวมถึงจากการสอนของเปรมใจ ทำได้ทั้งอาหารไทยและเทศ เคยแอบนึกฝันอยากเปิดร้านอาหารเล็กๆ ขายขนมและเครื่องดื่ม แต่มันเป็นเพียงแค่ฝันที่มัสลินไม่กล
ตอนที่ 21.แค่มีเธอ/4“ถ้าอย่างนั้น ผมว่าเราไปขอพบเจ้าสัวดีไหมครับ จะได้รู้เรื่องกัน” ปรัชญ์ร้อนใจจนอยู่นิ่งเฉยไม่ไหว“แม่ขอให้คุณพิพัฒน์ช่วยเรื่องขอพบเจ้าสัวไว้แล้ว นี่รอเขาโทรมาอีกครั้ง ปอนด์ใจเย็นๆ ก่อนนะลูก”การเข้าพบคนระดับเจ้าสัวโภคิน ไม่ใช่เรื่องที่สามารถเดินเข้าไปง่ายๆ อีกฝ่ายเป็นผู้มีอิทธิพลของจังหวัด ย่อมจะไม่ยอมพบกับคนที่ไม่ได้นัดหมายล่วงหน้ามาก่อน ยิ่งไม่เคยรู้จักคงยากจะเข้าถึงตัวได้“เราทำได้แค่รอหรือครับ ผมห่วงมัสจะแย่แล้ว”ปรัชญ์รักเอ็นดูมัสลินเหมือนน้องสาวแท้ๆ ด้วยเห็นเธอมาตั้งแต่เด็ก ช่วยเหลือดูแลมาตลอดหลายปี ย่อมผูกพันกว่าคนอื่นๆ มัสลินน่าสงสารมาก เป็นฝ่ายถูกแพรพรรณข่มเหงรังแกสารพัด โดยที่เขาไม่สามารถพาเธอออกมาจากบ้านหลังนั้นได้ มัสลินรักและกตัญญูต่อคุณยายฝ้ายคำมาก ไม่ยอมทอดทิ้งท่าน เขากับมารดาจึงทำได้เพียงช่วยเหลืออยู่ห่างๆ“หนูมัสเป็นคนดี ความดีต้องคุ้มครอง แม่เชื่ออย่างนั้น”คนเป็นแม่ปลอบใจลูกชาย และปลอบใจตัวเองไปด้วย หวังเพียงว่ามัสลินจะผ่านพ้นเรื่องราวนี้ไปได้ตื๊ด ตื๊ด ตื๊ด !!!เสียงโทรศัพท์ของเปรมใจดังขึ้น เจ้าของรีบกดรับเมื่อเห็นว่าใครโทรเข้ามา“สวัสดีค่ะคุณพิ
ตอนที่ 20 แค่มีเธอ/3มือหนาจับข้อเท้ามาพาดบนบ่า ถอนริมฝีปากออกจากเรียวปากชุ่มชื้น มาจุมพิตปลีน่องเรียวสวย ขบเม้มตรงใต้เข่า ไล้เลีย หยอกเย้าให้เธอตื่นเต้น แตะริมฝีปากไล่จุมพิตตามเรียวขาลงมาเรื่อยๆ ก่อนจะหยุดขบเม้มตรงเนินสาว ตวัดปลายลิ้นลากไล้ผิวเนียนละเอียด ผ่านตฤณชาตินุ่มสลวยไปยังต้นขาอีกข้าง มือดันขาให้เบะออกด้านข้าง สอดมือยกสะโพกหนั่นแน่นให้ลอยขึ้นจากพื้น แล้วแทรกกายใหญ่โตเข้าแนบชิดผกางามที่คลี่กลีบเบ่งบาน ชวนเชิญให้ภมรหนุ่มลงไปดื่มกินน้ำหวาน “อ๊ะ ไม่... ไม่นะ” เธอร้องครางประท้วง“ชู่ ไว้ใจฉันนะคนดี”กริชจุปากไม่ให้เธอเสียขวัญ ค่อยนำตัวตนแกร่งกร้าวแทรกผ่านความบอบบางแสนนุ่มร้อนจนสุดความยาว แรงโอบรัดรอบลำกายทำให้เขาสูดปากแรงด้วยความทรมาน ชายหนุ่มสูดลมหายใจเข้าออกแรงๆ ข่มกลั้นความดิบเถื่อนในกายไว้สุดกำลัง เขาจะทำให้เธอรับรู้ถึงความงดงามของสิ่งนี้ มอบประสบการณ์แสนวิเศษให้เธอจดจำไปนานแสนนาน ผ่อนตัวเองให้ช้าลง หยุดรอให้เธอปรับตัว ขณะรั้งร่างบางมากอดปลอบประโลม พรมจุมพิตไปบนใบหน้างดงาม มือลูบไล้พร้อมกับปลุกเร้าเธอให้เคลิ้มไหวคลายความแข็งเกร็งลงเมื่อร่างบางเริ่มตอบสนองเขาจึงค่อยๆ ขยับกาย
ตอนที่ 19. แค่มีเธอ/2ก่อนจะเลยเถิดไปมากกว่านี้เขาก็ผละริมฝีปากออกช้าๆ ดวงตาวาววามจ้องมองใบหน้างามของหญิงสาวรสจูบแสนเร่าร้อนเมื่อครู่ทำให้ริมฝีปากอิ่มแดงจัด บวมเจ่อนิดๆ เธอปรือตามองเขาด้วยแววตาอ่อนหวาน ต่างจากสายตาเกลียดชังก่อนหน้า ทำให้หัวใจของกริชสั่นไหวรุนแรง ก้มลงไปจุมพิตริมฝีปากนุ่มอย่างดูดดื่มอีกครา บดเคล้า ดูดกลืนความหอมหวานของเธอราวกับคนหลงกลางทะเลทราย พบเจอกับบ่อน้ำทิพย์ เฝ้าเวียนดื่มกินไม่รู้จักอิ่มเอมหวาน... หวานเหลือเกิน...ในหัวของชายหนุ่มมีแต่คำนี้ ความหวานของเธอแทรกผ่านปลายลิ้นเข้าสู่หัวใจ สั่นสะเทือนประสาทรับรู้ทั้งหมดให้เคลิ้มไหว มึนเมาจนยากจะถอดถอน ใช่ว่าไม่เคยสัมผัสผู้หญิงคนไหน แต่เธอพิเศษกว่าหญิงใด ไม่เพียงร่างกายร่ำร้องต้องการ หัวใจของเขาก็ปรารถนาเธอเช่นกัน“มัสลิน... เห็นใจฉันเถอะนะ”ขอเพียงแค่ความเห็นใจจากเธอ เขาปรารถนาเธอเหลือเกิน อยากครอบครองร่างงามแสนนุ่มเนียนใจแทบขาด เพียงเธอเห็นใจ เขาก็พร้อมจะทำทุกสิ่งให้เธอมีความสุข...“ฉัน... ฉัน...”หญิงสาวหอบหายใจกระเส่า อ่อนระทวยจนต้องโอบรอบคอไว้พยุงตัวไม่ให้เข่าอ่อน ความรู้สึกแปลกป่วนกำลังทำเธอหูอื้อตาลาย ไม่เป็นตัว
ตอนที่ 18. แค่มีเธอ/1“ไปนั่งเล่นข้างนอกกันเถอะ” เขาชวนหลังจากวางจานเข้าชั้น“ไปสิ”มัสลินเดินตามร่างสูงใหญ่ มองแผ่นหลังกว้างของคนตัวโตที่เดินนำอยู่ เมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อนเธอยังหวาดกลัวเขาแทบตาย ตอนนี้เธอหายกลัวเขาไปได้อย่างไร หญิงสาวไม่เข้าใจตัวเอง“เรือนี้ของนายเหรอ...” มัสลินอดถามไม่ได้“ยืมเขามา...”เรือลำนี้เป็นของเขา แต่ไม่อยากบอกว่าเขาเป็นเจ้าของ ชายหนุ่มจึงเลี่ยงตอบไปแบบนั้น ไม่อยากให้มากความ“อ๋อ... ยืมเพื่อนมา”เธอทวนคำ ดัดเสียงให้ดุเข้มขึ้น ก่อนจะหัวเราะคิกเมื่อนึกถึงเจ้าของประโยคยอดฮิตนี้ หวังว่าเพื่อนเขาคงมีชีวิตอยู่นะ“หือ...”กริชยกคิ้วสูง ก่อนจะเข้าใจมุกของคนพูดเลยประสานเสียงหัวเราะออกมา“คนให้ยืมยังมีชีวิตอยู่ ฉันไม่ได้ยืมแล้วยืมเลย ฮ่า ฮ่า ฮ่า”“แหม นึกว่าจะไม่เก็ตมุกซะแล้ว”มัสลินหัวเราะตาม อารมณ์ดีขึ้นจนเริ่มกลับมาเป็นคนเดิมที่ชอบหาเรื่องคุยสนุกให้ผ่อนคลาย เธอมักจะไปคุยเล่นกับปรัชญ์บ่อยๆ เขาเป็นเพื่อนคนเดียวที่หวังดีกับเธอจริงๆ ส่วนพี่สาวอย่างลินินนั้นไม่ใช่คนชอบคุยเล่น อีกฝ่ายจริงจังกับทุกเรื่อง ไม่ว่าเรื่องเรียนหรือเรื่องทั่วไป มักชอบมองเธอกับปรัชญ์ว่าเป็นพวกเหลว
ตอนที่ 17. ขอเพียงแค่ความเห็นใจ /4“คุณภานุเลวร้ายขนาดนั้นเชียวหรือ...”มัสลินสะท้อนใจกับเรื่องที่ได้รับรู้ เธอไม่เคยรู้จักกับภานุมาก่อน ยอมรับปากแต่งงานกับเขา เพียงเพราะเขายื่นข้อเสนอที่เธอมองว่า จะทำให้เธอสามารถพาคุณยายออกมาจากบ้านหลังนั้นได้ เมื่อรับรู้สิ่งที่เขาทำกับพี่ชายของกริช หญิงสาวก็รู้สึกเห็นใจเขาขึ้นมา คนที่ถูกกระทำแบบนั้นย่อมแค้นเคือง แม้การเอาคืนของเขาจะเป็นการทำร้ายเธอก็ตาม“เธอจะไม่เชื่อก็ได้ คำพูดของฉันมันอาจจะไม่มีน้ำหนักมากพอ แต่ขอให้รู้ไว้ว่าฉันมีเหตุผลในการกระทำครั้งนี้”กริชพลิกกายพาร่างของมัสลินลงไปนอนบนเตียง แล้วขยับลงจากเตียง เดินไปคว้าผ้าขนหนุมาพันร่าง ก่อนจะเดินออกจากห้องไป ทิ้งให้หญิงสาวนอนอยู่บนเตียงคนเดียว“ตาบ้านี่ อารมณ์ขึ้นลงเหมือนคนเป็นโรคไบโพล่า”มัสลินว่าคนที่เดินหายไป หัวใจเริ่มผ่อนคลายความตึงเครียดลง ผู้ชายคนนี้ไม่ได้เลวร้ายโดยสันดาน เพราะความแค้นทำเขากระทำการเลวร้าย หากเธอพูดจากับเขาดีๆ บางทีเขาอาจจะเห็นใจเธอก็ได้“คุณยายคะ มัสจะต้องกลับไปหาคุณยายให้ได้”มัสลินพักสายตาอยู่ครู่ใหญ่ กริชก็เปิดประตูเข้ามา ชายหนุ่มแต่งตัวเรียบร้อยแล้ว เขาสวมเสื้อเชิ้
ตอนที่ 16 ขอเพียงแค่ความเห็นใจ/3“เลวเหลือทน คนอะไรเลวขนาดนี้”ปรัชญ์กำหมัดแน่นด้วยความแค้นใจ แพรพรรณบังคับคุณยายฝ้ายคำให้เปลี่ยนพินัยกรรมสมใจ แล้วก็ตระบัดสัตย์ไม่ยอมช่วยมัสลิน หากคุณยายรู้เข้าคงอาการทรุดที่หลงเล่ห์คนเลว เขาเองก็ไม่อาจทนนิ่งเฉยได้อีกต่อไป“แม่ ผมจะไปตามหาน้อง ใครไม่ช่วยผมจะหาทางช่วยน้องเอง” ปรัชญ์บอกมารดา“แม่จะไปด้วย อยู่รอฟังข่าวไม่ไหวหรอก แม่คงอกแตกตาย” เปรมใจสนับสนุนลูกชาย“ป้าแววรู้ไหมครับ ว่ามัสหายไปที่ไหน ผมกับแม่จะไปตามหาน้อง”“เมื่ออาทิตย์ก่อน คุณนายพาคุณมัสไปช่วยงานแต่งงานของคุณป่านที่ภูเก็ตค่ะ บ้านเจ้าสัวโภคินอะไรนี่แหละค่ะ”ความสอดรู้ของนางแวว ทำให้รู้ความเคลื่อนไหวของเจ้านายทุกอย่าง“เพื่อนคุณพ่ออยู่ที่นั่น แม่จะไปขอให้เขาช่วย”เปรมใจนึกถึงเพื่อนของสามีที่เป็นเจ้าของเมืองแร่ ในอดีตสามีของเธอเคยทำงานเป็นนักสำรวจสายแร่ รู้จักสนิทสนมกับนายพิพัฒน์เจ้าของเหมืองแร่ดี หากนางไปขอความช่วยเหลืออีกฝ่ายคงมีน้ำใจ“ปอนด์ไปจองตั๋วเครื่องบิน แม่จะโทรหาคุณพิพัฒน์”เปรมใจหันไปบอกลูกชาย ก่อนจะบอกนางแววว่า“พี่แววอย่าเพิ่งให้ใครรู้เรื่องนี้นะ ไม่ว่าจะคุณยาย อาหมี่ หรือผัวพี่
ตอนที่ 15. ขอเพียงแค่ความเห็นใจ/2“คนเลว... ฉันไม่มีวันให้อภัยแก”มัสลินปาดน้ำตาทิ้งหยิบชุดขาดวิ่นมาสวมปกปิดร่างกายเปลือยเปล่าของตัวเอง มองไปรอบๆ กาย ก่อนจะสะดุดกับแจกันใส่ดอกไม้ใบใหญ่ หญิงสาวมองร่างหนาที่นอนหลับบนเตียงด้วยแววตาเกลียดชัง วูบหนึ่งของความคิด ทำให้เธอลุกขึ้นเดินตรงไปยังแจกันใบนั้น คิดจะยกมันขึ้นหวังจะทุ่มแจกันใส่หัวคนเลวที่นอนอยู่ทว่า... พอมือเอื้อมไปแตะแจกัน ก็ถูกมือหนาจับมือเธอไว้“รู้นะว่าคิดอะไร”ใบหน้ารกเรื้อยื่นมากระซิบข้างหู มือน้อยถูกมือหนากว่าบีบไว้แน่น ดวงตาคมกริบของเขาจ้องใบหน้าเธอด้วยแววตาวาววับ บ่งบอกว่าเขารู้ทันความคิดของเธอ“ปล่อยฉัน...”มัสลินเชิดหน้าเอ่ยเสียงแข็ง สะบัดมือออกจากมือหนา เบี่ยงหน้าหลบปลายจมูกโด่งงามที่คลอเคลียข้างแก้ม ไรหนวดแข็งสากคายของเขาทิ่มผิวนุ่มของเธอจนเจ็บ ผิวของเธอบางโดนอะไรนิดหน่อยก็มีรอยแดง เมื่อคืนถูกเขาฟัดเฟ้นทั้งคืน รอยจ้ำแดงๆ จึงปรากฏขึ้นบนผิวเนื้อ เจ้าตัวพยายามไม่มองให้เจ็บช้ำใจ“ยังไม่หายโกรธฉันอีกหรือ”“ถ้ายอมให้ฉันเอาแจกันทุบหัวแก ฉันอาจจะหายโกรธ” มัสลินโต้กลับ“หึ ดุจริงเมียใครไม่รู้”กริชกระตุกยิ้มไม่โกรธกับถ้อยคำนั้น หญ
ตอนที่ 14.ขอเพียงแค่ความเห็นใจ/1“เบิกเงินกองกลางไปจ่ายให้พวกโจร ขอเพียงยายมัสปลอดภัย จะต้องเสียเท่าไหร่ฉันก็ยอม” คุณยายฝ้ายคำไม่เสียดายเงินสักนิด หากมันแลกกับการได้หลานรักกลับคืนมา“เงินกองกลางก็เป็นส่วนหนึ่งของมรดกนะคะ คุณแม่จะใช้อำนาจเบิกออกมาใช้เพื่อยายมัสไม่ได้นะคะ แล้วยายป่านล่ะคะ หลานก็มีสิทธิ์ในมรดกเหมือนกัน” แพรพรรณเอาลูกสาวมาอ้าง“ยายแพร นี่แกอยากช่วยหลานจริงๆ หรือเปล่า ทำไมฮะ เงินแค่นี้มันสำคัญมากกว่าชีวิตยายมัสหรือยังไง”คนแก่สุดจะทน แผดเสียงใส่ลูกสาวด้วยความโมโห ก่อนจะหอบหายใจแรงจับมือกุมหน้าอกไว้ เมื่อรู้สึกเจ็บแปลบที่ทรวงอกด้านซ้าย“คุณแพรไม่มีอำนาจเบิกเงินส่วนนี้ครับคุณแม่”สมเกียรติเกริ่นเข้าเรื่อง สบตากับภรรยาให้ช่วยเสริม“เงินกองกลางต้องมีลายเซ็นคุณแม่ แล้วในบัญชีก็มีเงินเหลือไม่ถึงยี่สิบล้าน ถ้าพวกโจรมันเรียกมากกว่านั้น อาจจะไม่พอจ่าย” แพรพรรณเริ่มกดดันมารดา“ทำไมเหลือแค่นั้น เงินรายได้จากค่าเช่าตึก ค่าเช่าแผงในตลาดเดือนๆ นึงเกือบล้าน มันหายไปไหนหมด”คุณยายฝ้ายคำตกใจกับยอดเงินที่ไม่เพิ่มขึ้น เมื่อตอนที่ท่านบริหารจัดการ เงินเข้าบัญชีทุกเดือนไม่ได้ขาด สะสมได้แต่ละปี