“แต่ก็ยังดีกว่าเรื่อง สโนว์ไวท์กับคนแคระทั้งเจ็ดนะคะ อย่างน้อยฉันก็ไม่ถูกไล่ออกจากบ้าน ไม่ถูกสั่งฆ่า หรือว่าถูกแม่มดหลอกให้กินแอปเปิ้ลอาบยาพิษ”
มัสลินยังมีอารมณ์ขัน ทั้งที่อยากร้องไห้เต็มทน เธอมองเห็นอนาคตตัวเองโดยไม่ต้องให้หมอดูทำนาย
“รันทดได้อีก” ภานุส่ายหน้าอย่างเวทนา
“ฉันชินแล้วค่ะ ยอมให้ป้าแพรด่าสักหน่อย ตบอีกทีสองที แลกกับการไม่ถูกไล่ออกจากบ้าน ได้อยู่ดูแลคุณยาย ฉันว่าฉันทนได้ค่ะ”
น้ำเสียงคนพูดแม้จะพยายามให้สดใส แต่ก็ซ่อนความปวดร้าวไว้ไม่มิด คนฟังสะท้อนใจสงสารหญิงสาวคนนี้เหลือเกิน บิดาของเขาอยากให้เขามีทายาทสืบสกุลให้ท่าน บังคับให้เขาแต่งงานกับหญิงสาวที่ท่านเลือกให้ แลกกับการยกมรดกทั้งหมดให้ ภานุจำยอมอย่างไร้ทางเลือก เขาทำใจแล้วกับการต้องแต่งงานกับผู้หญิงที่ไม่ได้รัก และคงต้องฝืนใจมีทายาทให้บิดาสมหวัง จากนั้นเขาอาจจะขอหย่า โยนเงินให้สักก้อนเพื่อแยกทางกัน แล้วกลับไปใช้ชีวิตในแบบที่ตัวเองต้องการ แต่มัสลินทำให้เขาเกิดความคิดบางอย่าง
“คุณเป็นคนดี ไม่ควรต้องทนให้ป้าคุณข่มเหง”
“ฉันมีคุณยายที่ป่วยเป็นอัมพาตต้องดูแล ฉันทิ้งท่านไม่ได้หรอกค่ะ ต่อให้ต้องอดทนมากกว่านี้ ฉันก็ยินดีขอเพียงได้ดูแลคุณยายก็พอ”
ยิ่งฟังภานุยิ่งสงสารมัสลินจับใจ ท่าทางของเธอดูซื่อๆ คงไม่กล้าปั้นเรื่องมาหลอกลวงเขาแน่นอน ผู้หญิงแบบนี้คงไม่มีปากเสียงอะไร และคงจะยอมทำตามคำสั่งได้อย่างง่ายดาย
“แล้วคุณไม่คิดพาคุณยาย ออกมาจากบ้านนั้น ออกมาให้พ้นจากป้าใจร้ายบ้างเหรอ”
คำพูดนี้ทำให้มัสลินยิ้มขื่น แววตาหมองเศร้าลงกว่าเดิม ทางออกที่เขาบอกทำไมเธอจะไม่อยากทำ แต่มันยากเหลือเกิน
“ฉันไม่มีปัญญาหรอกค่ะ ลำพังแค่ขายขนมคงไม่พอหาเงินมารักษาคุณยาย แถมอาจจะพาคุณยายไปลำบากอยู่ในห้องเช่าแคบๆ ฉันคิดว่าทนให้ป้าแพรดุด่าใช้งาน แลกกับความสุขสบายของคุณยาย ยังดีกว่า”
ภานุถอนหายใจแรง คนเราเลือกเกิดไม่ได้ คนดีแสนดีกลับต้องทนให้คนเลวรังแกเพราะเงื่อนไขชีวิต ตัวเขามีทางเลือกมากกว่ายังต้องถูกบิดาบังคับให้แต่งงานกับคนที่ไม่ได้รัก หากต้องแต่งงานแล้วอยู่กับคนที่ไม่ได้เลือก สู้เลือกคนที่เขาคิดว่าน่าจะอยู่กันได้อย่างมีความสุขจะดีกว่าไหม
“ผมมีข้อเสนอ” เขาเอ่ยขึ้น
“ข้อเสนอ... หมายความว่ายังไงคะ” มัสลินมองคนพูดอย่างสงสัย
“ไหนๆ คุณก็ถูกคุณพ่อเลือกให้แต่งงานกับผมแล้ว ทำไมไม่แต่งงานกับผมจริงๆ เลยล่ะ”
ข้อเสนอของทำให้มัสลินตกใจ อะไรทำให้ผู้ชายคนนี้เกิดอยากแต่งงานกับเธอขึ้นมา
“มันจะดีหรือคะ เราไม่ได้รักกัน ฉัน... ฉันไม่...” มัสลินส่ายปฏิเสธทันที
“ฟังผมก่อนนะ ที่ผมเสนอให้คุณแต่งงานกับผม เพราะผมอยากช่วยคุณ ถ้าคุณแต่งงานกับผมก็จะสามารถรับคุณยายมาดูแลได้ ไม่ต้องไปอาศัยป้าของคุณให้เขาโขกสับ ที่สำคัญผมเองก็ไม่คิดจะแต่งงานกับผู้หญิงที่ผมไม่ได้เลือกเอง ถ้าผมต้องแต่งงานกับผู้หญิงสักคน ผมขอเลือกผู้หญิงแบบคุณ”
ภานุอธิบายให้หญิงสาวฟังอย่างใจเย็น เขาท่าทีครุ่นคิดของมัสลินแล้วก็ยิ้มเอ็นดู
“ไม่ต้องกังวลเรื่องความสัมพันธ์ของเรา ผมจะแต่งงานกับคุณแต่ในนาม ความจริงแล้วผมมีคนรักอยู่แล้ว”
“แล้วทำไมคุณไม่แต่งงานกับคนรักของคุณล่ะคะ” มัสลินยังกังขา
“ผู้ใหญ่ทางฝ่ายผมกับเขา เราไม่ถูกกัน ความรักของเราก็เหมือนโรมิโอกับจูเลียต ครอบครัวของเราทั้งคู่เกลียดชังกัน พยายามแยกเราออกจากกัน ผมยังหวังว่าสักวันหนึ่งเราจะได้อยู่ด้วยกัน”
ภานุเล่าเรื่องราวของเขาด้วยน้ำเสียงแผ่วพร่า แววตาหม่นแสงลง มีร่องรอยของความเจ็บปวด
“ความรักของคุณน่าเห็นใจมาก ตกลงค่ะฉันจะแต่งงานกับคุณ ถ้าวันข้างหน้าคุณกับคนรักมีโอกาสได้กลับมาอยู่ด้วยกัน ฉันยินดีหย่าให้คุณค่ะ” มัสลินตัดสินใจรับข้อเสนอของเขา
“ถ้าอย่างนั้น ผมว่าเราคงต้องถ่ายพรีเวดดิ้งกันต่อ นั่นช่างภาพเดินมาตามแล้ว”
หลังจากตกลงกันได้ หนุ่มสาวทั้งสองจึงมองหน้ากันได้สนิทใจขึ้น การถ่ายรูปรอบนี้ทำเอาช่างภาพทำงานง่ายขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า เมื่อว่าที่เจ้าบ่าวเจ้าสาวให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี รูปที่ออกมามีรอยยิ้มบนใบหน้า ท่าทางดูมีชีวิตชีวาเหมาะสมกับบทบาทที่ทั้งคู่ได้รับ ไม่ใช่ท่อนไม้กับรูปปั้นเหมือนคราวแรก
“คุณไม่ต้องพูดอะไรกับป้าของคุณนะ ให้เข้าใจว่าคุณทำตามคำสั่งเขาแล้ว ผมจะไปคุยเรื่องนี้กับคุณพ่อของผมเอง ถ้าหากป้าของคุณเรียกร้องอะไร คุณพ่อของผมจะได้ไม่เสียรู้ซ้ำสอง” ภานุบอกมัสลิน
“ค่ะ ขอบคุณนะคะสำหรับทุกสิ่ง”
มัสลินพนมมือไหว้ แต่ภานุรีบรวบมือเธอมากุมไว้ ส่ายหน้าห้ามปราม
“ไม่เอา ไม่ต้องไหว้ เราต่างช่วยกัน ต่อไปนี้ให้คุณคิดว่าผมคือพี่ชาย ผมเองก็จะคิดว่าคุณคือน้องสาวคนหนึ่ง โอเคไหม น้องมัส”
“ค่ะ พี่นุ”
สองคนมองหน้ากันแล้วหัวเราะขึ้นมาพร้อมกัน ภานุลูบศีรษะของมัสลินด้วยความเอ็นดู ในขณะที่มัสลินมองหน้าพี่ชายคนใหม่อย่างชื่นชม ความตึงเครียดก่อนหน้าผ่อนคลายลง เมื่อต่างฝ่ายต่างมีทางออกให้ตัวเอง
หลังจากลงจากเรือ ภานุเดินมาส่งมัสลินถึงห้อง ก่อนจะบอกว่าจะมารับไปรับประทานอาหารค่ำด้วยกัน แพรพรรณที่มาเห็นเข้ายิ้มกริ่มคิดว่ามัสลินทำตามคำสั่ง และรู้สึกโล่งใจที่ภานุมีท่าทีชอบพอมัสลิน แบบนี้หากจะเรียกสินสอดเพิ่มเจ้าสัวโภคินคงไม่ปฏิเสธ คิดถึงจำนวนเงินที่จะได้รับแล้ว แพรพรรณก็อารมณ์ดีขึ้นมาจนไม่อยากเข้าไปยุ่งกับหลานสาวให้มากเรื่อง ปล่อยมัสลินออกไปรับประทานอาหารค่ำกับภานุโดยไม่เข้าไปแทรกแซง
///
มัสลินทำตามที่ภานุบอก เธอแสร้งทำเป็นไม่รู้ว่าแพรพรรณคิดทำอะไร หญิงสาวโทรไปหาคนเป็นยายทุกวันให้ท่านหายกังวลใจ และสอบถามนางแววเรื่องการกินยาและอาการของท่าน เมื่อวันงานมาถึงลินินไม่ได้เดินทางมา คนเป็นป้าลากแขนหลานสาวมาคุยกันในห้องพัก
“ยายมัส แย่แล้วยายป่านเกิดอุบัติเหตุเดินทางมาไม่ได้ งานก็เตรียมไว้ใหญ่โตเชิญแขกเหรื่อมาทั้งจังหวัด ถ้าไม่มีเจ้าสาวคงเสียชื่อกันแน่”
น้ำเสียงและท่าทางของแพรพรรณดูร้อนรนสมบทบาท จนน่าจะมอบรางวัลออสก้าให้
“แล้วจะทำยังไงดีคะ” มัสลินถามออกไป
“แกต้องแต่งงานแทนพี่สาวแก แก้หน้าไปก่อน”
แพรพรรณพูดอย่างไม่ติดขัด เพราะเตรียมการมาอย่างดี มองท่าทางของหลานสาวที่นิ่งสงบ ก็เริ่มต้นบีบน้ำตาพูดจาให้ดูน่าสงสารเข้าไปอีก
“ป้าขอร้องเถอะนะมัส ถ้ามัสไม่ช่วยเราต้องแย่แน่ ทางเจ้าบ่าวจะเสียหน้า เราก็จะพลอยเดือดร้อนไปด้วย”
“มัส มัสว่า...”
มัสลินมองหน้าผู้เป็นป้า อยากรู้นักว่าอีกฝ่ายจะปั้นเรื่องโกหกได้แนบเนียนแค่ไหน หากเธอไม่รู้มาก่อน คงหลงเชื่อน้ำตาจระเข้ที่หลั่งออกมา
“แต่งแก้หน้าไปก่อน ค่อยมาแก้ไขเรื่องนี้กันทีหลัง ช่างแต่งหน้ามาพร้อมแล้ว รีบแต่งตัวเถอะ”
คนเป็นป้ามัดมือชกไม่ยอมให้ปฏิเสธ เรียกช่างมาแต่งหน้าทำผม แต่งตัวให้มัสลิน แล้วลากตัวไปเข้าพิธีโดยไม่สนใจว่าหลานสาวจะรู้สึกอะไร
“นังมัสนี่โง่จริงๆ หลอกอะไรก็เชื่อ พอส่งตัวมันเข้าหอเราก็บินกลับกันนะคะคุณพี่ ฉันจองตั๋วไว้แล้ว”
แพรพรรณกระซิบบอกสามี แผนการสำเร็จลุล่วงไปแล้ว แค่หอบสินสอดกลับบ้าน แล้วเดินทางไปสมทบกับลูกสาวที่บินไปต่างประเทศล่วงหน้าเมื่อสามวันก่อน ก็จะไม่ต้องรับผิดชอบอะไรแล้ว
“เราจะอธิบายให้หนูป่านเข้าใจยังไง เรื่องงานแต่ง”
นายสมเกียรติยังห่วงความรู้สึกของลูกสาว ภรรยาของเขาเป็นคนวางแผนทั้งหมด โดยหลอกลูกสาวว่างานจะจัดขึ้นในอีกสองอาทิตย์ แล้วให้ลูกบินไปเมืองนอกเพื่อพักผ่อน ลินินไม่รู้เลยว่าคนเป็นแม่วางแผนจะให้มัสลินเป็นเจ้าสาวแทน และยังคิดหอบสินสอดพากันหนีเจ้าหนี้ไปยังต่างแดนอีก เขาเองอยู่ในอำนาจภรรยามาตลอด ไม่มีปากเสียงอะไร ทุกอย่างอยู่ที่การตัดสินใจของแพรพรรณมาตั้งแต่ต้น
ตอนที่ 8.ทัณฑ์เถื่อน/1“ไม่ต้องห่วงค่ะ ฉันเตรียมคำอธิบายไว้แล้ว ลูกต้องเข้าใจค่ะ”แพรพรรณเชื่อมั่นว่าเธอสามารถจัดการทุกอย่างได้ ตอนนี้มัสลินก็เข้าพิธีแทนลินินไปแล้ว ชั่วดียังไงหลานสาวของเธอก็ได้ชื่อว่าเป็นสะใภ้ของเจ้าสัวโภคิน อีกฝ่ายคงไม่กล้าโวยวายให้เสียหน้า ส่วนชีวิตหลังจากนี้ของมัสลินเธอไม่คิดจะสนใจงานเลี้ยงสิ้นสุดลง เจ้าบ่าวเจ้าสาวถูกส่งตัวเข้าหอ การแต่งงานที่มากพิธีแสนเหนื่อยทำให้สองหนุ่มสาวแทบยืนไม่ไหว“เหนื่อยหรือเปล่ามัส” ภานุเอ่ยถามเจ้าสาวของเขา“ยิ่งกว่าวิ่งมาราธอนอีกค่ะ ยืนรับแขกจนปวดขาไปหมด พี่นุก็ท่าทางเหนื่อยไม่แพ้มัสเลย”มัสลินถอดรองเท้าส้นสูงออก แล้วนั่งลงที่เก้าอี้หน้าโต๊ะเครื่องแป้ง ก้มลงนวดขาตัวเองให้คลายความเมื่อยล้า ไม่คิดว่างานแต่งงานจะเหนื่อยขนาดนี้“พี่ขอสาบานเลยนะ ว่าจะแต่งงานครั้งนี้ครั้งแรกและครั้งเดียว เข็ดจริงๆ” ภานุทิ้งตัวลงนอนแผ่บนเตียง“พี่นุไปอาบน้ำสิคะ จะได้หายเหนื่อย แช่น้ำอุ่นๆ จะได้สบายตัว เดี๋ยวมัดเตรียมน้ำให้ค่ะ”“ไม่เป็นไร มัสพักเถอะ พี่ขอตัวไปอาบน้ำก่อน” ภานุลุกจากเตียงเดินหายเข้าในห้องน้ำมัสลินมองตามหลังเจ้าบ่าวที่เดินโผเผเข้าไปในห้องน้ำแล้ว
ตอนที่9 ทัณฑ์เถื่อน/2“นายมีเรื่องกับคุณภานุใช่ไหม...”อีกฝ่ายยังเงียบไม่ยอมตอบ ได้ยินเสียงถอนหายใจแรง พร้อมกับมือหนาที่เอื้อมมาบีบไหล่แล้วยกตัวเธอให้ลุกขึ้นนั่ง มัสลินขยับถอยหนีตามสัญชาตญาณ แต่เขาไม่ยอมให้เธอหนีห่างบีบไหล่ไว้แน่น แรงบีบทำให้หญิงสาวนิ่วหน้าด้วยความเจ็บ“โอ๊ย... ฉันเจ็บนะ”เสียงร้องทำให้เขาคลายมือออกเล็กน้อยแต่ไม่ยอมปล่อย ยื่นหน้าเข้ามาใกล้จนรู้สึกถึงลมหายใจร้อนผ่าวที่รินรดใกล้แก้มนวล มัสลินเบี่ยงหน้าหนีอย่างรังเกียจ นั่นดูเหมือนทำให้อีกฝ่ายไม่พอใจ มือหนาละจากไหล่มาบีบปลายคางเธอไว้แน่นราวกับคีมเหล็ก“รู้ไหมว่าตอนนี้ ไอ้เจ้าบ่าวของเธอมันเป็นยังไง” เขาพูดข้างหูเธอด้วยน้ำเสียงชวนขนลุก“คุณภานุ...” มัสลินมัวแต่ห่วงตัวเองจนลืมนึกถึงภานุ“หึ ไม่ต้องห่วงมันหรอก ห่วงตัวเองดีกว่า”ไม่กี่ชั่วโมงก่อน เขาเข้าไปหลบในห้องหอของสองหนุ่มสาว รอเวลาที่ทั้งคู่จะเข้ามา คนแรกที่เขาจัดการคือภานุ มันเดินเข้ามาในห้องน้ำที่เขาหลบอยู่ เมื่อเขาเปิดเผยตัวพร้อมกับปืนในมือ อีกฝ่ายถึงกับยืนตัวแข็งด้วยความตกใจ“แก... แกเข้ามาได้ยังไง” จบประโยคนั้น เขาก็ฟาดมันด้วยด้ามปืน จนอีกฝ่ายทรุดลงไปกองกับพื้น นอ
ตอนที่10 ทัณฑ์เถื่อน/3มัสลินสะดุ้งผวา พยายามดิ้นรนปกป้องตัวเองสุดชีวิต ทั้งที่รู้ดีว่าเรี่ยวแรงหรือสภาพร่างกายของตัวเองที่ถูกเขาจับมัดไว้ ไม่อาจจะต้านทานความป่าเถื่อนของอีกฝ่ายได้ น้ำตาไหลรินออกมาพร้อมกับเสียงร้องอ้อนวอน“ไม่นะ ปล่อยฉันเถอะ อย่าทำฉันเลย ฮือ...”อาภรณ์ชิ้นน้อยถูกกระชากจนหลุดออกจากร่าง เผยให้เห็นความงดงามของวัยสาว ปทุมทองคู่งามอวบใหญ่พอดีตัว ปลายยอดสีชมพูกะจิริดน่ามอง เอวคอด หน้าท้องแบนเรียบ ผิวขาวผ่องไร้รอยไฝฝ้าอ่อนละมุนไปทั้งตัว สายตาของกริชกวาดมองไปบนร่างงามอย่างตะลึงลาน เจ้าสาวของศัตรูสวยชนิดเป็นหนึ่งไม่มีสอง งามกว่าผู้หญิงคนไหนที่เคยผ่านตา ความงามนี้ควรค่าแก่การยกย่องไว้เป็นยอดดวงใจของเจ้าบ่าว แต่เธอโชคร้ายที่เลือกแต่งงานกับผู้ชายอย่างภานุ ความงดงามราวกับดอกบัวสวรรค์จึงต้องถูกบดขยี้ ทำลายให้สาสมกับความแค้นที่ประทุขึ้นในใจของผู้ชายอย่างกริช“กรี๊ดดด อย่านะ...”เสียงกรีดร้องดังขึ้น เมื่อมือหนากระชากอาภรณ์ชิ้นสุดท้ายที่ปกปิดกายส่วนล่างออกพ้นตัว หมดแล้วความปรานีที่มอบให้ เมื่อไฟแค้นไม่อาจดับมอดลงได้ด้วยความเมตตา ร่างงดงามบริสุทธิ์ของเจ้าสาวในคืนวิวาห์ ต้องรับการลงทัณฑ
ตอนที่ 11.ฉันคือเจ้าของเธอ/1“เกิดอะไรขึ้น ใครทำอะไรแก แล้วหนูมัสล่ะหายไปไหน”คนเป็นพ่อรีบปาดเข้าไปหาลูกชายด้วยความตกใจ สภาพของภานุถูกตีจนหัวแตกเลือดไหลอาบหน้าเปื้อนชุดสูทสีขาวที่สวมอยู่ ในห้องไร้ร่องรอยของเจ้าสาว“มีคนร้ายบุกเข้ามาทำร้ายผม แล้วจับตัวมัสลินไปครับ”ภานุบอกความจริงไม่หมด เขาเก็บกระดาษแผ่นนั้นซุกกระเป๋าไว้ไม่ให้คนเป็นพ่อเห็น ไม่ต้องการให้เรื่องบานปลายแบบที่เคยเกิดขึ้นมาก่อน“บ้าจริง รึว่ามันเป็นแผนของแม่ยายกับพ่อตาแก สองคนนั่นหอบสินสอดขอตัวกลับบ้านไปหลังงานเลิก”เจ้าสัวโภคินรีบกดโทรศัพท์สั่งการลูกน้อง ให้ไปดักนางแพรพรรณและสามีที่สนามบิน ดูจากเวลาทั้งสองยังไม่ขึ้นเครื่อง เขายอมเอาหูไปนาเอาตาไปไร่แสร้งไม่รับรู้ว่าอีกฝ่าย เอาหลานสาวมาแต่งงานแทนลูกสาวตัวเอง หลังจกที่ภานุบอกความจริงให้เขารู้เมื่อหลายวันก่อน ภานุยืนยันว่ารู้สึกพอใจมัสลินยินดีแต่งงานกับเธอมากกว่าจะหาผู้หญิงคนอื่นมาแทน เขาจึงไม่คิดจะเอาเรื่องแพรพรรณที่คิดหลอกลวง ยอมยกเงินสินสอดและหนี้สินให้ตามข้อตกลงเดิม แต่ตอนนี้ลูกชายของเขาถูกทำร้าย และเจ้าสาวหายตัวไป คิดในแง่อื่นไม่ได้นอกจากอาจเป็นแผนการของอีกฝ่ายภานุถูกส่ง
ตอนที่ 12. ฉันคือเจ้าของเธอ/2 “เจ็บมากหรือเปล่า”กริชเอ่ยถามหญิงสาว แต่เธอนอนนิ่งไม่ยอมตอบ ทำให้เขาระบายลมหายออกแรง ๆ แล้วเข้ามาแก้มัดที่มือ ปลดผ้าคาดตาเธอออกใบหน้ารกเรื้อเต็มไปด้วยหนวดเคราของเขา ไม่ต่างจากมหาโจร มัสลินเมินหน้าหนีไม่ยอมมองหน้าอีกฝ่าย ไม่อยากจดจำคนเลวที่สร้างรอยราคีให้ชีวิตของเธอ หากอนาคตได้มีชีวิตรอดกลับไป ก็ขอลืมคืนวันเลวร้ายนี้ไปให้ได้“ลุกขึ้น!”เขาจับข้อมือดึงร่างที่อยู่บนพื้นให้ลุกขึ้น มัสลินขืนตัวต่อต้าน แต่คนตัวโตกว่าก็หิ้วเธอขึ้นมาจนได้ ชุดเจ้าสาวที่คลุมร่างร่วงลงกองกับพื้น“ว้าย!”หญิงสาวตกใจรีบคว้ามาปกปิดร่าง เนื้อตัวของเธอเปลือยเปล่ามีเพียงชุดขาดวิ่นชุดนี้ที่พอใช้ห่อตัวได้ แก้มร้อนผ่าวเมื่อสบสายตาคมวาวของอีกฝ่าย อยากให้เขาเอาผ้ามาปิดตาเธอไว้เหมือนเดิม ดีกว่าต้องทนเห็นสายตาที่เขามองมา“เห็นมาหมดทั้งตัวแล้ว ยังจะอายอะไร”ท่าทางยุกยิกของเธอ คงทำให้เขารำคาญ“ขอร้องเถอะ อย่ามองได้ไหม”มัสลินพูดโดยไม่หันไปมองร่างล่ำสัน ที่มีสภาพนุ่มลมห่มฟ้า เธอพยายามกลั้นสะอื้นไม่ร้องไห้ออกมา รู้สึกอดสูตัวเองที่ถูกย่ำยีอย่างไร้ทางสู้ แล้วยังต้องถูกเขาพูดจาให้ต้องอับอายอีก“ผู้ห
ตอนที่ 13. ฉันคือเจ้าของเธอ/3“ไม่... ไม่นะ...”มัสลินสะอื้นฮักกับความปั่นป่วนในกายตัวเอง เธอละอายแต่ไม่อาจห้ามปรามแรงขับทางกายที่กำลังทำให้เธอคิดอะไรไม่ออก ความหวาดผวาค่อยเลือนหายไป พร้อมกับความควบคุมตัวเองหมดไป เธออ่อนระทวยสิ้นเรี่ยวแรงขัดขืน ได้แต่หลับตาจิกปลายเล็บขยำผ้าปูที่นอนจนยับย่น“คนสวยของฉัน...”กริชครางในคอ กระดกลิ้นรัวแรงขึ้น ปลายลิ้นแทรกลึกเข้าไปในโถน้ำผึ้ง เรียกเสียงกรีดร้องดังระงม น้ำหวานหลั่งรินออกมาจนชุ่มฉ่ำ มธุรสหวานล้ำนั้นทำให้คนดื่มกินเมามัว เขาเร่งจังหวะละเลงปลายลิ้นจนเธอกรีดร้องออกมา“กรี๊ดดดด”มัสลินรับรู้ทุกสัมผัสจากปลายลิ้นร้อนนั้นอย่างละอาย แต่ก็ห้ามร่างกายตัวเองไม่ให้ลู่ไหวไปกับการปลุกเร้าแสนเชี่ยวชาญของเขาได้ เธอพ่ายแพ้ให้แก่อารมณ์ดำกฤษณา ปล่อยให้ตัวเองล่องลอยไปสู่ดินแดนที่ไม่เคยรู้จัก โดยมีเขาเป็นผู้ส่งเธอไปจนสุดทาง แสงสีขาวแตกกระจาย ในท้องบิดมวน ร่างกายเกร็งสะท้านก่อนจะมีบางอย่างระเบิดพร่างออกมา ร่างงามเกร็งตัวแอ่นสะโพก ยกตัวลอยจากหมอนที่รองรับ เสียงลมหายใจหอบกระเส่า บ่งบอกว่าเขาส่งเธอไปแตะขอบฟ้าสำเร็จเป็นครั้งแรกในชีวิตสาวกริชเงยหน้าขึ้นชื่นชมความสำเร็
ตอนที่ 14.ขอเพียงแค่ความเห็นใจ/1“เบิกเงินกองกลางไปจ่ายให้พวกโจร ขอเพียงยายมัสปลอดภัย จะต้องเสียเท่าไหร่ฉันก็ยอม” คุณยายฝ้ายคำไม่เสียดายเงินสักนิด หากมันแลกกับการได้หลานรักกลับคืนมา“เงินกองกลางก็เป็นส่วนหนึ่งของมรดกนะคะ คุณแม่จะใช้อำนาจเบิกออกมาใช้เพื่อยายมัสไม่ได้นะคะ แล้วยายป่านล่ะคะ หลานก็มีสิทธิ์ในมรดกเหมือนกัน” แพรพรรณเอาลูกสาวมาอ้าง“ยายแพร นี่แกอยากช่วยหลานจริงๆ หรือเปล่า ทำไมฮะ เงินแค่นี้มันสำคัญมากกว่าชีวิตยายมัสหรือยังไง”คนแก่สุดจะทน แผดเสียงใส่ลูกสาวด้วยความโมโห ก่อนจะหอบหายใจแรงจับมือกุมหน้าอกไว้ เมื่อรู้สึกเจ็บแปลบที่ทรวงอกด้านซ้าย“คุณแพรไม่มีอำนาจเบิกเงินส่วนนี้ครับคุณแม่”สมเกียรติเกริ่นเข้าเรื่อง สบตากับภรรยาให้ช่วยเสริม“เงินกองกลางต้องมีลายเซ็นคุณแม่ แล้วในบัญชีก็มีเงินเหลือไม่ถึงยี่สิบล้าน ถ้าพวกโจรมันเรียกมากกว่านั้น อาจจะไม่พอจ่าย” แพรพรรณเริ่มกดดันมารดา“ทำไมเหลือแค่นั้น เงินรายได้จากค่าเช่าตึก ค่าเช่าแผงในตลาดเดือนๆ นึงเกือบล้าน มันหายไปไหนหมด”คุณยายฝ้ายคำตกใจกับยอดเงินที่ไม่เพิ่มขึ้น เมื่อตอนที่ท่านบริหารจัดการ เงินเข้าบัญชีทุกเดือนไม่ได้ขาด สะสมได้แต่ละปี
ตอนที่ 15. ขอเพียงแค่ความเห็นใจ/2“คนเลว... ฉันไม่มีวันให้อภัยแก”มัสลินปาดน้ำตาทิ้งหยิบชุดขาดวิ่นมาสวมปกปิดร่างกายเปลือยเปล่าของตัวเอง มองไปรอบๆ กาย ก่อนจะสะดุดกับแจกันใส่ดอกไม้ใบใหญ่ หญิงสาวมองร่างหนาที่นอนหลับบนเตียงด้วยแววตาเกลียดชัง วูบหนึ่งของความคิด ทำให้เธอลุกขึ้นเดินตรงไปยังแจกันใบนั้น คิดจะยกมันขึ้นหวังจะทุ่มแจกันใส่หัวคนเลวที่นอนอยู่ทว่า... พอมือเอื้อมไปแตะแจกัน ก็ถูกมือหนาจับมือเธอไว้“รู้นะว่าคิดอะไร”ใบหน้ารกเรื้อยื่นมากระซิบข้างหู มือน้อยถูกมือหนากว่าบีบไว้แน่น ดวงตาคมกริบของเขาจ้องใบหน้าเธอด้วยแววตาวาววับ บ่งบอกว่าเขารู้ทันความคิดของเธอ“ปล่อยฉัน...”มัสลินเชิดหน้าเอ่ยเสียงแข็ง สะบัดมือออกจากมือหนา เบี่ยงหน้าหลบปลายจมูกโด่งงามที่คลอเคลียข้างแก้ม ไรหนวดแข็งสากคายของเขาทิ่มผิวนุ่มของเธอจนเจ็บ ผิวของเธอบางโดนอะไรนิดหน่อยก็มีรอยแดง เมื่อคืนถูกเขาฟัดเฟ้นทั้งคืน รอยจ้ำแดงๆ จึงปรากฏขึ้นบนผิวเนื้อ เจ้าตัวพยายามไม่มองให้เจ็บช้ำใจ“ยังไม่หายโกรธฉันอีกหรือ”“ถ้ายอมให้ฉันเอาแจกันทุบหัวแก ฉันอาจจะหายโกรธ” มัสลินโต้กลับ“หึ ดุจริงเมียใครไม่รู้”กริชกระตุกยิ้มไม่โกรธกับถ้อยคำนั้น หญ
ตอนที่ 22.มรสุมชีวิต/1หญิงสาวถอนสายตาจากใบหน้าคร้ามคม ขยับลงมาจากเตียงเดินไปหยิบเสื้อผ้าที่ถูกคนหื่นเหวี่ยงตกบนพื้น เอามาสวมใส่ แล้วเดินเข้าไปชำระร่างกายในห้องน้ำ ก่อนจะกลับออกมาชะโงกหน้ามองดูคนตัวโตที่ยังหลับสนิทไม่ยอมตื่น เอหันไปมองแจกันใบใหญ่ที่เคยคิดจะเอามาทุบหัวเขาให้แตกตาย แล้วเบือนสายตากลับมามองใบหน้ารกเรื้อนั้น พลางถอนหายใจแรง พาตัวเองเดินออกจากห้องตรงไปยังห้องครัวมัสลินเปิดดูช่องแช่แข็ง พบปลาแซลมอนแช่ไว้หลายชิ้น มีกุ้งแกะเปลือก และปลาหมึก จึงนำออกมาละลายน้ำแข็ง ระหว่างรอก็เปิดตู้ของแห้ง ในนั้นมีอาหารกระป๋องหลายอย่าง ทั้งอาหารสำเร็จพร้อมทาน ข้าวสวยแบบกระป๋อง รวมถึงข้าวสาร เส้นหมี่แห้ง เส้นสปาเกตตี และยังมีผักสดให้นำมาเป็นวัตถุดิบประกอบอาหารได้หลายอย่าง หญิงสาวเลือกหยิบเส้นสปาเกตตีมาต้ม หั่นผัก เตรียมมื้อเย็นให้ตัวเองและชายหนุ่มการทำอาหารเป็นพรสวรรค์ของมัสลิน หญิงสาวได้รับถ่ายทอดสูตรเด็ดสารพัดทั้งอาหารคาวอาหารหวานจากมารดาและคุณยายฝ้ายคำ รวมถึงจากการสอนของเปรมใจ ทำได้ทั้งอาหารไทยและเทศ เคยแอบนึกฝันอยากเปิดร้านอาหารเล็กๆ ขายขนมและเครื่องดื่ม แต่มันเป็นเพียงแค่ฝันที่มัสลินไม่กล
ตอนที่ 21.แค่มีเธอ/4“ถ้าอย่างนั้น ผมว่าเราไปขอพบเจ้าสัวดีไหมครับ จะได้รู้เรื่องกัน” ปรัชญ์ร้อนใจจนอยู่นิ่งเฉยไม่ไหว“แม่ขอให้คุณพิพัฒน์ช่วยเรื่องขอพบเจ้าสัวไว้แล้ว นี่รอเขาโทรมาอีกครั้ง ปอนด์ใจเย็นๆ ก่อนนะลูก”การเข้าพบคนระดับเจ้าสัวโภคิน ไม่ใช่เรื่องที่สามารถเดินเข้าไปง่ายๆ อีกฝ่ายเป็นผู้มีอิทธิพลของจังหวัด ย่อมจะไม่ยอมพบกับคนที่ไม่ได้นัดหมายล่วงหน้ามาก่อน ยิ่งไม่เคยรู้จักคงยากจะเข้าถึงตัวได้“เราทำได้แค่รอหรือครับ ผมห่วงมัสจะแย่แล้ว”ปรัชญ์รักเอ็นดูมัสลินเหมือนน้องสาวแท้ๆ ด้วยเห็นเธอมาตั้งแต่เด็ก ช่วยเหลือดูแลมาตลอดหลายปี ย่อมผูกพันกว่าคนอื่นๆ มัสลินน่าสงสารมาก เป็นฝ่ายถูกแพรพรรณข่มเหงรังแกสารพัด โดยที่เขาไม่สามารถพาเธอออกมาจากบ้านหลังนั้นได้ มัสลินรักและกตัญญูต่อคุณยายฝ้ายคำมาก ไม่ยอมทอดทิ้งท่าน เขากับมารดาจึงทำได้เพียงช่วยเหลืออยู่ห่างๆ“หนูมัสเป็นคนดี ความดีต้องคุ้มครอง แม่เชื่ออย่างนั้น”คนเป็นแม่ปลอบใจลูกชาย และปลอบใจตัวเองไปด้วย หวังเพียงว่ามัสลินจะผ่านพ้นเรื่องราวนี้ไปได้ตื๊ด ตื๊ด ตื๊ด !!!เสียงโทรศัพท์ของเปรมใจดังขึ้น เจ้าของรีบกดรับเมื่อเห็นว่าใครโทรเข้ามา“สวัสดีค่ะคุณพิ
ตอนที่ 20 แค่มีเธอ/3มือหนาจับข้อเท้ามาพาดบนบ่า ถอนริมฝีปากออกจากเรียวปากชุ่มชื้น มาจุมพิตปลีน่องเรียวสวย ขบเม้มตรงใต้เข่า ไล้เลีย หยอกเย้าให้เธอตื่นเต้น แตะริมฝีปากไล่จุมพิตตามเรียวขาลงมาเรื่อยๆ ก่อนจะหยุดขบเม้มตรงเนินสาว ตวัดปลายลิ้นลากไล้ผิวเนียนละเอียด ผ่านตฤณชาตินุ่มสลวยไปยังต้นขาอีกข้าง มือดันขาให้เบะออกด้านข้าง สอดมือยกสะโพกหนั่นแน่นให้ลอยขึ้นจากพื้น แล้วแทรกกายใหญ่โตเข้าแนบชิดผกางามที่คลี่กลีบเบ่งบาน ชวนเชิญให้ภมรหนุ่มลงไปดื่มกินน้ำหวาน “อ๊ะ ไม่... ไม่นะ” เธอร้องครางประท้วง“ชู่ ไว้ใจฉันนะคนดี”กริชจุปากไม่ให้เธอเสียขวัญ ค่อยนำตัวตนแกร่งกร้าวแทรกผ่านความบอบบางแสนนุ่มร้อนจนสุดความยาว แรงโอบรัดรอบลำกายทำให้เขาสูดปากแรงด้วยความทรมาน ชายหนุ่มสูดลมหายใจเข้าออกแรงๆ ข่มกลั้นความดิบเถื่อนในกายไว้สุดกำลัง เขาจะทำให้เธอรับรู้ถึงความงดงามของสิ่งนี้ มอบประสบการณ์แสนวิเศษให้เธอจดจำไปนานแสนนาน ผ่อนตัวเองให้ช้าลง หยุดรอให้เธอปรับตัว ขณะรั้งร่างบางมากอดปลอบประโลม พรมจุมพิตไปบนใบหน้างดงาม มือลูบไล้พร้อมกับปลุกเร้าเธอให้เคลิ้มไหวคลายความแข็งเกร็งลงเมื่อร่างบางเริ่มตอบสนองเขาจึงค่อยๆ ขยับกาย
ตอนที่ 19. แค่มีเธอ/2ก่อนจะเลยเถิดไปมากกว่านี้เขาก็ผละริมฝีปากออกช้าๆ ดวงตาวาววามจ้องมองใบหน้างามของหญิงสาวรสจูบแสนเร่าร้อนเมื่อครู่ทำให้ริมฝีปากอิ่มแดงจัด บวมเจ่อนิดๆ เธอปรือตามองเขาด้วยแววตาอ่อนหวาน ต่างจากสายตาเกลียดชังก่อนหน้า ทำให้หัวใจของกริชสั่นไหวรุนแรง ก้มลงไปจุมพิตริมฝีปากนุ่มอย่างดูดดื่มอีกครา บดเคล้า ดูดกลืนความหอมหวานของเธอราวกับคนหลงกลางทะเลทราย พบเจอกับบ่อน้ำทิพย์ เฝ้าเวียนดื่มกินไม่รู้จักอิ่มเอมหวาน... หวานเหลือเกิน...ในหัวของชายหนุ่มมีแต่คำนี้ ความหวานของเธอแทรกผ่านปลายลิ้นเข้าสู่หัวใจ สั่นสะเทือนประสาทรับรู้ทั้งหมดให้เคลิ้มไหว มึนเมาจนยากจะถอดถอน ใช่ว่าไม่เคยสัมผัสผู้หญิงคนไหน แต่เธอพิเศษกว่าหญิงใด ไม่เพียงร่างกายร่ำร้องต้องการ หัวใจของเขาก็ปรารถนาเธอเช่นกัน“มัสลิน... เห็นใจฉันเถอะนะ”ขอเพียงแค่ความเห็นใจจากเธอ เขาปรารถนาเธอเหลือเกิน อยากครอบครองร่างงามแสนนุ่มเนียนใจแทบขาด เพียงเธอเห็นใจ เขาก็พร้อมจะทำทุกสิ่งให้เธอมีความสุข...“ฉัน... ฉัน...”หญิงสาวหอบหายใจกระเส่า อ่อนระทวยจนต้องโอบรอบคอไว้พยุงตัวไม่ให้เข่าอ่อน ความรู้สึกแปลกป่วนกำลังทำเธอหูอื้อตาลาย ไม่เป็นตัว
ตอนที่ 18. แค่มีเธอ/1“ไปนั่งเล่นข้างนอกกันเถอะ” เขาชวนหลังจากวางจานเข้าชั้น“ไปสิ”มัสลินเดินตามร่างสูงใหญ่ มองแผ่นหลังกว้างของคนตัวโตที่เดินนำอยู่ เมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อนเธอยังหวาดกลัวเขาแทบตาย ตอนนี้เธอหายกลัวเขาไปได้อย่างไร หญิงสาวไม่เข้าใจตัวเอง“เรือนี้ของนายเหรอ...” มัสลินอดถามไม่ได้“ยืมเขามา...”เรือลำนี้เป็นของเขา แต่ไม่อยากบอกว่าเขาเป็นเจ้าของ ชายหนุ่มจึงเลี่ยงตอบไปแบบนั้น ไม่อยากให้มากความ“อ๋อ... ยืมเพื่อนมา”เธอทวนคำ ดัดเสียงให้ดุเข้มขึ้น ก่อนจะหัวเราะคิกเมื่อนึกถึงเจ้าของประโยคยอดฮิตนี้ หวังว่าเพื่อนเขาคงมีชีวิตอยู่นะ“หือ...”กริชยกคิ้วสูง ก่อนจะเข้าใจมุกของคนพูดเลยประสานเสียงหัวเราะออกมา“คนให้ยืมยังมีชีวิตอยู่ ฉันไม่ได้ยืมแล้วยืมเลย ฮ่า ฮ่า ฮ่า”“แหม นึกว่าจะไม่เก็ตมุกซะแล้ว”มัสลินหัวเราะตาม อารมณ์ดีขึ้นจนเริ่มกลับมาเป็นคนเดิมที่ชอบหาเรื่องคุยสนุกให้ผ่อนคลาย เธอมักจะไปคุยเล่นกับปรัชญ์บ่อยๆ เขาเป็นเพื่อนคนเดียวที่หวังดีกับเธอจริงๆ ส่วนพี่สาวอย่างลินินนั้นไม่ใช่คนชอบคุยเล่น อีกฝ่ายจริงจังกับทุกเรื่อง ไม่ว่าเรื่องเรียนหรือเรื่องทั่วไป มักชอบมองเธอกับปรัชญ์ว่าเป็นพวกเหลว
ตอนที่ 17. ขอเพียงแค่ความเห็นใจ /4“คุณภานุเลวร้ายขนาดนั้นเชียวหรือ...”มัสลินสะท้อนใจกับเรื่องที่ได้รับรู้ เธอไม่เคยรู้จักกับภานุมาก่อน ยอมรับปากแต่งงานกับเขา เพียงเพราะเขายื่นข้อเสนอที่เธอมองว่า จะทำให้เธอสามารถพาคุณยายออกมาจากบ้านหลังนั้นได้ เมื่อรับรู้สิ่งที่เขาทำกับพี่ชายของกริช หญิงสาวก็รู้สึกเห็นใจเขาขึ้นมา คนที่ถูกกระทำแบบนั้นย่อมแค้นเคือง แม้การเอาคืนของเขาจะเป็นการทำร้ายเธอก็ตาม“เธอจะไม่เชื่อก็ได้ คำพูดของฉันมันอาจจะไม่มีน้ำหนักมากพอ แต่ขอให้รู้ไว้ว่าฉันมีเหตุผลในการกระทำครั้งนี้”กริชพลิกกายพาร่างของมัสลินลงไปนอนบนเตียง แล้วขยับลงจากเตียง เดินไปคว้าผ้าขนหนุมาพันร่าง ก่อนจะเดินออกจากห้องไป ทิ้งให้หญิงสาวนอนอยู่บนเตียงคนเดียว“ตาบ้านี่ อารมณ์ขึ้นลงเหมือนคนเป็นโรคไบโพล่า”มัสลินว่าคนที่เดินหายไป หัวใจเริ่มผ่อนคลายความตึงเครียดลง ผู้ชายคนนี้ไม่ได้เลวร้ายโดยสันดาน เพราะความแค้นทำเขากระทำการเลวร้าย หากเธอพูดจากับเขาดีๆ บางทีเขาอาจจะเห็นใจเธอก็ได้“คุณยายคะ มัสจะต้องกลับไปหาคุณยายให้ได้”มัสลินพักสายตาอยู่ครู่ใหญ่ กริชก็เปิดประตูเข้ามา ชายหนุ่มแต่งตัวเรียบร้อยแล้ว เขาสวมเสื้อเชิ้
ตอนที่ 16 ขอเพียงแค่ความเห็นใจ/3“เลวเหลือทน คนอะไรเลวขนาดนี้”ปรัชญ์กำหมัดแน่นด้วยความแค้นใจ แพรพรรณบังคับคุณยายฝ้ายคำให้เปลี่ยนพินัยกรรมสมใจ แล้วก็ตระบัดสัตย์ไม่ยอมช่วยมัสลิน หากคุณยายรู้เข้าคงอาการทรุดที่หลงเล่ห์คนเลว เขาเองก็ไม่อาจทนนิ่งเฉยได้อีกต่อไป“แม่ ผมจะไปตามหาน้อง ใครไม่ช่วยผมจะหาทางช่วยน้องเอง” ปรัชญ์บอกมารดา“แม่จะไปด้วย อยู่รอฟังข่าวไม่ไหวหรอก แม่คงอกแตกตาย” เปรมใจสนับสนุนลูกชาย“ป้าแววรู้ไหมครับ ว่ามัสหายไปที่ไหน ผมกับแม่จะไปตามหาน้อง”“เมื่ออาทิตย์ก่อน คุณนายพาคุณมัสไปช่วยงานแต่งงานของคุณป่านที่ภูเก็ตค่ะ บ้านเจ้าสัวโภคินอะไรนี่แหละค่ะ”ความสอดรู้ของนางแวว ทำให้รู้ความเคลื่อนไหวของเจ้านายทุกอย่าง“เพื่อนคุณพ่ออยู่ที่นั่น แม่จะไปขอให้เขาช่วย”เปรมใจนึกถึงเพื่อนของสามีที่เป็นเจ้าของเมืองแร่ ในอดีตสามีของเธอเคยทำงานเป็นนักสำรวจสายแร่ รู้จักสนิทสนมกับนายพิพัฒน์เจ้าของเหมืองแร่ดี หากนางไปขอความช่วยเหลืออีกฝ่ายคงมีน้ำใจ“ปอนด์ไปจองตั๋วเครื่องบิน แม่จะโทรหาคุณพิพัฒน์”เปรมใจหันไปบอกลูกชาย ก่อนจะบอกนางแววว่า“พี่แววอย่าเพิ่งให้ใครรู้เรื่องนี้นะ ไม่ว่าจะคุณยาย อาหมี่ หรือผัวพี่
ตอนที่ 15. ขอเพียงแค่ความเห็นใจ/2“คนเลว... ฉันไม่มีวันให้อภัยแก”มัสลินปาดน้ำตาทิ้งหยิบชุดขาดวิ่นมาสวมปกปิดร่างกายเปลือยเปล่าของตัวเอง มองไปรอบๆ กาย ก่อนจะสะดุดกับแจกันใส่ดอกไม้ใบใหญ่ หญิงสาวมองร่างหนาที่นอนหลับบนเตียงด้วยแววตาเกลียดชัง วูบหนึ่งของความคิด ทำให้เธอลุกขึ้นเดินตรงไปยังแจกันใบนั้น คิดจะยกมันขึ้นหวังจะทุ่มแจกันใส่หัวคนเลวที่นอนอยู่ทว่า... พอมือเอื้อมไปแตะแจกัน ก็ถูกมือหนาจับมือเธอไว้“รู้นะว่าคิดอะไร”ใบหน้ารกเรื้อยื่นมากระซิบข้างหู มือน้อยถูกมือหนากว่าบีบไว้แน่น ดวงตาคมกริบของเขาจ้องใบหน้าเธอด้วยแววตาวาววับ บ่งบอกว่าเขารู้ทันความคิดของเธอ“ปล่อยฉัน...”มัสลินเชิดหน้าเอ่ยเสียงแข็ง สะบัดมือออกจากมือหนา เบี่ยงหน้าหลบปลายจมูกโด่งงามที่คลอเคลียข้างแก้ม ไรหนวดแข็งสากคายของเขาทิ่มผิวนุ่มของเธอจนเจ็บ ผิวของเธอบางโดนอะไรนิดหน่อยก็มีรอยแดง เมื่อคืนถูกเขาฟัดเฟ้นทั้งคืน รอยจ้ำแดงๆ จึงปรากฏขึ้นบนผิวเนื้อ เจ้าตัวพยายามไม่มองให้เจ็บช้ำใจ“ยังไม่หายโกรธฉันอีกหรือ”“ถ้ายอมให้ฉันเอาแจกันทุบหัวแก ฉันอาจจะหายโกรธ” มัสลินโต้กลับ“หึ ดุจริงเมียใครไม่รู้”กริชกระตุกยิ้มไม่โกรธกับถ้อยคำนั้น หญ
ตอนที่ 14.ขอเพียงแค่ความเห็นใจ/1“เบิกเงินกองกลางไปจ่ายให้พวกโจร ขอเพียงยายมัสปลอดภัย จะต้องเสียเท่าไหร่ฉันก็ยอม” คุณยายฝ้ายคำไม่เสียดายเงินสักนิด หากมันแลกกับการได้หลานรักกลับคืนมา“เงินกองกลางก็เป็นส่วนหนึ่งของมรดกนะคะ คุณแม่จะใช้อำนาจเบิกออกมาใช้เพื่อยายมัสไม่ได้นะคะ แล้วยายป่านล่ะคะ หลานก็มีสิทธิ์ในมรดกเหมือนกัน” แพรพรรณเอาลูกสาวมาอ้าง“ยายแพร นี่แกอยากช่วยหลานจริงๆ หรือเปล่า ทำไมฮะ เงินแค่นี้มันสำคัญมากกว่าชีวิตยายมัสหรือยังไง”คนแก่สุดจะทน แผดเสียงใส่ลูกสาวด้วยความโมโห ก่อนจะหอบหายใจแรงจับมือกุมหน้าอกไว้ เมื่อรู้สึกเจ็บแปลบที่ทรวงอกด้านซ้าย“คุณแพรไม่มีอำนาจเบิกเงินส่วนนี้ครับคุณแม่”สมเกียรติเกริ่นเข้าเรื่อง สบตากับภรรยาให้ช่วยเสริม“เงินกองกลางต้องมีลายเซ็นคุณแม่ แล้วในบัญชีก็มีเงินเหลือไม่ถึงยี่สิบล้าน ถ้าพวกโจรมันเรียกมากกว่านั้น อาจจะไม่พอจ่าย” แพรพรรณเริ่มกดดันมารดา“ทำไมเหลือแค่นั้น เงินรายได้จากค่าเช่าตึก ค่าเช่าแผงในตลาดเดือนๆ นึงเกือบล้าน มันหายไปไหนหมด”คุณยายฝ้ายคำตกใจกับยอดเงินที่ไม่เพิ่มขึ้น เมื่อตอนที่ท่านบริหารจัดการ เงินเข้าบัญชีทุกเดือนไม่ได้ขาด สะสมได้แต่ละปี