“ป้าแสงแกขอติดไว้สองร้อย บอกว่าอาทิตย์หน้าจะรวบยอดมาจ่ายให้ งวดนี้แกเล่นหวยหนักไปหน่อย”
“ขอบคุณค่ะพี่ปอนด์ อุตส่าห์ไปช่วยเก็บค่าแผงให้” มัสลินเอ่ยขอบคุณ แล้วยิ้มประจบ
“เล็กน้อยน่า คนแถวนี้เขาสงสารมัสกันทั้งนั้น อะไรที่พอช่วยได้เขาก็ช่วยกัน อีกอย่างคุณยายก็มีบุญคุณกับพวกเขา สร้างตลาดให้ที่ทำมาหากิน แถมเก็บค่าเช่าไม่แพง”
คุณยายฝ้ายคำเป็นที่รักและเคารพนับถือของแม่ค้าและคนในละแวกนี้มาก พลอยให้หลายคนนึกเอ็นดูมัสลินไปด้วย ต่างกับแพรพรรณที่ถูกคนเกลียดชังเพราะความเห็นแก่ตัว และไม่เคยช่วยเหลือใคร
“มัสต้องกลับแล้วค่ะ สักสองทุ่มมัสจะแวะมาใหม่นะคะ”
มัสลินมองดูนาฬิกาข้างฝาผนัง เห็นว่าเย็นมากแล้ว ใกล้เวลาที่เธอต้องกลับไปอาบน้ำป้อนข้าวป้อนยาคุณยาย
“เดี๋ยวพี่ไปส่ง” ปรัชญ์ลุกขึ้นตาม
“ไม่เป็นไรค่ะ มัสกลับเองได้ เดี๋ยวทำขนมเสร็จพี่ปอนด์ค่อยไปส่งมัส”
“โอเค พี่จะไปอาบน้ำ แล้วจะลงมาเตรียมวัตถุดิบกับอุ่นเตาไว้ให้”
“ขอบคุณค่ะ มัสไปก่อนนะคะ”
มัสลินเดินออกจากร้านขนมมาด้วยท่าทางร่าเริง วันนี้สำหรับเธอแล้วมีเรื่องดีๆ เกิดขึ้นหลายเรื่อง ได้ยอดขายขนมเพิ่ม ไม่ต้องเหนื่อยเก็บค่าแผงเอง แถมยังได้กินข้าวผัดอร่อยของโปรด สิ่งเหล่านี้แม้ไม่ยิ่งใหญ่ แต่เป็นสิ่งที่ช่วยประโลมหัวใจดวงน้อยให้มีแรงลุกขึ้นสู้ต่อไป เธอไม่คาดหวังอะไรที่ใหญ่เกินตัว ขอมีความสุขกับปัจจุบันในแต่ละวันก็เพียงพอแล้ว
แต่ความสุขเล็กน้อยที่เธอมีกำลังจะหมดไป เมื่อใครบางคนกำลังจับตามองร่างเล็กนั้นด้วยแววตาวาวโรจน์
คนมองขับรถกระบะตามหลังมาห่างๆ หลังจากที่เขาพูดคุยหาข้อมูลจากแม่บ้านของนางแพรพรรณแล้ว ก็ขับรถออกมาปากซอย ได้เห็นหญิงสาวอยู่ที่ร้านขายขนม จึงจอดรถซุ่มดูอยู่จนกระทั่งเธอออกมาจากร้าน โดยมีชายหนุ่มหน้าตาดีเดินออกมาส่งหน้าร้าน ทั้งสองยิ้มให้กัน พูดคุยกันท่าทางสนิทสนม คนมองระยะไกลแค่นยิ้มหยันเมื่อคิดว่าผู้หญิงสวยน่ารักคนนี้ ไม่ได้บริสุทธิ์ผุดผ่องเหมือนกับดอกไม้แรกแย้ม แต่เป็นดอกไม้สีทองที่ถูกภมรไต่ตอมไปเสียแล้ว
“หึ ไอ้ภานุฉันนึกว่าแกจะได้ของดี ที่แท้ก็ถูกว่าที่แม่ยายย้อมแมวขาย”
มัสลินเดินถือถุงขนมไปตามทางอย่างไม่รีบร้อน จนมาถึงหน้าประตูบ้านก็หยิบลูกกุญแจในกระเป๋ามาไขเปิดประตูแล้วปิดไว้ดังเดิม ก่อนจะเดินเข้าไปด้านใน ไม่สังเกตว่ามีรถคันหนึ่งแล่นมาจอดอยู่มุมหนึ่งของรั้วบ้าน
“วันนี้กลับบ้านเร็วนะยายมัส” เสียงคุ้นหูของผู้เป็นป้าเอ่ยทักขึ้น
“มัสเก็บค่าแผงเสร็จไว เลยรีบกลับมาทำกับข้าวให้คุณยายค่ะ นี่ค่ะเงินและสมุดบัญชีรายชื่อ”
มัสลินยื่นซองเงินและสมุดบัญชีรายชื่อให้ผู้เป็นป้า หญิงสาวหรุบตามองพื้นไม่ได้สบตากับอีกฝ่าย ท่าทางดูหงอน่าสมเพชในสายตาคนมอง
“ปีนี้อายุเท่าไหร่แล้ว”
คนเป็นป้ารับเงินกับสมุดมาเก็บไว้ พลางเอ่ยถามขึ้นมา
“ยี่สิบเอ็ดค่ะ”
มัสลินตอบเสียงเบา ทำตัวลีบที่สุด ไม่ให้ผู้เป็นป้าอารมณ์เสีย หากเธอพูดมากหรือทำท่าเหมือนขัดใจท่าน อาจจะโดนด่าหรือใช้ไปทำงานหนักๆ หญิงสาวรู้รักษาตัวรอด จึงเจียมเนื้อเจียมตัวไม่มีปากเสียงเมื่ออยู่ต่อหน้า
“อืม โตเป็นสาวแล้วนี่ ฉันได้ข่าวว่าแกกับลูกชายยายเปรมสนิทกันใช่ไหม”
ศีรษะเล็กๆ รีบส่ายทันที “ไม่สนิทเท่าไหร่ค่ะ พี่ปอนด์เขาเป็นรุ่นพี่ที่โรงเรียน เราแค่รู้จักกันเฉยๆ” คำแก้ตัวนั้นทำให้คนเป็นป้าเบ้ปาก
“ไม่สนิทก็ดีแล้ว ฉันไม่ชอบให้ใครมานินทา ว่าเลี้ยงหลานปล่อยปละละเลย ไม่ดูแลให้ดี ปล่อยให้ไปมั่วกับผู้ชาย”
ปากพูดแต่สายตาสำรวจไปทั่วร่างระหงของหลานสาว มัสลินผิวขาวผุดผ่องเหมือนไข่มุกตามเชื้อสายของบิดาที่เป็นชาวตะวันตก ผมสีน้ำตาลอ่อนยาวสลวยถึงกลางหลัง เจ้าตัวรวบมัดไว้ง่ายๆ เผยให้เห็นหน้าผากมนและใบหน้ารูปไข่สวย ดวงตากลมโตสีน้ำตาลมีขนตาหนาเป็นแพ จมูกโด่งได้รูปกับริมฝีปากสีชมพูระเรื่ออิ่มเต็ม ดูสุขภาพดี รูปร่างไม่ผอมแห้งแต่ก็ไม่อวบเกินไป สมส่วนกลมกลึงไปทั้งตัว รูปลักษณ์แบบนี้ถูกตาต้องใจผู้ชายนักแล
ท่านเจ้าสัวโภคินได้เห็นรูปของมัสลินครั้งแรก ก็ตกลงใจยอมรับข้อเสนอของเธอกับสามี ยอมปลดหนี้ที่เธอกับสามีติดบ่อนพนันของท่าน แลกกับการยกมัสลินให้แต่งงานกับลูกชายคนเดียวของท่าน เธอกับสามีหลอกให้อีกฝ่ายคิดว่ามัสลินคือลูกสาวของพวกตน แค่รอเวลาส่งตัวยายเด็กกาฝากนี่ไปเข้าหอในวันแต่งงาน นอกจากปลดเปลื้องภาระหนี้สินได้แล้ว ยังกำจัดกาฝากของบ้านได้อีกทาง เหมือนยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว
“อาทิตย์หน้าฉันกับคุณสมเกียรติ จะไปดูเขาเตรียมงานแต่งยายป่าน ทางนั้นเขาต้องการคนดูแลเรื่องดอกไม้สดกับพวกอาหารไทย แกเก่งเรื่องพวกนี้ไปช่วยฉันด้วย”
“ไปช่วยงานหรือคะ”
มัสลินเงยหน้าขึ้นมองคนเป็นป้า นึกแปลกใจ ที่อีกฝ่ายเรียกตัวเธอให้ไปช่วยงาน ปกติเวลามีงานเลี้ยงที่บ้านมักจะให้เธอขลุกอยู่ในครัว ไม่ยอมให้ออกมาเจอใคร แทบไม่มีใครรู้ว่ามัสลินเป็นลูกหลานบ้านนี้ เธอเองก็พอใจที่จะอยู่หลังบ้านทำงานครัว เป็นนางซินที่ไม่มีคนสนใจ
“มัสต้องดูแลคุณยาย” มัสลินห่วงคนป่วย
“ให้อาหมี่ดูแล ยายแววก็อยู่ทั้งคน ไม่ต้องห่วงหรอก ไปช่วยงานแค่ไม่กี่วันคุณแม่ท่านไม่เป็นอะไรหรอก”
มัสลินนิ่งเงียบไม่ตอบรับหรือปฏิเสธ ทำเอาคนเป็นป้าเริ่มหงุดหงิด แต่แสร้งทำใจเย็นเดินเข้าไปแตะไหล่
“นึกว่าช่วยพี่ป่านเขานะลูก งานนี้พี่ป่านเขาเป็นเจ้าสาว เขาต้องเตรียมตัวหลายอย่าง มัสช่วยป้าดูแลเรื่องพวกนี้ พี่ป่านจะได้ไม่ต้องเหนื่อย นะมัสช่วยป้าหน่อย”
บทจะใช้งาน คำพูดหวานๆ ดีๆ ถึงจะหลุดออกมาจากปากของแพรพรรณ คนเป็นหลานแม้จะรู้ดีว่าป้าแกล้งพูด แต่ก็อดใจอ่อนไม่ได้ ยอมพยักหน้ารับในที่สุด
“ค่ะ คุณป้า”
“ดีมาก เตรียมตัวไว้นะ จัดกระเป๋าเสื้อผ้าข้าวของไว้ วันเดินทางจะได้ไม่ลืมอะไร ป้าจะไปพักแล้ว จะไปไหนก็ไป”
เมื่อได้สมใจแพรพรรณก็โบกมือไล่หลานสาว แล้วเดินขึ้นไปชั้นบนจัดการโทรหาเจ้าสัวโภคินทันที
“เจ้าสัวคะ งานแต่งอาทิตย์หน้านี้ ทางดิฉันเตรียมตัวพร้อมแล้วนะคะ เราจะเดินทางไปถึงล่วงหน้าหนึ่งอาทิตย์ หวังว่าท่านจะเตรียมสินสอดทองหมั้นไว้รับขวัญสะใภ้แล้วนะคะ”
“ลูกสาวคุณนายเต็มใจใช่ไหม” อีกฝ่ายเอ่ยถามออกมา
“เต็มใจ เสียยิ่งกว่าเต็มใจค่ะ ยายหนูเขาเชื่อแม่ทุกอย่าง ลูกชายของท่านล่ะคะ เต็มใจแต่งงานกับยายหนูของดิฉันหรือเปล่า ฉันอยากเห็นลูกมีความสุขในชีวิตคู่นะคะ”
แพรพรรณเล่นบทแม่ผู้รักลูกสาวสุดหัวใจได้อย่างแนบเนียน หากเธอยกลินินให้แต่งงานกับลูกชายเจ้าสัว เธอคงห่วงใยลูกสาวไม่น้อย ด้วยรู้ว่าอีกฝ่ายถูกบิดาบังคับให้แต่งงานแลกกับมรดก
“ลูกชายผมเขาเชื่อฟังผมอยู่แล้ว ผมต้องการหลานมาสืบสกุล ถ้าลูกสาวคุณคลอดหลานชายให้ผมได้ ผมจะมีของรับขวัญให้อีกก้อนใหญ่”
แพรพรรณตาโต นึกถึงเงินมหาศาลที่ท่านเจ้าสัวจะตอบแทนมา อนาคตเธอจะได้เงินอีกก้อนหากมัสลินคลอดหลานชายให้ท่านเจ้าสัว ถึงตอนนั้นท่านเจ้าสัวจะรู้ว่ามัสลินไม่ใช่ลูกสาวของเธอ ก็คงไม่เอาเรื่อง เพราะอีกฝ่ายต้องการทายาทสืบสกุล ได้สมใจเป็นอันสมปรารถนา ไม่น่าจะถือสาเรื่องที่เธอหลอกลวงไว้
“ดิฉันเชื่อมั่นค่ะ ว่าลูกสาวของดิฉัน จะทำให้ท่านสมหวัง”
แพรพรรณวางสายไปด้วยความสุข ในหัวสมองวาดฝันถึงเงินก้อนโต โดยไม่สนใจว่ากำลังจะทำลายชีวิตของหลานสาวลงไป ขอเพียงแผนการที่วางไว้สำเร็จ เธอกับครอบครัวก็จะได้เงินก้อนใหญ่ไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่ต่างแดน ไม่ต้องรอมรดกที่ไม่รู้ว่าจะได้เมื่อไหร่ เมื่อมารดายังคงไม่มีทีท่าว่าสิ้นลมหายใจง่ายๆ แล้วพินัยกรรมที่ท่านทำไว้ มันอาจจะมีชื่อของมัสลินเป็นผู้รับมรดกร่วมด้วย เธอไม่เสี่ยงกับเจ้าหนี้รายอื่นที่รอเชือดคออยู่หรอก สู้รับเงินก้อนจากเจ้าสัวแล้วพาครอบครัวหนีไปเมืองนอกจะดีกว่า
“หึ ยายมัส กาฝากอย่างแกมีค่าก็ตอนนี้แหละ”
///
ตอนที่ 4. กาฝากที่ไม่มีใครต้องการ/4ที่พักอาศัยของคุณยายฝ้ายคำเป็นเรือนไม้ทรงไทย อยู่ในบริเวณเดียวกับคฤหาสน์ของลูกสาว เพียงแค่มีรั้วไม้กั้นเขตไว้ เดิมที่ดินเป็นผืนเดียวกัน หลังจากแพรพรรณแต่งงานกับสมเกียรติได้ขอให้มารดาแบ่งแปลงที่ดินออกเป็นสองแปลง เซ็นยกให้เป็นกรรมสิทธิ์ของตัวเอง คุณยายฝ้ายคำจึงสั่งให้คนงานมาทำรั้วไม้กั้นฝั่งเรือนไทยของตัวเองไว้ และที่ดินฝั่งเรือนไทยผืนนี้ตั้งใจจะมอบให้ไหมพิมพ์ลูกสาวคนเล็ก แต่ไหมพิมพ์แต่งงานกับไมเคิลก็ย้ายออกไปอยู่กับสามี และได้เสียชีวิตไปทิ้งลูกสาวคนเดียวคือมัสลินไว้ให้ท่านดูแล การโอนกรรมสิทธิ์ให้หลานสาวยังไม่ได้ทำคุณยายฝ้ายคำก็ประสบอุบัติเหตุป่วยเป็นอัมพาตขยับไม่ได้ ที่ดินบ้านเรือนไทยจึงกลายเป็นมรดกส่วนกลางมัสลินเดินออกจากตึกหลังใหญ่หิ้วถุงขนมติดมือมาด้วยถุงหนึ่ง เปิดประตูรั้วเข้ามาบริเวณเรือนไทย หากบ้านหลังใหญ่ของคุณแพรพรรณคือนรก ที่นี่คงเปรียบดั่งสวรรค์ ความสงบเงียบร่มรื่นของต้นไม้ใหญ่ ทำให้รู้สึกสดชื่นขึ้นมาทันที หญิงสาวเดินขึ้นไปบนเรือน ตรงไปยังห้องนอนของผู้เป็นยาย เปิดประตูห้องเข้าไปก็พบเด็กอาหมี่กำลังทำความสะอาดอยู่ ส่วนคุณยายนอนดูทีวีเงียบตาม
ตอนที่ 5 เจ้าสาวตัวแทน/1 อาทิตย์ต่อมาแพรพรรณกับสมเกียรติพามัสลินเดินทางไปยังภูเก็ตสถานที่จัดงานแต่งงาน ก่อนเดินทางมัสลินเข้าไปกราบลาคุณยายฝ้ายคำ“มัสต้องไปช่วยงานแต่งงานของพี่ป่าน ป้าแพรบอกว่าต้องไปหลายวัน” มัสลินพนมมือกราบบนอกผู้เป็นยาย“ไปดีมาดีนะลูก ยายจะรอมัสกลับมา” คนแก่ลูบศีรษะหลานสาว พร้อมอวยพร“คุณยายอยู่ทางนี้ก็ทานข้าวทานยาที่อาหมี่ป้อนให้ครบนะคะ ไม่ต้องเป็นห่วงมัส ถ้าเสร็จงานมัสจะรีบกลับมาหาคุณยายค่ะ”พูดไปก็รู้สึกแน่นในอกตาร้อนผ่าวจนต้องกลั้นเอาไว้ ด้วยไม่เคยจากผู้เป็นยายไปไหนนานๆ แม้นางแววกับเด็กอาหมี่จะรับปากว่า จะผลัดกันมานอนเฝ้าคุณยาย และช่วยดูแลป้อนข้าวป้อนยาตามเวลา แต่มัสลินก็รู้สึกวูบโหวงในใจ พยายามไม่คิดมาก ปัดความห่วงใยออกจากใจ เธอต้องเชื่อใจนางแววกับเด็กอาหมี่สิ ทั้งสองรับปากแล้วว่าจะดูแลคุณยายอย่างดี เธอเองก็ไม่ได้ไปเป็นเดือน เพียงอาทิตย์เดียวก็ได้กลับมาหาคุณยายแล้ว “ไม่ต้องห่วงยาย ดูแลตัวเองให้ดีๆ นะลูก ยายจะรอมัสกลับมา”คนแก่ย้ำอีกครั้ง กอดหลานสาวไว้แน่น รู้สึกใจหายแปลกๆ แต่พยายามไม่คิดในทางร้าย อาจจะไม่ใช่ลางสังหรณ์บ้าบออะไร ท่านควรคิดแต่สิ่ง
ตอนที่ 6.เจ้าสาวตัวแทน/2 “ขอบคุณค่ะ ฉันถอดชุดออกได้แล้วใช่ไหมคะ” มัสลินทำท่าจะขยับลุก แต่ถูกห้ามไว้ก่อน“ยังค่ะ ยังถอดไม่ได้ ต้องไปถ่ายรูปพรีเวดดิ้งก่อนค่ะ เจ้าบ่าวเจ้าสาวก็ไม่ค่อยมีเวลา แถมงานก็จะจัดในไม่กี่วันนี้แล้ว ทางเราต้องเร่งทำสแตนดิ้งด้วย ขอความร่วมมือด้วยนะคะ”จากแค่ลองชุด แต่งหน้าทำผม บานปลายไปจนถึงขั้นต้องถ่ายพรีเวดดิ้ง ทำเอามัสลินอึดอัดพูดอะไรไม่ออก จะปฏิเสธก็ไม่ได้ ได้แต่นิ่งเงียบไว้ก๊อก ก๊อก ก๊อก !!!เสียงเคาะประตูดังขึ้น พอช่างเสื้อไปเปิดก็มีผู้ชายร่างสูงคนหนึ่งเดินเข้ามาในห้อง ใบหน้าของเขาหล่อเหลาแบบหนุ่มตี๋ แต่เจ้าตัวดูเคร่งขรึมไร้รอยยิ้มประดับ ดวงตายาวเรียวมองมาทางมัสลิน เมื่อสบตากันหญิงสาวก็รู้สึกอึดอัดใจกว่าเดิม เมื่อเห็นแววตาของเขาช่างเย็นชาราวกับรูปปั้นไร้หัวใจ นึกขอบคุณสวรรค์ที่เธอไม่ใช่เจ้าสาวของเขาจริงๆ และนึกเห็นใจลินินที่ต้องแต่งงานกับผู้ชายแบบนี้ ป้าแพรพรรณจับลูกสาวคลุมถุงชนกับเศรษฐีใหญ่ โดยไม่สนใจว่าพี่สาวของเธอจะเต็มใจหรือไม่ ลินินมาบ่นให้เธอฟังหลายหนว่า อยากจะล้มเลิกงานแต่ง แต่แม่กับพ่อรับสินสอดบางส่วนจากทางเจ้าบ่าวมาแล้ว แถมยังเอาไปใช้หนี้เกือบหมดคงไ
ตอนที่7. เจ้าสาวตัวแทน/3“แต่ก็ยังดีกว่าเรื่อง สโนว์ไวท์กับคนแคระทั้งเจ็ดนะคะ อย่างน้อยฉันก็ไม่ถูกไล่ออกจากบ้าน ไม่ถูกสั่งฆ่า หรือว่าถูกแม่มดหลอกให้กินแอปเปิ้ลอาบยาพิษ”มัสลินยังมีอารมณ์ขัน ทั้งที่อยากร้องไห้เต็มทน เธอมองเห็นอนาคตตัวเองโดยไม่ต้องให้หมอดูทำนาย “รันทดได้อีก” ภานุส่ายหน้าอย่างเวทนา“ฉันชินแล้วค่ะ ยอมให้ป้าแพรด่าสักหน่อย ตบอีกทีสองที แลกกับการไม่ถูกไล่ออกจากบ้าน ได้อยู่ดูแลคุณยาย ฉันว่าฉันทนได้ค่ะ”น้ำเสียงคนพูดแม้จะพยายามให้สดใส แต่ก็ซ่อนความปวดร้าวไว้ไม่มิด คนฟังสะท้อนใจสงสารหญิงสาวคนนี้เหลือเกิน บิดาของเขาอยากให้เขามีทายาทสืบสกุลให้ท่าน บังคับให้เขาแต่งงานกับหญิงสาวที่ท่านเลือกให้ แลกกับการยกมรดกทั้งหมดให้ ภานุจำยอมอย่างไร้ทางเลือก เขาทำใจแล้วกับการต้องแต่งงานกับผู้หญิงที่ไม่ได้รัก และคงต้องฝืนใจมีทายาทให้บิดาสมหวัง จากนั้นเขาอาจจะขอหย่า โยนเงินให้สักก้อนเพื่อแยกทางกัน แล้วกลับไปใช้ชีวิตในแบบที่ตัวเองต้องการ แต่มัสลินทำให้เขาเกิดความคิดบางอย่าง“คุณเป็นคนดี ไม่ควรต้องทนให้ป้าคุณข่มเหง”“ฉันมีคุณยายที่ป่วยเป็นอัมพาตต้องดูแล ฉันทิ้งท่านไม่ได้หรอกค่ะ ต่อให
ตอนที่ 8.ทัณฑ์เถื่อน/1“ไม่ต้องห่วงค่ะ ฉันเตรียมคำอธิบายไว้แล้ว ลูกต้องเข้าใจค่ะ”แพรพรรณเชื่อมั่นว่าเธอสามารถจัดการทุกอย่างได้ ตอนนี้มัสลินก็เข้าพิธีแทนลินินไปแล้ว ชั่วดียังไงหลานสาวของเธอก็ได้ชื่อว่าเป็นสะใภ้ของเจ้าสัวโภคิน อีกฝ่ายคงไม่กล้าโวยวายให้เสียหน้า ส่วนชีวิตหลังจากนี้ของมัสลินเธอไม่คิดจะสนใจงานเลี้ยงสิ้นสุดลง เจ้าบ่าวเจ้าสาวถูกส่งตัวเข้าหอ การแต่งงานที่มากพิธีแสนเหนื่อยทำให้สองหนุ่มสาวแทบยืนไม่ไหว“เหนื่อยหรือเปล่ามัส” ภานุเอ่ยถามเจ้าสาวของเขา“ยิ่งกว่าวิ่งมาราธอนอีกค่ะ ยืนรับแขกจนปวดขาไปหมด พี่นุก็ท่าทางเหนื่อยไม่แพ้มัสเลย”มัสลินถอดรองเท้าส้นสูงออก แล้วนั่งลงที่เก้าอี้หน้าโต๊ะเครื่องแป้ง ก้มลงนวดขาตัวเองให้คลายความเมื่อยล้า ไม่คิดว่างานแต่งงานจะเหนื่อยขนาดนี้“พี่ขอสาบานเลยนะ ว่าจะแต่งงานครั้งนี้ครั้งแรกและครั้งเดียว เข็ดจริงๆ” ภานุทิ้งตัวลงนอนแผ่บนเตียง“พี่นุไปอาบน้ำสิคะ จะได้หายเหนื่อย แช่น้ำอุ่นๆ จะได้สบายตัว เดี๋ยวมัดเตรียมน้ำให้ค่ะ”“ไม่เป็นไร มัสพักเถอะ พี่ขอตัวไปอาบน้ำก่อน” ภานุลุกจากเตียงเดินหายเข้าในห้องน้ำมัสลินมองตามหลังเจ้าบ่าวที่เดินโผเผเข้าไปในห้องน้ำแล้ว
ตอนที่9 ทัณฑ์เถื่อน/2“นายมีเรื่องกับคุณภานุใช่ไหม...”อีกฝ่ายยังเงียบไม่ยอมตอบ ได้ยินเสียงถอนหายใจแรง พร้อมกับมือหนาที่เอื้อมมาบีบไหล่แล้วยกตัวเธอให้ลุกขึ้นนั่ง มัสลินขยับถอยหนีตามสัญชาตญาณ แต่เขาไม่ยอมให้เธอหนีห่างบีบไหล่ไว้แน่น แรงบีบทำให้หญิงสาวนิ่วหน้าด้วยความเจ็บ“โอ๊ย... ฉันเจ็บนะ”เสียงร้องทำให้เขาคลายมือออกเล็กน้อยแต่ไม่ยอมปล่อย ยื่นหน้าเข้ามาใกล้จนรู้สึกถึงลมหายใจร้อนผ่าวที่รินรดใกล้แก้มนวล มัสลินเบี่ยงหน้าหนีอย่างรังเกียจ นั่นดูเหมือนทำให้อีกฝ่ายไม่พอใจ มือหนาละจากไหล่มาบีบปลายคางเธอไว้แน่นราวกับคีมเหล็ก“รู้ไหมว่าตอนนี้ ไอ้เจ้าบ่าวของเธอมันเป็นยังไง” เขาพูดข้างหูเธอด้วยน้ำเสียงชวนขนลุก“คุณภานุ...” มัสลินมัวแต่ห่วงตัวเองจนลืมนึกถึงภานุ“หึ ไม่ต้องห่วงมันหรอก ห่วงตัวเองดีกว่า”ไม่กี่ชั่วโมงก่อน เขาเข้าไปหลบในห้องหอของสองหนุ่มสาว รอเวลาที่ทั้งคู่จะเข้ามา คนแรกที่เขาจัดการคือภานุ มันเดินเข้ามาในห้องน้ำที่เขาหลบอยู่ เมื่อเขาเปิดเผยตัวพร้อมกับปืนในมือ อีกฝ่ายถึงกับยืนตัวแข็งด้วยความตกใจ“แก... แกเข้ามาได้ยังไง” จบประโยคนั้น เขาก็ฟาดมันด้วยด้ามปืน จนอีกฝ่ายทรุดลงไปกองกับพื้น นอ
ตอนที่10 ทัณฑ์เถื่อน/3มัสลินสะดุ้งผวา พยายามดิ้นรนปกป้องตัวเองสุดชีวิต ทั้งที่รู้ดีว่าเรี่ยวแรงหรือสภาพร่างกายของตัวเองที่ถูกเขาจับมัดไว้ ไม่อาจจะต้านทานความป่าเถื่อนของอีกฝ่ายได้ น้ำตาไหลรินออกมาพร้อมกับเสียงร้องอ้อนวอน“ไม่นะ ปล่อยฉันเถอะ อย่าทำฉันเลย ฮือ...”อาภรณ์ชิ้นน้อยถูกกระชากจนหลุดออกจากร่าง เผยให้เห็นความงดงามของวัยสาว ปทุมทองคู่งามอวบใหญ่พอดีตัว ปลายยอดสีชมพูกะจิริดน่ามอง เอวคอด หน้าท้องแบนเรียบ ผิวขาวผ่องไร้รอยไฝฝ้าอ่อนละมุนไปทั้งตัว สายตาของกริชกวาดมองไปบนร่างงามอย่างตะลึงลาน เจ้าสาวของศัตรูสวยชนิดเป็นหนึ่งไม่มีสอง งามกว่าผู้หญิงคนไหนที่เคยผ่านตา ความงามนี้ควรค่าแก่การยกย่องไว้เป็นยอดดวงใจของเจ้าบ่าว แต่เธอโชคร้ายที่เลือกแต่งงานกับผู้ชายอย่างภานุ ความงดงามราวกับดอกบัวสวรรค์จึงต้องถูกบดขยี้ ทำลายให้สาสมกับความแค้นที่ประทุขึ้นในใจของผู้ชายอย่างกริช“กรี๊ดดด อย่านะ...”เสียงกรีดร้องดังขึ้น เมื่อมือหนากระชากอาภรณ์ชิ้นสุดท้ายที่ปกปิดกายส่วนล่างออกพ้นตัว หมดแล้วความปรานีที่มอบให้ เมื่อไฟแค้นไม่อาจดับมอดลงได้ด้วยความเมตตา ร่างงดงามบริสุทธิ์ของเจ้าสาวในคืนวิวาห์ ต้องรับการลงทัณฑ
ตอนที่ 11.ฉันคือเจ้าของเธอ/1“เกิดอะไรขึ้น ใครทำอะไรแก แล้วหนูมัสล่ะหายไปไหน”คนเป็นพ่อรีบปาดเข้าไปหาลูกชายด้วยความตกใจ สภาพของภานุถูกตีจนหัวแตกเลือดไหลอาบหน้าเปื้อนชุดสูทสีขาวที่สวมอยู่ ในห้องไร้ร่องรอยของเจ้าสาว“มีคนร้ายบุกเข้ามาทำร้ายผม แล้วจับตัวมัสลินไปครับ”ภานุบอกความจริงไม่หมด เขาเก็บกระดาษแผ่นนั้นซุกกระเป๋าไว้ไม่ให้คนเป็นพ่อเห็น ไม่ต้องการให้เรื่องบานปลายแบบที่เคยเกิดขึ้นมาก่อน“บ้าจริง รึว่ามันเป็นแผนของแม่ยายกับพ่อตาแก สองคนนั่นหอบสินสอดขอตัวกลับบ้านไปหลังงานเลิก”เจ้าสัวโภคินรีบกดโทรศัพท์สั่งการลูกน้อง ให้ไปดักนางแพรพรรณและสามีที่สนามบิน ดูจากเวลาทั้งสองยังไม่ขึ้นเครื่อง เขายอมเอาหูไปนาเอาตาไปไร่แสร้งไม่รับรู้ว่าอีกฝ่าย เอาหลานสาวมาแต่งงานแทนลูกสาวตัวเอง หลังจกที่ภานุบอกความจริงให้เขารู้เมื่อหลายวันก่อน ภานุยืนยันว่ารู้สึกพอใจมัสลินยินดีแต่งงานกับเธอมากกว่าจะหาผู้หญิงคนอื่นมาแทน เขาจึงไม่คิดจะเอาเรื่องแพรพรรณที่คิดหลอกลวง ยอมยกเงินสินสอดและหนี้สินให้ตามข้อตกลงเดิม แต่ตอนนี้ลูกชายของเขาถูกทำร้าย และเจ้าสาวหายตัวไป คิดในแง่อื่นไม่ได้นอกจากอาจเป็นแผนการของอีกฝ่ายภานุถูกส่ง
ตอนที่88รักร้ายพรางใจ/3 จบสามเดือนแล้วที่มิ่งกมลไม่กลับไปบ้าน นับตั้งแต่คืนงานเลี้ยงส่งน้องชาย เขาระบายความโกรธเข้าใส่ร่างงามของนลินดา จนเธอแทบแหลกสลายใต้ร่างเขา แล้วก็พาตัวเองเดินทางกลับมากรุงเทพในเช้าวันรุ่งขึ้น เขาจะเลิกสนใจผู้หญิงคนนี้ จะไม่เข้าใกล้ ไม่ไปเห็นหน้ายายจอมมารยาอีก แต่ยิ่งห่างกัน หัวใจของเขายิ่งร้อนรน หาความสงบไม่ได้ จนต้องกลับมาบ้านพ่อแม่อีกครั้ง“หายหัวไปนานเลยนะพี่ไม้ นี่ไม่คิดถึงพ่อแม่บ้างหรือไง” นายโกมุทบ่นหลานชาย“คิดถึงสิครับคุณปู่ คิดถึงคุณปู่ด้วย แต่งานผมยุ่งมากปลีกตัวมาไม่ได้เลย นี่เพิ่งว่างเลยรีบมาหา”เจ้าตัวเข้าไปหาคนเป็นปู่ จับมือท่านมาวางบนศีรษะ ปีนี้นายโกมุทแก่ลงไปมาก แต่ยังแข็งแรงดีแม้ต้องเพิ่งรถเข็นไฟฟ้าในการเคลื่อนไหวแทนขาที่ไม่ค่อยมีแรง“นี่รู้เรื่องหนูบัวหรือยัง” นายโกมุทเอ่ยขึ้น“เรื่องบัว... เรื่องอะไรหรือครับคุณปู่” มิ่งกมลนิ่วหน้า“ก็เรื่องที่ญาติฝั่งพ่อเขา มาขอรับตัวเขาไปดูแลนะสิ เพิ่งตามหาตัวกันพบ ทางนั้นเขาดีใจมากบอกว่า ปู่ของหนูบัวยกมรดกให้พ่อของหนูบัว แต่พ่อของหนูบัวเสียไปก่อน หนูบัวเป็นทายาทคนเดียวที่เหลืออยู่” นายโกมุทเล่ายาว ก่อนจะยกน้ำข
ตอนที่ 87.รักร้ายพรางใจ/2“ในตู้เย็นมีพุดดิ้งค่ะ คุณไม้ชอบทานใช่ไหมคะ เดี๋ยวบัวหยิบให้ค่ะ”เธอบอกเขาเสียงสั่น พยายามหาทางเอาตัวรอด นึกโมโหตัวเองที่เปิดโอกาสให้เขามาใกล้ ในเวลาปลอดคนอีกแล้ว คนงานในบ้านต่างพากันไปดูแลเจ้านายในห้องจัดเลี้ยง ด้วยคิดว่าเธอกับพันธกานต์ต้องการคุยกันตามลำพัง“อืม ก็ชอบอยู่นะ พุดดิ้งนุ่มๆ เด้งๆ หวานๆ แต่มันหวานสู้เธอไม่ได้หรอก”เขาเอ่ยเสียงกระเส่า จ้องมองริมฝีปากอิ่มสีแดงระเรื่อ สายตาแลเลยลงไปยังทรวงอกอวบคัพซี ทำตาลุกวาว น้ำลายของคนมองเริ่มสอ ใจเต้นแรง อาการคลั่งสาวทรงโตกำเริบขึ้นมาทันใด “ไม่นะคะ คุณไม้ อย่านะ อ๊ะ!”นลินดาร้องห้ามด้วยความตกใจ เมื่อเขายื่นหน้าเข้ามาใกล้ พยายามย่อตัวจะหลบออกจากวงแขนที่กักไว้ กลายเป็นถูกเขาสอดแขนใต้รักแร้ ยกตัวเธอลอยขึ้นจากพื้นให้มาอยู่ในระดับเดียวกับใบหน้าหล่อเหลาของเขา ริมฝีปากร้อนผ่าวประกบปิดกั้นเสียงร้องให้หายไปในคอ แล้วตะโบมจูบเธออย่างหนักหน่วง“อืม... บัว หวานที่สุด”เขาอุ้มร่างเธอวางบนโต๊ะยาวกลางห้องครัว ทาบตัวหนาหนักลงมา สองมือเลื่อนมาลูบไล้ทรวงอวบ คลึงเคล้นอย่างเมามัน ไม่สนใจอาการดิ้นรนขัดขืนของเธอเลย“อย่าค่ะ อย่าทำบ
ตอนที่ 86 รักร้ายพรางใจ/1“เดี๋ยวพี่จะไปขึ้นเครื่องแล้ว แค่นี้ก่อนนะ”มิ่งกมลหรือพี่ไม้ของน้องกานต์ รีบพาตัวเองไปยังสนามบินทันที ชายหนุ่มพาตัวเองบินมาถึงภูเก็ตในเวลาช่วงเย็น เขาลงจากรถได้ก็เข้าไปในบ้าน คนในครอบครัวพากันมารวมตัวที่ห้องนั่งเล่น ซึ่งถูกจัดเป็นห้องสำหรับจัดเลี้ยงชั่วคราว พรุ่งนี้พันธกานต์หรือน้องกานต์ น้องชายของพี่ไม้จะเดินทางไปเรียนต่อในระดับปริญญาโทรยังต่างแดน พร้อมกับปูเป้และปัณณ์ลูกฝาแฝดของลุงปอนด์กับป้าป่าน คนในครอบครัวจึงจัดเลี้ยงส่งให้ ทุกคนมากันพร้อมหน้า รอเพียงพี่ชายของบ้านอย่างพี่ไม้ที่มาสายที่สุด “สวัสดีครับ พี่ไม้มาแล้ว!”พี่ไม้ยกมือไหว้ผู้ใหญ่ทุกคน พร้อมกับทักทายเสียงแจ๋ว หลานรักคนโตของบ้านเรียกรอยยิ้มเอ็นดูจากผู้ใหญ่ได้เสมอ แต่มีคนหนึ่งที่ไม่ยอมยิ้มตีหน้ายักษ์เตรียมเล่นงานอยู่“มาแล้วเหรอพี่ไม้ ถ้าไม่ให้น้องกานต์โทรเรียก พี่ไม้คงไม่มาใช่ไหม แม่โทรก็ไม่รับสาย” มัสลินบ่นลูกชาย“โธ่... แม่จ๋า พี่ไม้ขอโทษด้วยนะครับ ช่วงนี้พี่ไม้งานยุ่ง เลยไม่ได้รับสายแม่จ๋า ฟอด คิดถึงแม่จ๋าที่สุด”ลูกชายแก้ตัวแล้วก็หอมแก้มนุ่มของแม่ฟอดใหญ่ ทำเอาคนถูกหอมใจอ่อนเป็น
ตอนที่ 85. คุณพ่อมือใหม่ &พี่ชายที่แสนดี/2“แม่จ๋าน้องร้องไห้ น้องหิวแล้ว ให้น้องจุ๊บๆ จิ” พี่ไม้เร่งเร้ามารดา“นั้นสิมัส ลูกหิวแล้ว ให้นมแกสิครับ” กริชบอก ตาคู่คมวาววับ“คุณกริช ช่วยเอาหมอนรองมาให้มัสหน่อยค่ะ ส่วนพี่ไม้ลูกลงจากเตียง ไปนั่งรออยู่บนโซฟาก่อนนะครับ”มัสลินจัดการสองพ่อลูกให้ลงจากเตียง กริชไปหยิบหมอนรองมาวางบนตักให้ภรรยา ทำท่าจะดูเจ้าตัวน้อยดูดนมมื้อแรกด้วยสายตาวาววาม พี่ไม้เกาะข้างเตียงไม่ยอมไปนั่งโซฟาตามคำสั่ง มัสลินส่ายหน้าจำต้องเปิดอกให้ลูกชายดื่มนม เจ้าตัวน้อยอ้าปากส่ายหน้าไปมาเหมือนลูกนก พอมารดาประคองปลายยอดทรวงแตะๆ ริมฝีปาก แกก็งับยอดทรวงดูดจ๊วบๆ ปากขยับยุกยิกน่าเอ็นดูซู๊ดดด!เสียงสูดปากดังขึ้น ต้นเสียงทำน้ำลายย้อย มองน้องดูดนมแม่ตาแป๋ว คนเป็นพ่อกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ จ้องตาไม่กะพริบ อีกนานแค่ไหนที่เขาจะมีโอกาสได้จุ๊บๆ แบบนั้นบ้าง สองพ่อลูกมองหน้ากัน มีความคิดตรงกันโดยไม่ได้นัดหมาย ต่างสบตากันแล้วถอนหายใจแรง อิจฉาเจ้าของจุ๊บๆ คนใหม่///การเลี้ยงเด็กสักคนไม่ใช่เรื่องง่ายเลยสำหรับคุณพ่อมือใหม่อย่างกริช หลังจากเปรมใจกลับไปแล้วเขาต้องมาช่วยภรรยาเลี้ยงลูก พี่ไม้กลายเป็
ตอนที่ 84 คุณพ่อมือใหม่ &พี่ชายที่แสนดี/1“ผมก็อยากยืดเส้นยืดสายเหมือนกัน มาพี่ไม้เดี๋ยวเราไปหาขนมกินกันนะ”นายโกมุทไม่ปล่อยให้เจ้าสัวทำคะแนนคนเดียว รีบตามไปด้วย ทำเอาลูกๆ ต้องกลั้นยิ้มขำ กับแข่งขันจีบสาวของสองหนุ่มวัยลายคราม“คุณปรัชญ์ผมว่า พ่อของผมคงอยากให้แม่ของคุณ มาเป็นยายของพี่ไม้จริงๆ”ภานุเอ่ยยิ้มๆ เขารู้ดีว่าคนอย่างเจ้าสัวโภคินไม่ได้ถูกใจผู้หญิงคนไหนง่ายๆ ไม่อย่างนั้นพ่อของเขาคงมีแม่เลี้ยงให้เขาตั้งนานแล้ว ไม่อยู่มาจนถึงตอนนี้หรอก“พ่อของผมก็ดูท่าจะอยากให้พี่ไม้มีย่าเหมือนกัน คุณว่ายังไง ถ้าพ่อของผมอยากจีบแม่ของคุณ”กันต์เชียร์พ่อตัวเองออกนอกหน้า เขาถูกชะตากับเปรมใจมาก อีกฝ่ายต่างกับแม่ของเขาคนละขั้ว อยู่ใกล้ๆ แล้วเย็นอกเย็นใจ พ่อเขาแทบจะหมดลายเมื่อพบคนแบบนี้“คุณกันต์ผมไม่ได้อยากมีพ่อเลี้ยงหรอกนะ ส่วนคุณนุคุณเองคงไมได้ขาดความความอบอุ่นจากแม่ จนอยากได้แม่เลี้ยงใหม่ตอนนี้หรอกใช่ไหม”ปรัชญ์ตอบกลับสองหนุ่มด้วยน้ำเสียงเข้มจัด ดวงตาขุ่นขวางไม่ชอบใจ“แหม... คุณปรัชญ์นี่หวงแม่น่าดูนะครับ” ภานุเอ่ยแซวขำๆ แต่คนฟังไม่ขำด้วยฟาดสายตาเขียวขุ่นกลับมา กันต์เองก็ยังไม่เลิกรา“คุณเปรมยังสาวย
ตอนที่ 83 วิมานในอ้อมแขน/2นับตั้งแต่กริชได้เคลียร์ใจกับมัสลินแล้ว ทั้งสองก็กลับมาใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน มัสลินบอกกับชายหนุ่มว่าเธอสงสัยว่าตัวเองจะตั้งครรภ์ ซึ่งอาจจะเกิดในช่วงที่ไปเที่ยวทะเลปราณบุรีแล้วมีความสัมพันธ์กัน กริชตื่นเต้นมากเขาจึงพามัสลินไปตรวจที่โรงพยาบาล“ผลตรวจเป็นยังไงบ้างครับคุณหมอ”กริชเอ่ยถามนายแพทย์ ตั้งใจรอคำตอบอย่างวาวหวัง ในตอนที่มัสลินตั้งท้องพี่ไม้เขาพลาดโอกาสสำคัญนี้ไป เขาอยากทำหน้าที่พ่อสักครั้งให้สมบูรณ์“ขอแสดงความยินดีด้วยนะครับ ภรรยาของคุณตั้งครรภ์ได้เจ็ดสัปดาห์แล้วครับ”นายแพทย์แจ้งผลตรวจด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะหัวเราะเมื่อเห็นคุณพ่อคนใหม่ ลุกจากเก้าอี้ไปกอดภรรยา หอมแก้มเธอทั้งซ้ายขวาแบบไม่อายใคร“มัสจ๋า คุณท้อง ได้ยินไหมว่าเรากำลังจะมีลูกกัน”กริชดีใจสุดขีด เขาลุกขึ้นมากอดภรรยาที่นั่งข้าง ๆ หอมแก้มเธอ ทั้งซ้ายทั้งขวา ทำท่าจะจูบแต่มัสลินหยิกเขาให้รู้สึกตัวก่อน ไม่อย่างนั้นอาจจะทำประเจิดประเจ้ออายหมอพยาบาลไปแล้ว“ขอบคุณนะคะคุณหมอ คุณกริชนั่งลงค่ะ ฟังหมออธิบายหน่อย”มัสลินดึงแขนสามีให้นั่งลง ใบหน้าของคุณพ่อยังประดับด้วยรอยยิ้ม ไม่ยอมหุบง่ายๆ“เดี๋ยวหมอจะทำเรื่องกา
ตอนที่ 82.วิมานในอ้อมแขน/1มัสลินไปถึงโรงพยาบาลและถูกนำตัวเข้าห้องฉุกเฉิน หลังจากการรักษา แพทย์แจ้งว่ามัสลินถูกวางยากล่อมประสาท ฤทธิ์ยาทำให้หมดสติไป แต่ไม่เป็นอันตรายร้ายแรง หลังจากยาหมดฤทธิ์ก็จะฟื้นขึ้นมาเอง ส่วนลูกน้อยในครรภ์ปลอดภัยดีกริชได้ยินแบบนั้นแล้วก็คลายใจ แต่เขายังไม่หายห่วง ตราบใดที่ไม่เห็นมัสลินฟื้นขึ้นมา ระหว่างรอชายหนุ่มโทรเล่าเรื่องราวทุกอย่างให้บิดาและพี่ชายฟัง แล้วโทรบอกเรื่องนี้ให้ปรัชญ์ช่วยประสานงานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในการตามล่าตัวแพรพรรณ อีกวันมัสลินก็ลืมตาตื่นขึ้นมา ใบหน้าบวมช้ำจากการถูกแพรพรรณตบ“คุณกริช...”“มัส มัสจ๋า”กริชกอดร่างของภรรยาไว้แน่น ดีใจจนน้ำตาคลอ มัสลินเองก็กอดเขาไว้ ยังมีความหวาดหวั่นอยู่ในแววตา“ป้าแพร... ป้าแพรจะฆ่ามัส” เธอบอกสามี“มัสปลอดภัยแล้ว ผมไปช่วยมัสได้ทัน ตอนนี้ยายแม่มดนั่น... หึ ตายแล้ว”“อะไรนะคะ ป้าแพรตายได้ยังไงคะ” มัสลินอุทานด้วยความตกใจ“กรรมตามสนองยังไงล่ะ ตำรวจที่พบศพบอกว่าถูกงูกัดที่พงหญ้าด้านหลังบ้านเรือนไทย ไปสิ้นใจตายอยู่ริมคลอง ตอนเจอศพกำลังถูกฝูงตัวเงินตัวทองรุมแทะอยู่พอดี”กริชสะใจนัก แพรพรรณตายอย่างน่าอนาถ สาสมกับความ
ตอนที่ 81 กรรมใดใครก่อ/2“ท้อง... หึ ก็ตายทั้งกลมไปเลย เหมือนแม่ของแกยังไงล่ะ ฮ่า ฮ่า ฮ่า”แทนที่จะสงสาร แพรพรรณกลับหัวเราะใส่หน้า ไม่มีความเมตตาให้หลานต่างสายเลือดที่แสนชังคนนี้“คุณกริช!”มัสลินตะโกนเรียก มองไปทางด้านหลังของแพรพรรณ ทำให้คนเป็นป้าหันไปดู เปิดโอกาสให้หญิงสาววิ่งหนีไป ยังบันไดอีกฝั่ง ลงไปยังสนามหน้าบ้านทันที“นังมัส แกกล้าหลอกฉันเหรอ ดูสิว่าแกจะหนีพ้นไหม”มัสลินวิ่งลงมาได้ก็หน้ามืด ร่างกายถูกฤทธิ์ของยา ทำให้ล้มลงไปนอนกองกับพื้น หญิงสาวพยายามฝืนพาตัวเองคลานหนี แต่คนเป็นป้าตามมาทัน“ยานี้มันจะทำแกง่วง เพลีย ไม่มีแรง จะทำให้แกนอนนิ่งเป็นผักอยู่สามสี่ชั่วโมง อีกเดี๋ยวยาจะออกฤทธิ์เต็มที่ ตอนนั้นฉันจะให้แกมองดูฉันเผาบ้านของยายแก ให้ไฟมันเผาแกทั้งเป็น ตายเป็นผีอยู่กับยายแกที่บ้านนี้แหละ ฮ่า ฮ่า ฮ่า”แพรพรรณวางแผนมาอย่างดี เตรียมน้ำมันไว้สองแกลลอน ตั้งใจจะเผาบ้านพร้อมกับเผามัสลินให้ตายในกองเพลิง กว่าใครจะรู้หรือมาช่วยทัน มัสลินก็กลายเป็นผีในกองไฟแล้ว แพรพรรณลากแกลลอนน้ำมันสาดไปรอบๆ บ้าน ก่อนจะมาลากร่างของหลานสาวขึ้นข้างบน มัสลินจวนหมดสติ เธอทิ้งตัวถ่วงน้ำหนักไม่ให้แพรพรรณลากไป
ตอนที่ 80. กรรมใดใครก่อ/1หญิงสาวมองไปรอบๆ ก่อนจะเจอถังพลาสติกใบหนึ่งวางอยู่บนพื้น จึงเดินไปหยิบมาแล้วเอาถังใบนั้นครอบต้นว่านไว้ มีเหตุผลบางอย่างที่เธอต้องทำแบบนั้น“มัส มาแล้วเหรอ...”แพรพรรณเดินมาเกาะบันได ทักทายหลานสาว สภาพของนางตอนนี้ไม่ต่างจากซากศพ ผอมแห้ง จนใบหน้าที่เคยอวบอูมตอบลง ผิวก็หมองคล้ำ มีเพียงแววตาแข็งกร้าว“ลงมาเดินเล่นหรือคะ ถึงได้ชวนมัสมาที่นี่”มัสลินชวนคุย มองสภาพป้าด้วยสายตาเวทนา อาการป่วยของท่านคงจะหนักมาก ถึงทำให้ทรุดโทรมไม่มีราศีแบบนี้“ขึ้นมาบนเรือนสิ ป้าทำน้ำกระเจี๊ยบของชอบของมัสไว้ให้”มัสลินเดินขึ้นไปหาผู้เป็นป้าอย่างว่าง่าย ไม่ได้สังเกตเห็นแววตาไหววูบของอีกฝ่ายที่มองมา แพรพรรณเดินนำเข้าไปยังลานบ้าน ที่นั่งมีตั่งให้นั่งเล่น บนโต๊ะเล็กวางเหยือกใส่น้ำกระเจี๊ยบสีแดงเข้มไว้ มีแก้วสองใบวางข้างๆ“มาเหนื่อยๆ กินน้ำจะได้ชื่นใจ”แพรพรรณหยิบแก้วมารินน้ำกระเจี๊ยบส่งให้หลานสาว ก่อนจะรินอีกแก้วให้ตัวเอง ยกขึ้นดื่มก่อนทำท่าสดชื่น มัสลินจึงยกแก้วขึ้นดื่มตาม นิ่วหน้าเล็กน้อยเมื่อน้ำมีความขมเฝื่อนติดปลายลิ้น จึงจิบไปแค่อึกเดียวแล้ววางลง“คุณป้าเป็นยังไงบ้างคะ” มัสลินถามไถ่